- โรงที่ที่เคยเป็นของฉันตอนที่ 1 - - - โรงที่ที่เคยเป็นของฉันตอนที่ 1 - นิยาย - โรงที่ที่เคยเป็นของฉันตอนที่ 1 - : Dek-D.com - Writer

    - โรงที่ที่เคยเป็นของฉันตอนที่ 1 -

    ...บทความอ่านง่ายๆไม่มีอะไรมาก แค่ความรู้สึกของคนๆหนึ่งที่จะมีต่อ บุคคลและสถานที่ที่เขาหรือเธอนั้นได้จากมา...

    ผู้เข้าชมรวม

    400

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    400

    ความคิดเห็น


    13

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  9 มิ.ย. 47 / 21:29 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      [b]โรงเรียน(ที่เคยเป็น)ของเรา ตอนที่ 1; คำตอบของคำถามที่ค้างคาใจ.....[/b] ...เมื่อสถานภาพของตนเองต้องเปลี่ยนไปจากคำว่า “นักเรียน” มาเป็นคำว่า “ศิษย์เก่า” คำที่ซึ่งแสดงว่าเรานั้นไม่ได้เป็นนักเรียนของสถานบันศึกษานั้นๆอีกต่อไปแล้ว และคงเป็นคำที่ทำให้หลายคนใจหายและอดคิดถึงความหลังสมัยที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ไม่มากก็น้อย ความรู้สึกของเรายังคงผูกผันและอยากรู้ความเป็นไปหลังจากที่เราได้ก้าวเดินออกมาแล้วว่า สถานที่ที่เคยเป็นเหมือนบ้านของเราและหมู่ผองเพื่อนนั้นเวลานี้มันเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างเมื่อไม่มีพวกเราอยู่แล้ว... หากจะกล่าวย้อนกลับไปเมื่อครั้งแรกที่ได้เข้ามาอยู่ในรั้วน้ำเงินแดงแห่งนี้มันช่างนานเสียเหลือเกิน จากวันนั้นถึงวันนี้กว่ากินเวลาไปกว่า 7 ปีแล้ว เป็น 7 ปีที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่มิอาจเล่าออกมาเป็นคำพูดได้หมด หรือถ้าหากจะเอ่ยถึงทุกเรื่องนั้นก็คงกินเวลาไม่น้อยเป็นแน่แท้ โรงเรียนของเราอาจจะเปิดมาได้ไม่นานแต่ก็เป็นเวลาไม่นานที่ผมและเพื่อนๆได้เติบโตขึ้นมาด้วยกัน...จากสนามหน้าโรงเรียนที่เคยเป็นเพียงสนามทรายบัดนี้กลับมีสนามหญ้า...จากอาคารเพียงหลังเดียวที่มีเนื้อที่ไม่มาก ณ วันนี้เรามีอาณาบริเวณที่กว้างใหญ่...จากโรงเรียนที่เปิดใหม่ วันนี้ได้มีศิษย์จบไปแล้ว 5 รุ่น... พอลองมาคิดๆดูแล้วเวลานี่ช่างเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างรอบตัวเราไปเร็ว เร็วอย่างที่เรานึกไม่ถึง มันเหมือนเมื่อวานนี้อยู่เลยที่เรายังคุยกับเพื่อนว่า [b]“เมื่อไรจะเรียนจบสักทีน้า”[/b] แต่ในความเป็นจริงเราได้เรียนจบไปแล้วทว่าในใจของเรานั้นยังมีอีกหลายเรื่องที่เรายังอยากจะทำในฐานะที่เป็นนักเรียนคนหนึ่ง หากแต่ในความเป็นจริงนั้นโอกาสของเราที่จะทำเช่นนั้นได้หมดลงไปแล้ว คนเราเวลาที่เราทำอะไรเป็นกิจวัตรหรือว่าทำเป็นประทุกวันแต่กลับไม่ได้ทำแล้วมันมีความรู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างที่ขาดหายไปอย่างบอกไม่ถูก ก็คงเช่นเดียวกันกับการไปโรงเรียนที่เหลายคนๆนั้นไม่ค่อยอยากจะไปเสียเท่าไนนัก แต่เมื่อมาถึงเวลานี้เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อไม่ได้ไปโรงเรียนแล้วมันก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำมากนัก จะให้เที่ยวทุกวันมันก็คงจะเป็นไปไม่ได้แน่นอน แต่การให้อยู่เฉยๆกับบ้านก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่ข้าท่าเข้าไปใหญ่ประกอบการที่เราอยากรู้ความเป็นไปของโรงเรียนว่ามันจะมีเรื่องอะไรใหม่ๆเกิดขึ้นบ้างไหม อย่างเช่นว่า ที่นั่งที่เรากับเพื่อนนั่งคุยกันทุกเช้าตลอด 3 ปีในชีวิตม.ปลายของเรา ตอนนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับมันมั่งหรือว่าใครที่จะไปแทนที่เรา...แล้วห้องเรียนของเราตอนนี้มันจะเป็นอย่างไร จากที่เคยยุ่งวุ่นวายอยู่ตลอดเวลาตอนนี้ก็คงจะร้างและเงียบเชียบจนกว่าจะมีนักเรียนม.6รุ่นต่อไปเข้ามาอยู่แทนที่พวกเราที่จากไป พอคิดไปคิดมาในหัวมันก็เต็มไปด้วยคำถามมากมายที่รุมเร้าเข้ามามันทำให้เราอยากไปเยี่ยมเยียนโรงเรียนของเราเพื่อหาคำตอบเหล่านั้น ทว่าในหัวของเรานั้นก็มีความคิดที่แย้งออกมาว่า [i]“จะไปทำไมเราไม่ใช่นักเรียนอีกต่อไปแล้วนะ หรือว่าไปแล้วจะได้อะไรหรือ”[/i] ที่สุดแล้วเราก็พาตัวเองพร้อมทั้งความคิดที่กังขาเหล่านั้นติดตัวที่แห่งนี้ ที่เก็บรวบรวมความทรงจำของเราและกลับไปพร้อมกับคำตอบที่ว่า [b]“สำหรับเราแล้วไม่ว่าผ่านไปนานเสียเท่าไหร่ สถานที่แห่งนี้ยังจะคงไม่แปรเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน มันจะเหมือนกับครั้งที่เราได้จากมัน มันจะอยู่ของมันแบบนั้นในความทรงจำอย่างมิลืมเลือน….”[/b] [u]...ภาพแห่งความทรงจำที่ติดตาพวกเรามันไม่ได้หายไปในวันที่เราจบออกไป แต่มันจะยังคงอยู่ในใจของเราเสมอ....[/u] ปล. ด้วยความที่ว่าบทความชิ้นนี้นั้นจะหาความสมบูรณ์ที่สุดไม่ได้หากว่าขาดภาพประกอบที่ผู้เขียนได้ใส่เอาไว้...หากผู้อ่านท่านใดมีความจนใจในตัวบทความที่ได้มีการใส่รูปแล้ว ลองติดต่อมาทาง msn ได้ที่ tttrhoz@hotmail.com

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×