ผู้ชายที่หลงรักผู้หญิงมาตลอด6ปี - ผู้ชายที่หลงรักผู้หญิงมาตลอด6ปี นิยาย ผู้ชายที่หลงรักผู้หญิงมาตลอด6ปี : Dek-D.com - Writer

    ผู้ชายที่หลงรักผู้หญิงมาตลอด6ปี

    ความรักมันเศร้าจิงๆ

    ผู้เข้าชมรวม

    421

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    421

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ส.ค. 47 / 09:18 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ผู้ชายที่หลงรักผู้หญิงมา 6 ปี



      ผมเจอเธอครั้งแรกที่ โรงเรียน \"สมถวิล\" แต่ประหลาด ที่ผมเห็นเธอครั้งแรก
      ทำไมผมรู้สึกชอบ เธอ ขึ้นมาทันที่ที่แรกเห็น ! เธอ ช่างสวย อะไรอย่างนี้ ผมไม่อาจจะบรรยายได้
      แต่ผมรู้ตัวแล้ว ว่าผมชอบเธอเข้าแล้วสิ \"นิสัยผมก็ไม่ได้เป็นคนกล้าแสดงออกสักเท่าไหร่\" ผมจึงคอยแต่เฝ้ามองเธอ
      ซึ่งผมเฝ้ามองมาตลอด และเมื่อเธอ หันหน้ามาเข้าสายตาผม ผมต้องคอยที่จะหลบตาเธอเสมอ ทุกที่ที่เธอหันมามองในระยะสายตาเดียวกับผม
      ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยจะกล้าคุยกับเธอ สักเท่าไหร่ เพราะผมยังไม่ได้รู้จักเธอเลยนี่ และแล้ว ผมก็ขึ้น ป.1 ซึ่งตอนนั้นผมเด็กมากๆ
      และเด็กอายุ 6 ขวบกว่าคิดว่างั้นมั้ง คงยังเล่นเป็นเด็กๆ อยู่หนะแหละ และในที่สุดเราก็อยู่ในห้องเดียวกัน และที่ผมดีใจที่สุดในความคิดผมตอนนี้ คือ เราได้ไกล้กันด้วย
      ตอนนั้นผมยังเป็นเด็กๆ อยู่หนินะ มันก็ต้องมีนิสัยเป็นเด็กๆหละ ตอนผมนั่งไกล้ๆเธอ ในขณะนั้น เราก็ไม่ค้อยได้หยอกล้อกันสักเท่าไหร่มาตามภาษาเด็กๆ แต่รู้สึกเธอหยอกเราแรงไปมั๊ง
      เราเลยเก็ความรู้สึกไว้ที่มันเจ็บไว้ \"ซึ่งผมมาคิดตอนนี้ ผมไม่น่าจะฟ้องเลยด้วยซ้ำ\" มันเป็นโอกาสเดียวในชีวิตที่ได้นั่งข้างๆ เธอ และผมกลับมาคิดได้คือโอกาสนั่นมันอาจจะไม่มีอีกแล้วในชีวิตผม
      ตอนนั้นผมยังไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะยังเป็นเด็กๆอยู่ แต่พอเราเรียนไปจนปิดเทอม 1 \"ผมนั่งอยู่บ้านคนเดียว ไม่ได้ไปไหน ผมเป็นคนขี้เหงาอยู่แล้ว\"
      ช่วงที่ผมไม่มีอะไรทำนี้ ความคิดแปล๊บๆ ก็เข้ามาในหัวผม กลายเป็นว่า ตอนนั้นที่เราไป ฟ้องอาจารย์ และอาจารย์ ก็จับเราแยกที่นั่งกัน ทำไมเราถึงต้องทำอย่างนั้น
      ก็คนที่นั่งข้างๆเราหนะ เป็นคนที่เราต้องการมากที่สุดไม่ใช่หรือ \"ผมเริ่มจะมีความรักเข้ามาแล้ว\" และเมื่อเปิดเทอม 2 ผมก็ได้เจอหน้าเธออีกครั้ง เธอยังเป้นผู้หญิงที่สวยมากๆ และน่ารัก เหมือนเคย
