คณะวิจัยกลุ่มหนึ่งนำทีมโดย ด็อกเตอร์ ดนัย และสมัครพรรคพวกอีกหลายคนด้วยกัน
“พวกเราวันนี้เราจะเข้าป่าไปหางานวิจัยชิ้นใหม่กันนะ”ด็อกเตอร์ชี้แจงให้สมาชิกได้ทราบร่วมกัน
“ครับ พวกเราพร้อมแล้ว ว่าแต่ พวกผู้หญิงเหอะไม่กลัวลำบากเหรอจ๊ะ”ภูมิกล่าวบอก
ด็อกเตอร์พร้อม ๆกับการพูดกระแทกพวกสาว ๆ
“เออ! ไม่ไปก็ได้”พิมพ์ใจรีบตอบกลับอย่างรวดเร็วเพราะความจริงแล้วเธอก็ไม่อยากไปกับภูมิหรอก
“ปัดโธ่เอ้ย ! นึกว่าแน่” ภูมิท้าทายอย่างกวน ๆ แต่ในใจจริงแล้วภูมิอยากให้พิมพ์ไปด้วยเพราะจะได้ถือโอกาสอยู่ใกล้ ๆ พิมพ์ด้วย
“คิดว่าเราไม่แน่จริงเหรอ ไปก็ได้ โธ่”พิมพ์ใจพูดไปอย่างเคือง ๆ
“พอเหอะสองคนนี้กัดกันอยู่ได้ ฉันน่ะรำคาญพวกแกเต็มทีแล้วนะ”ด็อกเตอร์พูดด้วยสีหน้าและท่าทางอย่างเอือมระอาเต็มที
และทุกคนก็ได้เข้ามาให้ป่าสงวนแห่งหนึ่ง ทุกคนต่างได้รับหน้าที่ในการค้นหาสิ่งต่าง ๆ เพื่องานวิจัยกันโดยที่ด็อกเตอร์ได้ให้จับคุ่ชายหญิงแต่ไม่ลงตัวกันสักทีเนื่องจากพวกผู้ชายต้องการได้คุ่หูในการค้นหาเป็นพวกกันเองซึ่งฝ่ายหญิงก็เช่นเดียวกัน
“งั้นก็ไปกันให้หมดนี่แหละ วุ่นวายจริง ๆ รุ่นนี้”ด็อกเตอร์กล่าวอย่างหัวเสีย
“ดีด็อก”ภูมิ
ระหว่างที่ทุกคนเดินไปก็พบกับนกสงวนอยู่ตัวหนึ่งซึ่งได้นอนตายอนาถอยู่กับพื้น
“เอ๊ะ ! นั้นอะไรน่ะ”พิมพ์ใจพูดด้วยท่าทีสงสัย
“เออ ! ใช่ เรารีบไปดูกันเถอะด็อก”นิดเสนอความคิด
“หวา! แย่จัง เพิ่งคิดได้เหรอจ๊ะน้องนิดดดดดดดดดด”แบงค์แซวนิด
หลังจากนั้นทุกคนก็ได้เข้าไปดูใกล้ ๆ ด้วยความสงสัย
“อุ๊ย ! ” เมื่อพิมพ์เห็นนกที่ตายนั้นพิมพ์ก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ
“ ตกใจเหรอจ๊ะน้องพิมจ๋า” ภูมิเริ่มแซวพิมพ์อีกครั้ง
“ใครเป็นน้องนายไม่ทราบนายภูมิ ถ้าฉันมีพี่อย่างนายนะฉันว่าฉันไปเกิดใหม่ดีกว่า”พิมพ์ใจตอบไปด้วยท่าทางเบื่อ ๆ เบื่อที่จะทะเลาะ
“อี้ ! น่าเกลียดมาก”พอพิมพ์เห็นนกที่ตายก็ร้องอุทานออกมาด้วยความขยะแขยงในความอนาถของนกที่ตาย
“แหย ! น่าเกลียดมาก” นิดแสดงท่าทางว่าขยะแขยงเช่นเดียวกับพิมพ์เมื่อเห็นนกที่ตาย
“เออ ! ใช่ ด็อกมาดูนี่เร็วด็อก” แบงค์เห็นนกที่ตายแล้วก็รีบเรียกด็อกเตอร์ดนัยมาดูด่วน
“อนิจจา ! ไม่น่าเลย” ด็อกเตอร์อุทานออกมาด้วยความสงสาร
“ด็อก ผมว่านะมันไม่ธรรมดาแล้วนะด็อกอยู่ ๆ มันจะตายอนาถอย่างนี้ได้ยังไงล่ะ”ภูมิแสดงความคิดเห็น
“ใช่ค่ะด็อกพิมพ์ว่านะมันต้องมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่แน่ ๆ” พิมพ์แสดงความคิดเห็นร่วม
