เพื่อนสนิทยิ่งไม่มีสิทธิ์ - เพื่อนสนิทยิ่งไม่มีสิทธิ์ นิยาย เพื่อนสนิทยิ่งไม่มีสิทธิ์ : Dek-D.com - Writer

    เพื่อนสนิทยิ่งไม่มีสิทธิ์

    เรื่องอื่นก็ยังอ่านกันมาได้ เรื่องเราเรื่องเดียวก็อยากให้อ่านหน่อยนะ

    ผู้เข้าชมรวม

    628

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    628

    ความคิดเห็น


    13

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 ส.ค. 47 / 15:42 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      “เพื่อนผู้ชายน่ารักคนหนึ่งของฉันชื่อ  โต๋  เป็นเพื่อนสนิทและเป็นเพื่อนรักของฉัน  ไม่ว่าจะนาน  จะไกลเท่าไหร่  ทุกครั้งที่กลับมาที่เดิม  มองไปที่เดิมเค้าก็จะอยู่ตรงนั้น  อยู่อย่างนั่น  คอยเป็นเพื่อนรักของฉันตลอดไป............”

      ครั้งตั้งแต่จำความได้
      อนุบาล 2 ห้องครูน้อยหน่า
      โต๋    “ฮือ ๆๆๆ จะกลับบ้าน ๆ “
      โต๋ร้องไห้จะกลับบ้านไม่ยอมมาโรงเรียน  นั่งร้องอยู่ใกล้ ๆ เรา
      แม่    “ตอนนั้นอะนะ  คุณครูเล่าให้แม่ฟัง  ว่าโต๋ร้องไห้ไม่ยอมไปเรียนอยู่ใกล้ ๆ กับน้ำส้ม  อยู่ ๆ น้ำส้มก็เดินไปตบหัวเจ้าโต๋  โต๋ก็เงียบเลย”
      น้ำส้ม    “5555  จำได้แล้วค่ะ  ตอนนั้นน้ำรำคาญเสียงร้องไห้มากเลย  ได้ยินแล้วก็อยากจะกลับบ้านด้วย”
          หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น  เราเด็กหญิงน้ำส้มกับเด็กชายโต๋  ก็เป็นเพื่อนกันมา  เราเรียนมาด้วยกันตั้งแต่ อนุบาล  เล่นด้วยกัน กินด้วยกัน  เดินเกาะไหล่เป็นขบวนรถไฟกลับบ้านด้วยกันทุกวัน  มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนป.4  เราทะเลาะกับโต๋  จนทำให้เราเลิกคบกันไป
      น้ำส้ม    “โต๋  ไปไหนมา”
      โต๋    “ก็ไปเล่นกับเพื่อนมาหนะซิ”
      น้ำส้ม    “แล้วน้ำส้มจะเล่นกับใครหละ”
      โต๋    “ก็นั่นไง  น้ำส้มก็เล่นกับเพื่อนซิ”
          อยู่ ๆ โต๋ก็เริ่มอยากไปเล่นกับพวกเพื่อน ๆ ผู้ชาย  ทิ้งให้น้ำส้มนั่งคอยอยู่ให้ห้องเรียนคนเดียว
      น้ำส้ม    “ก็น้ำส้มไม่รู้จัก  น้ำส้มไม่อยากเล่นกับพวกนั้นหนิ”
      โต๋    “หูย...น้ำส้มก็ไปเล่นกะเพื่อนน้ำส้มซิ  เราจะไปเล่นแล้ว”
      แล้วโต๋ก็ผลักเรา  และก็เดินไปเล่นกะพวกเพื่อน ๆ
      ครั้งนั้นทำให้เราโกรธกลับไปฟ้องแม่ที่บ้าน  แม่ก็ได้แต่ยิ้ม  เราไม่มีทางออกอะไรเลยจนวันต่อมา
      น้ำส้มนั่งอยู่ใกล้ ๆ ที่โต๋เล่นเตะบอลกระดาษกับเพื่อน ๆ นั่งมองอยู่ใกล้ ๆ ไม่ยอมไปเล่นกะใคร
      น้ำส้ม    “ขึ้นห้องเหอะโต๋  คุณครูมาแล้วนะ”
      โต๋    “ไปก่อนเหอะ”
      น้ำส้มเดินไปโยนบอลกระดาษทิ้ง  โต๋โมโหผลักน้ำส้มลงกับพื้น
      โต๋    “จะไปไหนก็ไปเลยไปน้ำส้ม  เราไม่ต้องมาเป็นเพื่อนกันแล้ว”
      น้ำส้มก็ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น  ไม่ยอมลุกไปไหน  คุณครูมาปลอบก็ไม่เลิกร้อง  จน
      โต๋    “โอ๋น้ำส้มเงียบนะ  โต๋ขอโทษ ดีกันนะ”
      น้ำส้ม    “โต๋ไม่เป็นเพื่อนกับน้ำส้มแล้ว”
      โต๋    “ก็น้ำส้มทิ้งบอลเราไปทำไมหละ”
      น้ำส้ม    “ก็โต๋ไม่ยอมเล่นกับน้ำส้มหนิ”
      โต๋    “น้ำส้มก็ไปเล่นกับเพื่อนผู้หญิงซิ”
      แล้วโต๋ก็เดินไป
      น้ำส้ม    “โป้ง  ไม่ต้องมาเล่นกับเราเลย”
          จากป.4  มาตอนนี้ก็ม.3 แล้ว  อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปมาก  
      โต๋    “น้ำส้มส่งบอลมาเร็ว”
      น้ำส้ม    “รับนะ”
          น้ำส้มกลายเป็นหนึ่งในสนามบอลทุกครั้งที่โต๋ไปเล่น  น้ำส้มลงไปเล่นกับโต๋ทุกครั้ง  เหนื่อย ๆ ก็ไปนั่งดูใกล้ ๆ ถึงแม้ว่าจะมีเพื่อนผู้หญิงมากแค่ไหน  แต่ก็ไม่มีใครที่จะสนิทเท่าโต๋ได้  11 ปี  ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเป็นเพื่อนกันมา  
      โต๋    “เฮ้ย  น้ำส้มเตะแรง ๆ หน่อยดิ  ไปเก็บบอลไป”
      น้ำส้ม    “โหย  ไม่เอาแล้วเหนื่อย  ”
      โต๋    “อะไรแค่นี้เหนื่อย”
      น้ำส้ม    “เออดิ  ไม่เล่นแล้ว”
      โต๋เล่นบอลทุกครั้ง  ไม่เคยจะยิงได้สักลูกเลย
      โต๋หันมายิ้ม ๆ หลังจากที่เล่นบอลเสร็จ  ตอนเย็นเราก็เดินกลับบ้านด้วยกัน  และตอนนี้เองที่ทำให้เราสองคนตกเป็นเป้านิ่งของเพื่อน ๆ ปากบอลทั้งหลาย  เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ เราเดินกลับบ้านด้วยกันสองคน  ก็ไม่เห็นมีอะไร  แต่เดี๋ยวนี้เริ่มโตขึ้น  เพื่อน ๆ ก็เริ่มมีมุมมอง  ที่มองเราสองคนเปลี่ยนไป  ล้อเราสองคนว่าเป็นอะไรกันหรือเปล่า
      หัวหน้าห้องตัวใหญ่  มีนามว่ามิว
      มิว    “น้ำส้ม  ถามจริงเธอเป็นแฟนกะไอ้โต๋เหรอ”
      น้ำส้ม    “ทำไมอะ”
      มิว    “ก็เห็นไปไหนมาไหนด้วยกัน  มีอะไรกันหรือเปล่า”
      น้ำส้ม    “ไม่มี”
      มิว    “เป็นแฟนกันแน่ ๆ เลย”
      น้ำส้ม    “ไม่ได้เป็น”
      เราเลยรีบเดินออกมาจากสายตาเพื่อน ๆ ที่มองเราอยู่
          จนมาถึงวันประกาศผลสอบเทอมหนึ่ง
      ที่สนามบอล
      น้ำส้ม    “.........................”
      โต๋    “น้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “..................”
      โต๋    “ไม่เอาน่า  เดี๋ยวซ่อมเอาก็ได้”
      น้ำส้ม    “ทำไมไม่ผ่าน  เราอ่านมาอย่างดีเลยนะโต๋  เสียดายมากเลยที่อุตส่าตั้งใจอะ”
      โต๋    “มันพลาดกันได้”
      น้ำส้มนั่งร้องไห้เสียใจอยู่  โต๋เดินเข้ามาจับหัวส่ายไปมา  แล้วบอกว่า  ไม่เป็นไร
      ตอนปิดเทอมก็มีโต๋มาส่งที่โรงเรียน  มาซ่อมเป็นเพื่อน  โต๋คอยให้กำลังใจเราตลอดมา  ทำไมเราเรียนไม่เก่งเหมือนโต๋บ้างไม่รู้
          เหตุการณ์ครั้งนั้น  ทำให้เราประทับใจโต๋มาก  ที่คอยอยู่เป็นเพื่อนเราจนสอบผ่านได้  คอยสอนเราหลาย ๆ อย่าง   เราอยู่ใกล้กันมากจนเราเองก็หวั่น ๆ ไป
      โต๋    “เฮ้ยน้ำส้ม.......”
      น้ำส้ม    “มีอะไรเหรอ”
      โต๋    “คือ  รู้จักผู้หญิงคนนั้นไหม”
      น้ำส้ม    “อ๋อ  ไม่รู้จักหรอก  แต่ก็เคยเห็น”
      โต๋    “แล้วก็อ๋อซะ”
      น้ำส้ม    “ทำไมอะ  นายรู้จักเค้าเหรอ”
      โต๋    “เปล่า  แต่ชอบหวะ”
      น้ำส้ม    “.................”
          นิ่งไปเลย  ไม่เคยได้ยินคำว่าชอบใครที่ไหน  ออกจากปากโต๋เลย  เราเลยหันไปมองผู้หญิงคนนั้น  ก็สวยดี
      น้ำส้ม    “เค้ายิ้มมาให้แกด้วยอะ”
      โต๋ก็ทำเป็นเขินใหญ่เลย  ผู้หญิงคนนั้นหันมามองและยิ้มให้
      น้ำส้ม    “วู้ .......”
      โต๋จับมือเราไว้  จับมือ................
      โต๋    “อย่าเพิ่งไปดิ  อยู่ก่อน”
      เรามองตาโต๋  ตาโต๋มองไปที่ผู้หญิงคนนั้น  มือโต๋จับที่มือเราไว้แน่น  มืออีกข้างของเราจับหัวใจตัวเองไว้  ไม่ให้สั่นเกินไปกว่านี้
      น้ำส้มสบัดมือทิ้งและก็เดินไป
      โต๋    “น้ำส้ม”
          หลังจากนั้นเรื่องราวก็เริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง  ม.3เทอมสอง  
      ผู้หญิงคนนั้นชื่อฟาง  เรียนอยู่ห้องหนึ่ง  และฟางก็เป็นแฟนกะโต๋ตามสูตร
      เห้อ..............
      วันโลกร้าย
      โต๋    “น้ำส้ม  คือ  ไม่ต้องมาคอยเราเล่นบอลก็ได้”
      น้ำส้ม    “ทำไมอะ  เราก็มาทุกวัน”
      โต๋    “คือน้ำส้มกลับไปก่อนก็ได้นะ”
      น้ำส้ม    “ไม่เป็นไร  เราไม่รีบไปไหน”
      โต๋    “คือวันนี้  เราจะไปเที่ยวกะฟางอะ”
      น้ำส้ม    “...............”
      โต๋    “....เดี๋ยวเราให้ไอ้เข้ไปส่ง”
      น้ำส้ม    “ไม่เป็นไรหรอก”
      เราเลยเดินกลับ
      โต๋    “เออน้ำส้ม  พรุ่งนี้ตอนเช้าเราจะไปรับฟางเค้าที่บ้าน  น้ำส้มมาเรียนก่อนก็ได้นะ”
      น้ำส้มก็พยักหน้า  และเดินหันหลังกลับไป
          กลับมาที่บ้านทิ้งกระเป๋า  นอนเปิดวิทยุ  ได้ฟังเพลง ๆ หนึ่งถึงกับน้ำตาไหล  ทั้ง ๆ ที่ก็ยังสับสนตัวเองอยู่  ว่าเราร้องไห้ทำไม  ตัดสินใจเดินไปบ้านโต๋  
      ที่หน้าบ้านโต๋
      น้าตา    “อ้าวน้ำส้ม  โต๋ยังไม่มาเหรอลูก”
      น้ำส้ม    “เอ่อ...น้ำมารอโต๋ค่ะ”
      เราเข้าไปนั่งเล่นในบ้านโต๋  จะมืดอยู่แล้วโต๋ก็ยังไม่กลับมาเลย  เรานั่งรอกะน้าตาแม่ของโต๋  จนทุ่มครึ่งโต๋เดินกลับมา  เดินฮัมเพลงมาตลอดทาง
      น้าตา    “ไปไหนมาโต๋”
      โต๋    “เล่นบอลครับแม่  ไปอาบน้ำก่อนนะ”
      น้าตา    “กินอะไรมายัง”
      โต๋    “อ้าวน้ำส้ม  มีอะไรหรือเปล่า”
      น้ำส้ม    “เปล่า”
      โต๋    “ทำไมยังไม่กลับบ้านอีกหละ  มืดแล้ว”
      น้ำส้ม    “ทีนายยังไม่กลับเลย”
      โต๋    “ปะเดี๋ยวเดินไปส่ง”
      ระหว่างทางเดินกลับบ้าน  โต๋อารมณ์ดีสุด ๆ โต๋เล่าเรื่องที่ไปเที่ยวกะฟางให้เราฟัง  เราก็ได้แต่ยิ้มและรับฟัง  เท่านั่นเอง  ว่าแล้วเชียวทำไมยอมมาส่ง  ที่แท้ก็อยากเล่าให้เราฟังนั่นเอง  โต๋นะโต๋
          เรากะโต๋เริ่มห่างออกจากกันไปเรื่อย ๆ หลังจากวันที่โต๋เดินมาส่งเราที่บ้าน  วันนั้นเป็นวันสุดท้ายที่เราได้เดินใกล้ ๆ โต๋  เราต้องพยายามทำความเข้าใจกับคำว่าแฟนมากเลย  ทำไมคำว่าแฟนต้องแยกคำว่าเพื่อนของเราไปด้วยนะ
      น้ำส้ม    “โต๋”
      โต๋    “อ้าว  น้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “ไม่ค่อยเห็นโต๋เลย”
      โต๋    “อ๋อ  อยู่กับฟางเค้าอะ”
      น้ำส้ม    “อืม”
      โต๋    “คือเราไม่อยากให้ฟางเค้าเข้าใจผิดเรื่องน้ำส้มอะ”
      น้ำส้ม    “อืม  งั้นเราก็คงไม่ได้เจอกับนายแล้วหละซิ”
      โต๋    “น้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “นายพยายามหลบหน้าเรา  พยายามไม่เจอเรา  เพราะอย่างเนี่ยเหรอโต๋”
      เรามองหน้าโต๋อย่างไม่เข้าใจอะไรเลย
      น้ำส้ม    “โต๋  จะเอาไง”
      โต๋    “  น้ำส้มก็รู้ว่าเพื่อน ๆ ชอบแซวเราสองคน เราไม่อยากให้ฟางเค้าเข้าใจผิด”
      น้ำส้ม    “เลิกคบกันไปเลยไหม  ไหน ๆ โต๋ก็ต้องห่าง ๆ กันไปแล้วหนิ  เลิกคบกันไปเลยดีกว่า  ฟางเค้าจะได้สบายใจไง”
      โต๋    “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้น้ำส้ม  เราไม่ได้ทิ้งน้ำส้มไปไหนนะ”
      น้ำส้ม    “ไม่เป็นไรหรอก  เราโตแล้ว  นายไม่ต้องหลอกเราเหมือนตอนเด็ก ๆ หรอก  เราเดินคนเดียวได้”
      โต๋    “น้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “ไม่ต้องมาเรียกเราอีก  เราไม่รู้จักนาย”
      แล้วน้ำส้มก็เดินหันหลังกลับไป  เดินกลับบ้านไปคนเดียว  เสียใจยังไงก็ไม่รู้
      ที่ห้องเรียน
      มิว    “แฟนทิ้งเหรอน้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “..........”
      มิว    “ไอ้โต๋มันเป็นแฟนกะฟางแล้ว”
      น้ำส้ม    “........”
      ยิ่งได้ยินเสียงที่มิวพูด  เราก็ยิ่งน้อยใจ  ยิ่งเจ็บที่ใจขึ้นมา
      หันไปมองก็เห็นโต๋นั่งมองเราอยู่  เราเลยรีบหันกลับไป
      อาจารย์    “น้ำส้ม  เธอวาดรูปอะไรมาส่งฉัน”
      น้ำส้ม    “..............รูปส้มค่ะ”
      อาจารย์    “กลับไปแก้มาใหม่เลยนะ  ผู้หญิงอะไรทำงานไม่เรียบร้อยเลย  เลอะเทอะยิ่งกว่าผู้ชายอีก  ส้มอะไรลูกเล็กเท่ามะยม บางลูกก็ใหญ่เท่าแตงโม”
