รุ่งนภาเหลือบตาดูเวลาอีกครั้งหลังจากที่เพิ่งจะจัดการกับการบ้านกองโตได้สำเร็จ  สี่ทุ่มแล้ว  นี่หล่อนใช้เวลาทำการบ้านมากขนาดนี้เชียวหรือ  หล่อนแทบไม่อยากเชื่อพลางคิดว่าหากหล่อนไม่มัวมาเสียเวลาไปกับการคุยโทรศัพท์กับนายอรรถจอมตื๊อที่สุดแสนจะน่ารำคาญแล้วล่ะก็ ป่านนี้หล่อนคงกำลังนอนตีพุงดูทีวีสบายใจแล้วเป็นแน่
            “คนอะไร๊
งี่เง่าชะมัด ตื๊ออยู่ได้” หล่อนมักจะคิดอย่างนี้เสมอ
          หลังจากที่ชำระร่างกายอย่างหมดจดเรียบร้อยแล้ว หล่อนก็ทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเมื่อยล้า พลันสายตาหล่อนก็สะดุดกับสิ่งหนึ่งเข้า มันคือแผ่น Mp3 ที่คนที่หล่อนเบื่อขี้หน้ามากที่สุดให้มานั่นเอง มันวางอยู่บนโต๊ะตัวนี้มาสามวันแล้ว อันที่จริงหล่อนคงจะเปิดฟังตั้งแต่วันแรกที่ได้มาแล้วถ้าหากว่าคนให้ไม่ใช่นายอรรถ ตัวสูงกว่าหล่อนตั้งหลายเซนฯ ขืนไปยืนใกล้ๆหล่อนคงกลายเป็นยายเตี้ยม่อต้อแน่นอน ดำก็ดำ แถมยังอ่อนกว่าหล่อนเสียอีก ถึงแม้หน้าตาจะพอไปวัดไปวาได้ก็เถอะหล่อนก็ไม่เคยคิดจะคบกับรุ่นน้อง แต่ก็อาจจะไม่แน่ หล่อนอาจจะลองคบกับนายอรรถดูก็ได้หากไม่เจอกับเสกเสียก่อน
        วันที่หล่อนเจอกับนายอรรถเป็นครั้งแรกนั้น เป็นวันที่หล่อนต้องไปแข่งขันทักษะคณิตศาสตร์
คู่กับวารีเพื่อนของหล่อน แต่บังเอิญที่วันนั้นวารีต้องไปทำธุระกับแม่ที่ต่างจังหวัดอาจารย์จึงส่งนายอรรถมาแทนวารี  อรรถเป็นเลิศทางคณิตศาสตร์ไม่แพ้หล่อน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทั้งคู่จะคว้ารางวัลชนะเลิศมาครอง นายอรรถชวนหล่อนไปฉลองด้วยการเลี้ยงมื้อเย็น ทั้งคู่ทานข้าวเย็นด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย หล่อนคิดว่าบรรยากาศเงียบเกินไปจึงเปิดการสนทนาว่า
“อร่อยดีนะอรรถ ขอบใจที่แนะนำ วันหลังพี่ได้มากินอีก”
“มากับใครเหรอพี่ อย่าบอกนะว่ามากับแฟน ถ้ามากับแฟนไปร้านอื่นเลยนะพี่ ร้านนี้ต้อนรีบแต่คนโสด” อรรถแกล้งทำเสียงน้อยใจ
..รึเปล่า?
