หนีรับน้องตอนแรก - หนีรับน้องตอนแรก นิยาย หนีรับน้องตอนแรก : Dek-D.com - Writer

    หนีรับน้องตอนแรก

    วิธีหนีรับน้องสำหรับน้องใหม่จากลุงวาฬที่มีประสบการมาหนึ่งปีถ้วน...อ่านดูดีๆมีแง่นิดๆ

    ผู้เข้าชมรวม

    524

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    524

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 มิ.ย. 47 / 01:43 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      วิธีหลีกเลี่ยงการโดนรับน้อง(มหาลัย)ตอน1 วันนี้เขียนเพราะว่าต่อเน็ตไม่ติดในวันเสาร์ช่วงค่ำแก่ๆจะเที่ยงคืนก่ะว่าจะเซฟไปเอาไว้ลงตอนวันจันทร์ตอนเล่นเน็ตตอนพักกลางวันในวันเปิด เทอมวันแรกของการขึ้นปีสองในรั้วอุดมศึกษาเนื่องจากผ่านการรับน้องมาแล้ว1ปีถ้วนเคยมีคนรู้จักมาไถ่ถามว่าตอนนี้เค้าสอบเข้ารร.เราได้แล้วเข้าไป จะโดนรับน้องยังไงบ้างไอ้เราต้องออกแนวอุบไว้เพราะอยากให้เจอเองไม่งั้นมันไม่ตื่นเต้นแต่ไอ้คนยั่งผมมันอุบอะไรไม่ค่อยได้คับมันต้องมีการนำเสนอใน รูปแบบตัวอักษรมาให้อ่านเอาละกันเปนวิทยาทานสำหรับกรณีวันนี้ผมจะเสนอแบบว่าหนีการรับน้องมาได้และไม่ต้องกลัวเสียหน้ากลัวเพื่อนๆที่ทำกิจกรรมจะเห็นว่า เอ๊ะเราทำไมไม่ทำอะไรแบบที่เค้าโดนกัน ครับทุกอย่างมีช่องว่างสำหรับเอาตัวรอด ทำไงได้คนบางคนมันไม่อยากโดนจริงๆนี่นารับน้องน่ะแม้ว่าจะไม่รู้ว่ามันเปนยังไงก็เหอะ ก็ไม่ใช่อะไรหรอกผมก็แค่ไปหยิบยืมจากอะไรที่ผมเคยเห็นวิธีหนีเอาตัวรอดในสถาณการร์ที่ผมกำลังเจ็บตัวอยู่แต่มันกลับบ้านหน้าตาเฉยแล้วอีกวันก็ไม่มีคัยไปด่ามัน จะเกริ่นอะไรกันนักหนาล่ะครับก็ว่ากันมาเลยซิครับแหม่ ขั้นแรก ทำเป็นเออ ออในช่วงแรกๆ++ขั้นตอนนี้มักจะเป็นวันแรกของการรับน้องตามมหาลัยบอกไปเลยใครมาถาม\"น้องครับอยู่ช่วงเย็นด้วยนะครับเรามีการ แนะนำตัวกันนิดหน่อยน่ะครับ\"รุ่นพี่ก็จะเกลี้ยกล่อมเราให้หลงกลจนได้เหมือนเซลแมนขายของ ถึงเราจะก่ะหนีเต็มที่ยังไงถ้าหนีไปวันแรกเลยจะเสียหน้าได้อีกวันอาจ โดนประนามหยามเหยียดโคตรเง่าอี๋แหยะกันทำให้เราหน้าแห้งและต้องเข้าร่วมในที่สุด ยังครับยังไงวันแรกก็ต้องเข้าครับเข้าร่วมกิจกรรมนี้อาจมองว่า เอ...เราจะยอม แพ้ง่ายๆงี้หรอ ยังครับเราใช้วิธีกลยุทอย่าให้เสือไม่ไว้ใจเราเค้าหลอกเรามาแล้วเราก็เสแสร้งหลอกกลับด้วยการอยู่วันแรกให้เค้ารู้จักเราซักนิดหน่อยพองามอย่าถือตัวเพราะ วันแรกของการรับน้องเป็นวันที่เบาที่สุดเลยในการโดนทำอะไรต่างๆมากสุดแนะนำตัวก่ะสอนร้องเพลงคณะบ้าบอ เพราะฉะนั้นวันแรกเหมาะเป็นการอ่อยไว้ก่อนชิ่งหนี เมื่อขั้นแรกผ่านไปแล้ว... ขั้นสอง ใบเกรดผ่านตลอด+++เป็นการอ้างในวันที่สองที่เพิ่งคิดค้นขึ้นมาในปีที่ผมเข้ามาเรียนคือทำตัวเป็นคนมีกรรมเก่ากับที่เรียนที่เก่าของเราด้วยการวิ่งเรื่องโน่นนี่ เหตุผลนี้จะไม่มีใครรั้งเราได้เพราะในความจริงคนที่รั้งเราไม่สามารถออกใบgpa pr ตกข้างของเราได้เค้าจะยอมปล่อยเราออกมาอย่างเต็มใจเพราะช่วงแรกๆจากการวิจัยส่วนตัว มาว่ามักจะมีนักเรียนส่วนน้อยครับที่มีปัญหากับใบอะไรต่างๆของรร.