รักแรก มันเจ็บจัง - รักแรก มันเจ็บจัง นิยาย รักแรก มันเจ็บจัง : Dek-D.com - Writer

    รักแรก มันเจ็บจัง

    รักเค้าข้างเดียวทำไมมันเจ็บจัง

    ผู้เข้าชมรวม

    412

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    412

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 ต.ค. 47 / 19:28 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนนั้นฉันพึ่งย้ายเข้ามาเรียนโรงเรียนพณิชแถวปากคลองตอนแรกก็อยากจะต่อ ม.ปลายอยู่หรอกแต่ว่าฉันมีความสนใจด้านคอมพิวเตอร์มากก็เลยมาเรียนด้านนี้โดยเฉพาะ  อันที่จริงจะไม่เรียนที่นี่ก็ได้นะเพราะสอบได้ที่พณิชอีกที่นึงเป็นของรัฐบาลแถวซอยจรัญแต่ว่าดูแล้วไม่ค่อยเคร่งเรื่องคอม  เท่าไหร่มันมีชื่อเสียงด้านบัญชีมากกว่า ก็เลยเลือกเรียนที่นี่   ตอนมาสมัครอีกวันนึงก็เปิดเรียนแล้วจึงต้องเรียนรอบบ่ายทั้ง ๆ ที่ความจริงอยากเรียนรอบเช้า แต่พอมารู้อีกทีเรียนรอบบ่ายนั่นแหละดีแล้วตอนนี้ยังไม่ได้เรียนคอมตามที่หวังไว้ตอนแรกหรอกเพราะต้องเรียนวัดระดับก่อนถึงจะเลือกเรียนวิชาที่ชอบตามเกรดของตัวเองที่ทำได้นั่น แหละกลุ้มหนังเข้าไปอีกเมื่อคอมเป็นห้องที่รับเด็กน้อยและเกรดต้องสูงถึงจะเข้าได้ค่อยว่ากัน ในห้องของฉันอยู่ห้อง 104 รอบบ่ายมีทั้งหมด 5 ห้อง ห้องฉันเรียกง่าย ๆ ว่า  “  โ คตรนรกเลย  ” ที่สำคัญฉันเจอเพื่อนเก่าที่เคยเรียน ม.ต้นที่อยู่ห้องเดียวกันเลขที่ติดกันพอย้ายมานี่เลขที่ก็ติดกันอีกแถมนั่งด้วยกันแล้วมันก็เป็นคนที่เสียงแหลมมาก ๆ เวลาที่เราคุยกันมันก็เหมือนนกแก้วนกขุนทอง แต่นั่นแหละเพราะความที่เราออกจะรู้จักกันเร็วและความพูดมากของเราจึงไม่ค่อยจะมีอาจารย์ที่อยากจะเข้าสอนห้องเรา แม้กระทั่งอาจารย์ฝ่ายปกครองยัง ต้องถอย  แต่นั่นแหละเค้าว่ากันว่าเด็กเกเรมักจะเป็นเด็กฉลาดห้องเราเป็นห้องที่สร้างชื่อเสียงตลอดแถมเรายังทำคะแนนดีกันทุกคนจึงพอเป็นที่น่าพอใจของอาจารย์อยู่บ้าง   มาที่กลุ่นฉันดีกว่าเรามีกันอยู่ 8 คน มี ป้อม ปุ๊ก ติ๊บ ต่าย ฝน หมวย แป้ง และตัวฉันเอง ในกลุ่ม ฉันเป็นคนเดียวที่ตัดผมสั้นที่ไม่ไว้ผมยาวก็เพราะว่าขี้เกียจมัดนะ   ตอนนั้นฉัน pop มากเพราะเข้าคิดว่าฉันเป็นนทอมฉันจะไม่สงสัยเลยเพราะเมื่อก่อนตอนที่เรียนโรงเรียนเก่ามันเป็นโรงเรียนหญิงล้วนมันก็ธรรมดาที่จะมีพวกผู้หญิงมาจีบฉันก็เล่นด้วยเพราะมันไม่มีอะไรทำนี่แถมพอไม่เล่นด้วยก็หาว่าหยิ่งอีก แต่ที่นี่มันเป็น สห นะก็เลยค่อนข้างงง แต่ช่างมันเหอะฉันนะหญิงแท้ ๆ นะจะบอกให้แต่ที่เค้าคิดกันคงเป็นเพราะผมที่สั้น แถมไอ้ต่ายมันยังติดฉันเป็นตังเมล์ตอนนั้นไม่ค่อยแคร์อะไรหรอจนกระทั่งวันนึงที่เจอเค้า
