เสียงโทรศัพท์บ้านผมดังขึ้นในตอนกลางดึกวันหนึ่ง และก็เป็นโทรศัพท์ของเพ็ญ...เพื่อนบนเนตของผม ที่คุยมาได้เกือบเดือน ผมไม่รู้เลยหน้าตาเพ็ญจะเป็นยังไง ผมและเธอคบกันในฐานะเพื่อน เพราะผมก็แอบชอบอีฟเพื่อนที่โรงผมอยู่แล้ว ส่วนเพ็ญก็แอบชอบนาวีเพื่อนที่โรงเรียนของเพ็ญ และเพ็ญก็เป็นที่จับต้องของเพื่อนห้องเดียวกับเธอหลายคนไม่ว่าจะเป็น แม็ก ธง และก็ยังมีระดับอื่นอีกมากมาย
\"ปลายหรอ...เรามีอะไรจะปรึกษาเธอหน่อยหนะ\" เสียงเพ็ญเหมือนมีเรื่องกลุ้มใจไม่ร่าเริงเหมือนปกติ
\"ทำไมหรอ...ว่ามาสิ\" ผมพูดอย่างใจเย็น
\"ก็แม็ก...มันเรียกเราไปหาพรุ่งนี้ มันต้องคุยกันเรื่องนาวีแน่ๆ มันจะถามว่าเราจะเลือกใคร เราไม่รู้จะตอบยังไงดีนะ\" เพ็ญถามผมอย่างรวดเร็ว
\"เพ็ญ...เลือกตามใจที่ตัวเองชอบ อย่าเลือกตามคนอื่น\" ผมแนะนำเพ็ญ
\"เรายังไม่รู้จะเลือกใครเลย\"
\"แล้วเธออยากประสบความสำเร็จกับนาวีหรือเปล่าหละ\" ผมถามเพ็ญ
\"ก็อยากเหมือนกัน ถ้าบอกว่าชอบนาวีแม็กมันก็ต้องเสียใจร้องไห้อีกหนะ มันยิ่งเป็นพวกฟูมผายอยู่ด้วย แล้วไหนจะเธออีกหละ เราว่ามันไม่แฟร์สำหรับเธอเลยนะ ที่ต้องมารับรู้เรื่องราวอะไรของเราแล้วก็เลิกคุยกัน\" เพ็ญถามผมกลับด้วยความเป็นห่วงผม
\"เธอไม่ต้องมาเป็นห่วงอะไรฉันหรอก ฉันเป็นคนบนเน็ต คนที่เธอไม่เคยเห็นหน้า ไม่สำคัญเท่าเพื่อนเธอจริงๆที่อยู่ที่โรงเรียนเธอหรอก ว่าแต่แม็กนะ...เธอชอบมันหรอถึงเป็นห่วงมันหนะ\"
\"ไม่อะ...ฉันไม่คิดแบบนั้น เธอก็เป็นเพื่อนคนหนึ่งของฉัน ส่วนแม็กเขาก็ดีต่อเรา และเราก็ไม่อยากทำให้แม็กเสียใจ แต่นาวีก็เป็นคนที่เราชอบ\" เพ็ญพูดวนไปวนมาหลายครั้ง และเพ็ญก็กลุ้มใจเหมือนกันที่เลือกไม่ถูก
\"ฉันจะถามเธอข้อหนึ่ง และต้องการเพียงแค่คำตอบเดียว ถ้าตอนนี้เธออยู่หน้าแม็กและเขาถามเธอว่า เธอคิดยังไงกับนาวี เธอจะตอบยังไง\"
\"ก็คงจะตอบว่าเป็นเพื่อนกันทั้งสองคนแหละ มันดีที่สุดแล้ว\" เพ็ญตอบอย่างรวดเร็ว
\"แน่ใจนะ...แล้วนาวีหละ\" ผมย้อนคำถาม ถามเพ็ญอีกครั้ง
\"ช่างมันเถอะ ยังไงนาวีก็ไม่เคยรู้ว่าเราชอบเขาอยู่ดี ตอบว่าเป็นเพื่อนกันทั้งสองคนนั้นแหละดีแล้ว เพราะมันเป็นคำตอบเดียวที่ไม่ทำให้ใครเสียใจ\" เพ็ญยืนยันคำตอบอีกครั้ง
\"อืม...ถ้าเธอคิดอย่างนั้นก็ตอบอย่างนั้นไปแล้วกัน\"
