เวลาเช้ามืดของวันจันทร์ผู้คนเริ่มตื่นและพร้อมที่จะออกไปทำงาน และ เจต ก็คืออีกคนหนึ่งที่ต้องออกไปทำงานเช่นเดียวกับประชาชนคนอื่น
เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่น เจต สะดุ้งตื่นขึ้นมาโดยฉับพลัน และค่อยๆขยับร่างกายลงจากเตียง และเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างเงียบๆเนื่องจากร่างกายยังไม่ตื่นตัวเต็มที่
เวลาเลยผ่านไปไม่กี่อึดใจ เจต เดินออกจากห้องน้ำพร้อมกับกลิ่นสบู่ลอยติดตามตัวมาด้วย เจตรีบแต่งตัวโดยเร็ว รูปร่างหน้าตาของเขาเผยให้เห็นว่า เขายังเป็นคนหนุ่มและกำลังมีชีวิตที่ดีเนื่องจาก ในวันนี้เขากำลังจะได้เลื่อนตำแหน่ง
ปัง ! เสียงดังลั่นราวกับเสียงปืน แต่มันคือเสียงปิดประตูออกจากบ้านของ เจต นั่นเอง โอ้ รู้สึกว่าตอนนี้พระเอกของเรากำลังแย่ซะแล้ว เนื่องจากนาฬิกาเผยให้เห็นว่า เขากำลังจะเข้างานสาย เหลือเวลาอีกเพียง 15 นาทีเท่านั้น
เจตกำลังขับรถด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่เขาจะทำได้ แต่แล้วทุกอย่างกลับดูช้าลงเรื่อยๆ เจตถึงกับอุทานออกมา ว่า
\" ไม่จริง มันเป็นเพียงแค่ความฝัน ใช่มั้ย \"
เมื่อสิ้นเสียง สายตาของเจตก็กำลังมองรถบรรทุกที่กำลังแล่นมาอย่างช้าๆ โดยมันพร้อมที่จะอัดประจัญหน้ากับเขาในอีกเพียงไม่กี่เสี้ยววินาที แต่เขากลับรู้สึกเหมือนเป็นชั่วโมง ทุกส่วนของร่างกายเริ่มตื่นตัวจนถึงขีดสุด
\" เมื่อลูกโตขึ้นแล้วลูกจะรู้เองแหละน่า \"
\" ตั้งใจเรียนนะลูก \"
\" แฟนลูกเหรอ อืม ใช้ได้นะ \"
\" พ่อแม่ ผมได้งานทำแล้วครับ \"
\" นี่ไงครับ เงินเดือนเดือนแรกในชีวิตของผม \"
\" ทำไม ทำไม พ่อกับแม่ ถึงต้องจากผมไปตอนนี้ด้วย \"
เสี้ยววินาทีนั้นภาพและเสียงต่างๆที่เคยผ่านมาและผ่านไปได้กลับมาอีกครั้งในสมอง จน วุ่นวายไปหมด
โครมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
แสงอาทิตย์ได้สอดส่องเข้ามาแยงตาของ เจต จนทำให้ เจต ต้องค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ และพบว่าตัวเองมานอนอยู่ที่ม้านั่งแห่งหนึ่งในสวนสาธารณะ
\" เรามาที่นี่ได้ยังไงในเมื่อภาพสุดท้ายที่เราเห็นคือ รถบรรทุกที่ขับออกมาชนกับเราอย่างจัง..... \" หลังจากเจตทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขาก็ลุกจากม้านั่งและมองออกไปรอบๆ จนกระทั่งสายตาของเขามาสะดุดกับ ..........
รถของเขานั่นเอง
\" เฮ้ย ! มันพังไปแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วมาอยู่นี่ได้ยังไงกัน \"
เจต รู้สึกงงจนคิดอะไรไม่ออก
\" กุญแจ ใช่ กุญแจรถ \" นั่นคือสิ่งแรกที่เขาคิดออก
เขาเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเขา ซึ่งในนั้นมีทั้ง กุญแจรถ กุญแจบ้าน กระเป๋าเงิน และรูปของหญิงสาวคนหนึ่ง
เขาทำหน้างงๆว่าของพวกนี้มาอยู่ในกระเป๋าเขาได้ยังไง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญในตอนนี้ ยังมีสิ่งที่สำคัญกว่ารออยู่อีก
กึก ! เสียงไขกุญแจเปิดประตูรถ เขาเข้ามาในรถและลองค้นของที่อยู่ในรถดู และเขาก็เห็นสมุดเล่มนึงวางอยู่ เขารีบคว้ามันออกมาเปิดอ่านดูโดยทันควัน
เนื้อความในหนังสือเต็มไปด้วย บุคลิก ที่อยู่ และ นิสัย ต่างๆ ของใครก็ไม่รู้ที่เขาไม่รู้จักเต็มไปหมด โดยแต่ละอันได้มีชื่อเขียนแบ่งเอาไว้ชัดเจนป็นคนๆ
\" นี่มันชื่อของใครกันเนี่ย \" เจต อุทาน
