ฉันมิได้เขียนบันทึกเล่มนี้ขึ้นมาเพื่อต้องการให้ความเพลิดเพลินแก่ผู้ใด  แต่ฉันเขียนเพราะต้องการแค่อยากระบายอะไรบางอย่างที่มันอัดอั้นอยู่ในใจของฉันมาหลายวันเท่านั้นเอง
ฉันรู้จักกับพี่สันต์มาหลายปีแล้ว  ตั้งแต่ที่ฉันเข้าเรียนในโรงเรียนประถม  เราสนิทกันได้อย่างรวดเร็ว  เพราะพี่เขาเป็นคนอัธยาศัยดีมาก  พอมาถึงมัธยมกับมหาวิทยาลัยฉันกับพี่สันต์ก็อยู่ที่เดียวกันเขาอีก  ฉันกับพี่เขาดำรงความสัมพันธ์ฉันพี่-น้องกันเสมอมา  พี่สันต์เป็นคนน่ารัก  เวลาเขาพูดกับฉันเขาจะพูดลงท้ายด้วย ‘คะ’ เสมอ  ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันเริ่มชอบพี่เขาเข้าไปตั้งแต่เมื่อไร  รู้แต่ว่าฉันไม่ได้คิดกับเขาเพียงแค่พี่-น้องอย่างที่เขาอยากให้มันเป็นอย่างนั้นอีกต่อไปแล้ว
“เขียนอะไรอยู่คะ  ตั้งใจเชียว”
เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังฉัน  ฉันรีบปิดสมุดบันทึกฉับ  ด้วยกลัวว่าพี่เขาจะสังเกตเห็นความในใจที่เก็บเงียบมานานของฉันได้  แล้วฉันกับเขาจะไม่เหลืออะไรแม้แต่ความเป็นพี่-น้องอย่างทุกวันนี้
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่สันต์  เขียนงานส่งอาจารย์นิดหน่อย  ว่าแต่พี่เถอะ  ทำไมมาเงียบ ๆ คะ  ไม่กลัวดาวก็ตกใจตายเหรอคะ”
ฉันแสร้งเปลี่ยนเรื่อง  แล้วจึงได้ยินเสียงหัวเราะกังวานใสจากพี่สันต์
“พี่ไม่กลัวหรอกค่ะ  เพราะพี่รู้ว่าน้องสาวของพี่คนนี้ประสาทแข็ง  ใช่มั้ยคะ?”
ฉันอมยิ้ม  เห็นพี่เขาอารมณ์ดี  ฉันก็รู้สึกมีความสุขตามไปด้วย  ถึงแม้ว่าจะรู้สึกเจ็บกับคำว่า ‘น้องสาว’ ที่พี่สันต์พูดออกมาไม่น้อย
“เออ  ดาวจะกลับบ้านเลยมั๊ยคะ  เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ยังดีกว่าค่ะ  เดี๋ยวดาวรอเพื่อนแป๊บนึง
”
“งั้นเดี๋ยวพี่นั่งรอเป็นเพื่อนดาวนะคะ”
ฉันพยักหน้า  ยิ้มน้อย ๆ  แต่ในใจก็อดสังหรณ์ใจอะไรบางอย่างไม่ได้  และลางสังหรณ์ของฉันก็ไม่เคยพลาดซะด้วย
“ดาว
มาแล้วจ้ะ  รอนานมั๊ยจ๊ะ”
เสียงใส ๆ ของเพื่อนสาวของฉันดังขึ้น  เธอโผล่หน้ามาจากหลังพุ่มไม้  พอเห็นว่าฉันกำลังนั่งคุยกับพี่สันต์อยู่  เธอก็ทำหน้าคล้ายเกรงใจ
“เอ่อ
ดาวไม่สะดวกจะคุยเหรอจ๊ะ  งั้นเดี๋ยวค่อยคุยกันพรุ่งนี้ก็ได้”
ระหว่างพาย (ชื่อของเธอน่ะนะ) กำลังพูดอยู่ฉันสังเกตเห็นสายตาของพี่สันต์จับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสวยหวานของพายอยู่ตลอดเวลา  ประกายในดวงตาพี่เขายามมองพายมองยังไง ๆ ฉันก็บอกไม่ได้ว่าเป็นประกายตาธรรมดา
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ”
ฉันกลบเกลื่อนอารมณ์ต่าง ๆ ที่กำลังพลุ่งพล่านในอก  ฝืนยิ้มตอบพายไป
“เพื่อนดาวเหรอคะ?”