\"นั้นเธอก็ไปนอนก่อนแล้วกัน เราขอโทษเธอด้วยแล้วกันทีทำให้เธอต้องนอนสาย แล้วต้องมารับฟังเรื่องราวอะไรของเราอีก ขอโทษนะ...แค่นี้แหละ\" แล้วเพ็ญก็วางสายลง
จากคำพูดที่เพ็ญกล่าวมาและครั้งนี้และอีกหลายๆครั้งก่อนหน้านี้ ทำให้ผมรู้นิสัยเพ็ญว่าเพ็ญเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นไปทุกๆเรื่อง แม้ว่าเรื่อนั้นจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แม้แต่ผม...เพ็ญยังเป็นห่วงขนาดนี้ แล้วคนที่เธอชอบและคนสนิทของเธอจะขนาดไหน ผมไม่สงใสเลยว่าทำไมเพ็ญถึงเป็นที่จับจ้องของหลายๆคน
................................................................
วันรุ่งขึ้นผมโทรเข้ามือถือเธอตอน 20.00น แล้วเธอก็รับสายผม แล้วผมก็เริ่มถามเกี่ยวกับเรื่องที่แม็กเรียกไปหา ผมเริ่มถามด้วยน้ำเสียงปกติว่า
\"วันนี้เป็นยังไงบ้างหรอที่แม็กเรียกไปหานะ\"
เพ็ญขำขึ้นมาอย่างตลกไม่เหมือนกับเมื่อวาน แสดงว่าเรื่องวันนี้คงจะจบลงอย่างสวยๆแน่นอน ผมรอเพ็ญหายขำ แล้วเพ็ญก็พูดมาว่า
\"วันนี้สุดยอดมากเลย ทุกอย่างมันผิดคลาดหมดเลย วันนี้ไม่ได้มีแค่แม็กเท่านั้นที่มา มีทั้งนาวี และก็กล้วยเพื่อนเราก็มาด้วยหนะ พอเห็นนาวีแล้วเราก็ทำอะไรไม่ถูกเลยหนะ แล้วอีกล้วยมันก็ดึงเราไปนั่งอยู่กับนาวีและก็แม็ก แล้วอีกล้วยมันก็หายไปเลย ปล่อยให้เรานั่งเอ๋ออยู่คนเดียวหนะ แล้วไอแม็กมันก็ถามเราว่า คิดยังไงกับนาวี แล้วเราก็ตอบว่า........\" เพ็ญขำขึ้นยกใหญ่เมื่อพูดถึงจุดนั้น ผมรอไม่ไหวก็เลยถามย้ำในขนาดที่เพ็ญยังขำอยู่ว่า
\"ตอบลงเธอตอบว่ายังไงหละ...หัวเราะคนเดียวมันไม่สนุกน้า\"
\"โอเคๆเล่าต่อ เราก็บอกไปว่าเป็นเพื่อนกันทั้งสองคนเลย แล้วมันก็ลุกขึ้นมาทะเลาะกัน แล้วเราก็...เราก็วิ่งหนีไปหากล้วยหนะ\" เพ็ญพูดไปก็ขำไป ส่วนผมก็งงไปกับความไร้เหตุผลของแม็กและนาวี
\"แล้วไอสองคนนั้นมันทะเลาะกันเรื่องอะไรหรอ\" ผมถามเพ็ญ
\"เราเองก็ไม่รู้อะไรมากหรอ ก็อย่างที่บอก พอมันทะเลาะกัน...เราก็วิ่งหนีออกมา ได้ยินคร่าวๆว่า แม็กทะเลาะกับนาวีเรื่องที่นาวีไม่เคยรู้ว่าเราชอบนาวี อะไรทำนองนั้นหนะ\" เพ็ญพูดแล้วก็ขำไปเช่นเดิม
ดูเหตุผลที่ให้แล้วมันก็จะไม่ค่อยมีน้ำหนักเลยที่จะทะเลาะกันด้วยเรื่องแค่นี้ แต่สำหรับคนที่ฟูมผายอย่างแม็กมันก็อาจจะมีเหตุผลพอ