และเขาพลิกไปพลิกมาจนเจอกับหน้านึงของสมุด ซึ่งทำให้เขารู้คำตอบในสิ่งที่เขาอุทานขึ้นมา เมื่อครู่
ในหน้านั้นเขียนไว้ว่า THIS IS MY FRIEND โดย เจต
เขาเอาหลังพิงกับ เบาะรถ
\" นี่มันอะไรกัน ทำไม เราจำเพื่อนๆของเราไม่ได้เลยซักคน หรือว่า เราความจำเสื่อม ไม่ใช่ เราไม่ได้ความจำเสื่อม เพราะ เรายังจำ ชื่อ ที่อยู่ พ่อแม่ ได้ \" เจต พูดกับตัวเอง
\" ไม่ได้ๆ เราจะมัวมานั่งคิดเสียเวลาอยู่อย่างนี้ไม่ได้ เราต้องรีบค้นหาความจริงให้เจอว่า หลังจากเหตุการณ์นั้นแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับเรากันแน่ \" หลังจากพูดจบ เขารีบปิดประตูรถ และ START รถโดยทันที เขาหยิบสมุดเล่มนั้นขึ้นมาอีกที และเปิดไปที่หน้าแรกที่มีการเขียนไว้ พี คือ ชื่อของคนๆแรกที่อยู่ในสมุดเล่มนั้น สายตาของ เจต มองหาที่อยู่ของ พี ในทันที เมื่อพบแล้ว เขาไม่รีรอที่จะขับรถออกไปหา พี
แต่เดี๋ยวก่อน
เจตยังไม่ทันได้ออกรถ เขาก็พบว่าเบรคมีปัญหา
\" เบรค เป็นอะไรไปเนี่ย \" เจต พูดขึ้นมาและรีบลงจากรถ
ก้มตัวลงดูใต้ท้องรถ
\" สายเบรค มันขาดนี่หว่า เกือบตายแล้วไหมหละ \" เจต พูดอย่างโล่งอก ก่อนที่จะหยิบเอาสมุดเล่มนั้นออกมาจากในรถ และเดินไปเรียก แท็กซี่ โดยทิ้งรถคันนั้นไว้อย่างไม่ใยดี
\" พี่ครับ ไปที่นี่ครับ \" เจตยื่นที่อยู่ในสมุดให้คนขับดู
\" โอเค \" คนขับตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงยินดี
1054
1055
1056
1057
1058
1059
\" ถึงแล้วน้อง \" คนขับหันไปบอก เจต
เจต สะดุ้งขึ้นมา เนื่องจากเขากำลังนั่งนับเลขเล่นๆอยู่
\" อะนี่ครับ เงิน \" เจต ยื่นเงินให้แล้วลงจากรถทันที
เจต เดินหาแค่ไม่กี่นาทีก็เจอบ้านของ พี
พี เดินมาเปิดประตู เนื่องจากได้ยินเสียง เคาะประตู
\" อ้าว คุณเป็นใครกันเนี่ย \" พี ถาม
เจต คิดในใจ \" อะไรกัน ทำไมเขาจำเราไม่ได้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ \"
เจตคิดในใจ “ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไม แม้แต่ พี ซึ่งเป็นเพื่อนของเราถึงจำเราไม่ได้หละ หรือเราไม่ได้ความจำสูญหายเพียงคนเดียว “
“ อ้าว แล้วตกลงคุณยังไงกันเนี่ยมาทำไม “ พี ถาม
เจต ลองเช็คลักษณะว่าใช่ พี รึปล่าวจากสมุดบันทึกที่เขาเจอในรถ ปรากฏว่าใช่ พี จริงๆ เลยยิงคำถามใส่ พี ทันที
“ คุณรู้จักคนชื่อ เจต ไหมครับ “ เจต ลองถามดู
“ จำได้ซิ ทำไมเหรอ มันตายไปแล้วนี่นา “ พี ตอบแล้วทำหน้างง
“ เขามีหน้าตารูปร่างยังไงเหรอครับ “ เจต ลองถามดูอีกที
“ แล้วคุณถามทำไมเนี่ยฮะ คุณเป็นใครกันแน่ “ พี เริ่มระแวงขึ้นมา
“ ผมเป็นใครไม่สำคัญหรอก ยังไงก็ช่วยบอกผมก่อนละกัน ว่าหน้าตาเขาเป็นยังไง “ เจตรีบถาม
“ นั่นสินะ เอะ! แต่แปลกทำไมผมจำรูปร่างหน้าตาเขาไม่ได้หละ “ พี ตกใจ เนื่องจากเขาพึ่งรู้ตัวว่าเขาจำ เจต ไม่ค่อยได้ ทั้งๆที่เป็นเพื่อนกัน
“ แล้วคุณจำอะไรเกี่ยวกับเขาได้บ้าง เออ แล้วคุณมีปากกาสักด้ามไหม ผมขอยืมหน่อย “ เจต ถามพร้อมขอยืมปากกา
“ รอแป๊ปนึงนะ “ พีรีบวิ่งไปหยิบปากกา
“ ไหนช่วยเล่าอะไรเกี่ยวกับเขาที่คุณจำได้ให้ผมฟังหน่อยสิ “ หลังจากได้ปากกามาแล้วก็เลยเริ่มถามทันที
“ ผมเป็นเพื่อนกับเขาตอนที่เราทำงานด้วยกัน เขาเป็นคนขยันมากเลยนะ แถมยังเป็นคนดีอีกด้วยนะ แต่แปลกคนดีมักตายเร็วเสมอ “ พี ตอบ
“ เออ แล้วเขามีแฟนรึปล่าวครับ “ เจต ถามต่อในขณะที่มือก็จดข้อมูลที่ พี บอกมาเมื่อครู่
