“อากิระ ตื่นๆ สายแล้วนะ เดี๋ยวโรงเรียนจาเข้าแล้วนะ อากิระ ตื่นสิๆ“ ยูริปลุกผม“โอยๆๆ ตื่นแล้วจ้าๆ โห แค่นี้ทำดุนะเนี่ย แล้วมาบ้านเค้ายัง ยูริ” ผมถาม “ไม่ต้องมาถามอะไรตอนนี้เลย ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวจะไปไม่ทันโรงเรียนกันทั้งคู่” ยูริดุ
ยูริ เค้าเป็นแฟนผมมา 3 ปีกว่าแล้ว เค้าจะมาปลุกผมอย่างนี้ทุกเช้าที่บ้านผม ผมก็ยังไม่เคยเปลี่ยนนิสัยสักทีตื่นสายตลอด ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองน่ะ อยากให้ยูริ มาปลุกทุกวันรึเปล่า แล้วเราก็ไปโรงเรียนพร้อมกันทุกเช้า โดยยูริเค้าจะมากินข้าวที่บ้านผมรอตอนผมอาบน้ำ พ่อแม่ผมเค้าก้อชอบยูริมากแหละ ไม่งั้นเค้าไม่ดูแลดีอย่างนี้หรอก
“เห็นมั้ย มาสายเลย อากิระ ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ ฉันมาปลุกทุกวันยังไม่เคยเปลี่ยน ถ้าไม่มีฉันทำไงล่ะเนี่ย” ยุริทำหน้าดุๆ “โหย ยังไงเราก็ไม่แยกกันอยู่แล้วจริงมั้ยล่ะ ยูริ น่านะ ทำไปโกดไปได้” ผมง้อ “อื้มๆ ก็ไม่แน่เหมือนกันนะ เดี๋ยวอีกปีเราก้อจะจบแล้วนี่หน่า เราอาจจะต้องแยกกันก็ได้” ยูริบอกผม
เมื่อยูริพูดอย่างนั้น ผมก็เริ่มคิดกว่า ถ้าเราต้องจากกันจะเป็นยังไงล่ะเนี่ย ผมเรียนก็ไม่ค่อยเก่ง แต่พอไปพอมากับยูริได้ เธอหวังจาสอบเข้ามหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งคณะดีด้วย ผมก็ยิ่งไม่แน่ใจตัวเองอยู่ว่าจาสอบที่เดียวกันกับยูริได้มั้ย
“ยูริ วันนี้ตอนเย็นรอเค้าด้วยนะ เดี๋ยวไปส่งบ้าน” ผมตะโกนบอกยูริ “อื้มๆ ได้ ไม่เห็นต้องบอกเลยนะ บอกกันมา 3 ปีกว่าแล้ว ทำเป็นประจำไปแล้ว”ยูริบอก ผมหน้าแดงเล็กน้อยก่อนไปเรียน “ออด
.” เสียงหมดเวลาคาบสุดท้ายของโรงเรียน “เย้ๆๆ ไปรอยูริๆ”ใจผมคิด ทั้งที่เพื่อนมันชวนไปเล่นบาส แต่ไม่เป็นไร “ยูริ รอเค้านานมั้ยเนี่ย มาสนามบาสตั้งแต่กี่โมง” ผมถามยูริ “อ่อ สักพักอ่า วันนี้เรียนพละคาบสุดท้ายพอดี ถึงไม่คาบสุดท้าย ยังไงเค้าก็มารออากิระอยู่แล้วแหล่ะน่า”ยูริบอกผม หลังจากนั้นผมก็ไปเล่นบาส สักพัก พอจะกลับบ้านยูริก็ชวนไปซื้อน้ำมาดื่มก่อนกลับ เพราะเธอเห็นผมเหงื่ออกมาก “อ่ะน้ำ แล้วกลับบ้านกัน”ยูริพุดพร้อมยื่นขวดน้ำมาให้ ยังไม่กลับไม่ได้เหรอ นั่งเล่นที่สนามหญ้าริมคลองก่อนไม่ได้เหรอ” ผมถาม “ได้สิ วันนี้ยูริไม่รีบ”ยูริบอก “ดีๆ งั้นไปเลย” ผมดึงมือยูริแล้ววิ่งออกจากประตูโรงเรียนไปด้วยกัน
กิจวัตรประจำวันของผมก็ไม่ต่างจากนี้สักเท่าไร จนวันหนึ่ง