\"แล้วเป็นยังไงต่อหรอ\" ผมรอเพ็ญให้หายขำก่อนที่จะถามต่อ
\"แล้วเราก็ไม่ได้กลับไปดูพวกมันอีกเลย เราอยู่กับกล้วยทั้งวันจนกลับมาถึงบ้านนี้ไง และพวกมันก็ไม่ได้โทรมาหาเราด้วย\"
\"หว้า...เสียดายจัง อดรู้เลยว่าตอนจบมันจะเป็นอย่างไร\" ผมบ่นขึ้นแบบสนุกสนาน
\"อย่าไปคิดถึงพวกมันเลย...เรายังไม่รู้เลยว่าเปิดเทอมเราจะทำตัวยังไงกับพวกมันดีเนี้ย\" เพ็ญตอบกลับแบบไม่สนุกแบบผม เธอจริงจังมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ และก็เริ่มทำให้บรรยากาศในการคุยกับเพ็ญวันนั้นเริ่มหมองมน ผมจึงหาเรื่องที่ตลกๆคุย แล้วก็พักเรื่องนี้ไปเลย
................................................................
ผ่านไปอีกหลายวันและผมก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้กับเพ็ญอีกเลย ช่วงนี้ผมก็ไม่ได้คุยกับเพ็ญบ่อยเพราะว่าแม่ของเพ็ญเข้าโรงพยาบาล และเพ็ญก็ต้องไปดูแลแม่ด้วย ก็เลยไม่มีเวลา
ตอนเย็นวันหนึ่งเพ็ญโทรเข้ามาที่มือผมแล้วถามผมอย่างแปลกๆว่า \'มีใครลึกลับโทรมาหาหรือเปล่า\' ซึ้งมันก็ไม่มี แต่ผมสงใสว่าถามทำไม เพ็ญก็เลยบอกว่า พี่ชายของเพ็ญเอาโทรศัพท์ไปดู และก็สงใสกับเบอร์แปลกๆในเครื่องของเพ็ญที่มีเบอร์ผม เพ็ญก็เลยกลัวว่าพี่เพ็ญจะโทรมา
อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มีโทรศัพท์เข้ามาที่บ้านของผม มันต้องเป็นของผมแน่ๆ ผมจึงรีบวิ่งไปรับสายและก็เป็นเสียงทุ่มๆที่ไม่ใช่ของเพื่อนผม ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นพี่ของเพ็ญ แต่ผมก็งงเหมือนกันที่เขาเรียกผมว่าพี่ ผมพูดจาอย่างสุภาพเพื่อว่าจะเป็นพี่เพ็ญจริงๆ ผู้ชายคนนั้นถามผมคำถามเดี่ยวคือ \"รู้อะไรเกี่ยวกับเพ็ญบ้าง\" ผมตอบไปนิดหน่อยจากที่รู้ทั้งหมด ซึ่งก็ทำให้ผู้ชายคนนั้นพอใจแล้วก็วางหูลง
แล้วผมก็รีบโทรไปแจ้งเพ็ญว่าพี่เพ็ญโทรมาหา ซึ่งเพ็ญก็งงมากเช่นเดียวกับผมที่เรียกผมว่าพี่ และเพ็ญก็จะโทรไปจัดการเรื่องนี้กับพี่ของเพ็ญ ส่วนผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
อีก 10 นาทีผ่านไปก็มีเบอร์ลึกลับโทรเข้ามือถือผมที่เปิดไว้แล้ว ผมไม่รู้ว่าเป็นเบอร์ใคร ผมคิดว่าควรจะโทรไปถามเพ็ญก่อนที่จะรับ ผมจึงกดตัดสายไป แต่เบอร์นั้นก็ได้โทรติดๆกัน 4 ครั้ง แสดงว่าต้องการจะคุยกับผมจริงๆ เมื่อเบอร์นั้นหยุดโทรผมก็รีบโทรหาเพ็ญต่อ
