:/:/: ฤดูฝนแห่งความรัก :\\:\\: - :/:/: ฤดูฝนแห่งความรัก :\\:\\: นิยาย :/:/: ฤดูฝนแห่งความรัก :\\:\\: : Dek-D.com - Writer

    :/:/: ฤดูฝนแห่งความรัก :\\:\\:

    ถ้าความรักของฉันทำให้พี่ต้องลำบากใจ...ฉันอยากขอโทษ...มันจะสายเกินไปหรือเปล่า...ถ้าฉันอยากจะขอให้เราสองคนกลับมาเป็นอย่างเดิม...

    ผู้เข้าชมรวม

    471

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    471

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 ส.ค. 47 / 20:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ฉันมิได้เขียนบันทึกเล่มนี้ขึ้นมาเพื่อต้องการให้ความเพลิดเพลินแก่ผู้ใด  แต่ฉันเขียนเพราะต้องการแค่อยากระบายอะไรบางอย่างที่มันอัดอั้นอยู่ในใจของฉันมาหลายวันเท่านั้นเอง

      ฉันรู้จักกับพี่สันต์มาหลายปีแล้ว  ตั้งแต่ที่ฉันเข้าเรียนในโรงเรียนประถม  เราสนิทกันได้อย่างรวดเร็ว  เพราะพี่เขาเป็นคนอัธยาศัยดีมาก  พอมาถึงมัธยมกับมหาวิทยาลัยฉันกับพี่สันต์ก็อยู่ที่เดียวกันเขาอีก  ฉันกับพี่เขาดำรงความสัมพันธ์ฉันพี่-น้องกันเสมอมา  พี่สันต์เป็นคนน่ารัก  เวลาเขาพูดกับฉันเขาจะพูดลงท้ายด้วย ‘คะ’ เสมอ  ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันเริ่มชอบพี่เขาเข้าไปตั้งแต่เมื่อไร  รู้แต่ว่าฉันไม่ได้คิดกับเขาเพียงแค่พี่-น้องอย่างที่เขาอยากให้มันเป็นอย่างนั้นอีกต่อไปแล้ว

      “เขียนอะไรอยู่คะ  ตั้งใจเชียว”

      เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังฉัน  ฉันรีบปิดสมุดบันทึกฉับ  ด้วยกลัวว่าพี่เขาจะสังเกตเห็นความในใจที่เก็บเงียบมานานของฉันได้  แล้วฉันกับเขาจะไม่เหลืออะไรแม้แต่ความเป็นพี่-น้องอย่างทุกวันนี้

      “ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่สันต์  เขียนงานส่งอาจารย์นิดหน่อย  ว่าแต่พี่เถอะ  ทำไมมาเงียบ ๆ คะ  ไม่กลัวดาวก็ตกใจตายเหรอคะ”

      ฉันแสร้งเปลี่ยนเรื่อง  แล้วจึงได้ยินเสียงหัวเราะกังวานใสจากพี่สันต์

      “พี่ไม่กลัวหรอกค่ะ  เพราะพี่รู้ว่าน้องสาวของพี่คนนี้ประสาทแข็ง  ใช่มั้ยคะ?”

      ฉันอมยิ้ม  เห็นพี่เขาอารมณ์ดี  ฉันก็รู้สึกมีความสุขตามไปด้วย  ถึงแม้ว่าจะรู้สึกเจ็บกับคำว่า ‘น้องสาว’ ที่พี่สันต์พูดออกมาไม่น้อย

      “เออ  ดาวจะกลับบ้านเลยมั๊ยคะ  เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

      “ยังดีกว่าค่ะ  เดี๋ยวดาวรอเพื่อนแป๊บนึง…”

      “งั้นเดี๋ยวพี่นั่งรอเป็นเพื่อนดาวนะคะ”

      ฉันพยักหน้า  ยิ้มน้อย ๆ  แต่ในใจก็อดสังหรณ์ใจอะไรบางอย่างไม่ได้  และลางสังหรณ์ของฉันก็ไม่เคยพลาดซะด้วย

      “ดาว…มาแล้วจ้ะ  รอนานมั๊ยจ๊ะ”

      เสียงใส ๆ ของเพื่อนสาวของฉันดังขึ้น  เธอโผล่หน้ามาจากหลังพุ่มไม้  พอเห็นว่าฉันกำลังนั่งคุยกับพี่สันต์อยู่  เธอก็ทำหน้าคล้ายเกรงใจ

