ผมรักเธอ - ผมรักเธอ นิยาย ผมรักเธอ : Dek-D.com - Writer

    ผมรักเธอ

    ความในใจที่ไม่เคยรับรู้ จนวันนี้...

    ผู้เข้าชมรวม

    7,651

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    18

    ผู้เข้าชมรวม


    7.65K

    ความคิดเห็น


    67

    คนติดตาม


    23
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 พ.ค. 46 / 12:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ริมชายหาดแห่งหนึ่ง  ที่ผมและเธอนั่งอยู่ด้วยกัน…เธอชื่อตาล…ผู้ที่ผมไม่เคยลืมได้เลย…ผมและเธอเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว  วันนี้ผมและเธอมาที่นี่ด้วยกันเป็นครั้งแรก  ในฐานะเพื่อน…เพื่อนกัน  เพราะผมไม่รู้ว่าผมคิดยังไงกับเธอกันแน่…
      “โอ…รู้ไหมเราเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้ว”
          คำถามที่ผมได้ยินจากเธอในคืนนั้น  แต่ผมก็จำไม่ได้หรอกนะว่า…ผมกับเค้าเป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้ว  แต่รู้ว่ามันนานมากแล้ว  จนผมรู้สึกว่ารู้ไส้รู้พุงเธอหมดแล้ว  แต่ไม่เคยรู้เลยว่าเรื่องๆหนึ่งที่เธอพยายามบอกให้ผมฟังทุกวัน…มันคืออะไร
          “เรามีอะไรจะบอกอ่ะ  ฟังไหม”
          “มีอะไรก็พูดมาสิ  อืม…แต่เดี๋ยวก่อน…เพลงนี้อ่ะ  เราชอบมาเลยอ่ะ  เดี๋ยวขอแกะโน๊ตก่อนนะ”
          ผมไม่รู้หรอกว่าเธอจะเริ่มพูดเรื่องอะไร  เธอได้แต่ยิ้มแล้วบอกให้ผมแกะโน๊ตต่อไป  เธอจะไปนอนแล้ว  ผมก็เลยเดินไปส่งเธอที่ห้องพัก  และก็กลับห้องเผื่อที่จะมาแกะโน๊ตเพลงต่อ  
          ในการมาเที่ยวครั้งนั้น  เราไม่ได้มากันสองคนแน่นอน  ตาลพาเพื่อนสนิทของเธอมาด้วย  เพื่อนของตาล…ชื่อปอ…ปอเป็นคนสวยมาก  สวยที่สุดเท่าที่ผมรู้จักมา  และผมชอบปอ  ผมไม่รู้หรอกว่าทำไมผมถึงชอบปอ  ก็อาจจะเป็นเพราะเหตุผลหลายๆอย่างด้วยกัน…
          เพื่อนสนิทผม…ชื่อโจ้  โจ้เป็นคนเดียวที่รู้ว่าผมชอบปอมากแค่ไหน  และเรื่องนี้เราสองคนเก็บมันไว้เป็นความลับตลอดมา…ไม่เคยคิดที่จะบอกให้ปอและตาลรู้  เพราะคิดว่า…ไม่จำเป็นต้องบอก
          วันนี้…ตอนกลางวันในระหว่างที่ปอขอตัวไปเอาครีมทาผิวเพื่อมาฉโลมผิวของเธอเพื่อไม่ให้ผิวเสีย  แต่ผมไม่เคยเห็นตาลทำอย่างนั้นเลย  
          “ตาล…ทำไมเธอถึงไม่ไปเอาครีมอะไรมาทาผิวบ้างอ่ะ”
          “ทำไม  เธอกลัวฉันดำเหรอ  ฉันไม่ดำเหมือนเธอหรอก  อิอิ”
          เค้าจะชอบพูดเล่นกับผมเสมอว่าผมอ่ะดำ  แต่ผมก็ไม่โกรธเธอหรอก  เพราะว่าเธอเป็นเพื่อนผมมานานแล้ว  และผมรู้ว่าเธอพูดเล่น…
          ผมพยายามจะหาโอกาสที่จะได้คุยกับปอสองคน  แต่ไม่มีโอกาสเลย  เพราะปอกับตาลจะติดกันเป็นปาท๋องโก๋เลย  ผมก็เลยไม่มีโอกาสสักที