เมื่อผมโทรไปหาเพ็ญ เพ็ญก็บอกว่าไม่รู้จักเบอร์นี้ และก็ร่วมไปถึงผู้ชายที่โทรมาหาผมก่อนหน้าที่ผมคิดว่าเป็นพี่เพ็ญ แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่ เพ็ญบอกว่าพี่เพ็ญไม่ได้โทรไป สรุปแล้วผมก็ไม่รู้ว่าใครโทรมาหาผม เพ็ญแนะนำให้ผมรับไปเลย เพื่อว่าจะเป็นคนเดิม ผมก็เลยรับไป
เสียงนั้นเป็นเสียงผู้หญิงคนละคนกับเมื่อสักครู แต่ก็มีจุดประสงค์ที่คล้ายกัน คนนี้พยายามจะถามเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวของผม ผมแน่ใจว่าคนนี้ไม่ใช่ญาติของเพ็ญ ผมก็เลยปล่อยมุขเข้าไปเต็มที่จนเธอเรียบเรียงคำถามที่จะถามผมไม่ได้ และผมก็ถามกลับว่าพวกเธอทำเพื่ออะไร และเป็นใคร แต่เธอไม่ได้บอกผม ผมก็เลยตอบคำถามที่เธอถามผมแบบเป็นนัย ให้กลับไปคิดต่อเอง สรุปก็คือเธอไม่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับผมเลย
เมื่อเธอถามผมเสร็จก็วางหูไป ผมก็เลยโทรไปหาเพ็ญเพื่อบอกเรื่องทั้งหมดให้กับเพ็ญ ซึ่งเพ็ญก็ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นเช่นเดียวกับผู้ชายคนก่อนหน้านี้ แต่เพ็ญก็จะพยายามที่จะสืบค้นให้ต่อไป และก็คงจะไม่พ้นเพื่อนของเพ็ญเอง เพราะว่าวันที่ไปหาแม็กมือถือเพ็ญได้ถูกเพื่อนยืมไป
เพ็ญดูเหมือนว่าเกรงใจผมอย่างสุดซึ้งเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดมาทั้งหมดนี้ เพ็ญกลัวว่าผมจะคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องของเพ็ญแท้ๆ ไม่เกี่ยวกับผมเลย แต่ผมไม่เคยคิดอย่างที่เพ็ญคิด ผมคิดว่าการที่ผมคุยกับเพ็ญ เราคุยกันในฐานะเพื่อน เพื่อนต้องคอยช่วยเหลือกัน และเรื่องแค่นี้มันก็ไม่หนักหนาอะไรสำหรับผมเลย
................................................................
วันรุ่งขึ้นแต่เช้ามีโทรศัพท์ลึกลับโทรศัพท์มาเข้ามือถือผม วิเดียวแล้วก็วาง ผมไม่รู้ว่ามันเป็นใคร ไม่แน่อาจจะเป็นเบอร์ของชายลึกลับนั้นก็ได้ ผมก็เลยโทรไปบอกเพ็ญเพื่อที่จะได้เป็นเบาะแสตามหาสองคนนั้น แต่เพ็ญก็กำลังเจอปัญหากับ SMS ที่บอกให้เธอไปฟังเพลงคิดลึก
