คืนนี้มันเงียบเหงาอย่างน่าประหลาดสำหลับออม ซึ่งต้องอยู่เพียงลำพังหลังจากที่เขาพึ่งสอบปลายภาคเสร็จเมื่อเย็นที่ผ่านมา ออมไม่ได้เหงาเพราะไม่มีเพื่อนคุยหลอกเพราะมันเป็นสิ่งที่เป็นมานานแล้ว แต่ต่อจากนี้ไปสิชีวิตของเขาจะอยู่อย่างไรนี่สิเป็นสิ่งที่ทำให้เขาทนทุกข์ในขณะนี้
ออมเป็นเด็ก ม.5ก็จริงแต่เขามีความคิดที่ต่างจากคนอื่นทั่วไป เขาคิดว่าตัวเองไร้ค่าในสายตาคนอื่นเสมอคอยทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อน เขาจึงตัดสินใจอยู่เงียบๆไม่วุ่นวายกับใคร แม้แต่คนในครอบครัวเองก็ตาม แต่ลึกๆแล้วเขาทรมานจนแทบขาดใจตลอดเวลา มันอาจจะฟังดูแล้วไร้สาระในสายตาของเด็กทั่วไปที่มีเพื่อนมีพ่อแม่ที่พูดคุยกันได้อย่างสนุกสนาน แต่เพราะคนเราไม่ได้เหมือนกันหมดนี่นา ออมก็เป็นแค่อีกส่วนหนึ่งของคนกลุ่มน้อยนั้น
เช้าวันแรกของการปิดเรียนก็ได้เริ่มขึ้นออมตัดสินใจอยู่หอพักต่อสัก2อาทิตย์ก่อนกลับบ้าน เพื่อเขาจะได้อยู่คนเดียวคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ตามนิสัยเดิมๆ ออมชอบออกไปเดินเล่นตามถนนตอนเช้าและเช้านี้ก็เช่นกัน เขาเดินไปตามสวนสาธารณะที่ยังว่างเปล่า เว้นแต่มีเด็กหนุ่มที่ก้มหน้าก้มตาหาอะไรบางอย่าง ก่อนที่ออมจะเดินหลบไปเขาก็ร้องเรียกออมไว้
“คุณครับเดี๋ยวก่อนช่วยผมหาแว่นตาหน่อยเถอะครับ มันตกอยู่แถวนี้ล่ะครับ”
ออมงงอยู่พักนึงก็เดินเข้าไปหาช่วยหยิบแว่นส่งให้ชายคนนั้นมันเป็นแว่นที่หนามาก จึงไม่แปลกที่สายตาของเด็กหนุ่มจะหาไม่เจอ และคงทักออมได้จากเสียงเดินที่ผ่านมานั่นเอง
“ขอบคุณมากครับ”เด็กหนุ่มรับแว่นตาไปเช็ดก่อนจะสวม ออมไม่ตอบอะไรแล้วก็กำลังจะเดินกลับหอพัก
“ขอโทษนะครับผมกำลังหาหอพักชื่อนกน้ำอยู่นะครับคุณรู้จักมั๊ย” เด็กหนุ่มถามขึ้น
“อ๋อที่เดียวกับที่ผมพักตามมาสิ”ออมพูดตอบด้วยเสียงเรียบ
พอมาถึงหอ ออมก็เดินแยกกับเด็กหนุ่มนั้นขึ้นไปที่ห้องทันทีก่อนเสียงขอบคุณของเด็กหนุ่มจะดังไล่หลังไป
เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่ห้องของออมตอนบ่ายวันนั้น เมื่อเปิดประตูก็พบเด็กหนุ่มเมื่อเช้านี้
“ผมมาขอบคุณเรื่องเมื่อเช้านี้ครับพอดีเจ้าของหอเขาบอกว่าคุณอยู่ห้องนี้ ติดกับห้องผมเลย”เด็กหนุ่มอธิบาย
“ไม่เป็นไรครับ”ออมตอบ
“เกือบลืมไปผมซุปครับ ขอตัวก่อนน๊ะ”ซุปพูดพร้อมกับจะเดินกลับห้อง
“เราออม” ออมพูดด้วยเสียงเบามากเพราะเขาไม่ค่อยได้พูดคุยกับใครด้วยประโยคง่ายๆอย่างนี้นานแล้ว
“งั๊นเราไปก่อนน๊ะออม มีอะไรก็มาที่ห้องได้เราอยู่ตลอด”ซุปยิ้มให้ก่อนจะเดินกลับห้องไป
ออมอยู่ในห้องคนเดียวแต่เขารู้สึกแปลกใจตัวเองที่มีความสุขขึ้นมาอย่างประหลาด แม้จะเป็นคำพูดคุยที่ธรรมดาสำหรับคนอื่นแต่สำหลับคนเก็บตัวอย่างออมมันมีความหมายมาก
บ่ายสามโมงกว่าแล้ว ออมต้องเอาหนังสือไปคืนห้องสมุดก่อนที่มันจะปิดตอน4โมงเย็น เมื่อเดินออกจากห้องซุปก็นั่งหลังพิงกำแพงอยู่หน้าห้องของเขาเองและประตูห้องก็เปิดอ้าอยู่ ออมคิดอยู่ว่าจะถามอะไรดีแต่ซุปก็ยิ้มแล้วทักขึ้นมาก่อน
“อ่าวออมหวัดดี ห้องเราไฟเสียน่ะช่างกำลังซ่อมอยู่”ซุปพูดเหมือนคนคุ้นเคยกัน
