>>> > > >\"ลองอ่านดูสิ ใช้เวลาไม่มากหรอกจ้ะ แค่ 37 วินาทีเอง
>>> > > >แต่ผลของมันจะอยู่กับเธอนานมาก ๆ เลย\"
>>> > > >
>>> > > >เรื่องมีอยู่ว่า ....
>>> > > >
>>> > > >มีชาย 2 คน ป่วยหนักทั้งคู่
>>> > > >และเผอิญอยู่โรงพยาบาลเดียวกัน ในห้องเดียวกัน
>>> > > >ชายคนแรกจะต้องลุกขึ้น นั่งบนเตียงวันละ 1
>>>ชั่วโมงทุกบ่าย
>>> > > >เพื่อให้ของเหลวไม่ท่วมปอด
>>> > > >ในขณะที่ชายคนที่สองจะต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา
>>> > > >
>>> > > >ชายคนแรกได้นอนติดหน้าต่างซึ่งมีอยู่บานเดียวในห้องนั้น
>>> > > >ทั้งสองคนใช้เวลาส่วนใหญ่พูดคุยกันในเกือบทุกเรื่อง
>>> > > >ทั้งเรื่องครอบครัว ภรรยา บ้าน ที่ทำงาน
>>> > > >ตอนไปเกณฑ์ทหาร เวลาไปเที่ยวพักร้อน....
>>> > > >ช่วงเวลา 1 ชั่วโมงทุกๆ บ่าย
>>> > > >เมื่อชายคนแรกได้ลุกขึ้นนั่งนั้น
>>เขาจะเล่าให้ชายคนที่สองฟังถึงสิ่งต่าง ๆ
>>> > > >ที่เขาได้เห็นจากหน้าต่างบานนั้น
>>> > > >
>>> > > >นานวันเข้า โดยไม่รู้ตัว ชายคนที่สองก็รอคอยช่วงเวลา 1
>>ชั่วโมงนั้นทุกวัน
>>> > > >เพราะเป็นช่วงเวลา
>>> > > >ที่เขา จะได้รับรู้ถึงความสนุกสนาน
>>ความรื่นเริงและสีสันของโลกภายนอก
>>> > > >นอกห้องของคนป่วย ที่เขาต้องทน นอนอยู่เฉยๆ
>>> > > >
>>> > > >มองจากหน้าต่าง จะมีสวนสาธารณะ
>>> > > >ซึ่งตรงกลางมีบึงใหญ่ มีเป็ดและหงส์ว่ายน้ำไปมา
>>> > > >เด็กๆ ก็มาเล่นเรือ ลำเล็กๆ ที่บึงนี้
>>> > > >รอบๆ สวนเต็มไปด้วยแปลงดอกไม้หลากสีสัน
>>> > > >คู่รักมาเดินเล่นพูดคุยกันอย่างมีความสุข
>>> > >
>>> >มองออกไปไกลๆก็จะเห็นเส้นขอบฟ้าที่ตัดกับตึกระฟ้าของเมือง
>>> > > >
>>> > > >ทุกๆ
>>>ครั้งที่ชายคนแรกบรรยายสิ่งที่เขาได้เห็นจากหน้าต่างนั้น
>>> > > >ชายคนที่สองก็จะหลับตา
>>> > > >และจินตนาการ ถึงภาพต่างๆ ไปด้วยเสมอ
>>> > > >แม้กระทั่งในบ่ายวันหนึ่งที่ชายคนแรกเล่าให้ฟังว่า
>>> > >
>>>มีขบวนพาเหรดผ่านไปชายคนที่สองก็เห็นภาพผู้คนในขบวนพาเหรดในชุดหลากสีสัน
>>> > > >เดินตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน
>>แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงเพลงเลยแม้แต่น้อย
>>> > > >
>>> > > >เวลาผ่านไป
>>>เช้าวันหนึ่งเมื่อพยาบาลจะเข้ามาเช็ดตัวตามปกติก็พบว่า
>>> > > >ชายคนแรกได้จากไปแล้วอย่างสงบ
>>> > > >ไม่นานนัก
>>ชายคนที่สองก็ได้ขอร้องกับพยาบาลให้เขาย้ายไปนอนติดกับหน้าต่างแทน
>>> > > >ซึ่งเธอก็ไม่ขัดข้อง
>>> > > >
>>> > > >เมื่อย้ายเตียงเรียบร้อยแล้ว ชายคนแรกก็ค่อยๆ ขยับตัว
>>> > > >ถึงแม้จะเจ็บเขาก็พยายามยันข้อศอกขึ้น
>>> > > >เขาต้องการจะเห็นสิ่งที่เขาได้รับฟังมาตลอดจากชายคนแรก
>>> > > >สิ่งต่างๆ ที่อยู่นอกหน้าต่างนั้น
>>> > > >
>>> > > >ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ เขามองออกไปนอกหน้าต่าง
>>> > > >สิ่งที่เขาเห็นคือกำแพงที่ว่างเปล่า
>>> > > >
>>> > >
>>>เขาไม่รีรอที่จะถามกับพยาบาลด้วยความสงสัยว่าทำไมชายคนแรกถึงได้เล่าให้เขาฟัง
>>> > > >ถึงสิ่งสวยงามต่างๆ
>>ที่เกิดขึ้นนอกหน้าต่างนั้นตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
>>> >พยาบาลบอกให้เขาทราบว่าชายคนแรกนั้นตาบอดและเขามองไม่เห็นอะไรเลย
>>> > > >แม้กระทั่งกำแพงนั้น
>>>\"บางทีเขาแค่อาจจะอยากคอยให้กำลังใจคุณนะคะ\"
>>> > > >.................................
>>> > > >ในการทำให้ผู้อื่นมีความสุขนั้น
>>>ก่อให้เกิดความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่า
>>> > > >There is tremendous happiness in making others happy
>>> > > >
>>> > >
>>> >ความเศร้าหมองเมื่อได้รับการแบ่งเบาจะบรรเทาไปได้ครึ่งหนึ่ง
>>> > > >แต่ความสุขเมื่อได้ถูกแบ่งปันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
>>> > > >Shared grief is half the sorrow, but happiness when
>>>shared, is
>>> doubled.
>>> > > >
>>> > > >หากคุณอยากจะร่ำรวย
>>> > > >ให้ลองนับสิ่งที่คุณมีที่เงินไม่อาจซื้อได้
>>> > > >If you want to feel rich,
>>> > > >just count all the things you have that money can\'t
>>>buy.
>>> > > >
>>> > > >ผู้คนอาจจะลืมในสิ่งที่คุณได้พูด
>>> > > >อาจจะลืมในสิ่งที่คุณได้ทำ
>>> > > >แต่จะไม่เคยลืมว่าคุณได้เคยทำให้เขารู้สึกอย่างไร
>>> > > >ดังนั้น จงอย่ารีรอที่จะทำให้เขามีความสุข
>>> > > >แบ่งปันความสุขและเรื่องราวดี ๆ วันนี้
>>> > > >People will forget what you said...
>>> > > >People will forget what you did...
>>> > > >But people will never forget how you made them
>>>feel......
>>> > > >Make someone happy, share a kind word today.
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น