[b]เพียงแค่ชายธรรมดาคนหนึ่ง[/b] ( ไม่ใช่เจ้าชายในนิยาย ) เรื่องของความเป็นจริงที่อาจเกิดขึ้นกับใครบางคน.
“ รักนะไม่พอหรอก ตอนนี้เค้าต้องหล่อ รวยด้วยเข้าใจไหม ? ”เสียงของหญิงสาวคนหนึ่ง ดังอยู่เต็มสองหูของผม ผมตื่นขี้นมาในเช้าวันธรรมดาอีกวันหนึ่งในชีวิต เป็นวันธรรมดาตามปกติ แต่ต่างไปก็คือไม่มีเสียงโทรศัพท์จากคนที่คอยโทรมาปลุก ตอนเช้าให้ไปเรียนหนังสือ กลับกลายเป็นเสียงของนาฬิกาปลุกธรรมดา ชีวิตจากที่เคยมีคนเป็นห่วงกลับกลายมาเป็นชีวิตที่ธรรมดาแสนธรรมดา
เรื่องมันเกิดขี้นเพราะว่า วันนั้นเป็นวันที่ผมต้องทำโปรเจคงานอยู่ที่มหาลัย แต่ในวันนั้นก็เป็นวันเกิดของเทอด้วย แต่ผมต้องทำงานให้เสร็จก่อนที่ผมจะไปหาเทอ ผมจึงขอนัดเทอไว้ตอน 6 โมงเย็นแล้วก็บอกเทอว่าอาจไปสายหน่อยเพราะมีงานต้องทำ แต่ผมทำงานเสร็จตอนประมาณ 4 โมงกว่าๆผมดูนาฬิกาแล้วผมคิดว่ามีเวลาอีกเยอะที่ผมจะไปหาซื้อดอกไม้สักช่อ หนึ่งไปให้เทอ ผมก็นั่งรถเมล์ไปหาร้านดอกไม้ แถวปากคลองตลาด ผมเดินอยู่ประมาณ 15 นาที ผมเจอร้านของ หญิงชราคนหนึ่ง ผมเห็นดอกกุหลาบหลายสีแต่สีที่ทำให้ผมหยุดคิดก็คือสีขาว มันเป็นสีที่สวยงามกว่าสีอื่นที่ผมเคยเห็นผมจึงตกลงซื้อมา 1 ช่อ แล้วผมก็นั่งรถเมล์กลับไปที่นัดกับหญิงสาวคนนั้น ตอนนั้นก็ใกล้เวลานัดแล้ว ผมก็เดินตามทางที่จะไปร้านที่นัดกันเอาไว้ ก่อนจะถึงผมโทรไปบอกเทอว่า ผม จะถึงแล้ว เทอบอกกลับมาว่า
“ ทำไมรีบมาจัง ไหน บอกว่ามี โปรเจคงานไงหละ ” หญิงสาวคนนั้นถามกลับมาด้วยความแปลกใจ
“ พอดีทำงานเสร็จเร็วนะ เลยรีบมา ” ผมตอบด้วยดีใจที่จะได้เจอ หญิงสาวคนนั้น
“ อ้าว แล้วไม่โทรมาบอก ก่อนหละ ” หญิงสาวคนนั้นถามกลับมาอีก ด้วยความตกใจ
ผมไม่สงสัยอะไรเลย ตอนนั้น ทั้งที่ความเป็นจริง ผมควรจะรู้ ว่าคำพูด คำนั้น แสดงให้รู้ ว่า มีบางอย่างผิดปกติไปจากที่ควรจะเป็น
“ อืม ขอโทษแหละกัน เดียวเราจะถึงที่นัดแล้วนะ แล้วเดียวเจอกัน ” แล้วผมก็ว่างสายลง แล้วรีบเดินไปที่นัดโดย เร็ว
วันนั้นเป็นวันที่ คนเต็มร้าน ผมจึงเดินไปหาที่นั่ง ผมเห็นที่นั่ง บริเวณด้านหลังผมก็กำลังจะเดินตรงไปนั่งที่นั้นแต่แล้วผม เห็น หญิงสาวคนที่ผมนัดไว้ เค้านั่งอยู่ บริเวณ นั้นผมก็ดีใจที่เทอมา รอผมที่นัด ก่อนเวลา เหมือนเทอ อยากจะเจอผม แต่ เมือผมมองไปที่โต๊ะผมก็ได้เห็น ดอกไม้ช่อใหญ่ สีขวาตกแต่งสวยงาม มันเป็น ดอก ลิลลี่ ซึ่งมีราคามาก เกินที่ผมจะหาให้ได้ แต่ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรผมจึงเดินไปเข้าไปหา เทอคนนั้น
