บ้าน……แห่งความรัก - บ้าน……แห่งความรัก นิยาย บ้าน……แห่งความรัก : Dek-D.com - Writer

    บ้าน……แห่งความรัก

    เรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกๆคน.แต่เราจะฟันฝ่ามันไปได้อย่างแน่นอน เพียงแค่เราจะต้องเป็นกำลังใจให้กับตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง และคิดว่าชีวิตย่อมมีขึ้นๆลงๆอย่างนี้แหละ

    ผู้เข้าชมรวม

    307

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    307

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 ส.ค. 47 / 01:49 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกๆคน….แต่เราจะฟันฝ่ามันไปได้อย่างแน่นอน เพียงแค่เราจะต้องเป็นกำลังใจให้กับตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง และคิดว่าชีวิตย่อมมีขึ้นๆลงๆอย่างนี้แหละ จากคนที่มีเพื่อนมากมาย ต้องกลับกลายเป็นแทบไม่เหลือเพื่อนไว้เลย มันเป็นไปได้อย่างไร พวกเขาหรือฉันกันที่ผิด…….เพราะอะไรตอบฉันที

                 วันนั้นฉันจำได้ว่าเป็นวันที่ฉันตื่นเต้นมากๆเลยกับการได้มาอยู่ที่มหาวิทยาลัย อาจจะเป็นเพราะว่าฉันไม่เคยห่างบ้านไปที่ไหนไกลๆ พ่อกับแม่ห่วงฉันมาก จนบางครั้งฉันรู้สึกรำคาญ และเบื่อมากๆ วันนี้เขาก็มาส่งฉัน เราต้องช่วยกันขนของขึ้นหอพัก ที่หอพักของมหาวิทยาลัยก็เป็นหอเล็กๆ และเป็นหอเก่า แต่ฉันไม่เกี่ยงอยู่แล้วเพราะฉันเป็นคนไม่เรื่องมาก และการได้อยู่ห่างจากบ้านนั้นมันทำให้ฉันคิดว่า “ฉันได้รับอิสระอย่างเต็มที่”

                  ตอนนั้นมีการรับน้องกัน ฉันก็ไปร่วมรับน้องกับเขาด้วย แต่ในกลุ่มพี่ว๊าก จะมีพี่อยู่คนหนึ่งมาชอบพอฉัน เขาไม่ได้เป็นพี่ว๊ากนะ แต่เขาเป็นเพื่อนๆกัน เขาคอยมารับมาส่งฉัน ที่เอเป็นคนสุภาพพูดน้อย ฉันชอบเขาตรงนี้แหละ  ประกอบกับฉันเป็นคนที่หน้าตาดีระดับนางนพมาศของตำบลเชียวนะ  ฉันก็ลองคบกับพี่เขา ตอนนั้นมีเด็กปีเดียวกันมาชอบพี่เอเช่นกัน ฉันรู้สึกได้ว่าฉันถูกเขม่น  ยิ่งเพื่อนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มค่อนข้างใหญ่พอสมควร
                  เขาไปปล่อยข่าวว่าฉันชอบปล่อยตัว ชอบอ่อยเหยื่อ อะไรทำนองนั้นแหละ  แต่ฉันไม่สนหรอก  ยิ่งในตอนที่ทำกิจกรรมฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มีคนอยากจะพูดกับฉันซักเท่าไหร่นัก  ทั้งๆที่ฉันก็คุยตามปกติ  อาจเป็นเพราะว่าฉันไม่ค่อยไปไหนมาไหนกับเพื่อนก็เป็นได้  ดังนั้นฉันจึงห่างๆกิจกรรมออกไป  นานๆทีถึงจะมาร่วม  เพราะไม่มีใครอยากจะพูดกับฉันมากนัก  

                 จนกระทั่งวันหนึ่งมีการปิดว๊าก วันนั้นฉันไปร่วมปิดว๊ากด้วย พี่ก็ให้พูดถึงความในใจของรุ่นน้อง โดยให้ตัวแทนน้องปี 1 เป็นคนพูด
      “เอาล่ะครับน้องๆทีนี้ ก็เป็นความรู้สึกของน้องๆที่มีต่อพวกพี่และคณะของเรานะครับ  ขอให้น้องส่งตัวแทนมาพูดด้วยนะครับ”  หลังจากรุ่นพี่พูดเสร็จ  เพื่อนของฉันคนที่ชอบพี่เอก็ออกไปพูด
              “ค่ะหนูก็ขอขอบคุณพี่ทุกๆคนนะคะ พวกเราทุกๆคนรู้สึกอบอุ่นมากที่ได้เรียนที่คณะนี้  รวมทั้งอาจารย์ ก็ให้ความเป็นกันเองกับพวกเรามากค่ะ…………………………………..”  เพื่อนฉันเขาพูดไปเรื่อยๆจนกระทั่งประโยคสุดท้ายที่ทำให้ฉันต้อง หน้าชาไปเลยเขากล่าวว่า
              “ค่ะและสุดท้ายนี้เรามีเรื่องร้องเรียนจากเพื่อนชั้นปีเดียวกันนี้ว่า  เรารู้ว่ามีเพื่อนของเราคนนึงค่ะที่ไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควรค่ะคือ…ญาดา…พวกเราไม่ทราบว่าทำไมเขาถึงต้องทำตัวเป็น V.I.P.ด้วยก็ไม่ทราบค่ะ  กิจกรรมก็ไม่ค่อยมาร่วม………………………..” ตอนนั้นฉันจำได้แต่ว่า เขาเอ่ยชื่อฉัน  เขาหักหน้าฉันต่อทุกคน  ฉันไม่สามารถฟังประโยคต่อไปได้อีก เพราะเสียงอื้ออึงจากเพื่อนในห้องดังขึ้น

