มิตรภาพระหว่างทางเดิน
    ผมค่อยๆจุดบุหรี่ยี่ห้อ แอล.เอ็ม ซองสีแดงขึ้นมาสูบ พ่นควันให้ลอยไปปนกับละอองอากาศที่หนาวเย็นกลางเดือนธันวาคม  สายตาของผมทอดยาวไปข้างหน้า ถนนที่อยู่ตรงหน้าผมมีชื่อว่าถนนมิตรภาพ ตัดจากกรุงเทพมหานครฯ เมืองแสงสีเมืองศรีวิไล มุ่งหน้าเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือดินแดนทุรกันดารแต่ผู้คนที่นั่นก็ยังยิ้มได้ท่ามกลางมวลหมู่ไม้ที่ไร้ซึ่งความเจริญ
    ผมก้าวขึ้นรถประจำทางเพื่อกลับสู่ดินแดนที่ผมจากมาเป็นแรมปี ภาพเก่าๆค่อยๆปรากฎขึ้นในสมองของผมเป็นภาพบ้านหลังเล็กๆกลางทุ่งนาทุกๆเช้าจะมีกลิ่นหอมของกับข้าวที่แม่ทำ เสียงย่ำเท้าของควายที่พ่อพาไปไถนา ภาพพระเดินบิณฑบาต นกน้อยบินตัดแสงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณ น้องตัวเล็กๆกระโดดน้ำคลองต่างก็ส่งเสียงหัวเราะกันอย่างสนุกสนานชีวิตที่อบอุ่นคุ้นเคยช่างต่างกับชีวิตในเมืองกรุงของผมเหลือเกิน 
    ผมเคยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ วันแรกในมหาวิทยาลัยผมได้รู้จักกับคนๆหนึ่งซึ่งเปลี่ยนชีวิตผมโดยสิ้นเชิง
“นายชื่ออะไรวะเราชื่อโก้นะเว้ย” คนๆหนึ่งถามผม
“ชื่อพัช”ผมตอบ
ต้นมิตรภาพต้นเล็กๆระหว่างผมกับโก้เริ่มแตกหน่อออกจากดินแล้ว นับจากวันนั้นผมกับโก้เป็นเหมือนเพื่อนสนิทกันมีโก้ที่ไหนก็จะเห็นผมที่นั่นด้วยเช่นกัน
    ในวันหนึ่งเมื่อผมเลิกเรียน ผมเจอโก้อยู่ในที่พักของผมในมือโก้ถือบ้องไม้ไผ่ขนาดประมาณ 1 กำมืออยู่
“โก้นั่นมันอะไรวะ” ผมถามโก้ถึงบ้องไม้ไผ่อันนั้น
“กัญชาเว้ยลองหน่อยไหมดีนะเว้ย”โก้ชวน
“มันไม่ดีนะเว้ยกูกลัวติดว่ะ” ผมบอก
“ นิดเดียวไม่ติดหรอกเว้ย เอาหน่อยดิเพื่อนมิตรภาพของเราไง มึงไม่รักกูเหรอวะ”
เพื่อมิตรภาพผมจึงทำตามที่โก้ชวนโดยไม่รู้ว่านี่คือจุดเริ่มต้นบนเส้นทางเส้นใหม่ในชีวิตผม
“พัชกูโดนเด็กวิศวะต่อยมาว่ะ มึงไปตีคืนกับกูหน่อย”
“มึงอย่ามาปอดแหกตอนนี้สิวะ ทำกูก็เหมือนทำมึงไม่ใช่เหรอ”
“พัช คืนนี้ไปกินเหล้ากับกูดีกว่า”
“พรุ่งนี้สอบมึงไม่สอบหรือไงวะ”
“กลับมาตี 2 ก็อ่านโต้รุ่งเลยกูนัดเพื่อนเก่าๆของกูไว้ ไปเถอะมึงจะได้รู้จักเพื่อนกูด้วยไง”
“พัชกูขี้เกียจไปเรียนว่ะ โดดเรียนไปเดินห้างจีบสาวกันดีกว่า”
“แค่คาบเดียวไม่เป็นไรหลอกน่า ไปเป็นเพื่อนกับกูหน่อยดิ”
ต้นมิตรภาพของผมกับโก้เริ่มเติบโตขึ้นมาด้วยปุ๋ยแห่งความโสมมแต่มันก็ยังเติบโตขึ้นได้เรื่อยๆจนกระทั่งวันหนึ่งอาจารย์ที่ปรึกษาของผมเรียกผมไปพบ
“พัชระ ผมคิดว่าผมมีข่าวร้ายจะบอกคุณนะ คุณมีเกรดเฉลี่ยสะสมไม่พอที่จะลงทะเบียนเรียนในเทอมนี้”
“อาจารย์จะบอกว่าผมโดนรีไทร์เหรอครับ”ผมถามด้วยความตกใจ
“ใช่”อาจารย์ที่ปรึกษาของผมบอก
เย็นวันนั้นผมเดินกลับหอพักด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกน้ำตาของผมค่อยๆไหลออกมามีคำถามมาในใจผมว่า ผมโดนรีไทร์เพราะอะไร?