          แต่ตอนเย็นของวันนั้น…โจ้เพื่อนผมบอกว่าจะชวนตาลให้ไปช่วยแต่งกลอนให้แฟน  เพราะตาลเป็นนักกวีของกลุ่ม  และจะเปิดโอกาสให้ผมได้อยู่กับปอ  และตาลก็ไปเพราะว่าชอบแต่งกลอนมาก  ชีวิตของเค้า…อยู่ได้ถ้ามีกลอน  
          “ตาลไปแต่งกลอนให้เราหน่อยสิ”
          “สบายอยู่แล้ว…ไปสิ”
          และโอกาสก็มาถึงผมสักที  ตอนนั้นผมใจเต้นแรงมากไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี  ทั้งๆที่ตอนมีตาลอยู่ผมก็พูดกับปอได้ตามปกติ…
          “ปอ…เออ…คือ”
      “เป็นอะไรอ่ะโอ  ข้าวติดคอเหรอ  มีอะไรมาหาตาลเหรอ  ตาลไม่อยู่อ่ะ  ไปกับโจ้เมื่อกี้  โจ้ให้ไปแต่งกลอนอะไรก็ไม่รู้อ่ะ”
          “เปล่า…เรามาหาปอแหละ  มาพูดเรื่องอะไรบางอย่าง”
      “โอ๊ย…ไม่เอาอ่ะโอ  เราง่วงนอนอ่ะ  เอาไว้ก่อนนะ  พรุ่งนี้ละกัน”
          สรุปว่า…การไปเที่ยวครั้งนี้ผมก็ไม่ได้บอกรักปอสักที  ผมคิดว่าคงไม่เป็นไร  เพราะถึงยังไงเราก็ยังเจอหน้ากันทุกวัน  
          เช้าวันหนึ่ง  ผมเห็นตาลมาที่โรงเรียนหน้าตาซีดๆ  ก็เลยเดินเข้าไปหา  เพราะผมมาโรงเรียนเช้ากว่าเพื่อน…
          “เฮ้ย!ตาลเป็นไรอ่ะ  หน้าตาไม่บายเลย”
          “อ๋อ…ไม่ได้เป็นอะไรหรอก  เราสบายดี…แค่รู้สึกไม่สบายนิดหน่อย  เย็นนี้แม่จะพาไปหาหมออ่ะ”
          “อืม…ดีแล้ว…ถ้าเราขาดเพื่อนอย่างตาลไปเราแย่เลยนะ”
          “เพื่อนเหรอ…”
          เค้าจะชอบพูดอย่างนี้เสมอเวลาผมบอกว่าเค้าเป็นเพื่อน…วันนั้นเค้าไม่ค่อยพูดอะไรกับใคร  ไม่ค่อยยิ้ม  ไม่ค่อยหัวเราะ  ได้แต่มองออกไปนอกหน้าต่างและก็ก้มลงเขียนอะไรสักอย่างในไดอารี่ของเค้า  ซึ่งผมไม่รู้หรอกกว่ามันคืออะไร…
          ตอนเย็นของวันนั้น  ผมเห็นตาลไม่สบายมาก  ปอก็ต้องรีบกลับ  ผมก็เลยจำเป็นต้องไปส่งเธอ  สงสารเธอที่เธอต้องเดินกลับบ้านคนเดียว  ผมไม่อยากให้เพื่อนผมเป็นอะไร
          เธอไม่พูดอะไรเลย  ถามคำก็ตอบคำ  ไม่ยอมพูดเล่นกับผมเหมือนก่อน
          “ตาลเป็นไรอ่ะ  วันนี้ไม่คึกคักเหมือนเดิมเลย”
          “ไม่ได้เป็นอะไร”
          “ไปหาหมอซะนะ  เราเป็นห่วง”
          ผมบอกเธอไปว่าผมเป็นห่วง  ซึ่งผมก็ห่วงเธอจริงๆ  ในความรู้สึกตอนนั้น  ผมไม่ได้คิดอะไร  แต่ผมก็เห็นรอยยิ้มของเธออีกครั้ง
          “เราดีใจนะ  ที่โอเป็นห่วงเรา  เราอยากบอกว่า…”
          “อะไรเหรอ…”
          “เรา…เรารักเธอนะ”
          ผมได้ยินคำว่ารักจากปากของตาล  ซึ่งผมก็คิดในตอนนั้นว่า…ผมก็รักเธอเหมือนกัน  เรารักกันในฐานะเพื่อน  เพื่อนที่พิเศษกว่าใครๆ  และไม่มีใครแทนที่ตาลได้
          “ขอบใจ  เราก็รักตาลนะ  ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่น่า”
          “เพื่อนเหรอ…”