“ หวัดดี มารอนานหรือยัง ” ผมถามด้วยความเป็นห่วง ว่าเทอ จะเบื่อที่มารอผม
“ เทอมาตอนไหน นะ ทำไมเราไม่เห็นเทอหละ ” เทอตอบด้วยท่าทาง แปลก แล้วผมถามเทอต่อไปว่า
“ ดอกไม้นี้ใครให้เหรอ ”.ผมถามด้วยความส่งสัย พร้อม กับ ยื่นดอกไม้ ที่ผมซื้อให้ไป ให้เทอ
“ ขอบคุณนะสำหรับดอกไม้ ” เทอรับดอกไม้ของผม พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
ผมนั่งคุยกับเทอ ประมาณ 15 นาทีผมยังไม่ได้ คำตอบจากเทอว่าดอกไม้ที่ว่างอยู่บนโต๊ะ นั้นเป็นของใคร พอผมจะถามเทอก็จะหาเรื่อง อย่างอื่นมาคุยผมก็เลย เลิกคิดที่จะถามเทอ ผมเลยชวนเทอออกไปเดินเล่น รอบๆศูนย์การค้า
เทอก็ไป ด้วยดีแต่ อีกประมาณ 10 นาที โทรศัพท์ ของเทอก็ดังขี้น เทอก็รับแล้วคุยแบบแปลกๆคือ ใช้เสียงเบาๆ แล้ว พยายามเดินห่างๆ ผม เวลาคุยโทรศัพท์ พอเทอคุยเสร็จเรียบร้อยเทอมาบอกผมว่าต้องไปแล้วคุณพ่อมารับ ผมก็บอกไม่เป็นไร เดียวผมเดิน ไปส่ง ปกติ เวลาเทอออกมาเที่ยว เทอก็จะมีคนมารับเทอ เสมอ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคุณพ่อ ผมก็เดินไป ส่ง ที่จอดรถ ของ ห้างนั้น แต่เทอบอกว่า ส่งตรงนั้นก็ได้ เทอจะไป เข้าห้องน้ำก่อน แล้ว จะไปหาคุณพ่อเอง
ผมบอกไม่เป็นไร ผมไปรอ แต่เทอไม่ยอมแล้วก็บอกลา แล้วเดินออกไป โดยเร็ว ผม ก็ไม่สงสัยอะไร เพราะมันก็เหมือนปกติที่ เวลาเทอกลับบ้านจะมีคนมารับ เสมอ ผมก็เดินเล่นอยู่ บริเวณนั้น อีก สัก 20 นาที ผมจึงเดินออกไป รอรถเมล์บริเวณ หน้าห้าง ที่เป็นป้าย รถเมล์ ผมกำลังจะกลับบ้านแต่ผมเห็นสิ่งที่ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นไปได้ ผมเห็น เทอเดินกับ ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่มีหน้าตาดี หรูหรา ตอนนั้น ผมไม่รู้ว่าผมจะทำอย่างไร ดีได้แต่คิดแล้วคิดอีก ว่า เป็นเทอหรือป่าว แล้วพยายามคิดเข้าข้างตัวเอง ว่า อาจไม่ใช่ เทอ คงเป็นคนที่คล้ายๆ หรือไม่ก็เทอเดินกับพี่ชาย เมื่อรถเมล์ มาผมก็นั่งรถเมล์ กลับบ้านด้วย ความกังวล พอถึงบ้านผมโทรศัพท์ไปหาเทอ แต่โทรศัพท์ มือถือเทอ ปิดผมเลยจะโทรเข้าที่บ้านแต่ เทอได้บอกไว้ว่าอย่าโทรเข้าที่บ้านเพราะ เดียวพี่ ชายเทอจะว่า ผมเลย รอเวลาๆ รอ แล้ว ก็รอ มันเป็นการรอ คอยที่ยาวนานที่สุด ครั้ง หนึ่งของผม แล้วโทรศัพท์ ผมก็ดังขี้น เทอนั้นเองที่โทรมา