      ตอนผมเรียนไป ผมมั๊กจะชอบแอบมองหน้าเธอตอนเรียน ทุกวัน ทุกวัน ..... มันทำให้ผมรู้สึกว่าการมา โรงเรียนไม่ใช่เรื่องหน้าเบื่ออีกต่อไปแล้ว มันทำให้ผมอยากจะมีกำลังใจในการมาเรียนหนังสือทุกวันๆ
      และเหตุการที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับผม มีเพื่อน นักเรียนหญิงคนนึง มานั่งถามผมอยู่ทุกวี่ทุกวัน ว่า.... \" แกชอบใครหรือในห้องนี้ \" แต่ผมก็ไม่ตอบ ผมพยายามจะเก็บคำตอบไว้ให้ดีที่สุด
      และคราวนี้เพื่อนคนนั้น ก็เริ่มจะทำให้ผม รู้สึกไม่ดี \" นี่.... แกชอบ (ชื่อเพื่อนหญิงคนใดคนหนึ่งในห้อง) ใช่มั๊ย \" ซึ่งตอนนั้นผมก็ปฏิเสธ ไปทั้งหมด เพราะถ้าผมบอกคำตอบไป
      เธอคนนั้นก็คงจะไม่กล้าพูดคุยกับผมอีกต่อไป รวมกับความไม่กล้าของผมอีกด้วย.... ผมกลับมานั่งคิดที่บ้าน ในวันนั้น มันยิ่งทำให้ผมต้องคิดมากอยู่ทุกวี่ทุกวันเรื่องเธอ
      อ่อ... ผมลืมไปบอกไปว่าเธอคนนี้มีชื่อว่า \"แนน\" พอรุ่งเช้า ผมก็ไป โรงเรียนสายตามเคย เพราะผมไม่เคยจะตื่นได้เช้าเลยอะนะ
      เมื่อผม กระวีกระวาดไปเข้าแถวที่สนาม โรงเรียนแล้ว เมื่อเข้าห้องเรียน \" แย่แล้วสิ.....!! \" เพื่อนหญิงคนที่มาซักถามผมทุกวี่ทุกวัน มันก็มาถามอีก
      เพราะว่า มันไม่เชื่อที่ผมพูดไปว่า ไม่ได้ชอบใครหนิ มันก็เริ่ม อ้างชื่อคนนู้น ชื่อคนนี้ไปเรื่อย ผมทนไม่ได้แล้วครับ เพราะตอนนั้น ทุกสายตามองมาที่ผมหมด เหมือนผมจะเป็นคนที่ทำให้คนที่กล่าวถึงเสียหายยังไงอย่างนั้น
      ผมเลยตัดสินใจ ต่อยไอเพื่อนหญิงที่เข้ามาถามนี่หละ ตอนนั้นผมร้องให้เลย ไม่รู้เป็นเพราะโกรธมากหรือเปล่า ผมระเบิดแล้วครับ ผมด่ามันนับคำไม่ได้เลย
      แล้วมันก็ทุบผมครับ ไล่ทุบผม โดยใช้กำปั้นของมันนี่หละ (ผู้หญิงอะไรหน้าด้านที่สุดเลย ในความคิดของผม) \"ผมสู้มันไม่ได้ครับ\" ในสภาพร่างกายที่จิตใจบอบช้ำ และมันก็ตัวใหญ่ไม่ใช่น้อยเลย
      มันทำให้ผมต้องเลิกโดยที่ครู(คำพูดตอนผมเด็กๆ หรือ อาจารย์ นั่นหละ) เข้ามาห้าม ออกจากกัน ซึ่งที่ผมได้ทำสิ่งที่ผมไม่คาดคิดลงไปนั้น แนน ก็อยู่ในเหตุการ์ณด้วย
      ผมยิ่งคิดหนักเข้าไปใหญ่ ว่าถ้าผมบอก แนน ไปว่าผม ชอบเธอมากๆ เนี่ย เธอจะคิดยังไงกับผม \"แต่ผมก็ยังไม่กล้าบอกอยู่ดี\" ผมก็ได้แต่แอบมองหน้าเธอไปวันๆ
      เหมือนเธอเป็นน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจผมเลยหละ ถ้าวันไหนเธอไม่มา ผมก็จะรู้สึกว่าวันนั้นมันดูหม่นหมองไปซะทุกอย่างเลย \" และผ่านมาถึงช่วงเวลาที่ใกล้จะปิดเทอม \"
      ผมนึกเสียดายอยู่ทุกวัน ว่าทำไมผมมันไม่กล้าเอ้ยคำพูดของผมไปสักทีนึงน๊ะ วันสุดท้ายก่อนปิดเทอม เค้าจัดเลี้ยงกันครับ ผมก็ได้แต่นั่งมองเธออีกแล้ว......