               วันนึงฉันมาสาย ( ขนาดเรียนบ่ายยังมาสายนิสัยเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลย ) ก็เลยโดนเข้าแถวหน้าโรงเรียนตากแดดซะแต่เพราะสายตาของฉันนะมันไม่อยู่สุขนะซิมันเหลือไปเห็นผู้ชายคนนึงตอนแรกฉันไม่เห็นหน้าหรอกนะเห็นแต่ข้างหลังก็ประทับใจแล้ว เค้าสุดยอดมากหุ่นเหมือนนักกีฬา ไหล่กว้างยืนเด่นเป็นสง่ามากหลังตรงเหมือนนักเรียนนายร้อยก็ไม่ปาน ไม่รู้ซิมันชอบนะ พอเห็นหน้านะโอยพระเจ้าแทบจะละลายแนะเค้าเรียกได้ว่าหล่อมากคิ้วเข้ม ตาโต แถมหน้าใสยิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก น่ารักจัง   หลังจากนั้นฉันก็คอยชะเง้อมองหาเค้าตลอดและก็เจอนะต่อมาก็รู้ว่าเค้าชื่อ  “ วี ”  แค่นี้แหละฉันรู้ว่าเค้าเรียน 203 การขาย ( คนหน้าตาดี ๆ อย่างนี้ไม่น่าเรียนการขาย ) และต่อมาก็ได้แหล่งข้อมมูลจากรุ่นพี่คนนึงที่อยู่ในห้องนั้นเพราะไอ้ป้อมก็แอบชอบพี่จั๊ก ที่อยู่ในห้องนี้เหมือนกันเราเลยมีสายอยู่ในห้องนั้นเรารู้มาจากรุ่นพี่คนนี้ว่า วีพึ่งย้ายเข้ามาเรียนปี 2 ที่นี่ ( เข้าพร้อมกันด้วยเนื้อคู่แน่ ๆ ) ย้ายมาจากโรงเรียนคนรวยย่านสีลม  ( แต่ถ้าจะว่าไปค่าเทอมโรงเรียนฉันแพงกว่าเยอะ แต่เพราะว่าชุดโรงเรียนเค้ามันสวยกว่า ) ไม่มีแฟน ชอบเล่นบาส  และเท่าที่ฉันแอบมองเขาทุกครั้งที่เจอ ( ถ้าจะเรียกให้ถูก  จงใจจงใจจะเจอ )  
      มีคนชอบเค้าเยอะมาก  และแต่ละคนน่ารักมาก แต่และแล้วก็ได้เบอร์มาในที่สุด  ( ต้องขอบคุณไอ้แป้งมัน ) ตัดสินใจอยู่ 3 วันกว่าจะโทร อันที่ตริงมันดีกว่าที่คิดนะฉันไม่เคยโทรหาผู้ชายคนไหนเลยเค้าเป็นคนแรก ( ก็พึ่งหลุดออกมาจาโรงเรียนหญิงล้วนนี่ )  เราคุยกัน 3 ชั่วโมงเค้าเองก็บอกว่านาน ฉันก็ว่านานเพราะไม่เคยคุยนานขนาดนี้ เราคุยกันไม่ทุกวันหรอกและฉันเป็นคนโทรเองทุกครั้งและเราก็เริ่มที่จะกลับบ้านพร้อมกันบ้างเป็นบางครั้ง ถึงจะกลับคนละทางก็เถอะเค้าก็รอ ( ขออธิบายฉันบังคับให้เค้ารอเองแหละ )
      เค้าก็เหมือนคนอื่น ๆ เค้าถามฉันในวันหนึ่งที่เราคุยกันทางโทรศัพย์
