วันพรุ่งนี้จะเป็นวันแรกที่ฉันจะต้องไปโรงเรียน ฉันดีใจมาก ฉันถามพ่อหลายครั้งว่าโรงเรียนเป็นยังไง  พ่อก็ตอบฉันว่า  โรงเรียน เป็นที่ที่มีเด็กๆมากมาย แล้วเด็กๆพวกนั้นก็จะต้องเรียนหนังสือ ดังนั้นถ้าฉันไปโรงเรียน ฉันก็ต้องตั้งใจเรียน ทำตัวเป็นเด็กดีของคุณครู และทุกๆคนด้วย เมื่อฉันได้คำตอบแล้วฉันก็ถามพ่อต่อว่า เด็กๆที่โรงเรียนเขาจะตั้งใจเรียนเหมือนฉันไหม พ่อก็ตอบอีกว่า  แล้วแต่ว่าเด็กคนนั้นเขาจะมีความรู้สึกต่อโรงเรียนว่าเป็นเช่นไร ถ้าเขาคิดว่า โรงเรียนมีแต่ครูที่ใจร้าย ไม่มีครูที่ใจดี ความรู้สึกต่อโรงเรียนก็จะลดลงจนไม่เหลือเลย แล้วเขาก็จะไม่ชอบไปโรงเรียนถึงแม้ว่า เขายังไม่ได้เห็นโรงเรียนเลย พ่อบอกกับฉันว่าอย่างนั้น แล้วพ่อก็ไล่ฉันไปเข้านอน พ่อบอกว่าถ้าฉันไม่รีบเข้านอน พรุ่งนี้ฉันก็จะตื่นไม่ทันแล้วฉันก็จะไม่ได้ไปโรงเรียน ฉันกลัวมาก เพราะว่า ฉันอยากเห็นโรงเรียน ฉันอยากไปโรงเรียน ดังนั้น ฉันจึงเข้านอนตามคำสั่งของพ่อ
                   
\"เช้าแล้วจ๊ะ\" นั่นเป็นเสียงแรกที่ฉันได้ยินในเช้าวันใหม่ เป็นเสียงของพ่อนั่นเอง พ่อมาปลุกฉันแต่เช้า เพื่อให้ฉันแต่งตัว และไปโรงเรียน ฉันไม่รีรอ ที่จะลุกขึ้นจากเตียง และไปอาบน้ำทันที
                    สักพัก พ่อก็พาฉันออกจากบ้าน แล้วมุ่งหน้าไปโรงเรียน พอถึงโรงเรียน ฉันก็พบครู ครูสวยมากเลย เพียงแค่มองหน้าครูแบบเผินๆ ฉันสามารถบอกได้เลยว่า ครูต้องใจดีมากแน่ๆเลย แล้วมันก็เป็นจริงครูใจดีมากครูจะไม่ดุฉันถ้าฉันไม่ทำอะไรผิดแต่ถ้าฉันทำผิดครูก็จะว่าแต่ฉันไม่สนใจหรอก เพราะว่าฉันก็ทำผิดจริงๆนี่น่า แล้วครูก็พาฉันไปเข้าแถวล่ะ ฉันเห็นเด็กๆเยอะมากเลย มากกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก มีเด็กหลายคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใส แล้วก็มีไม่น้อยที่ร้องไห้โยเย ฉันสงสัยว่าทำไมเขาถึงร้องไห้ ฉันจึงเดินเข้าไปถาม เขาตอบว่า แม่เคยบอกว่าที่โรงเรียนมีแต่คนที่ใจร้าย ไม่ใจดี เขาเลยไม่อยากมาโรงเรียน แล้วแม่ก็บอกเขาอีกว่า ถ้าเขาเป็นเด็กดื้อ เขาก็จะโดนครูตี ฉันสงสารเขามาก ฉันจึงพูดกับเขาว่า ไม่ต้องร้องไห้หรอก ครูใจดีนะ ครูจะไม่ตีเธอ ถ้าเธอทำตัวเป็นเด็กดี แต่เราว่า ถ้าเธอร้องไห้อย่างนี้ เธอก็คงจะต้องกลับบ้าน แล้วเธอก็จะไม่มีโอกาสรู้จักเพื่อนๆและทุกๆคนที่เค้าอยากให้เธอมาอยู่ร่วมห้องกับพวกเรา แล้วเด็กคนนั้นก็ยิ้มออกมา ฉันดีใจมากเลย เค้าก็บอกกับฉันว่า เค้าจะลองอยู่ที่โรงเรียนโดยไม่มีพ่อแม่ก็ได้ แล้วเค้าก็วิ่งไปเข้าแถว ฉันดีใจที่ได้ช่วยให้เด็กคนนั้นไม่เกลียดโรงเรียนได้ แต่เรื่องที่โชคดียิ่งกว่าก็คือ เด็กคนนั้นได้อยู่ห้องเดียวกับฉันด้วย ฉันกับเด็กคนนั้นเลยเป็นเพื่อนสนิทกัน แล้วเราก็ได้นั่งใกล้กันด้วย ฉันมีความสุขจัง
                เมื่อถึงตอนเย็น พ่อก็มารับฉันกลับบ้านฉันดีใจมาก แล้วครูก็เล่าให้พ่อฟังถึงเรื่องที่ฉันช่วยพูดให้เด็กคนนั้นไม่เบื่อโรงเรียน เมื่อฉันขึ้นรถ พ่อก็บอกว่า สิ่งที่ฉันทำไปนั้น เป็นเรื่องที่ดี และถูกต้อง พ่อเลยให้ของขวัญฉัน โดยการ พาฉันไปทานอาหารนอกบ้าน แล้วพ่อก็ซื้อของเล่นให้ฉันหนึ่งชิ้นด้วย เป็นตุ๊กตาหมีล่ะน่ารักมากเลย เป็นของรางวัลที่ฉันทำให้เพื่อนไม่เกลียดโรงเรียน พ่อเลยบอกฉันว่า นี่จึงเป็นรางวัลแห่งความดี
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
                  สวัสดีค่ะ จากนิทานที่ว่ามานี้เพื่อนๆว่า นิทานที่เราแต่งเป็นยังไงบ้างคะ แย่มาก ดีมาก พอใช้ หรือว่าควรปรับปรุง เราอยากให้เพื่อนๆเขียนเข้ามาหน่อยอ่ะค่ะ เพิ่งเคยเข้ามาครั้งแรก แล้วเราก็เคยแต่งเรื่องเป็นครั้งแรกด้วย เลยยังไม่ค่อยชินสักเท่าไร น่ะค่ะ แต่สุดท้ายนี้ เรามีอะไรที่จะฝากให้เป็นข้อคิดถึงทุกๆคนด้วยนะคะว่า
‘การทำความดีไม่ใช่เรื่องผิด การทำความดี ไม่จำเป็นต้องมีใครเห็นขอเพียงแค่เราทำด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์เท่านั้น พอ...\'
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
ไข่มุกอันดามัน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น