      เราถูกประจานหน้าห้อง  ระหว่างที่เดินกลับมาที่โต๊
      เข้    “วาดรูปครอบครัวส้มเหรอจ๊ะ”
      เพื่อน ๆ ก็แซวกันตลอดทาง  กลับมาถึงโต๊ะเราก็นั่งฟลุบ  มันเหมือนไม่มีอะไรดีสักอย่าง
      โต๋    “รูปส้มน่ารักดีนะ  เราขอได้ไหม”
      เราเงยหน้าขึ้นไปมองและก็ฉีกกระดาษนั้นต่อหน้าโต๋
      โต๋โมโหก็เลยเดินออกจากห้องไป
      เราเสียใจมาก  ก็ได้แค่ไปนั่งร้องไห้  ทำไมเรามันไม่ได้เรื่องเลยว๊ะ
      ทั้งโรงเรียน  มองไปรอบ ๆ ไม่มีใครสักคนที่เป็นเพื่อนเรา  มองไปก็มีคนอื่นที่นั่งกับเพื่อน ๆ ของเรา  คุยหัวเราะกันสนุกสนาน  
      โต๋    “น้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “..........”
      โต๋    “เงียบซะนะ  อะ”
      โต๋ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้  
      น้ำส้ม    “..............”
      โต๋มาเช็ดน้ำตาให้  
      โต๋    “น้ำส้มโตแล้วนะ  อย่าร้องไห้เลย”
      เราลุกขึ้นเดินไป  หลังจากนั้น  เราไม่มาโรงเรียน เกือบสองอาทิตย์ได้  
      จนวันหนึ่งโต๋มาที่บ้านตอนเช้า  พ่อกะแม่ก็ไปทำงานกันหมด
      โต๋    “น้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “มาหาใคร”
      โต๋    “ทำไมไม่ไปเรียน”
      น้ำส้ม    “ก็เราไม่อยากไป  นายเข้ามาทำไม”
      โต๋    “เป็นอะไรไปอะ  น้ำส้มที่เรารู้จัก  ไม่ใช่อย่างนี้เลย”
      น้ำส้ม    “น้ำส้มที่นายรู้จักพูดมาได้ไง  นายยังจะรู้จักอีกเหรอ  ”
      โต๋    “..............”
      น้ำส้ม    “นายยังเคยจะรู้จักน้ำส้มอีกเหรอ  ในโรงเรียนเราเคยอยากไปเรียนทุกวัน  เพราะว่าที่นั่นเรามีเพื่อนอยู่คนนึง  เค้าเคยเล่นบอลกับเรา  เราเคยนั่งรอเค้าเพื่อเดินกลับบ้านด้วยกัน  เค้าเคยสอนเราทำการบ้าน  เคยนั่งเล่นกับเรา  เคยพาเราข้ามถนน  เค้าเป็นเพื่อนคนเดียวของเรา  แต่ตอนนี้เค้าหายไปแล้ว  หายไปไหนก็ไม่รู้  แล้วจะให้เรากลับไปทำไม  เพื่อนเราเค้าหายไปแล้ว”
      โต๋เดินเอาเสื้อผ้าเราที่ในตู้  ออกมาและแต่งตัวชุดนักเรียนให้เรา
      โต๋    “.........”
      โต๋จับมือเราถือกระเป๋าออกจากบ้านไปโรงเรียน  
      โต๋ย้ายมานั่งเรียนกะเราที่เดิม  เหมือนตอนสมัยประถม
      เรายอมรับว่าเรามีความสุขมากที่โต๋ทำทุกอย่างให้  โต๋กลับมาเป็นโต๋อย่างเดิมให้เรา  จนวันหนึ่ง  ฟางเดินมาที่โต๊ะเรากับโต๋
      ฟาง    “โต๋  ฟางมีอะไรจะคุยด้วยหน่อย  เย็นนี้เจอกันที่หน้าห้องนะ”
      เรากะโต๋ไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ
      พอตอนเย็น
      โต๋มาส่งเราที่บ้าน  เราก็แอบตามโต๋ไป  โต๋กลับที่โรงเรียนอีกครั้ง
      ที่หน้าห้อง
      ฟาง    “ไปส่งกันถึงไหนหละ”
      โต๋    “ฟาง  คือน้ำส้มเค้าก็เป็นเพื่อนเราคนหนึ่งนะ”
      ฟาง    “ทำไมต้องไปง้อให้มันมาเรียนด้วย  โต๋คิดอะไรกะน้ำส้มหรือเปล่าอะ”
      โต๋    “เราเป็นเพื่อนกันจริง ๆ “
      ฟาง    “แต่เราเห็นมันมากกว่านั้นอีกนะ”
      โต๋    “แล้วจะให้เราทำไง  เราเป็นเพื่อนสนิทกันอะ  มีอะไรเราก็ช่วยเหลือกัน  และตอนนี้น้ำส้มเค้าก็ต้องรีบเรียนตามให้ทันเพื่อนอะ”
      ฟาง    “โต๋  อยากจะเป็นแฟนกะเราอีกหรือเปล่า”
      โต๋    “ขอเวลาให้เราพูดกับน้ำส้มเค้าหน่อยได้ไหม”
      ฟาง    “ตกลงโต๋จะเป็นแฟนเราหรือน้ำส้ม  เลือกเอาเลยนะ”
      โต๋    “ฟางก็รู้  ว่าเราจะเลือกใคร”
      เราน้ำส้มก็ได้แค่ยืนมอง  สิ่งที่โต๋เลือก  ความรักหรือคำว่าแฟนต้องเลือกหรือ  ไม่เป็นไรเรา  ถ้ากลับกัน  เราเป็นโต๋เราก็อาจจะเลือกทำแบบโต๋ก็ได้
          “ช่วงชีวิตตอนนั้นมีเรื่องอะไรมากมายเกิดขึ้นกับเรา  เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลย  จากเมื่อก่อนอะไร ๆ ก็มีแต่โต๋  ทำอะไรไม่ได้โต๋ก็ช่วยได้  โต๋เหมือนซุปเปอร์แมนเลยในตอนเด็ก ๆ โต๋เป็นทุกอย่างให้ชีวิต  งานศิลปะที่แล้ว ๆ มาก็มีโต๋คอยช่วยวาด  ตอนข้ามถนนก็มีมือของโต๋คอยจับไว้  ตอนร้องไห้ก็มีโต๋คอยเช็ดน้ำตา  ตอนกลับบ้านก็มีโต๋มายืนข้าง ๆ กัน  เวลาที่มีโต๋อยู่  มันมีความสุขมากแค่ไหน.......”
      วันที่ 11 มีนาคม  วันสุดท้ายของการเรียนม.3
      ถึงตอนนี้เราก็มีเพื่อนเป็นกลุ่ม  มีเพื่อนผู้หญิงและเพื่อนผู้ชายหลายคนเลย  ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าเรามีเพื่อนได้ไง  หลังจากวันที่เราเห็นโต๋เค้าตัดสินใจเลือกเราเองก็ค่อย ๆ ออกห่างจากโต๋ไป  เป็นเพื่อนอยู่ห่าง ๆ
      มิว    “น้ำส้ม  จะเรียนต่อที่ไหน”
      น้ำส้ม    “ต่อที่เดิม”
      มิว    “นึกว่าจะย้ายไปเรียนสายอาชีพเหมือนเพื่อน ๆ คนอื่น  ถ้าเป็นอย่างนั้นนะ  เราก็คงไม่มีเพื่อนคุยแน่ๆ เลย”
      น้ำส้ม    “อืม  ก็เรารู้ไงว่ามิวต้องไม่มีเพื่อนคุยก็เลยเรียนที่เดิมไง”
      มิว    “ดีมากจ๊ะ”
          ใครเค้าจะกล้าแย่งยายมิวมันพูด  ก็มันเป็นหัวหน้าห้องตัวใหญ่หนิ  คอยจดชื่ออยู่  ก็ต้องเออ ๆ ออๆ ตามมันไป  เห้อ..ชีวิตเรา
      เข้    “เองจะต่อไหนว๊ะไอ้โต๋”
      โต๋    “........ยังไม่รู้เลยหวะ”
      เข้    “ไปเรียนเทคนิคกะข้าดีกว่า”
      โต๋    “เดี๋ยวข้าคิดดูก่อน”
          พักหลังนี้เห็นโต๋ซึม ๆ ไปไม่รู้เกิดอะไรขึ้น  เราเองก็ไม่เคยได้พูดกะโต๋เลย
      อาจารย์    “วันนี้เป็นวันสุดท้ายของพวกเธอแล้ว  หลายคนอาจเลือกทางเดินของตัวเองที่ต่างกันออกไป  แต่อาจารย์อยากให้เรารักษาความเป็นมิตรภาพของห้องเราไว้  ไม่ว่าจะไปเจอกันที่ไหนก็ขอให้ยิ้มทักทาย  เพราะว่าครั้งหนึ่งพวกเธอเคยเรียนห้องเดียวกัน”
          ในห้องเรียนวันนี้อาจเต็มไปด้วยความสนุกมากมายที่เราต่างนำมาฉลองความสำเร็จที่เราจบการศึกษากัน  แต่ลึก ๆ แล้วพวกเราเองก็รู้ว่านั่นมันคือการจากลาดี ๆ นั่นเอง
      น้ำส้ม    “โต๋  เป็นไร  เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นยิ้มเลย”
      โต๋    “น้ำส้ม”
      ที่สนามบอล
      โต๋    “เราเห็นฟางไปเที่ยวกับผู้ชายคนหนึ่ง”
      น้ำส้ม    “……………..”
      โต๋    “เค้าจับมือกันด้วยอะน้ำส้ม  เค้าหอมแก้มกัน...........”
      น้ำส้ม    “ถามฟางหรือยังว่าเค้าเป็นใคร”
      โต๋    “ไม่ต้องถามก็น่าจะรู้นะน้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “น้ำส้มถามให้”
      โต๋    “ไม่ต้องหรอกน้ำส้ม  เราอยากได้ยินจากฟางเอง”
      น้ำส้ม    “........งั้นนายก็รอเค้าไปเหอะนะ  ได้คำตอบเมื่อไหร่  ถ้านายเสียใจแล้วเราจะกลับมา”
      เราเลยเดินขึ้นห้องไป  เราคงช่วยได้แค่นี้  จริง ๆ
          ปิดเทอมได้หนึ่งเดือน  เราไม่ได้เจอเพื่อนคนไหนอีกเลย  อยู่แต่บ้านไปวัน ๆ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน  ตอนนี้ก็เพิ่งรู้ว่าเหงาเป็นไง  รู้แล้วว่าทำไมต้องเปิดวิทยุฟังเพลงรัก
      น้าตา    “น้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “อ้าว  สวัสดีค่ะน้าตา”
      น้าตา    “ไอ้โต๋มันเป็นอะไรของมัน  นี่มันเดือนหนึ่งแล้ว  มันไม่ยอมออกจากห้องเลย  ไม่ยอมพูดกะใครไม่ยอมทำอะไรเลย  น้าเห็นมันเหม่อ ๆ น้าถามมันก็ไม่พูด”
      น้ำส้ม    “ไม่สบายหรือเปล่าค่ะ”
      เราเลยรีบวิ่งไปที่บ้านโต๋  ไปเคาะประตูห้องโต๋  แต่ก็ไม่มีเสียงอะไรออกจากห้องนั้น
      ตอนเด็ก ๆ เวลาที่โต๋งอนแม่  โต๋ก็จะขังตัวเองแบบนี้และทางเดียวที่จะเข้าไปหาโต๋ได้  ก็คือปีนหน้าต่างเข้าไป  
      เราปีนเข้าไปในห้อง  ห้องมืด ๆ ชื้น ๆ เย็น ๆ เรารู้สึกกลัวมากเลย  เพราะเราไม่รู้ว่าโต๋เป็นอะไรไป  เราเดินไปเปิดไฟ  ก็เห็นโต๋นั่งก้มหน้าอยู่กับพื้นห้องตรงระเบียง
      เรายืนนิ่งอยู่อย่างนั้น  เราไม่เคยเห็นโต๋เป็นอย่างนี้เลย  
      น้ำส้ม    “โต๋  ไม่สบายเหรอ”
      โต๋    “.............”
      เราเดินไปจับตัวโต๋ก็ร้อน ๆ โต๋ไม่เหมือนโต๋เลย  โทรมมาก  ผมก็ยาวขึ้น  หนวดก็เยอะ
      น้ำส้ม    “โต๋เป็นอะไร  พูดกับน้ำส้มไม่ได้หรือไง  ไหนเราเคยสัญญากันไว้ไงว่ามีอะไรเราก็จะบอกกันทุกเรื่อง”
      โต๋    “..............”
      น้ำส้ม    “อย่าเป็นอย่างนี้ดิโต๋  เรากลัวนะ”
      โต๋เงยหน้าขึ้นมามองเรา  
      เราเลยเดินไปนั่งใกล้ ๆ โต๋  หลังเราสองคนชนกำแพง
      โต๋    “น้ำส้ม  ..................”
      เรื่องราวมากมายของโต๋ก็เปิดให้เราได้รับฟังหมดทุกอย่าง  สรุป ๆ โต๋อกหัก  เราเองเห็นโต๋เป็นอย่างเนี่ย  ก็คงพูดอะไรไม่ออก  ได้แต่เอามือจับที่ไหล่โต๋ไว้  
      3 ชั่วโมงผ่านไป
      น้ำส้ม    “โต๋จะเป็นอย่างนี้อีกนานไหม”
      โต๋    “.........”
      น้ำส้ม    “งั้นน้ำส้มอยู่เป็นเพื่อนโต๋ในนี้หละกันนะ”
      โต๋    “ไม่ได้หรอก  เดี๋ยวแม่น้ำส้มก็มาว่า”
      น้ำส้ม    “ไม่เป็นไรหรอก  เราปล่อยให้โต๋เป็นอย่างนี้คนเดียวไม่ได้หรอก  ถ้าเรารู้ว่าโต๋เป็นอย่างนี้ตั้งแต่วันแรก  เราจะมาเดี๋ยวนั้นเลย”
      โต๋    “มีแค่น้ำส้มแหละที่ดีกะเราคนเดียว”
      น้ำส้ม    “มันเทียบกันไม่ได้กับอะไรที่โต๋ทำให้เรามาหรอกนะ”
      โต๋    “........ขอบคุณนะ”
      น้ำส้ม    “^_^”
      เรานั่งอยู่ในห้องกะโต๋  ทั้ง ๆที่ไม่มีคำพูดอะไรสักคำ  บางทีอยู่ ๆ โต๋ก็ลุกขึ้นไปชกกำแพง  บางทีก็นั่งร้องไห้  บางทีก็ก้มหน้าตลอด  เรานั่งอยู่ใกล้ ๆ โต๋  เพื่อนเป็นอะไรเราไม่เข้าใจเลย
      อยู่ ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมามากมาย  ไม่รู้ทำไม  นั่งเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง  ยิ่งเห็นโต๋ชกกำแพงแรงเท่าไหร่  เราก็เจ็บมากเท่านั้น
      น้ำส้ม    “โต๋ ชกเราแทนเหอะ”
      โต๋หยุดและมองมาที่เรา
      น้ำส้ม    “นายเสียใจ  เจ็บใจมากแค่ไหน  ลงมาที่เราเหอะ  ชกมาแรงแค่ไหนก็ได้  ไม่ก็ให้เราชกกำแพงเป็นเพื่อนนายอีกคน  เราทนไม่ไหวแล้ว”
      โต๋    “..............”
      อยู่ๆ  สักพักเราก็หมดแรง  หลับไป
      ตื่นมาอีกทีเราก็นอนบนตักโต๋อยู่  โต๋หลับไป  คราบน้ำตาบนหน้าโต๋มันทำให้ทุกอย่างดูเศร้า ๆ ไป  เราลุกขึ้นและก็ไปเอาหมอนกับผ้าห่มมาให้โต๋  
          น้ำส้มเขียนโน๊ตไว้ที่ข้อมือผมว่า  “เดี๋ยวมานะ”
      ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต  มันงงยังไงก็ไม่รู้  ฟางคนที่ผมรัก  และรักมาก  ตอนนี้เธอกลับเป็นคนที่ผมเกลียด  เกลียดทั้งๆ ที่รักเต็มหัวใจ  ผมไม่มีเวลาจะคิดอะไร  จนน้ำส้มเดินเข้ามาในห้อง  ทำให้ผมนึกถึงเรื่องราวมากมายที่ผ่านมา  ผมเคยทิ้งให้น้ำส้มอยู่คนเดียว  แอบเห็นน้ำส้มร้องไห้หลายครั้ง  ผมไปจากน้ำส้มในวันที่น้ำส้มไม่มีอะไรสักอย่าง  ไม่มีเพื่อนสักคน  แต่พอเวลาผมไม่เหลือใครสักคน  น้ำส้มก็กลับเดินเข้ามาดูแลผมอย่างดี  ผมเกลียดตัวเองมากที่ทำกะน้ำส้มไปอย่างนั้น  ยิ่งเห็นน้ำส้มมาดีด้วยเท่าไหร่  ก็ยิ่งเห็นความโง่ของตัวเอง  ทำไมผมไม่เคยคิดจะชอบน้ำส้มเลยก็ไม่รู้เหมือนกัน  น้ำส้มเองเค้าก็คงไม่คิดกะผมนอกจากเพื่อนแน่ ๆ
      น้ำส้ม    “โต๋  เค้าซื้อโจ๊กมาฝาก”
