วันอาทิตย์ของป๋อง - วันอาทิตย์ของป๋อง นิยาย วันอาทิตย์ของป๋อง : Dek-D.com - Writer

    วันอาทิตย์ของป๋อง

    เด็กๆไม่ควรเอาเป็นตัวอย่างนะครับไม่ดี ภาษาที่ใช้อาจไม่เหมาะกับเด็กๆเท่าไหร่ครับ

    ผู้เข้าชมรวม

    516

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    516

    ความคิดเห็น


    8

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  หักมุม
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 ก.ค. 47 / 20:49 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      วันอาทิตย์ของป๋อง

          วันนี้เป็นเช้าวันอาทิตย์ที่อากาศดี ผมหยิบเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวและกางเกงขายาวสีดำขลับเข้าชุดสีดำขลับมาสวมใส่ ส่องกระจกหวีผมให้เรียบร้อย ขยับคอเสื้ออีกนิดให้เข้าที่ ก่อนที่จะเดินทางออกจากบ้านอย่างสบายใจ

          ซอยที่ผมอาศัยอยู่นั้นเป็นซอยใหญ่และลึก โชคดีที่บ้านเช่าผมอยู่ห่างจากหน้าปากซอยแค่ร้อยกว่าเมตรเท่านั้น หน้าปากซอยมีร้านขายกาแฟโบราณและปาท่องโก๋ของยายชาอยู่

           “ยาย กาแฟแก้วนึง ลงบัญชีไว้เหมือนเดิม” ผมแวะหาอะไรรองท้อง

           “ไอ้ป๋องเมื่อไหร่มึงจะมาจ่ายสักทีวะ” ยายชาถามผมด้วยน้ำเสียงแหบเล็กน้อยมือก็ชงกาแฟไปด้วย

           “เอาน่ายายเดี๋ยวเย็นนี้ผมเอามาจ่ายให้”

           “แน่นะไอ้ป๋อง เห็นเอ็งพูดอย่างนี้มาสองสามวันแล้ว” แกพูดแขวะผมพร้อมกับยกกาแฟมาให้

           “แน่จ๊ะยาย ”ผมตอบด้วยเสียงแข็งขัน

           “แก้วละ10บาทยังติดกูอีก” ยายชาจดรายการไปบ่นไป

          ผมยกกาแฟจิบไปพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วผมก็ต้องสะดุดสายตากับหญิงสาวสวยผมยาวสีดำขลำ ใส่ชุดแซคสีครีมอ่อน สะพายกระเป๋าหนังยี่ห้อดังจากฝรั่งเศษ ถึงผมจะรู้ว่ามันเป็นของเลียนแบบก็เถอะเธอเพิ่งเดินออกมาจากธนาคารที่อยู่ถัดจากร้านยายชาแค่ไม่กี่คูหา ผมจ้องมองเธออย่างลืมตัวอยู่สักพัก เธอเดินไปนั่งรอรถเมล์อยู่ที่พักผูโดยสาร ผมจึงรีบลุกจากเก้าอี้ไปยืนอยู่ข้างที่พักผู้โดยสาร เวลาไม่นานนักรถเมล์ปรับอากาศสาย….ก็มา เธอเดินขึ้นรถคันดังกล่าว ผมไม่รอช้ารีบตามเธอไป วันนี้คนเต็มคันรถต้องยืนเบียดเสียดกันเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ผมมีเวลาทำในสิ่งที่ต้องการ ผมค่อยๆเคลื่อนตัวไปใกล้ๆด้านหลังเธอ ใช้มือข้างขวาที่ถนัดล้วงไปในกระเป๋ากางเกงหยิบมีดโกนคนกริบที่ซื้อมาจากร้านขายของชำที่มีขายไม่กี่แห่ง ค่อยบรรจงกรีดไปที่กระเป๋าหนังเลียนแบบยี่ห้อดังของเธออย่างคล่องแคล่ว เพียงเวลาไม่กี่วินาทีผมก็ได้กระเป๋าสตางค์ของเธอมาอยู่ในกระเป๋ากางเกงของผม ผมรีบลงจากรถเมล์เมื่อถึงป้ายถัดมา

          ผมหลบหามุมสงบมาแถวสวสาธารณะแห่งหนึ่งเพื่อที่จะนั่งนับเงินจากกระเป๋าสตางค์สีน้ำตาลของหญิงสาวสวยเมื่อครู่ แต่ตอนนี้มันเป็นของผมแล้ว

           “หนึ่งหมื่นบาท…อืมไม่เลวที่เดียว คงเพิ่งถอนมาจากธนาคารเรียงเลขเชียว” ผมลำพึงลำพันกับตัวเอง

           “เอ้ย…ไอ้หัวขโมย”

           เสียงนี้ทำให้ผมสดุ้งสุดตัวผมรีบเก็บกระเป๋าสตางค์ใว้ในกระเป๋ากางเกงและหันหลังไปทางต้นเสียง แล้วผมก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก มันเป็นเสียงของไอ้เปี๊ยกขาใหญ่แถวนี้ เปี๊ยกใส่กางเกงยีนส์สีดำเสื้อยืดสีเขียวอ่อนกำลังยิ้มอย่างพอใจ พูดถึงไอ้เปี๊ยกมันเป็นมือล้วงกระเป๋ามือหนึ่งในละแวกนี้ มันทำกันเป็นทีม มีตัวล่อมีตัวบัง ผมไม่ค่อยสนิทกับมันเท่าไหร่ เจอกันไม่กี่ทีผมก็ไม่ค่อยชอบหน้ามันแล้ว