“ผู้ผ่านการสอบคัดเลือกคณะ แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียว” “อากิระ ยินดีด้วยนะที่สอบติด ยินดีด้วย”ยูริบอกผม “อื้ม ขอบจัยนะยูริ แล้วยูริล่ะ” ผมถามเธอ “ไม่หรอกอากิระ ฉันสอบไม่ได้น่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ ยังไงเราก็ได้อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน” เธอก้มหน้าบอกผม “เหรอ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวยังไงเราก็กลับบ้านพร้อมกันเนอะ” ผมปลอบใจเธอ “อื้ม ไปกันเถอะ ไปหาอะไรกินกัน” เธอลากผมไป ยูริสอบติดคณะสถาปัตย์ ส่วนผมติดแพทย์ ผมยังไม่แน่ใจเลยว่า เราจะห่างกันไปมั้ย
หลายวันที่เธอรอผมหน้าคณะก่อนกลับบ้าน บางครั้งเธอรอผมจนมืด เพราะมีแล็ปค้างอยู่ แต่เธอก็ยังทนรอผม หลายครั้งที่เธอป่วยไม่มาเรียน เพราะเพลียจัด แต่ก็ยังมีผมเนี่ยแหละ คอยดูแลเธอ ก็ผมเป็นหมอนี่ “เป็นไงบ้างยูริ ดีขึ้นมั้ย” ผมถามอาการ “อื้ม ก็ดีขึ้นมากแล้วหล่ะ แต่เค้าสงสัยน่ะ ว่าทำไมเธอไม่เห็นป่วยเลย ทั้งๆที่ก็กลับบ้านพร้อมกัน” ยูริสงสัย “เอ้า แล้วถ้าเค้าป่วย ใครจะมาดุแลตัวเองล่ะ จิงมั้ย” ผมบอก “อื้ม ดีขึ้นมากแล้วล่ะ ไปเดินเล่นที่สวน หลังมหาวิทยาลัยกัน” ยูริรีบลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกไปเดินเล่นกับผม พอตกกลางคืน เราไปเดินเที่ยวกันที่ย่านท่องเที่ยวยามราตรี
วันหนึ่งเกิดฝนตกหนักที่มหาวิทยาลัย ผมกับยูริลืมเอาร่มมาทั้งคู่ ทั้งๆที่ฟังพยากรณ์อากาศก่อนออกจากบ้านกันแล้ว “อากิระ เราเอาไงกันดีล่ะ ออกจาตึกไม่ได้ เปียกแย่เลยนะ”ยูริกังวล “เอาเหอะนะยูริ เดี๋ยวเค้าจัดการเอง” ผมบอกเธอ แล้วผมก็เดินไปในตึก “ไปไหนน่ะอากิระ เค้ากลัวนะ ตึกนี้มีแต่อาจารย์ใหญ่เต็มไปหมดเลย” ยูริกลัว “งั้นถามเค้ามาแล้วกัน ไม่ต้องกลัว อาจารย์ใหญ่ไม่ทำร้ายลูศิษย์อยู่แล้ว แฟนของลูกศิษย์ก็คงด้วยมั้ง อิอิ” ผมบอกเธอ “ขอให้มันจริงนะ อากิระ” ยูริบอก สักพักผมกับยูริเดินมาถึงห้องพักอาจารย์ ผมเข้าไปในห้องอาจารย์แล้วถือวิสาสะเข้าไปหยิบร่มอาจารย์มาใช้ก่อน เย็นวันนั้นผมจึงกลับบ้านได้ แต่ตอนเช้าน่ะสิ ผมโดนอาจารย์เล่นแต่เช้าเลย เพราะแกรู้จากกล้องวงจรปิดของห้องพักครู เลยโดนเข้าชุดใหญ่ ตอนเย็นอาจารย์แกสั่งให้ผมนั่นอยู่แล็บจนดึก คราวนี้ผมไม่ได้ซวยคนเดียว ยูริก็มาซวยไปด้วย ที่ต้องมานั่งรอผมที่ตึกหมอ จนดึก และเธอก็กลัวผีมาก