      “ ถามไรหน่อยซิ “
      “ ไร “ ถามมาเถอะ
      “ เป็นทอมรึป่าวเนี๊ยะ “ โหทำร้ายจิตใจถ้าฉันเป็นทอมจะโทรหาพระแสงอะไร
      “ ป่าวนี่...ไม่เห็นจะเหมือนทอมเลยซักนิด ” ฉันตอบออกไป
      ตั้งแต่คุยกับเค้าฉันได้ฉายาเพียบไม่ว่าจะเป็นซาลาเปา หมูอ้วน อะไร ๆ อีกเยอะ ถึงเค้าจะไม่ค่อยมาโรงเรียนก็ตามเหอะ แต่ฉันไม่ได้โทรหานะเวลาที่เค้าไม่มาเพื่อเค้าโดดเรียน  แต่ทุกครั้งที่เห็นเค้าไม่ค่อยกินข้าวตอนพัก จะนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องหรือไม่ก็นั่งหลับเค้าชอบอยู่คนเดียว
      “ วีทำไมวีไม่ค่อยลงมากินข้าวละชอบอยู่คนเดียวเพื่อนทิ้งหรอ ”  ฉันตัดสินใจถามในที่สุดที่เราคุยกัน
      “ เปล่าเบื่อไม่อยากกิน ” เบื่อกินข้านะน่ะ
      ฉันรู้อะไรกับเค้าหลาย ๆ อย่างเค้าใส่เสื้อทับเพราะว่า มันซับเหงื่อดี ตอนเย็น ๆ ก็จะเล่นบาสที่โรงเรียนหรือไม่ก็กับเพื่อนแถวบ้าน อีกอย่างที่ขาดเรียนก็อยู่บ้านแหละขี้เกียจมา   ทุกอย่างเป็นไปด้ายดีจนกระทั่งจะสอบปลายภาคเค้าติด ขร เยอะแยะ ( ขร ขาดเรียน )  จนไม่มีสิทธิสอบหลายวิชา
      “ เออบางที  วีจะย้ายโรงเรียนนะ ”  เค้าพูดออกมาวันนึงตอนที่ฉันบังคับให้เค้ากลับบ้านทางสะพานพุทธด้วย
      “ หรอ......จะย้ายไปเรียนไหนละ ” ฉันถามด้วยความรู้สึกหดหู่สุดขีด
      “ วีอยากเรียนอิเล็กนะจะย้ายไปเรียนเทคโนสยาม ” เค้าตอบ
      “ อืมแต่ต้องเรียนปี 1 ใหม่ไม่ใช่หรอ ” ฉันไม่อยากให้เค้าไปนี่
      “ อืมตอนแรงที่ย้ายมาจากโรงเรียนเก่าเพราะไม่มีวิชาที่อยากเรียนถ้าย้ายอีกทีที่นี้จะไม่ย้ายแล้ว......เพราะมีวิชาที่อยากเรียน ” เขาพูดให้ฟัง  เอาน่ายังไงกว่าเค้าจะออกก็ถึง Valentine พอดี เพราะตอนปีใหม่ฉันนะรอให้การ์ดเค้าถึง 1 อาทิตย์หลังจากหยุดปีใหม่ไป Valentine จะถึงในไม่ช้า แต่ระหว่างนั้นเค้าก็ไม่ค่อยมาเรียน จนกระทั่งปิดเทอมเค้าก็ไม่มาแถมไอ้แป้งก็ลาออกไปอยู่ต่างจังหวัด แต่ฉันยังโทรหาวี อยู่ เราคุยกันบ่อยขึ้นเพราะปิดเทอม  
