ERROR006 - ERROR006 นิยาย ERROR006 : Dek-D.com - Writer

    ERROR006

    เรื่องราวของผู้หญิงที่ติดเชื้อมรณะกับความรักครั้งสุดท้าย

    ผู้เข้าชมรวม

    628

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    628

    ความคิดเห็น


    24

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  หักมุม
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ก.ย. 47 / 00:51 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      Error006 กว่าจะรู้ตัว…ก็ครึ่งปี ที่ฉันพยายามจะตื่นจากฝันร้ายที่ทารุณฉันในโลกแห่งความเป็นจริง แต่มันไม่เคยได้ตื่นเลยและที่สำคัญฉันทำใจกับมันไม่ได้ “ หมอเสียใจด้วยนะครับ คุณเป็นเอดส์แต่อย่าพึ่งกังวลอะไรมากนะครับเพราะบางคนถ้าปฏิบัติตัวตามที่หมอแนะนำแล้วก็สามารถอยู่ได้เกือบสิบปี…” ฉันต้องนอนพักทั้งตัวและใจอยู่ที่บ้านริมทะเลแห่งนี้คนเดียว ทุกๆเช้าจะเห็นเด็กๆผ่านหน้าต่างกระจกบานนี้วิ่งเล่นไปตามหาดทรายขาว พวกเขาเป็นเหมือนต้นกล้าน้อยๆที่จะเติบใหญ่บนสังคมฉันได้แต่ภาวนาอยู่อย่าให้พวกเขาต้องมาผจญชะตากรรมที่โหดร้ายเหมือนอย่างฉันเลย ฉันไม่นึกว่าการรักสนุกเพียงครั้งเดียวก็สามารถทำให้ชีวิตทั้งชีวิตฉันต้องผกผันขนาดนี้ คำที่บอกให้เชื่อใจของแฟนหนุ่มทำให้ฉันไม่ได้ระวังเลย นี่เป็นผลตอบแทนของการไว้ใจในรักงั้นหรือ เพื่อนที่บอกว่ารักกันนักรักกันหนาพอรู้ข่าวก็ค่อยๆหายไปทีละคนสองคน ที่เจ็บปวดใจที่สุดก็คือพ่อกับแม่ พอรู้เรื่องนี้ก็ผลักดันให้ฉันมาอยู่บ้านพักริมทะเลโดยอ้างว่า จะให้ฉันได้พักผ่อนซึ่งเหตุผลทั้งหมดฉันก็รู้ตัวอยู่แล้วว่าเพราะอะไร แต่ก็จะไปโทษใครเขาก็ไม่ได้ เพราะถ้าเป็นเราก็ไม่แน่ที่จะทำแบบนี้เหมือนกัน แต่ฉันอาจจะโชคดีที่ไม่มีอาการหรือสิ่งผิดปกติ จนฉันเองยังประหลาดใจ อาจจะเพราะความสงบที่นี่มั้งทำให้ฉันไม่ต้องคิดมาก พอเหงาก็ออกไปนอกระเบียงมองดูเด็กๆเล่นกัน หรือไม่ก็ขับรถไปตลาดเดินไปซื้อของในตลาดได้เห็นเขาคุยกันอาจจะพอทำให้ฉันรู้สึกว่ายังมีตัวตนในสังคมนี้ แต่พอเหงามากๆก็โทรไปหาพ่อกับแม่หรือไม่ก็ลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกัน โดยที่ทุกคนก็บอกว่าจะมาเยี่ยมแต่นี่ก็เกือบสามเดือนแล้วที่ฉันไม่ได้เจอหน้าพวกเขา ฉันเริ่มคิดมากจนอยากจะฆ่าตัวตาย ก่อนที่ความคิดจะเตลิดไปไหนไกล เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ฉันชะโงกไปดูเห็นชายหนุ่มหน้าตาดีอายุอ่อนกว่าฉันสักสี่ห้าปีแต่งตัวทะมัดทะแมง ด้วยความที่ไม่ค่อยจะอยากรักษาชีวิตตัวเองเท่าไหร่จึงไม่ค่อยกลัวภัยกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นจึงเดินไปเปิดประตูถาม “ มีอะไรจ้ะ” “ คือ ผมจะมาถามคุณว่าคุณสนใจจะรับหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร มาส่งทุกตอนเช้าๆไหมครับ” “ อืมก็ดีนี่ ไหนลองเข้ามาคุยรายละเอียดหน่อยสิจ้ะ” “ ได้เลยครับ” ฉันสังเกตมารยาทและวิธีการพูดการจาที่สุภาพของเขาช่างเป็นเด็กที่เรียบร้อยจริงๆฉันชมชื่นเขาในใจ แต่เหตุผลหลักที่สนใจในตัวเขาอาจจะเป็นเพราะฉันอยากหาเพื่อนคุยสักคนก็เป็นไปได้ ฉันพาเขามาคุยเรื่องค่าใช้จ่ายแล้วก็นิตยสารกับหนังสือพิมพ์ที่อยากได้พร้อมกับรับรองด้วยน้ำส้มคั้นเย็นๆกับบราวนี่ ดูท่าเขาจะแปลกใจกับการต้อนรับที่ดูเหมือนว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทมานาน “ เอ่อ คือไม่เป็นไรหรอกครับ ขอบคุณนะครับผมไม่กล้ารบกวนคุณหรอกครับ” “ ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ฉันอยู่คนเดียวนานๆทีจะมีเพื่อนมาคุยแก้เหงาสักที ทานไปเถอะไม่มียานอนหลับหรอกจ้ะ ถือว่าตามใจคนแก่ก็แล้วกันที่นานๆจะมีเพื่อนใหม่สักคน” ด้วยความที่เขาไม่กล้าขัดจึงกินและดื่มเพียงเล็กน้อย “ คุณนี่นะแก่ ไม่เลยครับผมว่าคุณดูสาวกว่าพี่สาวของผมเสียอีก แต่คุณไม่ค่อยมีเพื่อนเหรอครับ ทำไมล่ะครับแล้วคุณทำงานอะไรล่ะครับ……เอ่อขอโทษครับที่ผมละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของคุณ อืม อย่างไงผมขอตัวก่อนดีความครับเพราะผมต้องไปอีกหลายบ้าน ขอบคุณนะครับสำหรับน้ำส้มแล้วก็ไอ้ขนมปังดำขมๆแต่อร่อยนั่นน่ะครับ” “ เขาเรียกว่าบราวนี่ จ้ะ” “ ครับ บราวนี่ ขอบคุณนะครับ เอ่อคุณ ….คุณ” “ ฉันชื่อ แอสเทียร์ อืมแล้วคุณล่ะคะ” “ ผมชื่อ คีน ครับเอ่อ…. คีน สโตนครับถ้ายังไงผมจะเริ่มมาส่งหนังสือพิมพ์ตั้งแต่พรุ่งนี้เช้านะครับ ขอบคุณแล้วก็เจอกันใหม่นะครับ คุณแอสเทียร์” “ จ้า ขี่รถจักรยานดีๆนะจ้ะ” เขาหันหน้าแล้วยิ้มรับคำอย่างมีเสน่ห์ ฉันปิดประตูบ้านช้าๆแล้วหันหลังถอนหายใจเบาๆแล้วอมยิ้มเล็กน้อยดีใจที่วันนี้ได้พบปะแล้วก็คุยกับเพื่อนใหม่ฉันจึงหยิบเสื่อแล้วก็อุปกรณ์สีโดยหวังว่าวันนี้คงจะเพ็นท์ลายเสื้อได้สวยกว่าที่ผ่านมาแน่นอน ………………………………………………………………………………………………………. “ อรุณสวัสดิ์ครับคุณแอสเทียร์ คุณตื่นเช้าจังเลย ผมเอาหนังสือพิมพ์มาส่งครับ” “ ขอบใจจ้ะคีน แล้วนี่ต้องไปส่งบ้านไหนต่อไหมจ้ะ ถ้าไม่มีธุระที่ไหนจะรับกาแฟตอนเช้ากับชั้นหน่อยไหมล่ะ” “ ไม่ได้ไปส่งที่ไหนต่อแล้วครับ อ้าวนี่คุณกำลังทำอะไรอยู่ล่ะครับ” “ ฉันกำลังจะไปตากผ้าที่ฉันลองเพ็นท์เองน่ะจ้ะ ดูสิสวยไหมฝีมือคนแก่คนนี้” “ สวยจังครับคุณเพ็นท์เสื้อเป็นอาชีพเหรอครับ เอ่อ…ขอโทษครับ…..อีกแล้วที่ปากผมอยากรู้อยากเห็นเกินไปหน่อย” “ อ๋อไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ฉันไม่ได้เพ็นท์เสื้อเป็นอาชีพมันเป็นงานอดิเรกน่ะจ้ะ ฉันเคยเรียนมาบ้างก็เลยอยากจะทำเพื่อผ่อนคลายหน่อยน่ะ” “ ถ้าคุณไม่ว่าอะไรและก็ไม่เป็นการรบกวนจนเกินไปผมอยากรู้วิธีเพ็นท์ให้ได้ลายสวยๆแบบนี้บ้างจังเลยครับ” “ อ๋อได้สิจ้ะ หลังจากที่เธอส่งหนังสือพิมพ์ตอนเช้าเสร็จถ้าไม่มีธุระอะไรที่ไหนหลังจากอาหารเช้าฉันจะสอนวิธีทำให้เธอเอง” “ จริงเหรอครับคุณแอสเทียร์ ขอบคุณมากๆครับ งั้นเริ่มวันนี้เลยดีไหมครับ” “ อืมไว้พรุ่งนี้ดีกว่าจ้ะ วันนี้ฉันต้องไปทำธุระที่ในเมือง จะไปส่งจดหมายหน่อย” “ อ๋อ..ครับผม ขอบคุณอีกครั้งสำหรับกาแฟแล้วก็ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับการสอนเพ็นท์ผ้าด้วยนะครับ” “ จ้า ..ขี่รถดีๆนะหนุ่มน้อย” ฉันอดขำในพฤติกรรมตลกๆจริงใจ แล้วก็รอยยิ้มที่บริสุทธิ์นั้นไม่ได้ ก็ดีนี่ฉันจะได้มีเพื่อนคุยในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตฉันแล้ว ดีจังฉันจะไม่เหงาอีกแล้ว ………………………………………………………………………………………………………. “ ไม่ได้นะคีน เธอจะระบายสีแบบนี้ไม่ได้นะจ้ะ ค่อยๆลากพู่กันค่อยๆแบบนี้นะจ้ะ อืมหือดีแล้ว แต่ฉันว่าสีนี้อาจจะดูดีกว่านะ” “ ผมนึกว่าเรื่องง่ายๆ ทำไมยากจังเลยครับ”คีนวางพู่กันลงทำหน้าเบื่อหน่าย “ อย่าท้อสิจ้ะ ชีวิตคนเรายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ต้องเผชิญแหม…เรื่องแค่นี้มาลองใหม่เดี๋ยวก็ทำได้เก่ง คีนไม่เอาน่า” “ ก็ได้ครับ” ฉันนึกขำมองดูเขาน่ารักเหมือนเด็กๆ มันสร้างความกระชุ่มกระชวยในชีวิตให้พลิกฟื้น แต่ไม่ต้องห่วงนะคะเพราะยังไงฉันคงไม่รักเขาอย่างแน่นอน ฉันโตพอที่จะแยกแยะอะไรเป็นอะไร “ เอ่อ คุณแอสเทียร์ครับคุณได้ลองไปเที่ยวที่ยอร์คปาร์คบ้างยังครับ” “ ยังเลย ฉันมาอยู่นี่ก็เกือบครึ่งปียังไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนเลย คือ….สุขภาพฉันไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่” “ เหรอครับ …ไม่เป็นไรครับงั้นเราไปเที่ยวเรด-วอเตอร์ที่ไม่ไกลนักได้ไหมครับ ผมอยากพาคุณไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง” “ อืม……ก็ดีนะแล้วเธอไม่ไปรับแฟนเธอมาด้วยกันเหรอ” “ ผมยังไม่มีแฟนครับ” “ไม่น่าเชื่อนะ เด็กหนุ่มหน้าตาดีอย่างเธอยังไม่มีแฟน” “ จริงๆครับใครจะมาสนใจคนหน้าตาไม่หล่อแบบผม” “ งั้นเดี๋ยวหาให้สักคนนะจ้ะ” “ ฉันว่าตอนนี้เธอลองใช้พู่กันไปสักพักเดี๋ยวฉันจะไปเตรียมอาหารกลางวันก่อนดีไหม” “ ครับ คุณแอสเทียร์” ฉันไม่รู้วันเวลาเลยยามที่อยู่ใกล้คีน เขาทำให้ฉันรู้สึกว่าชีวิตมันไม่น่าเบื่อยังมีสิ่งเล็กน้อยที่อยู่ใกล้ตัวแล้วสร้างความสุขได้ตลอดเวลา จนทำให้ฉันรู้สึกว่าอยากย้อนวันเวลากลับคืนมาฉันไม่อยากให้วันเวลาเหล่านี้มันสร้างความเจ็บปวดต่อไป ฉันรู้ตัวดีเพราะยิ่งนานเข้าความรักต้องก่อตัวขึ้นฉันไม่อยากจะเจ็บปวดแต่ฉันก็ไม่อยากอยู่คนเดียว สวรรค์ฉันจะทำอย่างไรดี วันนี้เกือบประมาณสองทุ่ม ฉันหยิบเอาบรั่นดีที่คีนเอามาฝาก…แล้วก็กำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่แล้วฉันรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยเหลือเกินหรือว่า เวลาของฉันกำลังจะใกล้หมดแล้ว ฉันพยายามยันตัวขึ้นเพื่อจะโทรไปหาโรงพยาบาล แต่แล้วฉันก็ไม่มีแรงขึ้นมาเฉยๆสายตาพร่ามัวแล้วความรู้สึกสุดท้ายคือ…..หน้าของคีน! ฉันรู้สึกตัวอีกทีก็ที่โรงพยาบาล นางพยาบาลเดินเข้ามาเพื่อปรับระดับน้ำเกลือ ฉันก็ตอบไปอย่างรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างเพราะสติกำลังจะเลือนลาง ในที่สุดฉันก็หลับไปอีกครั้ง ฉันไม่รู้ว่าเวลาเท่าไหร่ที่ฉันตื่นขึ้น ด้วยสติที่กำลังจะกลับมาทำให้ฉันถามพยาบาลอย่างสับสนแต่ใจความที่ฉันได้รับ คือมีเด็กผู้ชายอายุประมาณ 20 กว่าๆนำฉันมาส่งที่โรงพยาบาลพร้อมกับฝากกระเป๋าเงินรวมทั้งเบอร์โทรของญาติ ซึ่งพ่อกับแม่จะมาในวันรุ่งขึ้น ฉันขอบคุณแล้วก็พยายามจะนึกถึงเด็กผู้ชายที่มาส่งคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคีน วันนี้ตอนสายๆผู้มีพระคุณของฉันก็มาพร้อมกับแอปเปิ้ลเต็มตระกร้าเยี่ยม เขามาพร้อมกับรอยยิ้ม ที่บริสุทธิ์ “ เอ่อ เป็นอย่างไรบ้างครับคุณแอสเทียร์ผมไม่รู้ว่าคนป่วยอย่างคุณจะทานแอ๊ปเปิ้ลได้หรือเปล่า แต่บ้านผม….เอ่อ….คุณชอบแอ๊ปเปิ้ลเขียวหรือแดงล่ะ” “ ขอบใจจ้ะแต่ฉันยังไม่หิว ว่าแต่เธอ……..” “ คือเมื่อคืนผมกำลังจะไปเอาหมวกที่ลืมไว้ที่บ้านคุณ แต่ไปถึงก็เห็นคุณนอนหมดสติอยู่ที่พื้น ผมไม่รู้จะทำอย่างไงก็เลยเรียกรถพยาบาลน่ะครับ” “ ขอบใจมากนะจ้ะ ฉัน……….”อยู่ๆน้ำตาที่อุ่นๆก็ไหลลงมาจากสองตามองหน้าเขาอย่างตื้นตันไม่เข้าใจในอารมณ์ของตัวเอง “ คุณเป็นอะไรไปครับ คุณแอสเทียร์ ร้องไห้ทำไมครับ” “ คีน เธอรู้อะไรไหมในชีวิตฉันไม่เคยมีใครดีกับฉันเท่าเธอมาก่อน” “ อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ ใครมาเจอก็ต้องทำแบบเดียวกับที่ผมทำ” “ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกคีน เพราะเธอยังไม่รู้อะไรมั้งทำให้เธอยังดีกับฉันได้อย่างนี้ คีนเธอควรจะไปจากชีวิตฉันได้แล้วนะ ขอบใจสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างแต่ว่ามันก็ควรจะจบได้แล้ว ก่อนที่อะไรจะเกินเลยไปมากกว่านี้” “ คุณแอสเทียร์ครับ ผมไม่รู้ว่าคุณเคยเจออะไรมาบ้าง แต่เป็นคุณเองไม่ใช่เหรอที่สอนผมไม่ให้ท้ออะไรกับชีวิต เข้มแข็งไว้สิครับถ้าไม่มีใครเป็นเพื่อนคุณผมจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง ผม…..เอ่อ ผมรักคุณครับ” “ คีน” ฉันกอดเขาอย่างแนบแน่นแหมเป็นเวลาไม่กี่วันแต่ก็ทำให้ฉันรู้สึกขนาดนี้ได้ กว่าที่สติจะกลับมาก็เกือบหลายนาที ฉันรีบผลักเขาให้ออกห่างจากตัวฉัน “ คีน ขอบใจสำหรับความหวังดีนี้ฉันคงรับได้แค่น้ำใจเท่านั้นนะ เธอรู้อะไรไหมฉันกลัว ฉันกลัว ที่จะบอกความจริงกับเธอ กลัวว่าเธอจะรู้แล้วจะเดินจากไปเหมือนกับที่คนอื่นๆทำกับฉัน ฉันไม่อยากสูญเสียอะไรไปอีกแล้ว ตอนนี้ในขณะที่เวลาระหว่างเรายังดำเนินไปไม่มากเธอควรไปจากที่ตรงนี้ซะ ไปหาคนที่ดีๆที่เขาเหมาะสมกับเธอ อย่าทรมานฉันอีกเลย” “ คุณแอสเทียร์ครับ ผม…” “ ฉันเป็นเอดส์ คีน ฉันเป็นเอดส์ได้ยินไหม ไป…..ไป๊” ฉันตวาดด้วยน้ำตา….ก้มหน้าร้องไห้กับหมอนสีขาวนุ่มแต่แล้วสัมผัสที่อบอุ่นที่ฉันไม่เคยได้รับมาตลอดครึ่งปีนี้ คีน…เขากอดฉันอย่างเบาๆ “ คุณแอสเทียร์ครับ ความรักของผมคุณอย่าดูถูกสิครับถึงผมจะเป็นเด็กเป็นวัยรุ่นที่คึกคะนองแต่ผมก็มีหัวใจที่รักบริสุทธิ์ครับ จากวันนี้ไม่ว่าจะนานแค่ไหนคุณจะอยู่กับผมแค่ไหน ผมไม่แคร์ ขอเพียงวันนี้ความรักที่เริ่มต้นในวั้นนี้ทำให้เราได้ใช้เวลาที่เหลืออย่างมีความสุขผมก็พอใจแล้ว คุณแอสเทียร์ ผมยืนยันครับผมรักคุณ” เหมือนเวลาในหัวใจจะหยุดเต้นเหมือน กับบางสิ่งบางอย่างในชีวิตที่ขาดหายไปนานนั้นมันกลับมา ฉันร้องไห้ และยังคงร้องไห้ต่อไปแต่คราวนี้คงเป็นความดีใจที่สุดในชีวิต ฉันเชยหน้าเขาขึ้นมามองใกล้ๆอีกครั้งก่อนบรรจงจูบเขาที่หน้าผากอย่างอ่อนโยน ก่อนจะกอดเขาให้แน่นแล้วหลับลงบนอ้อมกอดของเขาอีกครั้ง ฉันไม่กลัวว่าฉันจะไม่ตื่น ฉันไม่กลัวว่าจะมีชีวิตไปได้อีกสักกี่วันเพราะอย่างน้อยวันนี้ฉันเจอคนที่เข้ามาระบายสีเต็มหัวใจฉันแล้ว ………………………………………………………………………….. และแล้วหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์คุณแอสเทียร์หลับและจากไปอย่างสงบในอ้อมกอดผม ผมเห็นเธอกับรอยยิ้มอย่างงดงาม ผมขออวยพรให้วิญญาณของเธอไปสู่สุขคติ อย่าให้เจอเรื่องเลวร้ายใดๆเหมือนกับที่เจอในชาตินี้ แต่ยังไงผมก็ต้องขอบใจเธอที่ช่วยเซ็นต์โอนทรัพย์สินรวมทั้งบ้านริมทะเลให้ผมอย่างเต็มใจ ไม่เสียแรงเปล่าจริงๆที่ลงทุนขนาดนี้คุ้มกับการแสดงที่ทำไป ….ขอบคุณครับแอสเทียร์แล้วก็นี่ผ้าเพ็นท์ลายของคุณผมฝังไปให้แล้วนะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×