      “เอ่อ…ดาวไม่สะดวกจะคุยเหรอจ๊ะ  งั้นเดี๋ยวค่อยคุยกันพรุ่งนี้ก็ได้”

      ระหว่างพาย (ชื่อของเธอน่ะนะ) กำลังพูดอยู่ฉันสังเกตเห็นสายตาของพี่สันต์จับจ้องอยู่ที่ใบหน้าสวยหวานของพายอยู่ตลอดเวลา  ประกายในดวงตาพี่เขายามมองพายมองยังไง ๆ ฉันก็บอกไม่ได้ว่าเป็นประกายตาธรรมดา

      “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ”

      ฉันกลบเกลื่อนอารมณ์ต่าง ๆ ที่กำลังพลุ่งพล่านในอก  ฝืนยิ้มตอบพายไป

      “เพื่อนดาวเหรอคะ?”

      พี่สันต์ถามเป็นเชิงให้ฉันแนะนำพาย    ฉันพยักหน้า

      “พี่สันต์คะ  นี่พาย  เพื่อนดาวเองค่ะ  ส่วนพาย  นี่พี่สันต์  พี่ชายร่วมโลกของเราเองจ้ะ”

      ถึงฉันจะรู้เท่าทันพี่สันต์  แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แนะนำพี่เขากับพายตามมารยาท  หลังจากที่ฉันพูดจบ  พี่สันต์ก็เอื้อมมือมาเขกหัวฉันแม้สายตาจะไม่ละจากใบหน้าของพายแม้สักนิด

      “นี่แน่ะ  พี่ชายร่วมโลกเหรอ  ขอซักโป๊กเถอะ”

      “ก็รึไม่จริง”

      ฉันเถียงกลับไป  แม้จะรู้สึกเสียวจี๊ดกับคำว่า ‘พี่ชาย’  ที่ตนเองพูดออกไปไม่น้อย

      พายยิ้มหวานให้พี่สันต์

      “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ  พี่สันต์”

      “เช่นกันค่ะ  น้องพาย”

      แล้วพายจึงหันหน้ามาพูดกับฉัน

      “เออ…ดาว  เรื่องจัดบอร์ดน่ะ  เราคุยกับเพื่อนในห้องแล้วนะ  คือว่า…”

      แล้วเราก็คุยเรื่องงานกันโดยที่มีพี่สันต์นั่งรอ  สงสัยเหตุผลที่พี่เขาบอกกับฉันว่ามานั่งรอเดี๋ยวไปส่งฉันที่บ้านนั้นคงจะตกกระป๋องไปตั้งแต่ที่พี่เขามาเจอหน้าพายแล้วล่ะมั๊ง  ฉันอดที่จะน้อยใจเขาไม่ได้  ดูสิ  ขนาดสายตายังไม่ยอมละไปจากใบหน้าของพายเลย  ฉันอยากรู้นัก  ว่าถ้าพี่เขารู้ว่าพายมีแฟนแล้ว  พี่เขาจะทำหน้ายังไง

      ใช่!!!  พายมีแฟนแล้ว  แต่เธอกับแฟนของเธอคบกันแบบลับ ๆ ไม่ยอมให้ฉันไปบอกใคร  เพราะพายบอกว่าเธอเบื่อที่ต้องมาคอยฟังเพื่อน ๆ แซวตลอดเวลา  ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม  ฉันก็เห็นใจพายนะ  เพราะฉันก็เคยมีประสบการณ์มาบ้างเหมือนกัน

      ในที่สุดฉันกับพายก็คุยกันเสร็จ  ก่อนที่เราจะกลับ  พี่สันต์หันไปพูดกับพายว่า

      “ลาก่อนค่ะ  หวังว่าเราคงจะเจอกันอีก  เร็ว ๆ นี้”

      พายไม่ว่าอะไร  ได้แต่พยักหน้า  แต่เธอจะรู้อะไรบ้างหรือเปล่า  ว่าพี่สันต์ไม่เคยใช้คำลงท้ายว่าค่ะกับใครเลย  นอกจากฉัน

      ระหว่างที่ฉันกำลังเดินไปขึ้นรถของพี่สันต์ที่จอดอยู่นั้น  พี่เขาก็เปรย ๆ ขึ้นมาว่า

      “น่ารักดีนะ  เพื่อนดาวน่ะ”

      ฉันยิ้ม  อยากจะถามซักนิดว่า

      ‘แล้วคนที่พี่รู้จักมาตั้งแต่เด็กคนนี้ล่ะคะ ไม่น่ารักสำหรับพี่เลยซักนิดเหรอ’

