เรื่องสั้น : ลูกโซ่แห่งความตาย
           
            สำนักงานใหญ่ อะไรก็ดูยุ่งเหยิงไปหมด ผู้คนที่เดินชนกันวุ่นวาย กระดาษ เอกสารอะไรต่อมิอะไร ทำให้บ่ายวันนี้ กนกพรรู้สึกไม่สบาย มันไม่ใช่การไม่สบายเหมือนที่เธอเคยเป็นมาเลย
            การขอตัวพักกับหัวหน้าแผนกไม่ยากนัก หลังจากที่หัวหน้าได้เช็คเวลาขาดที่ไม่มีเลยในรอบปีที่ผ่านมา กนกพรจึงได้ขอตัวกลับไปพักผ่อนที่บ้าน เธอคิดว่ามันคงไม่ร้ายแรงนัก
            เธอเดินออกจากออฟฟิศและตรงไปยังรถยนต์ที่ลานจอดรถ อากาศช่างเย็นอะไรเช่นนี้ เธอรู้สึกเย็นวูบเข้ากลางสันหลังแต่ก็ไม่ได้สนใจนัก เมื่อสตาร์ทรถ ก็กลับไม่ติด รถเธอไม่เคยดื้อแบบนี้มาก่อนนิ เป็นรุ่นใหม่ที่เธอพึ่งซื้อมาไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ
            “ให้ผมช่วยไหมครับ ?” ชายหนุ่มยื่นหน้ามาช่วย เขาอาจจะคิดว่าตัวเองหล่อเหลาพอที่จะเข้าไปช่วยใครๆโดยเฉพาะผู้หญิงได้ ซึ่งก็ไม่ได้หลงตัวเองหรอก เขาดูดีจริงๆ
            กนกพรยังไม่ทันขานรับ รถเธอก็ติดขึ้นมาจนได้ “คงไม่ต้องแล้ว ขอบคุณค่ะ”เธอกล่าวผ่านกระจกรถและขับออกไป
            ระหว่างเธอขับรถแล่นผ่านถนนในช่วงบ่ายนี่เอง เธอก็ได้พบกับผู้ประสบอุบัติเหตุต่อหน้าต่อตา รถมอเตอร์ไซต์ขับเบียดกับรถยนต์และแซงออกไปทางโค้งได้ รถที่สวนมาฝ่าไฟแดงพุ่งชนเข้าอย่างจัง คนขับมอเตอร์ไซต์ลื่นตัวออกมาไถกับพื้นถนน เป็นจังหวะเดียวกับรถบรรทุกสิบล้อผ่านมา...
            ติดตา
            มันขยายม่านตาที่งัวเงียของเธอได้มากขึ้น ไม่งั้นเธอคงจะประสบอุบัติเหตุเช่นเดียวกัน แต่มันก็ยังติดตาเธอไม่หาย เลือดที่พุ่งฉีดออกมาจากผิวหนังที่ไปครูดกับเครื่องยนต์ เสียงกระดูกหักกร้อบๆ ที่ติดหู
            เมื่อเธอกลับถึงบ้านก็ไม่ลืมแวะทักทายน้องชายที่นอนเล่นอยู่ และเข้าไปนอนพัก
            น้องชายดูท่าทีแล้วเห็นว่าพี่คงไม่สบายแน่จึงตามไปที่ห้องและนำยาไปให้
            “ถ้าเย็นนี้พี่ยังไม่หายก็ไปหาหมอนะ อ่ะนี่ มีบัตรเชิญถึงพี่ มาจากปู่”
            เธอรับมาด้วยท่าทางอ่อนเพลีย และหลับไป..
           