วันไหนที่เรากลับดึกกัน ผมจะพายูริไปที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งซึ่งมันเงียบมาก ในตอนกลางคืน ผมกับยูริจะปีนเข้าไป และนอนดูดาวกันที่สนามหญ้าใหญ่ จนบ้างครั้งยูริเผลอหลับไป ผมจึงต้องอุ้มเธอพาไปตรงที่ปีนกันเข้ามาแล้วค่อยปลุกเธอให้ตื่น ก่อนที่จะปีนกลับกัน พอขึ้นรถไฟกลับบ้าน เธอก็ยังหลับอีก ซบผมทุกวัน วันไหนที่กลับดึกๆ ผมเป็นคนอุ้มเธอไปส่งที่ห้องเธอทุกครั้ง เพราะว่าพ่อแม่ยูริก็หลับกันหมดแล้วมีแต่คนรอเปิดประตูให้ยูริที่เป็นคนสวนเท่านั้น ก่อนที่ยูริจะนอน ผมจะปลุกเธอแล้วไล่ให้อาบน้ำ ก่อนเธอจะไปอาบน้ำ ผมจะบอกเธอฝันดีนะยูริ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปปลุกเค้าด้วยนะ แล้วผมก็จะขอตัวกลับบ้าน เป็นอย่างนี้ทุกวันตั้งแต่ขึ้นมหาวิทยาลัย
ใกล้วาเลนไทน์แล้ว ปีนี้ผมเป็นแฟนกับเธอมา 5 ปีแล้ว ผมจัดเตรียมดอกไม้ และ ช็อคโกแลต ที่ผมไปเรียนทำเอง เพื่อปีนี้โดยเฉพาะ เพราะปีนี้ผมมีเซอร์ไพรส์เธอ เป็นของขวัญชิ้นพิเศษสำหรับคนพิเศษที่สุด “ติ้งน่องๆ” ผมเคาะประตู พร้อมทำเสียง เรียกยูริ ขึ้นจากความฝัน “ อากิระ ทำไมวันนี้ตื่นเช้าได้ล่ะ แล้วดูแต่งตัวเข้า จารีบไปไหนแต่เช้า แถมมาปลุกเค้าอีก วันนี้วันหยุดนะ” ยูริบอกผม “วันนี้วันอะไรดูปฏิทินสิ แล้วก็รีบไปอาบน้ำซะ เค้าจารออยู่ในห้อง จาเล่นเกมส์รอ” ผมบอก “ 14 กุมภา อากิระ เธอน่ารักมากๆ อื้ม จารีบไปอายน้ำเดี๋ยวนี้ล่ะ รอในนี้นะ อย่าแอบตามเข้าไปในห้องน้ำนะ” ยูริรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปอาบน้ำ โดยให้ผมเอามือปิดตาไว้ ไม่ให้แอบมองตอนเธอเปลี่ยนชุด “อื้ม อากิระ เสร็จแล้ว”ยูริบอกผม “อื้ม งั้นไปกัน”ผมบอกเธอ “ไปไหนเหรอ”ยูริสงสัย “ก็ไป
ที่ที่เราเจอกันครั้งแรกไงยูริ” ผมบอกเธอ “งั้นก็ไปกันสิ”ยูริบอกแล้วลากผมออกไป
“ยูริ แวะแปปสิ เดี๋ยวมานะ” ผมบอกเธอแล้วผมก็วิ่งเข้าไปในสวนสาธาณะ สักพักนึงผมเดินออกมาพร้อมด้วยถือดอกไม้ช่อใหญ่ที่ผมลงทุนไปหลาย หมื่นเยน เพื่องานนี้เพื่อเธอ เพื่อวันครบรอบของเรา 5 ปี เธอรับดอกไม้ผม แล้วหน้าแดงมากๆ ขนาดที่ผมไม่เคยเห็นแก้มแดงๆขนาดนี้ของเธอมาก่อน หลังจากนั้นเราก็ไปนั่งกินอะไรกันที่ร้านที่เราเจอกันครั้งแรก สัก เที่ยงคืนกว่าๆ เธอกับผมมากันที่สวนสาธาณะอีกครั้ง เรานั่งกันใต้แสงไฟของน้ำพุกลางสวนสาธารณะ เธอทำเซอร์ไพรส์ผมอย่างแรง เธอกอดผม หอมแก้มผม และดันผมไปติดต้นไม้ แบบว่าหลังชนต้นไม้เลย แล้วเธอก็ หยิบช็อคโกแลตกล่องใหญ่ออกมา เหมือนว่าช็อคโกแลตออกมาจากต้นไม้ได้ แล้วเะอก็ยื่นให้ผม