“พี่ก็มากับเพื่อนพี่สิ จะมากับแฟนได้ไง ก็พี่ยังไม่มีแฟนซะหน่อยแต่อาจจะมีเร็วๆนี้แหละ เล็งๆไว้เหมือนกัน” หล่อนหมายถึงเสก
“จริงเหรอพี่ ใครล่ะใช่ผมอ๊ะเปล่า” น้ำเสียงอรรถฟังดูลุ้นสุดๆ
“จะบ้าเหรอ! พี่ออกจะขี้เหร่ยังงี้ อรรถไม่ชอบพี่หรอก” หล่อนแกล้งแหย่ ส่งผลให้เด็กหนุ่มรีบแย้งทันที
“ใครว่าล่ะ พี่ฟ้าออกจะน่ารักมีลักยิ้มด้วย รู้มั๊ย ผมชอบคนมีลักยิ้มล่ะ”
“เหรอ” หล่อนพูดได้แค่นั้น ความรู้สึกไม่สู้ดีนักเวลามีคนพูดหวานๆให้ได้ยิน  “อือม์
..พี่อิ่มแล้วล่ะเดี๋ยวพี่ขอกินยาแป๊บนึงนะแล้วค่อยกลับ” หล่อนพูดพลางหยิบกระปุกยาออกจากกระเป๋า
“โห! พี่ฟ้าเป็นอะไรน่ะ พกยาเป็นกระปุกเชียว” อรรถทึ่ง
“โรคประจำตัว พี่เป็นโรคหัวใจน่ะ” หล่อนรู้สึกแปลกๆที่เอาเรื่องส่วนตัวมาเล่าให้คนอื่นฟังแต่ก็โล่งใจที่เบนความสนใจนายอรรถไปได้  หล่อนหยิบยาใส่ปากแล้วดื่มน้ำตามอีกหลายอึก
“ไป  กลับกันเถอะ เย็นมากแล้ว” หล่อนพูด
  อรรถอาสาเป็นคนจ่ายค่าอาหารทั้งหมด ก่อนกลับอรรถเรียกหล่อนไว้ แล้วพูดเป็นนัยๆว่า
“ไว้วันหลังพี่มากินข้าวกับผมสองคนที่นี่อีกนะ”
หล่อนไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธแต่อรรถกลับถือเอาว่าการนิ่งเฉยคือคำตอบรับการเชิญชวนของเขา!
              ถัดจากวันนั้น3-4วัน อรรถโทรศัพท์เข้ามาที่มือถือหล่อน
“ฮัลโหล! สวัสดีค่ะ”
“อือม์
หวัดดีพี่” อรรถพูดห้วนๆและนั่นคือสไตล์การพูดของเขา
“ไม่ทราบว่านั่นใครคะ” หล่อนงุนงง
“ผมอรรถไงพี่ แหม แค่นี้ทำจำกันไม่ได้” เจ้าของเสียงตัดพ้อ
“เฮ้ย! อรรถ รู้เบอร์พี่ได้ไงเนี่ย” หล่อนยิ่งงงหนัก
“เหอะน่า!  เย็นนี้พี่ว่างมั๊ย” อรรถถาม
“ไม่! ไม่ว่าง พี่ต้องทำการบ้าน แค่นี้ก่อนนะ” หล่อนวางสายไปแล้วโดยไม่ฟังเสียงของฝ่ายตรงข้าม หล่อนไม่กลัวว่าจะเป็นการเสียมารยาทหากหล่อนรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาหล่อนก็จะวาง ณ  เวลานี้หล่อนรู้แล้วว่านายอรรถชอบหล่อนเอามากๆถึงกับไปเสาะหาเบอร์หล่อนมาจนได้ แต่ก็ช่างเถอะ อย่าหวังว่าหล่อนจะใจอ่อนง่ายๆ ไม่มีทาง
            หลังจากวันนั้น นายอรรถก็โทรฯมาอีกบ่อยๆและบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากสามวันโทรฯมาครั้งหนึ่ง เป็นโทรฯมาทุกวัน แม้ว่าหล่อนจะต่อว่าต่อขาน หรือต่อว่าแรงๆขนาดไหน  อรรถก็ยังคงไม่ละความพยายามโทรฯหาหล่อนอยู่เช่นเดิม
“พี่เกิดวันอะไรเหรอ”
“พี่ชอบกินอะไร”
“วาเลนไทน์นี้อยากได้อะไรล่ะ”
            ในบางครั้ง หล่อนลองไม่รับโทรศัพท์ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อความพยายามของนายอรรถอยู่ดี นายอรรถไม่เพียงแต่จะโทรฯมาหาหล่อนเท่านั้น แต่เมื่อเร็วๆนี้เขาเพิ่งจะมอบของขวัญให้กับหล่อน
จะอะไรซะอีกล่ะ ก็ไอ้สิ่งที่หล่อนกำลังถืออยู่นั่นเอง แผ่น Mp3 ที่บรรจุเอาไว้แต่เพลงที่หล่อนชอบทั้งสิ้น ช่างสรรหาจริงๆ แต่มันคงไม่มีความหมายอะไรอีกแล้วสำหรับหล่อน เนื่องจากถ้อยคำสนทนาทางโทรศัพ์เมื่อตอนเย็นได้ทำหน้าที่บทสรุปอย่างดียิ่งแล้ว
.และตอนนี้หล่อนก็สบายใจเป็นที่สุด
                    ภาพการสนทนาและถ้อยคำเมื่อตอนหัวค่ำ ค่อยๆปรากฏขึ้นในความนึกคิดของหล่อน
.