      เพราะผมไม่รู้จะพูดยังไงกับเธอดี ผมรู้สึกว่าตัวเองขี้ขลาดมากๆเลย และแล้ว เราก็ปิดเทอม......
      ผมนั่งรอคอยวันที่จะเปิดเทอมอยู่ตลอดเวลา เพราะวันไหนผมไม่ได้เห็นหน้าเธอ ผมจะต้องเศร้าใจไปทั้งวัน
      ผมนั่งคิดถึงเธอทุกวัน ทุกคืน จนในบางวัน มันทำให้ผมนอนไม่หลับเลยด้วยซ้ำ
      เปิดเทอมแล้ว ....... ผมได้ขึ้นมาชั้น ป.6
      แต่ผมจะดีใจยังไงที่ได้เลื่อนชั้น ก็ไม่ดีใจเท่ากับ แนน อยู่ห้องเดียวกับผมอีกแล้ว
      เราได้นั่งหันหน้ามองกันครับ นั่งตรงข้ามกันเลย
      ผมดีใจมากๆ แต่เธอ ดูสวยขึ้นครับ ผมทำให้ผมยิ่งจะต้องหลบหน้าเธอมากขึ้นไปอีก ผมไม่ค่อยกล้าสู้หน้าเธอเท่าไหร่ครับ
      เหมือนกับว่า เธอสวยจนผมไม่กล้ามอง เพราะถ้าผมมองแล้ว ผมจะอายมากๆ เลย ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน
      และผมก็คงได้แค่เป็นคนแอบมองเหมือนเดิมแหละ เพราะผมได้แค่เห็นหน้าเธอ ผมก็สุขล้นแล้วครับ
      มั่นยิ่งเพิ่มความไม่กล้าที่จะบอกเธอว่า \" ชอบมากๆ และ รักเธอเข้าแล้ว \" ผมได้แต่บอกรักเธออยู่ในใจ
      แต่ผมคิดอยู่ตลอดเวลาเลยว่า วันไหนหละเธอจะได้ยินคำนี้ คำที่ผมเก็บมาเป็นเวลานานนับปี
      และช่วงนั้นมีกีฬาสีครับ \"ผมเศร้าใจมากๆ ที่ได้อยู่คนละสีกับเธอ \" ผมได้อยู่สีฟ้า แต่เธอรู้สึกจะไปอยู่สีแดง หรือไงเนี่ยถ้าผมจำไม่ผิดนะ
      เธอได้เป็น Leader ด้วยครับ ในระหว่างเชียร์กีฬานี่ ใจผมไม่ได้อยู่ในสีตัวเองเลยครับ ใจผมกลับไปอยู่กับ แนน คนเดียว
      มันทำให้ผมต้องด้อมๆมองๆ แนน ตลอดเวลา เพราะผมเป็นห่วงเธอมาก กลัวว่า ผมจะโดนใครมาตัดหน้าบอกรักเธอ ซะก่อน
      ถ้ามันเป้นแบบนั้นจริง ทุกวันนี้ผมคงใจสลายจนกระทั่งวันนี้ ผมยังไม่รู้เลยว่า เธอโดนบอกรักจากคนอื่นที่ไม่ใช่ผมบ้างหรือยัง
      มันยิ่งทำให้ผมต้องเก็บ คำๆ นี้ ไว้ในใจอีกแสนนาน
      กีฬาสีจบลงแล้วครับ...... เรากลับมารวมกลุ่มกันอย่างเดิม เรียนตามปรกติ