      โต๋    “เราไม่กิน”
      น้ำส้ม    “โหย  ไอ้บ้าโต๋เอ๊ย  ดูดิอุตส่าปีนขึ้นมาถือชามมาด้วยโจ๊กร้อน ๆ ด้วย  พยายามให้หกน้อยที่สุดแล้วนะเนี่ย”
      น้ำส้มส่งชามโจ๊กให้ผม  ผมเห็นมือน้ำส้มแดง ๆ ที่ถูกโจ๊กร้อน ๆ หกใส่ มันก็ทำให้ผมอยากจะเอาโจ๊กราดหน้าตัวเองให้ร้อนยิ่งกว่าอีกด้วยซ้ำ
      น้ำส้ม    “กินเหอะนะ  เดี๋ยวเราป้อนให้นะอะ”
      โต๋    “เดี๋ยวเรากินเอง”
      น้ำส้ม    “อืม  เก่งหนิ”
          น้ำส้มเดินไปรอบ ๆ ห้อง  เก็บของต่าง ๆ ในห้องของโต๋ให้เรียบร้อย  เดินเก็บเศษแก้วที่แตกจนโดนแก้วบาด  แต่พอทำแผลเสร็จน้ำส้มก็ยังจะเก็บของต่อ  
      น้ำส้ม    “เอาแขนมา”
      โต๋    “ทำอะไร”
      น้ำส้ม    “เอามาดิ”
          น้ำส้มเช็ดตัวให้ผม  ดูแลอย่างกะผมเป็นคนป่วย  ทำอะไร ๆ ให้ผมหลายอย่างจนผมก็แอบลืม ๆ เรื่องบางเรื่องไป
      น้ำส้ม    “มืดแล้ว น้ำส้มกลับบ้านก่อนนะ”
      โต๋    “ไหนบอกจะอยู่เป็นเพื่อนกันไง”
      น้ำส้ม    “.............”
      โต๋    “พูดเล่น  เดี๋ยวไปส่ง”
      น้ำส้ม    “จริง ๆ เหรอ”
      โต๋    “อืม”
      เป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้ว  ที่ทางกลับบ้านมีโต๋เดินไปด้วยกัน  ระหว่างเดินด้วยกันไป  โต๋เดินก้มหน้าตลอด  แต่เราก็กลับมองหน้าโต๋ตลอด จนเดินสะดุดหลายครั้ง
      โต๋    “กลับก่อน”
      น้ำส้ม    “ขอบใจนะ”
      แล้วโต๋ก็เดินกลับ
      น้ำส้ม    “โต๋  โต๋เป็นเพื่อนรักน้ำนะ”
      โต๋พยักหน้าและก็เดินจากไป
      3 ปีต่อมา
      โต๋    “น้ำส้มเก็บบอลให้หน่อย”
      น้ำส้ม    “โหย  ทุกทีเลย”
      โต๋    “เร็ว”
      น้ำส้ม    “อะ”
      โต๋    “ไอ้ป้อ  ส่งมา ๆ “
      จนโต๋ก็ยิงลูกเข้าประตู  โต๋กระโดดดีใจอยู่กลางสนาม  น้ำส้มก็ยืนยิ้มอยู่ข้าง ๆ
      โต๋    “ปะ  ไปฉลองลูกแรกของกูหน่อย”
      น้ำส้ม    “เดี๋ยวไอ้โต๋  แกจะไปไหนนะ”
      โต๋    “ฉลองไอ้น้องรัก”
      สงสัยโต๋มันจะจำวันเกิดเราไม่ได้จริง ๆ
      น้ำส้ม    “งั้นเดี๋ยวเรากลับบ้านก่อนหละกัน”
      โต๋    “เออ”
      น้ำส้ม    “โหย..........”
      โต๋    “เป็นไร”
      น้ำส้ม    “ไม่รู้โว๊ย”
      เราเลยเดินกลับบ้านคนเดียว  กลับมาที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่เลยสักคน  เดินไปนอนที่เตียง  เปิดเพลงฟัง  วันเกิดฉัน ทำไมมันถึงไม่มีใครจำ
      โต๋    “น้ำส้ม”
      เราก็ไม่เดินไปเปิด  เพราะว่าโมโหโต๋
      โต๋เดินเข้าในห้อง
      น้ำส้ม    “เข้ามาทำไม”
      โต๋    “อ้าวก็นึกว่าจะแขวนคอตายที่ไม่มีใครจำวันเกิดเองได้หละซิ”
      น้ำส้ม    “วันเกิดอะไร  แกจะไปฉลองลูกแรกของแกไม่ใช่เหรอไง  ไม่ไปหละ”
      โต๋    “งอนเหรอ”
      น้ำส้ม    “เปล่า”
      โต๋    “ปะ  เดี๋ยวพาไปเที่ยว”
      น้ำส้ม    “................”
      โต๋    “อืม  อะเราเห็นมันน่ารักดี  ก็เลยซื้อมาให้  ใส่ชุดนี้นะ”
      น้ำส้ม    “.............”
      โต๋    “เดี๋ยวออกไปรอข้างนอก  เร็ว ๆ นะโว๊ย”
      เรารู้สึกแปลกใจเหมือนกันที่โต๋มันทำท่าเขิน ๆ แปลก ๆ ตลกดีเหมือนกัน
      เราเปิดดูชุดที่โต๋ซื้อให้  กระโปรงสีขาว  เสื้อสีฟ้าน่ารักเหมือนที่โต๋มันบอกจริง ๆ แต่เราเองไม่เคยจะใส่ชุดอย่างนี้เลย  เคยก็เสื้อยืดเกงยีนต์  เสื้อบอลเกงบอล  แล้วจะใส่ได้ไหมเนี่ย
      โต๋    “.............^_^”
      น้ำส้ม    “ยิ้มอะไรว๊ะ”
      โต๋    “น่ารักดีนะโว๊ย”
      น้ำส้ม    “ไปเปลี่ยนดีกว่า”
      โต๋    “อุตส่าซื้อให้นะ  ไหนดูดิ๊  ใส่ได้พอดีเลยเออหวีผมดี ๆ หน่อยดิ”
      น้ำส้ม    “มัดมั่ว ๆ ไปก็ได้”
      โต๋    “........555555”
      น้ำส้ม    “ป๊ะ”
      โต๋    “ปะ”
      ที่ห้างแห่งหนึ่ง
      น้ำส้ม    “พามาเดินเล่นเหรอ”
      โต๋    “มาเดินขายพวงมาลัยมั๊ง”
      น้ำส้ม    “อืมพวงเท่าไหร่อะ”
      โต๋    “เดี๋ยวก็โครมไปโน้น”
      น้ำส้ม    “กล้าเหรอ”
      โต๋    “อย่านึกว่าวันเกิดแล้วจะไม่กล้านะ”
      แล้วโต๋ก็แกล้ง ๆ ผลักเรา  พอดีไปชนกะผู้ชายคนหนึ่งเข้า
      น้ำส้ม    “เฮ้ย...”
      โต๋    “............”
      แล้วผู้ชายคนที่ถูกเราชนก็จับเราให้ทรงตัวได้
      น้ำส้ม    “ไอ้นั่นมันผลักมาอะ”
          “^_^”
      น้ำส้ม    “ขอโทษหละกันนะ”
          “เดี๋ยวคุณ”
      น้ำส้ม    “...เดี๋ยวไอ้โต๋”
          “................”
      น้ำส้ม    “ขอโทษด้วยนะ”
      แล้วโต๋ก็หันมาเย้ย ๆ   แล้วก็เดินไป
      เราเลยรีบวิ่งไปหาโต่  พร้อมด้วยตบกะบาลไปหนึ่งที  ฐานทำเรื่อง
      โต๋    “เฮ้ย”
      น้ำส้ม    “ผลักเราไปทำไม”
      โต๋    “..............ชอบหละซิ”
      น้ำส้ม    “ชอบบ้านแกอะดิ”
      โต๋    “...............
      น้ำส้ม    “.....................................................”
      โต๋    “โกรธเหรอ  ไปกินไอติมดีกว่า”
      น้ำส้ม    “...................”
      โต๋    “เลี้ยงไอติมหน่อยดิ”
      น้ำส้ม    “โหย....ยังจะมาให้เลี้ยงอีก”
      โต๋    “ทำหน้าอย่างนี้ ทีหลังไม่พาแล้ว”
      น้ำส้ม    “เอาแบบไหนหละ”
      โต๋    “วนิลาสอง”
      น้ำส้ม    “วนิลาสองค่ะ”
      เราไปนั่งกินไอติมกันที่ลานน้ำพุ
      โต๋    “ไอติมเลอะแก้มอะน้ำส้ม กินไงว๊ะเนี่ย”
      น้ำส้ม    “ไหน”
      โต๋    “มะเช็ดให้”
      โต๋ค่อย ๆ เช็ดไอติมให้  รู้สึกแปลก ๆ อีกทีแล้วเรา  ทำไมต้องมารู้สึกอะไรอย่างนี้ก็ไม่รู้
      น้ำส้ม    “เฮ้ย  เช็ดเองก็ได้”
      เราผลักโต๋ออกไปจากตัว   ไม่อยากเป็นอย่างนี้เลยเรา  ยิ่งเราใกล้กันเท่าไหร่  ยิ่งเห็นโต๋มาทำดีด้วยอย่างเนี่ย  มันก็ทำให้เกิดจะชอบโต๋เป็นอย่างอื่นทุกที  เข้าใจไหมว๊ะโต๋
      โต๋    “เป็นอะไรของมันอีกว๊ะ”
      น้ำส้ม    “..............”
      โต๋เดินไปดูกระเป๋า  เราก็ได้แค่เดินตามหลัง
      โต๋    “เฮ้ยน้ำส้ม  สวยไหม”
      น้ำส้ม    “อืม”
      โต๋    “จะเอาไหมซื้อให้”
      เราก็ได้แค่พยักหน้า
      โต๋    “โคมไฟ้ผ้า  สวยไหม”
      น้ำส้ม    “อืม”
      โต๋    “เอออะให้”
      น้ำส้ม    “..............”
      จนสุดท้ายได้ของขวัญมาเต็มสองมือ  
      ที่หน้าบ้าน
      น้ำส้ม    “เดี๋ยวโต๋  เองลืมบอกว่าสุขสันต์วันเกิดหวะ”
      โต๋    “สุขสันต์วันเกิดครับผม”
      น้ำส้ม    “อวยพรให้หน่อยดิ”
      โต๋    “ขอให้น้ำส้ม  เป็นน้ำส้มหละกัน”
      น้ำส้ม    “..........................”
      โต๋    “ขอให้มีความสุข  ทำอะไรก็ขอให้ตั้งใจนะ”
      น้ำส้ม    “อะของทั้งหมดเราให้  ของขวัญวันเกิดของเรา  เราได้แล้วหละ”
      โต๋    “...................”
      รีบเดินเข้าบ้านไป  ทิ้งโต๋ยืนงงอยู่กะข้าวของที่โต๋ให้มา
          “จะเป็นของเธอ  เป็นคนของเธอ และจะรักเธอ ไม่ว่านานสักเท่าไหร่  จะไม่เปลี่ยนไป  และจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป  เพื่อเธอ  เป็นคนรักเธอ  เป็นที่รักเธอ และจะรักเธอจนลมหายใจที่มี  เธอจะปลอดภัย  และจะกอดเธอไว้ในอ้อนแขน   ฉันเอง”
          ที่เรียนพิเศษ
      น้ำส้ม    “โต๋  ถ้าเราสอบเข้าไม่ได้หละ”
      โต๋    “ไม่หรอกน่า”
      น้ำส้ม    “ถ้าเราสอบเข้าไม่ได้  เราก็จะไม่เสียใจเลย”
      โต๋    “...................”
      น้ำส้ม    “เพราะจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด  เหมือนที่นายบอกไว้ไง”
      โต๋    “^_^”
          วันประกาศผลสอบ
      โต๋    “เฮ้ย ๆ ได้แล้ว ๆ น้ำส้มได้แล้วโว๊ย”
      โต๋ก็คงเข้ามหาลัย  ได้อย่างหวังอยู่แล้ว
      โต๋    “น้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “.....................”
      โต๋    “น้ำส้มสอบเข้าได้แล้ว  มีชื่อน้ำส้มด้วย”
      โต๋ดูให้เราก่อน  ไม่ได้ดูของตัวเองเลย
      น้ำส้ม    “โต๋หละ”
      โต๋    “เดี๋ยวนะ”
      น้ำส้ม    “เฮ้ยโต๋  นี่ไงชื่อโต๋”
      โต๋    “วู้......................ได้แล้วโว๊ย”
      โต๋กระโดดดีใจอยู่ข้าง ๆ เรา  เราดีใจที่สุดเลยที่มีวันนี้
          แต่ว่าเราสองคนได้คนละมหาลัยกันเลย  อยู่ไกลกันคนละฟากเลย  โต๋ไปติดที่ต่างจังหวัด  แต่เป็นจังหวัดที่โต๋อยากไปมาก  เราไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี  ที่เราสอบได้  ดีใจที่สอบได้  แต่หวั่น ๆ ที่จะต้องเสียโต๋ไป
          จนมาถึงวันสุดท้าย  พรุ่งนี้โต๋ก็จะต้องไปอยู่ที่โน้นแล้ว
      เราสองคนนั่งกันอยู่ที่สนามเดิม  ไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้เลย  
      โต๋    “....................................
      น้ำส้ม    “...........................................
      โต๋    “เฮ้ย  อย่าเงียบดิ”
      น้ำส้ม    “โชคดีหละกัน”
      เราวิ่งลงไปในสนาม  เตะบอลแรง ๆ เข้าไปที่กำแพง  หลาย ๆ ครั้งเพื่อระบายความอึดอัด  ระบายความอะไรในใจที่พูดมันไม่ออก  พูดออกมาไม่ได้ออกไปกับแรงที่เตะบอลไป
      จนโต๋ตะโกนลงมา
      โต๋    “พอได้แล้ว”
      น้ำส้ม    “......................”
      น้ำส้มฟลุบนั่งลงกับพื้นสนามบอล  
      โต๋เดินเข้ามาจับเราลุกขึ้นและเขย่าตัวเราแรงๆ
      โต๋    “เป็นอะไรว๊ะ  เป็นอะไรฮะ”
      น้ำส้ม    “.............”
      โต๋    “อย่าทำอย่างนี้ได้ไหม  ไม่สบายใจเลยรู้เปล่า”
      น้ำส้ม    “โต๋  บอกอะไรเราหน่อยดิ  เราเป็นอะไรสำหรับนาย”
      โต๋    “...............................”
      น้ำส้ม    “พูดมาดิ”
      โต๋    “........อะกุญแจห้อง  เข้าไปทำความสะอาดบ่อย ๆ หละกัน”
      น้ำส้ม    “....................”
      โต๋    “โตแล้วน่าน้ำส้ม  อย่าทำเหมือนตอนเด็ก ๆ ดิ”
      น้ำส้ม    “โต๋  กลับมาเร็ว ๆ เรามีอะไรจะบอก  กลับมาฟังนะ”
      โต๋    “เราก็มีอะไรจะบอกน้ำส้มเหมือนกัน  เราจะกลับมาบอก”
      น้ำส้ม    “..................”
      โต๋    “ยิ้มให้เราหน่อยดิ”
      น้ำส้ม    “^_^”
      โต๋    “.......พรุ่งนี้ตีห้าเราจะไปแล้ว  ถึงน้ำส้มจะมาส่งเราหรือไม่มาส่ง  ก็ขอให้ใส่ชุดที่เราซื้อให้ไว้นะ”
      น้ำส้ม    “.............โต๋ห้ามเป็นเพื่อนสนิทกะใครอีกนะ”
      โต๋    “ถึงมีใครก็ไม่สนิทเท่าน้ำส้มหรอก”
      น้ำส้ม    “คงคิดถึงแกน่าดูเลย”
      โต๋    “......ไม่เอาน่า”
      โต๋เอามือมาจับหัวเราไว้   น้ำตามันก็ไหลออกมา  แต่ก็แกล้งหันไปทางอื่น  โต๋คงไม่สบายใจถ้าเราร้องไห้ให้โต๋เห็น
      04.30  น.   น้ำส้มตื่นมา  แต่งตัวชุดที่โต๋ซื้อให้  มองตัวเองในกระจก ได้แค่กอดชุดนี้ไว้แทนกอดเพื่อนที่กำลังจะจากไป  
      04.49  น.    โต๋  กำลังนั่งมองห้อง ๆ เดิมที่ต่อไปเนี่ยคงอีกนานกว่าจะได้กลับมาอีก  พร้อมเขียนอะไรบางอย่างไว้ให้เพื่อนสนิทบนกระจก  
      04.50     น.  น้ำส้มออกจากบ้าน/โต๋ออกจากบ้าน