      และคืนนั้น  ก็เป็นคืนที่ฉันรู้จักการเสียน้ำตาให้กับความรักเป็นครั้งแรก

      หลังจากวันนั้น  พี่สันต์ก็เริ่มสนิทกับพายมากขึ้นเรื่อย ๆ  เวลาพายกินข้าวกับฉัน  พี่เขาก็มักจะมาด้วยเสมอ ๆ และมักจะเอาอกเอาใจกันราวกับว่าในโลกนี้มีเพียงเขาสองคน  ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตา

      นับวัน  พี่เขากับฉันก็ยิ่งห่างกันออกไปเรื่อย ๆ  จากที่เคยกลับบ้านด้วยกันทุกเย็นก็เลิก  ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะฉันคอยหลบหน้าพี่เขาด้วยน่ะแหละ  ฉันรู้สึกอึดอัดเวลาที่พี่เขาไปกับฉันกับพายแล้วชอบทำเหมือนฉันไม่มีตัวตน  ฉันคิดว่าเราไม่เจอหน้ากันสักพักก็คงจะลืมกันไปเอง…แต่เปล่าเลย  ยิ่งนานวัน  เงาของพี่เขาก็เข้ามาทาบทับในใจฉันมากขึ้นเรื่อย ๆ  ความรู้สึกคิดถึง…ถวิลหา  ยิ่งมากขึ้นตามวันเวลาที่เราห่างกัน  ฉันอยากรู้  พี่เขาจะคิดถึงน้องสาวที่ชื่อ ‘ดาว’ คนนี้บ้างมั้ย

      แต่เวลาอยู่ในห้องกับพายฉันก็ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เฝ้าฟังเธอเล่าความคืบหน้าระหว่างเธอกับพี่ชายร่วมโลกของฉันด้วยอาการแปลบที่หัวใจเป็นระยะ ๆ  โดยที่พยายามที่จะไม่ฟัง  แต่ก็ไม่รู้ทำไม  มันถึงได้ลอยมาเข้าหูฉันทุกทีสิน่า

      ฉันได้รู้ว่า…พี่สันต์กับพายกลับบ้านด้วยกันทุกเย็น

      ฉันได้รู้ว่า…พี่สันต์โทร.คุยกับพายทุกคืน  ครั้งละนาน ๆ

      ฉันได้รู้ว่า…พี่สันต์เข้ากับครอบครัวพายได้ดีมาก

      และอย่างสุดท้าย  ฉันได้รู้ว่า…พี่สันต์ไม่เคยพูดถึงฉันเวลาอยู่กับพายเลย

      และอย่างสุดท้ายเป็นอย่างที่ทำให้ฉันเจ็บมากที่สุด  ทำไมล่ะ…ทำไม  เวลาหลายปีที่เรารู้จักกันมา  พี่สันต์ไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตาเลยใช่มั้ย???  แล้วแฟนพายอีกล่ะ  เธอจะเอายังไงกับเขา  พายมาสนิทกันพี่สันต์แล้วแฟนเธอล่ะ  เธอจะเอายังไงกันแน่  ฉันไม่อยากให้พี่สันต์เข้าใจผิดว่าพายชอบพี่เขานะ  ฉันไม่อยากเห็นเขาเจ็บ  เหมือนที่ฉันเจ็บอยู่ทุกวันนี้  ถึงแม้ฉันจะรู้ว่าพี่เขาไม่เคยคิดอะไรกับฉันเกินคำว่า ‘น้องสาว’ เลยก็เถอะ

      ในที่สุดฉันกับพายก็คุยเปิดใจกันเสียที

      “พาย  เธอรู้ใช่มั้ยว่าพี่สันต์คิดยังไงกับเธอ”

      พายพยักหน้า

      “แล้วแฟนเธอล่ะ  เขาจะว่ายังไงที่เห็นเธอไปทำตัวสนิทสนมกับพี่สันต์อย่างนั้น”

      ฉันถาม  พยายามเก็บซ่อนรอยขื่นในน้ำเสียงไว้ให้มิดชิดที่สุด

      พายยิ้มหวาน

      “ขอบใจจ้ะที่เป็นห่วงฉัน  แต่ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ  แฟนฉันเขาเข้าใจ”

