บางคน...เลือกที่จะถูกรัก
บางคน...เลือกที่จะค้นหาคนที่คิดว่าเกิดมาเพื่อกันและกัน
บางคน...เลือกที่จะได้รัก
หรือบางคนขอเพียงแค่รู้ว่าเรารักใคร ก่อนที่จะสาย
บางคน...เช่นฉัน
ฉันมองขึ้นไปบนท้องฟ้าขมุกขมัว ฝนใกล้จะตกเต็มที  ฉันไม่สนใจผู้คนเหล่านั้นที่วิ่งหนีฝน  ไม่สนใจเสียงฟ้าคะนอง ไม่สนใจเม็ดฝนเย็นๆที่หยดลงมาพร้อมชะล้างคราบน้ำตาของฉัน ความคิดของฉันในตอนนี้สับสนวุ่นวาย ฉันไม่สามารถลืม
เขา
นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน ชีวิตของฉันยังดำเนินไปอย่างปกติ เฮฮา หัวเราะกับเพื่อน  ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเขา เขา...ที่ทำดีกับฉันทุกอย่าง เขา...ที่เห็นคุณค่าของฉัน เขา...ที่เข้าใจฉัน  เขา...ที่รักฉัน
ฉันกับเขาคบกันมานานหลายปี เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนสนิท  พ่อแม่ของฉันรู้จักเขาดีและพวกท่านก็ไว้ใจเขา  เขาดูแลฉันในทุกๆเรื่อง เวลาที่ฉันออกนอกลู่นอกทาง ก็มีเขาช่วยตักเตือน เวลาไม่มีใคร เขาเท่านั้นคอยปลอบโยน
จนวันหนึ่ง ขณะนั้นฉันศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง  วันหนึ่งที่เขาย้ายโรงเรียน และเราเริ่มห่างไกลกันมากขึ้น แต่เราก็ยังติดต่อกันอยู่ทุกวัน ส่วนมากเขามักจะปรึกษาฉันเรื่องที่เขาแอบชอบเด็กสาวหน้าตาน่ารักที่โรงเรียนของเขา ฉันก็มักให้คำปรึกษาเขาไปอย่างเต็มใจ โดยไม่รูสึกผิดแปลกอะไรแม้แต่น้อย  เหตุการณ์ดำเนินเช่นนี้เรื่อยมา
จนถึงวันคล้ายวันเกิดของฉัน เขาคือคนแรกที่ฉันนึกถึง ว่าฉันจะได้คำอวยพรอย่างไรจากเขา เขาจะให้อะไรฉัน ฉันรอรับโทรศัพท์จากเขา คอยเงี่ยหูฟังเสียงออดหน้าบ้าน ในวันนั้น ไม่มีใคร...คนที่ฉันรอ
ฉันโกรธเขามาก และในวันรุ่งขึ้นทั้งวันฉันไม่เป็นอันเรียน ในใจคิดแต่ว่า ทำไมเธอถึงลืมฉัน ลืมเพื่อนคนนี้ของเธอ จนกระทั่งกลับบ้านฉันตั้งใจจะไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าเล่นกับเพื่อนในกลุ่ม  แล้วฉันก็เจอคนที่ไม่คาดคิด เขา...กับเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักที่ฉันคาดว่าเป็นคนที่เขาเล่าให้ฟัง ทั้งคู่แสดงอากัปกิริยาเช่นคนรักกัน ในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที ฉันทิ้งกระเป๋า แล้วเข้าไปตบหน้าเขาเข้าอย่างแรง ฉันคิดแต่ว่า นายมันคนไม่ดี พอมีคนรักแล้วกลับลืมฉัน ฉันไม่มีความสำคัญกับนายเลยใช่มั้ย คนบ้า “นายมันบัดซบที่สุด” ฉันพูดในขณะที่ทิ้งมือข้างที่ตบเขามาอยู่ข้างลำตัว น้ำตาฉันคลอเบ้า ฉันวิ่งไปเรื่อยๆให้พ้นจากเขา ฉันก็ไม่อาจบอกได้เหมือนกัน ว่าทำไมฉันถึงเสียใจขนาดนี้ เพราะเขาลืมฉันที่เป็นเพื่อนสนิท หรือมีเหตุผลอื่นกันแน่
ขณะฉันวิ่งออกมาเขาก็วิ่งตามฉันออกมาเช่นกันโดยที่ฉันไม่ทันสังเกต ฉันวิ่งมาถึงทางเท้าหน้าห้างฯ เขาพยายามฉุดฉันเอาไว้ เขาพยายามจะอธิบายอะไรบางอย่างกับฉัน แต่ฉันไม่ต้องการรับรู้อะไรเกี่ยวกับเขาอีกแล้ว ฉันสะบัดแขนออกจากมือของเขา แล้วเผลอกระแทกเขาล้มลง เขาล้มลงไปกับพื้นถนน แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น รถที่ออกมาฝ่าไฟแดงพุ่งชนเขาอย่างจัง ฉันได้แต่ยืนแน่นิ่ง ทำอะไรไม่ถูก น้ำตาค่อยๆพรั่งพรูออกมา ฉันไม่คิดจะให้มันเป็นแบบนี้เลย  ฉันได้แต่คร่ำครวญว่า “เธออย่าเป็นอะไรนะ เธอต้องอยู่กับฉัน เราเป็นเพื่อนรักกันนะ เธอต้องไม่ทิ้งฉันไปสิ ไม่นะ ฮือออๆๆๆ”