      04.54    น.
      โต๋    “นึกว่าจะไม่มา”
      น้ำส้ม    “เราหวีผมดี ๆ แล้วนะ”
      โต๋    “สวยมาก ๆ เลยรู้เปล่า”
      น้ำส้ม    “..................”
      โต๋    “.........................”
      04.59    น.
      น้ำส้ม/โต๋    “โต๋  น้ำส้ม”
      ................................................................................
      ที่มหาลัย
      น้ำส้ม    “อ้าวป้อ”
      ป้อ    “น้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “เรียนที่นี่เหรอ”
      ป้อ    “อืม  น้ำส้มหละ”
      น้ำส้ม    “เหมือนกัน”
      ป้อ    “ดีเลย จะได้มีเพื่อนเรียน”
      น้ำส้ม    “ป้อเรียนคณะนี้เหรอ”
      ป้อ    “อืมอย่าบอกนะว่าน้ำส้มก็เรียนเหมือนกัน”
      น้ำส้ม    “อืมเราเรียนคณะนี้”
      ป้อ    “โหย  จิตใจตรงกันเลยนะ”
      น้ำส้ม    “^_^”

      1 ปีผ่านไป
      หน้าบ้านโต๋   เปิดห้องโต๋เข้าไป  ข้างในก็มีฝุ่นเยอะไปหมด  ตั้งแต่วันที่โต๋จากไป  ก็ไม่อยากจะจดจำอะไรเกี่ยวกับโต๋เลย  อาจจะเพราะว่าไม่อยากจะจมอยู่กับความไม่แน่นอนมั๊ง  แต่ว่าวันนี้  อยากกลับไปอีกครั้ง  กลับไปนึกถึงเพื่อนสนิท
      น้ำส้ม    “เฮ้ย”
      บนกระจกห้องโต๋  เขียนว่า  น้ำส้ม  มีรูปเราตั้งแต่ตอนสมัยอนุบาลจนถึงวันสุดท้ายที่เราไม่ได้พบกัน  ตลกดีอะ  มองดูรอบ ๆ ห้อง  ก็มีของขวัญวันนั้นที่โต๋ซื้อให้  เปิดโคมไฟผ้า  กระเป๋าใบนั้น  ทุกอย่างยังเหมือนเดิม  บนเตียงมีกระดาษหนึ่งแผ่น  
          “ไอ้น้ำส้ม  กวาดห้องให้ด้วย  ห้ามย้ายอะไรออกไป  ห้ามเอาอะไรเข้ามานอกจากตัวน้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “เห้อ.......”
      เรากวาดห้องให้โต๋  หนึ่งปีที่ผ่านอะไรมาก็มากเหมือนกัน  ผ่านวันบ้า ๆ วันหนึ่ง  ผ่านเวลาที่เหงา  เวลายิ้ม  หัวเราะ  ผ่านมันมาคนเดียว  เก่งไหมหละ
      หนึ่งปีที่ผ่านไปของผม
      โต๋    “โม ......... ”
      โม    “โมก็คงคิดถึงโต๋น่าดูเหมือนกันเลยเนาะ  งั้นปิดเทอมนี้เราไปเที่ยวด้วยกันไหม”
      โต๋    “ที่ไหนดีหละครับ”
      โม    “ไปต่างจังหวัดไหมค่ะ  ชวนเพื่อน ๆ ไปด้วยกัน”
      โต๋    “ครับ  แล้วโมทำอะไรอยู่ครับ”
      โม    “ก็กำลังคุยโทรศัพท์อยู่กะโต๋ไง”
      โต๋    “แล้วคนชื่อโต๋เค้าเป็นใครอะครับ  เป็นอะไรกะโม”
      โม    “โต๋อะ  โมไม่พูดด้วยแล้วนะ”
      ผมเองก็ชอบโมตรงนี้แหละครับ  เวลาเขินน่ารักเป็นบ้า  ผมก็ชอบแซวเธอเป็นประจำ  เธอเป็นผู้หญิงอย่างที่ผมวาดไว้เลย  น่าปกป้องด้วยชีวิตที่สุด
          ปิดเทอมนี้ไม่รู้ว่าโต๋เค้าจะกลับมาหรือเปล่า  น้าตาเค้าก็บอกว่ากลับมา  แต่ตอนนี้จะเปิดเทอมอยู่แล้ว  ยังไม่เห็นหน้าโต๋เลย  ............เมื่อไหร่จะกลับมาว๊ะ
      แม่    “น้ำส้ม  มีจดหมายมาหนะ”
      น้ำส้ม    “ไหนค่ะ”
      แม่    “บนโต๊ะอะ  ไอ้โต๋ส่งมามั๊ง”
      น้ำส้ม    ^_^………………………………………
          “ดีน้ำส้ม ยัยขี้แง  เป็นไงบ้างสบายดีอยู่แล้วใช่ไหม  เป็นไงเรียนหนักหรือเปล่า  อืม ๆ เข้าเรื่องดีกว่า  ตอนเนี่ยข้ามีความสุขมากเลยอะ  เลยอยากจะแบ่งความสุขให้น้ำส้มได้รับรู้บ้าง  คือตอนนี้เรารู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง  น่ารักมากเลยนะน้ำส้ม อยากให้แกมาเห็นมาก ๆ เลย  ข้าเคยบอกแกแล้วใช่ไหมน้ำส้มว่าต่อไปนี้คงอีกนานกว่าจะรักใครได้อีก  แต่มาเจอคนนี้  ต้องยอมจริง ๆ เลยหวะ  เค้าชื่อโม  เห้อ...พูดแล้วก็คิดถึงเค้าขึ้นมาทุกที  เออน้ำส้มแกมีใครมาจีบบ้างเปล่า  มีแฟนหรือยังบอกมาบ้างดิ  หรือว่ายังขายไม่ออกตามเคย  55555555555....................แค่นี้ก่อนนะ  ปิดเทอมนี้จะไปเที่ยวกับโม  ถ้ามีเวลาจะกลับบ้านไปหานะ”
          ได้อ่านมันก็เหวอ ๆ ไป  แต่........ช่างเหอะ  เลยตอบจดหมายไปธรรมดา
          “เราสบายดี  ทุกคนก็สบายดี  ไม่มีอะไรหรอก  ขอให้แกมีความสุขหละกัน  คิดถึง.........................มั๊ง”
      ไม่รู้จะเขียนอะไรตอบไป  เพราะโต๋มีความสุขก็คงไม่ต้องเขียนอะไรให้มันเปลืองแล้ว  เราเดินไปส่งจดหมายที่ตู้  แล้วกำลังจะเดินกลับ  แต่ก็ต้องวิ่งกลับไปที่ตู้  ไปเปิดจดหมายและลบคำว่าคิดถึงออก  
      “เราสบายดี  ทุกคนก็สบายดี  ไม่มีอะไรหรอก  ขอให้แกมีความสุขหละกัน......”
      และส่งกลับตู้ไปอย่างเดิม

          กลับมาที่ห้องโต๋อีกครั้ง  มองตัวเองในกระจกห้องโต๋  เห็นคำว่าน้ำส้ม  มันก็ทำให้เดินเข้าไปลบด้วยมือทั้งสองข้างของเรา  ปิดโคมไฟ  เอากระเป๋าไปเก็บที่เดิม  ล็อคห้องแล้วทิ้งกุญแจไว้ในนั้น  เพราะว่าสัญญากับตัวเองว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก
          “เพื่อนคนหนึ่งแอบรักเธอ เก็บงำความรักนั้นอยู่ภายใน  ก็ไม่เคยเปิดเผยไป  ด้วยกลัวจะเสียใจ  จะเสียเธอ  ปิดบังอยู่ตั้งนาน  และมันอัดอั้นใจ  ยิ่งเราใกล้ชิดกัน ยิ่งหวั่นไหว  เธอสบตากลับหลบตาเธออยู่เรื่อยไป  ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ  แต่มันก็แสนไกล  ยิ่งเธอเป็นเพื่อนสนิท  ยิ่งไม่มีสิทธิ์  จะบอกไป  หากเป็นใครไม่ใช่เธอ  สักวันอาจให้รู้  อาจบอกไป  แต่เป็นเธอที่คุ้นเคย  ก็เลยต้องยับยั้งคอยชั่งใจ.........ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ  แต่มันก็แสนไกล  ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท  ยิ่งไม่มีสิทธิ์จะบอกไป  ว่ารักเธอ”
          ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเป็นอะไร  แต่อยากทำใจ อยากออกไปอยู่คนเดียว  ไม่ต้องเดินกลับบ้านทางนี้อีกเป็นเวลานาน ๆ ไม่อยากเห็นอดีตที่เคยมีโต๋  ให้เวลาตัวเองหน่อย  เรารู้ว่าเราทำได้  อยากให้รอสักวัน  เราจะกลับมา