           “มึงอีกแล้วหรอ มาทำไร” ผมถามมันด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

           “กูตั่งหากต้องถามมึง มาทำไรแถวนี้วะ”มันย้อนถามผม

           “ไม่มีไร้แค่มาเดินเล่นกำลังจะกลับแล้วด้วย”

           “อย่าเพิ่งกลับซี้ ไอ้ป๋องวันนี้กูขาดมือมีดว่ะมาทำงานกับกูสักวันมั๊ย”

           “ไม่ล่ะกูจะกลับล่ะ”

           “เดี๋ยวซี้ มึงเห็นผู้หญิงคนนั้นมั๊ย” มันพูดพร้อมกับชี้ไปทางผู้หญิงวัยรุ่นชุดแดงสะพายกระเป๋าหนังสีดำ

           “เห็น  แล้วไง”

           “ไม่แล้วไงหรอก คนของกูบอกว่ายัยนั่นเพิ่งเบิกตังมาสดๆสองแสนว่ะ สนมั๊ย”  ผมนิ่งไปสักพักก่อนจะถามมันอีกรอบ

           “แล้วแบ่งยังไงวะ”

          “สามสิบสี่สิบวะเอาม่ะทางกูคนเยอะกว่าต้องแบ่งกันเยอะ”

           “สี่สิบหกสิบ ไม่เอาก็ไม่ต้องคุย”ผมเล่นตัว มันนิ่งไปพักใหญ่จึงตอบตกลง

           “งั้นเราก็ตามยัยนั่นไปเหอะเดี๋ยวไม่ทัน”

           “พร้อมยังวะ”มันกระซิบถาม ผมผยักหน้าให้เป็นสัญญานเริ่มต้น

           “เดี๋ยวถ้าได้แล้วเอาใส่ในย่ามนี่ ซองจดหมายหนาๆนะมึงไม่ใช่กระเป๋าเล็กเหมือนเคย”ไอ้เปี๊ยกพูดพลางยื่นย่ามสีดำมาให้

          งานนี้ผมทำงานได้อย่างสบายๆเพราะมีทั้งคนคอยบังและคอยแบนความสนใจ ผมใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเช่นเคย ซองจดหมายสีน้ำตาลที่นูนเพราะใส่ธนะบัตรเต็มซองของเจ้าหล่อนก็มาอยู่ในย่ามสีดำที่ไอ้เปี๊ยกจัดมาให้ แต่ในเวลานั้นเองผมก็มีความคิดว่าถ้าลงรถเมล์ไปเดี๋ยวนั้นก็ได้เงินสองแสนไปแบบไม่ต้องแบ่งใครเลย ไม่ต้องสงสัยหลังจากรถถึงป้ายผมลงรถเมล์ก่อนใครแล้วรีบเดินจ้ำอ้าว ทั้งกึ่งวิ่งกึ่งเดิน ในใจก็กลัวโดนสงสัยอีกใจก็กลัวพวกไอ้เปี๊ยกตามมาทัน พอถึงซอยเปลี่ยวคนผมจึงแวะเข้าข้างทางพัก งานนี้เล่นเอาผมหอบเหมือนกันแต่ในใจก็คิดว่าคุ้ม คงไปเจอพวกไอ้เปี๊ยกอีกไม่ได้แล้ว แต่ยังไงผมก็ไม่อยากเจอมันอยู่แล้ว

          ผมหยิบซองจดหมายที่ใส่เงินสองแสนมาเชยชมพร้อมกับนึกถึงภาพพวกไอ้เปี๊ยกมันจะทำหน้ายังไง จะแค้นแค่ไหน ที่ผมชิ่งเอามาคนเดียว ผมนึกในใจอย่างมีความสุข แต่แล้วผมก็สังเกตุเห็นข้อความบนจ่าหน้าจดหมาย

                                                     “ไอ้กรระบือ”

          มันเขียนไว้อยู่บนที่ด้านหลังซองจดหมาย ผมเอ๊ะใจรีบเปิดดู ข้างในมีแต่กระดาษหนังสือพิมพ์ตัดเท่าธนะบัตรใบละหนึ่งพันใส่ไว้ข้างใน ไอ้เปี๊ยกคงลองใจผมมั้ง แต่ผมก็ไม่สนใจเพราะยังไงผมก็ได้เงินมาตั้งหมื่นนึง ผมเอามือขวาเอื้อมไปกุมกระเป๋ากางเกงข้างที่ใส่กระเป๋าตังของหญิงสาวชุดสีครีม แต่…ให้ฟ้าฝ่าสิ มันหายไปไหนแล้ว แล้วผมก็ล้วงกระเป๋ากางเกงให้แน่ใจอีกที คราวนี้ผมล้วงทั้งกระเป๋ากางเกงซ้ายขวาเลยครับ แต่ก็ไม่มีกระเป๋าสตางค์ที่ใส่เงินหนึ่งหมื่นแล้ว ไอ้เปี๊ยกมันขมายกระเป๋าตังหมื่นนึงของผมไปแล้ว ไอ้หน้าด้านนนนนนนนนนนนน

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×