          ผมรักเธอเหมือนเพื่อน  เพื่อนที่ดีที่สุด  เท่าที่ผมจะรู้จักมาตั้งแต่เกิด  โจ้มันยังไม่ดีเท่าตาลเลย  
          หลังจากวันนั้นที่ตาลหน้าตาไม่ค่อยสบาย  ตาลก็ขาดโรงเรียนบ่อย  ถามจากปอ  ปอบอกว่า  ไม่รู้ตาลเป็นอะไร  ผมปอและโจ้  นัดกันว่า  วันอาทิตย์นี้จะไปเยี่ยมเธอที่บ้าน  
          วันอาทิตย์ตอนเช้า…วันนี้อากาศร้อนมากๆเลย  ทำให้รู้สึกไม่ค่อยดีเลย  เราทั้งสามคนก็มาถึงที่บ้านตาล  เจอแม่ของตาล  แม่บอกว่าพักนี้ตาลไม่ค่อยสบาย  ก็เลยต้องขาดเรียนบ่อยๆ  เราทั้งสามคนพยายามถามว่าตาลเป็นอะไร  แต่แม่ของตาลก็ไม่บอก  ได้แต่เบี่ยงไปเรื่องอื่นทุกที  เราไม่ได้ติดใจอะไร  เพราะคิดว่าคนแข็งแรงอย่างตาลที่วิ่งเล่นกันมาตั้งแต่มัธยมต้น  คงไม่ได้เป็นอะไรมากมายเท่าไหร่นัก
          ในห้องของตาล  เราทั้งสามคนก็ถามตาลว่าตาลเป็นอะไร  วันนี้ตาลดูแย่กว่าวันที่ผ่านๆมาอีก  ผมสงสัยมาก  โจ้กับปอบอกว่าจะไปเอาขนมมาให้  ผมก็เลยได้อยู่กับตาลสองคน
          ในห้องที่เงียบสงบ  ข้างๆเตียงมียาหลายอย่างกองไว้เต็มไปหมด  เห็นแล้ว…รู้สึกหดหู่ใจเหลือเกิน  ผมถามตาลอีกครั้งว่าเค้าเป็นโรคอะไร
          “ตาล…ถามจริงๆเถอะนะ  ตาลเป็นอะไร”
          “ไม่นี่น่า…เราไม่ได้เป็นอะไรเลย  เรายังสบายดี  เพียงแต่ร่างกายเราไม่ไหวก็ต้องนอนพัก  อืม…เราแต่งกลอนได้ตั้งหลายกลอนน๊า…ตอนเราไม่สบายอ่ะ  เรากลัวว่าสักวันเราจะไม่ได้แต่ง”    
      “บ้าพูดอะไรอย่างนั้น”
          ผมฟังคำพูดนั้นของตาลแล้วทำให้ผมใจหาย…คิดว่าเธอพูดอะไรอย่างนั้นเหมือนกับจะตายในวันนี้พรุ่งนี้งั้นแหละ
          หลังจากที่ตาลหลับ  เราก็เลยจะกลับบ้านกัน  และคิดว่าวันจันทร์ตาลก็คงมาเรียนเหมือนเดิม   แต่เมื่อถึงวันจันทร์…ไม่เลยเห็นแต่แม่ของตาลที่มาพบกับอาจารย์ที่ปรึกษา  หน้าตาเครียดๆ  แต่ไม่รู้ว่าคุยกันเรื่องอะไร  ผมพยายามไปถามอาจารย์  แต่แม่ของตาลบอกกับอาจารย์ให้ปิดเป็นความลับ  ไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โตมากมาย
          หนึ่งเดือนผ่านไป  ตาลมาโรงเรียนไม่ได้เลย  และร่างกายก็ทรุดหนักลงกว่าเดิม  โจ้ปอและผมก็เป็นห่วง  ไปเยี่ยมทุกวัน  ตาลก็ยังบอกคำเดิมว่า…
          “เราไม่ได้เป็นอะไร”
          วันนี้เราไปเยี่ยมตาลเหมือนเดิมที่ห้องนอน  รู้สึกว่า…วันนี้เราสามคนใจคอไม่ดีเอามากๆ  ไม่รู้ว่าทำไม  ไม่พูดเล่นแล้วก็ไม่หัวเราะสนุกสนานกันเหมือนเดิม
          แต่เมื่อเราเหยียบเท้าเข้าไป…ก็เห็นแม่ของตาลนั่งร้องไห้อยู่ข้างล่าง…เราทั้งสามคนก็ตรงดิ่งเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น
          คำตอบของแม่ของตาลก็คือ  ตาลเค้าอยากเจอพวกเรามาก  โดยเฉพาะโอ…และบอกให้พวกเรารีบขึ้นไปหา  พวกเรางงกันเป็นไก่ตาแตก  รีบวิ่งขึ้นไปหาตาลทันที