“ มีสิ รู้สึกจะชื่อ ฝน สวยทีเดียวนะ “ พีตอบแบบอิจฉานิดๆ
“ ใช่คนนี้รึปล่าวครับ “ เจต หยิบรูปในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา
“ ใช่ๆ คนนี้แหละ เอะ ! ว่าแต่คุณมีรูปเธอได้ยังไงเนี่ย “ พีถาม
“ ผมเป็นนักสืบ “ เจต โกหกไปแบบหน้าด้านๆ
“ เออ แล้วตกลงคุณคิดไม่ออกเหรอไง ว่า เจต เนี่ยเขามีรูปร่างหน้าตายังไง “ เจตถามเป็นครั้งสุดท้าย
“ นั่นหนะสิครับ คุณนักสืบทำไมผมถึงจำ เรื่องราวต่างๆของเขาได้ แต่จำ รูปร่างหน้าตาของเขาไม่ได้ “ พีตอบพร้อมกับพยายามที่จะนึกให้ออก
“ ขอบคุณมาก คุณให้ข้อมูลผมได้เยอะเลย “ เจต กล่าวขอบคุณแล้วรีบวิ่งไปเรียกแท็กซี่ และจากไป
“ เดี๋ยวก่อน ปากกาผม โธ่ไอ้นักสืบขี้ขโมย “ พี กล่าวอย่างเจ็บใจ
ขณะที่ เจต นั่งรถแท็กซี่ เขาก็อ่าน นิสัยของ พี จากสมุดบันทึก เพื่อจะได้ดูว่า ข้อมูลที่ได้มามีความน่าเชื่อถือได้ขนาดไหน
“ ถึงแล้วครับ ทั้งหมด 60 ครับ “ คนขับรีบถวงเงินทันที
เจต ยื่นเงินให้ พร้อมนับเงินที่เหลืออยู่ในกระเป๋า ตังค์ และเก็บใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิมและ เดินหาบ้านของ ฝน
“ ฝน อยู่ไหมครับ “ เจต ถามเมื่อเขาเจอบ้านของ ฝนแล้ว และถามคนที่เปิดประตูบ้านโดยทันที
“ ทำไมเหรอ มีเรื่องอะไรกับ ฝน เหรอครับ “ ชายผู้เปิดประตูถาม
“ ผมมาถามเขาเรื่อง เจต หน่ะครับ “ เจต บอกกับชายเปิดประตู
“ อะไร เจต ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ “ ชายเปิดประตูตกใจ
“ คุณก็เป็นเพื่อนกับเขาเหรอครับ “ เจต ถามต่อทันที
“ ครับ ผมชื่อ นที ครับ แล้วคุณเป็นใครเหรอครับ “ นที กล่าวแนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง
“ ผมเป็นนักสืบครับ “ เจต ตอบแบบหน้าด้านๆอีกครั้ง ในขณะที่มือก็เปิดสมุดบันทึกหาชื่อของ นที
“ งั้น เชิญคุณนักสืบเข้ามาในบ้านก่อนละกัน “ นทีกล่าวชักชวน
“ขอบคุณครับ “ เจต กล่าวขอบคุณและเดินเข้ามาในบ้าน
“ นั่งตรงนี้ก่อนนะครับคุณนักสืบ เดี๋ยวผมจะไปเรียก ฝน มาให้ และก็ เอาน้ำมาให้ด้วย “ นทีพูดอย่างเร่งรีบ
ในขณะที่รอ เจต ก็เปิด อ่านนิสัยของ นที จากสมุดบันทึก และพบข้อความที่เขียนว่า
“ เป็นเพื่อนที่ไว้ใจไม่ค่อยได้ มันชอบแอบมอง ฝน “
“ ว่าไงค่ะ คุณนักสืบ “ ฝน เดินเข้ามาถาม
เจต เงยหน้าขึ้นมามองและตะลึงกับความงามของเธอจนแทบไม่อยากละสายตาจากเธอ และรู้สึกไม่เข้าใจตัวเองว่าแม้นกระทั่ง มีสาวสวยเป็นแฟนขนาดนี้ทำไมตัวเองจึงจำอะไรเกี่ยวกับตัวเธอไม่ได้เลย
“ เอ้า ว่าไงค่ะคุณนักสืบ “ ฝน ทักเป็นครั้งที่ 2
เจต สะดุ้งขึ้นมาจากการลืมตัวชั่วขณะ
“ เออ คือผมมาถามเรื่อง เจต หน่ะครับ “ เจตพูดแบบตะกุกตะกัก
“ อยากรู้อะไรเกี่ยวกับเขาเหรอค่ะ “ เสียงของ ฝน เศร้าลงในทันทีทันใดและนั่งลงที่เก้าอี้
“ คือหลังจากที่ เจต ประสบอุบัติเหตุโดนรถบรรทุกชนจนเสียชีวิตแล้วเนี่ย
” ในขณะที่ เจต กำลังพูดอยู่เสียงของ ฝน ก็ดังขัดขึ้นมา
“ เดี๋ยวนะค่ะ คุณว่ายังไงนะ เจต โดนรถบรรทุกชนเหรอ เข้าใจผิดแล้วมั้งค่ะ เจต เข้าโดนลอบยิงไม่ใช่เหรอค่ะ” ฝนกล่าว
เจต ตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน ปริศนายิ่งซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ เจต คิดว่า “ ถ้าเราไม่ได้โดนรถชนตาย แล้วเราถูกยิงตายแทน งั้นเหตุการณ์ในครั้งนั้น ความรู้สึกในครั้งนั้น ที่เราโดนรถบรรทุกอัดมันคืออะไรกันแน่ “