      และเมื่อเปิดเทอม ฉันก็ได้เรียนคอม ไอ้ ต่าย ไม่ได้เพราะเกรดไม่ถึงจึงต้องเรียนการขาย ส่วนฝนเลือกที่จะเรียนบัญชี ห้องเรามีห้องเดียว แถมคนน้อยกว่าห้องอื่น   ทุกอย่างมันยากกว่าที่คิดเราเริ่มขียนโปรอกรมกันบน MS DOS  มันไม่ง่ายอย่างที่ใครคาดหวังและเป็นแผนกเดียวที่ย้ายออกไม่ได้ ( มิน่าเล่าเกรดถึงต้องสูง ) ถึงยังไงก็ยังโทรหาเค้าอยู่ อาทิตย์ละครั้ง เดือนละครั้ง ทุกครั้งที่โทรเค้าจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆจากเมื่อก่อนที่ฉันจะเป็นคนพูดเดี๋ยวนี้ฉันกลายเป็นคนฟัง  เค้าเองเป็คนบอกเองว่าไม่ชอบผู้หญิงที่โทรมาแล้วอั้มอึ้งไม่พูด แต่ฉันไม่มีปัญหาก็ฉันพูดมาซะ
      “ อืม!! เมื่อวันก่อนวีมีเรื่องด้วย ” เค้าพูดขึ้นเมื่อฉันไม่ได้โทรหาเค้าหลายวัน
      “ หรอไปชกกับใครเต้าเข้าแล้วละ ”  ฉันถามทีเล่นทีจริงก็เพราะเป็นห่วง
      “ ไม่ใช่วีโดนจี้ ช็อป บนรถเมล์ ” เค้าพูดขึ้น
      “ แล้วเป็นไงบ้าง ” ฉันถามอย่างเป็นห่วง “ ไม่มีคนช่วยหรอ ”
      “ ไม่เป็นไรมันเอามีดจี้คอนที่วีจะลงรถไม่มีเด็กในโรงเรียน วีเลยถอดให้มันไป “
      ไม่ใช่แค่นั้นยังมีอีก เค้าเล่าว่าเมื่อวันก่อนเค้าออกจากบ้านสาย ( นิสัยเดิมสายตลอด ) เค้าเจอเด็กโรงเรียนเค้าตีกับเด็กโรงเรียนอื่น วีจึงชวนเด็กในโรงเรียนไปหลบที่บ้าน ( เค้าบอกว่าอันที่จริงมันไม่เกี่ยวกับวีเลยนะเนี๊ยะ ) แต่นั่นแหละเค้าก็ช่วยไว้และให้น้าหรืออานี่แหละขับรถไปส่ง หลังจากนั้น ก็โทรบ้างไม่โทรบ้างเพราะตอนนี้เค้าเริ่มติด RO เริ่มอยู่ไม่ติดบ้านบางทีกลับมาก็หลับ เค้าขอเบอร์ฉันไปสามครั้งและทำหายทุกครั้งและทุกครั้งที่ขอก็บอว่าจะโทรแต่ไม่เคยโทร มาซักครั้ง ก็เค้าไม่ได้ชอบเรานี่มีแต่เราที่บ้าตื้อ อยู่คนเดียวก็เลยเริ่มที่จะตัดใจ ไม่โทร  ไม่โทร   ไม่โทร และก็โทรจนได้ ตอนนี้เค้าสอบเสร็จแล้ว สบายไปส่วนฉันก็เร่งอ่านหนังสือ  


               พอก้าวเข้าสู่ปี 2 เทอม 2 มันวุ่นวายพิลึกมีคนผ่านเข้ามาเยอะแยะแต่ไม่ได้สนใจมันไม่ใช่นี่ตอนนี้ฉันสนิทกับพวกเพื่อน ๆ เค้าที่ตอนนี้อยู่ปี 3 ทั้งที่เมื่อก่อนไม่ได้คุยกันแต่เพราะไอ้มันคบกับพี่ 1 คนในกลุ่มนั้นก็เลยคุยกันสนิทกันกลับบ้านพร้อมกัน แต่ฉันไม่ค่อยมีเวลากับเรื่องไร้ สาระพวกนั้นหรอกเพราะต้องติวเพราะเตรียมตัวสอบทักษะที่โดนจับให้ไปลงแข่ง  แต่ก็ยังโทรหาเค้านะ
      “ อืม ขอรูปหน่อยดิ ” เค้าขอรูปฉันอ่ะเชื่อมั๊ยละพระเจ้า
      “ โหทีเค้าขอรูปวีวียังไม่ให้เลย ” ใช่ขอไปเป็นชาติแล้ว
      “ ส่งมาก่อนเดี๋ยวส่งให้ ” พูดอย่างนี้ก็ซิค่ะ  แล้วเค้าก็บอกที่อยู่มาโอ้นี่มันอยู่ใกล้ ๆ บ้านไอ้หมวยเลยนี่หว่า 555