      “ถึงกระนั้นก็เถอะพาย  แต่ฉันว่ามันไม่ดีนะ  เพราะเดี๋ยวพี่เขาเข้าใจผิดว่าเธอชอบเขา  แล้วพอมารู้ความจริงเธอกับเขาจะมองหน้ากันไม่ติด”

      ฉันค่อยโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง  แต่ก็ยังอดห่วงความรู้สึกของพี่เขาไม่ได้

      พายเงียบไป  แต่ก็คงไม่รู้จะทำอย่างไรนั่นแหละ  เพราะการปฏิเสธไมตรีของใครสักคนโดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรให้เรานั้นมันเป็นอะไรที่ลำบากใจมาก

      “เอาเถอะ”  ฉันตบไหล่พายอย่างเห็นใจ…แต่ก็ไม่มากไปกว่าเห็นใจตัวเองหรอก  “แต่ยังไง  ฉันก็ยังอยากให้เธอบอกพี่เขาให้รู้ไว้ก่อนนะ  พี่สันต์เป็นเหมือนพี่ชายฉัน  ฉันไม่อยากเห็นพี่เขาต้องเสียใจ”

      พายพยักหน้า

      “จ้ะ…ฉันจะพยายามหาเวลาบอกพี่เขาให้เร็วที่สุด”

      แต่จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ผ่านมา 2 สัปดาห์แล้ว  แต่ฉันก็ยังไม่เห็นทีท่าว่าพายจะบอกพี่สันต์สักที

      วันนี้พายโทร.มาหาฉัน  เธอโทร.มาชวนฉันไปดูพี่สันต์ซ้อมละครในวันเสาร์ที่จะถึงนี้  เธอบอกว่าเธอบอกพี่สันต์ให้มาโทร.ชวนฉันแล้วแต่กลัวพี่เขาไม่โทร.ก็เลยโทร.มาชวนเองเลย

      ฉันรู้สึกน้อยใจพี่เขามาก  ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เจอกันมา 2 สัปดาห์แล้ว  แต่ในความรู้สึกนึกคิดของพี่เขาคงมีแต่พาย  ไม่เคยมีฉันอยู่ในห้วงคำนึงเลยใช่มั้ย??

      และคืนนั้น  เป็นคืนที่ฉันถามตัวเองอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกว่า

      …หยุดรักดีมั้ยดาวเอ๋ย  ในเมื่อเขาทำเธอเจ็บถึงขนาดนี้…

      และในที่สุด  ฉันก็ไม่ได้ตอบรับคำชวนของพายอยู่ดี

      หลังจากวันนั้น  ฉันพยายามเปิดใจรับผู้ชายคนอื่นที่เข้ามาในชีวิตของฉันมากขึ้น  และฉันก็ได้พบนนท์  นนท์เป็นเพื่อนที่ดีต่อฉันมาก  และเป็นเพื่อนชายที่ดีที่สุดของฉัน  แต่ก็แค่เพื่อนเท่านั้น  เพราะไม่ว่าจะพยายามสักเพียงใด  หัวใจของฉัน  มันก็ปิดที่จะรับชายอื่นไปนานแล้ว

      วันหนึ่งในวันฝนตก  ขณะที่ฉันกำลังนั่งฟังเพลงอยู่นั่นเอง  เสียงออดก็ดังขึ้น

      “ค่ะ…รอสักครู่นะคะ”

      ฉันรีบไปหรี่เสียงวิทยุ  และเมื่อฉันเปิดประตูไปก็พบ…

      บุคคลที่ฉันคิดถึง  แต่กลับหลบหน้าเขาไปถึง 2 เดือน เป็นคนยืนอยู่หน้าประตูบ้านของฉันในสภาพที่เปียกปอน

      ฉันอึ้งไปพักหนึ่ง  แต่เมื่อเห็นสารรูปพี่เขาเต็ม ๆ ตาก็ต้องร้องอย่างตกใจ

      “ตายแล้ว!! พี่สันต์  ทำไมเปียกถึงขนาดนี้ล่ะคะ  มา…เข้าบ้านก่อนค่ะ  เดี๋ยวดาวไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้”

      พี่สันต์มองหน้าฉันด้วยแววตาเลื่อนลอยแต่แฝงความเฉยชาที่ทำให้ฉันรู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว  แล้วเขาก็เข้ามาในบ้านฉัน  ฉันรีบผละไปเอาผ้าเช็ดตัวมาส่งให้เขาทันที  เขาเพียงแค่มองมันนิ่งแต่ไม่ได้รับไป