“ขอโทษนะที่โทรมาช้าพอดี โทรศัพท์ แบตหมด แล้วนี้ก็เพิ่งถึงบ้าน” เทออธิบายเรียบร้อย แม้ผมยังไม่ได้ถามอะไร
“ ไม่เป็นไร แล้ววัน นี้ไม กลับมาช้าจัง” ผมถามด้วยความสงสัย เพราะปกติ เทอจะใช้เวลาไม่ถึง 30 นาทีเดินทางกลับบ้าน
“อ๋อ รถมันติดนะเลยมาช้า” เทอ ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว ผมก็ไม่ได้สังสัยอะไร
แต่แล้วความคิดของผม ก็นึก ถึงถาพที่เห็นตอนรอรถเมล์อยู่ ว่าเทอกำลังเดินอยู่กับใครผม จึงตัดสินใจถามเทอไป เทอเงียบไปสักพักแล้วก็ตอบกลับมาว่า
“ เทอเห็นเหรอ ? ” คำตอบนั้นทำให้ผมรู้เลยว่าเป็นเทอ แน่ๆแล้วผมจึงถามไปว่าทำไมถึงต้องโกหกกัน แล้วทำไมไม่บอกความจริงกับผม
“ ก็กลัวเทอเสียใจนะซิ ” เทอตอบโดยไม่คิดอะไร ผมถามเทออีกว่าเค้าเป็นใคร เทอบอกผมว่าเป็นพี่ที่คณะในมหาลัย แล้วผมจึงรู้เลยว่า ดอกไม้ที่เทอ ว่างอยู่บนโต๊ะนั้นเป็นของใคร
“ เค้ามาจีบเทอเหรอ ? “ ผมถามกลับไป
“ ป่าวนี้ เราก็แค่เดินเล่นกับพี่เค้า ธรรมดา”
“ แล้วไมต้องโกหก ไมไม่บอกความจริง ทั้งที่ถ้าเทอ บอก ความจริง เราจะไม่เสียใจเลย เทอทำอย่างงี้เหมือนกับเทอไม่เห็นเราอยู่ในสายตา เลย ” ผมพูดไป โดยความเสียใจ แล้วความโกรธเล็กๆ ผมถามอย่างงี้หลาย ครั้งก็ได้ คำตอบเดิม
“ เทอว่างแผนไว้ทั้งหมดแล้วเหรอ ” ผมถามเทออีกด้วยคำถามแปลกๆที่ไม่รู้ ว่ามันมีความหมายอย่างไงเทอเงียบไป สักพักแล้วก็บอกว่า
“ เราอยากจะบอกเทอนานแล้ว แต่เราไม่กล้า กลัวเทอจะโกรธ เรา เกลียดเรา แต่ตอนนี้เราคงปิดไว้ไม่ได้แล้วเราก็จะบอกความจริงเลยแหละกัน เราคบกับพี่เค้ามา 2-3 เดือนแล้ว ” เทอตอบโดยน้ำเสียงของเทอไม่มีอะไรผิดปกติเหมือนเทอจะรู้ว่าจะต้องมีวันนี้
“ เวลาที่เราคบกัน มา จะปี นี้เทอไม่แคร์มันเลยใช่ไหม ” ผมถามเทอกลับไปทันที่
“ เราไม่เคยบอกเทอว่าเราเป็นแฟน กับเทอนี้ เทอคิดไป เองมากกว่า ” เทอตอบกลับมา
“ แล้วเวลาที่เราไป เที่ยว ทานข้าว ดูหนังด้วยกันหละ แม้มันอาจจะเป็น นานๆที่ก็จิง แต่เราก็โทรหาเทอทุกวัน ” ผมตอบไป
