ส่วนลึกของความเปลี่ยนปลแงไม่เคยเปลี่ยนไป - ส่วนลึกของความเปลี่ยนปลแงไม่เคยเปลี่ยนไป นิยาย ส่วนลึกของความเปลี่ยนปลแงไม่เคยเปลี่ยนไป : Dek-D.com - Writer

    ส่วนลึกของความเปลี่ยนปลแงไม่เคยเปลี่ยนไป

    \"ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้วว่าพี่เขาเป็นเกย์ทำไมไม่ฟังฉันเลยว๊า...\"

    ผู้เข้าชมรวม

    429

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    429

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 47 / 18:15 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ส่วนลึกของความเปลี่ยนแปลง…ไม่เคยเปลี่ยนไป

      “พี่เค้าเป็นเกย์ ฉันพูดกี่เที่ยวแล้ว ทำไมแกไม่ฟังฉันเลยว๊า…แกจะจีบเกย์เหรอ…” เปรยบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงระอาเต็มทน
      “ก็พี่เค้าน่ารักนี่ หล่อขนาดนั้น…โอ๊ย…ปวดหัวใจจังเว๊ย” มู่ลี่บ่นคร่ำครวญทีเล่นทีจริง ขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินออกมาจากตึก9  เพื่อไปเรียนในวิชาต่อไป
      วันต่อมา
      “เป็นอะไรลี่ ทำไมวันนี้ดูเงียบๆล่ะ”เปรยถามด้วยความเป็นห่วง
      มู่ลี่ส่ายหน้าเซ็งๆไม่พูดไม่จา เปรยจึงพูดแทงใจดำขึ้นมา
      “ไม่เจอพี่เนมอ่ะดิ่”
      มู่ลี่ถอนใจยาว โดยที่ไม่หันมองหน้าเพื่อนสนิท
      “แกชอบเกย์หรอ…เหมือนแต่ก่อน ฉันรู้สึกว่าแกจะชอบผู้ชายเข้มๆกวนๆ นะ แล้วไงมาเป็นแบบนี้ไปได้…อ้อ พี่เค้าก็กวนๆนี่เนอะ แถมหล่อเข้มอีกต่างห่าง แต่ใจ…ไม่เข้มนะ”
      “ย้ำเข้าไป ย้ำเข้าปาย…”
      เปรยหัวเราะร่วน จนมู่ลี่มองค้อนตาขวาง
      “ขอโทษๆ ไม่ตั้งใจจะหัวเราะเยาะแกหรอกนะ เพียงแต่ ฉันไม่คิดว่า แกจะ ชอบเกย์จริงจังขนาดนี้”เปรยยังคง หัวเราะร่วน
      “ฉันเข้าใจว่าแกไม่ตั้งใจจะหัวเราะเยาะฉัน ขอบใจนะ”มู่ลี่พูดหน้าตาย
      สองวันต่อมา
      เสียงลือเล่าอ้างทำให้ข่าวมู่ลี่ชอบเนมสะพัดไปตกถึงหูเจ้าตัวเข้าในวันนี้
      “น้องเค้าไม่รู้หรอวะ ว่าฉันเป็น…”เนมทำหน้าเฉยเมยหลังจากฟังเพื่อนเล่าความตามที่ได้ยินมา
      จริงอย่างที่เปรยเคยพูด หน้าตาเนมหล่อคมเข้ม บาดใจสาวทีเดียว เสียดาย เสียดายมากๆที่เขาเป็นแบบนี้
      “ดีใจด้วยนะเนม” เพื่อนของเขาแซว โดยที่เขาส่ายหน้ายิ้มแหยๆ