พิมพ์เห็นอะไรบางอย่างอยู่แถว ๆ หลังต้นไม้ใกล้ ๆ พิมพ์จึงเดินไปดู
“นี่ ! เธอจะไปไหนน่ะ”ภูมิเริ่มแสดงอาการว่าเป็นห่วงพิมพ์ใจอย่างเปิดเผยมากขึ้น
“ นายภูมิรีบตามไปดูพิมพ์เร็วดูท่าทีแปลก ๆ มีอะไรตะโกนเรียกนะ”ด็อกเตอร์สั่งภูมิให้ไปดูพิมพ์เพราะรู้อยู่แล้วว่าภูมิชอบพิมพ์มานานแล้วแต่ที่ทำทีว่ากัดกับพิมพ์นั้นเพราะเขินนั้นเอง
“ครับด็อก มีไรผมจะตะโกนบอกนะครับ” ภูมิตอบรับอย่างรวดเร็วแล้วก็รีบตามพิมพ์ใจไป
ระหว่างนั้นเองนิดก็ได้โทรศัพท์หาตำรวจให้มาสถานที่เกิดเหตุเพราะคาดว่าน่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในทางเดียวกันนั้นแบงค์ก็ได้ไปตามเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาดูส่วนด็อกเตอร์ได้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับนกที่ตาย
ทางด้านภูมิเมื่อตามไปดูพิมพ์แล้วกลับพบว่าพิมพ์ถูกชายคนหนึ่งจับเป็นตัวประกันไว้ด้วยความเป็นห่วงพิมพ์มากจึงไม่ได้ตะโกนบอกกับพรรคพวก
“เฮ้ย ! แกจะทำอะไรน่ะ” ภูมิตกใจและเป็นห่วงพิมพ์มาก
“ภูมิรีบไปบอกด็อกเร็วก่อนมันจะทำอะไรมากกว่านี้”พิมพ์แอบเป็นห่วงภูมิอยู่ลึก ๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงอะไรออกมามากนัก
“ไม่หลอก ภูมิจะอยู่กับพิมพ์ที่นี่ภูมิจะไม่ยอมให้พิมพ์เป็นอะไรไปหรอก”ภูมิเริ่มดื้อดึงไม่ยอมไปเพราะคิดว่าหากไปแล้วจะไม่ได้เจอกับพิมพ์อีกและยังไงหากเป็นอะไรไปยังไงก็ได้เห็นหน้าพิมพ์เป็นคนสุดท้าย
“ดีมาก น้องชาย แกนี่ท่าทางจะรักและเป็นห่วง น้องสาวน่ารักคนนี้มากล่ะสิ”คนแปลกหน้ากล่าวด้วยท่าทีรู้ทัน
“ครับ ผมรักและชอบเค้ามาก พี่ปล่อยเค้าไปเถอะนะครับแล้วเอาผมเป็นตัวประกันแทนนะครับ”ภูมิยอมเอาตัวเองเข้าแลกกับชีวิตของพิมพ์
“ไม่นะภูมิ นายอย่างทำอย่างนั้นน่ะ”พิมพ์เริ่มแสดงออกมาให้เห็นได้ชัดว่าแท้จริงพิมพ์ก็เป็นห่วงภูมิมากเช่นเดียวกัน
“โอ้! เกิดอะไรขึ้น” ด็อกเตอร์ตามมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ต่าง ๆ ด้วยความตกใจมากที่พบว่านักศึกษาของตนกำลังเข้าใกล้อันตรายมาก
“คุณพระช่วย ! ทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้”นิดตกใจไม่แพ้ด็อกเตอร์
“อ๋อ ! คนนี้เองเหรอ” เจ้าหน้าที่ป่าไม้กล่าวด้วยน้ำสัยงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นร้ายแรงเลยแต่ทางกลับกันทุกคนต่างตกใจมาก
“ทุกคนไม่ต้องตกใจ คนคนนี้สติไม่ดีเค้าอยู่ที่นี่มานานแล้วผมเห็นเค้าอยู่บ่อย ๆ”เจ้าหน้าที่ป่าไม้กล่าวออกไปอย่างกับรู้จักดีจริง ๆ
