ว่าด้วยรองเท้า - ว่าด้วยรองเท้า นิยาย ว่าด้วยรองเท้า : Dek-D.com - Writer

    ว่าด้วยรองเท้า

    มันจบเรื่องด้วยรองเท้าข้างซ้าย

    ผู้เข้าชมรวม

    1,156

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    1.15K

    ความคิดเห็น


    13

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 มิ.ย. 46 / 16:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      \"อันกลับแล้วนะ\" อันหันหลังเดินขึ้นรถคันสวยหรูออกไป ทิ้งให้เอมเดินกลับบ้านคนเดียว
      \"น้องๆ เพื่อนน้องคนนั้นชื่ออะไรอ่ะ บอกพี่หน่อยนะ พี่ให้เงิน50อ่ะ\"
      \"นะๆ น้องนะ บอกพี่หน่อยนะนะ น้องคนนั้นสวยจิงๆนี่\"
      \"น้องๆ บอก...\"
      \"ปัดโถ่เว้ย บอกว่าไม่บอกไง ฟังไม่รู้เรื่องเหรอ ชาตินี้ ชั้นไม่ขายเพื่อนกินหรอก\"
      คำพูดนี้ทำให้กันชะงัก น้องคนนี้เล่นแรงจิงๆ แต่ก้อดีแล้ว รักเพื่อนดี
      \"น้องๆ แล้วน้องชื่อรัยล่ะ บอกพี่หน่อย\" ท่าทางเฉยๆของเอมทำให้กันยิ่งเซ้าซี้
      \"อ้าวเอม ยังไม่กลับอีกเหรอ\" เสียงของบีขัดจังหวะขึ้น
      \"อ๋อ น้องชื่อเอมน่ะเอง พี่ไปล่ะ\"
           นั่นเป็นวันแรกที่ทำให้เรารู้จักกัน ตอนแรก ฉันคิดว่าพี่กันเป็นคนไม่ดี จีบผู้หญิงเพราะหน้าตา แต่ไม่ใช่  พี่เค้ามีเรื่องให้ฉันปลื้มไม่น้อย
      \"อ่าว น้องเอม หวัดดีคับ พี่ไปส่งมั๊ย\"
      \"ไม่ต้อง ไปเองได้ อย่ามายุ่ง\" นั่นล่ะ วันที่สอง
      \"หวัดดีคับ อยู่คนเดียวอีกแล้วนะ\"
      \"เรื่องของฉัน\" มันจะเป็นอย่างงี้เดือนกว่าๆ ฉันเริ่มใจอ่อน เพราะพี่เขาเล่นนั่งรอรถเมล์เป็นเพื่อนฉัน ถึงแม้ไม่ได้คุยอะไร เขาก็มานั่งรอทุกวันๆนานวันเข้า เริ่มคุยกันบ้างนิดหน่อย วันนั้น วันที่ฉันปลื้มเขา
              วันนี้แปลกแฮะ ไม่เห็นไอ้กันเลย ฉันนึก หลังจากที่มองซ้ายมองขวา ไม่มีจิงๆด้วยแฮะ รู้สึกขาดอะไรไปบางอย่าง ฉันเดินต่อไปตามปกติ ข้ามถนนตามเคย ตอนนั้น ก็มีรถคนนึง วิ่งตัดหน้ามาด้วยความเร็วสูง
      “โอ๊ย!!!!!” ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจ  มีมือคู่หนึ่ง มาดึงฉันไปทัน
      “ เธอจะทำอะไรของเธอ ถ้าพี่มาช่วยไม่ทัน คงนอนไปกองบนพื้นแล้วนะ ”  จะเป็นใครไปได้ล่ะ ก็มีพี่กันคนเดียวที่กลับบ้านช้าขนาดนี้ พี่กันเดินไปส่งฉันอีกฝั่งนึง แล้วนั่งรอรถเมล์เป็นเพื่อน ระหว่างรอฉันไม่ได้พูดอะไรมาก จะพูดมากก็พี่กันนี่แหละ ว่าฉันซะเยอะ
      “ พี่ไปแล้วนะ “
      นับวันเรายิ่งสนิทกันมากขึ้น ทุกๆวันจะเป็นอย่างนี้ บางวันกลับเย็นมาก พี่กันก็เลี้ยงข้าวฉันบ้าง บางทีฉันก็ขอเลี้ยงบ้าง ฉันปลื้มพี่เขาขึ้นทุกวันๆ
      “นี่เอม ตกลงน้องอัน มีแฟนหรือยัง” คำถามนี้ทำให้ฉันหน้าเจื่อนลงไปเล็กน้อย ฉันตอบเบาๆว่ายัง ทำให้หน้าตาของพี่กันสดใสขึ้น แต่ในใจฉันกลับห่อเหี่ยวลง หลังจากที่นั่งรอรถเมล์อยู่นาน รถเมล์ก็มา พี่กันส่งฉันขึ้นรถเมล์ แล้วตะโกนว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปหาที่ห้องนะ”