      บ่ายวันเดียวกัน มู่ลี่เดินออกมาจากโรงอาหารขณะที่เนมกำลังเดินเข้า ทั้งคู่สวนกัน เนมมองหน้าเธอและยิ้มให้ มันทำให้เธอปลื้มจนแทบคลั่งและหลายครั้งหรืออาจจะแทบทุกครั้งที่เนมดูออก มันทำให้เขารู้ว่าเธอชอบเขาไม่ใช่น้อยๆ
      หลังจากวันนั้น มู่ลี่คอยแต่เฝ้ามองรอจะเจอเขาตลอด หลายครั้งที่เธอพยายามทำงานบางอย่างที่อาจารย์สั่งให้เขา โดยได้ข้อมูลมาจากการสอบถามรุ่นพี่ที่เธอรู้จักที่อยู่ห้องเดียวกับเนม เพราะเนมไม่ค่อยเอาใจใส่เรื่องเรียนเท่าไรนัก แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าเขาเป็นอย่างไรเธอก็พยายามโกหกตัวเองไปว่าถ้ายังไม่ได้ยินจากปากของเขาก็ถือซะว่าไม่ใช่ เนมเองก็ยิ้มให้เธอบ้าง บางครั้งก็จวนตัวจนลืมไปบ้าง แต่ทุกอย่างที่เขาทำคือรักษาน้ำใจรุ่นน้องคณะเดียวกันเท่านั้น
      วันต่อมา วันนี้เป็นวันที่มู่ลี่รอคอยให้ถึงในแต่ละอาทิตย์ เพราะเธอมีเรียนห้องติดกับเขา หมดชั่วโมงเรียนพร้อมกัน ทั้งสองห้องทยอยกันเดินออกมา พอมู่ลี่เห็นเนมก็แอบอมยิ้ม เนมเองก็ไม่รู้นึกครึ้มอกครึ้มใจอะไรขึ้นมา ทักทายเธอเป็นมั่นเป็นเหมาะ
      “ว่าไง…วันนี้ขึ้นประชุมคณะด้วยนะ บอกเพื่อนๆด้วยล่ะ”เขาพูดจบ เพื่อนๆก็เฮลั่น โห่แซวกันยกใหญ่ ทำเอามู่ลี่ทั้งเขินทั้งอายแต่ก็ยิ้มไม่หุบจนเพื่อนของเนมคนหนึ่งพูดขึ้นมา
      “ไม่ต้องเก๊กแมน นังเนม”
      นั่นทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของมู่ลี่หายไปทันที ก่อนรีบเดินออกไปจากตรงนั้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย
      ตกเย็นหลังประชุมสี่ชั้นปีคณะศิลปกรรมศาสตร์เสร็จสิ้น มู่ลี่กับเปรยก็พากันมาเดินซื้อของในห้างสรรพสินค้าไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก และขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินผ่านโรงหนัง อยู่ๆมู่ลี่ก์หยุดชะงักหน้าซีดเผือด ตาเศร้าๆค้างนิ่งอยู่ที่ภาพเบื้องหน้า เปรยจึงมองตามสายตาเธอไป
      เนมมองเห็นมู่ลี่จ้องเขาด้วยแววตาแบบนั้นจึงชักแขนที่ควงอยู่กับผู้ชายคนข้างๆออก เขาหยุดนิ่งจนชายหนุ่มข้างๆเขาก็แปลกใจ
      ทั้งคู่ยืนจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้น จนมู่ลี่ไม่อาจทนมองต่อไปได้จึงหันหลังกลับไม่เดินสวนเขาไป ความเจ็บปวดมันแปลบเข้าที่อกข้างซ้ายก่อนที่มันจะออกใบสั่งให้น้ำใสๆมาคลอเลี้ยงดวงตาทั้งสองข้าง
      เปรยมองเพื่อนอย่างสมเพศเวทนาแต่ก็ไม่อาจเอ่ยอะไรออกไปได้ ขืนพูดอะไรไปตอนนี้ก็ดีแต่จะเรียกน้ำตาของมู่ลี่ออกมาเท่านั้น