“ผมว่าเค้าไม่ได้บ้าหรอกครับ เค้ายังพูดรู้เรื่องอยู่เลยครับ”ภูมิบอกออกไป
“ใช่แล้วไอ้ตำรวจหน้าโง่ ข้าไม่ได้บ้า ที่แกเห็นว่าข้าบ้าน่ะข้าแกล้งทำ 55555 หลอกง่ายจังไอ้ตำรวจป่าไม้”คนแปลกหน้าหัวเราะชอบใจกับการที่ตำรวจป่าไม้แสดงความโง่เขลาออกมา
“หยุดนะ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ วางปืนลงแล้วยอมให้จับแต่โดยดี”ทันใดนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามา
ระหว่างนี้เองภูมิใช่ช่วงเวลาที่คนแปลกหน้าตกใจกะโดดเข้าไปชิงพิมพ์คืนมาพอคนแปลกหน้ารู้ตัวได้ยิงภูมิแต่ยิงพลาดกระสุนปืนแค่เชี่ยวแขนของภูมิในขณะเดียวกันตำรวจที่ล้อมคนแปลกหน้าไว้ก็ได้เข้าจับกุมโดยเร็ว
“โอ้ย ! เจ็บ”ภูมิอุทานออกมากด้วยความเจ็บปวด
“ภูมิเป็นอะไรไหม”พิมพ์รีบเข้ามาประคองภูมิพร้อมถามด้วยความเป็นห่วง
๗
ทุกคนได้ช่วยกันพาภูมิไปที่สถานพยาบาลใกล้ ๆ เนื่องจากแผลไม่ได้เป็นอะไรมาก
“โถ ! เพิ่งเห็นกันอยู่หลัด ๆ”แบงค์กวนประสาทเพื่อนตัวเอง
“เฮ้ย ! ยังไม่ตายโว้ย ไม่ต้องแช่งก็ได้ยังไงฉันก็ไม่ตายง่าย ๆ หรอกฉันยังไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเองก่อนตายเลย”ภูมิพูดพร้อมหันไปทางพิมพ์เป็นนัยบางอย่างตำรวจได้จับกุมชายแปลกหน้าไว้และได้เดินมาหาภูมิก่อนที่จะนำตัวผุ้ตกหาไปสอบปากคำที่สภานีตำรวจต่อไป
“เฮ้ย ! น้องชาย คราวหลังรักใครก็บอกเค้าไปสิ อย่าช้า”ชายแปลกหน้าบอกกับภูมิพร้อมกับส่งกระดาษใส่มือของภูมิไว้
“นี่ภูมิในกระดาษมันเขียนอะไรไว้น่ะ เปิดอ่านเร็ว” นิดแสดงความอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก
“นิดเธอนี่นะ หยุดเรื่องพวกนี้ไม่ได้เลยจริง ๆ “แบงค์กล่าวว่านิด
“เร็วเปิดอ่านดิ ฉันก็อยากรู้นะเว้ย”แบงค์ไม่รอช้ารีบบอกให้เพื่อนเปิดอ่าน
“นั้นนายก็อีกคนแหละ”พิมพ์ว่า
“อืม ! ก็ได้ มันเขียนไว้ว่า” (“การเสี่ยง”ที่จะบอกใครสักคนว่า “รัก” มันอาจจะต้อง “เสี่ยง”กับการที่ “ไม่ได้รับความรัก” นั้นตอบแทน แต่ “สิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต” คือ การไม่เสี่ยงอะไรเลย)
เมื่อทุกคนได้ยินข้อความที่ภูมิอ่านจากกระดาษที่คนแปลกหน้าส่งมาให้ทุกคนก็นิ่งงันไปสักพัก ต่อจากนั้นแบงค์ก็ได้พานิดเดินออกไปเหลือเพียงแต่พิมพ์กับภูมิเพียงสองคน
“เออ ! พิมพ์ คือว่า เราชอบเธอนะ” ภูมิสารภาพรักกับพิมพ์
พิมพ์อายหน้าแดงแต่ไม่พูดอะไรและเดินออกไปอย่างอาย ๆ
“พิมพ์ รอผมด้วยดิ”ภูมิรีบตามพิมพ์ไป