      และที่ผมพลาดไม่ได้ก็คือการที่ได้มองหน้าเธอ (อีกแล๊วว!!) มันทำให้ผมคิดว่าเมื่อไหร่ผมจะกล้าบอกเธอสักที
      \"ผมอยากรู้ความในใจของเธอมากๆครับ\" และก็รู้สึกว่า..... จะถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน ผมจำได้เลย
      วันเกิด \"แนน\" ครับ ผมดีใจมากๆเลยที่รู้มาว่าจะจัดเลี้ยงที่บ้านแนน ผมเลยขอเธอไปงานเลี้ยงด้วย
      ผมต้องโทรศัพท์ไปขอครับ เพราะผมไม่กล้าที่จะคุยต่อหน้าเธอ มันทำให้ผมพูดอะไรไม่ออกอะนะ
      ผมโทรไปขอ เธอก็ให้ผมไปครับ ผมดีใจมากๆเลยที่จะได้ไปเจอหน้าเธอในวันที่พิเศษของเธอ
      ผมสบายใจที่ผมได้เห็นเธอมีความสุขกับเพื่อนๆ ผมชอบรอยยิ้มของเธอ ซึ่งผมเห็นแล้ว มันทำให้โลกของผมไม่มีวันที่จะหม่นหมองไปเลย
      มันกลับทำให้โลกของผมดูสดใสมากขึ้นเป็นเท่าตัว พอถึงวันจริงครับ ผมกำลังจัดเตรียมของขวัญ ชิ้นแรกให้กับเธอ
      เอ๊า!! ตอนนั้นมันจะถึงเวลานัดแล้วครับ ผมเลยรีบออกไปทันที
      ผมได้นัดกับเพื่อนไว้ที่ \"ปิยรมย์\" ครับในวันนั้น
      เมื่อผมไปถึง ก็เจอเพื่อนผมหลายคนเลย แต่ที่น่าตกใจที่สุดก็คือ ของขวัญ ผมไปไหนหละ
      แย่แล้ว!! ผมลืมครับ ก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ไปรอแนนที่ จุดนัดหมายอะหละ
      พอแนนมา หัวใตผมเด้นแรงมากๆ เลย เพราะผมลืมของขวัญที่จะมาให้หนะสิ
      ผมจะทำยังไงดี ............... พอเดินทางไปถึงบ้าน แนน แล้วต่างคนก็ต่างให้ของขวัญ กับแนน
      ตอนนั้นผมใจเสียเลยครับ ไม่รู้จะทำยังไงดี เมื่อมีคนถามแล้วของ ผม หละอยู่ไหน
      ผมก็ไม่ได้พูดอะไรครับ ........ แล้วที่บ้านแนน มันมี Play Station 1 อยู่ ผมเลยเล่นกับเพื่อนๆที่ไปด้วยครับ
      เล่นไปซักพัก เอ๊า!! งานเริ่มแล้วมั๊ง ครอบครัวแนน ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นจริงๆ
      มีทั้งพ่อ และ แม่ มาช่วยจัดวันเกิดให้กับลูก ซึ่งผมไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
      พ่อแม่ ผมต่างคนก็ต่างจะทำมาหากินไปวันๆ ไม่ค่อยได้มีเวลาอยู่กับผมเท่าไหร่