พี่สันต์ถามเป็นเชิงให้ฉันแนะนำพาย    ฉันพยักหน้า
“พี่สันต์คะ  นี่พาย  เพื่อนดาวเองค่ะ  ส่วนพาย  นี่พี่สันต์  พี่ชายร่วมโลกของเราเองจ้ะ”
ถึงฉันจะรู้เท่าทันพี่สันต์  แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แนะนำพี่เขากับพายตามมารยาท  หลังจากที่ฉันพูดจบ  พี่สันต์ก็เอื้อมมือมาเขกหัวฉันแม้สายตาจะไม่ละจากใบหน้าของพายแม้สักนิด
“นี่แน่ะ  พี่ชายร่วมโลกเหรอ  ขอซักโป๊กเถอะ”
“ก็รึไม่จริง”
ฉันเถียงกลับไป  แม้จะรู้สึกเสียวจี๊ดกับคำว่า ‘พี่ชาย’  ที่ตนเองพูดออกไปไม่น้อย
พายยิ้มหวานให้พี่สันต์
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ  พี่สันต์”
“เช่นกันค่ะ  น้องพาย”
แล้วพายจึงหันหน้ามาพูดกับฉัน
“เออ
ดาว  เรื่องจัดบอร์ดน่ะ  เราคุยกับเพื่อนในห้องแล้วนะ  คือว่า
”
แล้วเราก็คุยเรื่องงานกันโดยที่มีพี่สันต์นั่งรอ  สงสัยเหตุผลที่พี่เขาบอกกับฉันว่ามานั่งรอเดี๋ยวไปส่งฉันที่บ้านนั้นคงจะตกกระป๋องไปตั้งแต่ที่พี่เขามาเจอหน้าพายแล้วล่ะมั๊ง  ฉันอดที่จะน้อยใจเขาไม่ได้  ดูสิ  ขนาดสายตายังไม่ยอมละไปจากใบหน้าของพายเลย  ฉันอยากรู้นัก  ว่าถ้าพี่เขารู้ว่าพายมีแฟนแล้ว  พี่เขาจะทำหน้ายังไง
ใช่!!!  พายมีแฟนแล้ว  แต่เธอกับแฟนของเธอคบกันแบบลับ ๆ ไม่ยอมให้ฉันไปบอกใคร  เพราะพายบอกว่าเธอเบื่อที่ต้องมาคอยฟังเพื่อน ๆ แซวตลอดเวลา  ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม  ฉันก็เห็นใจพายนะ  เพราะฉันก็เคยมีประสบการณ์มาบ้างเหมือนกัน
ในที่สุดฉันกับพายก็คุยกันเสร็จ  ก่อนที่เราจะกลับ  พี่สันต์หันไปพูดกับพายว่า
“ลาก่อนค่ะ  หวังว่าเราคงจะเจอกันอีก  เร็ว ๆ นี้”
พายไม่ว่าอะไร  ได้แต่พยักหน้า  แต่เธอจะรู้อะไรบ้างหรือเปล่า  ว่าพี่สันต์ไม่เคยใช้คำลงท้ายว่าค่ะกับใครเลย  นอกจากฉัน
ระหว่างที่ฉันกำลังเดินไปขึ้นรถของพี่สันต์ที่จอดอยู่นั้น  พี่เขาก็เปรย ๆ ขึ้นมาว่า
“น่ารักดีนะ  เพื่อนดาวน่ะ”
ฉันยิ้ม  อยากจะถามซักนิดว่า
‘แล้วคนที่พี่รู้จักมาตั้งแต่เด็กคนนี้ล่ะคะ ไม่น่ารักสำหรับพี่เลยซักนิดเหรอ’
และคืนนั้น  ก็เป็นคืนที่ฉันรู้จักการเสียน้ำตาให้กับความรักเป็นครั้งแรก
หลังจากวันนั้น  พี่สันต์ก็เริ่มสนิทกับพายมากขึ้นเรื่อย ๆ  เวลาพายกินข้าวกับฉัน  พี่เขาก็มักจะมาด้วยเสมอ ๆ และมักจะเอาอกเอาใจกันราวกับว่าในโลกนี้มีเพียงเขาสองคน  ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตา
นับวัน  พี่เขากับฉันก็ยิ่งห่างกันออกไปเรื่อย ๆ  จากที่เคยกลับบ้านด้วยกันทุกเย็นก็เลิก  ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะฉันคอยหลบหน้าพี่เขาด้วยน่ะแหละ  ฉันรู้สึกอึดอัดเวลาที่พี่เขาไปกับฉันกับพายแล้วชอบทำเหมือนฉันไม่มีตัวตน  ฉันคิดว่าเราไม่เจอหน้ากันสักพักก็คงจะลืมกันไปเอง
แต่เปล่าเลย  ยิ่งนานวัน  เงาของพี่เขาก็เข้ามาทาบทับในใจฉันมากขึ้นเรื่อย ๆ  ความรู้สึกคิดถึง
ถวิลหา  ยิ่งมากขึ้นตามวันเวลาที่เราห่างกัน  ฉันอยากรู้  พี่เขาจะคิดถึงน้องสาวที่ชื่อ ‘ดาว’ คนนี้บ้างมั้ย
แต่เวลาอยู่ในห้องกับพายฉันก็ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เฝ้าฟังเธอเล่าความคืบหน้าระหว่างเธอกับพี่ชายร่วมโลกของฉันด้วยอาการแปลบที่หัวใจเป็นระยะ ๆ  โดยที่พยายามที่จะไม่ฟัง  แต่ก็ไม่รู้ทำไม  มันถึงได้ลอยมาเข้าหูฉันทุกทีสิน่า
ฉันได้รู้ว่า
พี่สันต์กับพายกลับบ้านด้วยกันทุกเย็น
ฉันได้รู้ว่า
พี่สันต์โทร.คุยกับพายทุกคืน  ครั้งละนาน ๆ
ฉันได้รู้ว่า
พี่สันต์เข้ากับครอบครัวพายได้ดีมาก
และอย่างสุดท้าย  ฉันได้รู้ว่า
พี่สันต์ไม่เคยพูดถึงฉันเวลาอยู่กับพายเลย
และอย่างสุดท้ายเป็นอย่างที่ทำให้ฉันเจ็บมากที่สุด  ทำไมล่ะ
ทำไม  เวลาหลายปีที่เรารู้จักกันมา  พี่สันต์ไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตาเลยใช่มั้ย???  แล้วแฟนพายอีกล่ะ  เธอจะเอายังไงกับเขา  พายมาสนิทกันพี่สันต์แล้วแฟนเธอล่ะ  เธอจะเอายังไงกันแน่  ฉันไม่อยากให้พี่สันต์เข้าใจผิดว่าพายชอบพี่เขานะ  ฉันไม่อยากเห็นเขาเจ็บ  เหมือนที่ฉันเจ็บอยู่ทุกวันนี้  ถึงแม้ฉันจะรู้ว่าพี่เขาไม่เคยคิดอะไรกับฉันเกินคำว่า ‘น้องสาว’ เลยก็เถอะ
ในที่สุดฉันกับพายก็คุยเปิดใจกันเสียที
“พาย  เธอรู้ใช่มั้ยว่าพี่สันต์คิดยังไงกับเธอ”
พายพยักหน้า
“แล้วแฟนเธอล่ะ  เขาจะว่ายังไงที่เห็นเธอไปทำตัวสนิทสนมกับพี่สันต์อย่างนั้น”
ฉันถาม  พยายามเก็บซ่อนรอยขื่นในน้ำเสียงไว้ให้มิดชิดที่สุด
พายยิ้มหวาน
“ขอบใจจ้ะที่เป็นห่วงฉัน  แต่ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ  แฟนฉันเขาเข้าใจ”
“ถึงกระนั้นก็เถอะพาย  แต่ฉันว่ามันไม่ดีนะ  เพราะเดี๋ยวพี่เขาเข้าใจผิดว่าเธอชอบเขา  แล้วพอมารู้ความจริงเธอกับเขาจะมองหน้ากันไม่ติด”
ฉันค่อยโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง  แต่ก็ยังอดห่วงความรู้สึกของพี่เขาไม่ได้
พายเงียบไป  แต่ก็คงไม่รู้จะทำอย่างไรนั่นแหละ  เพราะการปฏิเสธไมตรีของใครสักคนโดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรให้เรานั้นมันเป็นอะไรที่ลำบากใจมาก
“เอาเถอะ”  ฉันตบไหล่พายอย่างเห็นใจ
แต่ก็ไม่มากไปกว่าเห็นใจตัวเองหรอก  “แต่ยังไง  ฉันก็ยังอยากให้เธอบอกพี่เขาให้รู้ไว้ก่อนนะ  พี่สันต์เป็นเหมือนพี่ชายฉัน  ฉันไม่อยากเห็นพี่เขาต้องเสียใจ”
พายพยักหน้า
“จ้ะ
ฉันจะพยายามหาเวลาบอกพี่เขาให้เร็วที่สุด”
แต่จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ผ่านมา 2 สัปดาห์แล้ว  แต่ฉันก็ยังไม่เห็นทีท่าว่าพายจะบอกพี่สันต์สักที
วันนี้พายโทร.มาหาฉัน  เธอโทร.มาชวนฉันไปดูพี่สันต์ซ้อมละครในวันเสาร์ที่จะถึงนี้  เธอบอกว่าเธอบอกพี่สันต์ให้มาโทร.ชวนฉันแล้วแต่กลัวพี่เขาไม่โทร.ก็เลยโทร.มาชวนเองเลย
ฉันรู้สึกน้อยใจพี่เขามาก  ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เจอกันมา 2 สัปดาห์แล้ว  แต่ในความรู้สึกนึกคิดของพี่เขาคงมีแต่พาย  ไม่เคยมีฉันอยู่ในห้วงคำนึงเลยใช่มั้ย??
และคืนนั้น  เป็นคืนที่ฉันถามตัวเองอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกว่า
หยุดรักดีมั้ยดาวเอ๋ย  ในเมื่อเขาทำเธอเจ็บถึงขนาดนี้
และในที่สุด  ฉันก็ไม่ได้ตอบรับคำชวนของพายอยู่ดี
หลังจากวันนั้น  ฉันพยายามเปิดใจรับผู้ชายคนอื่นที่เข้ามาในชีวิตของฉันมากขึ้น  และฉันก็ได้พบนนท์  นนท์เป็นเพื่อนที่ดีต่อฉันมาก  และเป็นเพื่อนชายที่ดีที่สุดของฉัน  แต่ก็แค่เพื่อนเท่านั้น  เพราะไม่ว่าจะพยายามสักเพียงใด  หัวใจของฉัน  มันก็ปิดที่จะรับชายอื่นไปนานแล้ว
วันหนึ่งในวันฝนตก  ขณะที่ฉันกำลังนั่งฟังเพลงอยู่นั่นเอง  เสียงออดก็ดังขึ้น
“ค่ะ
รอสักครู่นะคะ”
ฉันรีบไปหรี่เสียงวิทยุ  และเมื่อฉันเปิดประตูไปก็พบ
บุคคลที่ฉันคิดถึง  แต่กลับหลบหน้าเขาไปถึง 2 เดือน เป็นคนยืนอยู่หน้าประตูบ้านของฉันในสภาพที่เปียกปอน
ฉันอึ้งไปพักหนึ่ง  แต่เมื่อเห็นสารรูปพี่เขาเต็ม ๆ ตาก็ต้องร้องอย่างตกใจ
“ตายแล้ว!! พี่สันต์  ทำไมเปียกถึงขนาดนี้ล่ะคะ  มา
เข้าบ้านก่อนค่ะ  เดี๋ยวดาวไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้”
พี่สันต์มองหน้าฉันด้วยแววตาเลื่อนลอยแต่แฝงความเฉยชาที่ทำให้ฉันรู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว  แล้วเขาก็เข้ามาในบ้านฉัน  ฉันรีบผละไปเอาผ้าเช็ดตัวมาส่งให้เขาทันที  เขาเพียงแค่มองมันนิ่งแต่ไม่ได้รับไป
“เช็ดหน้าหน่อยสิคะ  เดี๋ยวไม่สบายนะคะ”
พี่สันต์เงียบไปนาน
นานมาก  ก่อนที่เขาจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันรู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลย
“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอคะ  ตาย ๆ ไปเลยยิ่งดี
”
เสียงที่พูดช่างเย็นชา
ห่างเหินยิ่งนัก  มันทำให้ฉันเริ่มใจเสีย
“พี่สันต์อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ  ดาวไม่ชอบนะ”
เหมือนพี่สันต์เริ่มเก็บอารมณ์ไม่ไหวแล้ว
“ทำไมคะดาว
ทำไมคะ  ทำไมต้องหลอกพี่  ทำไมไม่ยอมบอกพี่
”
“เรื่องอะไรคะ”
ฉันทำหน้างง
“ก็เรื่องของพายไงคะ  อย่าบอกนะ  ว่าดาวไม่รู้เรื่อง”
เขายิ้มอย่างเยาะหยัน  ฉันเอื้อมมือไปจับแขนเขาเป็นเชิงปลอบใจ  แต่พี่สันต์สะบัดสุดแรง  ฉันรีบระล่ำระลักคำขอโทษออกมาอย่างรวดเร็ว
“พี่สันต์คะ  ดาว
ดาวขอโทษ
”
ตาคมที่บอกความร้าวรานภายในทอดมองมาทางฉันอย่างปวดร้าว
“ทำไมคะ
ดาวอยากเห็นพี่เจ็บหรือคะ  เห็นพี่เป็นตัวตลกสำหรับดาวใช่มั้ยคะ”
ฉันหน้าซีด  น้ำตาไหลพราก
“ไม่ใช่นะคะ
พี่สันต์เข้าใจผิด  ดาวไม่ได้อยากเห็นพี่เจ็บ  ดาวแค่
”
“แค่อะไรคะ”
พี่สันต์ถามขึ้นมาทันควัน  เอื้อมมือมาบีบไหล่ฉันแน่น  ฉันร้องไห้  เจ็บ
กับการกระทำของพาย  อยากบอกพี่เขาเหลือเกิน  ว่าพี่เขาเจ็บเท่าไร  ฉันก็เจ็บมากกว่าที่พี่เขาเจ็บ
สักร้อยเท่า
“ดาวแค่สัญญากับพายไว้ค่ะ  สัญญาว่าจะไม่เล่าเรื่องแฟนของเขาให้ใครฟัง”
“แม้แต่พี่เหรอคะ  แม้แต่ดาวรู้ว่าพี่รักพาย  งั้นหรือคะ”
สายตาบ่งบอกความผิดหวังมองมายังฉันอีกครั้ง  ฉันหลบตาเขา  คำพูดนั้นกรีดเฉือนเข้าไปยังหัวใจดวงน้อย ๆ ของฉันให้แตกสลายยับเยิน  แต่ก็ต้องฝืนทำเข้มแข็ง  ตอบพี่เขาไป  แต่ใครจะรู้  ว่าน้ำตาที่ออกมาหลังจากนี้  ไม่ใช่น้ำตาสำหรับพี่เขาอีกแล้ว
“ดาวขอโทษค่ะ
”
“แล้วทำไมดาวต้องหลบหน้าพี่คะ”
เขาเปลี่ยนเรื่องกระทันหัน  เชยคางฉันให้มองสบตาเขา
“ดาว
เอ่อ
ดาว
ดาวเปล่า”
ฉันตอบตะกุกตะกัก  เขาเถียงเสียงหยัน
“เปล่าอะไรล่ะคะ  พี่ไปหาที่ห้องตอนเย็น
เขาก็บอกว่าดาวกลับไปแล้ว  พี่จะชวนไปกินข้าว
ดาวก็บอกว่าไม่ว่าง  ช่วงแรก ๆ พี่ก็คิดว่าดาวคงมีงาน  แต่นี่มัน 2 เดือนแล้วนะคะที่เราไม่ได้เจอกันเลย  อย่างนี้มันหมายความว่าอะไรกันคะ”
“ดาว
ขอโทษค่ะ  ดาวแค่รู้สึกอึดอัด”
“อึดอัด
อึดอัดอะไรคะ”
ในที่สุดฉันก็หาคำตอบได้  เขาเลิกคิ้วถามด้วยความแปลกใจ  น้ำเสียงดูอ่อนโยนลงมาก  ไม่แข็งกระด้างเหมือนตอนแรก ๆ
“ดาวอยากบอกพี่  แต่ดาวทำไม่ได้  ดาวเลยรู้สึกอึดอัด
เวลาอยู่กับพี่”
น้ำตาของฉันไหลพรากมาอีกครั้ง  พี่สันต์ปาดมันออกอย่างอ่อนโยน
“พี่ขอโทษค่ะ
ที่เข้าใจดาวผิด”
“พี่สันต์
พี่สันต์ไม่โกรธดาว
ใช่ไหมคะ”
เขายิ้มให้
ถึงแม้จะเป็นยิ้มที่แห้งแล้ง  แต่ฉันมีความรู้สึกว่าฉันได้พี่ชายคนดีกลับคืนมาอีกครั้ง
“พี่จะไปโกรธดาวทำไมล่ะคะ  พี่ไม่ใช่คนไร้เหตุผลซักหน่อย
ดาวก็รู้”
น้ำตาแห่งความดีใจไหลลงมาอีกครั้ง
รู้สึกว่าวันนี้มันเป็นวันที่ฉันเสียน้ำตาหลายครั้งมาก
เขาปาดมันออกอย่างนุ่มนวล  แล้วดึงตัวฉันเข้าไปกอด  กระซิบริมหู
“ร้องไห้ทำไมคะ  ก็พี่ขอโทษแล้วไงคะ”
“ดาวดีใจค่ะ
ดาวไม่อยากเห็นพี่เจ็บ
เหมือนกับดาว”
ประโยคหลังฉันพูดเสียงแผ่ว  แต่พี่สันต์ก็ยังไม่วายได้ยิน
“อะไรนะคะ  ใครทำดาวเจ็บเหรอคะ”
ฉันผละออกมา  แล้วรีบปาดน้ำตา
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ  เรื่องมันผ่านไปแล้ว  ดาวขอแค่พี่ชายคนดีของดาวมีความสุข  ดาวก็พอใจแล้วล่ะค่ะ”
แล้วฉันก็ส่งยิ้มสว่างไปให้เขาอีกครั้ง
“ขอบคุณค่ะ  ขอบคุณที่แคร์พี่มากขนาดนี้
ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ”
พี่สันต์กลับไปแล้ว  เขาอยู่กับฉันอีกครู่ใหญ่ ๆ เราต่างคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวระหว่างที่เราไม่ได้เจอกัน  จนฉันบอกว่าง่วงแล้วนั่นแหละพี่เขาจึงกลับไป
แต่คนที่บอกว่าง่วงกลับต้องมานอนลืมตาโพลงอยู่บนเตียง
พี่สันต์จะให้ดาวบอกไปได้ยังไงล่ะคะ  ว่าคนที่ดาวรัก  คนที่ทำให้ดาวเจ็บ
คือพี่
ฉันกับพี่สันต์กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว  กาลเวลาเริ่มเยียวยาพี่เขาให้ดีขึ้น  แถมยังเอาอกเอาใจฉันดีกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ  ส่วนฉันกับพายก็ไม่มีอะไรกัน  แต่เราก็สนิทกันน้อยลง  เพราะพายประกาศตัวแฟนของเธออย่างเป็นทางการแล้ว  ฉันหันมาสนิทกับนนท์มากขึ้น  เราสองคนเลยกลายเป็นคู่ซี้กันมากกว่าฉันกับพายซะอีก  เนื่องจากความคิดอะไรที่เหมือน ๆ กัน  ทำให้เราเข้ากันได้ดีมาก
วันหนึ่งพี่สันต์มาหาฉันที่ห้อง  ดูเหมือนเขาจะทำใจได้แล้วเรื่องพาย  เพราะเขาไม่เห็นว่าอะไรตอนที่เขาเจอพาย  กลับยิ้มให้พายเสียด้วยซ้ำ
ฉันเดินคุยมากับนนท์  ตอนนั้นเรากำลังถกกันถึงนักร้องที่เราสองคนชอบ  จนแทบไม่เห็นพี่สันต์ที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตู
“อ้าว!!!  พี่สันต์  สวัสดีค่ะ  มาทำอะไรที่นี่คะเนี่ย”
ฉันยกมือไหว้เขา  แล้วถามกลับด้วยความสงสัย
“ทำไมคะ
พี่จะมาหาน้องสาวของพี่ไม่ได้เลยเหรอ??”
เขาถามรวน ๆ  น้ำเสียงดูจะเจือความหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย  ฉันมองเขาอย่างแปลกใจ
“ทำไมเหรอคะ  พี่มีอะไรกับดาวเหรอคะ  แล้วนี่ไปโมโหใครมาเหรอคะ”
แล้วฉันก็ยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่
เมื่อฉันได้ยินเสียงกลั้นหัวเราะมาจากนนท์
“หัวเราะอะไรอะ  นนท์”
ฉันถามอย่างมึนสุด ๆ
“เปล๊าาาาา”
เขาทำเสียงสูงที่ฟังยังไงฉันก็ไม่เชื่อเลยซักนิด  และเมื่อฉันหันไปมองพี่สันต์ก็เห็นพี่เขาทำหน้าบึ้ง ๆ อยู่  แถมเสียงที่ถามมาก็ยังห้วนจัด
“ไปกันได้รึยังล่ะคะ  พี่หิวข้าวแล้วนะ”
“อะค่ะ”
ฉันรับคำอย่างงง  ๆ ก่อนที่พี่สันต์จะเดินนำลิ่ว ๆ ไปยังโรงอาหาร
เมื่อไปถึงโรงอาหาร  ฉันอาสาไปซื้อน้ำมาให้พี่สันต์กับนนท์
“ของนนท์เอาน้ำมะพร้าวใช่มั้ยจ๊ะ  เราจำได้  แล้วพี่สันต์ล่ะคะ  จะเอาอะไร”
ฉันหันไปถามพี่ชายร่วมโลกที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้าง ๆ
“เก๊กฮวย”
ตอบสั้น ๆ ห้วน ๆ จนฉันงง  แต่ก็ไม่ใส่ใจอะไร  คิดว่าพี่สันต์คงทะเลาะกับเพื่อนมา
เมื่อฉันไปซื้อข้าวมาทานและกลับมาถึงโต๊ะเรียบร้อยแล้วนนท์ก็เปิดประเด็นคุยใหม่  เขามักจะเป็นอย่างนี้เสมอแหละ  หาเรื่องมาคุยได้ทั้งวัน  ไม่รู้จักหยุดจักหย่อน
ฉันสังเกตว่าพี่สันต์หน้าบูดขึ้นไปทุกขณะระหว่างที่เรานั่งกินข้าวกัน  ในที่สุดฉันก็ถามพี่เขาอย่างสงสัย
“พี่สันต์เป็นอะไรเหรอคะ  ดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเลย”
เขาหันขวับมามองหน้าฉันด้วยแววตาที่ทำให้ฉันหนาวเยือกไปทั้งร่าง  ก่อนจะลุกขึ้นพร้อมกับดึงแขนเสื้อฉันให้ลุกตาม
“ดาว
พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”
ฉันอยู่ในช่วงงงเต็กอีกรอบ  และยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่เมื่อได้ยินเสียงกลั้วหัวเราะมาจากนนท์
“โชคดีละกันดาว  เดี๋ยวเรากินเสร็จแล้วเราขึ้นห้องเรียนก่อนเลยนะ  บาย”
“อืมมม
จ้ะ”
ฉันตอบรับก่อนที่จะเดินแกมวิ่งตามร่างสูงที่เดินนำหน้าไปให้ทัน  ในที่สุดพี่สันต์ก็พาฉันมาหยุดที่หน้าสวนพฤกษศาสตร์ซึ่งเป็นบริเวณที่เงียบสงบที่สุดของมหาวิทยาลัย
“พี่มีอะไรจะพูดกับดาวเหรอคะ”
ฉันเปิดฉากถามอย่างสงสัย
พี่สันต์หันขวับมาทางฉัน  ก่อนจะพูดด้วยเสียงราบเรียบแต่หนักแน่นจริงจังในทุก ๆ ถ้อยคำ  ยิ่งฟัง  ก็ยิ่งเหมือนมีสายฝนสาดเข้าไปในดวงใจของฉันให้ชุ่มชื้นขึ้นทีละนิด ๆ ผสานรอยแตกร้าวในหัวใจให้กลับสมบูรณ์ดังเดิมอีกครั้ง
“พี่คิดมาหลายวันแล้ว  ทำไม
พี่ถึงตัดใจจากพายได้เร็วนัก
เพียงแค่เดือนเดียวพี่ก็สามารถลืมเขาได้แล้ว  ทั้ง ๆ ที่พี่เคยคิดว่าพี่รักพายมาก
รักมากจนพี่แทบจะคลั่งเมื่อขาดพาย  แต่พี่กลับลืมเขาได้ภายใน 1 เดือน  มันหมายความว่ายังไง??  พี่เริ่มถามตัวเอง
ทำไมวันที่พี่รู้ความจริงว่าพายมีแฟนแล้ว พี่ถึงไม่ไปโวยวายกับเขา
แต่คนที่พี่โกรธ
พี่น้อยใจจนถึงกับต้องบุกมาหาถึงที่บ้านคือดาว  ทำไมถึงเป็นดาว  จนมาวันนี้พี่ถึงได้รู้
”
เขาหยุดครู่หนึ่ง  ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เพิ่มความหนักแน่นขึ้นไปทุก ๆ ถ้อยคำ  บ่งบอกว่าเป็นเรื่องจริง
“
เมื่อพี่เห็นดาวทำตัวสนิทสนมกับเจ้าหนุ่มหน้าตี๋คนนั้น  พี่ถึงได้รู้ว่าพี่
รักดาว
”
ฉันอ้าปากค้าง  แทบไม่เชื่อกับคำพูดที่ออกมาจากปากของพี่สันต์  แต่หัวใจกลับเต็มตื้นไปด้วยความปิติยินดี
“เมื่อไรคะ
เมื่อไร
”
ฉันยังพูดไม่ทันจบพี่เขาก็เอานิ้วชี้มาวางทาบบนปากฉันเป็นเชิงบอกให้หยุด
“อย่าถามว่าเมื่อไรที่พี่รักดาว
เพราะพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน  แต่ที่พี่รู้ก็คือกว่าพี่จะรู้ตัว  ดาวก็ได้เข้ามาอยู่ในหัวใจพี่เรียบร้อยแล้ว”
ฉันเต็มตื้นจนน้ำตาคลอ  พี่สันต์ดึงฉันไปกอดไว้แน่น
“แล้วดาวล่ะ  รู้สึกยังไงกับพี่”
เสียงกระซิบถามดังริมหู  ฉันก้มหน้างุด  รู้ว่าตอนนี้หน้าตัวเองคงแดงอยู่แน่ ๆ
“ดาวรักพี่ค่ะ”
ฉันกระซิบเสียงแผ่ว  มีความรู้สึกว่าอ้อมกอดกระชับแน่นมากขึ้น  แต่ก็ยังได้ยินเสียงถามว่า
“ว่าไงนะ  พี่ไม่ได้ยินเลย”
“ดาวรักพี่ค่ะ”
คราวนี้ฉันพูดเสียงดังมากขึ้นจนมั่นใจว่าขาคงจะได้ยินแน่ ๆ แต่ก็ยังมิวายถาม  ฉันจึงทุบหลังเขาดังอั้กอย่างหมั่นไส้
“โอ๊ย!! ทำไมแฟนพี่โหดอย่านี้ล่ะคะ  มีหวังพี่ช้ำในตายแน่เลย”
เขาแกล้งโอดครวญ
“คนเจ้าเล่ห์  ได้ยินแล้วมาหลอกให้เค้าพูดซ้ำอีกทำไม”
ฉันต่อว่าเขา  พี่สันต์หัวเราะเสียงใส
“ก็พี่ชอบดูเวลาดาวเขินนี่  น่ารักดี”
ฉันทุบเขาอีกครั้งแก้เขิน  ดวงตาคมยามมองมาฉายแววรัก
ไม่ปิดบัง  แล้วเขาจึงพูดต่อเสียงหวาน
“ต่อไปนี้ดาวจะเป็นดาวในดวงใจพี่นะคะ  เป็นดาวที่คอยส่องแสงให้พี่เพียงดวงเดียว
ตลอดไป”
ฉันมองตาเขาอย่างซาบซึ้ง  ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยคำพูดที่กลั่นมาจากเบื้องลึกของจิตใจ
“ค่ะ
ต่อไปนี้พี่สันต์จะเป็นดั่งสายฝนที่ตกพรำให้ความชุ่มชื้นในใจของดาวตลอดไปนะคะ  หัวใจดาวจะไม่มีวันแห้งแล้ง
อีกต่อไป”
**************************จบ**************************
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น