ทันใดนั้นภูมิก็พบว่าพิมพ์กำลังยืนคุยกับผู้ชายอยู่คนหนึ่ง ภูมิแสดงอาการหึงหวงมากโดยการเดินไปใกล้ ๆ และพูดว่า
“ขอโทษนะครับที่มาขัดจังหวะ”ภูมิพูดแล้วก็เดินไปหาด็อกเตอร์ที่โต๊ะทานข้าว
“อ้าว! ออกมาแล้วเหรอ” ด็อกเตอร์พูดกับภูมิแต่ภูมิก็ไม่ตอบ
“กินข้าวกินปลามาหรือยัง มามามากินกันก่อนคงหิวแย่”ด็อกเตอร์แสดงความเป็นห่วงภูมิ
ต่อจากนั้นไม่นานพิมพ์กับพงศ์ก็เดินมาที่โต๊ะทานข้าวด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม มันยิ่งทำให้ภูมิหนักใจมากยิ่งขึ้นเพราะคิดว่าผู้ชายที่คุยกับพิมพ์เมื่อกี้เป็นคนที่พิมพ์เลือก
“ไม่กงไม่กินมันแล้ว”ภูมิพูดขึ้นพร้อมกระแทกช้อนส้อมกับจานข้าวแล้วก็เดินออกไป
“อ้าว ! จะกลับแล้วเหรอ”พิมพ์ถามภูมิแต่ภูมิไม่ตอบ
“นี่ ! เค้าเป็นอะไรน่ะ”พิมพ์ถามอย่างสงสัย
“สงสัยคงคิดว่าพี่พงศ์ เป็นแฟนเธอมั้ง”นิดบอก
“งั้นเดี๋ยวพี่จัดการเองพิมพ์”พี่พงศ์เสนอตัวช่วยให้คู่รักคู่นี้สมหวังกัน
พงศ์ได้เดินเข้าไปหาภูมิที่มีทางทีสับสน
“เฮ้ย ! น้องพี่ขอคุยด้วยหน่อย”พงศ์กล่าวแต่ภูมิพยายามจะเดินหนี
“ไม่ล่ะครับ ผมไม่ว่าง”ภูมิเลี่ยงที่จะคุยด้วยแล้วเดินไป
จากนั้นพงศ์ได้ดึงภูมิกลับมาแล้วชกปากภูมิเข้าเต็มแรงทุกคนเห็นอย่างนั้นรีบวิ่งมาดู
“มีอะไรกันน่ะ”พิมพ์ถาม
“ไม่มีอะไรหรอกพิมพ์ พี่แค่หมั่นไส้ไอ้นี่ ขอคุยด้วยก็ไม่คุย”พงศ์กล่าวอย่างเซ็ง ๆ
“ก็ผมไม่มีอะไรจะคุยนี่”ภูมิหงุดหงิด
“เออ ! นี่หาเรื่อง เดี๋ยวเหอะเดี๋ยวก็เจอหนักกว่านี้หรอก”พงศ์เริ่มอารมณ์เสียแต่พอมองไปที่น้องสาวก็ได้สงบลง
“นี่ ! พิมพ์ แน่ใจเหรอว่าจะเลือกไอ้หมอนี่น่ะ พี่ไม่ค่อยชอบมันเลย แกไม่กล้วแฟนแกกะพี่แกจะตีกันตายเหรอ”พงศ์ถามน้องสาว
“นี่ ! หมายความว่าไงครับเป็นพี่น้องกันเหรอ”ภูมิถามอย่างงง ๆ
“ก็ใช่น่ะสิแกคิดว่าเป็นไร”พงศ์ถามและอมยิ้มนิด ๆ
แล้วทุกคนก็ค่อย ๆ เดินออกไปจากที่นี่ปล่อยให้พิมพ์กับภูมิปรับความเข้าใจกัน
“เป็นไรไปน่ะภูมิ”พิมพ์ถาม
“ไม่เป็นอะไรนี่ พิมพ์ที่พี่เค้าพูดน่ะจริงเหรอคับ”ภูมิถามพิมพ์
“พูดว่าไงล่ะพี่เค้าพูดเยอะนะ”พิมพ์กวนนิด ๆ
“ก็ที่บอกว่าพิมพ์เลือกผมแล้วน่ะ”ภูมิ
“ฮืม ! คงงั้นแหละ”พิมพ์ตอบอย่างอาย ๆ
“ไชโย ! ผมรักคุณที่สุดเลย พิมพ์ ! ”
ภูมิได้เข้ามากอดพิมพ์และทั้งสองได้เข้าใจแล้วว่า การเสี่ยงคือการที่เราจะต้องเจอทางแยกสองทางคือได้รับสิ่งที่เราหวัง กับสิ่งที่เราไม่เคยหวังว่าจะได้รับ แต่การเสี่ยงคือหนทางที่ทุกคนควรจะเลือกทำเป็นที่สุด
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น