               และในที่สุดก็ปิดเทอมเตรียมตัวขึ้นปี 3 ฉันทำงานพิเศษแต่ก็ยังโทรหาอยู่นะ อืมลืมเล่าไปฉันเจอเค้าที่วัดลอบตอนวันลอยกระทงที่ตั้งใจจะไปเดินสะพานพุทธ แต่ด้วยความที่คนเยอะทำให้ฉันหาเค้าไม่เจอเศร้า  
      “ อืม ถามไรหน่อยที่บ้านใช้แรมเท่าไหร่ ” วีถามในวันหนึ่ง
      “ 325 ทำไมหรอ “ ฉันตอบไป
      “ อ๋อกำลังแต่งคอมอยู่นะไม่มีไรหรอกแล้วมันเร็วมั๊ย “ เคาถามต่อ
      “เล่นเกมคล่องเลย “ ฉันตอบแล้วก็คุยอะไรสับเพเหระ
      พอเปิดเทอมขึ้นปี 3 ฉันวุ่น ๆ ไม่ค่อยได้โทรไปนานจนมาโทรอีกทีโทรศัพย์บ้านเค้าก็โดนตัด ไม่เป็นไรเดี๋ยวคงจ่ายบ้านเค้ารวยนี่ ฉันคิด  1 เดือนผ่านไปยังติดต่อไม่ได้  3 ยังเหมือนเดิม จนฉันไปหาไอ้หมวยและลงรถเลยไป 1 ป้าย ( จงใจเลยนะ ) เค้าบอกว่าเดิน 20 ก้าวขวามือบ้าเค้าแน่ละมันมีขายของด้วยบ้านเลขที่ก็ใช่แต่มันไม่กล้าเข้าไปนี่หว่า ก็เลยไม่ได้เข้าไปไม่รู้ซิ   มันไม่กล้านี่นา  ช่วงนี้ฉัน กำลังวุ่นวายเรื่องสอบและโทรศัพย์ก็หาย ( แต่ตอนนี้ได้มาใหม่แล้ว ) ฉันยังคงเม็มเบอร์เค้าไว้ทั้ง ๆ ที่มันโทรไม่ติด   ทุกครั้งที่ไปแถวนั้นก็พยายามจะนั่งรถเลยปทั้ง ๆ ที่ต้องเดินย้อนถึง 2 ป้ายรถเมล์  Mail  ที่ให้ไว้เวลาที่เค้าออนก็ดันไม่เจอทั้ง ๆ ที่ฉันพยายามออนเวลาที่เค้าบอกว่าเค้าจะออน  ฉันก็รู้ว่าไม่มีหวังไม่มีหวังตั้งแต่แรกแล้ว เป็นฉันเองที่ตื้อเค้าเค้าอาจจะรำคาญก็ได้ จริงมั๊ย ? ฉันเก็นทุกอย่างที่เกี่ยวกับเค้าหนังสือภาษาจีนที่บังคัญให้เค้าคัดให้ และรอยเลือดที่อยู่บนกระดาษหน้านึงมันยังอยู่ ( อุตส่าห์ไปขออาจารย์คืนเพราะส่งแล้วอาจารย์จะไม่คืนแต่เพราะมีลายมือเค้าอยู่ )  รูปเค้าที่ขอไปมันไม่จำเป็นหรอกเพราะฉันจำหน้าเค้าได้ดี ตอนนี้แม้อยากจะมีใครแต่ ไม่ใช่เพราะเรื่องมากนะแต่เค้าดีที่สุด รอ อยู่กระทั่งตอนนี้    คิดว่าไงละก็ฉันมันบ้าอยู่คนเดียวนี่ผู้ชายหน้าตาดีอย่างเค้าจะมายุ่งกับฉันหรอ
               เค้าจากไปตอนที่ฉันยังไม่ได้บอกอะไรซักคำ เค้าไม่รู้อะไรเลย และฉันก็รอคนที่เค้าไม่เคยจะหันมามอง
      รอทั้ง ๆ ที่เค้าไม่เคยคิดจะสนใจฉัน  เราไม่ได้ติดใจเพราะหน้าตาแต่เป็นเพราะสัยที่เค้ายังคงดีเสมอแม้เราจะเป็นแค่เด็กที่ตามตื้อไปวัน ๆ
                          
      รักเค้าข้างเดียวนี่มันเจ็บดีเนอะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×