เก่า แต่เราใช้วิกริตของคนอื่นมาเป็นผลประโยชน์ในการเริ่มชิ่งของเราได้555++ ขั้นที่สาม วันต่อมาเรื่อยๆมีงานแม่งทุกวันเป็นคนงานเยอะ++ช่วงนี้จะเป็นการที่เราต้องทำแนบเนียนมากในแต่ละสถาณการร์ในการเฟคของเราคือคนที่เข้า มาเรียนระดับอุดมศึกษามักมีงานหลังเลิกเรียนเช่นทำmc kfc pizza ปิ้งข้าวเหนียว ขายส้มตำ ตัดหญ้า เลี้ยงวัวตามบ้าน กรีดยางมะตอยโอยจะมากไปไหน.. เลยต้องเลือกเงินมากกว่ากิจกรรม อีกแล้วครับท่านเราพลิกวิกฤตของคนอื่นมาเป็นโอกาสของเราโดยการบอกว่ามีงานต้องไปทำคุณก็จะได้หลุดจากกิจกรรมนี้สมใจอยากจะนึกทีนี้จะไปเที่ยวห้างตอแหลที่ไหน ก็ตามสบายเลย ขั้นที่สี่หมดรับน้องมีงานที่ต้องทำเป็นกลุ่มต่อ+++เมื่อเราตอแหลหนีรับน้องมาอย่างไม่มีเพื่อนมามองเราในแง่ร้ายแล้วกิจกรรมต่อมามักเป็นพิธีเข้าไหว้ครูต่างๆ บางสถานที่ไฮโซวอาจไม่มีที่มีมักเป็นมหาลัยทางรัฐก็จะมีการทำกิจกรรมเขียนป้ายคัทเอ๊าเท่าสูงเกือบตึก2ชั้นอันนี้เราต้องลงมือเลอะแน่นอนแต่ก็มีไอ้มนุษย์คนนึงมันคิด หนทางหนีมาแล้วไม่มีคัยด่ามันได้อีกอยู่ดีเพียงคุณมีผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกับคุณคนสองคนเพื่อเป็นนายประกันในภาระกิจสลายโต๋ของคุณแล้วเดินไปบอกเจ้าของกิจกรรม ที่จะให้เราทำว่า\"พี่คับคือวันนี้ต้องไปช่วยงานในบริษัทเวบอะไรห่าเหวตอแหลไปวันๆตามเคย\"จะไม่มีกรณีที่เค้าไม่เชื่อเพราะเรามีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่พร้อมจะหนีไปกับเราแล้ว ก็เอามันมาตอแหลร่วมงานกับเราด้วยเลยดูน่าเชื่อถือขึ้นเป็นทวีคูณโดยตอนที่เค้าเริ่มทำกิจกรรมเขียนป้ายทาสีก็เอาพู่กันจุมสีไปแปะๆทับๆพอให้เพื่อนเห็นว่าเฮ๊ยกูทำนะ...แล้ว10นาที ต่อมาก็ไปบอกเจ้าของกิจกรรมตามที่เรียนมาข้างต้นคุณก็จะได้ออกจากรั่วรร.ในวันนั้นตอน4โมงเย็นแทนที่จะออกมาตอนเที่ยงคืนเหมือนคนอื่นเค้า รากเหง้าทั้งหมดในภาระกิจนี้คือการตอแหลที่ความสามารถของแต่ละคนว่าจะเนียนได้เท่าไหนผมหยิบยื่นมากับอะไรที่ผมเจอมามีคนทำแบบนี้แล้วยังมีหน้าในสัง คมในห้องเรียนอย่างไม่เคอะเขินเวลามีประชุมตัวเองจะเสนอความคิดเหมือนหัวหน้าแต่เวลาทำกิจกรรมไม่เห็นหัวก็ยังไม่มีคนเกลียดมันอย่างทั่วถึงก็จะมีบ้างที่เกลียดเป็นเห็บหอยส่วนน้อย มากกว่าเพราะฉะนั้นหากคุณกลัวเหลือเกินกับการรับน้องใหม่ที่คุณคิดว่าไร้สาระก็จงตอแหลไปวันๆแต่ถ้ามันไม่รำบากมากคุณก็เข้าทำกับมันไม่ต้องบ่อยก็ได้แต่พอรู้จักเพื่อนๆพี่ๆเยอะๆ แล้วคุณอาจจะสำนึกได้เองว่าเอ๊ะทำไมกูไม่ทำตั้งแต่ต้นวะอาจจะรู้สึกดีกว่าหลบๆซ่อนๆหลังเลิกเรียนเหมือนฝ่ายรัฐบาลกลัวฝ่ายค้านรู้ความลับมาว่าตอแหลออกมาเดินห้างสบายๆ แล้วทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับแค่คนๆเดียวว่าจะเลือกทางไหนคือน้องใหม่ทุกคนครับ ปล.เขียนมาได้ซักระยะมีเพื่อนในรุ่นเดียวกับผมขอไปลงเวบรุ่นให้น้องๆอ่านเลยบอกไปเบาๆว่ามึงจะให้พวกมันรู้ทำไมเดี๊ยววันแรกก็รับน้องกันเองหรอก555++

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×