“ อะไรนะครับ เจต ถูกยิงตายเหรอครับ “ เจต ถาม ฝน อีกครั้ง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง
“ แล้วฉันจะโกหกคุณไปทำไมหละค่ะ “ ฝน บอกแก่ นายนักสืบจำเป็นของเรา
“ แล้วเหตุการณ์มันเป็นยังไงเหรอครับ “ เจต ต้องการรู้คำตอบ
“ คืนนั้นเป็นคืนวันจันทร์เขาออกไปทำงานตามปกติ แต่วันนั้นเป็นวันที่เขาจะได้เลื่อนตำแหน่งพอดี และ นั่นทำให้เขารีบออกไปทำงานแต่สุดท้ายก็ถูกดักยิงเสียชีวิตอยู่หน้าบ้านตัวเอง ส่วนพวกตำรวจที่มาสืบสวนก็บอกว่าจะควานหาตัวมือปืนคนนั้นมาลงโทษให้ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ” ฝนเล่าเรื่องทั้งน้ำตา
นักสืบหนุ่มไม่รอช้าที่จะยื่นกระดาษทิชชู่ให้
นที ที่หายไปได้สักพักก็เดินกลับมาพร้อมเครื่องดื่มค็อกเทลสีส้มชวนให้แสบตาเสียนี่กระไร
“ เอ้า แล้วนี่เป็นอะไรไปอีกละเนี่ย สงสัยจะพูดถึงเรื่อง ไอ้เจต อีกหละสิ “ นทีกล่าวพร้อมกับวางค็อกเทลไว้บนโต๊ะ
“ เออ แล้วนี่คุณ 2 คนตกลงว่าเป็นแฟนกันเหรอครับ “ เจต ถามไปแบบตรงๆ
“ ผมก็พยายามอยู่ แต่ ฝน นี่สิยังตัดใจจาก เจต ไม่ได้เสียที คุณนักสืบมาตั้งนานแล้วเชิญลองดื่มค็อกเทลสูตรพิเศษของผมก่อนสิครับ “ ว่าที่แฟนคนใหม่ของ ฝน กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ เดี๋ยวก่อนนะครับ ผมยังมีอีกคำถามที่อยากจะถามก็คือ คุณ 2 คนยังจำรูปร่างหน้าตาของ เจต ได้รึปล่าวครับ “ เจต ถามโดยที่ตัวเขาเองรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
ในขณะที่ ทั้ง ฝน และ นที นิ่งไปสักพัก ทำให้ความเงียบเข้ามาปกคลุมบรรยากาศโดยทันที
“ เอะ ! คือว่าทำไมถึงจำไม่ได้นะ “ นที ตอบแบบงงตัวเองมากๆ
“ แล้วคุณหละ ฝน จำได้รึปล่าว ว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง “ นักสืบหนุ่มยิงคำถามพร้อมกับเขียนข้อมูลลงสมุดบันทึก
แต่คำตอบที่ได้กลับเป็นความเงียบ
“ เออ ใช่ครับคุณนักสืบผมมีอะไรจะให้คุณนักสืบดู ตามผมมาสิครับ นี่อาจเป็นหลักฐานช่วยคุณได้ “ นทีบอกกับนักสืบด้วยความต้องการที่จะช่วยเหลือเต็มที่
เจต ไม่รอช้าที่จะลุกตามไป หลังจากที่เขาวางสมุดบันทึกและปากกาของพีไว้บนโต๊ะ
“ นี่ไงครับ รถของเจตพอดีคือว่า เจต หน่ะมีรถอยู่ 2 คัน ผมก็เลยยืมรถมันมาก่อนคันนึง โดยวันที่ผมยืมหน่ะคือวันก่อนที่ เจต จะตายเพียงแค่ 2 วัน สุดท้ายก็ไม่ได้เอาไปคืน เฮ้อ ก็เลยคิดว่าเอามาไว้ที่บ้าน ฝน ละกัน อะ นี่ครับ กุญแจรถ “ นที หยิบกุญแจมายื่นให้
“ งั้นผมขอเอารถนี่ไปตรวจสอบก่อนได้มั้ย “
“ได้สิ หวังว่ามันคงเป็นประโยชน์แก่คุณนะ “ นทีส่งกุญแจให้
“เดี๋ยวผมขอไปเอาของที่โต๊ะก่อนละกัน “ พูดจบ เจต ก็เดินไปที่โต๊ะ
“ ดีเหมือนกัน ผมจะไปโทรศัพท์อยู่พอดี “ นทีเดินไปพร้อมกันกับ เจต
ในขณะที่เขาและนที เดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาของ นักสืบหนุ่มก็เห็น ฝน กำลังเปิดอ่านสมุดบันทึกอยู่
“ อะแฮ่ม “ เจตทำไอ เพื่อให้ ฝน รู้ตัว ในขณะที่ นที แยกตัวไปโทรศัพท์
“ เอ้า มาแล้วเหรอค่ะ ขอโทษนะค่ะที่เปิดอ่านโดยไม่ได้ขออนุญาต แต่พอดีเห็นว่า สมุดเล่มนี้เป็นของ เจต มันทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะเปิดอ่านเพื่อระลึกถึงเขา “ ฝนพูดจบก็ยื่น สมุดคืนให้พร้อมปากกาของ พี ด้วย
“ ขอบคุณครับ แต่ว่าคุณเอาปากกาผมมาทำไมเนี่ย “ เจต ถามแบบงง
“ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่เห็นมันสวยดีเลยหยิบมาดู “ ฝน ตอบพร้อมยิ้มรับ
“ ส่วนรถของ เจต เนี่ย ผมขอยืมเอาไปตรวจสอบก่อนละกัน “ เจต ขออนุญาตกับ ฝน
“ โอเคค่ะ “ ฝน ตอบด้วยน้ำเสียงยินดี
เจต รับสมุดบันทึกและปากกาคืนมาจาก ฝน
“ โอเคๆ พ้นแล้วๆ “ เสียง นที ตะโกนบอก เจต ขณะที่ เจต ถอยรถ
“ ขอบคุณมากนะครับที่ให้ข้อมูลกับผมเป็นประโยชน์มากเลย “ เจต พูดผ่านทางกระจกรถ และก็ขับรถออกไป
ในที่สุด พ่อนักสืบของเราก็มิต้องใช้บริการรถแท็กซี่อีกต่อไป
“ คนต่อไปคือ
“ เจต พูดพร้อมกับมือก็เปิดสมุดบันทึกไปด้วย “ คิด “ ซี่งเป็นคนสุดท้ายแล้วที่จะให้ข้อมูลแก่เขาได้
“ ถึงซะที “
ดับเครื่องเสร็จก็ลงจากรถและเดินไปเคาะประตูบ้านหลังใหญ่
กึก ! “ มีอะไรเหรอครับ “
“ คิด อยู่ไหม “
“ ผมเนี่ยแหละ ทำไมหละมีเรื่องอะไร “ คิด ถามเหมือนคนอื่นๆ
“ ผมเป็น นักสืบ นะครับ แล้วอยากจะมาถามเรื่องคนชื่อ เจต หน่ะครับ “ เขาใช้มุขเดิมๆอีกครั้ง
“ งั้นเข้ามาเลยครับ “
บ้านหลังนี้ดูหรูหราเสียจนยังกับอยู่ในวัง อากาศเย็นมากเนื่องจากความเย็นของเครื่องปรับอากาศที่ปล่อยไอเย็นออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง
“ จะถามเรื่องอะไรก็รีบๆถามนะครับ ผมต้องติดต่อเรื่องธุรกิจอีกเยอะ “ คิดกล่าว
“ งั้นเริ่มเลยละกัน คุณจำรูปร่างหน้าตาของ เจต เขาได้รึปล่าว “ ครั้งนี้ เจต เลือกที่จะยิงคำถามสำคัญก่อน
“ผมลืมไปหมดแล้ว ทุกวันนี้มันไม่มีเวลามาจำหรอกว่า คนที่ตายไปแล้วรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง วันๆผมต้องทำแต่งาน” คิด ตอบคำถามอย่างชัดเจน
“แล้วเขาตายยังไงคุณจำได้รึปล่าวครับ”
“โดนยิงตายไง ไม่รู้ว่ามันไปมีเรื่องกับใครถึงได้โดนลอบยิงตายทั้งๆที่มันออกจะเป็นคนดีจะตาย และที่น่าเสียดายก็คือ เขาเป็นคนที่มีอนาคต และชีวิตก็กำลังไปได้สวย ประสบความสำเร็จทั้งเรื่องงาน เรื่องแฟน มีทุกอย่าง แต่กลับต้องมาตายอย่างอนาถ พูดแล้วเสียดายแทน” คิดพูดไปพร้อมกับจุดบุหรี่ในเวลาเดียวกัน
“แน่ใจเหรอครับว่าเขาไม่มีปัญหากับใคร ผมรู้มาว่าเขาไม่ค่อยถูกกับ นที ไม่ใช่เหรอครับ”
“ก็นั่นแหละที่ผมสงสัยที่สุด ไอ้ที เนี่ย คือคนที่น่าสงสัยมากที่สุด เพราะ มันแอบชอบแฟนของไอ้เจต ส่วนไอ้เจตเนี่ยมันก็เคยไปเตือนด้วยนะว่าอย่ามายุ่งกับแฟนมันมาก ที มันก็ทำเป็นรับปากไปงั้น สุดท้ายก็ยังตอแยเหมือนเดิม พอไอ้เจตมันตาย ที มันก็รีบคว้า ฝน เป็นแฟน สบายใจไปแล้ว แต่ถ้าจะให้ผมเดานะคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องการตายของ เจต คือ ที เนี่ยแหละ แล้วมีเรื่องนึงที่ผมไม่เคยบอก ไอ้เจต เลยคือ ผมเคยเห็น ฝน แอบไปหา ไอ้ที มันด้วย” คิด สูบบุหรี่อย่างมีความสุข
“เดี๋ยวก่อน คุณว่าไงนะ ฝน แอบไปหา นที เหรอ”
“ทำไมตกใจเหรอ ไม่ต้องตกใจ 2 คนเนี่ย มักลับๆล่อๆ จริงๆแล้วผมว่า ยัยฝนเนี่ยก็แอบชอบ ไอ้ที อยู่เหมือนกันแหละ” พูดไปก็ดูดบุหรี่ไป
“คุณพูดจริงเหรอปล่าว” เจตตกใจกับสิ่งที่ คิดบอก
“ อ้าว คุณนักสืบครับผมมีเหตุผลอะไรที่ต้องโกหกคุณ วันนี้ผมหมดเวลาคุยกับคุณแล้วหละ เดี๋ยวต้องไปโรงพยาบาลอีก ไหนเดี๋ยวจะต้องไป ติดต่อธุรกิจอีก ไป คุณกลับไปได้แล้ว” คิด ไล่กลับไปโดยไม่สนใจ
“งั้นผมขอถามคุณอีกข้อ คุณรู้อะไรไหมเรื่องที่ เจต โดนดักยิงตายหน้าบ้าน”
“ที่ผมรู้ก็คือ รถของเจตถูกตัดสายเบรคประมาณว่าถ้ามันไม่ถูกยิงตายมันก็ต้องขับรถหนีและก็ตายเพราะรถไม่มีเบรคอยู่ดี”