ในสองวันนี้ เพ็ญก็กำลังยุ้งกับการที่ต้องดูแลแม่ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เพ็ญคงไม่มีเวลามากพอที่จะมาตามหาตัวเจ้าปัญหาสามคนนั้นในตอนนี้ แต่เพ็ญก็ได้ฝากเพื่อนช่วยตามหาแล้ว แต่ผมว่าการที่เพ็ญฝากเพื่อนให้ช่วยตามให้ผมว่ามันไม่ใช่วิธีการที่ดี เพราะผมเชื่อว่าตัวบงการที่แท้จริงของเรื่องนี้อาจจะเป็นเพื่อนสนิทของเพ็ญที่รู้ว่าผมกับเพ็ญคุยกัน และไม่เห็นด้วยในการคุยกัน เพราะผมกับเพ็ญต่างก็มีคนที่ชอบอยู่ในใจแล้ว
ผมได้ไปหาเพลงคิดลึกฟัง ซึ้งเนื้อเพลงมันก็จะออกไปในแนวแอบชอบเพ็ญ และผมก็ได้บอกให้เพ็ญรับรู้ เพื่อที่จะตามสืบต่อไป
วันต่อมาและก็เป็นวันที่แม่เพ็ญจะออกจากโรงพยาบาลตอนบ่าย ตอนเช้าผมเล่น MSN และก็มีบุคคลลึกลับใน MSN ที่เข้ามาทักผม เป็นประจำที่จะมีคนแปลกๆมาทักผม เพราะเมล์ของผมปลิวไปทั่วเวปที่ดังๆ แต่วันนี้คนคนลึกลับนั้นได้เริ่มถามผมว่า
\"นายใช่ไหมที่คุยกับเพ็ญทุกวัน\" ผมรู้สึกงงเล็กน้อยที่มีคนลึกลับถามอย่างนี้
\"ใช่ แล้วทำไมหรอ\"
\"ก่อนที่ฉันจะพูดต่อไป ขอให้นายสัญญาอย่างลูกผู้ชายก่อนว่าจะไม่บอกเรื่องที่เราคุยกับนายให้กับเพ็ญ\" ผู้ชายคนนั้นถามผม เสมือนว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องใหญ่
\"ก็ได้ ฉันสัญญา\"
\"คือเราเป็นเพื่อนแม็ก เราจะถามนายว่านายชอบเพ็ญหรือเปล่า\"
\"ไม่มีทาง เรายังไม่เคยเห็นหน้าเพ็ญเลย จะให้ชอบได้ยังไง\" ผมตอบไปตามความจริง
\"แล้วนายรู้ไหม ว่าเพ็ญเขาชอบนายอยู่\" ข้อความที่ผู้ชายลึกลับคนนั้นส่งมา ชวนให้ผมคิดขึ้นมาเหมือนกัน เพราะเพ็ญสนิทและไว้ใจผมมาก พอมีเรื่องอะไรก็จะมาปรึกษาผม และที่สำคัญเพ็ญยังเป็นห่วงเป็นใยกับความรู้สึกของผมมาก แต่ผมเชื่อว่าเพ็ญคงไม่เป็นดังนั้นแน่ ผมจึงตอบกลับไปว่า
\"ไม่จริง เพ็ญไม่ใช่ผู้หญิงที่จะชอบใครได้ง่ายๆ โดยเฉพาะเรา คนที่ไม่เคยเห็นหน้า\"
\"เชื่อฉันเถอะ คุยกันไปเรื่อยๆสักวันก็ชอบกันเองแหละ แค่นี้แหละ\" แล้วผู้ชายคนนั้นก็ออกจาก MSN ไป พร้อมกับทิ้งข้อมูลที่มีประโยชน์ให้ผม ซึ่งข้อมูลนั้นก็ได้บอกว่าในสายตาของเพื่อนๆเพ็ญได้ตัดสินว่าเพ็ญชอบผม และถ้าปล่อยไปเรื่อยๆมันก็คงไม่ดีแน่ เพราะเพ็ญจะไม่มีทางสมหวังกับนาวี แต่ผมก็ไม่อยากจะบอกเพ็ญตอนนี้ เพราะตอนนี้ก็มีปัญหามากพออยู่แล้ว
................................................................