          ฉันเดินออกมาหลังจากประชุมเสร็จ  ฉันเห็นแต่ละคนมองฉันแต่ก็เมินหน้าหนีไป
          นับแต่วันนั้นฉันก็เข้าหน้ากับเพื่อนไม่ติด  ไม่ค่อยมีคนอยากคุยด้วยเลย งานกลุ่มก็ไม่มีใครอยากเอาเข้ากลุ่มด้วย  ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าฉันไปทำอะไรห้กับพวกเขาที่เหลืออยู่อย่างนั้นหรือ
      ฉันมานั่งทบทวนดูการกระทำของฉันเอง  ฉันก็ร่วมกิจกรรมนี่นาถึงแม้จะไม่ทุกครั้ง  ฉันก็แค่เป็นแฟนกับคนคนเดียวกับที่เพื่อนคนที่เป็น หัวหน้าเอกชอบ  อาจเป็นเพราะว่าช่วงที่ฉันไม่ไปร่วมกิจกรรมนั้นเขาจะส่ไฟฉันน่าดู  ฉันไม่เคยทำอะไรเขาเลย  คนอื่นๆที่ไม่ร่วมกิจกรรมก็มีเยอะนี่นา  หรือว่า เด็กปี 1 ห้ามมีแฟน ฉันก็เฝ้าแต่ปลอบใจตัวเองว่า เขาอิจฉาฉันถึงแทงข้างหลังฉันอย่างนี้
      เท่านั้นไม่พอ  เขายังโทรไปบอกเพื่อนฉันคนหนึ่งที่ฉันคบอยู่ว่า    ให้ระวังฉัน ฉันไม่ได้ดีอย่างที่คิด
      อะไรกันนี่  ฉันไปทำอะไรให้เขามากมายหรือ  นับจากวันนั้นฉันก็ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครคุยตอบ  แม้จะตอบก็เหมือนขอไปที

          สังคมไทยหรือนี่  ไม่มีใครกล้าคุยกับฉันเพียงเพราะกลัวว่าจะถูกเกลียดไปด้วย  แม้แต่เพื่อนคนที่ฉันไปช่วยเขาขนของเข้าหอ  และช่วยเข็นรถไปซ่อม ยังไม่คบฉันเลย
          ในตอนนั้นฉันรู้สึกว่าฉันท้อแท้มาก  ไม่มีกำลังใจในการเรียน  ฉันร้องให้ทุกคืน  ฉันไม่กล้าบอกพ่อ กับแม่ เพราะฉันกลัวว่าเขาจะเป็นกังวลกับฉัน  จนมันมาถึงวันหนึ่งฉันทนไม่ไหว  ฉันกดดันมาก  ร้องไห้พรั่งพรูออกมาขณะที่โทรกลับบ้าน  วันนั้นฉันตัดสินใจลาออก  ไปเอนทรานส์ใหม่  ฉันยอมรับว่าฉันเสียใจมากที่ฉันทนอยู่ไม่ได้
          เมื่อกลับมาบ้าน  ฉันก็ได้รู้ว่าคนนั้นมีหลายแบบ  เราต้องเรียนรู้สังคมนั้นๆให้ดี  แต่ณ เวลานี้ฉันมีพ่อกับแม่คอยปลอบใจ  ฉันรู้สึกอบอุ่นมาก  ฉันรู้ซึ้งได้ในตอนนั้นว่า แม้ใครจะทำอะไร หรือคอยซ้ำเติมฉันอย่างไรก็มีเพียงพ่อกับแม่เท่านั้นที่อยู่ข้างฉันเสมอมา


                                   วันนี้ฉันอยากพูดว่า  “บ้านของเราคือสถานที่ที่มีความสุขที่สุดสำหรับหนูค่ะ หนูรักพ่อกับแม่มากค่ะ”

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×