“ครับขอบคุณมาก” เจต รีบออกจากบ้านเนื่องจากรู้ตัวว่าถูกไล่
เจต เดินเข้าไปในรถและรีบจดข้อมูลที่ได้มาจาก คิด และอีกครั้งที่เขาไปสะดุดกับข้อความในสมุดบันทึกตรงบรรทัดสุดท้ายที่เขียนถึง คิดก็คือ “คิด เป็นคนที่พูดอะไรแบบเปิดอก” ( แต่น่าเสียดายที่เขามีปัญหาทางจิตทำให้เขามักพูดโกหกหลอกลวงคนอื่นอยู่เสมอดังนั้นสิ่งที่เขาพูดมักเชื่อถือไม่ค่อยได้ )
“งั้นก็หมายความว่าสิ่งที่ คิด พูดเมื่อครู่เชื่อถือไม่ได้อย่างงั้นเหรอ แต่แปลกข้อความในวงเล็บนี่มันเหมือนกับว่าพึ่งถูกเขียนขึ้นมาดูจากหมึกของปากกาแล้วและลายมือก็ไม่เหมือนที่ผ่านๆมา ใช่แล้ว ตะ กี้ คิด บอกว่าต้องไปโรงพยาบาลแสดงว่าข้อความในวงเล็บก็มีน้ำหนักอยู่เหมือนกัน เอะ! รึว่า คนเขียนคือ
เจต พยายามคิด
ในขณะที่เขาและนที เดินมาถึงที่โต๊ะ สายตาของ นักสืบหนุ่มก็เห็น ฝน กำลังเปิดอ่านสมุดบันทึกอยู่
“ อะแฮ่ม “ เจตทำไอ เพื่อให้ ฝน รู้ตัว ในขณะที่ นที แยกตัวไปโทรศัพท์
“ เอ้า มาแล้วเหรอค่ะ ขอโทษนะค่ะที่เปิดอ่านโดยไม่ได้ขออนุญาต แต่พอดีเห็นว่า สมุดเล่มนี้เป็นของ เจต มันทำให้ฉันอดไม่ได้ที่จะเปิดอ่านเพื่อระลึกถึงเขา “ ฝนพูดจบก็ยื่น สมุดคืนให้พร้อมปากกาของ พี ด้วย
“ ขอบคุณครับ แต่ว่าคุณเอาปากกาผมมาทำไมเนี่ย “ เจต ถามแบบงง
“ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่เห็นมันสวยดีเลยหยิบมาดู “ ฝน ตอบพร้อมยิ้มรับ
“ใช่แล้ว ฝน แน่นอน” เจต ไม่รอช้าที่จะรีบไปหาคำตอบที่แท้จริง เขาขับรถย้อนกลับไปที่บ้านของ ฝน โดยเร็ว
ในระหว่างทางที่ พระเอก ของเรา กำลังบึ่งรถไปหา ฝน ด้วยความเร็ว ก็มีรถมอเตอร์ไซค์บิดตามมาด้วยความเร็ว และก็เบียดขึ้นมาอยู่ทางด้านขวามือของ เจต ชายหนุ่มผู้ความจำสูญหายหันไปมองและก็ต้องตกใจเพราะ
กระบอกปืนได้จ่ออยู่ตรงหน้าเขาและกระสุนของมันก็พร้อมที่จะพุ่งทะลุกระจกมาใส่เขาได้ทันทีที่ชายขี่มอเตอร์ไซค์ยิง
เจตเหยียบคันเร่งเต็มที่ ปัง ! ทำให้ ชายขี่มอเตอร์ไซค์ยิงพลาดไปอย่างหวุดหวิด
เจตกำลังขับรถด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่เขาจะทำได้ แต่แล้วทุกอย่างกลับดูช้าลงเรื่อยๆ เจตถึงกับอุทานออกมา ว่า
\" ไม่จริง มันเป็นเพียงแค่ความฝัน ใช่มั้ย \"
เมื่อสิ้นเสียง สายตาของเจตก็กำลังมองรถบรรทุกที่กำลังแล่นมาอย่างช้าๆ โดยมันพร้อมที่จะอัดประจัญหน้ากับเขาในอีกเพียงไม่กี่เสี้ยววินาที แต่เขากลับรู้สึกเหมือนเป็นชั่วโมง ทุกส่วนของร่างกายเริ่มตื่นตัวจนถึงขีดสุด
\" เมื่อลูกโตขึ้นแล้วลูกจะรู้เองแหละน่า \"
\" ตั้งใจเรียนนะลูก \"
\" แฟนลูกเหรอ อืม ใช้ได้นะ \"
\" พ่อแม่ ผมได้งานทำแล้วครับ \"
\" นี่ไงครับ เงินเดือนเดือนแรกในชีวิตของผม \"
\" ทำไม ทำไม พ่อกับแม่ ถึงต้องจากผมไปตอนนี้ด้วย \"
เสี้ยววินาทีนั้นภาพและเสียงต่างๆที่เคยผ่านมาและผ่านไปได้กลับมาอีกครั้งในสมอง จน วุ่นวายไปหมด
โครมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
เจต กระโดดออกมาจากรถก่อนที่รถบรรทุกจะอัด COPY เขาเพียงเศษเสี้ยววินาที มือปืนที่ตามมาก็หักหลบทำให้มอเตอร์ไซค์ล้มคว่ำหลายตลบ ร่างของเขากระเด็นลอยสูงจากถนนและหล่นลงมากระแทกกับพื้นถนนอย่างจัง
แต่แล้ว รถที่ขับมาด้วยความเร็วก็ไม่ทันที่จะเบรคไม่ให้ชนกับ มือปืนที่กำลังเจ็บหนักได้ เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงง!