      กลางดึกคืนนี้มู่ลี่มาดื่มเหล้าเมาเละอยู่ที่ผับไม่ห่างจากมหาวิทยาลัยอีกเช่นกัน เรื่องบังเอิญไม่จบสิ้นเมื่อ เนมเองก็มาที่นี่ด้วย
      “นั่นรุ่นน้องที่ชอบแกนี่หว่าเนม”เสียงเพื่อนคนหนึ่งบอกกับเขา
      เขาหันไปมอง พอเห็นสภาพของมู่ลี่ก็แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง
      “น้องเขามาคนเดียวนี่นา…”เนมเปรยๆกับเพื่อน
      “สนใจทำไม ไม่ใช่ผู้ชายซะหน่อย”เพื่อนเขาว่า
      เนมหันกลับมาดื่มเหล้าและพยายามจะสนุกกับเพื่อนๆ เอาเข้าจริงใจเขามันสั่งให้เขาหันมาคอยมองมู่ลี่ตลอดมันนึกห่วง มู่ลี่ดูหัวราน้ำเอามากๆแล้ว แถมยังมีผู้ชายมาคอยเกาะแกะนัวเนีย เขาจึงเดินมาพยุงตัวมู่ลี่ออกไปและพามานั่งอยู่ที่ม้าหินใต้ต้นไม้ใกล้ๆกับมินิมาร์ทแถวนั้น
      เขาเดินออกมาจากมินิมาร์ทพร้อมผ้าเย็นสองสามผืน กาแฟอีกสองกระป๋อง ฉีกซองผ้าเย็นแล้วค่อยๆเช็ดให้รุ่นน้องตรงหน้า
      “กินเข้าไปได้ไงขนาดนี้…บ้าจริง”
      พอมู่ลี่เริ่มจะรู้สึกตัว เนมจึงว่า “หออยู่ไหนเรา”
      เขาเอาเธอขี่หลังเดินไปส่งจนถึงหอพัก พยายามหากุญแจ ในกระเป๋าเธอและไขห้องเข้าไป ทิ้งเธอลงบนเตียง จัดท่าทางนอนจนเรียบร้อย ก่อนจะไปรื้อหาผ้าเช็ดตัวและกะละมังน้ำมาบรรจงเช็ดหน้าเช็ดตาให้เธอสร่างเมา เขาจ้องใบหน้าที่หลับตาพริ้มของเธออยู่นานและถอนใจอย่างลืมตัวมาเฮือกหนัก
      “ผู้ชายเยอะแยะไม่ชอบ”
      “ก็มันไม่ชอบนี่”หล่อนพูดเมาๆ
      “ฟังรู้เรื่องเรอะ สร่างแล้วใช่ไหม”
      “ขอบคุณ พี่กลับไปเถอะ อย่ามาดีกันนักเลย”มู่ลี่เอาหมอนปิดหน้านอนตะแคงหันหลังให้เขา
      เนมถอนใจอีกครั้งก่อนจะลุกเดินออกมา
      เสียงปิดประตูห้องดังมู่ลี่จึงสูดน้ำมูกและเอาหมอนออก มีแต่คราบน้ำตาที่เปรอะเะปื้อนหน้าจนหาที่แห้งไม่เจอ
      เนมยืนพิงประตูห้องอย่างหนักใจ
      สองสามวันผ่านไปอีกครั้ง ขณะที่มู่ลี่นั่งเรียนอยู่ในห้องซึ่งกำลังเขียนงานที่อาจารย์สั่งและดูมันจะง่ายสำหรับเธอเพราะเธอเขียนมันต่อเนื่องอย่างไม่ต้องคิด  อาจารย์เดินผ่านมาเห็นเธอใช้ดินสอเขียนจึงบอกให้เธอใช้ปากกา มูลี่จึงเอาปากกาเขียนทับ ก่อนจะมาลบรอยดินสอออกตอนหลัง เธอหยุดลบมันครู่หนึ่ง เมื่อสังเกตุเห็นว่าบริเวณที่เธอเขียนทับรอยดินสอ กับบริเวณที่ลบมันออกไปแล้วมีบางอย่างขัดแย้งกันอย่างลงตัวในความเปลี่ยนแปลง
