ชายหนุ่มคนหนึ่งขับรถคันงามราคาหลายล้านท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งรถเกิดเสียกระทันหัน
ทันใดนั้นเองฝนก็เริ่มตก เกิดพายุอย่างรุนแรง
เขาจึงตัดสินใจออกจากรถเพื่อหาคนมาช่วย
และแล้วเขาก็ไปเห็นวัดๆหนึ่งตั้งอยู่กลางภูเขา
ถ้าเป็นใครเห็นแบบนี้ก็คงจะไปโบกรถขอความช่วยเหลือ
แต่ชายหนุ่มผู้นี้กลับพยายามปีนขึ้นไปบนภูเขาแห่งนี้ด้วยความพยายามอย่างไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค
จึงทำให้เขาขึ้นมาถึงวัด เขาก็ได้พบกับท่านเจ้าอาวาสแห่งวัดนี้
แล้วขออนุญาตพักแรมที่วัดนี้ 1 คืน
ท่านเจ้าอาวาสก็สั่งให้เณรไปจัดห้องให้ชายหนุ่มได้พัก
เมื่อชายหนุ่มหลับไป ก็เกิดเสียงประหลาดอย่างหนึ่งขึ้นตอนตี 3 “กึก กึก
กึก
โครม!!!!”
ชายหนุ่มเกิดสะดุ้งตื่นขึ้นมาและได้ยินเสียงนี้เป็นเวลา 10 นาที
เมื่อเสียงนี้เงียบไปแล้วจึงลุกออกจากเตียงและรีบวิ่งไปหาเจ้าอาวาส
ชายหนุ่ม: หลวงพ่อได้ยินเสียงเมื่อตะกี้ไหมครับ
มันดังและน่ากลัวมากเลยครับ
เจ้าอาวาส: อาตมาได้ยินแล้วโยม
ชายหนุ่ม: มันเป็นเสียงของอะไรครับ
เจ้าอาวาส: อาตมาบอกโยมไม่ได้หรอก เพราะโยมไม่ใช่พระ
ชายหนุ่มเมื่อได้ยินหลวงพ่อบอกอย่างนี้จึงไม่ถามต่อ
แล้วเก็บมาคิดว่าเป็นเสียงของอะไรกันแน่
จนกระทั่งผ่านพ้นคืนนั้นไป
ชายหนุ่มก็โทรไปแจ้งประกันและยกรถกลับไปที่กรุงเทพฯ
. . .
2 ปีต่อมา ชายหนุ่มคนนี้ก็ขับรถแล้วประสบอุบัติเหตุแบบเดิมอีก
เขานึกขึ้นได้ทันทีว่าเขาเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง
ฝนก็ตกลงมาหนักกว่าคราวก่อน ฟ้าก็ร้อง ครืน ครืน พายุก็ซัดกระหน่ำ
เขาจึงตัดสินใจไปหลบพายุนี้ที่วัดนั้นอีก และได้เจอเจ้าอาวาส
“ช่างเป็นเป็นบุญวาสนาเหลือเกิน ที่ทำให้อาตมากับโยมมาพบกันอีก”
ส่วนชายหนุ่มก็ได้แต่คิดว่า ”เป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยรึไงวะ
ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นแบบนี้ได้”
และแล้วชายหนุ่มก็ได้พักในห้องเดิมที่เคยพักมาเมื่อ 2 ปีที่แล้วนี้เอง
ชายหนุ่มรู้สึกฉงนใจเป็นอย่างมาก จนเผลอหลับไป ทันใดนั้นเองตอนตี 3
ก็เกิดเสียงนั้นขึ้นมาอีก
”กึก กึก กึก
โครม!!!!”
ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นรีบลุกขึ้นแล้วออกไปหาต้นเหตุที่ทำให้เกิดเสียงนี้
วิ่งไปจนรอบกุฏิแล้วก็ยังหาไม่เจอ จนเสียงนี้เงียบไป
เขาจึงเข้าไปถามเจ้าอาวาส
ชายหนุ่ม: นี่มันเสียงอะไรกันแน่ครับหลวงพ่อ
เจ้าอาวาส: อาตมาไม่สามารถบอกโยมได้หรอกว่ามันเป็นเสียงอะไร
ชายหนุ่ม: ทำไมล่ะครับหลวงพ่อ
เจ้าอาวาส: นั้นก็เพราะโยมไม่ใช่พระ
ชายหนุ่ม: แล้ววิธีไหนบ้างที่ทำให้ผมได้เป็นพระล่ะครับหลวงพ่อ
เจ้าอาวาส: โยมต้องออกบวชและจำวัดในวัดแห่งนี้
โยมจะออกบวชอย่างงั้นหรือ
ชายหนุ่มเก็บข้อสงสัยนี้มานานแล้วจึงตัดสินใจออกบวชเพื่อจะได้รู้ว่าเป็นเสียงของอะไร
แต่ในทางกลับกันชายหนุ่มเกิดซึ้งในรสพระธรรมจนลืมข้อสงสัยที่ตั้งไว้
และอุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนา มานานเนิ่น
จนเวลาผ่านไป 40 ปี ขณะที่พระ(ชายหนุ่ม)กำลังจำวัดอยู่นั้น ตอนตี3
ก็เกิดเสียงนั้นอีก
“กึก กึก กึก
..โครม!!!”
พระ(ชายหนุ่ม)เกิดมีสติจำความได้ว่าต้องการรู้คำตอบของเสียงนี้
พระรูปนี้จึงตรงไปหาเจ้าอาวาส ที่บัดนี้ได้ชราภาพแล้ว
พระหนุ่มจึงถามเจ้าอาวาส
พระหนุ่ม:
ในตอนนี้ผมได้เป็นพระสงฆ์หรือพุทธสาวกประจำพุทธศาสนาของเราแล้ว
ผมเองก็สงสัยมาตลอดจึง
ขอให้ท่านได้โปรดบอกผมทีว่านี่เป็นเสียงอะไร
และท่านเจ้าอาวาสก็พาพระองค์นี้ไปดูว่าเป็นเสียงอะไร
และในที่สุดหลังจากพระหนุ่มได้แสวงหาคำตอบนี้มานาน
ก็รู้แล้วว่าเป็นเสียงของอะไร . . . .
แล้วคุณคนที่อ่านอยู่ล่ะ อยากรู้มั้ยล่ะว่าเป็นเสียงของอะไร
.
แต่เสียดายนะผมเองก็คงจะบอกคุณไม่ได้หรอกนะ
เพราะคุณไม่ใช่พระ
จบบริบูรณ์(HaHaHaHaHa!!!!!
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น