      ตื่นเช้ามา  ไปที่มหาลัย  มีกิจกรรมชมรมอะไรลงหมด  ไม่ให้เหลือเวลาไปนั่งเหงา
      บ่าย ๆ ไม่มีเรียนก็ไปช่วยคณะอื่นทำงานไปเรื่อย ๆ มีเพื่อนเยอะขึ้น  ได้เรียนรู้การมีเพื่อนไปเรื่อย ๆ เจอคนหลายรูปแบบทำให้เก่งขึ้น  เย็น ๆ ไปหางานพาสทามทำ  ทำที่โน้นเสร็จก็ไปที่นี่  บางคืนเหงา ๆ ก็ไปหาไอ้ป้อไปช่วยมันขายเสื้อ  ไม่รู้สึกเหนื่อยเลยสักวัน  เพราะว่าไม่มีเวลาจะคิดว่าเหนื่อย  ชีวิตดำเนินอย่างนี้ไปได้สักพัก  ก็ดูเหมือนว่าชีวิตมีค่าขึ้น  มีเพื่อนกลุ่มใหญ่  มีเพื่อนเป็น  เพื่อนตาย  แต่เพื่อนสนิทก็ยังคงเป็นคนเดิม  ค้างบ้านเพื่อน  เช่าหอไปเรื่อย ๆ เพื่อที่จะไม่ต้องกลับบ้านทางเดิมอีก  แม่ก็ไม่เข้าใจ  แต่ไม่รู้จะบอกแม่ได้ไง  ไม่อยากจมอยู่กะอะไรอย่างนี้เลย  สักวันไงจะกลับไปได้แน่ ๆ
      ป้อ    “น้ำถามจริงเหอะ  ทำไมไม่กลับบ้าน”
      น้ำส้ม    “ไมอะ”
      ป้อ    “มีอะไรหรือเปล่า”
      น้ำส้ม    “มีอยู่แล้วหละ  คนไม่มีปัญหาที่ไหนเค้าจะเหมือนหนีออกจากบ้านทุกวันเหมือนเราไหม  ช่างเหอะ  คือเราไม่อยากกลับบ้านทางเดิมแค่นั้นแหละ”
      ป้อ    “........คิดถึงไอ้โต๋มันเหรอ”
      น้ำส้ม    “เฮ้ย  เราเลิกคิดนานแล้ว  ป้อเราไปเดินเล่นก่อนนะ”
      ป้อ    “เดินเล่นเสร็จก็รีบกลับหอหละ  เดี๋ยวหอจะปิดก่อน”
      น้ำส้ม    “อืม”
          เดินไปเรื่อย ๆ ปล่อย ๆ ชีวิตไปเรื่อย ๆ เดินไปนั่งดูคนดีดกีต้าร์ร้องเพลงในสวน  นั่งดูไป  เพลงบางเพลงมันก็บ้า ๆ ชะมัด  ชอบให้ให้นึกถึงคนโน้นคนนี้เห้อ........
          “ชอบดูเหมือนกันเหรอฮะ”
      น้ำส้ม    “......ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า  เพราะว่าเพิ่งมาครั้งแรก”
          “.........แล้วตอนเนี่ยฟังแล้ว  ชอบหรือเปล่าหละ”
      น้ำส้ม    “ชีวิตเราไม่มีคำว่าชอบหรอก  สนใจแล้วกัน  ใช้ได้ไหม”
          “อยากฟังเพลงอะไรหรือเปล่าฮะ”
      น้ำส้ม    “ขอให้เค้าร้องได้เหรอ”
          “ได้ฮะ”
      น้ำส้ม    “อยากฟังเพลง.............”
      อยู่ๆ ผู้ชายคนนั้นก็เดินขึ้นไปร้องเพลงที่เราขอไป  เสียงเค้าเพราะมากเลย  และเวลาเค้าร้องก็มอง ๆ มาที่เรา  ทำเอาเขินจะบ้า
      แล้วเค้าก็เดินมานั่งใกล้ ๆ เราที่เดิม
          “^_^……..”
      น้ำส้ม    “ขอบใจนะ”
          “เราเพ”
      น้ำส้ม    “เราน้ำส้ม”
      เพ    “เราเคยเห็นเธอบ่อย ๆ ที่คณะหนะ”
      น้ำส้ม    “.........”
      เพ    “เห็นเธอชอบไปช่วยงานที่คณะเราหนะ”
      น้ำส้ม    “^_^”
      เพ    “....................”
          อยู่ ๆ วันหนึ่งก็เพื่อนมาเพิ่มอีกหนึ่งคน  เพ  นายเพ นายตู้เพลง
      ในที่สุดผ่านไปสองปี  มันก็ถึงวันหนึ่งที่เดินไปเรื่อย ๆ ไม่มีอะไรทำ  มันก็รู้สึกเหนื่อย ๆ มันอยากพักขึ้นมา  เดินไปเรื่อย ๆ จนถึงปากทางเข้าบ้าน  
      เดินเข้าไปที่ทางนั้น  สุดท้ายก็ต้องกลับมาอีก
      ที่บ้าน    
      แม่    “....................”
      น้ำส้ม    “กลับมาทั้งที  ไม่เห็นยิ้มให้เลยนะ”
      แม่    “..............”
      น้ำส้ม    “ไม่ได้มาขอแบ่งสมบัติซะหน่อย  ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั่นหรอก”
      แม่เดินมากอดเราไว้
      แม่    “กลับมาบ้านได้แล้วเหรอฮะ  ไอ้ดื้อ”
      แม่ร้องไห้  กอดเราไว้  
      น้ำส้ม    “แม่  น้ำส้มคนใหม่  อย่าร้องไห้เลย  น้ำส้มไม่เคยร้องไห้มานานแล้ว”
      แม่    “กลับมาอยู่กับแม่ได้หรือยัง”
      น้ำส้ม    “ได้แล้ว  กลับมาแล้วไงแม่  ไม่ไปไหนแล้วหละ  มันเหนื่อย  กลับมาขอสมบัติแม่กินดีกว่า”
      แม่ตีแขนเราเล่นๆ และก็กอดไว้อย่างนั้น
      ความรักของแม่นี่ยิ่งใหญ่เหลือเกินเนาะ  แต่เราก็รู้ว่าแม่เค้าแอบไปดูเราที่หอบ่อย ๆ เพราะหอนั้นที่เราอยู่  เป็นของเพื่อนแม่  
      แม่    “น้ำส้ม  มีจดหมายถึงน้ำส้มหลายฉบับเลย  แม่เก็บไว้ที่ห้องหนะ”
      น้ำส้ม    “ครับผม”
      เราขึ้นไปที่ห้องเรา  ห้องเราทำไมเหมือนห้องโต๋เลยอะ
      เรารีบลงไปข้างล่าง
      น้ำส้ม    “แม่ใครมาทำอะไรห้องน้ำอะ”
      แม่    “ปิดเทอมครั้งที่แล้ว  โต๋กลับมา  แต่ว่าแม่ให้ไปหาน้ำส้มที่หอ  โต๋มันก็ไม่ไป  รอให้น้ำส้มกลับมา  โต๋เค้าขอมานอนห้องน้ำส้ม  นอนรอหลายวันเลย”
      น้ำส้ม    “.........................”
      รีบวิ่งกลับไปห้องอีกครั้ง  เปิดโคมไฟ้ผ้า  เปิดในกระเป๋าใบนั้น  มีจดหมายมากมายเลย
      ในกระจกห้องน้ำเรา  ก็มีเขียนข้อความว่า  น้ำส้ม
      ฉบับที่1    “ทำไมน้ำส้มเขียนตอบเรามาน้อยจัง  หมึกปากกาไม่มีหรือไง........
      ฉบับที่2    น้ำส้มทำไมไม่ตอบจดหมายเรามาบ้างเลย  เราไปเที่ยวมาสนุกมากเลย  เลยเขียนมาเล่าให้ฟัง  วันหนึ่งเราจะพาน้ำส้มไปบ้าง
      ฉบับที่3    น้ำส้ม  ตอนนี้เราทะเลาะกับโมอยู่  ไม่มีแรงจะทำอะไรเลยอะ  น้ำส้ม  เราไม่รู้จะทำอะไรต่อไปเลย............................................
      ฉบับที่4    น้ำส้มเป็นอะไรไป  ทำไมไม่ยอมตอบเรามาบ้างเลย  เรารอจดหมายน้ำส้มอยู่นะ  เป็นอะไร  โกรธอะไรเราอีกหละ  เราเข้าใจกับโมแล้วนะ  เราส่งรูปที่เราถ่ายตอนไปเที่ยวให้ดู  .............................................
      ฉบับที่5    น้ำส้มแกสบายดีไหม  เราสบายดี  ปิดเทอมนี้เดี๋ยวข้าจะกลับไป  แกโดนแน่ไอ้น้ำส้ม  ไม่เคยจะตอบจดหมายเลย เดี๋ยวนี้หัดหยิ่งนะ..............................
      ฉบับที่6    อีกสองวันจะกลับไปหา  ..  
          อ่านจบก็บ้า ๆ ไปสักพัก  และฉบับที่7  มันไม่มีแรงอ่านเลย  ฉบับนี้อยู่บนเตียงเป็นจดหมายที่โต๋เขียนให้เราที่ห้องนี้
          “น้ำส้มเมื่อไหร่จะกลับมาสักที  หายไปไหน  ไหนบอกว่าจะรอไง  รู้ไหมว่าอยากเจอน้ำส้มมากแค่ไหน  คิดถึง...........โต๋”
      ...............................................................................
      อยู่ ๆ สายลมก็พักเราไปยืนอยู่ตรงหน้าโต๋  ในนาทีต่อมา
      โต๋    “..................”
      น้ำส้ม    “....................เรา  น้ำส้ม”
      โต๋    “............น้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “ข้ายังไม่บอกแกเลย  วันเกิดเราสองปีแล้ว  นายยังไม่ได้ให้ของขวัญเราเลย  แล้วก็ไม่ได้จ่ายค่ากวาดห้องด้วย  เอามาให้หมดเลย”
      เรายืนมือไป
      โต๋    “.....ติดไว้ก่อนหละกัน”
      น้ำส้ม    “..................”
      โต๋จับมือเราไว้สองข้าง  แล้วก็เอามือเราสองคนมารวมกัน  ทำไมโต๋มองอย่างนั้นก็ไม่รู้
      น้ำส้ม    “.....”
      โต๋เอาหน้าเข้ามาใกล้ ๆ ใกล้เรื่อย ๆ
      น้ำส้ม    “เฮ้ยทำอะไรอะ”
      โต๋    “ขอของขวัญน้ำส้มไง”
      น้ำส้มผลักโต๋ไป
      น้ำส้ม    “เฮ๊ย..”
      โต๋    “^_^”
      น้ำส้ม    “ทำหน้าเจ้าเล่ห์อยู่ได้  ไม่หล่อหรอก”
      โต๋    “มาได้ไงหละเรา”
      น้ำส้ม    “มาได้ดิ  เค้าไม่ได้ห้ามเราเข้ามาหนิ”
      โต๋    “มาได้  ระวังจะกลับไม่ได้หละกัน”
      น้ำส้ม    “..........ไหนหละ  แฟนนายที่อยากให้เราเห็น”
      โต๋    “เลิกกันไปได้ปีแล้ว”
      น้ำส้ม    “.............”
      โต๋    “อุตส่ากลับไปหา  ไปให้น้ำส้มปลอบใจ  ดันหนีไปไหนก็ไม่รู้  เออแล้วยังไม่ได้ทำโทษเลยนะ  หนีออกไปจากบ้านเนี่ย  โมโหมากเลยนะ”
      น้ำส้ม    “...........อย่าพูดถึงมันเลย  ที่เรามาเนี่ย  เราแค่อยากบอกว่า  เราคิดถึงนาย”
      YYY..................................
      แม่    “น้ำส้ม ๆ “
      น้ำส้ม    “............”
      เห้อ......ฝันไปหรือว๊ะเนี่ย
      แม่    “แม่ทำกับข้าวเสร็จแล้ว  ลงไปกินด้วยกัน”
      น้ำส้ม    “ฮะ”
          นึกว่าได้ไปหาโต๋จริง ๆ นึกว่าโต๋เลิกกะแฟนแล้วจริง ๆ
      แม่    “น้ำส้ม  มีคนมาหาหนะลูก”
      ในใจก็นึกเต็มที่เลยว่าเป็น.....โต๋
      น้ำส้ม    “..............”
      เพ    “^_^”
      น้ำส้ม    “มีอะไร”
      เพ    “อ้าว  ก็นึกว่าหายไปไหน”
      น้ำส้ม    “รู้ได้ไงว่าบ้านเราอยู่นี่”
      เพ    “นี่ไง”
      ป้อเดินออกมา
      ป้อ    “ก็นึกว่าหายไปไหน  ตามหามาทั้งวันเลยรู้เปล่า”
      เพ    “อืม เนี่ยหายไปก็ไม่บอก”
      น้ำส้ม    “เราจะกลับมาอยู่กะแม่แล้วหละ”
      ป้อ    “กล้ากลับบ้านทางเดินและ”
      น้ำส้ม    “อืม  เพิ่งรู้อะว่ายังไงเราก็เหมือนเดิม  ไม่มีทางเปลี่ยนอะไรได้เลย  หนีไปไกลแค่ไหน  ยังไงก็ไม่พ้น”
      ป้อ    “หึ”
      เพ    “พูดอะไรกันอะ  ไม่เห็นรู้เรื่อง”
      น้ำส้ม    “เฮ้ย เข้าไปในบ้านก่อนดิ”
      แม่    “น้ำส้มเดี๋ยวแม่เอาขนมมาให้นั่งเล่นกันไปก่อนนะลูก”
      ป้อ/เพ    “สวัสดีครับ”
      แม่    “สวัสดีลูก”
      น้ำส้ม    “เออ  อาทิตย์หน้าเราไปเที่ยวต่างจังหวัดกันไหม”
      เพ    “เราต้องร้องเพลงอะ”
      ป้อ    “ที่ไหนอะ”
      น้ำส้ม    “ไปเที่ยวป่า ๆ ดีกว่า”
      ป้อ    “เออ ๆ แต่จะไปกันสองคนเนี่ยนะ”
      น้ำส้ม    “ชวนพวกกลุ่มเราไปดิ”
      ป้อ    “ไม่รู้ว่าจะมีใครว่างเปล่า”
      น้ำส้ม    “ที่จริงก็ไม่อยากให้ไปกันเยอะหรอก  วุ่นวายเปล่า ๆ เราว่าไปกันสามคนนี่แหละ”
      เพ    “อืม ตกลง”
      น้ำส้ม    “เอาแม่ไปอีกคนนะ”
      ป้อ      “อืม  เอาแม่ไปเที่ยวป่าเนี่ยนะน้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “เออหวะ”
      เพ    “เราเอาวงเราไปก็ได้นะ  ไปกันหลาย ๆ คนจะได้สนุก”
      ป้อ    “แต่น้ำส้มอะดิ  เป็นผู้หญิงคนเดียวจะสนุกเหรอ”
      น้ำส้ม    “สนุกไม่สนุก  ไม่เป็นไรหรอก  แต่ว่ามันไม่ดีอะดิ  แม่คงไม่ให้ไปหรอก ถ้ามีแต่ผู้ชาย”
      ป้อ    “ถ้ามีไอ้โต๋อยู่  ก็คงไม่เป็นไร”
      น้ำส้ม    “...................”
      โต๋    “แล้วใครบอกว่ากูไม่อยู่หละ”
      น้ำส้ม    “........................”
      โต๋    “ตกลง  ไปด้วยคนละกัน”
      ป้อ    “เฮ้ย  มึงตี๋ขึ้นเลยนะมึง”
      โต๋    “ไงมึงไอ้ป้อ  มาม้ออะไรถึงบ้านน้ำส้มเค้าเนี่ย”
      ป้อ    “เออนี่เพื่อนกู  เพ”
      โต๋    “หวัดดีครับผม”
      เพ    “ฮะ ๆ “
      น้ำส้ม    “.....”
      โต๋    “น้ำส้ม  ไปเอาน้ำมากินกันหน่อยไป”
      น้ำส้ม    “โหย..........”
          ที่ภูเขาไม้ฟู
      ป้อ    “โหย  เมื่อไหร่จะถึงว๊ะ”
      น้ำส้ม    “อีกสองกิโล”
      เพ    “ฮัมเพลงไปดิ  จะได้ไม่เบื่อ  ต่อเพลงดีกว่า”
      เราไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ วงของเพด้วย  มีพี่สี่  เอฟ  เอ็ม  ทุกคนน่ารักมาก
      เพ    “พูดไม่ค่อยเก่ง  แต่รักหมดใจ.............อย่าปล่อยให้เพ้อ  ให้ฉันรักเธอข้างเดียว  อะลงดอเด็กใครจะต่อ”
      เอ็ม    “ผมฮะ  เอ่อ..ได้ยินไหมเธอ  บอกว่ารักเธอ  เรื่องจริงจากฉัน  ยืนยันต่อเธอทุกนาที  บอกว่ารักเธอ  บอกอยู่อย่างนี้  ฟังซิ ฟังดี ๆ ได้ยินไหม  รักฉันเป็นคลื่นลมกระทบหาด  ตอกย้ำทุกคืนวัน  ต้องใช้หัวใจฟังให้ดี”
      เอฟ    “ดอเด็กอีกแล้ว  ใครต่อ”
      ป้อ    “ผมเอง   ....ได้แค่นี้ก็พอ  แค่เพียงมีเธอ  ได้แค่นี้ก็พอต้องการแค่นี้  ได้แค่นี้ก็พอ  แค่เพียงวันนี้ยังมีเธอ  อื่นใดก็ไม่ต้องการ......   กอไก่”
      เอฟ    “กลับมาได้ไหม  ฉันขอแค่สักนาที  กลับมาตรงนี้  แค่ขอให้เธอได้ฟัง  หนึ่งคำที่ฉันมี  หนึ่งคำที่ใจของฉัน  ให้ฉันได้พูดมันไป  แค่สักครั้งให้ฉันได้บอกรักเธอ”
      ป้อ    “ทอ ธง  คราวนี้เหลือน้ำส้มกะโต๋ใครจะร้องก่อนดี”
      ผมหันไปมองน้ำส้ม  ดูเหมือนตั้งแต่ที่เราได้เจอกันครั้งนี้  น้ำส้มดูเหมือนจะเงียบไป  ไม่ร่าเริงเหมือนน้ำส้มคนก่อนเลย  น้ำส้มเอาความร่าเริงไปไหน  โตขึ้นตั้งเยอะ  ทำไมเราห่าง ๆ กันไปอย่างนี้
      เพ    “โต๋เอาเพลงอะไรดี”
      โต๋    “  เธอคนนี้ที่ทำให้ใจมันสั่นไหว เธอคนนี้ที่ทำให้ใจมันร้อนรน  เธอคนนี้ที่ทำให้มีอาการสับสนทางใจ  มองตรงไหนจะทำอะไรก็น่ารัก มองตรงไหน  จะดูมุมไหนก็สวยดี  มองกี่ทีก็ทำให้ใจของฉันหล่นหายทั้งใจ  อยากให้รู้นะว่าเหงาใจ อยากให้รู้ว่าฉันไม่มีใครให้คอยรัก  อยากจะขอนะ  หากเธอเป็นเหมือนกัน ช่วยรับฉันไว้สักคนในหัวใจ be mygirl friend ฉันรักเธอ be mygirl friend ฉันชอบเธอ be mygirl friend รู้หรือเปล่า  แค่อยากจะเห็นหน้าทุกวัน be mygirl friend ฉันรักเธอ be mygirl friend  ฉันชอบเธอ  ได้หรือเปล่า  อยากให้เธอนั้นมารักกัน”
      ป้อ    “กอไก่  น้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “น้ำส้มไม่เล่นได้ไหม”
      โต๋    “ไม่ได้หรอก น้ำส้มแอบยิ้มตอนเราร้องทำไม  เดี๋ยวเราจะแอบยิ้มตอนน้ำส้มร้องบ้าง  เอาดิเราไม่ยอมหรอก”
      น้ำส้ม    “ก็อยากให้รู้ว่านับตั้งแต่วันนั้น  ทุกวินาทีของฉัน  บอกกับฉันว่าโลกนี้มีเธออยู่  เพราะฉันไม่เคยรู้สึก    อะไรมากมายเท่านี้  อยากให้รู้แม้จะอยู่ห่างไกล ถึงแม้จะอยู่ตรงไหน  ถ้าโลกนี้นั้นมีแค่ใครสักคนหนึ่ง  ให้คิดถึงกันทุกวัน  ก็ทำให้หมดคำถามตลอดไป  ตลอดไป  และอยู่ข้าง ๆ กันตลอดไป”
      เพ    “เพราะมากเลยน้ำส้ม”
      สี่    “ความหมายดีเนาะ  น้ำส้มร้องให้ใครหรือเปล่า”
      น้ำส้ม    “เปล่าค่ะ  ก็ร้องให้พวกพี่ๆ ฟังไง”
      โต๋    “...........”
      น้ำส้ม    “...............”
      ป้อ    “เฮ้ย  นั่นไงเห็นแล้วที่พัก  เย้”
      เพ    “เดี๋ยวพวกเราจะกลางเต้นท์กัน  น้ำส้มไปนอนในห้องนะ”
      น้ำส้ม    “.....”
      ป้อ    “อะกุญแจห้อง  เฮ้ยโต๋มึงจะนอนไหน”
      โต๋    “นอนไหนก็ได้”
      น้ำส้ม    “น้ำส้มนอนด้วยได้ไหม  ไม่อยากเข้าไปนอนคนเดียวเลยอะ”
      โต๋    “55555555”
      สี่    “อ้าวฮาอะไรน้อง”
      โต๋    “ก็น้ำส้ม  กลัวผีตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว  ยังไม่เลิกอีก”
      สี่    “งั้นเองก็ไปนอนเป็นเพื่อนน้องเค้าดิ”
      โต๋    “...........”
      สี่    “  งั้นเดี๋ยวข้าไปนอนกะน้องเค้าเอง”
      โต๋    “ไม่เป็นไรฮะพี่  ผมนอนได้ฮะ”
      เราเดินเข้าไปในบ้านพักกะโต๋
      น้ำส้ม    “............”
      โต๋    “เดี๋ยวน้ำส้มนอนพื้นหละกันนะ  เดี๋ยวเรานอนเตียงเอง”
      น้ำส้ม    “ไม่ใช่มั๊ง  นายนอนพื้นนะ”
      โต๋    “อ้าวพูดได้แล้ว  นึกว่าจะไม่พูดกัน”
      น้ำส้ม    “..............”
      โต๋    “น้ำส้มร้องเพลงเพราะดีนะ  อย่างเนี่ยต้องไปประกวด”
      น้ำส้ม    “ก็คงเพราะไม่เท่านายหรอก”
      โต๋    “เป็นอะไรอีกหละ  ไม่พอใจที่เรากลับมาเหรอ”
      น้ำส้ม    “เปล่า  ถึงใครจะกลับไปกลับมา  เราก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก”
      โต๋    “ถามจริงเหอะ  ทำไมเปลี่ยนตัวเองไปขนาดนี้”
      น้ำส้ม    “ก็เราเป็นของเราอย่างนี้  นายไม่ชอบก็ไม่ต้องมายุ่งกะเราก็ได้”
      โต๋    “น้ำส้ม  มันจะเกิน ๆ ไปแล้วนะ  ถ้าจะงอนหรือโกรธอะไรก็เอาให้มันพอดี  ดูคนอื่นเค้าหน่อยว่าเค้าอดทนพอหรือเปล่ากะอาการบ้า ๆ บอ ๆ ของน้ำส้มตอนเนี่ย”
      น้ำส้ม    “น้ำส้มคนที่ออ ๆ เออ ๆ ตามนาย  อะไรก็ยอมทุกอย่าง  ถูกเค้าหลอกอะไรก็ยอม  ตอนเนี่ยตายไปแล้วหละ  เหลือแต่น้ำส้ม  ที่มันไม่ดี  ที่มันไม่ได้เรื่อง บ้า ๆ บอ ๆ”
      โต๋    “เพราะอะไรอะน้ำส้ม  ทำไม”
      น้ำส้ม    “……………………………….”
      โต๋เดินมากระชากคอเสื้อเรา  ตะโกนถามเราแรง ๆ ว่าเราเป็นอะไรไป
      น้ำส้ม    “  เพราะเรามันชอบนายไง...........”
      โต๋    “..................................”
      ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไปทำไม  แต่พอได้พูดมันออกไป  มันก็โล่งใจ............
          น้ำส้มกับโต๋ยืนห่างกันหนึ่งเอื้อมมือ  มองหน้ากันอยู่อย่างนั้น
      โต๋หันหลังเดินออกจากห้อง  ขณะเดียวกับที่มือของน้ำส้มเอื้อมไปหาโต๋............
      น้ำส้ม    “.............................”
          ห่างกันเพียงเอื้อมมือ  แต่มันก็แสนไกล  ยิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิท ยิ่งไม่มีสิทธิ์  จะบอกไป
      โต๋เดินกลับมาในห้อง  กอดน้ำส้มไว้....................................

      น้ำส้ม    “โต๋  อย่าโกรธเรานะ  เราขอโทษ”
      โต๋ร้องไห้ออกมา  และก้มลงนั่งกะพื้นต่อหน้าเรา และเงยหน้ามาพูดกะเรา
      โต๋    “เราไม่เคยคิดจะชอบน้ำส้มเลย  ไม่เคยสักครั้ง  น้ำส้มไม่ใช่ผู้หญิงของเรา แต่น้ำส้มเป็นเพื่อนที่เรารักที่สุดเลย”
      น้ำส้ม    “......................”
      โต๋    “น้ำส้มกลับมาเป็นน้ำส้มให้เราได้ไหม”
      น้ำส้มพยักหน้า  พร้อมมือของโต๋ที่เช็ดน้ำตาให้
      ป้อ    “สองคนนั้นทำอะไรอยู่  เร็วไปเล่นน้ำกัน”
      โต๋    “เออ ๆ “
      ป้อ    “เร็วโว๊ย”
      โต๋    “วันข้างหน้ามันจะเป็นยังไง  เราเองก็ยังไม่รู้เลย  แต่เราสัญญาว่าเราจะปกป้องดูแลน้ำส้มตลอดไป  น้ำส้มไม่ต้องกลัวนะ”
      น้ำส้ม    “เราไม่กลัวอะไรหรอก  ชีวิตเราผ่านวันที่ไม่เหลือใครมาหลายวัน  เราก็ยังผ่านมันมาได้  เราขอบใจที่ไม่แกล้งชอบเราไป  ขอเวลาหน่อยนะ  น้ำส้มของนายจะกลับมาแน่”
      เราเดินออกไปข้างนอก  รู้ว่าตัวเองอ่อนไหวมากแค่ไหน  
      เพ    “น้ำส้ม  น้ำตกเย็นมากเลยนะ  เราเดินไปดูมาแล้ว  ปะเร็ว”
      น้ำส้ม............เดินไปที่น้ำตกกับเพ  ทั้ง ๆ ที่ในใจอะไรก็ไม่ไหวแล้ว  มันว่างเปล่าไปหมด
      เพ    “น้ำส้ม  ไม่เล่นน้ำเหรอ”
      น้ำส้ม    “..................”
      เพสาดน้ำเย็น ๆ เข้ามา  ทำให้รู้ว่าน้ำเย็น ๆ มันก็ทำให้
      น้ำส้ม    “เฮ้ย........”
      เพ    “นี่แน”
      น้ำส้ม    “.......555555”
      ป้อ    “มีความสุขกันจังเนาะ”
      โต๋    “..............”
      สี่    “อืมปะลงไอ้เอฟ เอ็ม”
      เพ    “มาเลยเพ้....”
      เอฟ    “น้ำส้ม  นี่”
      เอฟสาดน้ำใส่เรา  เราเลยสาดกลับ  ทุกคนต่างพากันเล่นน้ำ  เว้นแต่โต๋  ที่ไม่ยอมลง  โต๋กำลังจะเดินออกไป  เราเลยเดินไปจับไหล่ของโต๋ไว้
      น้ำส้ม    “หยุดเดี๋ยวนี้โต๋  แกไปไหนไม่ได้”
      โต๋    “..............”
      น้ำส้ม    “นี่แน”
      เราสาดน้ำใส่โต๋  โต๋ไม่ยิ้มเลย  เราเลยเหวอ ๆ แต่สักพักพอเราเดินหันหลัง  โต๋ก็สาดน้ำเรา  และไล่สาดน้ำกันสนุก ๆ
          ผมเล่นน้ำกะน้ำส้ม  ในนาทีหนึ่งในนั้น  ผมเผลอไปมองน้ำส้มเล่นสาดน้ำกับเพื่อน ๆ น้ำส้มยิ้มน่ารักมาก  มันเผลอไปจริง ๆ เส้นผมเปียก ๆ เซอ ๆ ของน้ำส้ม  กับรอยยิ้มน่ารัก ๆ ก็ทำให้ผมเพ้อไปไกลเลย  และผมก็เชื่อว่าทุกคนในที่นี่ก็คงคิดเหมือนผมทั้งนั้น  น้ำส้ม.....................
      ป้อ    “ไอ้โต๋  ไงมึงเหร่ตาเอียงแล้วมึง”
      โต๋    “เฮ้ย  ไอ้ห่าไม่ใช่อย่างนั้นโว๊ย”
      ป้อ    “มึงกลับมา  น้ำส้มเค้าดีขึ้นนะโว๊ย”
      โต๋    “กูกับน้ำส้ม  เป็นเพื่อนสนิทกัน”
      ป้อ    “มึงไม่ชอบน้ำส้มเหรอว๊ะ”
      โต๋    “.........................”
      ป้อ    “น้ำส้ม  ใครมองก็รู้ว่าเค้าชอบมึงมาก  ตาเค้าอยู่ที่มึงตลอด  มึงไม่เห็นเหรอ”
      โต๋    “กูคิดกะน้ำส้มไม่ได้หรอก”
      ป้อ    “ยังมีอีกหลายเรื่องเลย  ที่มึงไม่รู้ว่าน้ำส้มเค้ารู้สึกดี ๆ กะมึงแค่ไหน  แต่กูคงเล่าไม่ได้หรอก  มันเป็นเรื่องของคนสองคน”
      โต๋    “.............
      ป้อ    “ดีเหมือนกันที่มึงไม่ชอบน้ำส้ม  ไอ้เพมันจะได้มีหวังบ้าง”
      โต๋    “...............”
      น้ำส้ม    “ป้อ  โต๋มาดูดอกกล้วยไม้นี่ดิ  สวยมากเลยอะ”
      เพ    “น้ำส้มว่ามันสวยเหรอ”
      น้ำส้ม    “อืม  เราชอบ”
      เพ    “ชอบเหรอ”
      น้ำส้ม    “ชอบ   เพไม่ชอบเหรอ”
      ป้อ    “เพ  มันชอบคนที่ชอบกล้วยไม้มากกว่าอะ”
      น้ำส้ม    “.................”
      โต๋    “ไม่เห็นสวยเลย  เรียกมาดูทำไม”
      น้ำส้ม    “............”
      เพ    “สวยดีเนาะ  สีขาวหายากด้วย  หอมด้วยน้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “อืม  หอมจริง ๆ ด้วย”
      เพ    “น้ำส้มอยากได้ไหมหละ”
      น้ำส้ม    “เหอย...จะเอาไปได้เหรอ”
      เพ    “ไม่ได้หรอก  แต่ว่าเราไปหามาให้ได้”
      ป้อ    “ที่สวนที่ไอ้เพมันไปร้องเพลง  มีกล้วยไม้ตั้งเยอะ”
      น้ำส้ม    “^_^”
      เพ    “ไว้น้ำส้มไปดูดิ”
      น้ำส้ม    “อืม”
      โต๋    “ไอ้ป้อเดี๋ยวกูกลับก่อนนะ”
      เพ    “อืม  กลับกันเหอะ”
      น้ำส้ม    “พี่สี่  เอฟ  เอ็ม  กลับกันเหอะ”
      เพ    “น้ำส้ม เดินดี ๆ นะ”
      น้ำส้ม    “เป็นอะไรเปล่าเนี่ย”
      ป้อ    “สงสัยมันอยากจะเป็น...แล้วหละน้ำส้ม”
      เพ    “อะไรมึงไอ้ป้อ”
      สี่    “พี่สี่ว่านะ  น้ำส้มมาเดินใกล้ ๆ พี่ดีกว่า”
      เอฟ    “นั่นแหละที่ต้องระวังเลย”
      เอ็ม    “สี่  มึงอย่าม้อนักเลยมึง”
      เอฟ    “ปีหน้าน้ำส้มก็เรียนจบแล้วซิ  อย่างเนี่ยตอนบ่าย ๆ ใครจะมาช่วยเราขนเครื่องเสียงเนี่ย”
      น้ำส้ม    “โหย คิดกะน้ำส้มแค่นี้เลยใช่ไหมเนี่ย”
      เพ    “ไม่รู้หละ  น้ำส้มต้องไปฟังบ่อย ๆ ด้วย  ไม่มาจะไปรับถึงบ้านเลย  ก็รู้จักบ้านน้ำส้มแล้ว”
      น้ำส้ม    “ก็จ้างน้ำส้มดิ  จะได้ไปช่วยยกของทุกวันเลย”
      โต๋    “.................”
      ป้อ    “งั้นเดี๋ยวน้ำส้มอาบน้ำก่อนเลยนะ  เดี๋ยวพวกเราจะได้ผลัดกันอาบบ้าง”
      น้ำส้ม    “ครับผม”
      กลับเข้ามาที่ห้องพัก
      น้ำส้ม    “.....................”
      โต๋    “......................”
      เราเลยเดินไปอาบน้ำ  พออาบน้ำเสร็จ  ก็เดินออกมา  เห็นโต๋นอนหลับอยู่พอดี
      เราก็ไม่กล้าจะเดินเข้าไปดู
      โต๋ตัวร้อนมากเลย  ไม่สบายแน่ ๆ เราก็เลยไปเรียกป้อเข้ามาดู
      ป้อ    “สงสัยเป็นไข้”
      น้ำส้ม    “งั้นเดี๋ยว  น้ำส้มไปซื้อยาก่อนนะ”
      ป้อ    “จะเดินไปเนี่ยนะ  จะมืดอยู่แล้ว”
      น้ำส้ม    “ไม่เป็นไรหรอก”
      ป้อ    “ขอที่ศูนย์บริการบ้านพักก็น่าจะมีนะ”
      น้ำส้ม    “อืม  งั้นเดี๋ยวเรามานะ  ดูโต๋ด้วย”
      เราเดินออกมาจากบ้านพัก
      เพ    “ไปไหนน้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “ไปขอยา”
      เพ    “เป็นอะไร”
      น้ำส้ม    “โต๋ไม่สบาย  ไปก่อนนะ”
      เพ    “เดี๋ยวเราไปเป็นเพื่อน”
          โต๋กินยาเสร็จก็เริ่มดีขึ้น
      น้ำส้ม    “ป้อ  ช่วยพยุงโต๋ไปนอนที่เตียงหน่อยดิ”
      โต๋    “ไม่เป็นไรหรอก”
      น้ำส้ม    “ไม่เป็นไร”
      ป้อ    “อืม  ปะไอ้โต๋”
      เราเลยช่วยพยุงโต๋ไปที่เตียง
      น้ำส้ม    “ตัวร้อนอยู่เลย  เราเช็ดตัวให้นะ”
      โต๋    “...............”
      ป้อ    “เดี๋ยวรอข้างนอกนะ”
      น้ำส้ม    “เดี๋ยวป้อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้โต๋หน่อยนะ  เดี๋ยวน้ำส้มไปรอข้างนอก”
      เดินออกมาก็เห็นเพนั่งอยู่กะเพื่อน ๆ
      พี่สี่    “เป็นไงบ้าง”
      น้ำส้ม    “เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่อะค่ะ”
      ป้อ    “น้ำส้มเสร็จแล้ว”
      เราเลยเดินเข้าไปเช็ดตัวให้โต๋
      โต๋    “...............ไม่เป็นไรหรอกน้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “.................................”
      เราเลยเช็ดตัวให้โต๋ไปจนเสร็จ  
      น้ำส้ม    “ที่เราทำ  ไม่ใช่เพราะเราชอบนาย  แต่เพราะเราเป็นเพื่อนนายมากกว่าเข้าใจป๊ะ”
      โต๋    “...................”
      น้ำส้ม    “โต๋  นอนหลับเหอะ  เดี๋ยวเราไปหาอะไรให้กิน”
      โต๋    “ไม่ต้องหรอก  ไปสนุกกะเพื่อน ๆ เหอะ”
      น้ำส้ม    “........อย่าพยายามผลักเราไปไกล ๆ ได้ไหม  ถึงเราจะรู้สึกอะไร  แต่เราก็ไม่ได้เพ้อขนาดนั้นหรอกนะ  เราโล่งใจมากกว่าที่เราได้ทำสิ่งที่เราอึดอัดมานาน  นอนพักเหอะ  เราไม่กวนแล้ว”
      โต๋    “น้ำส้ม  นั่งอยู่เป็นเพื่อนเราก่อนได้ไหม  อย่าเพิ่งไป”
      น้ำส้มพยักหน้า  และนั่งบนเตียงใกล้ ๆ โต๋  
      โต๋    “เล่าเรื่องน้ำส้มให้เราฟังบ้างดิ”
      น้ำส้ม    “เรื่องอะไร”
      โต๋    “ที่ออกไปอยู่หอไง”
      น้ำส้ม    “มันไม่มีอะไรหรอก”
      โต๋    “ทำไมต้องออกไปอยู่หอหละ”
      น้ำส้ม    “ก็มันอยู่ใกล้มหาลัยไง”
      โต๋    “แล้วอยู่กับใคร”
      น้ำส้ม    “เราอยู่คนเดียว”
      โต๋    “อยู่ได้เหรอ”
      น้ำส้ม    “ก็อยู่ไม่กี่วันหรอก  ไปอยู่บ้านเพื่อนซะส่วนใหญ่”
      โต๋    “เพื่อนที่ไหน”
      น้ำส้ม    “ก็เพื่อนที่ตลาด  เพื่อนที่คณะ เพื่อนที่รู้จัก”
      โต๋    “บ้านอยู่ไม่ได้หรือไง”
      น้ำส้ม    “ไม่ได้”
      โต๋    “ทำไม”
      น้ำส้ม    “เห่อ...ไม่รู้เหมือนกัน  เบื่อ ๆ “
      โต๋    “ได้ข่าวไปทำงานด้วยไม่ใช่”
      น้ำส้ม    “ทำไปงั้นแหละ  ไม่ได้เรื่องสักอย่าง  สุดท้ายก็ต้องช่วยป้อขายเสื้อ  ไปช่วยพี่สี่ยกของ  บางวันพี่สี่เค้าก็พาไปเลี้ยงข้าว”
      โต๋    “ทำไมต้องทำอย่างนี้อะ”
      น้ำส้ม    “อยู่เฉย ๆ แล้วมันเหงามั๊ง  ไม่มีใครเล่นบอลด้วย”
      โต๋    “............................”
      น้ำส้ม    “โต๋  เด็กหญิงน้ำส้มอะ  เค้าโตแล้วนะ  เค้ารับผิดชอบตัวเองได้  และที่สำคัญตอนนี้ก็รู้แล้วว่าบ้านมีค่าแค่ไหน  ห้องที่มันมีกระเป๋าใส่ซองจดหมายและโคมไฟผ้า  มันไม่มีที่ไหนดีเท่านี้แล้วหละ”
      โต๋    “..............................”
      โต๋หลับไปแล้ว  อาจจะเพราะฤทธิ์ยา
      เรานั่งมองโต๋  อยู่ใกล้ ๆ เนี่ยเหรอโต๋  เด็กชายโต๋ของเรา  กลายเป็นนายโต๋  ผู้ชายที่เราไม่ค่อยจะรู้จักเท่าไหร่แล้ว   โต๋คนที่เราเห็นอยู่ตอนนี้อาจไม่ใช่คนเดียวกับที่เราชอบก็ได้  คนที่เราชอบ  อาจจะเป็นโต๋ตอนม.6  ที่เป็นเพื่อนสนิทคอยเป็นอะไรให้หลายอย่าง  แต่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเราเค้าคงไม่ใช่แล้ว
      ป้อ    “น้ำส้ม    ไปกินอะไรก่อนไป”
      น้ำส้ม    “ไม่เป็นไรหรอก  กินกันเหอะ”
      ป้อ    “เฮ้ยน้ำส้ม  ถามอะไรหน่อยดิ  ชอบไอ้โต๋มันเหรอ”
      น้ำส้ม    “.................เราเป็นแค่เพื่อนกันอะป้อ”
      ป้อ    “มีคนหนึ่งเค้าแอบชอบน้ำส้มอยู่นะ”
      น้ำส้ม    “ป้อเหรอ”
      ป้อ    “เฮ้ย   ไม่ช่าย  ก็ไอ้เพไง”
      น้ำส้ม    “..............อ้า  อย่ามามุข”
      ป้อ    “น้ำส้มหละ  ชอบใครหรือเปล่า”
      น้ำส้ม    “เรื่องพวกนี้เราไม่คิดอยู่แล้ว”
      ป้อ    “แต่เราว่าน้ำส้มชอบไอ้โต๋นะ”
      น้ำส้ม    “.....................”
      ป้อ    “.......ไอ้เพมันก็ดี  แต่ความรู้สึก  มันบังคับกันไม่ได้อยู่แล้ว”
      น้ำส้ม    “ความรู้สึกเหรอ  “
      ป้อ    “ถ้าไอ้โต๋ตื่น  พามันไปกินอะไรนะ”
      เรานั่งนิ่ง ๆ อยู่สักพัก  อีกใจก็รู้สึกดียังไงก็ไม่รู้  แต่บางทีก็รู้สึกกลัวเกินจะชอบใครสักคนได้  มันชอบคิดไปไกลก่อน
      โต๋    “................”
      น้ำส้ม    “.....................”
      โต๋    “^_^  “
      น้ำส้ม    “...................”(หลับ)
          ผมว่าน้ำส้ม  เค้าคงเหนื่อย  ผมนั่งมองน้ำส้ม  เด็กหญิงน้ำส้มที่งอแง  ตามผมแจไปวัน ๆ  วันนี้กลายเป็นผู้หญิงที่น่ารัก  ที่ใครได้เห็น  ได้อยู่ใกล้ก็ต้องหลงรักในการพูดจาหรือว่าเวลาที่ทำหน้างอน ๆ   ผมว่าตั้งแต่ผมเกิดมา  นอกจากแม่ ผู้หญิงที่ผมสนิทด้วยที่สุดก็คงมีน้ำส้มนี่แหละ  ต่อให้ผมจะมีใครอีกสักกี่คน  น้ำส้มก็จะเป็นหนึ่งเดียวที่ผมจะเดินไปข้าง ๆ  จะกลับมาหาและโอ๋เวลาที่เธอร้องไห้  และพัดเย็น ๆ ให้น้ำส้มนอนหลับ  จะกอดคอดีใจที่เตะบอลเข้า  จะให้อะไร ๆ ในวันเกิดของเธอ  จะจับมือเดินข้ามถนนด้วยกัน  ผมจะทำให้น้ำส้ม.................
      น้ำส้ม    “....อ้าวโต๋  ตื่นแล้วเหรอ”
      โต๋    “^_^”
      น้ำส้ม    “ยิ้มอะไร”
      โต๋    “หัวยุ่งหมดแล้ว  หวีผมดี ๆ เร็ว”
      น้ำส้ม    “มัดมั่ว ๆ ไปก็ได้”
      โต๋    “ง่วงหรือเปล่า  นอนต่อเหอะ”
      น้ำส้ม    “เดี๋ยวเราไปหาอะไรมาให้กิน  ลุกไหวไหม”
      โต๋    “ไหวดิ  ไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย”
      น้ำส้ม    “อืม  งั้นปะ”
      ที่ลานเต้นท์
      ป้อ    “อ้าวมาโว๊ย”
      พี่สี่    “ไงโต๋มาดื่มไหวไหม”
      เอฟ    “ไอ้สี่พอเหอะมึง  แดกไปคนเดียวเหอะ”
      น้ำส้ม    “เพอะ”
      ป้อ    “เห็นว่าไปเดินเล่น”
      น้ำส้ม    “อืม  เอ็มขอน้ำหน่อยนะ”
      เอ็ม    “หยิบเลยค่ะ”
      น้ำส้ม    “อะโต๋  “
      โต๋    “น้ำส้มกินก่อนดิ”
      น้ำส้ม    “ไม่เป็นไร  กินเหอะ”
      ป้อ    “อะน้ำส้ม  มาช่วยยางหน่อยดิ”
      เราเลยเดินไปช่วยป้อย่างอาหารที่เราซื้อมา
      น้ำส้ม    “โต๋กินกุ้งร้อน ๆ ไหม”
      โต๋    “อืม  หิวอยู่”
      น้ำส้ม    “อุ๊ย ร้อนหวะ”
      โต๋    “เดี๋ยวปอกเอง”
      น้ำส้ม    “เราปอกได้”
      อยู่ ๆ โต๋ก็เดินเข้ามาเอากุ้งออกจากมือเราแรง ๆ เราเลยไม่เข้าใจ
          ผมนึกถึงตอนที่น้ำส้มปีนเอาโจ๊กร้อน ๆ มาให้ผม และโจ๊กก็ลวกมือ  ผมคงทำให้น้ำส้มเจ็บอีกไม่ได้  แค่ที่ผมไม่ได้รักน้ำส้มอย่างที่น้ำส้มรักผม  ผมก็รู้สึกผิดอยู่แล้ว
      พี่สี่    “ฉันไม่รู้ว่าวันนี้จะเป็นเช่นไร หากว่าตัวฉันต้องขาดเธอ คนที่มีความรักจริงให้กันเสมอ และคอยห่วงใย  ทุก ๆครั้งที่โมโหก็ลงที่เธอ  ไม่มีเหตุผล  เอาแต่ใจ  ไม่ได้ทำตามสัญญาที่เคยให้  เหมือนเธอไม่สำคัญ  เธอยังทนยังไม่ทิ้งไป  ยังเต็มใจจะรักกัน  ในเวลาที่ฉันทุกข์ทนเพราะเธอเท่านั้นที่คอยปลอบใจ  ฉันนั้นหลงทางชีวิตมานานเหลือเกิน อยากให้เธอรู้ว่าต่อไป  จะดูแลทำเพื่อเธอตลอดไป  เพราะแพ้ความดีของเธอ....”
      เอฟ    “วู้..............”
      เอ็ม    “น้ำส้ม  ร้องเพลงหนึ่งดิ  เดี๋ยวเราเล่นกีต้าร์ให้  อยากได้ยินเสียงผู้หญิงบ้างอะ  มีแต่เสียงไอ้สี่เบื่อแล้ว”
      น้ำส้ม    “โหยไม่เอาหรอก”
      โต๋    “น้ำส้ม...”
      น้ำส้ม    “อืมได้”
      ป้อ    “เอาเพลงอะไรดี  เดี๋ยวเราดีดให้ดีกว่า”
      น้ำส้ม    “เพลง  ต้องการอะไรจากฉัน   .....  หากว่าเธอ  ต้องการความรักจากฉัน  เธอได้ไปแล้ว  หากว่าเธอ  ต้องการคนที่เข้าใจ  เธอหาได้จากฉัน  แล้วทำไมเธอยังไม่พอฮะต้องการอะไร  มากกว่านั้น  เธอช่วยบอกกันหน่อยได้ไหม  อยากจะรู้ต้องการอะไรเธอ  ถ้าไม่ใช่ความรัก  แล้วมันคืออะไร  อยากจะรู้แค่รักไม่พอใช่ไหม  ฉันนั้นก็อ่อนใจ ไม่รู้ว่าสิ่งใดที่เธอนั้นต้องการ  ..........”
      เอ็ม    “อีกเพลงนะ  เพราะดีอะ”
      น้ำส้ม    “พอเหอะ”
      ป้อ    “สนุกกันน่าน้ำส้ม  ไอ้สี่เสียงมันเมาแล้ว”
      โต๋    “อีกเพลงเร็ว  รออยู่”
      น้ำส้ม    “^_^   …………………….”
          คืนนี้เป็นคืนที่สนุกมาก  ได้อยู่ใกล้ ๆ เพื่อนสนิทที่ฉันรัก  ...........  ได้เห็นรอยยิ้มของเค้า  ที่ไม่ได้เห็นมานาน  ชื่นใจจริง ๆ
      23.44    น.
      โต๋    “...........”
      น้ำส้ม    “.............”
      โต๋    “น้ำส้ม  หลับหรือยังอะ”
      น้ำส้ม    “ยัง  มีอะไรหรือเปล่า”
      โต๋    “ตรงเนี่ยดาวสวยมากเลย  มาดูไหม”
      น้ำส้ม    “อืม”
      เราเลยเดินจากเตียงไปที่ระเบียงหน้าต่าง  เรากะโต๋นั่งที่หน้าต่างคนละบาน โต๋เอง จะมองไปที่ดาวดวงไหน  เราเองก็ไม่รู้  
      น้ำส้ม    “เฮ้ยสวยจริง ๆ อะ  เต็มฟ้าเลย”
      โต๋    “.................”
      น้ำส้ม    “^_^  .............”
      โต๋    “น้ำส้ม  อะของขวัญวันเกิด  เราซื้อไว้ตั้งแต่วันเกิดน้ำส้มแล้ว”
      น้ำส้ม    “อะไรอะโต๋”
      โต๋    “เปิดดูเลย”
      เปิดกล่องของขวัญมา  เป็นกำไล  มีตุ๊กตาผู้หญิง+ผู้ชาย  ยืนกอดคอคล้องอยู่ที่กำไล
      น้ำส้ม    “................”
      โต๋    “เป็นอะไรไป  ไม่ชอบเหรอ”
      น้ำส้ม    “............โต๋...........”
      ยื่นมือออกไปข้างหน้าสองข้าง  ให้โต๋เข้ามากอดไว้
      โต๋เข้ามาโอบน้ำส้มไว้  
      น้ำส้ม    “น้ำคิดถึงโต๋นะ”
      โต๋    “........เราก็คิดถึงน้ำส้มเหมือนกัน”
      น้ำส้ม    “อะใส่ให้หน่อย”
      โต๋    “มะ”
          ฉันและเธอต่างก็มีหนทาง  ต่างคนต่างไป  เก็บไว้แค่ภาพเดิม
      วันรับปริญญา
          “วันนี้อากาศครึ้ม ๆ มองอะไรที่ผ่านมาในอดีตก็ทำให้เหงาเป็นบ้า  ตอนนี้เรากำลังยืนอยู่หน้ากระจก  กำลังใส่เสื้อผ้าที่โต๋ซื้อให้ไว้  เสื้อสีฟ้า  กระโปรงสีขาว  ถึงตอนนี้กระโปรงมันอาจดูสั้น ๆ ไป  เสื้ออาจคับ ๆ  แต่พอมองดูแล้ว  มันก็เหมือนเดิม  เด็กหญิงน้ำส้มกำลังจะได้รับปริญญาแล้วนะ  ..........”
      ป้อ    “ไปกันหรือยัง”
      น้ำส้ม    “ไหนดู”
      เราเดินไปจัดเสื้อผ้าให้ป้อ  
      ป้อ    “หล่อยัง”
      น้ำส้ม    “อืม  เพิ่งจะเคยเห็นดูดีก็วันเนี่ยแหละ”
      ป้อ    “จบกันซะที  ชีวิตนักศึกษา”
      น้ำส้ม    “^_^”
      ป้อ    “โอ้  แม่ครับ  จะไปไหนครับเนี่ย”
      น้ำส้ม    “แม่  โหจะไปรับมรดกหรือไง”
      แม่    “ไมหละ  แม่ตั้งใจไว้แล้ว”
      แม่เราเล่นแต่งตัวซะเต็มยศ  ยังกะคุณหญิง  หรือภริยาท่านเจ้าคุณที่ไหน
      น้ำส้ม    “เดี๋ยวนะ  มะขอกอดทีนึงก่อนนะ”
      แม่    “อื้ม...มาลูก  มากอดสองคนเลย  แม่ดีใจด้วยนะลูก”
      เรากะป้อไหว้แม่  และก็พากันขึ้นรถไปที่มหาลัยกัน
          “ยินดีด้วยนะครับ”
      เราหันไป  พร้อมความดีใจที่สุด  เด็กชายโต๋กำลังยื่นดอกไม้ช่อใหญ่ให้เด็กหญิงน้ำส้ม
      น้ำส้ม    “นึกว่าจะไม่มา”
      โต๋    “ไม่มาได้ไงหละ”
      ป้อ    “อ้าวไอ้โต๋  ถ่ายรูปคู่น้ำส้มหน่อย”
          พวกเราถ่ายรูปด้วยกัน  เก็บไว้หลายใบเลย  พี่สี่  เอฟ  เอ็ม  แล้วก็เพ  ทุกคนต่างมาแสดงความยินดีด้วย  จบแล้วซะที  มันก็งงเหมือนกัน  ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ต้องทำอะไร  เมื่อก่อนพรุ่งนี้  คือใส่ชุดนักศึกษาไปมหาลัย  ไปเรียน  ไปทำงาน  ไปทำกิจกรรม  แต่พรุ่งนี้จริง ๆ เราก็ทำได้แค่  มองชุดนักศึกษา  ใส่ชุดธรรมดา  ไปหางาน  ไปเดินเล่น  ไปดูอะไร ๆ ไปนั่งคิดอะไร  ไปอะไรดีหละ..........
      น้ำส้ม    “แม่  น้ำว่าเราไปอยู่ที่อื่นกันดีไหม”
      แม่    “ทำไมหละลูก  บ้านหลังนี้  ครอบครัวเราช่วยกันสร้างมา  แม่ไม่อยากทิ้งมันไปเลย”
      น้ำส้ม    “งั้นน้ำส้มขอเวลาเดือนหนึ่งได้ไหมแม่  ให้น้ำส้มไปหาอะไรบางอย่างที่มันขาดหายไป  ไปหาว่าน้ำส้มต้องการอะไร  ได้ไหม”
      แม่    “จะไปไหนน้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “ไปเรื่อย ๆ ที่ไหนก็ได้  แม่ให้น้ำส้มไปได้ไหม  อย่าบอกว่าน้ำส้มยังเด็กนะ  น้ำส้มจบปริญญาแล้วนะ  รู้แล้วว่าต้องทำตัวยังไง  ไม่ทำตัวเหลวไหลเหมือนเด็ก ๆ หรอกนะ”
      แม่    “ลองไปขอโต๋เอาเองเหอะ”
      น้ำส้ม    “ทำไมต้องไปขอเค้าด้วยหละ”
      แม่    “ก็เพราะว่าโต๋  เค้า............ไปถามเค้าเองดีกว่า”
      น้ำส้ม    “มีอะไรกันอะแม่”
      แม่    “...................”
      ที่บ้านโต๋
      น้ำส้ม    “น้าตาค่ะ  โต๋อยู่ไหม”
      น้าต๋า    “อยู่ในห้องหนะลูก  เดี๋ยวน้าไปข้างนอกก่อน  อืมเรียกมันออกมากินน้ำกินข้าวบ้างนะลูก  อยู่แต่ในห้องทั้งวัน”
      เราก็เลยแอบปีนเข้าไปที่หน้าต่างห้องโต๋  พอดีโต๋เปิดหน้าต่างเอาไว้
      โต๋นอนหลับอยู่บนเตียง  เราเลยเดินไปปิดพัดลมและก็เข้าไปแอบในห้องน้ำ
      โต๋    “................”
      น้ำส้ม    “..................”
      โต๋ลุกขึ้นมาเปิดพัดลม  และก็เดินเข้ามาในห้องน้ำอะ
      โต๋    “.........เฮ้ย.”
      น้ำส้ม    “..........ไอ้โต๋ ไอ้บ้าเอ๊ย  เข้ามาทำไมว๊ะ”
      โต๋    “เราน่าจะถามน้ำส้มมากกว่านะ  ไอ้เข้ามาทำไมอะ”
      น้ำส้ม    “โหย  อุตส่าจะมาแกล้งซะหน่อย”
      เราเลยเดินไปนั่งที่เตียงโต๋
      โต๋    “ไง  ไม่มีอะไรทำเหรอไง”
      น้ำส้ม    “ใครเค้าจะไปเก่งอย่างโต๋หละ  จบมาก็มีงานเข้ามาแย่งตัว”
      โต๋    “ช่วยไม่ได้อะนะ”
      น้ำส้ม    “แหวะ...”
      โต๋    “เออ  แล้วเข้ามาได้ไงเนี่ย”
      น้ำส้ม    “ปีนเข้ามา”
      โต๋    “จะมาทำไรเราอะ”
      น้ำส้ม    “เฮ้ย  จะบ้าไง  ใครเค้าจะไปทำลง”
      โต๋    “มีอะไรหละครับ  มาถึงห้องเนี่ย”
      น้ำส้ม    “ฟังนะ  เราขอแม่ไปอยู่ที่อื่น  ไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าที่ไหน  ไปหาตัวเอง  ไปเที่ยว  ไปหลายอย่าง  แต่แม่เค้าบอกว่าให้เรามาขอกะโต๋ก่อน  เราเลยงง  แม่เลยบอกว่าให้มาถามนาย  ว่าไง  มีอะไรกัน”
      โต๋    “ก็แม่เค้าก็คงห่วงน้ำส้มแหละมั๊ง ก็เลยโบยไปเรื่องอื่น”
      น้ำส้ม    “เหรอ  อืม”
      โต๋    “แล้วจะไปไหนหละ”
      น้ำส้ม    “ไม่รู้เหมือนกัน  แต่ว่าอยากไปเรื่อย ๆ ไม่ไหวเดี๋ยวก็กลับมาเอง  เราอะชวนแม่ไปด้วย  แต่แม่เค้าไม่อยากทิ้งบ้าน”
      โต๋    “ที่จริงอยู่ที่นี่ก็ได้  จะไปไหนทำไม”
      น้ำส้ม    “เราโตแล้วนะโต๋  เราอยากรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร  ที่นี่มันก็มีแต่อะไรเดิม ๆ ที่เราเห็น  ทีโต๋ยังไปเรียนไกล ๆ เลย”
      โต๋    “น้ำส้มเป็นผู้หญิงนะอย่าลืม  ไอ้ความคิดพวกเนี่ย  ไปเอามาจากพวกไอ้ป้อ  พวกเพื่อน ๆ หนะซิ”
      น้ำส้ม    “ใช่  แต่ว่าไม่เห็นเกี่ยวเลย  ยังไงเราก็จะไป”
      โต๋เดินเข้ามาใกล้ ๆ
      โต๋    “ฟังนะน้ำส้ม  ไม่  ให้  ไป  เข้าใจไหม”
      น้ำส้ม    “อะไรของนายเนี่ย  ไปดีกว่า”
      เราเลยจะเดินออกจากห้อง  แต่โต๋เข้ามาจับมือเราไว้
      โต๋    “ไม่ให้ไป  เข้าใจใช่ไหมน้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “โต๋ นายเป็นอะไรของนายไปฮะ  นายเคยห้ามเราได้เหรอ  นายเป็นแค่เพื่อนนะโว๊ย  ไม่ใช่แม่เรา”
      โต๋    “ก็เป็นห่วง  ไม่อยากให้ไป  แล้วไปที่ไหนก็ยังไม่รู้  ถ้าเกิดอะไรขึ้นใครจะช่วย  อย่านึกเอาแต่ตัวเองดิ  นึกถึงคนอื่นที่เค้าเป็นห่วงบ้าง”
      น้ำส้ม    “นายห่วงเราด้วยเหรอโต๋  เราว่านายเอาเวลาไปห่วงคนที่นายห่วงจริง ๆ ดีกว่า  เรากะนาย  มันก็พอ ๆ กัน  อย่าพูดอะไรเลย”
      โต๋    “ทำไมดื้ออย่างนี้ว๊ะ”
      น้ำส้ม    “......................”
      เราเลยเดินออกจากห้องโต๋ไป  กลับไปบ้าน
      แม่    “ไงน้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “แม่  น้ำส้มจะไปนะ  ไม่อยากอยู่แล้ว”
      แม่    “น้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “แม่ไปกะน้ำส้มนะ”
      แม่    “...............”
      น้ำส้ม    “ไอ้โต๋มันดุน้ำ  แม่ไปด่ามันด้วยนะ  น้ำส้มไม่ยอมหรอก”
      แม่    “ว่าแล้ว  ว่าต้องไปทะเลาะกันมาอีก  ทั้ง ๆ ที่จะหมั้นกันอยู่แล้ว”
      น้ำส้ม    “ใครแม่”
      แม่    “โต๋เค้ามาขอน้ำส้มไว้  ถ้าน้ำส้มเรียนจบ  เค้าจะหมั้น”
      น้ำส้ม    “....................”
      แม่    “น้ำส้มยังไม่รู้เหรอลูก”
      น้ำส้ม    “แม่เข้าใจผิดเปล่า”
      แม่    “ไว้ให้โต๋มาบอกเองดีกว่าไหม”
      เราเลยเดินขึ้นไปบนห้อง
      สักพัก  โต๋ก็เดินเข้ามาในห้อง  เราแปล ก ๆไป  มันก็งงอยู่เหมือนกัน  ไม่รู้จะอารมณ์ไหนดี  โต๋ก็เดินเข้ามาใกล้ ๆ
      น้ำส้ม    “อย่าพูดอะไรนะ”
      เรานั่งอยู่ในห้องกันประมาณ  7 นาที  โต๋ก็มองเรา  เราเองก็มองไปที่หน้าต่าง
      มันหาคำตอบอะไรให้ตัวเองไม่ได้  โต๋คิดยังไง  จะทำอะไร  เราเองมีอะไรที่ต้องทำอีก
      น้ำส้ม/โต๋    “โต๋   น้ำส้ม”
      โต๋    “เราไม่รู้ว่าจะพูดยังไงนะ  คือเราเอง  เราก็รู้ ว่าที่ผ่านมาเราเป็นไง  และเราก็รู้ว่าที่ผ่านมาน้ำส้มรู้สึกยังไง  มันจะสายไปไหม  ถ้าเราจะบอกน้ำส้มว่า”
      น้ำส้ม    “โต๋  เราเป็นเพื่อนกัน”
      โต๋    “....................”
      น้ำส้ม    “มันไม่สนุกเลยนะโว๊ยโต๋  นายเห็นเราเป็นไรฮะ  เดี๋ยวก็ดี  เดี๋ยวก็อยากให้ไปไกล ๆ เราทนไม่ไหวแล้วนะ”
      โต๋    “น้ำส้ม  เราชอบน้ำส้ม”
      น้ำส้มยัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋า  จนถึงชุดสุดท้าย  เสื้อสีฟ้า  กระโปรงสีขาวของโต๋  โต๋หันมามองน้ำส้ม  น้ำส้มกอดชุดนั้นไว้และร้องไห้ออกมา
      น้ำส้ม    “เพื่อนสนิทเราชื่อโต๋”
      โต๋    “.........................”
          .............................................
          ตอนนี้เวลาผ่านไปแล้ว  3  เดือน  ชีวิตก็ยังคงดำเนินไปอย่างไร้จุดหมายเรื่อย ๆ เปิดตัวเองให้กว้าง  ไม่เคยมองอะไรที่ผ่านมา  ทำไมถึงเป็นไปได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้  
          “เวลาผ่านไปวัน ๆ ผมทำงาน  ทำงาน  และก็ทำงาน  อาจจะเพราะว่าเริ่มเข้าการทำงาน  ก็ต้องขยันหน่อย  ชีวิตผมเองก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย  ที่ผมรู้บนหัวเตียงผม  มีรูปเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมแอบรักเธอมาตลอด  แต่เพียงเพราะคำว่าเพื่อนสนิท  ทำให้ผมไม่กล้าคิดกะเธอเกินนี้จริง ๆ “
      น้ำส้ม    “แม่ค่ะ  ทำอะไรอยู่”
      แม่    “แม่กำลังจะออกไปซื้อของหนะ  น้ำส้ม”
      น้ำส้ม    “พรุ่งนี้น้ำส้มจะกลับบ้านนะ”
      แม่    “แล้วแม่จะพาไปเลี้ยงข้าว”
      น้ำส้ม    “ค่ะ”
      แม่    “น้ำส้ม  เป็นอะไรหรือเปล่าลูก”
      น้ำส้ม    “เปล่าค่ะ”
      แม่    “กลับมาเร็ว ๆ นะ  แม่อยากเห็นหน้าลูกสาวจะแย่แล้ว”
      น้ำส้ม    “น้ำส้มคิดถึงแม่นะ”
      แม่    “จ๊ะลูก”
          