      แต่ แนน ไม่ใช่แบบนั้นผมดูแล้วมันอบอุ่นดีนะ เป็นภาพที่หาได้ยากมากในความคิดของผม
      เริ่มงานไปได้พักนึง ผมอยากอยู่ในบ้านแนน ต่อไปเรื่อยๆ จนจบงาน ผมอยากใช้เวลาอยู่กับเธอให้มากที่สุด
      แต่.... เพื่อนผมต่างคนต่างจะออกไปเล่นเกมข้างนอกกัน ซึ่งผมก็ไม่อยากออกไปเท่าไหร่หรอก
      แต่มันจำเป้นต้องไปเพราะเพื่อนผมมันอยากไปเล่นมาก เพื่อนก็เพื่อน ถ้าผมทิ้งเพื่อนก็ยังไงอยู่หละ
      และแล้ว เมื่อผมเล่นเสร็จ ผมกลับมาที่บ้านแนน \"เฮ้อ....... งานจบพอดีเลย\"
      มันเหมือนกับว่า ผมไม่ค่อยได้เอาใจใส่ในงานเลี้ยงของ แนน เท่าไหร่
      ผมติตัวเองอยู่ตลอด นึกแต่ว่า \"ไม่น่าออกไปเล่นเล้ยยย!! \"
      และเราก็ต้องกลับบ้านหละทีนี้ ซึ่งแม่ของแนน ก็อาสาพาไปส่ง ตามบ้านของเพื่อนแต่ละคน
      ผมก็เป็นคนนึงหละ แต่ผมเหลือเป็นคนสุดท้ายหนะสิ
      แม่ แนน เห็นเงียบๆ เลยชวนผมคุยเรื่อง พ่อแม่ผม
      ก็ยังดี มันทำให้ผมรู้สึกว่า รู้จักแม่เค้ามากขึ้น แม่เค้าเป็นคนที่ใจดีมากๆคนนึง
      และเมื่อไปส่งถึงจุดหมาย ผมก็ได้แต่พูดคำว่า \"ขอบคุณครับ \" แล้วผมก็ออกจากรถไป
      รุ่งเช้า... ไปโรงเรียนตามปรกติ ผมคิดอีกแล้วว่า ............. จะทำยังไงดี
      ตอนนี้เราก็อยู่ ป.6 แล้ว ปีหน้าเราต้องแยกจากกันแล้วสิ เราควรจะบอกเลยดีไหม
      ในใจก็คิดว่าจะบอก แต่ความกล้ามันก็ยังไม่ช่วยผมซักที
      จนในที่สุด สอบเสร็จแล้ว
      และจะมีงานจัดเลี้ยงส่ง ป.6 ทั้งหมด ก่อนจะจัดงาน อาจารย์ ก็จัดแบ่ง นักเรียนเป้นแถวๆ
      แถวละโต๊ะๆ อึ่ม...... ผมได้อยู่โต๊ะเดียวกับแนนจริง ผมดีใจมากถึงขีดสุด
      แต่พอจัดไปจัดมา ผมกระเด็นไปอยู่โต๊ะเดียวกับ ไอเพื่อนเดนนรก ที่มันมาประจาญเราเรื่องชอบคนนู้นคนนี้
      มันทำให้ผมแทบจะบ้า น้ำตาคลอเบ้าเลยในทันที ผมร้องให้ในวันสุดท้ายที่จะต้องจากกันงั้นหรือ
      ผมนี่มันไม่เอาไหนเลยจริงๆ ลูกผู้ชายแท้ๆ ทำไมถึงอ่อนแออย่างนี้น๊ะ!!