“แล้วทำไมไม่ไปเดินเล่นข้างนอกล่ะร้อนออกในนี้”ออมพูดน้ำเสียงชวนคุย ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากสำหรับตัวเขาเอง
“เราเพิ่งย้ายมาเลยไม่รู้จะไปที่ไหนดี”ซุปตอบยิ้มๆ
“งั๊นไปห้องสมุดกับเราสิ อยู่แถวนี้เอง”ออมยิ้มตอบ มันทำให้ตัวเขาเองรู้สึกผ่อนคลาย
ทั้งสองคนเดินคุยกันไปเรื่อย ซุปเป็นคนที่มีอะไรคล้ายออมหลายอย่าง เขาชอบอ่านหนังสือ ฟังเพลงช้าๆ ชอบที่สงบเงียบ แต่สิ่งที่ไม่เหมือนออมเลยคือเขาเป็นคนร่าเริงเข้ากับคนง่าย คงด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้ทั้งสองสนิทกันอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลับมาที่หอห้องของซุปไม่มีช่างอยู่แล้วทั้งสองจึงแยกกันเข้าห้องไป ออมกลับมาที่ห้อง เขานอนคิดเรื่องที่ผ่านมาในอดีตมีแต่เรื่องที่เขาอยากจะลืม มันมีแต่เรื่องที่กดดันเขาให้อยู่ในกรอบที่ดูดีในสายตาคนอื่น ในห้องเรียนเขาต้องนั่งนิ่งฟังครูทั้งที่อยากคุยกับเพื่อนคนอื่น แต่กลัวถูกดุ ในสายตาของครูออมเป็นเด็กดีขยัน แต่ในสายตาของเพื่อนเขาเป็นคนแปลก ออมเองก็เจ็บปวดกับการใช้ชีวิตแบบนี้แต่มันไม่งายเลยที่จะทำตัวเหมือนคนปกติสำหรับคนที่ใช้ชีวิตแบบนี้มาเนิ่นนาน
เหลืออีกแค่วันเดียวออมก็จะกลับบ้าน เกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ออมไปเที่ยวที่ต่างๆกับซุปมากมายทั้งสวนสัตว์ เล่นกีฬา ดูหนังฟังเพลง
ไปดูมหาวิทยาลัย ทังสองคนชอบคณะสถาปัตยกรรมเหมือนกัน ออมดูจะชอบออกแบบผลิตภัณฑ์เพราะดูจะเป็นงานที่อิสระดี ส่วนซุปชอบพวกออกแบบโครงสร้างตึก ด้วยเหตุผลที่คล้ายกัน และวันนี้ทั้งสองคนจะไปที่วัดเพื่อไปทำบุญ แต่พอมาถึงโค้งของถนนซุปเดินนำหน้าออกสัก3เมตร มีรถกระบะวิ่งมาด้วยความเร็วเหมือนมองไม่เห็นคนที่เดินพ้นโค้งไป ออมเห็นเข้ารีบตะโกนบอกซุป แต่ท่าทางเขาตกใจมาก ชั่วเสี้ยวเวลานั้นทุกอย่างเหมือนเคลื่อนไปอย่างช้าๆ สมองของออมคิดทุกอย่างขึ้นทันที เป็นไปไม่ได้ที่จะวิ่งไปดึงตัวซุปหลบออกมาด้วยกัน ที่ทำได้มีแต่ผลักซุปให้พ้นทางไป แต่ถ้าทำอย่างนั้นออมต้องโดนชนแทน เวลาเหมือนไม่รอออมอีกต่อไป ร่างของซุปถูกผลักออกไปไกลเหลือแต่เพียงออมที่ปะทะเข้ากับรถกระบะ สิ่งที่อยู่ในความคิดของออมที่ทำลงไปไม่ใช่การเสียสละ หรือความตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ซุปเป็นเพียงคนเดียวที่มีความหมายกับเขากับชีวิตที่ไม่ใยดีกับสิ่งรอบกาย แค่นี้เพียงพอแล้วกับการที่ชีวิตของเขาจะรักษาสิ่งที่เรียกว่าเพื่อนแท้ไว้
แสงไฟฉายของหมอถูกส่องมาที่ตาม่านตาเบิกกว่าง ออมกระพริบตาถี่ๆแต่รับได้เพียงภาพเบลอๆเนื่องมาจากร่างกายพักฟื้นอยู่นาน พ่อกับแม่โอบกอดออมไว้ ให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหาด ความทรงจำในอดีตเริ่มกลับมาอย่างช้าๆ ไม่นานออมก็นึกถึงซุปได้แล้วถามกับแม่
“ซุปเพื่อนผมเขาปลอดภัยใช่ไหมครับ เอ่อ.. คนที่อยู่กับผมตอนถูกรถชนน่ะครับ”ออมถามขึ้นพร้อมสีหน้างงของแม่
“ซุปไหนออม ตอนที่รถชนคนขับรถก็บอกว่าลูกวิ่งออกมาตัดหน้ารถเอง”แม่พูดพรางกุมมือออมไว้
โกหกคนขับรถต้องหลอกแม่เพื่อให้ตนเองพ้นผิด ออมคิดอย่างนั้นแต่ไม่ได้พูออกไป เพราะไม่อยากมีปัญหา แต่ซุปจะไม่มาเยี่ยมเขาเลยหรือ?