                  เสียงโทรศัพท์มือถือของหล่อนดังขึ้น ในขณะที่หล่อนกำลังจะเริ่มต้นทำการบ้าน หล่อนรับโทรศัพท์
“ว่าไง” หล่อนถามห้วนๆ
“พี่!เป็นไง ทำอะไรอยู่”
“คุยโทรศัพท์อยู่” หล่อนไม่รู้สึกขำสักนิด
“แหมเฮ้ย!โทรฯมาก็กวนกันเลยนะ รู้รึเปล่าวันนี้ผมมีเรื่องสำคัญจะบอกพี่ สำคัญสุดๆเลยนะ” น้ำเสียงนายอรรถบ่งบอกว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่เนื่องจากความอ่อนเพลีย ความเหนื่อย และอาการป่วยของโรคประจำตัว ทำให้หล่อนระเบิดใส่ปลายสายไปว่า
“นี่! อรรถ พี่ชักจะหมดความอดทนแล้วนะ อะไรกันโทรฯมาอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน รู้มั๊ยว่ารำคาญแค่ไหน เบื่อแค่ไหน จะบอกให้รู้ไว้เลยนะ ไม่ว่าอรรถจะเซ้าซี้ยังไง พี่ก็ไม่มีวันไปชอบอรรถหรอก พี่มีคนที่พี่ชอบอยู่แล้ว ตัดใจจากพี่ซะเถอะอรรถ เรื่องเหลวไหลแบบนี้จะได้จบๆไปซะที มันไม่มีวันเป็นไปได้หรอก ไม่ว่าอรรถจะพยายามแค่ไหนก็เถอะ”
อรรถอึ้งไปพักใหญ่  นึกไม่ถึงว่าจะได้รับคำตอบแบบนี้
“แต่
พี่ไม่เคยบอกผมนี่ว่าพี่มีคนที่พี่รักแล้ว พี่ให้ความหวังกับผมมาตลอด  แล้วสุดท้ายพี่ก็ทำให้ผมต้องพบกับความผิดหวัง พี่รู้มั๊ยว่าผมเจ็บแค่ไหน แต่..พี่ ผมไม่โทษพี่หรอกทุกสิ่งทุกอย่าง ผมเองที่เป็นคนทำพลาดมาตั้งแต่ต้น ผมคิดเอาเองว่าพี่ก็รักผมเหมือนกับที่ผมรักพี่ ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องทั้งหมดมันจบแล้ว แค่นี้ก่อนนะครับ” นับเป็นครั้งแรกที่เขาเป็นฝ่ายวางสาย
“เดี๋ยวอรรถ  แต่ถึงยังไงเราก็ยังคงเป็นพี่เป็นน้องกันได้นะ” รุ่งนภาพยายามปลอบใจอรรถ หล่อนรู้สึกสงสารเขาไม่น้อย
“ครับ”
          อรรถวางสายไปแล้ว  พร้อมๆกับที่ภาพเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นค่อยๆมลายหายไปจากความคิดของรุ่งนภา  มาคิดอีกที หล่อนไม่น่าจะพูดรุนแรงขนาดนั้นนายอรรถคงจะเสียใจมาก หล่อนเริ่มรู้สึกผิดอยู่ในใจ หล่อนรู้สึกเครียดและแน่นหน้าอก โรคเก่ามาทักทายหล่อนอีกแล้ว หล่อนรีบลุกขึ้นเดินไปหยิบยามาทานทันที แต่ทว่าอาการนั้นรุนแรงเกินกว่ายาจะสามารถระงับได้ หล่อนแน่นหน้าอกมากขึ้น ตาพร่ามัว หล่อนร้องเรียกแม่ แม่ของหล่อนตกใจกับภาพที่อยู่ตรงหน้า หากแต่หล่อนยังมีสติ หล่อนรีบอุ้มรุ่งนภาขึ้นรถและพาไปโรงพยาบาลในทันที