      “เช็ดหน้าหน่อยสิคะ  เดี๋ยวไม่สบายนะคะ”

      พี่สันต์เงียบไปนาน…นานมาก  ก่อนที่เขาจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันรู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลย

      “ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอคะ  ตาย ๆ ไปเลยยิ่งดี…”

      เสียงที่พูดช่างเย็นชา…ห่างเหินยิ่งนัก  มันทำให้ฉันเริ่มใจเสีย

      “พี่สันต์อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ  ดาวไม่ชอบนะ”

      เหมือนพี่สันต์เริ่มเก็บอารมณ์ไม่ไหวแล้ว

      “ทำไมคะดาว…ทำไมคะ  ทำไมต้องหลอกพี่  ทำไมไม่ยอมบอกพี่…”

      “เรื่องอะไรคะ”

      ฉันทำหน้างง

      “ก็เรื่องของพายไงคะ  อย่าบอกนะ  ว่าดาวไม่รู้เรื่อง”

      เขายิ้มอย่างเยาะหยัน  ฉันเอื้อมมือไปจับแขนเขาเป็นเชิงปลอบใจ  แต่พี่สันต์สะบัดสุดแรง  ฉันรีบระล่ำระลักคำขอโทษออกมาอย่างรวดเร็ว

      “พี่สันต์คะ  ดาว…ดาวขอโทษ…”

      ตาคมที่บอกความร้าวรานภายในทอดมองมาทางฉันอย่างปวดร้าว

      “ทำไมคะ…ดาวอยากเห็นพี่เจ็บหรือคะ  เห็นพี่เป็นตัวตลกสำหรับดาวใช่มั้ยคะ”

      ฉันหน้าซีด  น้ำตาไหลพราก

      “ไม่ใช่นะคะ…พี่สันต์เข้าใจผิด  ดาวไม่ได้อยากเห็นพี่เจ็บ  ดาวแค่…”

      “แค่อะไรคะ”

      พี่สันต์ถามขึ้นมาทันควัน  เอื้อมมือมาบีบไหล่ฉันแน่น  ฉันร้องไห้  เจ็บ…กับการกระทำของพาย  อยากบอกพี่เขาเหลือเกิน  ว่าพี่เขาเจ็บเท่าไร  ฉันก็เจ็บมากกว่าที่พี่เขาเจ็บ…สักร้อยเท่า

      “ดาวแค่สัญญากับพายไว้ค่ะ  สัญญาว่าจะไม่เล่าเรื่องแฟนของเขาให้ใครฟัง”

      “แม้แต่พี่เหรอคะ  แม้แต่ดาวรู้ว่าพี่รักพาย  งั้นหรือคะ”

      สายตาบ่งบอกความผิดหวังมองมายังฉันอีกครั้ง  ฉันหลบตาเขา  คำพูดนั้นกรีดเฉือนเข้าไปยังหัวใจดวงน้อย ๆ ของฉันให้แตกสลายยับเยิน  แต่ก็ต้องฝืนทำเข้มแข็ง  ตอบพี่เขาไป  แต่ใครจะรู้  ว่าน้ำตาที่ออกมาหลังจากนี้  ไม่ใช่น้ำตาสำหรับพี่เขาอีกแล้ว

      “ดาวขอโทษค่ะ…”

      “แล้วทำไมดาวต้องหลบหน้าพี่คะ”

      เขาเปลี่ยนเรื่องกระทันหัน  เชยคางฉันให้มองสบตาเขา

      “ดาว…เอ่อ…ดาว…ดาวเปล่า”

      ฉันตอบตะกุกตะกัก  เขาเถียงเสียงหยัน

      “เปล่าอะไรล่ะคะ  พี่ไปหาที่ห้องตอนเย็น…เขาก็บอกว่าดาวกลับไปแล้ว  พี่จะชวนไปกินข้าว…ดาวก็บอกว่าไม่ว่าง  ช่วงแรก ๆ พี่ก็คิดว่าดาวคงมีงาน  แต่นี่มัน 2 เดือนแล้วนะคะที่เราไม่ได้เจอกันเลย  อย่างนี้มันหมายความว่าอะไรกันคะ”

      “ดาว…ขอโทษค่ะ  ดาวแค่รู้สึกอึดอัด”

      “อึดอัด…อึดอัดอะไรคะ”

      ในที่สุดฉันก็หาคำตอบได้  เขาเลิกคิ้วถามด้วยความแปลกใจ  น้ำเสียงดูอ่อนโยนลงมาก  ไม่แข็งกระด้างเหมือนตอนแรก ๆ