เดือนครึ่งตั้งแต่วันเกิดเหตุจนออมได้สติร่างกายภายนอกไม่ได้รับผลร้ายแรงอะไรมาก มีก็แต่ซี่โครงที่หักกับสมองที่ถูกกระเทือนอย่างแรงแล้วแต่เป็นปกติดีแล้วการทำกายภาพบำบัดก็เสร็จแล้ว กล้ามเนื้อเริ่มทำงานปกติ แต่สิ่งที่คาใจไม่เปลี่ยนแปลงคือเรื่องของเพื่อน แล้วตอนนี้โรงเรียนก็จวนเปิดแล้ว ออมก็ต้องกลับไปที่หอ แล้วเขาก็คงจะได้พบกับซุปอีกแน่
อีกเพียงสี่วันก็จะเปิดเรียนออมกลับมาที่หอแล้ว และไม่รอที่จะหาข้อมูลเพื่อนของเค้า ออมเริ่มจากถามเจ้าของหอพัก ห้องสมุดที่เคยไปพร้อมกับซุป พี่คณะสถาปัตย์ที่มหาลัยที่เคยไป หรือแม้แต่ที่ที่ออมถูกรถชน ทุกที่ไม่มีข่าวของซุป ไม่ใช่ว่าเขาไม่กลับไปที่เหล่านั้นอีก แต่มันเหมือนกับว่าเพื่อนสนิทคนเดียวของเค้าไม่เคยมีตัวตนบนโลกใบนี้มาตั้งแต่แแรกแล้ว
คืนสุดท้ายก่อนเปิดเรียนมันช่างเหงาและวังเวงสำหลับออม แต่คราวนี้กับทรมานใจกับเขากว่าทุกครั้ง เข้าเสียคนคนเดียวที่เขารู้สึกผูกพันมากที่สุดในชีวิตที่ไร้จุดมุ่งหมายของเขา ความปวดร้าวยังกัดกินใจเขาแม้จะหลับไปแล้วแต่มือของออมยังกำแน่น
เช้าวันรุ่งขึ้นออมต้องไปโรงเรียนแม้จะยังสับสนกับเรื่องของซุปอยู่ก็ตาม ก่อนทางเดินเข้าโรงเรียนเป็นสนามบาส ซึ่งตอนเช้าอย่างนี้จะไม่มีใครมาเล่น แต่ออมก็ต้องหยุดลงเมื่อมีลูกบาส ลอยมากระทบไหล่ พร้อมเสียงพูดที่ตามมา
“อ่าวออมขอโทษทีน๊ะ เราไม่เห็นเธอเลย ขอโทษน๊ะ”เสียงเพื่อนหญิงในห้องดังตามมา ซึ่งออมต้องนึกอยู่พักนึงจึงจำชื่อเธอได้ว่าเธอชื่อนุช
แล้วเวลาก็เหมือนหยุดลงอีกครั้ง สิ่งต่างๆเข้ามาในความคิดออม เขาเข้าใจแล้วกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซุปไม่ได้หายไปหรือไม่มีตัวตนหลอก แต่เขาคืออีกส่วนของจิตใจออม ที่ถูกความเครียด ความทุกข์ใจ กระตุ้นให้สมองสร้างซุปขึ้นมาเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นระบบป้องกันตัวเองอย่างหนึ่งของร่างกาย และตอนนี้ออมก็รู้ถึงเหตุผลว่าทำไมร่างกายต้องมีระบบนี้ขึ้นมาแล้ว
ก่อนโรงเรียนเข้าสักยี่สิบนาทีรุ่นน้องที่ผ่านเข้าโรงเรียนมาคงจะแปลกใจที่เห็นรุ่นพี่ม.6เกือบทั้งชั้นเล่นบาสลูกเดียวในสนามที่ดูเล็กลงไปถนัดตาพร้อมรอยยิ้มที่อาจไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนจากรุ่นพี่คนหนึ่ง
จบ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น