      และโชคก็ช่วยผมหรือเปล่าไม่แน่ใจ อาจารย์ \"รัชนี\" ถ้าจำไม่ได้ เห็นเราร้องให้เป็นไก่อ่อน เลยเรียกมาคุย
      คุยไปคุยมา อาจารย์ ก็ให้กลับไปอยู่โต๊ะเดียวกับแนน เหมือนเดิม ตอนนั้นผมหยุดร้องให้เลยครับ
      แต่กลับกลายเป้นว่า ผมอายแนนมากๆ ที่ผมร้องให้ ไห้กับความอ่อนแอของผม
      เอาถอะ วันสุดท้ายแล้ว มีความลับอะไรก็เปิดเผยซะให้หมด (คิดไว้ในใจ)
      เมื่อถึงเวลาเริ่มงาน เราได้นั่งโต๊ะเดียวกันจริงๆ แต่ว่า.... ผมเสียใจที่ผมทั้งๆที่เป็นลูกผู้ชาย
      แต่ร้องให้ไห้กับคนเป็น 100ๆ คนดู ทั้งๆที่แค่เห็นหน้าไอตัวซวยที่สุดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน
      ผมคิดว่าวันนี้ผมจะต้องมีความสุขกับเพื่อนๆ รอมทั้งแนนให้มากที่สุด
      อันเป็นต้องจบความคิดเหล่านั้น
      ผมได้แต่นั่งบนเก้าอี้ที่โต๊ะอาหารเฉยๆ กินอะไรไม่ค่อยจะลง
      แต่ก็ยังดีใจที่ แนน ได้ขึ้นเวที แสดงต่างๆ อีกครั้ง
      มันทำให้ผมยิ้มในใจ ได้อีกครั้ง ในเวลาขณะนั้น
      แต่ผมก็แอบเสียใจที่ผมได้แสดงความอ่อนแอ ให้แนนได้เห็น
      มันเป็นเรื่องน่าอายสำหรับผู้ชายมากๆ
      เอาเถอะ ผมได้แค่แอบรัก แนน ผมก็ดีใจจะแย่แล้ว
      ทั้งๆที่เค้าจะไม่เห็นใจเลยก็ตาม
      ผมเฝ้าคิดอยู่ นาน \"วันนี้เค้าไม่เห็นใจเรา แต่สักวันเค้าต้องได้เห็นแน่ๆ\"
      ทั้งๆที่ เพื่อนทุกคนบอกว่า \"เลิก\" ซะเถอะ
      \"แนน ยังไงเค้าก็ไม่ชอบมึงหรอก\" \"อย่างมึงอะจะทำอะไรได้ ก็แค่นั่งมองหละวะ\"
      ผมจำคำนี้ได้ขึ้นใจ แต่ทั้งๆที่ผมสิ้นหวัง
      ผมก็จะรักและชอบ แนน ตลอดไป
      มีถามผมว่า \"ทำไมแกถึงใจแข็งอย่างนี้วะ\"
      ผมให้คำตอบเค้าไม่ได้ เพราะผมคิดว่าถ้าผมรักใครสักคน
      มันไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลที่เป็นคำพูดก็ได้ แต่เหตุผลของผม มันอยู่ในใจครับ
      ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าทำไมผมถึงรักแนนได้ขนาดนี้ ขนาดตัดใจไม่ได้เลย
      ทั้งๆที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงชอบแนน มากได้ขนาดนี้
      ยังเคยคืดในใจเลยว่า \"ถ้าแนนไปประกวดนางสาวไทยนะ.................... สงสัยรางวัลที่ 1 อยู่แค่เอื่อม\"
      อืม แต่ผมว่า ถ้าไปประกวดจริงๆ คำพูดเล่นๆของผมคำนี้อาจจะเป็นจริงก็ได้มั๊ง
      อาหนะ และแล้ว งานเลี้ยงส่ง ป.6 เราก็ได้จบลง
      เราได้จบเป้นรุ่นที่ 55 ของโรงเรียน
      แต่ละคน กว่าจะกลับบ้านกันได้ กอดกันกลมเป็น ชมๆ เลยก็ว่าได้
      รุ่นเรารู้สึกจะผูกพันธุ์ กันจริงๆด้วย ผมร้องให้อยู่ในใจครับ
      เมื่อผมได้เห็น แนน ขึ้นรถแล้วก็ออกไปจาก โรงเรียนตั้งแต่นั้น........