ในเย็นวันนั้นแม่เพ็ญกลับจากโรงพยาบาลแล้ว แล้วเพ็ญก็โทรมาหาผมเพื่อให้ผมช่วยโทรไปหาคุณคิดลึกคนนั้น เพราะว่าตอนที่เพ็ญโทรไปหาได้ถูกตัดสายไป ก็เลยอยากให้ผมถามความให้
เมื่อผมโทรไปก็มีคนรับ เป็นผู้ชายเสียงแหลมๆ แต่เมื่อผมถามเกี่ยวกับ SMS ที่ส่งมา เขาก็ปฏิเสธว่าไม่ได้ส่ง และก็อาจจะเป็นเพื่อนเขาที่ยืมมือถือไปเป็นคนส่ง เมื่อผมบอกเวลาที่ SMS นั้นลูกส่ง ผู้ชายคนนั้นก็บอกว่าไม่มีคนยืมมือถือไปตอนนั้น
จากการคุยกับผู้ชายคนนั้นผมก็พบข้อพิรุดที่บอกได้ว่าผู้ชายคนที่ไม่ใช่เจ้าของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นการไม่รับสายเพ็ญแต่รับสายผม และก็เรื่องเกี่ยวกับ SMS อีก
แล้วผมก็บอกให้เพ็ญรู้ แล้วเพ็ญก็ลองโทรไปอีกครั้ง ก็ปรากฏว่าไม่มีคนรับตามเคย ผมไม่รู้จะช่วยเพ็ญต่อยังไงดี เพราะเมื่อผมโทรไปก็เจออีกคนรับ เพ็ญก็เลยไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น
หนึ่งชั่วโมงต่อมาในเวลาที่ผมเกือบจะล้มตัวลงนอน เพ็ญโทรมาหาผมแล้วก็พูดกับผมว่า
\"ไอคนที่ส่ง SMS มาหาเรา มันโทรมาหาเราว่าให้เลิกคุยกับเธอหนะ\"
ผมรู้สึกว่าการที่ผมมาคุยกับเพ็ญแบบเพื่อนนี้ มีแต่คนไม่เห็นด้วยทั้งนั้น และก็ยังมาสร้างความวุ้นวายให้กับผมและเพ็ญ แต่ที่สำคัญสุดการคือเพ็ญจะไม่มีวันสมหวังกับนาวี ผมจึงตอบเพ็ญไปว่า
\"ถ้ามันทำให้เธอลำบากมากก็เลิกคุยกันก็ได้\"
\"เธอ...พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง\" เพ็ญพูดออกมาหลังจากเงียบไปนาน
\"ก็การที่เธอต้องมานั่งวุ้นกับการตามหาบุคคลลึกลับพวกนี้ มันเกิดจากการคุยกับเรา และมันก็ทำให้เธอลำบาก เลิกคุยกันดีกว่าเพื่อความสบายใจของทั้งสองผ่าย\" ผมอธิบายให้เธอฟัง
\"แต่ใช่ว่าถ้าเราเลิกคุยกับเธอแล้วพวกนั้นมันจะไม่มาก่อความรำควาญกับเราอีก เราก็ต้องตามสืบอยู่เหมือนเดิม\" เพ็ญพูดด้วยน้ำเสียงแบบจริงจังแบบที่ไม่เคยพูดกับผมมาก่อน
\"อีกอย่างนะพลอย วันก่อนเราคุยกับเพื่อนแม็ก รู้ไหมในสายตาของแม็ก และก็อาจจะเป็นของเพื่อนเธอทุกคน เขาคิดว่าเราสองคนชอบกัน\"
\"แต่เธอก็รู้หนิว่าเราไม่ได้ชอบเธอ และเธอก็ไม่ได้ชอบเรา\" เพ็ญรีบสวนกลับ
\"ใช่...เราเองก็รู้ แต่ในความคิดของคนอื่นเขาคิดว่าเราสองคนชอบกัน และมันก็เป็นสิ่งที่เรากำหนดไม่ได้ว่าจะให้เขาคิดอย่างไร และถ้าปล่อยไปแบบนี้ เธอก็คงจะรู้ว่าเธอจะไม่มีวันสมหวังกับนาวีได้เลย เธอจะต้องเลือก...มีนาวีก็ไม่มีเรา...มีเราก็ไม่มีนาวี\" ผมบอกสิ่งที่มีเหตุผลที่พอจะทำให้เพ็ญเลิกคุยกับผมได้ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ผมไม่อยากจะให้มันเกิด แต่เพื่อผลประโยชน์ของเพ็ญผมก็ต้องทำ