      “ดาวอยากบอกพี่  แต่ดาวทำไม่ได้  ดาวเลยรู้สึกอึดอัด…เวลาอยู่กับพี่”

      น้ำตาของฉันไหลพรากมาอีกครั้ง  พี่สันต์ปาดมันออกอย่างอ่อนโยน

      “พี่ขอโทษค่ะ…ที่เข้าใจดาวผิด”

      “พี่สันต์…พี่สันต์ไม่โกรธดาว…ใช่ไหมคะ”

      เขายิ้มให้…ถึงแม้จะเป็นยิ้มที่แห้งแล้ง  แต่ฉันมีความรู้สึกว่าฉันได้พี่ชายคนดีกลับคืนมาอีกครั้ง

      “พี่จะไปโกรธดาวทำไมล่ะคะ  พี่ไม่ใช่คนไร้เหตุผลซักหน่อย…ดาวก็รู้”

      น้ำตาแห่งความดีใจไหลลงมาอีกครั้ง…รู้สึกว่าวันนี้มันเป็นวันที่ฉันเสียน้ำตาหลายครั้งมาก

      เขาปาดมันออกอย่างนุ่มนวล  แล้วดึงตัวฉันเข้าไปกอด  กระซิบริมหู

      “ร้องไห้ทำไมคะ  ก็พี่ขอโทษแล้วไงคะ”

      “ดาวดีใจค่ะ…ดาวไม่อยากเห็นพี่เจ็บ…เหมือนกับดาว”

      ประโยคหลังฉันพูดเสียงแผ่ว  แต่พี่สันต์ก็ยังไม่วายได้ยิน

      “อะไรนะคะ  ใครทำดาวเจ็บเหรอคะ”

      ฉันผละออกมา  แล้วรีบปาดน้ำตา

      “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ  เรื่องมันผ่านไปแล้ว  ดาวขอแค่พี่ชายคนดีของดาวมีความสุข  ดาวก็พอใจแล้วล่ะค่ะ”

      แล้วฉันก็ส่งยิ้มสว่างไปให้เขาอีกครั้ง

      “ขอบคุณค่ะ  ขอบคุณที่แคร์พี่มากขนาดนี้…ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ”

      พี่สันต์กลับไปแล้ว  เขาอยู่กับฉันอีกครู่ใหญ่ ๆ เราต่างคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวระหว่างที่เราไม่ได้เจอกัน  จนฉันบอกว่าง่วงแล้วนั่นแหละพี่เขาจึงกลับไป

      แต่คนที่บอกว่าง่วงกลับต้องมานอนลืมตาโพลงอยู่บนเตียง

      …พี่สันต์จะให้ดาวบอกไปได้ยังไงล่ะคะ  ว่าคนที่ดาวรัก  คนที่ทำให้ดาวเจ็บ…คือพี่…

      ฉันกับพี่สันต์กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว  กาลเวลาเริ่มเยียวยาพี่เขาให้ดีขึ้น  แถมยังเอาอกเอาใจฉันดีกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ  ส่วนฉันกับพายก็ไม่มีอะไรกัน  แต่เราก็สนิทกันน้อยลง  เพราะพายประกาศตัวแฟนของเธออย่างเป็นทางการแล้ว  ฉันหันมาสนิทกับนนท์มากขึ้น  เราสองคนเลยกลายเป็นคู่ซี้กันมากกว่าฉันกับพายซะอีก  เนื่องจากความคิดอะไรที่เหมือน ๆ กัน  ทำให้เราเข้ากันได้ดีมาก

      วันหนึ่งพี่สันต์มาหาฉันที่ห้อง  ดูเหมือนเขาจะทำใจได้แล้วเรื่องพาย  เพราะเขาไม่เห็นว่าอะไรตอนที่เขาเจอพาย  กลับยิ้มให้พายเสียด้วยซ้ำ

      ฉันเดินคุยมากับนนท์  ตอนนั้นเรากำลังถกกันถึงนักร้องที่เราสองคนชอบ  จนแทบไม่เห็นพี่สันต์ที่ยืนรออยู่ที่หน้าประตู

      “อ้าว!!!  พี่สันต์  สวัสดีค่ะ  มาทำอะไรที่นี่คะเนี่ย”

      ฉันยกมือไหว้เขา  แล้วถามกลับด้วยความสงสัย

      “ทำไมคะ…พี่จะมาหาน้องสาวของพี่ไม่ได้เลยเหรอ??”