เสียงเคาะประตูห้องผมดังขึ้น ผมลุกจากที่นอนเปิดประตู โก้นั่นเอง
“พัช ไปกินเหล้ากูดีกว่ากูเซ็ง”
“โก้มึงรู้ไหมกูโดนรีไทร์แล้ว”ผมบอก
“แล้วไงวะกูก็โดน ปีหน้าก็สอบเอนท์ใหม่ไม่เห็นยากหรอกไปกินไปกินเหล้าให้ลืมกันดีกว่า”
พอสิ้นคำพูดของโก้ ผมรีบกระชากคอเสื้อของมันแล้วตะคอกใส่หน้าว่า
“มึงรู้ไหมค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนพ่อกูแม่กูต้องเหนื่อยขนาดไหนกว่าจะได้เงินแต่ละบาทมาให้กูแล้วมึงพูดแค่ว่ารีไทร์แล้วไงเหรอ”
“ไอ้พัชมึงกล้าตะคอกใส่หน้ากูเหรอ พ่อกูแม่กูยังไม่เคยทำกับกูอย่างนี้แล้วมึงเป็นใครมึงกับกูไม่ใช่เพื่อนกันแล้ว”
พอโก้พูดจบก็เดินหันหลังไปโดยไม่หันมามองพลางหยิบโทรศัพท์มือถือมาโทร
“โอ๋เหรอวันนี้กูเลิกคบเพื่อนเลวคนหนึ่งว่ะไปกินเหล้ากันดีกว่าเดี๋ยวกูไปหานะ”
ต้นมิตรภาพระหว่างผมกับโก้หักโค่นลงพร้องๆกับทางก้าวหน้าในชีวิตผม    คืนนั้นผมฝันในฝันผมยืนอยู่ในความมืดมีต้นไม้ใหญ่ 2 ต้นสูงตระหง่านอยู่ตรงหน้ามีหิ่งห้อยบินมาตอมรอบๆตัวผมผมรู้สึกถึงความอบอุ่น ผมลืมตาตื่นขึ้นมา
“บ้านผมอยากกลับบ้าน”
    รถโดยสารยังคงวิ่งอยู่ตอนนี้เป็นตอนกลางคืนแล้ว ภาพนอกหน้าต่างเป็นทุ่งนาบน ท้องฟ้า
มีดวงดาวนับล้านดวงช่วยกันส่องแสงแข่งกับดวงจันทร์ที่ทอแสงนวลอยู่แม้เพียงครึ่งดวงก็ตาม บางที่จะมีดาวตกกรีดฟ้าให้เป็นเส้นเพิ่มสีสันให้กับท้องฟ้า รถโดยสารยังคงวิ่งอยู่บนถนนมิตรภาพค่อยๆพาผมออกมาจากมิตรภาพที่หลอกลวงของเมืองกรุงเข้าสู่มิตรภาพที่คุ้นเคยอบอุ่น ผมเริ่มเห็นภาพที่คุ้นตาแล้ว นั่นต้นมิตรภาพระหว่างผมกับแม่ข้างๆก็เป็นต้นมิตรภาพระหว่างผมกับพ่อ ยังคงสูงตระหง่านอยู่ตรงที่เดิมรอเป็นแหล่งพักพิงให้กับหิ่งห้อยตัวน้อยๆที่หลงทาง น้ำตาของผมค่อยๆไหลออกมา
“มิตรภาพที่แท้จริงรอกูอยู่ที่นี่เอง”
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น