      เมื่อมอง แนน ไปลับสายตาแล้ว หันกลับมามองในอีกฝั่ง
      คนที่เค้าไม่เคยบอกคำพูดในใจ เค้าก็มาพูดให้ฟังกันในวันสุดท้าย
      ส่วนผมไม่มีโอกาสเลยครับ แนนได้ ออกไปจาก โรงเรียนเรียบร้อยแล้ว
      ตอนนี้เพื่อนผมมีแต่คนมาคอยคุยโทรศัพท์ ทุกวี่ทุกวัน เพราะเค้าได้รู้ความในใจกันหมดแล้ว
      ผมกลับมาคิดกับตัวเอง ว่าทำไม ทำไมผมถึงไม่กล้าที่จะบอกความในใจให้กับ แนนได้รู้ไป ว่าผม \"รักแนนมากๆ รักมากที่สุดเลยด้วย\"
      แต่มันกลับล้มเหลวที่ ผมไม่ทันที่จะได้บอก แนน ไป ผมพลาดโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ไป...
      มัน.... มัน... มันเหมือนกับว่าผมมันไม่เอาไหน ผมมันโง่เองที่ไม่บอก ผมมันขี้ขลาด!!
      วันนั้นผมเลยไปนอน แอบร้องให้อยู่คนเดียว ผมเสียใจมากๆ โดยที่ไม่รู้ว่าจะได้เจอ แนน อีกไหม




      เริ่มเข้า ม.1 โลกของผมมันดูหม่นหมองไปในพริบตา
      ในเมื่อครอบครัวผมวางแผนไว้แล้ว ว่าจะให้เข้า \"เทพศิรินทร์\"
      ซึ่งไม่มีโอกาสที่จะได้คุยกับผู้หญิงเหมือนแต่ก่อนแล้ว
      มันทำให้ผมไม่กล้าคุยกับเพื่อนผู้หญิงด้วยซ้ำไป
      มีวันนึงผมกลับบ้านไปด้วย BTS แต่เอ๊ะ ตอนลงจากสถานนีอ่อนนุช
      ผมว่าผมเห็นใครคุ้นๆนะ ผมเลยรีบวิ่งตามไปดู
      เอ๊าา!! แนน นี่............... แต่ผมก็ยังขี้ขลาดมากกว่าเดิมด้วยซ้ำไป
      เพราะผมไม่ได้อยู่ในสังคมผู้หญิงเลยหนิ ยิ่งนานวัน แนน ยิ่งดู สวย และ น่ารักขึ้นไปทุกที
      ผมยิ่งแพ้ๆ คนสวย อยู่ มันทวีคุณความไม่กล้าของผมขึ้นไปอีก
      ผมก็ได้แต่มองเหมือนเดิมหละครับ.....
      เอาเถอะเราได้ขึ้น Shutter Bus ของ BTS ไปด้วยกัน ทั้งๆที่เธออยู่หัวแถว และผมอยู่เกือบท้ายแถวแหนะ
      ผมพยายามมองหน้าเธอ เอ๊~ เธอมากับเพื่อนหนิ ผมสังเกตุได้ เมื่อผมหันไป แนน เหมือนจะหลบลูกระเบิดยังไงไม่รู้
      ก้มกลบกันสุดริด ผมก็ยังไม่เข้าใจจนถึงทุกวัน ทำไมต้องหลบผมด้วยหละ แปลกใจนะนั่น
      พอถึงป้ายที่ผมต้องลง ผมจำใจลงไป พร้อมกับความงง ที่ว่าทำไม แนน ต้องหลบผมเวลาผมมองไป
      ผมมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรอ ??