          อรรถนั่งกุมขมับ เขารู้สึกปวดศรีษะอย่างหนัก  เขามักจะเป็นอย่างนี้เสมอเวลาที่เครียดหนักๆหรือมีสิ่งมากระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง เขาทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขารักรุ่งนภาอย่างมาก หลงรักเธอตั้งแต่แรกพบ จริงอยู่ที่เขาเคยพบผู้หญิงมามากพอๆกับที่หลงรักผู้หญิง แต่นั่นมันก็แค่ความหลง แต่กับเธอมันไม่ใช่ เขารักเธอและก็รักอย่างหมดใจเลยด้วย เขาห่วงใยเธอ แคร์เธอ ดูแลเธอทุกอย่างเท่าที่ตัวเขาจะสามารถทำได้ แต่เธอกลับปฏิเสธเขาได้ลงคอ  เขาเสียใจอย่างมากไม่เคยคาดคิดเลยว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจมาตั้งแต่แรกอย่างเสมอต้นเสมอปลายนั้นผลที่ออกมาจะร้ายแรงถึงเพียงนี้ เขาไม่เพียงแต่เสียใจเท่านั้น แต่เขาทั้งผิดหวัง ทั้งเจ็บปวดทรมานทั้งกายและใจ ทุกอย่างประดังประเดเข้ามาหมด เขาเพิ่งจะเข้าใจเดี๋ยวนี้เองว่าคนอกหักเขารู้สึกยังไงกันบ้าง เขาปวดศีรษะมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเดินไปหายาแก้ปวดมากิน  เสียงออดหน้าประตูดังขึ้นไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากเขาในเวลานั้น เขาจึงเดินไปดูที่หน้าบ้านว่าใครมา นนท์ เพื่อนของเขานั่นเอง นนท์มีท่าทางร้อนรนผิดสังเกต เขาจึงเอ่ยถามขึ้นว่า
“มีอะไรวะไอ้นนท์”
“มึงรู้รึเปล่าว่าตอนนี้แฟนมึงกำลังป่วยหนัก กำลังจะตายแล้ว” นนท์บอกละล่ำละลัก
“ใครวะ ข้ามีแฟนด้วยเรอะ”
“ก็พี่ฟ้าไง หมอบอกว่าหัวใจล้มเหลว จำเป็นต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจด่วนเลย ไม่งั้นพี่ฟ้าของมึงไม่รอดแน่”
อรรถตกใจมาก
“จรึงเหรอวะไอ้นนท์ แล้วตอนนี้เค้าผ่าตัดรึยัง”
“ยังว่ะ ตอนแรกแม่เค้าขอสละหัวใจให้ลูก แต่หมอเค้าไม่ยอม บอกว่าจะให้คนปกติมาสละชีวิตเพื่อให้คนป่วยได้มีชีวิตอย่างกระเสาะกระแสะต่อไปไม่ได้ มันผิดจรรยาบรรณหมอ แล้วมึงจะไปเยี่ยมเค้ามั๊ย” นนท์ถาม
“จะไปทำไม แค่นี้เค้าก็เกลียดขี้หน้าข้าแย่อยู่แล้ว เค้าคงไม่อยากให้ข้าไปหรอกเว้ย”เขาโกหก
“เออ! งั้นข้ากลับก่อนนะ ไปล่ะ” นนท์เอ่ยลา
          อรรถเดินเข้าบ้านด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจมาก ใช่! เขาเป็นห่วงรุ่งนภา เพื่อนรุ่นพี่ที่เขารัก ตอนนี้หล่อนกำลังไม่สบายมาก แม้ว่าเธอจะเคยปฏิเสธเขาอย่างไม่มีเยื่อใยแต่เขาก็อยากจะทำอะไรซักอย่างเพื่อเป็นการช่วยเหลือเธอ
