วิถีหุ่น - เธงเธดเธ–เธตเธซเธธเนเธ นิยาย วิถีหุ่น : Dek-D.com - Writer

    วิถีหุ่น

    เรื่องสั่งวิถีไทยสบาย ๆ ในยุคอนาคต

    ผู้เข้าชมรวม

    414

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    414

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  10 ก.ค. 47 / 23:40 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ในช่วงเวลายามเช้า เมื่อดวงตะวันได้เริ่มขึ้นมาเหนือขอบฟ้าสีทองเป็นสีเดียวกับทุ่งกว้างเมื่อมองไปยังทุ่งกว้างจะเห็นหุ่นตัวหนึ่งที่คนได้เอาเสื่อผ้ามาให้มันใส่ กำลังทำหน้าที่ในการตรวจจับผู้ที่กำลังมาทำลายสิ่งที่มันได้รับมอบหมายให้มาป้องกันและมีลุงแก่ ๆ คนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของเดินเข้ามาหาหุ่นตัวนั้นเมื่อลุงได้เดินเข้ามาถึงหุ่นก็ได้มาตบที่ตัวหุ่น “ วันนี้ข้าจะเข้าไปในเมืองฝากเอ็งดูแลพื้นที่ด้วยละ แล้วเย็น ๆ จะกลับมา” ลุงมามองหุ่นตัวนั้นและพูดกับมันเหมือนกับคนสนิดที่มาช่วยทั้ง ๆ ที่ลุงมาก็รู้ว่ามันไม่มีระบบตอบรับซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่กว่าแล้วลุงมาก็ขึ้นอีแตนลยฟ้าที่เป็นเครื่องไถนาไร้แรงดึงดูดที่ลุงได้นำมาดัดแปลงเป็นพาหนะขนส่งตามความสามารถของคนไทยมาตั้งแต่อดีตที่ได้พาลุงเข้าไปในเมืองอย่างรวดเร็ว
      เมื่อเวลาผ่านไปได้ไม่นานระบบเรดาร์ระดับต่ำของมันกำลังสามารถจับอะไรบางอย่างได้กำลังลอบเข้ามาด้วยการบินในระดับต่ำเหนือยอดหญ้าเพื่อใช้ในการหลบระบบเรดาร์ตรวจจับแต่มันก็ไม่สามารถหลบพ้นระบบเรดาร์รุ่นใหม่ที่พึ่งมาติดตั้งเพิ่มได้ ในระบบประมวลผลของมันเริ่มทำการตรวจสองสิ่งที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาด้วยการใช้เลนซูมพิเศษที่เป็นระบบทะลุทะลวงสูง ทำให้มันเห็นว่าผู้มาเยือนในครั้งนี้นั้นมาเป็นจำนวนมากประมาณ 100-200ตัวและสามารถคาดเดาพฤติกรรมได้ว่ามีความแน่นอนว่ามีความประสงค์ที่จะมาโจมตีสิ่งที่มันได้รับหน้าที่ในการปกป้อง ซึ่งทำให้ระบบป้องกันเริ่มทำงานในทันที่
      เมื่อระบบได้เริ่มทำงานระบบเริ่มเลือกอาวุธขึ้นมาในการต่อกรในครั้งนี้เนื่องจากผู้บุกรุกมีจำนวนค่อนข้างมาก จึงจำเป็นต้องใช้อาวุธที่สามารถโจมตีได้ในคราวละมาก ๆ และสิ่งที่ฐานข้อมูลเลือกออกมาคือ จรวดหัวรบชีวะภาพที่มีประสิทธิภาพในการทำลายเฉียบพลัน แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนแล้วนั้นระบบก็คงจะเลือกหัวรบเคมีที่มีระยะในการทำลายที่กว้างกว่า แต่เนื่องจากมีการรณรงค์ต่อต้านการใช้หัวรบเคมีกันมากจนได้ส่งผลกระทบต่อการค้าและได้มีสนธิสัญญาระหว่างประเทศในการห้ามใช้สารเคมีขึ้นมา จึงมีความจำเป็นต้องสารชีวะภาพแทนแต่ว่าสารชีวะภาพก็มีข้อเสียในการที่มีผลช้าและอาจมีผลตกค้างในการแพร่พันธ์ได้จนได้มีการคิดให้สารชีวะภาพในการทำลายตัวเองหรือเป็นสารที่สามารถย่อยสลายตัวเองได้ ซึ่งในคราวนี้หัวรบที่ได้ใช้คือ ”หัวรบสะเดา”  เมื่อมันเลือกได้แล้วว่าเหมาะสมที่สุดในการโจมตีในครั้วนี้จรวดเปล่าได้วิ่งไปสู่สายพานการบรรจุและมันได้สวมหัวรบเรียบร้อยแล้วได้เคลื่อนที่ไปยังช่องยิ่ง “ระบบเตรียมยิง นับถอยหลัง 3... 2... 1.... ตูม.... เมื่อสิ้นการนับถอยหลังจรวดได้พุ่งไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็ว เมื่อมันได้ถึงเป้าหมายแล้วมันได้แตกตัวเองออกเพื่อให้สารเคมีชีวะภาพที่อยู่ในตัวมันเองแตกออกไปกระทบเป้าหมายเป็นไปดังคาดเมื่อสารชีวะภาพได้ไปกระทบสู่เป้าหมายแล้วนั้นเป้าหมายเริ่มที่จะทะยอยร่วงหล่นสู่พื้น และตายลงโดยที่ไม่มีการทุรนทุรายแต่อย่างใดนับได้ว่าในมีประสิทธิภาพที่เฉียบพลันมาก และในส่วนสารที่อาจจะตกค้างก็ได้สลายไปในอากาศทำให้ไม่มีการตกค้างอยู่ในธรรมชาตินับได้ว่าเป็นรูปแบบการรักษาสิ่งแวคล้อมที่ดีอย่างมากทีเดียว
      ซึ่งความเสียหายของผู้บุกรุกนั้นได้แสดงอยู่ในเรดาร์แล้วซึ่งเมื่อระบบปัญญาประดิษฐ์ได้ประมวลผลแล้วเห็นได้ว่าเป้าหมายได้ถูกทำลายเป็นจำนวนมากจนไม่มีความสามารถในจูโจม มันจึงเข้าสู่ระบบการเตรียมพร้อมต่อไป และในเวลาไม่นานเจ้าหุ่นสามารถรับคลื่นกระทบที่ถูกส่งสัญญาณกระทบมาจากทุ่นที่ได้ถูกฝังไว้รอบพื้นที่ดูแลเพื่อที่จะได้สามารถครอบคลุมในส่วนที่ระบบเรดาร์ไม่สามารถตรวจสอบครอบคลุมได้ถึง ซึ่งทุ่นตัวนี้ได้ถูกปักไว้ที่ลำน้ำแบ่งแยกระหว่างสองพื้นที่สิ่งที่ได้บุกรุกเข้ามานั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถผ่านลำน้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ดูแลได้และสามารถขึ้นจากลำน้ำมาบนฝั่งเพื่อทำลายสิ่งที่หุ่นต้องดูแลได้ แต่ว่าการจัดการกับผู้บุกรุกในครั้งนี้ค่อนข้างยากลำบากเนื่องจากผู้บุกรุกในครั้งนี้น่าจะมีเจ้าของการที่จะไปทำลายนั้นคงจะทำให้เกิดการทะเลาะระหว่าลุงมากับเจ้าของผู้บุกรุกแน่ ๆ ดังนั้นมันจึงควรเลือกทางเลือกที่จะขับไล่ไปมากกว่าที่จะทำลายผู้บุกรุกเมื่อประมวลผลได้ดังนั้นคลื่นคำสั่งจึงได้ส่งไปมี่ทุ่นตรวจจับ
      เมื่อทุ่นตรวจจับได้รับคำสั่งที่ได้ส่งมาจึงได้ปล่อยกระแสไฟฟ้าระดับต่ำไปที่ท้องน้ำเป็นรัศมีแคบ
      เมื่อผู้บุกรุกได้เข้ามาในเขตกระแสไฟมันก็จะโดนไฟฟ้าดูดซึ่งสร้างความเจ็บปวดเล็กน้อยแต่ว่าก็ทำให้ผุ้บุกรุกนั้นเปลี่ยนทิศทางในการเคลื่อนที่ออกจากพื้นที่ที่หุ่นได้ดูแลอยู่ แต่ว่ามันต้องคอยระวังว่าผู้บุกรุกที่ได้ล่าถอยไปนั้นอาจที่จะย้อนกลับมาได้อีก ในยามบ่ายเมฆได้ตั้งเค้าก็เริ่มมีเม็ดฝนตกลงมาแม้ไม่หนักมากแต่ว่าถ้ามีใครออกไปวิ่งเล่นก็คงน่าจะเป็นหวัดแน่นอนแม้ว่าจะได้มีฝนตกอย่างไรก็ตามหุ่นตัวนั้นมันก็ยังได้ทำหน้าที่ของมันอย่าไม่ขาดตกแต่อย่างไรระบบก็พยายามตรวจสอบใน
      ระบบเรดาร์ว่ามีความผิดปกติอย่างไรบ้างหรือไม่ในระหว่างฝนตกเพราะว่าเม็ดฝนมีความสามารถที่จะรบกวนระบบเรดาร์ได้ แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติจนกระทั้งฝนได้ซาลงจนหยุดตก
      ยามฟ้าฟลังฝนนั้นเป็นช่วงเวลาที่สวยงามเห็นเป็นรุ้งกินน้ำพาดผ่านท้องฟ้าไปที่ปลายภูเขาที่ด้านล่างเป็นบ้านของลุงมาที่เป็นเจ้าของที่และเป็นเจ้าของตัวมันถ้าได้มีมนุษย์คนได้ได้เดินผ่านมาในยามนี้จะต้องหยุดยืนดูความสวยงามของมัน แต่ว่าเป็นที่น่าเสียดายด้วยการที่มันเป็นเพียงหุ่นยนต์ไม่สามารถรับรู้ถึงความสวยงามที่มนุษย์สามารถสัมผัสได้ เมื่อเข้าสู่ยามที่ฝนหยุดบรรยากาศที่เย็นสบาย ได้มีบางบินเข้ามาในเขตพื้นที่แต่ว่าหุ่นได้พิจารณาแล้วว่าสิ่งที่เข้ามานั้นไม่ได้มีความต้องการที่จะเข้ามาสร้างความเสียหายในสิ่งที่มันเข้ามาดูแลก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำลาย เมื่อมันเข้ามาในพื้นที่ มันก็ได้คอยเข้ามาหาปูหรือปลาที่อยู่ในพื้นที่กินเป็นอาหาร และบางตัวก็ได้อาศัยหุ่นเป็นที่เกาะพักพิงเพื่อพักเหนื่อยจากการบิน แล้วบินร่อนไปเพื่อหาอาหารแต่ก็ผ่านไปได้ไม่นานเรดาร์ตรวจสอบพื้นที่ระดับสูงได้จับสิ่งมีชีวิตสีดำบินร่อนมาจากในระดับสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่เคยมาหลายครั้งและก็ทำการไล่ไปหลายหนแล้วแต่เนื่องด้วยมีข้อห้ามในการใช้กระสุนที่มีความสามารถยิงทะลุทะลวงสูงได้บรรจุอยู่จึงทำให้สามารถเพียงแต่ไล่มันไปเท่านั้น เมื่อเป้าหมายได้เข้ามาในระยะหวังผล
      ซึ่งจอเรดาห์ ได้แสดงให้เห็นเป็นภาพของนกสีดำที่ได้บินมาในระยะหวังผล ซึ่งในระบบของจอเรดาร์ได้มีกรอบสี่เหลี่ยมเกิดขึ้นล้อมกรอบไปที่นกเหล่านั้น ตัวละกรอบมันคือเครื่องหมายการเล็งยิงซึ่งกรอบเหล่านี้ได้วิ่งตามตัวนกเหล่านี่ไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะได้ออกไปจากระยะหวังผลในการยิง เมื่อมีการเล็งที่พร้อมแล้ว ปืนกลแบบหมุนได้ขนาดเล็กบรรจุกระสุนโพลิเมอร์ผสมที่มีคุณสมบัติเป็นเหมือนโฟมแข็งแต่มีความสามารถที่จะย่อยสลายได้ด้วยเอง ได้ออกมาจากแขนทั้งสองข้างของหุ่น แล้วปืนทั้งสองได้หันไปที่นกนั้น “ปัง ๆๆๆๆๆ” เสียงกระสุนที่ได้ยิงรัวออกจากปืนทั้งสองกระบอกทุกลูกโดนเป้าหมายอย่างแม่นยำ แต่ว่าไม่ทำให้ถึงแก่ชีวิตเพียงแต่ทำให้บาดเจ็บและเสียงที่ดังทำให้เกิดความหวาดกลัว และเสียงที่ดัวทำให้มันตกใจและบินหนีไป ซึ่งนกพวกนี้แม้ว่าจะมีส่วนในการทำลายสิ่งที่มันปกป้องแต่ว่ามันก็ช่วยทำลายผู้บุกรุกบางประเภทเช่นกัน
          เมื่อได้ปฏิบัติภาระกิจต่าง ๆ ตลอดวันและเมื่อเข้ายามเย็นซึ่งเหมือนกับว่าทุกอย่างได้จัดการเสร็จอย่างเรียบร้อยดีแล้วอีแตนลอยฟ้าได้ลอยมาที่ตัวหุ่น ซึ่งอีแตนคันนั้นเป็นของลุงมาที่เป็นเจ้าของมันเองรถได้บินไปยังบ้านของลุงและจอดอย่าที่บ้านนั้น ในเวลาต่อมาอีกไม่นานลุงได้เดินออกมาที่ตัวหุ่น
      “ เป็นยังไงบ้างละแก พ่อหุ่นไล่กาวันนี้เจออะไรมาบ้างขอดูหน่อยสิ” เมื่อเขาพูดจบด้านหลังหุ่นได้เปิดออกไปและเป็นเครื่องแสดงภาพได้ลุงได้ดู
      “โอ้...วันนี้เจอแมลงฝูงใหญ่เอาการ”ลุงพูดกับตัวเองพร้อมกับดูต่อ
        “ เฮ้ยเป็ดของตาแสงเข้ามาอีกแล้วคงต้องไปคุยกับตาแสงให้รู้เรื่องซักที บอกหลายทีแล้วว่าให้ทำรั้วความถี่ป้องกันเป็ดเข้ามาในเขตบ้านฉันแล้ว”  และเมื่อลุงได้ดูต่อไปก็รู้สึกทึ่ง
      “โอ้ ยิงกะพวกอีกาด้วยแฮะวันนี้ท่าแกจะทำงานหนักดีพิลึก” ลุงพูดไปทำหน้าสนุก
      “ขอบใจมากนะ วันนี้ได้แกช่วยไว้เยอะเลย ตั้งแต่มีแกนี่นะฉันทำงานง่ายขึ้นเยอะเลย” เขาพูดไปเช็ดตามตัวหุ่นไปเพื่อทำความสะอาด
      “ตอนเข้าเมืองไปนะมีคนเขาแนะนำให้เอาแกไปขาย เพื่อซื้อตัวใหม่ข้านะไม่เอาหรอกอยู่ด้วยกันมาตั้งสิบกว่าปี แกจะดื่อซักครั้งก็ไม่มีอย่างนี้หาใหม่ทำไมอยู่กะแกไปจนตายละดีแล้ว” ลุงพูดชื่นชมในความสามารถของมันด้วยความปลื่ม
      “ตอนนี้นะเราก็พออยู่พอกินตามที่ในหลวงท่านสอนแล้วจะไปโลภมากทำไมตอนนี้ก็มีความสุขแล้วนะ   เอาละสะอาดแล้ว ถึงที่ข้าบ้างละ”
      เมื่อลุงพูดจบก็เดินเข้าบ้านไปเพื่อจะไปอาบน้ำ แล้วก็กินข้าวกับครอบครัวพอตกดึกลุงได้ออกจากบ้านมาโดยมือหนึงถือขวดเหล้ามาด้วย ถ้าใครมาเห็นก็รู้ว่าลุงนั้นเมาแน่นอน ลุงก็มานั่งอยู่ข้างหุ่นไล่กาตัวนั้น เมื่อลุงได้มองหน้าหุ่นตัวนั้นแล้วลุงก็เหมือนว่าได้เพื่อร่วมดื่มจึงได้ร้องรำทำเพลงเป็นการใหญ่แถมยังไม่พอยังเอาเหล้าให้หุ่นดื่มอีกโดยการราดลงที่หัวของหุ่น ซึ่งลุงก็ได้ดื่มเหล้าไปซักพักก็หลับอยู่ข้าง ๆ หุ่น พอแสงตะวันยามเช้าได้สาดมาบนพื้นโลกเมื่อหุ่นได้รับสัญญานว่ามีแสงอาทิตย์กลับมาอีกครั้ง ก็เปิดแผงรับพลังแสงอาทิตย์อีกครั้งเพื่อทำการบรรจุพลังงานซึ่งการเปิดก็มีเสียงดังซักหน่อยจนลุงได้ตื่นขึ้นมา
      “อ้าว...  เช้าแล้วหรอขอบในนะที่ปลุก”ลุงบอกกับหุ่นเบา ๆโดยที่น้ำเสียงยังเจืออาการง่วงอยู่บ้าง แล้วลุงก็เดินเข้าบ้านไปเพื่อเตรียมตัวในการทำไร่ซึ่งเป็นวัตจักรของชีวิตลุง ส่วนหุ่นนั้นมันก็ได้ทำหน้าที่ของมันไปเรื่อย ๆ ตามวัตจักรของมันต่อไปตามประสา.......หุ่นไล่กา

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×