      เขาถามรวน ๆ  น้ำเสียงดูจะเจือความหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย  ฉันมองเขาอย่างแปลกใจ

      “ทำไมเหรอคะ  พี่มีอะไรกับดาวเหรอคะ  แล้วนี่ไปโมโหใครมาเหรอคะ”

      แล้วฉันก็ยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่…เมื่อฉันได้ยินเสียงกลั้นหัวเราะมาจากนนท์

      “หัวเราะอะไรอะ  นนท์”

      ฉันถามอย่างมึนสุด ๆ

      “เปล๊าาาาา”

      เขาทำเสียงสูงที่ฟังยังไงฉันก็ไม่เชื่อเลยซักนิด  และเมื่อฉันหันไปมองพี่สันต์ก็เห็นพี่เขาทำหน้าบึ้ง ๆ อยู่  แถมเสียงที่ถามมาก็ยังห้วนจัด

      “ไปกันได้รึยังล่ะคะ  พี่หิวข้าวแล้วนะ”

      “อะค่ะ”

      ฉันรับคำอย่างงง  ๆ ก่อนที่พี่สันต์จะเดินนำลิ่ว ๆ ไปยังโรงอาหาร

      เมื่อไปถึงโรงอาหาร  ฉันอาสาไปซื้อน้ำมาให้พี่สันต์กับนนท์

      “ของนนท์เอาน้ำมะพร้าวใช่มั้ยจ๊ะ  เราจำได้  แล้วพี่สันต์ล่ะคะ  จะเอาอะไร”

      ฉันหันไปถามพี่ชายร่วมโลกที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้าง ๆ

      “เก๊กฮวย”

      ตอบสั้น ๆ ห้วน ๆ จนฉันงง  แต่ก็ไม่ใส่ใจอะไร  คิดว่าพี่สันต์คงทะเลาะกับเพื่อนมา

      เมื่อฉันไปซื้อข้าวมาทานและกลับมาถึงโต๊ะเรียบร้อยแล้วนนท์ก็เปิดประเด็นคุยใหม่  เขามักจะเป็นอย่างนี้เสมอแหละ  หาเรื่องมาคุยได้ทั้งวัน  ไม่รู้จักหยุดจักหย่อน

      ฉันสังเกตว่าพี่สันต์หน้าบูดขึ้นไปทุกขณะระหว่างที่เรานั่งกินข้าวกัน  ในที่สุดฉันก็ถามพี่เขาอย่างสงสัย

      “พี่สันต์เป็นอะไรเหรอคะ  ดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเลย”

      เขาหันขวับมามองหน้าฉันด้วยแววตาที่ทำให้ฉันหนาวเยือกไปทั้งร่าง  ก่อนจะลุกขึ้นพร้อมกับดึงแขนเสื้อฉันให้ลุกตาม

      “ดาว…พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”

      ฉันอยู่ในช่วงงงเต็กอีกรอบ  และยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่เมื่อได้ยินเสียงกลั้วหัวเราะมาจากนนท์

      “โชคดีละกันดาว  เดี๋ยวเรากินเสร็จแล้วเราขึ้นห้องเรียนก่อนเลยนะ  บาย”

      “อืมมม…จ้ะ”

      ฉันตอบรับก่อนที่จะเดินแกมวิ่งตามร่างสูงที่เดินนำหน้าไปให้ทัน  ในที่สุดพี่สันต์ก็พาฉันมาหยุดที่หน้าสวนพฤกษศาสตร์ซึ่งเป็นบริเวณที่เงียบสงบที่สุดของมหาวิทยาลัย

      “พี่มีอะไรจะพูดกับดาวเหรอคะ”

      ฉันเปิดฉากถามอย่างสงสัย

      พี่สันต์หันขวับมาทางฉัน  ก่อนจะพูดด้วยเสียงราบเรียบแต่หนักแน่นจริงจังในทุก ๆ ถ้อยคำ  ยิ่งฟัง  ก็ยิ่งเหมือนมีสายฝนสาดเข้าไปในดวงใจของฉันให้ชุ่มชื้นขึ้นทีละนิด ๆ ผสานรอยแตกร้าวในหัวใจให้กลับสมบูรณ์ดังเดิมอีกครั้ง