            เมื่อกนกพรตื่นขึ้นในเวลาค่ำๆ ตายังไม่ค่อยสว่างนักเพราะยังมึนอยู่บ้าง เธอไม่พบน้องชายแต่พบข้อความทิ้งไว้
            “พี่คงอ่านบัตรเชิญแล้วนะ ผมไปก่อนละ ถ้าพี่ไม่ตามมาก็โทรมาบอกด้วย”
            แล้วนี่ ถ้าฉันไม่สบายนักที่เธอบอกจะพาไปหาหมอ มันหมายความว่าไง ..เธอพรํ่าบ่นในใจ และเปิดบัตรเชิญขึ้นมาดู เป็นคำเชิญไปร่วมงานแทนปู่ จะมีญาติๆและคนรู้จักมาสังสรรค์กัน คนจัดนั้นเธอก็ร็จักสนิทสนมด้วยกันดี     
            เธอคว้ารถใหม่ ออกไปตามสถานที่ในบัตรเชิญ และเมื่อถึง เธอก็ลืมที่จะต่อว่าน้องชาย เพราะน้องชายได้รีบแนะนำให้รู้จักกับชายคนหนึ่ง ชายคนที่อาสามาช่วยเธอตอนสตาร์ทรถไม่ติดนั่นไง
            “อ๋อ คุณนั่นเอง..”เขาไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น เพียงแค่บอกชื่อ
            หลังจากที่แนะนำตัวกันเสร็จ ตามประสาหนุ่มงามที่น่าจะดูท่าทางออก ได้เชิญชวนกนกพรไปดื่มบริเวณดาดฟ้าของตึกที่จัดงาน
            บรรยากาศช่างดูโรแมนติกเสียจริง มีเขาและเธอเพียงสองคน กับบ๋อยที่มาเป็นพักๆ
            ทั้งสองคุยกันทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องความคิด ความรู้สึก
            ระหว่างนั้นน้องชายก็เดินมาบอกขอตัวกลับก่อน เพราะคนในงานก็เริ่มกลับกันหมด แต่เขาและเธอก็ยังนั่งคุยกันต่อ         
                             
            จนชายหนุ่มเริ่มเมาได้ที่..
            เขาเริ่มพร่ำเพ้อถึงเรื่องที่ญาติเขาเสีย กนกพรเองก็ได้แต่คอยเสียใจด้วย เขาพูดมาเรื่อยจนเริ่มร้องไห้ ไล่จากญาติมาถึง พ่อ แม่ และน้องสาว ทุกคนตายหมด และไล่เลี่ยกันเสียด้วย
            เขาเริ่มระบายความในใจออกมาเรื่อยๆ
            เขาบอกว่าเขากำลังจะตาย ความตายมันเป็นห่วงโซ่ ไล่มาจากญาติทางสายพันธ์ มาจนถึง น้องสาว และมันกำลังคืบคลานมาที่ ตัวเขาเอง..
            กนกพรลุกขึ้น เธอเริ่มคิดว่าเขาเป็นโรคประสาทหรืออะไรสักอย่าง
            “คุณไม่เชื่อผมสินะ”เขาร้องอย่างอ้อนวอน
            “น้องชายไม่แท้ของผมพึ่งมอเตอร์ไซต์ล้มเมื่อตอนบ่ายนี่เอง”เขากล่าวเน้นเสียง
            เธอนึกถึงภาพที่เห็นเมื่อตอนบ่าย และเริ่มหยิบข้าวของไปจากที่นี่
            ..ปล่อยให้ชายหนุ่มร้องโอดโอยอยู่คนเดียว
            เธอลุกออกไปไม่กี่ก้าว ชายหนุ่มก็พูดต่อ
            “ผมเป็นญาติกับคุณ ผมเป็นลูกเมียน้อยพ่อคุณ ไม่เชื่อไปถามพ่อคุณสิ เอ๊ะ.. แต่ผมรู้นะว่าพ่อคุณเสียไปแล้ว เพียงแค่ผมไม่ได้ไปงานศพ”       
            “คุณกำลังโกหกฉันอยู่”เธอกล่าวอย่างหวาดกลัวเล็กน้อย สันหลังเธอเย็นวูบวาบอีกครั้ง โทรศัพท์ดังเข้ามา เมื่อรับแล้ว เธอก็ทรุดตัวลง ตำรวจโทรมาบอกว่า น้องชายเธอ ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต..
            เธอกำลังช็อค หันไปมองชายหนุ่ม
            เขาฟุบลงบนโต๊ะ หันหน้ามาทางเธอ ตาแทบถลนออกมาจากเบ้า น้ำลายฟูมปาก เขาคงเมาค้างจนตาย
            ลมวูบวาบพัดมาที่หลังเธออีกครั้ง อีกครั้ง
            อีก.. ครั้ง...
            “กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
----------------------------------------------------------------
กรกฎาคม 2545
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย