จันทร์เดือนสิบสองสาดแสงกระทบพื้นผิวแม่น้ำเจ้าพระยา ปรากฏเป็นภาพสะท้อนคล้ายภาพกระจกสองด้านที่ส่องหากันและกัน หญิงสาววัยยี่สิบต้นๆกำลังนั่งมองน้ำนิ่งๆตามลำพัง ปล่อยอารมณ์ไปตามกระแสน้ำและสายลมหนาวที่พัดมาบาดกาย...แล้วจากไป
     
      “กบ กบอยู่ไหน นุ่นคิดถึงกบนะ นุ่นรักกบ กบได้ยินมั้ย” คำพูดเบาๆหลุดออกจากปากเธอพร้อมหยดน้ำใสๆไหลรินจากนัยน์ตาลงสู่เบื้องล่างแม่น้ำเจ้าพระยา เสียงของเธอเบาเสียจนเธอเองก็แทบไม่ได้ยิน...แต่เธอหวังว่า“เขา”ของเธอจะได้ยิน...ได้ยินคำพูดที่เธออยากให้เขาได้ยิน สายตาของเธอแม้จะจ้องที่ผิวน้ำ แต่จิตใจของเธอกลับล่องลอยสาบสูญไปตามแม่น้ำเสียแล้ว...เธอจำไม่ได้ว่านั่งมานานกี่นาที กี่ชั่วโมง...แต่ก็เธอก็ยังอยากนั่งที่นี่ อยากนั่งนิ่งๆ นึกถึงอดีตที่ดีของเธอและ“เขา”
     
     
      “กบๆ อันนี้ทำยังไง” เสียงน้อยๆดังขึ้นขณะในชั่วโมงเรียนคอมพิวเตอร์ สาวน้อยผู้เป็นที่หมายปองของบรรดาหนุ่มกว่าครึ่งค่อนโรงเรียนถามกบ เพื่อนที่นั่งข้างๆเธอ
     
      “นี่งัย คลิ๊กตรงนี้ แล้วก็ก็อปก่อน ค่อยแปะลงตรงนี้” กบชี้นิ้วช้าๆบนจอคอมพิวเตอร์หวังให้สาวน้อยทำตามทัน
     
      “นี่ นุ่น ตรงนี้ ไม่ใช่อันนี้” กบหันไปค้อนเธออย่างเพื่อนๆเล่นกัน
     
      “เธอนี่ ไม่ไหวเลย หัวไม่ไอทีเอาซะเลย” กบพูดพลางยิ้มส่ายหน้า...นิสัยขี้เล่นและชอบแซวมักเป็นนิสัยติดตัวกบเสมอ
     
      “ใครมันจะเก่งเหมือนนายล่ะ” นุ่นพูดพลางหยิกที่หัวไหล่กบ ทั้งคู่มักเล่นกันอย่างนี้เสมอจนหนุ่มๆหลายคนมองด้วยความอิจฉา
     
      “เรียนเสร็จกบว่างมั้ย นุ่นหิวข้าว” นุ่นพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
     
      “เรามีเรียนพิเศษนะ คงไปด้วยไม่ได้หรอก ให้เจดไปสิ เจดมันว่างอยู่แล้ว” กบนึกถึงเพื่อนของเขาทันที เจดเคยบอกว่าชอบนุ่นมาก กบคงพยายามทำให้เพื่อนคนนี้ได้สมใจ
     
      “มีเรียนพิเศษเหรอ งั้นนุ่นไปด้วยนะ” พอนุ่นพูดจบ กบถึงหันมามองหน้านุ่นด้วยความแปลกใจ
     
      “บ้าเหรอ ไปได้งัย มันดึกนะ” กบหันมาพูดด้วยน้ำเสียงขึงขัง
     
      “นะๆๆ ไปด้วยๆๆ ไม่รู้ล่ะ นุ่นจะไปด้วย ดูแลนุ่นด้วย” นุ่นพูดพลางวางของของนุ่นบนกระเป๋าของกบ กบถึงกับเกาศีรษะตัวเองเพราะความเอาแต่ใจของนุ่น...ทำไมผู้ชายทั้งหลายถึงชอบนุ่นนัก ทั้งๆที่เธอเอาแต่ใจยิ่งกว่าอะไรดี
     
      “เออๆๆ โทรบอกแม่ด้วยก็แล้วกัน เดี๋ยวเรียนเสร็จจะนั่งรถไปส่ง” กบพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก...แต่กลับทำให้นุ่นยิ้มออก
     
      “กบน่ารักที่สุดเลย” นุ่นพูดพลางยิ้ม สวมกอดกบด้วยความดีใจ...ทุกสายตาในห้องเรียนต่างจับจ้องที่กบและนุ่น
     
      “พอเลยๆๆ คนทั้งโลกจะเข้าใจผิดแล้ว” กบรีบดึงตัวนุ่นออกทันทีที่นุ่นสวมกอด
     
      “ก็ได้ค่ะ...คุณกบ” นุ่นดูอารมณ์ดีขึ้นกว่าแรกเสียอีก
     
      พอจบชั่วโมงเรียน ทั้งคู่ต่างรีบพากันนั่งสามล้อเครื่องไปยังที่เรียนพิเศษ ซึ่งไม่ไกลมากนัก ซึ่งปกติหากกบไปเรียนคนเดียว กบจะเดินไป เพียงแต่วันนี้นุ่นไปด้วย จึงต้องนั่งสามล้อเครื่องไป
     
      ที่เรียนพิเศษเป็นอาคารพาณิชย์สองคูหาสามชั้น สภาพภายนอกค่อนข้างโทรม แต่ข้างในได้รับการดูแลรักษาอย่างดีทำให้ยังอยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่า ใหม่ พอสมควร
     
      “พี่ครับ วันนี้เพื่อนผมมาเรียนด้วยนะ” กบพูดกับอาจารย์คนสอนที่กบมักเรียกว่า พี่ เพื่อแสดงความสนิทสนม
     
      “เพื่อนหรือแฟน ไอ้กบ” อาจารย์คนสอนพูดพลางเงยหน้าขึ้นขณะกำลังหาแบบฝึกหัดในสมุด
     
      “เพื่อนครับ เพื่อน ชื่อนุ่น” กบรีบพูดก่อนที่นุ่นจะชิงพูดเสียอีก
     
      “สวัสดีค่ะ พี่” นุ่นยกมือไหว้พลางถอนสายบัว
     
      “สวัสดีครับ ...แหม กบเลือกคนได้ดีจริงๆ รู้หรือเปล่าว่าสเปกกบเค้าเลยนะ หมวย เรียบร้อยเนี่ย ถ้าเก่งงานบ้านงานเรือนหน่อยนะ...กบมันรักตายเลย” พี่คนสอนพูดแซวพลางทำหน้าทำตาไม่รู้เรื่อง...แต่นุ่นก็ยิ้มเล็กๆ
     
      “เออ...เรียนครับ เรียน มาเรียนครับ ไม่ได้มาวิจัยสเปคสาว” กบรีบตัดบท...ส่วนนุ่นก็ได้แต่นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ
     
      การเรียนการสอนเป็นไปแบบตัวต่อตัว อธิบายทีละจุด เป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่รีบร้อน ทำให้กบเข้าใจเกือบทุกๆขั้นตอนในทุกๆข้อ แต่ใช้เวลานานกว่าการสอนแบบในห้องมาก
     
      “กบ สามทุ่มแล้ว” นุ่นกะซิบบอกกบขณะกบกำลังเรียนอยู่ กบคงลืมไปว่านุ่นนั่งรอกบอยู่
     
      “พี่ครับ ผมขอโทษนะครับ วันนี้ผมขอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวผมต้องไปส่งเพื่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวค่อยต่อครั้งหน้านะครับ” กบพูดพลางยกมือไหว้ลาพี่ พี่ก็รับไหว้
     
      “นุ่น รีบกลับเร็ว” กบรีบคว้ากระเป๋าพร้อมถุงใส่ของของนุ่น รีบพานุ่นเดินออกไปเรียกสามล้อเครื่อง
     
      “กบ นุ่นหิว” คำพูดของนุ่นสะกิดใจกบทันที...นุ่นพูดตั้งแต่คาบคอมพิวเตอร์แล้วนี่นา
     
      “แล้วที่บ้านไม่มีอะไรกินเหรอ” กบหันหลังขวับไปถามนุ่นทันที
     
      “ก็กบบอกให้นุ่นโทรไปบอกแม่ แม่ก็บอกว่าจะไม่ทำกับข้าว” นุ่นพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน แววตาใสซื่อ
     
      “โอเคๆ งั้นกบพาไปกินข้าวนะ” กบพูดพลางจับแขนนุ่นเดินข้ามถนนไปยังร้านอาหารตามสั่งฝั่งตรงข้ามทันที
     
      “นุ่น กบขอโทษนะ กบลืมไปเลยว่านุ่นหิว” กบพูดขณะที่นุ่นกำลังนั่งทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อย
     
      “ไม่เห็นเป็นไรเลย ลดหุ่นหน่อยก็ดี” นุ่นพูดพลางหยุดยิ้มชั่วครู่ แต่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทานต่อ
     
      “นี่ นุ่นรู้จักกบมากี่ปีแล้ว” กบพูดขณะเอาหลอดเขี่ยน้ำแข็งในแก้วของตัวเอง
     
      “นุ่นเพิ่งรู้จักกบเมื่อวานเอง” คำพูดของนุ่นถึงกับทำให้กบอึ้ง
     
      “เมื่อวานได้งัย ถ้าจำไม่ผิดก็ห้าปีแล้วนะ นี่เราก็ม.ห้ากันแล้ว” กบพูดแบบงง ห้าปีที่นุ่นเฝ้าแกล้งกบจนบางครั้งทำให้กบถึงกับปวดกะโหลก
     
      “ก็ห้าปี ก็คือเมื่อวานงัย อะไรที่ผ่านไปแล้ว คือเมื่อวาน อะไรที่ยังมาไม่ถึงคือ พรุ่งนี้” นุ่นพูดยิ้มๆพลางรวบช้อน ดื่มน้ำ...ตอนนี้เธอคงทานอิ่มแล้ว
     
      “โอเค...เมื่อวานก็เมื่อวานนะ รีบไปเถอะ แม่นุ่นคงรอแล้ว” กบพูดขณะจ่ายเงินค่าอาหารแก่เจ้าของร้านเรียบร้อย
     
      กบนั่งสามล้อเครื่องไปส่งนุ่นที่บ้าน ระหว่างทางนุ่นเพลียจนเผลอหลับไป....หัวนุ่นซบลงมาที่บ่าของกบ กบจึงต้องคอยประคองหัวนุ่นไม่ให้ตกลงไปต่ำกว่านี้ไม่อย่างนั้นนุ่นอาจคอเคล็ดได้ มือก็คอยปัดผมที่ปิดหน้าขึ้นไม่ให้รบกวนเวลานุ่นหลับ
     
      “นุ่นๆ ถึงบ้านนุ่นแล้ว ตื่นๆ” กบกระซิบข้างหูนุ่นเบาๆแต่ก็พอทำให้นุ่นรู้สึกตัว
     
      “ถึงแล้วเหรอ” นุ่นหันกลับมามองหน้ากบด้วยอาการสลึมสลือ นุ่นยังไม่รู้สึกตัวเต็มที่
     
      “ถึงแล้วครับ ลงไปได้แล้ว” กบพูดพลางเอาของของนุ่นจับยัดใส่มือนุ่น
     
      “งั้น กบรีบกลับบ้านนะ ถึงบ้านแล้วโทรมาบอกนุ่นด้วย” นุ่นพูดพลางลงจากสามล้อเครื่อง
     
      “ถึงแล้วจะเขียนจดหมายมาบอกนะ” กบพูดพลางหัวเราะเมื่อนุ่นก้าวถึงหน้าบ้าน
     
      “อีตาบ้า...” นุ่นหันหลังขวับทำท่าจะเอากล่องดินสอขว้าง สามล้อเครื่องเคลื่อนตัวออกไปไปช้าๆ
     
      กบถอนหายใจกับตัวเองเบาๆ ห้าปีแล้วสินะที่เขาปกป้องเจ้าหญิงขี้อ้อนของเขา ห้าปีที่เขาเฝ้าดูแลเจ้าหญิงน้อยๆของเขาอย่างองครักษ์....องครักษ์ที่มีหน้าที่ปกป้อง ไม่ใช่ ครอบครอง เขาก็มักบอกว่า นุ่นคือ “ดอกฟ้า” บริสุทธิ์และสูงค่าเกินกว่าที่ตัวเองจะเอื้อมถึง ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะคิด
     
     
      “กบๆ เมื่อคืนถึงบ้านทำไมไม่โทรมาบอกนุ่น” นุ่นวิ่งมาทุบหลังกบขณะที่เห็นกบเดินถือกระเป๋ามาเก็บที่ห้องเรียน
     
      “ไม่มีอะไร เมื่อคืนเราเพลียๆ ถึงบ้านก็นอนเลย” กบพูดยิ้มๆ
     
      “แล้วอาบน้ำหรือเปล่า” นุ่นพูดแซวพลางยิ้ม
     
      “ป่าว เนี่ย เมื่อเช้าก้อไม่ได้อาบน้ำ ไม่เชื่อลองดมดูสิ” กบต่อมุขกับนุ่นจนกลายเป็นเรื่องขำขัน
     
      “เหม็นๆๆ วุ้ย หน้าไม่อาย ไม่ยอมอาบน้ำ” นุ่นเอามืออุดจมูกพลางแซว ทั้งคู่ได้แต่หัวเราะซึ่งกันและกัน
     
      “น้องนุ่นๆ พี่แมนคิดถึงน้องนุ่นจัง มาให้พี่กอด มาม่ะ” เสียงใหญ่ๆดังมาจากระเบียง สายตาสองคู่ต่างจับจ้องออกไปที่ระเบียง นายแมน รุ่นพี่ร่างยักษ์นักกีฬาบาสเกตบอลโรงเรียนซึ่งตามจีบนุ่นมานานหลายเดือนพูดพลางทำท่าด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
     
      “กบ ทำงัยดี” นุ่นตัวสั่นรีบวิ่งมาหลบหลังกบทันที
     
      “ใจเย็นนะๆ กบจัดการเอง” กบเอี้ยวตัวกลับไปบอกนุ่นเบาๆ
     
      “พี่จะยุ่งอะไรกับแฟนผม” ...แฟนผม แฟนผม แฟนผม คำนี้คือคำที่นุ่นอยากได้ยิน...สายตาทุกคู่ที่อยู่ภายในห้องต่างจับจ้องมาที่นุ่นกับกบ บอมบ์ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มเดินมาหากบ
     
      “เกิดไรขึ้นว่ะ” บอมบ์กระซิบถามเบาๆ กบชี้นิ้วออกไปที่ระเบียง
     
      “ไรว่ะ นุ่นยังไม่มีแฟน นุ่นมีแฟนได้งัย” แมนโวยวายด้วยความโมโห สีหน้าเริ่มเปลี่ยน
     
      “มีแล้วค่ะ นี่งัย แฟนนุ่น” นุ่นพูดพลางกอดแขนกบไว้แน่นด้วยสีหน้าดีใจ
     
      “อืม...ได้ๆๆ” แมนชี้หน้ากบด้วยความแค้น ไม่นานแมนก็เดินจากไป
     
      “กบ กบรักนุ่นแล้ว” นุ่นพูดพลางสวมกอดกบด้วยความดีใจ
     
      “ป่าว ถ้าต้องปกป้องนุ่น ต่อให้ต้องทำมากกว่านี้ กบก็จะทำ” กบพูดพลางดึงตัวนุ่นออก...คำพูดของกบทำให้นุ่นถึงกับน้ำตาซึมเลยทีเดียว
     
      “ไปกินข้าวกันนะ” กบพูดยิ้มๆ พยายามกลบเกลื่อนสีหน้าตนเองพลางปัดผมขึ้นให้นุ่น นุ่นพยักหน้ารับ
     
     
      หลายครั้งที่นุ่นมีปัญหากับคนที่ตามจีบ กบจะคอยกันท่าให้เสมอ
      หลายครั้งที่นุ่นมีปัญหากับเพื่อน กบจะคอยตามเคลียร์ให้ตลอด
      หลายครั้งที่เดินข้ามถนน กบจะคอยยืนบังรถให้
      หลายครั้งที่นุ่นท้อแท้ กบจะคอยให้กำลังใจข้างๆ
      หลายครั้งที่นุ่นร้องไห้ กบจะคอยปลอบโยนเสมอ
      หลายครั้งที่นุ่นป่วย กบจะหมั่นไปเยี่ยมไข้พร้อมกับโจ๊กสุดอร่อย
     
     
      “กบๆ ใกล้วาเลนไทน์แล้วนะ กบอยากได้อะไรหรือเปล่า” นุ่นกระซิบถามกบขณะกบกำลังเรียนอยู่
     
      “ไม่” กบตอบสั้นๆห้วนๆ สายตาไม่ละจากกระดานแม้สักวินาทีเดียว
     
      “ไม่ก็ไม่...ไม่เห็นต้องดุเลย”
     
      “ไม่ได้ดุ แต่อย่าเพิ่งกวนได้มั้ย เรียนอยู่” กบพูดสวนออกไป พลางก้มลงจดตามอาจารย์ ทำให้นุ่นต้องก้มลงจดตามอาจารย์ ไม่เช่นนั้นอาจเป็นที่สงสัยของอาจารย์ได้
     
      “ไม่กวนก็ได้ นุ่นไม่สำคัญนี่ ใครจะสำคัญเท่าผู้หญิงคนนั้นของนายล่ะ” นุ่นงอนพูดใส่กบทั้งๆที่ไม่มีมูล
     
      “ใครเหรอ ผู้หญิงคนไหน” กบหันขวับมามองนุ่นทันทีด้วยสีหน้าแววตางงๆ
     
      “กบ นุ่น เธอทั้งสองคนเลิกคุยกันได้แล้ว จดตามกระดานเร็วเข้า ครูจะลบแล้ว” อาจารย์พูดเสียงดังฟังชัดพลางเอาแปรงลบกระดานเคาะกระดานดำ ทำให้ทั้งคู่ไม่ได้สนทนากันต่อ จนกระทั่งท้ายคาบ
     
      “นุ่น ผู้หญิงคนไหน” กบเริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
     
      “ไม่บอก” นุ่นยังคงงอนกบอยู่
     
      “นุ่น เราไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงคนไหนเลย นุ่นก็รู้” กบค่อยๆอธิบายให้นุ่นเข้าใจ
     
      “ใครจะรู้ล่ะ...รู้หน้าไม่รู้ใจ” นุ่นพูดทั้งๆที่ไม่มองหน้ากบ น้ำเสียงของนุ่นจริงจังมาก
     
      “แล้วสักวันนุ่นจะรู้ ว่ากบไม่มีใครเลย” กบพูดพลางหยิบกระเป๋าเดินออกจากห้องไปโดยไม่สนใจนุ่นแม้แต่น้อย
     
     
      “วาเลนไทน์”วันที่หนุ่มทั้งโลกต่างรอคอยเพื่อจะให้กุหลาบกับคนที่ตนรักหรือหลงรัก เป็นวันที่มีดอกกุหลาบสีแดงบานสะพรั่งทั่วโรงเรียน กลีบกุหลาบอ่อนๆโรยทั่วไปตามพื้นห้อง รวมทั้งโต๊ะเรียน
     
      “กบๆ นุ่นให้กบ นุ่นขอโทษนะ วันนั้นทำให้กบอารมณ์ไม่ดี” นุ่นพูดพลางยื่นกุหลาบสีแดงเลือดให้กบในท้ายคาบเรียน
     
      “อืม ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้เอง” กบยิ้มพลางรับดอกกุหลาบจากมือนุ่น เหลือบเห็นมืออีกข้างของนุ่นถือกุหลาบเต็มกำมือที่มีทั้งหนุ่มรุ่นพี่รุ่นน้องที่เต็มใจมามอบให้
     
      “นุ่น กุหลาบเยอะจัง เรตติ้งดีนะ” กบมองที่มือนุ่น ยิ้มพลางพูดติดตลก
     
      “บ้าเหรอ...คนที่นุ่นรอ เค้ายังไม่ให้กุหลาบเลยนะ นี่จนเลิกเรียนแล้ว” นุ่นพูดพลางจ้องที่ตาของกบ กบต้องคอยหลบสายตา
     
      “ไปถามเขาสิ มาถามอะไรกบล่ะ” กบพูดเบี่ยงเบนทันทีทั้งๆที่รู้ว่าคนที่นุ่นพูดถึงคือตัวเอง
     
      “ไม่ต้องหรอก ถ้าเขาอยากให้ เขาให้นุ่นนานแล้ว” นุ่นพูดพลางถอนหายใจ...นุ่นคงถอนใจเรื่องนี้แล้ว
     
      “นุ่น ทำไมนุ่นถึงรอเขาล่ะ” กบถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่ยังคงหลบสายตานุ่น วุ่นวายกับของในกระเป๋า
     
      “นุ่นว่า นุ่นหลงรักเขาเข้าแล้วล่ะ” นุ่นพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง พลางนั่งเด็ดกลีบกุหลาบในมืออย่างอารมณ์ดี
     
      “เหรอ...เขาคงโชคดีนะ” กบนั่งเงียบๆ จัดของในกระเป๋าตัวเอง สายตานุ่นสอดส่องไปทั่วห้อง คอยดูเพื่อนๆที่เอาดอกกุหลาบมาเล่นกัน....จนทุกคนออกจากห้องไปหมด
     
      “นุ่น ดอกนี้กบให้นุ่นนะ” กบพูดเสร็จพลางหยิบดอกกุหลาบออกมาจากขวดที่ดึงออกมาจากกระเป๋า...กุหลาบขาวบริสุทธิ์ถูกบรรจุอย่างประณีตลงในขวดที่มีน้ำหล่อเลี้ยงตลอดเวลาขนาดพอดีดอกไม้ ป้องกันไม่ให้ดอกไม้เหี่ยวเฉาและได้รับความกระทบกระเทือนก่อนถึงมือผู้รับ แสดงให้เห็นถึงความสูงค่าของดอกไม้ดอกนี้
     
      “กบ...” นุ่นพูดน้ำตาคลอเบ้า มองหน้ากบอย่างไม่เชื่อสายตา
     
      “นุ่นไม่อยากได้เหรอ กบทิ้งก็ได้นะ” กบมองหน้านุ่นนิ่งๆ
     
      “ป่าว นุ่นรักกบนะ กบรักนุ่นมั้ย” นุ่นพูดพลางสวมกอดกบด้วยความยินดีเป็นที่สุด...นี่คือดอกกุหลาบที่นุ่นรอถึงห้าปี
     
      “กบบริสุทธิ์ใจกับนุ่นนะ” กบพูดพลางดึงตัวนุ่นออก...กบไม่เคยยอมให้นุ่นสวมกอดเลยแม้สักครั้งเดียว
     
      “เช็ดน้ำตานะ งอแงยังงี้ไม่มีคนมาขอเป็นแฟนนะ” กบพูดพลางเอามือปัดใต้ขอบตาให้นุ่นเบาๆแต่กลับทำให้นุ่นยิ้มออก
     
      “อีตาบ้า” นุ่นยิ้มหน้าแดง พูดพลางเอามือทุบกบเบาๆ ทั้งคู่ต่างหยอกล้อเล่นกันเหมือนเด็กๆ นุ่นเอาดอกกุหลาบขาวที่กบให้เก็บไว้ในกระเป๋า ส่วนดอกกุหลาบดอกอื่นๆที่หนุ่มรุ่นพี่รุ่นน้องให้มาต่างเอามาเด็ดกลีบขว้างใส่กบเล่นจนห้องสกปรกเลอะเทอะไปหมด
     
      “นุ่น เธอทำอะไร” เสียงหนึ่งดังมาจากประตูหลังห้อง ดังพอที่จะทำให้นุ่นและกบหันกลับไปมองแทบจะพร้อมกัน
     
      “อาจารย์!!” กบและนุ่นพูดแทบจะพร้อมกัน อาจารย์ฝ่ายปกครองยืนจ้องนุ่นตาเขม็ง สีหน้าโกรธเกรี้ยว
     
      “อาจารย์ครับ ผมอธิบายได้” กบรีบออกตัวทันทีที่เห็นท่าไม่ดี
     
      “กบ เธอหนะเงียบไปเลย ฉันเห็นนะว่าใครทำอะไร” อาจารย์ฝ่ายปกครองยังยืนยันจะเอาเรื่องนุ่นให้ถึงที่สุด
     
      “แต่อาจารย์ไม่เข้าใจว่าพวกผมทำอะไร” กบรีบต่อคำอาจารย์ทันที ส่วนนุ่นได้แต่ยืนนิ่งๆหลบหลังกบ
     
      “เหรอ...ครูคงแก่จนมองไม่เห็นว่าพวกเธอโปรยกุหลาบบ้าๆพวกนี้เล่นตามห้องจนสกปรกเลอะเทอะไปหมดสินะ” อาจารย์ฝ่ายปกครองเริ่มตะหวาดหันกลับมามองกบด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก
     
      “ถ้าอาจารย์เห็นแค่ความสกปรกที่ผมทำ ผมก็จะทำความสะอาดให้ครับ” กบยืดอกรับความผิดอย่างลูกผู้ชาย
     
      “อืม...แล้วเธอคิดว่าครูมองไม่เห็นอะไร” อาจารย์ฝ่ายปกครองเริ่มหาเรื่องกบ แต่นัยน์ตากลับมองนุ่นที่ตัวสั่นเทาหลบอยู่หลังกบ
     
      “ป่าวครับ เอาเป็นว่าผมจะรีบทำความสะอาดห้องให้นะครับ” หลังจากพูดจบ กบก็รีบวิ่งไปเอาไม้กวาด ถังน้ำ ผ้าเช็ดพื้นหลังห้องมาเตรียมไว้ แล้วอาจารย์ฝ่ายปกครองก็เดินจากไป
     
      ทั้งคู่ช่วยกันทำความสะอาดห้องเรียนที่ตัวเองทำสกปรกรกรุงรัง....พื้นเต็มไปด้วยกลีบดอกกุหลาบ โต๊ะและเก้าอี้ต่างเกะกะไม่เป็นระเบียบ
     
      “กบ อาจารย์มองไม่เห็นอะไร” นุ่นยังคงติดค้างกับคำพูดของกบอยู่
     
      “ป่าว ไม่มีอะไรหรอก” กบพูดปัดๆขณะที่ตัวเองกำลังถูพื้นห้องเรียนอยู่
     
      “ไม่จริง กบ บอกมาเดี๋ยวนี้” นุ่นเอามือจับหน้ากบเงยขึ้น น้ำเสียงจริงจัง
     
      “กบ พูดมา อาจารย์มองไม่เห็นอะไร” นุ่นยังคงเซ้าซี้กับคำถามเดิมๆแต่เริ่มขึ้นเสียง
     
      “....มิตรภาพ....” กบพูดสั้นๆน้ำเสียงเรียบ ดวงตายังคงมองนิ่งๆที่นัยน์ตาของนุ่น
     
      “แล้วทำไมกบต้องช่วยเรา” นุ่นยังคงไม่ลดละ ดวงตาของนุ่นยังคงจับจ้องที่นัยน์ตาของกบเพื่อสืบหาความจริง
     
      “....หน้าที่....” กบตอบสั้นๆพลางหลบสายตาลงมาถูพื้นต่อ
     
      “หน้าที่อะไรของเธอ คำก็หน้าที่ สองคำก็หน้าที่ บอกเราสิ หน้าที่อะไร” นุ่นเริ่มขึ้นเสียงใส่กบ นัยน์ตาแดงก่ำ นุ่นคงไม่พอใจที่ไม่ได้รับคำตอบที่ตัวเองต้องการ
     
      “แล้วสักวัน นุ่นจะรู้ว่าหน้าที่อะไร” กบพูดสั้นๆห้วนๆ พลางเดินไปบิดน้ำออกจากผ้าเช็ดพื้น ทั้งคู่ไม่ได้พูดกันอีกเลย กบเดินไปส่งนุ่นขึ้นรถเงียบๆ นุ่นคงผิดหวังกับกบอยู่พอสมควร
     
     
      “กบๆ นุ่นขอโทษ นุ่นไม่ควรทำตัวไม่น่ารักใส่กบเลย” นุ่นพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ นุ่นนั่งรอกบที่โต๊ะเรียนซึ่งอยู่ติดกับโต๊ะเรียนของกบในขณะที่กบเดินมาเก็บกระเป๋า
     
      “คิดมากหน่า นุ่น กบไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” กบมองหน้านุ่นยิ้มๆ กบมักเป็นคนไม่คิดมากอยู่แล้ว
     
      “กินข้าวกันนะ” กบพูดเมื่อจัดของลงโต๊ะตัวเองเรียบร้อย
     
      “ให้นุ่นเลี้ยงกบนะ” นุ่นกระโดดด้วยด้วยดีใจส่วนกบยิ้มพยักหน้าเบาๆ
     
      “ไอ้กบ มึงอย่าอยู่เลย” เสียงใหญ่ๆดังมาจากหลังห้อง ทั้งคู่หันไปมองพร้อมกัน นายแมนเดินมาพร้อมท่อนไม้ขนาดพอดีมือพร้อมหวดใส่กบ
     
      “นุ่น หลบไป” กบตะโกนบอกนุ่นพร้อมกับวิ่งเข้าตะลุมบอนกับนายแมน แม้ว่าแมนจะตัวใหญ่กว่า แต่ด้วยไหวพริบของกบทำให้ทั้งคู่สูสีกัน ต่างพลัดกันล้มพลัดกันลุกอยู่นาน...จนกระทั่ง
     
      “เธอทั้งคู่ทำอะไรกัน” อาจารย์เวรเดินมาตรวจแล้วคงพบเข้าพอดี
     
      “อาจารย์ครับ นายกบเขาตีผมก่อน” แมนลุกขึ้นรีบชิงตอบก่อนที่กบจะทันอ้าปากพูด
     
      “ไม่จริงค่ะ ครู นายแมนเขามาหาเรื่องกบค่ะ” นุ่นรีบเข้าไปพยุงกบลุกขึ้นทันที
     
      “เพื่อนทั้งห้องเป็นพยานได้ค่ะ” นุ่นเสริมคำพูดของตัวเองให้ดูมีน้ำหนักขึ้น แต่กบกลับบีบมือพร้อมกับส่ายหัวไม่ให้นุ่นพูดต่อ
     
      “โอเคๆ เรื่องนี้เป็นอันยกเลิก ไม่มีใครเป็นอะไรก็ดีแล้ว วันหน้าวันหลังอย่ามาหาเรื่องคนอื่นอีกล่ะ นายแมน ส่วนเธอก็เหมือนกัน นายกบ เธอก็อย่าวิวาทกับคนอื่นให้มาก” อาจารย์เวรเอ็ดพอเป็นพิธีก่อนเดินจากไป
     
      “....เดี๋ยวเราได้เห็นดีกันแน่” แมนชี้หน้านุ่นและกบพร้อมกับสำทับทิ้งไว้ด้วยความแค้น หลังจากนั้นแมนก็เดินจากไป
     
      “นุ่น กบบอกแล้วว่าอย่าพูด ทำไมไม่เชื่อกันบ้าง” กบขึ้นเสียง มองนุ่นด้วยแววตาจริงจัง
     
      “ทำไมล่ะ กบ ทำไมไม่ให้นุ่นช่วยกบบ้างล่ะ” นุ่นพูดด้วยน้ำเสียงสั่นครือ น้ำตาเริ่มคลอเบ้า
     
      “นุ่น ไม่ต้องช่วยกบ กบช่วยตัวเองได้” กบพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ทำให้นุ่นถึงกับสะอื้นไห้
     
      “แล้วทำไมกบช่วยนุ่น ทำไมถึงกล้าต่อยกับแมนล่ะ กบก็ตัวเล็กกว่าแมนอีก” นุ่นพยายามยกเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาอ้าง
     
      “ถ้าต้องปกป้องนุ่น ต่อให้ต้องทำมากกว่านี้ กบก็จะทำ” กบย้ำความคิดตนเสมอ นัยน์ตาแข็งกร้าว
     
      “คำก็ปกป้อง สองคำก็ปกป้อง กบเห็นนุ่นเป็นตัวอะไร นุ่นเป็นตัวซวยของกบหรืองัย” นุ่นขึ้นเสียงกับกบ พอสิ้นประโยค นุ่นถึงกับปล่อยโฮออกมาโดยไม่ฟังเสียงใครเลย ส่วนกบก็ได้แต่นั่งข้างๆกุมมือนุ่นไว้แน่น นัยน์ตาแดงก่ำ...
     
      “ถามจริงๆ กบเคยรักนุ่นบ้างมั้ย” นุ่นถามกบเบาๆท่ามกลางความเงียบของทั้งคู่ขณะที่กบกุมมือนุ่นไว้
     
      “ความรัก คืออะไร นุ่น” กบถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ มองตานุ่นโดยลอดผ่านเส้นผมที่ตกลงมาปรกใบหน้า
     
      “นุ่นไม่รู้ มันอธิบายไม่ได้” นุ่นสะอื้นตอบ
     
      “งั้นกบก็ไม่รู้ว่ากบรักนุ่นมั้ย” กบพูดพลางเอื้อมมือมาปัดผมขึ้นให้นุ่น
     
      “เย็นนี้เรียนเสร็จ เราไปกินข้าวกันมั้ย” กบเสนอความคิดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่กบและนุ่นรู้จักกันที่กบชวนนุ่นไปนั่งทานข้าว
     
      “จริงเหรอ กบไปกินข้าวกับนุ่นเย็นนี้นะ อย่าโกหกนุ่นนะ” นุ่นยิ้มทั้งน้ำตาเงยหน้ามองกบ ส่วนกบก็ยิ้มพยักหน้ารับเบาๆ
     
      “เช็ดน้ำตานะ...เดี๋ยวไม่สวย ไม่มีหนุ่มๆมารุมตอมนะ” กบพูดหัวเราะพลางลูบหัวนุ่นเบาๆ
     
      “อีตาบ้า” นุ่นค้อนใส่กบด้วยท่าทีที่เป็นมิตร ทุกอย่างคงกลับมาดีดังเดิม
     
     
      “นุ่นๆ นุ่นจะกินอะไร” กบหันกลับไปถามขณะที่เดินหาร้านอาหารตามแผงลอยที่วางเกลื่อนตามถนน
     
      “นุ่นอยากกิน.....กินอะไรก็ได้ที่กบอยากกิน” นุ่นพูดพลางเกาะแขนกบไว้แน่น
     
      “อ้าว....เป็นงั้นไป งั้นกินข้าวขาหมูนะ” กบหันหลังกลับไปบอกนุ่นพลางชี้ไปที่ร้านขายข้าวขาหมูตรงหน้า
     
      “ไม่เอา...อ้วน” นุ่นพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนเด็ก ตอนนี้สีหน้าท่าทางของนุ่นไม่ต่างอะไรจากเด็กเล็กๆที่มองดูกบด้วยแววตาใสซื่อ
     
      “เออ...งั้นกินบะหมี่” กบชี้ไปที่ร้านบะหมี่ตรงหัวมุมถนน
     
      “ตกลงๆ บะหมี่ๆ” นุ่นรีบดึงกบเดินตรงไปที่ร้านบะหมี่ทันที
     
      ร้านบะหมี่เป็นร้านบะหมี่เล็กๆตรงหัวมุมถนน มีโต๊ะวางอยู่ริมฟุตบาทสามสี่ชุด ผู้คนต่างเดินขวักไขว่ไปมา รถราตามท้องถนนต่างวิ่งกันวุ่นวาย ซึ่งต่างกับทั้งคู่ซึ่งกำลังมีความสุขกับบะหมี่ชามตรงหน้าอย่างไม่รีบร้อนอะไร
     
     
      “กบๆ กินเสร็จไปนั่งริมน้ำนะ นุ่นอยากนั่งดูอะไรที่ริมแม่น้ำหน่อย” นุ่นพูดพลางหยิบกระดาษทิชชู่เช็ดปาก
     
      “อืม...แต่อย่ากลับดึกนะ เดี๋ยวแม่นุ่นเป็นห่วง” กบพูดพลางก้มหน้าดูดเส้นบะหมี่จากตะเกียบ กบยังคงอร่อยกับบะหมี่อยู่
     
      “ตกลงๆ” นุ่นยิ้มอย่างอารมณ์ดี...วันนี้คงเป็นวันที่กบเห็นนุ่นอารมณ์ดีที่สุดตั้งแต่กบรู้จักกับนุ่น
     
      พอทานอิ่ม ทั้งคู่ต่างพากันเดินลัดเลาะตามตรอกซอยแคบๆ จนมาถึงแม่น้ำที่เป็นหัวใจของคนกรุงเทพฯ แม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนช่างสวยงามเสียนี่กระไร แสงไฟตามริมสองฝั่งแม่น้ำถูกแต่งแต้มให้แม่น้ำมีสีสันเสมือนแม่น้ำมีชีวิต ทั้งคู่นั่งอยู่ริมน้ำเงียบๆอยู่นาน
     
      “กบ ถ้ากบมีครอบครัว กบจะคิดถึงนุ่นมั้ย” นุ่นเอ่ยเบาๆท่ามกลางความเงียบและเสียงสายน้ำ
     
      “บ้าเหรอ...นุ่น เพิ่ง ม.ห้า เอง ทำไมคิดไกลจัง” กบพูดกระแทกเสียงพลางหันไปมองหน้านุ่นด้วยสีหน้างง
     
      “ก็ไม่แน่หรอก พรุ่งนี้มาถึงเร็วนะ” นุ่นพูดพลางเอียงศีรษะลงมาซบที่บ่าของกบ
     
      “เอาหน่า...กบจะไม่ลืมนุ่นนะ กบสัญญา” กบลูบผมนุ่นเบาๆด้วยความเอ็นดู แล้วสักวันนุ่นจะรู้ว่ากบไม่เคยลืมนุ่นเลย...แม้สักวินาทีเดียว
     
      “ถ้ากบเหงา กบจะมานั่งคิดถึงนุ่นที่นี่นะ ที่นี่จะเป็นที่ของเราสองคน” กบพูดขึ้นพร้อมทั้งกอดร่างน้อยๆของนุ่นไว้แน่น มือลูบผมด้วยความรักและเอ็นดู...นี่เป็นครั้งแรกที่กบยอมสวมกอดนุ่น ทำให้นุ่นรู้สึกถึงความอบอุ่นทันที
     
      “นุ่นก็เหมือนกันนะ นุ่นจะมานั่งคิดถึงกบที่นี่ ที่แม่น้ำที่เป็นหัวใจของคนกรุงเทพฯและของกบกับนุ่น” นุ่นเอียงหน้าซบลงบนบ่ากบทั้งน้ำตาอย่างมีความสุข ความเงียบเริ่มคืบคลานเข้ามาแทนที่ แต่เสียงหัวใจของทั้งคู่ยังคงคุยกัน เสียงน้ำกระทบฝั่งดังเป็นระยะๆ กบกอดนุ่นอยู่นาน...นานเสียจนนุ่นเผลอหลับไป
     
      “นุ่นๆ ตื่นๆ สามทุ่มแล้ว กลับบ้านได้แล้ว” กบกระซิบเบาๆที่หูนุ่น กบไม่ได้เผลอหลับเหมือนนุ่น
     
      “สามทุ่มแล้วเหรอ ทำไมเร็วจังเลย” นุ่นค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมา
     
      “ไปเร็วๆ แม่นุ่นเป็นห่วงแล้ว” กบพูดเสร็จพลางดึงกระเป๋าของนุ่นและของของนุ่นมาถือไว้ รีบดึงนุ่นให้ลุกขึ้นพร้อมกับวิ่งไปเรียกรถแท็กซี่เพื่อกลับบ้าน โดยมีกบนั่งไปเป็นเพื่อน
     
      “กบ กบอย่าลืมนะ ที่ของเรา” นุ่นย้ำกับกบก่อนก้าวลงจากแท็กซี่
     
      “อืม...กบจะจำไว้ จำไว้จนวันตาย” กบพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ประตูรถถูกปิด แท็กซี่เคลื่อนตัวออกไปช้าๆ ทิ้งไว้เพียงร่างน้อยๆของนุ่น....
     
     
      “นุ่นๆ เย็นนี้ไปนั่งริมแม่น้ำอีกนะ” กบเอียงคอกระซิบบอกนุ่นในคาบสุดท้าย
     
      “ตกลง แต่วันนี้เรานั่งรถเมล์กลับกันนะ” นุ่นหันมาบอกกบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
     
      “ตกลงๆ” กบยิ้มๆพลางหันหน้ากลับไปเรียนต่อ
     
      นับจากวันนั้นเป็นต้นมา เกือบทุกวัน กบและนุ่นมักจะมานั่งเล่นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเสมอ...หัวใจของกรุงเทพฯและหัวของทั้งคู่อยู่ที่นี่ ดูนุ่นจะร่าเริงยิ้มแย้มเป็นพิเศษเมื่อได้มานั่งที่แม่น้ำแห่งนี้ แม่น้ำนี้มีความหมายกับคนทั้งสองเป็นอันมาก....แม่น้ำที่แสดงถึงความรักและความผูกพันที่ทั้งคู่มีให้กัน
     
     
      “ไอ้กบ มึงแน่จริงมึงมาแข่งมอเตอร์ไซค์กับกูนี่ มาดูว่าใครจะแน่กว่ากัน” เสียงใหญ่ๆดังมาจากหลังห้อง นายแมนยังคงไม่เลิกรากับการตอแยกบและนุ่น
     
      “กบ ไม่เอานะ นุ่นไม่ให้กบแข่ง” นุ่นพูดพลางยึดแขนกบไว้ไม่ให้ลุกขึ้น กบยังคงนั่งนิ่งๆมองหน้านุ่นโดยไม่ต่อล้อต่อเถียงกับแมน
     
      “ไอ้หน้าตัวเมีย แค่นี้มึงกลัวกูเหรอ” แมนยังคงพยายามยั่วโทสะกบอยู่หลายครั้งหลายหน
     
      “กบ ไม่ๆๆ ใจเย็นๆ” นุ่นพยายามลูบหลังให้กบใจเย็นลง กบได้แต่หลับตากำหมัดและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ นุ่นก็ได้แต่พยายามปลอบใจให้กบใจเย็นลง
     
      “แม่ง หลอกฟันนุ่นหนะ สุดท้ายก็มุดใต้กระโปรงผู้หญิง” พอสิ้นเสียงแมน กบทุบโต๊ะดังปั้ง ทั้งนุ่นและเพื่อนในห้องต่างสะดุ้งแทบจะพร้อมกัน
     
      “กูไม่ได้ฟันนุ่น กูไม่เคยล่วงเกินนุ่น และกูก็ไม่เคยมุดใต้กระโปรงผู้หญิง ถ้ามึงอยากแข่งนัก มึงนัดเวลามาเลย” แมนคงยั่วโทสะกบได้สำเร็จ กบลุกขึ้นชี้หน้าแมนอย่างบันดาลโทสะเป็นที่สุด นุ่นไม่เคยเห็นกบโกรธขนาดนี้ เพื่อนทั้งห้องต่างหมอบหัวลงกันเป็นทิวแถว....สองราชสีห์กำลังประจันหน้ากัน
     
      “ไม่ว่ากูจะแพ้หรือชนะ มึงห้ามตอแย ระรานหรือล่วงเกินนุ่น ไม่อย่างนั้นกูและเพื่อนกูเอามึงตาย” กบชี้หน้าแมน ขึ้นเสียง ยื่นคำขาดอย่างคนเลือดขึ้นหน้า นุ่นถึงกับไม่กล้ามองหน้ากบเลย
     
      “ได้...เรื่องแค่นี้ พรุ่งนี้ตอนเย็น หลังโรงเรียน” แมนพูดยิ้มเยาะเย้ยอย่างอารมณ์ดีก่อนเดินจากไป
     
      วันนั้นทั้งวันนุ่นไม่กล้าคุยกับกบ หรือแม้กระทั่งสบตา นุ่นได้แต่มองกบห่างๆเป็นระยะๆ
     
      “นุ่น กบขอโทษ” กบพูดเบาๆหลังจากจบชั่วโมงเรียน
     
      “กบก็ยังงี้ ทำไมต้องปกป้องนุ่นขนาดนี้” นุ่นยังคงสงสัยอยู่ไม่หาย
     
      “แล้วนุ่นจะเข้าใจนะ....วันนี้ไปริมแม่น้ำมั้ย” กบพูดยิ้มๆ
     
      “ไม่ไปหรอก ไม่อยากไปกับคนพูดไม่รู้เรื่อง” นุ่นพูดพลางเดินหนี ทิ้งกบไว้เบื้องหลังเพียงลำพัง
     
     
      “วันนี้กบแข่ง นุ่นจะไปดูกบแข่งมั้ย” กบพูดตอนท้ายคาบเรียน
     
      “ไม่ไปล่ะ วันนี้นุ่นจะกลับบ้าน อยากแข่งก็ไปแข่งกันให้สะใจเลย จะไปตายไหนก็ไป” นุ่นพูดประชดประชันพลางสะบัดหน้าหนี นุ่นคงยังไม่หายโกรธกบ
     
      “นุ่น แข่งเสร็จกบมีของจะให้นุ่นนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้กบจะเอาไปให้นุ่นที่บ้าน” กบพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆก่อนเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทีปกติ
     
     
      “กริ๊งๆๆๆๆๆ” เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเป็นจังหวะ
     
      “ว่างัย บอมบ์” นุ่นพูดกรอกใส่โทรศัพท์
     
      “นุ่น กบรถล้ม...ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล” เสียงอีกฝั่งได้ยินชัดเจน แต่นุ่นอยากให้มันเป็นแค่เสียงลมหรือตัวเองหูฝาด
     
      “รถล้ม....” นุ่นทวนคำพูดช้าๆ
     
      “ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลไหน” นุ่นพูดด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก
     
      “โรงพยาบาลกลาง” เสียงโทรศัพท์เงียบไป อีกฝ่ายคงวางสายไปเรียบร้อยแล้ว
     
      นุ่นกระหืดกระหอบรีบโบกแท็กซี่เพื่อไปโรงพยาบาลกลาง ถนนในกรุงเทพฯช่วงหัวค่ำช่างแออัดเสียนี่กระไร ทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ต่างเบียดเสียดยัดเยียดวุ่นวายยุ่งเหยิงกันไปหมด แต่ก็ยังไม่สับสนเท่าจิตใจของนุ่น สับสน วุ่นวาย....นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย
     
      “พี่ๆ เหยียบกว่านี้ไม่ได้เหรอค่ะ” นุ่นเร่งเร้าคนขับรถแท็กซี่
     
      “หนู รถมันติดนะ เร็วกว่านี้ไม่ได้หรอก” คนขับรถแท็กซี่พยายามอธิบายให้นุ่นเข้าใจ แต่ดูนุ่นจะยิ่งกระวนกระวาย
     
      “พี่ๆ งั้นรบกวนพี่หาวินมอเตอร์ไซค์ให้หนูหน่อยค่ะ หนูรีบจริงๆค่ะ” นุ่นยังคงรบเร้าแท็กซี่ให้ทำตามความต้องการของตน หลังจากเรียกมอเตอร์ไซค์ไม่นาน นุ่นก็มาถึงโรงพยาบาลกลาง โดยมีบอมบ์และบิ๊กรออยู่ข้างล่าง
     
      “นุ่น...ทำใจดีๆไว้นะ” บอมบ์พูดทันทีที่เห็นสีหน้าของนุ่น
     
      “กบ...กบ...” บิ๊กพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น น้ำตาคลอเบ้า
     
      “กบเพิ่งจากเราไปเอง” คำพูดของบอมบ์ถึงกับทำให้นุ่นเข่าอ่อน ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร
     
      “นุ่นรู้มั้ย กบตัดสายเบรกตัวเองทิ้ง” บิ๊กพูดด้วยแววตาแดงก่ำ น้ำตาคลอเบ้า คำพูดของบิ๊กยิ่งทำให้นุ่นร้องไห้หนักขึ้นไปอีก
     
      “กบ ทำไมกบทำยังงี้ กบไม่รักนุ่นใช่มั้ย” นุ่นเพ้อกับตัวเองอย่างคนไร้สติ ทั้งบิ๊กและบอมบ์ต่างพากันปลอบและพยุงร่างของนุ่นขึ้นมานั่งบนเก้าอี้
     
      “เราให้หมอเค้าเก็บศพกบไว้ก่อน เดี๋ยวจะติดต่อให้ญาติมารับทีหลัง” บอมบ์พูดทั้งน้ำตา
     
      “กบเป็นคนดีนะ กบเค้าช่วยเหลือพวกเราตลอด ไม่มีครั้งไหนที่เค้าปฎิเสธเราเลย หากนุ่นมีอะไรให้เราช่วย นุ่นบอกเรานะ” บิ๊กพูดกับนุ่นทั้งๆที่รู้ว่านุ่นไม่ได้สนใจฟังสักนิด
     
      “กบบอกพวกเราก่อนไปแข่งว่า ดูแลนุ่นดีๆ อย่าให้ใครมารังแกนุ่นได้” บิ๊กพูดตามน้ำไปเรื่อยๆ...แต่ก็ไม่อาจหยุดน้ำตาของนุ่นได้
     
      “ขอนุ่นอยู่เงียบๆได้มั้ย” นุ่นพูดโพล่งขึ้น ทั้งคู่จึงปล่อยนุ่นอยู่เงียบๆเพียงลำพัง เดินออกมาที่หน้าโรงพยาบาลเพื่อสูดอากาศ....อากาศที่กบ เพื่อนของเขาไม่มีโอกาสได้สูดอีกแล้ว
     
     
      “หม่ำม๊า นุ่นกลับมาแล้ว” นุ่นตะโกนด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ วันนี้นุ่นไปเรียนเหมือนซากศพที่มีลมหายใจ เหตุการณ์เมื่อวานยังคงสะเทือนใจนุ่นมาก
     
      “นุ่น มีพัสดุภัณฑ์ถึงลูกแหนะ ม๊าวางไว้บนโต๊ะในห้องลูกแล้วนะ” แม่ของนุ่นพูดออกมาจากห้องครัว แต่ตอนนี้นุ่นคงไม่มีอารมณ์ดูพัสดุภัณฑ์ว่าเป็นของใคร มาจากไหนทั้งนั้น ตอนนี้นุ่นทั้งเหนื่อยกายและใจ เพลีย ท้อแท้ หมดหวังและไร้กำลังใจ....นุ่นอยากมีใครสักคนคอยปลอบ เหมือนที่กบทำให้นุ่น....นุ่นอาบน้ำชำระล้างร่างกาย หวังให้น้ำที่ชะล้างสิ่งสกปรกตามร่างกาย ชะเอาความเหนื่อยล้า อ่อนแอ และคราบน้ำตาออกจากตัวเองด้วย แต่น้ำก็คงชะล้างได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว
     
      นุ่นเปิดประตูเข้ามาในห้อง ห้องที่ดูสะอาดตา ข้าวของจัดเป็นระเบียบ นุ่นทิ้งตัวลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะเขียนหนังสือของตัวเองอย่างหมดหวัง เอาของออกจากกระเป๋าเก็บใส่โต๊ะช้าๆจนหมด แล้วเงยหน้าขึ้นมามองว่าพัสดุภัณฑ์นี้ใครส่งมาให้ แล้วนุ่นก็พบกับความแปลกใจ.....เพราะมันเป็นพัสดุภัณฑ์จากกบ ลงตราประทับต้นทางเมื่อวานนี้ เมื่อวานคือวันที่กบแข่ง....กบรู้ว่ามันต้องเกิดขึ้น และนี่คือสิ่งที่กบบอกว่าจะให้นุ่นหลังจากแข่งเสร็จ
     
      นุ่นค่อยๆแกะมันออกมาอย่างทะนุถนอมและประณีตเป็นที่สุด....กล่องค่อยๆถูกเปิดออก ภายในมีสมุดสีสันต่างกัน 14 เล่มวางเรียงซ้อนกันตามลำดับ แต่ละเล่มหนาพอสมควร
      นุ่นค่อยๆเปิดสมุดสีสัน ซึ่งเขียนเรียงลำดับไว้อย่างดีที่ริมของปกแต่ละเล่ม เมื่อนุ่นเปิดอ่านนุ่นถึงกับตะลึงกับข้อความภายในสมุด
     
     
      “18 พฤษภาคม 2533
      วันนี้ผมได้เจอกับเจ้าหญิงของผม...เธอดูหมวย ออกจะแก่นนิดๆ แต่ก็นะ เธอก็ดูดีละกัน วันนี้ยิ้มให้เราด้วย แต่ผมยังไม่กล้าเข้าไปถามชื่อหรอก...ก็เขินนี่หว่า ใครมันจะกล้าล่ะ เอาเป็นว่าว่างๆจะทำความรู้จักละกัน ฮ่าๆๆๆ อืม ช่าย เธอชื่อ “นุ่น” แหละ(เพื่อนเราบอกมา) มีหนุ่มๆมาตอมเต็มเลยล่ะ ดูๆไปแล้ว จะว่าเธอหมวย ตาเธอก็ไม่เล็กเท่าไหร่ วันนี้ก็เลยฟอร์มยืมปากกาเธอแท่งนึงอ่ะ จริงๆไอ้เราก็มีอยู่หรอก ฮ่าๆๆ แค่หาเรื่องคุยไปยังงั้นแหละ หวังว่าเธอคงอยากคบเราเป็นเพื่อน....คอยดูนะ พรุ่งนี้จะปลูกดอกกุหลาบให้นุ่นวันวาเลนไทน์...ว่าแต่ สีขาวดีกว่า สวยกว่าสีแดงอีก หวังว่านุ่นคงชอบนะ....อะคิๆๆ
      กบ”
     
     
      18 พฤษภาคม 2533 คือวันเปิดเรียนภาคเรียนแรกตอนนุ่นอยู่ม.1 กบเขียนถึงนุ่นตั้งแต่นุ่นอยู่ ม.1 ยิ่งนุ่นเปิดอ่านสิ่งที่กบเขียนมากขึ้นเท่าไหร่ นุ่นก็ได้แต่ยิ้มทั้งน้ำตา...บางหน้าวาดรูปการ์ตูนของกบและนุ่นยืนกอดคอกัน
     
     
      “5 พฤศจิกายน 2534
      วันนี้นุ่นอ้อนเราอีกแล้ว เจ้าหญิงคนนี้ขี้อ้อนจริงๆเลย แหม..อ้อนไม่พอ มีใช้เราไปซื้อน้ำให้อีกแหนะ ดูละกันนะ ท่านผู้ชม ผมละคิดถูกหรือคิดผิดนี่ที่ยอมเป็นองครักษ์ประจำตัวนุ่น ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ เอาเหอะๆ หลวมตัวมาแล้วนี่ ทำงัยได้ล่ะ เนอะ จิงป่ะ ฮ่าๆๆๆ คอยดูนะ วันหลังจะกวนประสาทซะให้เข็ดเลย .....เออ วันนี้ดอกกุหลาบที่ปลูกไว้ให้นุ่นวันวาเลนไทน์ตายอีกแล้ว นี่เป็นต้นที่เท่าไหร่จำไม่ได้แล้วนะ แล้วยังงี้เมื่อไหร่จะมีดอกกุหลาบให้นุ่นละนี่ เฮ้ย....กุหลาบมันปลุกยากจริงๆเลย ทำไมเค้าไม่มีธรรมเนียมเอาตะบองเพชรให้วันวาเลนไทน์เนอะ จะได้แค่รดน้ำ ไม่ต้องเอาใจใส่มากๆ ฮ่าๆๆๆ ง่วงแล้วๆๆ ไปนอนดีก่าๆ
      กบ”
     
     
      นุ่นได้แต่ยิ้มทั้งน้ำตาในความคิดบ้าๆบอๆของกบ.....แต่บางสิ่งที่นุ่นอ่าน คือความในใจที่กบอยากบอกนุ่น....แต่แล้ว กบก็ตัดสินใจที่จะไม่พูดมัน
     
     
      “17 กรกฎาคม 2535
      นุ่น ขอบใจในความหวังดีของเธอนะ แต่เธอก็อีกนั่นแหละ ทำไมชอบกอดเราจัง...ไม่ใช่เราไม่อยากกอดเธอ แต่ว่ามันจะทำให้คนอื่นมองเธอยังงัย นุ่นนะนุ่น เป็นเจ้าหญิงดีๆไม่ชอบอยากมาเป็นอะไรก็ไม่รู้....เธอรู้ใช่มั้ยว่าเธอสำคัญกว่าใครๆ บริสุทธิ์และสูงค่า เหมือนดอกกุหลาบขาวที่ฉันพยายามปลูกให้เธอ...แล้วสักวันเธอจะรู้ว่า ตัวเธอมีค่ามากแค่ไหน...ยัยตัวร้าย
      ปล. เออ ว่าแต่ใครมีหนังสือวิธีปลูกกุหลาบบ้างเนี่ย...มันจะเฉาตายอีกต้นแล้ว T_T กุหลาบมันปลูกยากจริงๆนะ...ตะบองเพชรแทนได้มั้ย
      กบ”
     
     
      นุ่นอ่านไดอารี่ของกบไปเรื่อยๆ...เรื่อยๆ เล่มแล้วเล่มเล่า....จาก ม.1 สู่ ม.2 ม.2 สู่ ม.3 แต่ละหน้า แต่ละบรรทัด เขียนถึงนุ่นคนเดียว....นุ่นคนเดียว มิน่ากบถึงบอกว่า แล้วสักวันนุ่นจะรู้ว่ากบไม่มีใคร และไม่เคยมีวินาทีไหนที่กบไม่คิดถึงนุ่น...คราบน้ำตาและรอยยิ้มยังคงประทับที่ใบหน้าของนุ่นทุกครั้งที่นุ่นพลิกอ่านหน้าถัดไป.... ขณะที่นุ่นกำลังอ่านไดอารี่ไปนั้น นุ่นสังเกตเห็นจดหมายที่พับแนบมาในสมุด
     
     
      “ถึง....นุ่น เจ้าหญิงของผม
      นุ่น....กบไม่รู้ว่าตอนที่นุ่นเปิดจดหมายฉบับนี้อ่าน กบจะยังยิ้มหัวเราะร่าพร้อมเฝือกขาวโพลน หรือว่าสิ้นลมไปแล้ว กบขอโทษที่ไม่ทำตามที่นุ่นขอนะ แต่นุ่นรู้มั้ย กบไม่เคยเสียใจเลยที่กบทำลงไป กบยินดีทำเพื่อนุ่นเสมอ.....กบไม่ยอมให้ใครมาดูถูกนุ่นของกบได้หรอก นุ่นจะต้องเป็นผู้หญิงที่ดีพร้อมที่สุดในทุกๆด้าน กบจะไม่ยอมให้ประวัตินุ่นมีมลทิน นุ่นเคยถามกบงัยว่าทำไมกบต้องปกป้องนุ่น...เพราะนุ่นเป็นเจ้าหญิงน้อยๆ เจ้าหญิงขี้อ้อนของกบ กบรู้ตัวดีว่ากบไม่มีค่าหรือบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าชาย องครักษ์คนนี้จะยอมพลีแม้ชีวิตเพื่อเจ้าหญิงของเขา นุ่น...ถ้าตอนนี้กบจากโลกนี้ไปแล้ว นุ่นรู้ไว้นะว่ากบไม่เสียใจ เพราะฉะนั้นนุ่นก็ห้ามร้องไห้ด้วย กบไม่รู้ว่ากบเกิดมาเพื่อใคร กบไม่เคยเจอพ่อไม่เคยเจอแม่ แต่อย่างน้อยกบได้รู้ว่ากบจะต้องตายเพื่อใคร แค่นี้ก็คุ้มค่าพอแล้ว กบเป็นคนตัดสายเบรกรถเอง หากรถมีเบรก กบจะมัวพะวงแต่เรื่องเบรก กบคงตามแมนไม่ทัน ตามทวงเกียรติให้นุ่นคืนไม่ได้ กบจึงตัดมันทิ้งและรู้ด้วยว่ามันคือการเอาชีวิตกบเข้าแลกกับเกียรติของนุ่น มันคุ้มค่านะ...กบรู้ว่านุ่นรักกบ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก องครักษ์กับเจ้าหญิงมิอาจเป็นไปได้ หน้าที่ของกบที่นุ่นชอบถามนักถามหนาว่าคืออะไร หน้าที่ของกบคือ ปกป้อง คุ้มครอง และดูแลนุ่นทั้งชื่อเสียง เกียรติยศและร่างกายให้ปลอดภัยในทุกวัน ทุกเวลา บ่อยๆที่กบไม่ทำตามใจนุ่น ไม่ใช่ว่ากบไม่อยากทำ แต่กบว่าถ้ากบทำไปแล้วจะทำให้นุ่นลำบากทีหลัง กบก็ไม่อยากทำนะ บ่อยครั้งที่นุ่นพยายามกอดกบ แต่กบดึงตัวนุ่นออก ไม่ใช่ว่ากบไม่อยากกอด แต่มันจะทำให้คนอื่นมองนุ่นไม่ดี นุ่น...นุ่นจำได้มั้ยที่กบเคยถามนุ่นว่าความรักคืออะไร....กบว่ากบยังไม่รู้หรอก แต่หากความรักคือการปกป้องและดูแล คือการเอาใจใส่และให้เกียรติ กบอยากบอกนุ่นว่า “กบรักนุ่นนะ” กบรู้ว่ากบคงไม่มีโอกาสพูดคำนี้ด้วยปากของตัวเอง แต่กบก็ได้ลงเป็นลายลักษณ์อักษรทิ้งไว้...ทิ้งไว้ในหัวใจของนุ่น
      นุ่น...ต่อไปนี้กบอาจจะไม่ได้ดูแลนุ่นแล้วนะ นุ่นต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ กบฝากบอมบ์กับบิ๊กให้ดูแลนุ่นด้วย หากนุ่นมีปัญหา นุ่นบอกสองคนนั้นนะ นุ่นอย่างอแง เวลาอาบน้ำเสร็จก้อรีบเช็ดตัว ห่มผ้าด้วยนะเวลานอน ต่อไปนี้คงไม่มีคนปลอบนุ่นแล้ว นุ่นต้องเข้มแข็งนะ เวลานุ่นมีปัญหากับเพื่อน นุ่นใจเย็นๆนะ ใจเย็นๆลงก่อนค่อยพูดกันจะได้พูดรู้เรื่อง อย่าเอาแต่ใจตัวเองด้วยฟังคนอื่นเค้าบ้าง เวลาป่วยก็ทานยาให้ตรงเวลา โจ๊กที่กบซื้อให้นุ่นประจำหนะ อยู่หลังโรงเรียนเราเอง นุ่นลองเดินไปดูนะ บอกเขาว่า พิเศษใส่ไข่นะ...20 บาทหนะ
      นุ่น...นุ่นไม่สัญญากับกบไม่เป็นไรแต่นุ่นต้องทำ หากนุ่นเจอผู้ชายคนไหนที่เขาปกป้องนุ่น ดูแลและใส่ใจนุ่น นุ่นอย่าปล่อยเขาไปนะ เขาคือคนที่รักนุ่น...นุ่นต้องรักเขาให้มากๆนะ ดูแลเขาดีๆ ถ้านุ่นเจอเขาแล้ว นุ่นต้องลืมทุกอย่างของกบ เผาทุกอย่างที่เป็นของกบทิ้งทั้งไดอารี่และจดหมายนี่ ให้มันตายไปพร้อมกับกบนะ นุ่นรู้มั้ยว่าเขาจะเสียใจมากนะหากเขารู้ว่านุ่นยังอยู่กับอดีต...ยังอยู่กับกบ นุ่นต้องอยู่กับอนาคต ไม่ใช่อดีต กบไม่อาจอยู่รอจนถึงวันที่นุ่นประสบความสำเร็จ แต่แค่นี้ที่กบได้ทำเพื่อนุ่นก็ยินดีมากแล้ว กบจะคอยนุ่นอยู่บนท้องฟ้า...ท้องฟ้ายามค่ำคืน ณ แม่น้ำเจ้าพระยา กบจะรอนุ่นอยู่ที่นั่นทุกวัน ทุกคืน หากวันไหนนุ่นเหงา นุ่นก็มาคุยกับกบนะ กบจะรอนุ่น....รอในที่ของเรา รอจนถึงพรุ่งนี้...พรุ่งนี้ที่ไม่มีวันมาถึงของเรา
     
      ด้วยรัก...และภักดี
     
      กบ”
     
     
      “พรุ่งนี้...คงไม่มีวันมาถึงจริงๆสินะ กบ” นุ่นรำพันกับตัวเองเบาๆพลางพับจดหมายเก็บตามรูป ทิ้งไว้เพียงคราบน้ำตาและรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้า นับจากวันนั้นเป็นต้นมา นุ่นจะไปนั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาหลังเลิกเรียนเป็นประจำ....ไปนั่งรำลึกถึงความหลังของเขาและเธอ ความหลังที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและคราบน้ำตา เกียรติยศและความรัก....ระหว่างองครักษ์ผู้ภักดีกับเจ้าหญิงผู้เลอค่า....
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น