      “พี่คิดมาหลายวันแล้ว  ทำไม…พี่ถึงตัดใจจากพายได้เร็วนัก…เพียงแค่เดือนเดียวพี่ก็สามารถลืมเขาได้แล้ว  ทั้ง ๆ ที่พี่เคยคิดว่าพี่รักพายมาก…รักมากจนพี่แทบจะคลั่งเมื่อขาดพาย  แต่พี่กลับลืมเขาได้ภายใน 1 เดือน  มันหมายความว่ายังไง??  พี่เริ่มถามตัวเอง…ทำไมวันที่พี่รู้ความจริงว่าพายมีแฟนแล้ว พี่ถึงไม่ไปโวยวายกับเขา…แต่คนที่พี่โกรธ…พี่น้อยใจจนถึงกับต้องบุกมาหาถึงที่บ้านคือดาว  ทำไมถึงเป็นดาว  จนมาวันนี้พี่ถึงได้รู้…”

      เขาหยุดครู่หนึ่ง  ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เพิ่มความหนักแน่นขึ้นไปทุก ๆ ถ้อยคำ  บ่งบอกว่าเป็นเรื่องจริง

      “…เมื่อพี่เห็นดาวทำตัวสนิทสนมกับเจ้าหนุ่มหน้าตี๋คนนั้น  พี่ถึงได้รู้ว่าพี่…รักดาว…”

      ฉันอ้าปากค้าง  แทบไม่เชื่อกับคำพูดที่ออกมาจากปากของพี่สันต์  แต่หัวใจกลับเต็มตื้นไปด้วยความปิติยินดี

      “เมื่อไรคะ…เมื่อไร…”

      ฉันยังพูดไม่ทันจบพี่เขาก็เอานิ้วชี้มาวางทาบบนปากฉันเป็นเชิงบอกให้หยุด

      “อย่าถามว่าเมื่อไรที่พี่รักดาว…เพราะพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน  แต่ที่พี่รู้ก็คือกว่าพี่จะรู้ตัว  ดาวก็ได้เข้ามาอยู่ในหัวใจพี่เรียบร้อยแล้ว”

      ฉันเต็มตื้นจนน้ำตาคลอ  พี่สันต์ดึงฉันไปกอดไว้แน่น

      “แล้วดาวล่ะ  รู้สึกยังไงกับพี่”

      เสียงกระซิบถามดังริมหู  ฉันก้มหน้างุด  รู้ว่าตอนนี้หน้าตัวเองคงแดงอยู่แน่ ๆ

      “ดาวรักพี่ค่ะ”

      ฉันกระซิบเสียงแผ่ว  มีความรู้สึกว่าอ้อมกอดกระชับแน่นมากขึ้น  แต่ก็ยังได้ยินเสียงถามว่า

      “ว่าไงนะ  พี่ไม่ได้ยินเลย”

      “ดาวรักพี่ค่ะ”

      คราวนี้ฉันพูดเสียงดังมากขึ้นจนมั่นใจว่าขาคงจะได้ยินแน่ ๆ แต่ก็ยังมิวายถาม  ฉันจึงทุบหลังเขาดังอั้กอย่างหมั่นไส้

      “โอ๊ย!! ทำไมแฟนพี่โหดอย่านี้ล่ะคะ  มีหวังพี่ช้ำในตายแน่เลย”

      เขาแกล้งโอดครวญ

      “คนเจ้าเล่ห์  ได้ยินแล้วมาหลอกให้เค้าพูดซ้ำอีกทำไม”

      ฉันต่อว่าเขา  พี่สันต์หัวเราะเสียงใส

      “ก็พี่ชอบดูเวลาดาวเขินนี่  น่ารักดี”

      ฉันทุบเขาอีกครั้งแก้เขิน  ดวงตาคมยามมองมาฉายแววรัก…ไม่ปิดบัง  แล้วเขาจึงพูดต่อเสียงหวาน

      “ต่อไปนี้ดาวจะเป็นดาวในดวงใจพี่นะคะ  เป็นดาวที่คอยส่องแสงให้พี่เพียงดวงเดียว…ตลอดไป”

      ฉันมองตาเขาอย่างซาบซึ้ง  ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยคำพูดที่กลั่นมาจากเบื้องลึกของจิตใจ

      “ค่ะ…ต่อไปนี้พี่สันต์จะเป็นดั่งสายฝนที่ตกพรำให้ความชุ่มชื้นในใจของดาวตลอดไปนะคะ  หัวใจดาวจะไม่มีวันแห้งแล้ง…อีกต่อไป”

      **************************จบ**************************

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×