เจต ที่กระเด็นออกมาอยู่ข้างฟุตบาทได้ยินแค่เสียงเพราะเขาก็บาดเจ็บจากการพุ่งตัวออกมาจากรถเช่นเดียวกัน แต่นั่นก็ทำให้ความจำที่สูญหายกลับคืนมาอย่างไม่น่าเชื่อ
เวลาเช้ามืดของวันจันทร์ผู้คนเริ่มตื่นและพร้อมที่จะออกไปทำงาน และ เจต ก็คืออีกคนหนึ่งที่ต้องออกไปทำงานเช่นเดียวกับประชาชนคนอื่น
เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่น เจต สะดุ้งตื่นขึ้นมาโดยฉับพลัน และค่อยๆขยับร่างกายลงจากเตียง และเดินเข้าห้องน้ำไป
อย่างเงียบๆเนื่องจากร่างกายยังไม่ตื่นตัวเต็มที่
เวลาเลยผ่านไปไม่กี่อึดใจ เจต เดินออกจากห้องน้ำพร้อมกับกลิ่นสบู่ลอยติดตามตัวมาด้วย เจตรีบแต่งตัวโดยเร็ว รูปร่างหน้าตาของเขาเผยให้เห็นว่า เขายังเป็นคนหนุ่มและกำลังมีชีวิตที่ดีเนื่องจาก ในวันนี้เขากำลังจะได้เลื่อนตำแหน่ง
ปัง ! เสียงดังลั่นราวกับเสียงปืน แต่มันคือเสียงปิดประตูออกจากบ้านของ เจต นั่นเอง โอ้ รู้สึกว่าตอนนี้พระเอกของเรากำลังแย่ซะแล้ว เนื่องจากนาฬิกาเผยให้เห็นว่า เขากำลังจะเข้างานสาย เหลือเวลาอีกเพียง 15 นาทีเท่านั้น
เจตรีบวิ่งออกมาโดยเร็วแต่ก่อนที่จะขึ้นรถ ปังงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ร่างของ เจต ล้มลงและไม่ขยับอีกเลย
“ใช่แล้วๆ เราถูกยิงตาย จำได้แล้วๆ”เสียงอันกระอักกระอวนของชายผู้นอนบาดเจ็บอยู่ข้างท้าย
เขาค่อยๆยืนขึ้นมาแบบทุรักทุเรเพื่อโบกแท็กซี่
“ พี่พาไปที่นี่ด่วนเลย” เขายื่นที่อยู่ในสมุดบันทึกให้ดู
“ ได้ไอ้น้อง เร็วรีบขึ้นมาเดี๋ยวรถมันจะติด” คนขับรีบออกรถทันทีหลังจากที่ เจต ขึ้นมาแล้ว
“อะพี่เอาไปเลยไม่ต้องทอน” เจตส่งแบงค์ 100 ให้และลงจากรถ
เจต เดินไปที่บ้านของ ฝน แต่แปลกที่ประตูบ้านของเธอได้เปิดทิ้งไว้ เจตเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง
ปึง!! เสียงประตูปิด ทำให้ เจต สะดุ้ง และในขณะที่กำลังจะหันหลังไปดูเขาก็รู้สึกว่าได้มีบางอย่างกำลังพุ่งเข้ามาจากทางด้านหลัง
เจตตัดสินใจก้มตัวหลบโดยสัญชาตญาณ หวืด!! เสียงของไม้เบสบอลที่หวดมาเต็มแรงผ่านศีรษะของ เจต ไปเพียงไม่กี่ เซนติเมตร เจตพุ่งเข้ารวบใส่ นที ซึ่งเป็นคนหวดไม้เบสบอลใส่เขาเมื่อครู่ เปรี้ยง!! เสียงทั้งคู่ล้มลงอัดกับพื้น ไม้เบสบอลกลิ้งไปอีกทาง
“ แกไอ้เพื่อนทรยศ” เจต ตะคอกเสียงดังขณะที่ตัวของเขานั่งค่อมนที อยู่
“สายไปแล้วเพื่อน แกพึ่งจะจำได้รึ ไอ้โง่เอ้ย” นทีพูดเยาะเย้ย
ผัวะ!! เจต อัดกำปั้นใส่เต็มหน้าของ นที เต็มแรง
“แกมันโง่ตั้งแต่แรกแล้ว แกหน่ะรัก ฝน แต่ ฝน ไม่สนใจแก ฝน หน่ะชอบฉันต่างหากโว้ย ฉันยอมรับว่างงกับการที่ แกรอดจากการโดนดักยิงครั้งแรกได้ยังไง รู้มั้ยฉันตกใจมากที่แกมาหาและพบว่าตัวแก ความจำเสื่อม ฉันเลยวางแผนจัดการแกด้วยการ ใส่ยาลงไปในค็อกเทลแต่น่าเสียดายที่แกไม่ได้ดื่มมันเข้าไป ฉันก็เลยเปลี่ยนแผนโทรไปหามือปืนอีกครั้งให้เก็บแก แต่แกก็ยังรอดมาถึงนี่ได้ และ ฝนก็จัดการเขียนลวงแกลงในสมุดแต่มันก็ไม่ได้ผลอีก แกนี่มันฉลาดกว่าที่คิดๆไว้เยอะทีเดียว” นทีพูดทั้งๆที่ปากตนเองแตก