\"แล้วถ้าเธอเป็นเรา เธอจะเลือกใคร\"
\"ไม่รู้สิ เธอเลือกเองเถอะ ผลประโยชน์ของเธอแท้ๆ\"
ผมรู้ว่าถ้าผมเลือกอะไรเธอก็ต้องเลือกตามผม ผมก็เลยไม่บอกสิ่งที่ผมเลือก เพราะว่าเรื่องนี้เป็นผลประโยชน์โดยตรงของเพ็ญ เพ็ญควรจะเลือกเอง
ถ้าผมเป็นเพ็ญผมก็จะเลือกคนที่ผมชอบ ซึ้งถ้าเป็นแบบนั้นผมก็บอกตรงๆเลยว่าผมเองก็เสียใจเหมือนกัน ที่คำว่าเพื่อนระหว่างผมกับเพ็ญที่สร้างมาเกือบเดือน จะต้องมาจบลงเพราะการถูกบีบบังคับจากคนอื่น
\"ปลายฉันถามเธอหน่อย เธอเป็นเพื่อนกับเราหรือเปล่า\" น้ำเสียงของเพ็ญแสดงถึงโกรธนิดๆ
\"ใช่ไง...ฉันกับเธอเป็นเพื่อนกันต้องแต่วันแรกที่เราคุยกันแล้ว\"
\"ถ้างั้นฉันก็จะขอบอกเลยนะ ว่านาย...เฮงซวยมากๆ มีปัญหาแค่นี้นายก็หนีแล้ว แค่เขาบอกว่าให้เลิกคุยกันเธอ เธอก็เชื่อเขาแล้วหรอ นายบอกว่าพวกเรากำหนดความคิดพวกเขาไม่ได้ แล้วความคิดของนายจะให้พวกเขากำหนดได้ง่ายๆหรอ \" ดูเหมือนว่าเพ็ญจะโกรธผม และก็ทำให้ผมคิดตามในสิ่งที่เพ็ญพูด
\"ก็จริงของเธอ แต่ฉันเป็นห่วงเรื่องเธอกับนาวีมากกว่า ฉันอยากเห็นเธอมีความสุขกับนาวี ดีกว่ามานั่งคุยกับคนที่เธอไม่เห็นหน้าอย่างนี้\"
\"เรื่องระหว่างฉันกับนาวีมันไม่สมหวังกันง่ายๆหรอก\" เพ็ญกลับมาพูดอย่างหมดหวังอย่างนี้ทุกครั้งเมื่อผมพูดถึงนาวี
\"ไม่แน่นาวีเขาอาจจะเห็นว่าเรากับเธอเป็นแฟนกันอยู่ก็ได้ ถ้าเรา...เลิกคุยกับเธอ ไม่แน่นาวีอาจจะมาบอกชอบเธอเลยก็ได้\" ผมรู้สึกเสียใจทุกครั้งเมื่อต้องพูดคำว่าเลิกคุยกับเพ็ญ
\"เลิกพูดได้เลยเกี่ยวกับเรากับนาวี ถึงเขาจะมาชอบเราจริงเราก็จะไม่เป็นแฟนกับเขา เพราะเราไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะทำให้เขาชอบเราได้ทุกวัน ดังนั้นนาวีกับเธอก็มีฐานะเหมือนกันคือเป็นได้แค่เพื่อน\" เพ็ญพูดอย่างมีเหตุผล
\"แล้วเธอจะรับได้หรอกับการที่ต้องมาถูกคนอื่นเข้าใจอย่างผิดๆ ว่าเธอเป็นแฟนกับเรา\"
\"ทำไมหละคนอื่นจะคิดอย่างไรทำไมต้องไปสนใจด้วย แค่ขอให้ตอนนี้ในความคิดของเราและเธอเป็นเพื่อนกันก็พอแล้ว\" เพ็ญพูดอย่างสบายๆ
จากคำพูดทั้งหมดที่เพ็ญพูดออกมา สื่อได้ว่าเธอต้องการที่จะคุยกับผมต่อ โดยที่เพ็ญได้ให้เหตุผลได้ดีกว่าความรู้สึกที่อยากคุยกันต่อ แต่เพ็ญได้ใช้เหตุผลจากความจริงที่ว่า
ความคิดเขา หรือความคิดของใคร...เรากำหนดไม่ได้ แต่ความคิดเรา...เรากำหนดได้ และอย่าให้ใครมากำหนดให้
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น