          สภาพของตาลแย่มาก  จนผมอธิบายไม่ถูก  ปอถึงกับร้องไห้ออกมา  แต่แล้วตาลก็บอกว่า…
          “ร้องไห้ทำไมปอ  เราไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
          คนไข้ปากแข็ง  ตาลพยายามทำเหมือนกับเค้าไม่ได้เป็นอะไร  ตาลบอกว่าอยากคุยกับผม  ปอและโจ้ก็เลยออกไปรอข้างนอก  และตาลก็ไม่ค่อยจะมีแรงพูดสักเท่าไหร่  แต่ประโยคเดียวที่ผมได้ยินชัดติดหูมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือ…
      “โอ  เธอรู้ไหม…ว่าเราดีใจมากๆเลยนะ  ที่ได้มาเป็นเพื่อนเธอ  เราคิดว่าเธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเรา  เราพยายามจะเปลี่ยนใจไม่ให้รักเธอ  เราอยากเก็บเวลาของการเป็นเพื่อนเอาไว้  แต่เราก็ทำไมได้  เพราะว่า…เรารักเธอ”
          ผมอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก  ตอนนั้นผมคิดว่าเธอไม่ใช่เพื่อน  แต่เธอเป็นทุกอย่างสำหรับผมผมตกใจวิ่งไปบอกโจ้และปอและแม่ของตาลด้วย  เพราะตาลทำท่าเหมือนจะไม่หายใจ…
      ทุกคนวิ่งขึ้นมาพร้อมกัน  อยู่ที่เตียงของตาล  และฟังคำพูดสุดท้ายก่อนที่ตาลจะหมดลม
      “แม่…ตาลคงอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้วนะ  ตาลรักแม่ที่สุดเลย  เกิดมาชาติหน้าตาลขอเกิด
      มาเป็นลูกของแม่อีกนะ”
      ตาลพูดเหมือนจะไม่มีลมหายใจอยู่อีกต่อไปแล้ว  แล้วตาลก็หันมาทางเพื่อนๆรวมทั้งผมด้วย
      “เธอต้องไม่เป็นอะไรนะตาล”
      ปอพูดทั้งๆที่ร้องไห้อยู่  ตาลยิ้มและพูดกับปอว่า..
      “เราไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
      และตาลก็หันมาทางผม  และบอกคำสุดท้ายก่อนที่จะหมดลมหายใจเหือกสุดท้ายว่า
      “โอ…เรารักโอนะ”
          และร่างของตาลที่ไร้ลมหายใจ  ก็ทำให้พวกเราสะเทือนใจมาก  นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมร้องไห้เหมือนกับว่าจะต้องตายตามตาลไปให้ได้  
          ต่อมาหลังจากที่งานศพของตาลเรียบร้อยแล้ว…แม่ของตาลเล่าให้พวกเราฟังว่า…ตาลเป็นโรคหลายโรคมาก แต่สรุปแล้ว…วันที่พวกเราเห็นเค้าไม่ค่อยสบายนั้น  อาการของเค้าหนักมาก  แต่เค้าก็ฝืนตัวเองเพื่อที่จะมาพบคนบางคน  คนที่ไม่เคยนึกถึงเรื่องรักกับเค้าเลย  
      ผมรู้แล้ว  ว่าผมกับตาล  ไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกัน  ผมห่วงเค้ามาก  มากกว่าปอที่เป็นคนที่ผมบอกว่าชอบซะอีก  
      ถ้าผมย้อนเวลากลับมาได้  ผมอยากจะขอให้เค้าไม่ต้องเป็นโรคอะไรที่ร้ายแรงที่ทำให้เค้าต้องจากผมไป  และผมจะย้อนเวลานั้นกลับมาเพื่อบอกเค้าว่า…ผมรักเธอ…    

      ::: ถ้ารักใคร ก็ขอให้รีบๆบอกนะคะ ก่อนที่อะไรจะสายเกินไป :::

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×