      เวลาเดียวกันนี้ เนมวิ่งทั่กๆขึ้นมายังตึกเก้าพร้อมกับกล่องนาฬิการาคาแพงในมือ เดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้อง 9302 ที่มู่ลี่กำลังเรียนอยู่ จนเปรยเดินมาเห็นเข้า เนมจึงฝากเปรยบอกกับมู่ลี่ว่าเขารออยู่หน้าห้อง ไม่ช้านัก เธอก็ออกมาพบเขา
      ทันทีที่เนมเห็นหน้ารุ่นน้องคนนี้ “นี่อะไร!” เขายกกล่องนาฬิกาขึ้นมาในระดับหน้าอกด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก
      มู่ลี่เห็นเข้าก็ใจเต้นระทึก มันเหนือความคาดหมาย หล่อนพูดอึ้งๆ “ก็วันนี้ วันเกิดพี่เนมไม่ใช่หรอ”
      “เราสนิทกันมากขนาดมาซื้อของราคาแพงๆขนาดนี้ให้พี่เลยหรอ”
      มู่ลี่เงียบ
      เนมจับมือเธอมายัดนาฬิกาคืนให้อย่างไร้ความรู้สึก “พี่รับไม่ได้ ขอบคุณนะ ” เขาหันหลังเดินออกมา แต่มู่ลี่ยังยืนอึ้ง
      เนมรู้สึกว่าเขาทำกิริยาร้ายกาจเกินไป จึงหันหลังมา เห็นหล่อนยืนหน้านิ่ง มู่ลี่เองพอรู้ตัวว่าเขามองมาก็รีบหันหลังจะกลับเข้าไปในห้อง
      “เดี๋ยว”เนมพยายามพูดรั้งเธอไว้
      มู่ลี่หยุดยืนนิ่งไม่หันหน้ามามองเขา
      “ก็รู้อยู่บ้างว่าน้องรู้สึกยังไง แต่พี่ชอบผู้ชาย”
      มู่ลี่เงียบไปครู่ก่อนจะพูดขึ้น“ก็มันชอบไปแล้ว จะให้ทำไง ชอบ ยังไงก็ชอบ”หล่อนพูดด้วยแววตามีความเชื่อ นั่นทำเอาเนมยืนนิ่งจ้องนัยย์ตาที่มีความเชื่อนนั้นอย่างหวั่นใจ
      “พี่ไม่มองผู้หญิงหรอก ขอโทษนะลี่”เนมพูดหลบๆตาก่อนจะเดินเดินออกไปแต่ดูเหมือนนัายย์ตาที่มีความเชื่อจะลุกวาวขึ้นมาเมื่อได้ยินสิ่งที่เนมพูดเมื่อครู่ หล่อนรีบพูดขึ้นก่อนที่เขาจะลับตาหายลงบันไดไปเพียงเล็กน้อย “ลี่จะทำให้พี่ชอบผู้หญิงให้ได้คอยดู”
      เนมไม่ได้หันกลับไปสนใจในขณะนั้น แต่พอพ้นสายตาเธอมาเขาก็ทำหน้าแปลกๆและอมยิ้มเล็กๆมุมปาก
      มู่ลี่กลับเข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มสุขใจ เปรยเห็นเข้าจึงถาม
      “พี่เค้ามาบอกรักแกเหรอ ยิ้มหน้าบานเชียว”
      “เปล่า เค้าเอาไอ้นี่มาคืน”หล่อนยื่นกล่องนาฬิกาให้เพื่อนสนิทดู
      “แล้วทำไมยังยิ้มอยู่ได้อ่ะ”
      “ฉันจะทำให้พี่เค้าหันมามองฉันให้ได้เลย คอยดูนะ”
      “อะไร ทำให้แกมั่นใจขนาดนั้น พี่เขาเป็นเกย์นะ แกอย่าลืม”
      “อะไรน่ะหรอ…ก็…ขอโทษนะลี่ไง”
      “ขอโทษนะลี่? แล้วไง”
      “ลี่ไง ลี่ ลี่ ลี่ เค้าเรียกฉันว่าลี่”

      The End

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×