มันเป็นความผิดของฉันเองทั้งหมด ฉันไม่น่าทำกับเขาอย่างนั้น ฉันไม่น่าโมโหเขา เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แล้วทำไมฉันถึงทำรุนแรงอย่างนั้นนะ หรือฉัน ...หรือฉันรักเขา ฉันรักเขามาโดยตลอด ฉันนี่ช่างเป็นยัยผู้หญิงโง่จริงๆ แม้แต่ความรู้สึกตัวเองยังไม่รู้  ฉันได้แต่คิดโทษตัวเองอย่างนี้ซ้ำไปซ้ำมา การกระทำเมื่อกี้เหมือนกับฉายภาพซ้ำอยู่เรื่อยๆ ฉันไม่ได้ทำร้ายแค่ความรู้สึกของเขา หรือ ของตัวเอง ช่วงเวลาสั้นๆแค่นั้น ฉันอาจทำร้ายแม้กระทั่งมิตรภาพที่มีให้กันมาเป็น 10 ปี
ตอนนี้ฉันเอาแต่คิดวนเวียนถึงเรื่องของเขาอยู่  จนกระทั่งฉันได้ยินเสียงริงโทนเพลง Breaking The Habit ที่ฉันตั้งเอาไว้ เพลงบรรเลงจนใกล้จะจบเต็มที  ฉันล้วงหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากระโปรง  เบอร์ที่โชว์เป็นเบอร์ของอุ๋ม เพื่อนสนิทของฉันเอง
“ดี ไง มีไรหรอ”ฉันทักทายด้วยเสียงหมดอาลัยตายอยาก
“เฮ้ยย  แอน ตอนนี้ วิน มันอาการดีขึ้นแล้วนะ”
ฉันใส่ใจการสนทนาครั้งนี้มากขึ้น เมื่ออุ๋มพูดถึง วิน
“เออ ดีแล้ว แล้วตอนนี้อยู่ไหนอ่ะ”
“อยู่โรงบาลใกล้ๆเนี่ย ตอนนี้แกอยู่ป้ายรถเมล์ใช่ป่ะ แกก็เดินมาผ่านเซเว่น แล้วเลี้ยวซ้ายนะ แปปๆก็ถึง”
“โอเค เจอกันนะ”ฉันพร้อมจะวางหู เพื่อเดินทางไปโรงพยาบาลที่ว่านั่นอย่างด่วนที่สุด
“เฮ้ยย เดี๋ยวๆๆก่อนนะเจ๊  วินเขาอยากพูดกับเธออ่ะ”
“ขอโทษ”เสียงอันแผ่วเบาของวิน ลอดเข้ามาในโทรศัพท์
“เธอจะมาขอโทษฉันทำไม คนบ้า”ฉันร้องไห้เพราะความตื้นตันบวกกับดีใจ
“ฉันชอบนะ เวลาเธอว่าฉันว่าคนบ้า เธอดูน่ารักมากๆรู้มั้ย
”
“สภาพแบบนั้นยังจะพูดอย่างนี้ได้อีก เก่งจังนะ”
“แอน....ฉันขอโทษนะ...ขอโทษที่ไม่ได้โทรไปอวยพรเธอเมื่อวาน”
“.....อืม....อย่าคิดมาก ฉันไม่โกรธแล้วล่ะ พักผ่อนซะดีกว่า เดี๋ยวจะแย่เอา  ฉันจะกลับบ้านก่อนล่ะ นี่ก็จะค่ำแล้ว”
“แอน...ผู้หญิงคนนั้น เขาไม่ใช่คนที่ฉันชอบหรอกนะ”
“อือ”
“เขาเป็นแฟนพี่ชายฉัน ฉันต้องเทคแคร์เขา ก่อนเขากลับสเปน”
“นายมีอะไรจะเล่าอีกมั้ย”
“มี”
“ฉันชอบผู้หญิงคนนึง หน้าตาเขาน่ารักนะ ยิ่งนิสัยเขาน่ารักมาก คนเดียวกับที่ฉันเล่าให้เธอฟังอ่ะ คือว่า ฉันอยากขอเขาเป็นแฟนซะทีอ่ะ แต่กลัวเขาปฏิเสธ”
“นาย ก็โทรไปบอกเขาสิยะ มาถามอะไรฉัน”
“ฉันโทรไม่ได้”
“ทำไมอีกอ่ะ”
“เธอคนนั้น...ถือสายอยู่”
“..............”
“รักเธอนะ”
“...............”
“แอน....บายก่อนนะ ฝันดีอ่ะ นางพยาบาลจามาฉีดยาฉันแล้วง่ะ แล้วว่างจาโทไปปรึกษาเรื่องเธอคนนั้นใหม่นะ บาย”
“อ่า...อื้มๆ”
อย่างน้อยเขาก็ยังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนไป ยังรักฉันเหมือนเดิม สิ่งที่แตกต่างจากเดิม สิ่งที่เพิ่มเข้ามา มีเพียงแค่...การที่ฉันรู้ใจตัวเอง...สักที
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น