“แม่ครับ แม่จะว่าอะไรมั๊ยถ้า ผมจะขออะไรแม่ซักอย่าง” อรรถเอ่ยถามทันทีที่แม่และทุกๆคนอยู่กันพร้อมหน้า
“ไหนลองว่ามาซิ”
“คือ
มันอาจจะดูร้ายแรงสำหรับเรา แต่มันจะเป็นประโยชน์กับอีกหลายๆคนเลยนะครับแม่”
“เอาล่ะ ไม่ต้องอ้อมค้อม ว่ามาตรงๆเลย” พ่อของเขาเอ่ยขึ้น
“คือ
เพื่อนผมป่วยหนัก หมอบอกว่าหัวใจล้มเหลว จำเป็นต้องผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจอย่างเร่งด่วน ไม่อย่างนั้นเธอก็จะ
ก็จะ  ตาย”อรรถเสียงสั่น “แล้วผม..ผมก็อยากจะขออนุญาตพ่อกับแม่บริจาคหัวใจของผมให้กับเธอน่ะครับ” อรรถใจหายเมื่อแม่บอกว่า
“ไม่ได้! ไม่ได้แน่ๆ แม่ไม่ยอมเด็ดขาด จู่ๆจะให้ลูกไปตายได้ไง  ลูกออกจะแข็งแรง สุขภาพดี แล้วแม่ก็มีลูกชายเพียงคนเดียวคือลูก แม่ไม่อยากเสียลูกไป ลูกต้องเข้าใจแม่นะ” หล่อนทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ทำให้อรรถไม่กล้าที่จะเซ้าซี้อีกต่อไป
                  อรรถรู้สึกเครียดมากที่ตนเองไม่สามารถช่วยคนที่ตนเองรักได้เลย ความเครียดส่งผลให้อรรถปวดศีรษะอย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งมึนงงและปวดหัว เขาอาเจียนออกมาและครั้งหลังสุด  มันออกมาเป็นสีเป็นเลือด! น้องสาวของอรรถมาพบเข้าจึงไปตามพ่อและแม่มาดู ทั้งสามรู้สึกช็อก พวกเขาพาอรรถไปโรงพยาบาลเดียวกับรุ่งนภาและก่อนที่อรรถจะหมดสติไป เขาบอกกับแม่ว่า ช่วยทำให้เขาได้ทำสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดด้วยก่อนที่เขาจะไม่มีโอกาสอีกเลย และช่วยบอกกับพี่ฟ้าเมื่อเธอหายดีแล้วด้วยว่าเขาขอโทษที่ทำให้เธอต้องไม่สบายใจมาตลอด ขอให้เธอมีสุขภาพที่แข็งแรงตลอดไป และพี่ฟ้าคงจะสบายใจได้แล้วที่ต่อไปนี้จะไม่มีเขามาคอยทำให้เธอเหนื่อยใจอีกแล้ว!!!!
                หมอได้บอกกับพ่อแม่ของอรรถว่าอรรถกำลังจะเสียชีวิตเพราะเส้นเลือดในสมองแตกและไม่สามารถรักษาได้เพราะมาถึงมือหมอช้าเกินไป ทุกคนเสียใจมาก แม่ของอรรถร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่นึกอายใคร หัวอกแม่ที่กำลังจะสูญสียลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไปแทบแตกสลาย นางมองเข้าไปในห้องไอซียูที่อรรถนอนนิ่งอยู่บนเตียง และแล้วนางก็คิดอะไรบางอย่างได้ ! คำขอร้องของอรรถ ใช่แล้ว!