          เกือบเดือนครึ่งแล้วสินะ ที่พี่เขาโทรมาหาฉัน เพื่อปรึกษาเรื่องของอัน ใครจะรู้ว่าฉันแอบชอบพี่เขา ฉันไม่เคยปริปากเรื่องนี้กับใคร แม้แต่อัน
      “ อ้าว น้องอัน สวัสดีครับ” อีกแล้วสินะ ที่พี่เขาทักแต่อัน ไม่ทักฉัน ทั้งๆที่เรา 2 คนเดินมาพร้อมๆกัน
      ฉันไม่แปลกใจเลยที่เดี๋ยวนี้ ฉันจะไม่เห็นพี่กัน แถวๆหน้ารร. และป้ายรถเมล์ แน่ล่ะสิ เขาต้องไปกับหวานใจ
      กริ๊ง…..กริ๊ง…….กริ๊ง….
      ฉันเดินไปรับโทรศัพท์ช้าๆ ไม่มีใครหรอก นอกจากพี่กัน
      “สวัสดี วันนี้มีอะไรอีกล่ะ”
      “เอมเหรอ มีข่าวดีมาบอกล่ะ” ฉันคาดผิด ร้อยวันพันปี อันไม่เคยโทรมาหาฉัน
      “เราตกลงคบกันแล้ว” ฉันแทบทรุดทีเดียว ทั้งๆที่ทำใจไว้แล้ว ทั้งๆที่รู้ ว่าสักวัน ต้องมีคำๆนี้ออกมาจากปากคนใดคนหนึ่ง ฉันรีบบอกลา แล้ววางโทรศัพท์ ฉันไม่ได้ร้องไห้เลย ฉันร้องไม่ออกหรอก แต่พรุ่งนี้ฉันจะมองหน้า2คนนี้ได้อย่างไร
      “สวัสดีครับ น้องเอม วันนี้พี่ไปส่งมั๊ย” พี่กันโผล่มา ขณะที่ฉันกำลังเข้าประตูรร. ฉันตอบปฎิเสธไป โดยไม่มองหน้า ฉันรู้ สักวัน ฉันต้องระเบิดคำพูดออกมา ฉันจะอดทนกับการเย็นชานี้ได้แค่ไหน เดี๋ยวนี้พอออด ฉันก็รีบกลับบ้านทันที  2 คนนั้น ก็สนิทสนมกันดี บ่อยครั้งนัก ฉันแอบไปร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ บ่อยครั้งนักที่ฉันโดดเรียน บ่อยครั้ง ฉันไม่กินข้าว ไม่พูดกับใคร นานวัน ฉันเริ่มซูบผอมลงมากไปกว่าเดิม วันนี้เช่นกัน ฉันก็โดดเรียนเช่นเคย หลังโรงอาหาร ชั่งเป็นที่ที่เหมาะเจาะ สำหรับหลบอาจารย์จริงๆ
      “ อ่าว น้องเอมเหรอครับ มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้เอ่ย ออดแล้วนี่” เฮ่อ…. นี่คือเสียงคนที่ฉันไม่อยากจะได้ยินอีก
      “ป่าวหรอก ไม่มีอะไร ไปล่ะนะ “     “อ้าว แต่หน้าดู…..”
      ฉันไม่รอให้พี่เขาพูดจบหรอก ฉันรีบวิ่งไป ไม่ใช่เพราะอะไร ฉันอาย น้ำตาที่เอ่อล้นแก้มออกมานี่สิ หลังจากออด ฉันรีบเดินไปตามปกติ พยายามทำหน้าตาให้เหมือนแต่ก่อน มันทำได้ยากนัก ถึงหน้ารร. ฉันมองเข้าไปในร้านประจำ ที่ปกติ พี่กันกับฉันจะมากินด้วยกันบ่อย แต่วันนี้ ไม่มีฉันอีกแล้ว มีแต่อันกับกันแล้วสิ อีกครั้ง ที่ฉันเห็นสองคนนี้ นั่งในร้านนี้ หน้าตาอั่นหม่นหมองของฉัน ปิดบังได้ยากนัก หลังจากรถเมล์มา ฉันรีบขึ้นรถเมล์แล้วกลับบ้านโดยเร็วที่สุด ไม่มีอะไรทำให้ฉันสบายใจได้ แต่มีบางอย่างให้ฉันผ่อนคลาย คือการเล่นแชท วันนี้ ฉันได้เจอพี่ชายคนนึง เขาถามคำถามฉันมากมาย
      “ ถ้าเกิดน้องมีแฟนอยู่แล้ว แล้วถ้าน้องเพิ่งรู้ว่า คนที่น้องคบอยู่เป็นคนที่ไม่ใช่  แต่เป็นอีกคนหนึ่ง ที่คอยช่วยเหลือเราตลอดเวลา น้องจะทำยังไง ระหว่างเลิกกับแฟน หรือคบต่อไป เพราะแฟนคนนี้ ก็ดีกับเราเหลือเกิน “