“ไอ้เลวเอ้ย” เจต ง้างหมัดและกำลังจะตั้นหน้าใส่ นที แต่ถูก ไม้เบสบอลฟาดใส่ท้ายทอยอย่างจัง พลัก!!!!!!!! เจต สลบลงที่พื้น
“ไม่มาช่วยตอน ฟุตบอลโลกคนั้งหน้าเลยหละ” นทีลุกขึ้นมาพร้อมกับเช็ดเลือดตัวเอง
“โทษที ก็รอจังหวะเหมาะๆอยู่” ฝนพูดกับ นทีอย่างใจเย็น
“แล้วจะเอายังไงกับมันดีหละ” นทีถาม
“เอ้ามาถามฉันแล้วฉันจะไปถามใครหละ” ฝน ตอบ
“ งั้นเอาไปฝังทั้งเป็นเลยละกัน” นทีกล่าว
“ จะบ้าเหรอ” ฝนทักท้วง
“แล้วจะให้ทำยังไง” ระหว่างที่ทั้ง 2 ยืนเถียงกัน เจต ก็ค่อยๆได้สติ เจต มองหาอาวุธและก็เห็นไม้เบสบอลวางอยู่ไม่ไกลนัก เขาค่อยๆขยับตัวเอามือไปคว้าไม้เบสบอลมาได้ และรวบรวมกำลังที่เหลืออยู่ยืนขึ้นมา
“เฮ้ย ระวัง” ฝนบอกกับ นที แต่สายไปแล้ว พอ นที หันไปก็ถูกไม้เบสบอลฟาดเข้าเต็มหน้า เปรี้ยง!! โครม!! นทีล้มลงไปและไม่เห็นวี่แววว่าจะลุกขึ้นมาอีก
“เธอโกหก ฉัน” เจต พูดกับ ฝน ด้วยความโกรธแค้น
“อย่านะค่ะ ฉันขอโทษ” ฝนขอร้อง
เจต ง้างมืออีกครั้งและหวดไม้เบสบอลเต็มแรง
“กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด” ฝนร้องสุดเสียง
GAME OVER
เสียงคนตบมือดังไปหมดอย่างกับอยู่ในงานอะไรซักอย่าง
“ขอบคุณมากครับที่มาในงานเปิดตัวสินค้าของเราในวันนี้” เจต พูดขอบคุณแก่สื่อมวลชน
“ที่ทุกๆคนได้เห็นไปทั้งหมดเมื่อสักครู่นี้คือ ตัวอย่างของการทดลองเล่นของผมเองนะครับ เกมส์นี้เป็นเกมส์ แห่งอนาคตอย่างแท้จริง เนื้อหาภายในเกมส์ ก็คือ คุณจะเล่นเป็นตัวของคุณเองนั่นแหละ ที่จะถูกฆาตกรรม และก่อนตายก็เห็นนิมิตภาพในอนาคต แล้ว คุณจะได้รับโอกาสแก้ตัวในการสืบหาตัวฆาตกรที่แท้จริง แต่คุณจะต้องแลกกับความจำของคุณเองที่ต้องสูญหายไปบางส่วนและนั่นก็เป็นหน้าที่ของคุณแล้วที่จะต้องเล่นต่อให้จบ ซึ่งเกมส์นี้เป็น เกมส์ที่สเมือนจริงมากนะครับ ซึ่งพวกคุณคงเห็นกันไปแล้วนะครับตอนที่ผมเล่นให้ดูจนจบ วิธีที่เล่นก็ง่ายมากเพียงคุณติดเอาไว้ที่หลังศีรษะของคุณ เท่านี้คุณก็เข้าสู่เกมส์ที่ผมตั้งชื่อมันว่า ดีELETE ได้แล้วครับ สุดท้ายนี้ผมขอฝากไว้อีกอย่างคือ เกมส์ ดีELETE จะวางขายวันที่ 27 ธันวาคม 2590 แน่นอนครับ รับรองคุณจะได้สนุกในแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อนแน่นอน” ผู้สร้างเกมส์กล่าวปิดท้ายในที่สุด
**คุยกันทิ้งท้าย** นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเอาเรื่องมาโพสต์ที่นี่ เรื่องนี้จริงๆแล้วผมเคยโพสต์กับเว็บอื่นมาแล้ว เป็นงานเก่าเอามาแปะใหม่อีกครั้งแต่แปะที่นี่ครั้งแรก ภาษาอาจจะห่วยแตกต้องขอโทษด้วยนะครับ(นี่มันป็นเรื่องแรกที่เขียน ส่วนเรื่องอื่นไว้จะมาแปะมาให้อ่านกันทีหลังนะ) ขอความเห็นด้วยละกันครับ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น