      เอาเหอะๆๆ
      ประมาณ 1 เดือนต่อมา ผมได้เจอแนนอีกครั้งที่เดิมเลยครับคราวนี้
      และก็เป็นเหมือนเดิมอีกตามเคย หลบผมอีกแล้วอะ กะจะไม่ให้ผมได้เห็นหน้าเลยหรอไง
      ทั้งๆที่ในใจผมอยากเห็นใจจะขาดอยู่แล้ว ตอนม.1 ผมได้เจอแนน แค่ 3 ครั้งเองครับ
      และทุกๆครั้งเธอต้องหลบผม ไม่รู้สาเหตุคืออะไร
      และแล้วก็มาถึงเวลาปิดเทอมใหญ่ของ ม.1 ผมโทรไปชวน แนน ไปงานจัดเลี้ยงส่งเหมือนปีที่เราเคยอยู่ในเหตุการ เพื่อลำลึกถึงความหลัง
      มันเป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกมีความสุขที่สุด และ เศร้า ที่สุดในเวลาเดียวกัน
      แต่ เมื่อแนนไป งานที่รุ่นน้องจะต้องเลี้ยงส่งเหมือนกับเรา ยังไม่ทันจะเริ่มขึ้นเลย
      แนน ก็กลับไปซะแล้ว ผมก็ยังไม่ได้คุยอะไรกับเธออีกหละ เพื่อนมันหาเรื่องเล่นเกมอีกแล้วหละสิ
      ผมจะคุยก็ยิ่งไม่ค่อยจะกล้าคุย ผมอยากคุยกับแนนเพียงลำพังเท่านั้นเพราะแนนมากับเพื่อนแนนหนิ
      ผมไม่อยากให้คนอื่นมารับรู้คำพูดที่ผมจะพูดให้แนนได้ฟังคนเดียว และเป็นคำที่ผมเก็บมาทั้งชีวิตเพื่อมอบให้คนๆเดียว
      เอาเถอะงานเลี้ยงของน้องได้จบลงไป แต่ดูเหมือนน้องๆจะไม่ค่อยรักใคร่แน่นแฟ้นเหมือนปีที่เราได้อยู่ในเหตุการ์ณจริง
      เพราะงานเลิกก็ต่างคนต่างกลับบ้านไปเลย ไอรุ่นปีเรา กว่าจะกลับกันได้ ร้องให้ กอดกัน บอกรักกัน เป็น ชมๆ กว่าจะได้กลับ
      ผมเห็นเหตุการ์ณทั้งหมดนี่แล้ว ทำให้ผมอยากจะย้อนเวลากลับไปใน ณ เวลานั้นจริงๆ แต่มันไม่มีโอกาสแล้ว
      โอกาสแค่เอื่อมของผม มันกลายเป้น โอกาสที่ จะค้นคว้าหาได้ยากมากๆ
      พอผมขึ้นม.2 ชวนกันมางานเลี้ยงของรุ่นน้องรุ่นถัดไป
      ผมโทรไปชวน แนน อีกครั้ง
      แต่คำตอบคือ \"ไปก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย\"
      แต่ผมว่า มันมีแน่ๆครับ ผมจะรอวันนั้นไว้บอกรัก แนน แต่ไม่รู้ว่าวันไหนมันจะได้บอกซักที
      เพราะทุกปี แนนกลับก่อนงานเริ่มทุกทีเลย
      ผมอยากจะไปห้ามไม่ให้กลับบ้าน มันก็คงไม่ได้หนะสินะ
      บวกกับความ ขี้ขลาดของผมเข้าไปอีก มันทำให้ผมต้องอยู่ในโลกที่หม่นหมองไปวันๆ
      ผมไม่กล้าที่จะไปบอก ถ้าผมบอกไปแล้ว ใจเราไม่ตรงกัน ผมอาจจะไม่ได้เจอแนนอีกเลยก็เป็นได้.....
      end....

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×