      เป็นคำตอบที่ตอบยากนัก มันตรงกับชีวิตของฉัน มันแทงใจดำ น้ำตาอีกแล้วสิ ที่ออกมาเอ่อล้นเบ้าตา ค่อยๆไหลลงมาอาบแก้ม
      “ถ้าเป็นเรานะ เราจะเลือกคนที่เรารักสิ ใช่มั๊ยล่ะ” ไม่ทันที่ฉันจะตอบ มีคนมาตอบให้ฉันแทน ดีเหมือนกัน ฉันพูดอะไรไม่ถูก  ฉันปิดหน้าต่างนั้นทันที ปิดเครื่อง แล้วไปนอน ฉันไม่ทำอะไรเลยในหนึ่งวัน ฉันคอยนั่งดูน้ำฝนที่ตกลงมาจากหลังคาบ้าน จะว่าไป ไม่มีโทรศัพท์มาหาฉันนานแล้วแหละ ไม่มีอะไรเลยในชีวิตฉัน ใกล้จบเทอมต้นแล้วสิ ชีวิตนี้ ช่างไม่สดใสเอาเสียเลย เฮ่อ
          หมดชม.คอมพิวเตอร์แล้ว ฉันออกมาจากห้องคอม เดินไปหยิบรองเท้าบนชั้นเช่นเดิม ฉันวางรองเท้าเสียงดัง ฉันค่อยๆใส่เท้าเข้าไปในรองเท้า ข้างขวา ข้างซ้าย เอ๊ะ ของซ้ายใส่ไม่ได้ ฉันนำรองเท้ามาเคาะๆดู มีกระดาษที่ถูกขยำจนเป็นก้อน ยัดอยู่ในรองเท้าของฉัน ฉันฉุนมาก ใครกัน ที่มาเล่นตลก แบบนี้ ฉันทิ้งกระดาษนั้นในถังขยะ ชีวิตนี้ ชอบมีแต่เรื่องแปลกๆ
      “เอมๆ เอาขยะไปทิ้งด้วย เวรเธอนี่ “  ใช่แล้ว เวรฉันทิ้งขยะอีกแล้ว เบื่อจริงๆ  ฉันเป็นเวรทิ้งขยะกับสา
      “ อ้าว เอม ถือดีๆสิ ขยะร่วงหมดเลย “  สาพูดขณะที่เก็บกระดาษก้อนเดิมนั้น ขึ้นมา ฉันจำได้ กระดาษที่มีใครเล่นตลก เรารีบเร่งฝีเท้า เพื่อนำขยะไปทิ้ง แล้วรีบกลับบ้าน วันนี้โชคไม่ดี ฉันดันมาเจอพี่กันเข้าแล้ว
      “ หวัดดีครับ น้องเอม ไง อ่านข้อความรึยัง”  ฉันพยายามทำหน้าเป็นปกติที่สุด ทั้งงง ข้อความอะไรอีก ดูวันนี้ พี่กันสดใสมากกว่าเดิม สงสัยมีเรื่องอะไรจะมาบอกฉันอีก
      “อ่าว ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะครับ ไม่ดีใจเหรอ หรือว่า ทิ้งไปแล้วล่ะ” งงเข้าไปใหญ่ พี่กันวิ่งมาแล้วดึงมือฉันไปที่ถังขยะใหญ่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ พี่เค้าปล่อยให้ฉันยืนงงอยู่ แต่พี่กันไปคุ้ยขยะ แล้วถือไอ้ก้อนกระดาษกลมๆอันเดิมมาอีกแล้ว ฉันถามด้วยความงุนงง แต่เริ่มเข้าใจแล้วล่ะ ว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่
      “ เอาขยะนั่นมาอีกแล้ว จะไปเอามาทำไม ”
      “ อ่านซะ แต่ถ้าคราวนี้ไม่อ่านก็ทิ้งไป ” ฉันจึงต้องจำใจอ่าน คลี่กระดาษเหม็นๆนั่นออกมา ระหว่างที่พี่กัน กำลังเดินออกไป โดยไม่มองหน้าฉันอีก พอฉันอ่านจบ ฉันก็เดินช้า และเริ่มเร็วขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อย จนวิ่งไปทันพี่กัน
      “ รักพี่กันที่สุด!!!!”       “ พี่ดีใจนะ ที่เอมเข้าใจพี่น่ะ”   ฉันคว้าตัวพี่ไว้ แล้วกอดด้านหลัง แผ่นหลังที่อบอุ่นของพี่ ทำให้ฉันมีความสุขมากมายนัก

                              -----------------------------------
                              |    \" พี่รักน้องเอมมากกว่านะ \"  |
                              |    รักคนเศร้า นั่งเหงาคนเดียว  |
                              -----------------------------------

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×