      โต๋    “พรุ่งนี้  ผมขอลางานวันหนึ่งนะ”
      พี่ชัย    “อ้าว  มีธุระอะไรหรือเปล่า”
      โต๋    “เปล่าครับ  ผมอยากไปพัก”
      พี่ชัย    “พี่ให้สองวันเลย  แต่ว่ากลับมาเอาอะไรดี ๆ มาฝากบ้างนะไอ้น้อง”
      โต๋    “ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนเลยพี่”

      เย็นวันหนึ่ง
      โต๋    “น้าครับ  แม่ให้เอากล้วยมาให้ฮะ”
      แม่    “โห  กล้วย  แม่เค้าไปเอามาจากไหนลูก”
      โต๋    “ซื้อมามั๊งฮะ  มะเดี๋ยวผมเอาไปเก็บให้”
      แม่    “ไว้ที่ครัวหนะลูก”
      น้ำส้ม/โต๋    “...........................”
      โต๋เอากล้วยวางไว้  และก็กางแขนออก  พร้อมยิ้มน่ารัก ๆ
      น้ำส้ม    “..................”
          “คำว่า เพื่อนสนิท  ยังตราตรึง อยู่ทุกช่วงของชีวิต  เด็กหญิงน้ำส้ม  เด็กชายโต๋  จะยังเป็นอย่างนั้น ตลอดไป  แม้วันหนึ่งจะไม่มีใครสักคน  แม้ว่าวันหนึ่งจะขาดใครสักคนไป  แต่อย่างน้อย  เรื่องราวของคนอีกคน  จะอยู่ในความทรงจำของอีกคนหนึ่งเสมอ ไปจนตาย  เพราะเพื่อนสนิท  มีเพียงคนเดียวในโลก  แต่เพื่อนสนิทของฉัน  คือ โต๋”
      โต๋    “น้ำส้ม  เก็บบอลให้หน่อย”
      น้ำส้ม    “........................”

      เสื้อสีฟ้า  กระโปรงสีขาว
      กำไลเด็กผู้หญิง+ผู้ชายกอดคอกัน
      โคมไฟผ้า  กระเป๋า
      กระจกที่เขียนคำว่า  “น้ำส้ม”
      รูปถ่ายคู่กันตอนอนุบาลถึงวันรับปริญญา
      ทางกลับบ้านทางเดิม.........

          “ไม่รู้ว่าตอนนี้โต๋จะเป็นไงบ้าง  แต่ความทรงจำที่นายทิ้งไว้ให้เรา  มันมีค่ามาก  นายทำให้เราได้รู้จักกับคำว่า  เพื่อนสนิท  ให้เราได้รู้จักนาย  เราไม่รู้จะบอกอะไรไปมากกว่าคำว่าขอบคุณ  ขอบคุณที่ให้โอกาสเรารู้จักกะนาย  ให้เรากอดคอเดินไปเพื่อกลับบ้านด้วยกัน  ให้จับมือข้ามถนนตอนรถเยอะ ๆ  ถ้าชีวิตนี้เราไม่ได้เจอนาย  เราก็ยังไม่รู้เลยว่าชีวิตจะได้มีเรื่องราวที่มีค่าที่ไหนมาเก็บไว้อย่างนี้  คำว่าครั้งหนึ่งของความทรงจำ  เรายกให้นาย   เราคิดถึงนายหวะโต๋..................”

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×