“หมอคะ คือดิฉันจะขอบริจาคหัวใจลูกชายดิฉันให้กับหนูคนที่กำลังต้องการหัวใจได้มั๊ยคะ”
“อือม์
.ได้สิ ถ้ามีเลือดกรุ๊ปเดียวกันล่ะก็จะดีมากเลยล่ะ หนูฟ้ามีสิทธิรอดแน่ๆ” หมอดีใจมาก
            หมอทำการผ่าตัดครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน  หมอได้ผ่าตัดอรรถและรุ่งนภาพร้อมๆกัน  พวกเขาได้ผ่าตัดเอาหัวใจของอรรถมาใส่ลงไปในร่างของรุ่งนภา เพียงชั่วครู่หัวใจของอรรถก็เริ่มต้นเต้นอีกครั้ง รุ่งนภารอดชีวิตแล้ว  เธอได้หัวใจที่เธอต้องการแล้ว!!!
          รุ่งนภาลืมตาขึ้น เช้าแล้ว หล่อนรู้สึกกระหายน้ำมากจึงร้องขอน้ำด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง แม่ของหล่อนดีใจมากที่เห็นหล่อนฟื้นขึ้น นางรีบรินน้ำมาให้ลูกสาวในทันที
“ดีจังที่ลูกฟื้นแล้ว  แม่เป็นห่วงลูกมากเลยรู้มั๊ยลูก” นางน้ำตาคลอเบ้า “โชคดีที่หมอเค้าเปลี่ยนหัวใจให้ลูกได้ทันเวลา”
“ฟ้าได้หัวใจใหม่เหรอคะแม่  ของใครคะ” หล่อนเสียวสันหลังวาบ
“เอาไว้ให้ลูกหายดีก่อนแล้วแม่ค่อยบอกดีกว่านะจ๊ะ”
          หนึ่งเดือนผ่านไป หมออนุญาตให้รุ่งนภากลับบ้านได้  หล่อนรู้สึกสดชื่นขึ้นมาก หัวใจดวงใหม่นี่ช่างดีจริง หล่อนคิด  หล่อนอยากรู้จังว่าเป็นของใคร ในที่สุดหล่อนก็ทนสงสัยอีกต่อไปไม่ไหว
“แม่คะ แม่จะบอกฟ้าได้รึยังคะว่าฟ้าไปได้หัวใจใครมา”
“เฮ้อ! ถึงเวลาแล้วสินะที่แม่จะต้องบอกลูกเอาล่ะ ตั้งใจฟังให้ดีๆนะ หัวใจดวงใหม่ที่กำลังเต้นอยู่ภายในร่างกายของลูกตอนนี้ ก็คือหัวใจของ
อรรถ เพื่อนของลูกไง เขาได้มอบหัวใจดวงนี้แก่ลูกด้วยความเต็มใจจ้ะ” นางบอก
        รุ่งนภาช็อก ไม่จริง จะเป็นอรรถไปได้ยังไง หยาดน้ำตาแห่งความเสียใจไหลรินอาบแก้ม เขารักหล่อนถึงเพียงนี้เชียวหรือ เขาทำให้หล่อนได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
.อยู่ต่อไปด้วยความรักและจริงใจของเขา  หล่อนเดินเข้ามาในห้องนอนและหยิบแผ่น Mp3 ขึ้นมา และใส่มันเข้าไปในเครื่องเล่น  หล่อนหยิบหูฟังขึ้นมาสวมแล้วกดเล่นเพลง  เพลงรักหวานซึ้งตามแบบฉบับวัยรุ่นเริ่มบรรเลง หล่อนนั่งฟังมันทั้งน้ำตา มันคือความรักที่เขาถ่ายทอดออกมาเป็นเพลง และมอบมันให้กับหล่อนเพื่อบรรยายความรู้สึกของเขาที่มีต่อหล่อน  หากแต่หล่อนกลับไม่สนใจที่จะฟังมัน
              (b) ถึงเวลาแล้วสินะ เวลา
ที่บทเพลงแห่งรักแท้ที่บริสุทธิ์ของอรรถ  จะบรรเลงไปพร้อมกับเสียงหัวใจที่เขาได้มอบให้กับหล่อน  มอบให้ด้วยความรัก!!!(b)
           
THE END
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น