“ ถ้าแค่นั้น จะเรียกว่าเป็นแฟน กัน ฉันก็มีแฟน หลายคนแล้ว ” เทอตอบกลับมาด้วยเสียงที่ผมฟังแล้วรู้สึกว่า เวลา 1 ปีที่ผมทำลงไป ไม่ว่า จะค่อยเป็น ห่วง ช่วยเหลือ เทอ ดูแลเทอมากที่สุดเท่าที่ผมทำได้ ไม่ว่าจะเป็น ไปหาเทอที่มหาลัยไม่ว่ามันจะห่างกับมหาลัยผมมากขนาดไหน ผมก็ไป หา แต่ เทอพูดกลับมากับผม แบบนี้ ตอนนั้นผมคิดว่าผมไม่น่าจะทำดี กับเทอ เลยมันเหมือนชาวนากับงูเห่า จริงๆ ผมไม่รู้จะ ทำอย่างไงต่อไป จริงๆผมเลยบอกเทอว่า
“ เรารักเทอนะ รักมากๆด้วย เราถึงยอมทุ่มเท ทุกอย่างให้เทอ ” ตอนนั้นผมคิดออกอยู่แค่นี้
“ ทุ่มเท ? เทอทุ่มเทอะไรให้ฉัน บางที่ฉันยังต้องออกเงินค่าอะไรให้เทอเลย ” เทอตอบกลับมา
“ ก็บางที่ ก็เราไม่ใช่คนที่หรูหรา มีเงินใช้จ่ายเยอะเยะ นี้ แต่เราก็ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วเราทำทุกอย่างก็เพราะรักเทอนะ ” ผมตอบกลับไปด้วยความรักเทอคนนั้นมากๆ
“ รักนะไม่พอหรอก ตอนนี้เค้าต้องหล่อ รวยด้วยเข้าใจไหม ? ” เทอตอบกลับมาโดยไม่สนใจ กับคนที่เทอกำลังคุย อยู่ผม รู้สีกว่าเวลาที่ผม เสียไปกับเทอมันไร้ค่า อย่างมาก ผม คิดว่า ชีวิต นี้มันคงจะแย่ที่สุด ได้ก็แค่วันนี้ ผมเลยถามเทอ อีกว่า
“ สรุปแล้ว เราจะจบกันแค่นี้ใช่ไหม ” ผมถามโดยไม่ลังเล
“
.. ” เทอเงียบ แล้วไม่ส่งเสียงอะไร ผมรู้ทันที่ว่า นั้น เป็น คำตอบที่ว่าใช่
“ งั้นก็ คิดถึงเทอนะ นอนหลับฝันดีนะ แล้วอยากบอกว่าเรารักเทอมากๆนะ ” ผมบอกเทอเหมือนทุกๆคืนที่ผมบอกกับเทอ ไม่ว่าครั้งนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผม จะได้ บอก กับ คนที่ผมรักมากคนหนึ่ง แม้เทอ จะทำร้าย น้ำใจผมขนาดนี้ ผมก็ยัง บอก กับเทอ แบบ นั้น
มันเป็นความรู้สึก ที่ดี แม้ทำดีให้เทอแต่เทอไม่สนใจ มันก็ยังดีที่มีคนให้รัก ดีกว่าไม่มีคนให้รัก แต่ ตอนนั้นผมไม่ได้คิดแบบนี้ มันเป็น ความเสียใจ ครั้งใหญ่ ของผมครั้งหนี่ง ถ้าผมเป็นคนหล่อ รวยผมก็คงไม่เป็นแบบ นี้ แล้วแต่การที่มีความรัก อย่างเดียว คงไม่ใช่คำตอบที่ผู้หญิง จะเลือก มันไม่ได้เป็น เทพนิยาย ที่ จะมีการนางเองเป็นเจ้าหญิง แต่พระเอก เป็น ขอทาน แต่สุดท้าย ก็มารักกันได้ นั้น เป็น แค่ เทพ นิยาย แต่สำหรับ ผู้ชายธรรมดา มันเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง
เจ้าชายมีแค่เพียงในเทพนิยาย ที่ จะคู่กับเจ้าหญิงเสมอ
-[i]เพราะผมไม่ใช่เจ้าชาย- ไม่ใช่เจ้าชายไม่เป็นไรแต่ขอให้เทอเป็นเจ้าหญิงของผมตลอดไปก็พอ.[/i]
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น