ถ้าใครอ่านชื่อเรื่องก็คนจะงงน่าดู เพราะว่าเขียนผิด  เลยทำให้ความหมายดูแปลกๆไป    จริงๆแล้วก็คือ\"เรื่องธรรมดาของคนๆหนึ่งแต่ไม่ธรรมดาสำหรับหลายคน\"  ถ้าจะถามว่า  ทำไมตอนแรกไม่ดูให้ดีก่อนแล้วค่อยเขียนล่ะ  อันนี้เป็นเพราะว่าเขียนผิดพลาดไปแล้ว  แต่ก็อยากจะเขียนต่ออยากให้ท่านเล็งเห็นว่า
ความผิดพลาดมันแก้ไขไม่ได้  เพราะว่าเกิดขึ้นแล้ว  เหมือนกับเวลาที่ไม่สามารถย้อนกับไปได้   ถ้าเกิดวาดรูปแล้วเกิดวาดผิดขึ้นมาหน่อย คุณก็ใช้ยางลบๆซะ  สิ่งที่คุณทำผิดก็หายไป  แต่มันก็ยังมีรอยที่เกิดจากการกดจากดินสออยู่    รอยนั้นมันก็จะย้ำให้คุณทราบว่าวาดผิด  ทำให้คุณรุ้สึกไม่มั่นใจเวลาทำงานชิ้นต่อไป  ไม่พอใจกับงานที่ผิดพลาด  ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณก็เอาตัวการที่ทำให้คุณไม่มั่นใจออกซะ นั่นก็คือยางลบ  แล้วอะไรที่ผิดพลาดก็แก้ไขพลิกแพลงให้ดีขึ้น  เท่านี้คุณก็อาจได้งานที่น่าพอใจกว่าเดิม  แถมรู้จักการแก้ไขปัญหาอีกด้วยนะ
          เอาล่ะ เข้าเรื่องกันดีกว่านะ  ยกตัวอย่างง่ายๆ  ถ้าเกิดคุณเป็นหล่อ  สาวๆก็มาติดคุณเพราะรวยเป็นมหาเศรษฐี  คุณไม่ใช่คนเก่งหรอก  แต่คุณได้ไปเรียนเมืองนอก  คุณไม่ต้องขึ้นรถเมล์หรอก  เพราะที่บ้านคุณมีคนขับรถ    คุณย่อมภูมิใจในตัวเองแน่  เพราะความที่เป็นคนหล่อรวย คุณก็เลยเป็นคนหยิ่ง  เห็นคนที่มาอยู่ล้อมรอบอยู่ต่ำกว่าคุณหมด  เรื่องปกติธรรมดาของคุณก็คือ เรียกคนใช้มาทำงานให้  รูดบัตร  ในเมื่อคุณเป็นคนหล่อ ไฉนไหนจะย่อมเสียชาติเกิดเหล่า  คุณก็ต้องเจ้าชู้อยู่แล้ว  ควงสาวเดินห้าง  คุณไม่ต้องพยายามดิ้นรนอะไรคุณก็ได้มาอย่างง่ายดาย  คุณไม่จำเป็นต้องง้อนใคร เพราะคุณรวย ทุกคนเกรงใจ  คุณก็เลยเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง  หากคุณเห็นขอทาน  ถ้าคุณหลงตัวเองอย่างมากคุณก็คงคิดว่า  โธ่  เงินไม่มีมาขอเขากิน  แล้วถ้าชาติต่อไปคุณเกิดเป็นขอทานบ้างล่ะ  จะเป็นรู้สึกเช่นเดียวกันตอนเป็นคนรวยไหม?  ถ้าถามอีกว่า  ขอทานจอมปลอมมีเยอะไป?  ค่ะมีเยอะ  แต่ถามหน่อยเถอะ  แล้วทำไมเขาต้องมาขอทานด้วยล่ะ? เขาไปทำไร่  ทำนาที่บ้านนอกไม่ดีกว่าเหรอ  เอ๊ะ  แล้วพวกเขาจะมาอยู่ขอทานทำไมแถวเมืองใหญ่  นั่นน่ะซิค่ะ แต่ตามความคิดของฉัน  หากคุณเป็นคนชนบทบ้างล่ะ  อยู่ชนบทที่ยากจน ไม่มีอะไรจะกิน  พืชผลปลูกไม่ได้  แห้งเหี่ยวตาย  ถ้าคุณอยากได้งานก็ต้องรับจ้างงานจิปาถะ  แต่ค่าแรงก็น้อย  ไม่เพียงพออีก  แถมบางทีคุณอาจจะโดนโกง โดนคนรวยรังแก  ยิ่งหากคุณเป็นชาวนา  คุณต้องติดหนี้สิน  เพื่อเอามาจ่ายค่าเช่าที่ทำนา  แต่โดนกดขี่จากพ่อค้าบ้าง  คุณจะทำไงล่ะ  ในเมื่อไม่มีทางเรื่อง  หากทำงานสุจริตก็ไม่ได้เงินก็ต้องหันมาเป็นขโมย  หันมาขอเขากิน  แม้เสียศักดิ์ศรีแต่คุณมีเงินกินข้าว  ไม่เป็นการขโมยด้วย  เพราะเขาให้คุณด้วยความเต็มใจ  แล้วถ้าคุณให้เขาก็เหมือนกับสอนให้เขาทำมาหากินไม่ได้  จากที่เขาอาจคิดเอาเงินไปทำมาหากิน  อาจจะยืดการขอทานเป็นอาชีพไปเลย  หนักเข้าก็ทำเปงแก๊งอย่างน.ส.พ.ลง  สิ่งที่ทำให้เขาทำอย่างงั้นอาจเพราะ ความเป็นอยู่ที่ย้ำแย่  ไม่ได้เกิดมาอยู่บนกองเงินกองทอง  จึงต้องดิ้นรน    เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่คนเราต้องทำกันทั้งนั้นอาจไม่ใช่เช่นนั้นเสมอไป  สิ่งที่คุณมี  แต่คนอื่นอาจไม่มี  เช่น คุณได้เรียน ได้รับการศึกษา  คุณเห็นเป็นเรื่องธรรมดา  แต่บางคนอาจไม่ใช่  คุณเป็นแค่พนักงานธรรดาคุณเห็นว่าไม่สำคัญแต่คุณไม่รู้หรือ  คุณโชคดีแค่ไหนที่ได้มีงานทำในขนาดที่คนอื่นอีกไม่น้อยตกงาน  ว่างงาน  ไม่มีรายได้  คุณไม่ควรที่จะมองโลกแง่เดียว  คุณลองมองโลกในแง่ต่างๆ  แล้วคุณจะมีความสุข  มีกำลังใจ  โดยไม่จำเป็นต้องมีคนมาค่อยปลอบโยน
          ก่อนจะจบก็อยากจะฝากให้คุณลองมาสิ่งรอบตัวซะบ้าง  ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ  รถบนถนน  หรือคนที่เดินไปมาบนทางเท้า  มองแล้วลองคิดดูก็ได้น่ะว่า เอ๊ะ  คนพวกนี้เขาทำอะไรกันมานะ  ทำไมต้องรีบเร่งด้วย  มองแล้วใช่ความคิดดูสิ่งธรรมดาของแต่ละคนอาจจะไม่ได้ธรรมดาอย่างที่คุณคิด  ลองออกนอกกฎระเยียบที่น่าเบื่อเสียบ้าง  มันจะดีกับตัวคุณและคนรอบข้าง
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น