หลังจากนั้นเราก็แยกกันกลับบ้าน โดยที่ผมไปส่งเธอที่บ้าน แล้วผมก้อ ซึ่งบ้านเธอกับบ้านผม ห่างกันเพียงไม่กี่ซอย เลยมาปลุกกันได้ทุกวัน
ผมกลับมาถึงห้อง ผมแกะช็อคโกแลตของเธอออกมา ผมเจอสิ่งนึงที่ทำให้ผมอึ้งไปพักใหญ่ สิ่งที่ผมเจอคือ กล่องสักหลาดสีแดงเล็กๆ ผมเปิดดู เจอแหวนที่เธอใส่ประจำซึ่งเป็นแหวนที่เธอรักมากที่สุด เธอเขียนไว้ว่า “ยูริให้อากิระนะ เก็บมันไว้ให้ดี ตราบใดที่เรายังรักกันอยู่แหวนนี้จะอยู่ในนิ้วนางข้างซ้ายของอากิระนะ” ไม่เท่านั้น ที่ผมอึ้งหนักคือ ในช่อกุหลาบของผม ก็มีสิ่งๆเดียวกันกับสิ่งที่เธอให้ผม คือแหวนที่ผมรักมากที่สุดและใส่ประจำ ให้เธอไว้เช่นเดียวกัน
รุ่งเช้า ผมตื่นขึ้น ก็เจอยูริอีกตามเคย เธอบอกว่า เรามีอะไรต้องคุยกันหน่อย ผมตื่นขึ้นมาคุยกับเธอ เธอบอกว่า ให้ผมสวมแหวนของผมให้เธอเอง แล้วก้อแหวนของเธอ เธอจะเป็นคนสวมให้ ผมก็เลยสวมแหวนนั้นให้เธอไป และเธอก็สวมแหวนของเธอให้ผม เช้านั้น เป็นเช้าที่ผมจำไม่ลืมเลย จนถึงวันนี้
เราไปเรียนกันที่คณะตามเคย และยูริก็ต้องมารอผมที่คณะตามเคย เหมือนเดิมอย่างนี้ทุกปี จนเรา 2 คนเรียนจบมหาวิทยาลัย ซึ่งเธอจบก่อนผม 2 ปี เพราะผมเรียนมากกว่าเธอตั้ง 2 ปี ระหว่าง 2 ปีนั้นเธอก็ยังมารอผมที่คณะทุกวัน จนผมจบ
ผมคิดจะเปิดคลินิคเป็นของตัวเองขึ้น ผมก็ได้เธอเนี่ยแหละเป็นคนเขียนแบบให้ผม จนในที่สุดคลินิคผมก็เสร็จ และผมก็มาเปิดทำคลินิคตอนเย็น หลังจากเลิกงานที่โรงพยาบาล ส่วนยูริ เธอไปเรียนเภสัช เอาปริญญาอีกใบ เพราะผมหวังว่าให้เธอ จบมาแล้วมาช่วยงานกันที่คลินิค จะได้อยู่ด้วยกันทุกวัน จนในที่สุดเธอก็จบเภสัชมาช่วยงานผมที่คลินิคได้
เราอยู่ด้วยกันมานานมาก รู้จักกันมาถึงตอนนี้ก็ 15ปี แล้ววันหนึ่ง พ่อแม่ของผมและเธอคุยกันเรื่องที่จะให้ผมกับเธอแต่งงานกัน เพราะพ่อแม่ทนการรบเร้าของเรา 2 คนไม่ไหว จึงไปคุยกันให้รู้เรื่อง จนในที่สุด ก็ตกลงกัน ที่จะให้เรา 2 คนได้แต่งงานกัน ผมไปเตรียมหาแหวนเพชร เธอไปเตรียมชุดแต่งงาน ในที่สุด วันนั้นก็มาถึง วันที่เธอไม่ต้องเดินมาปลุกผมที่บ้านอีกต่อไป เพราะเธอจะได้มาอยู่ที่บ้านของผม วันที่ผมกับเธอจะได้อยู่ด้วยกันในฐานะสูงสุดของการมีความรักกันคือการแต่งงานและอยู่ร่วมกัน
รุ่งขึ้น เธอก็ยังมาปลุกผมที่บ้านอีกเหมือนเคย ทั้งที่วันนั้นเป็นวันแต่งงานของเรา เธอบอกว่าให้ไปเตรียมตัวได้แล้ว เดี่ยวจะไม่ทันเข้าโบสถ์ ผมรีบลุกไปตามคำสั่งเธอ ว่าที่ภรรยาของผม เธอก็กลับบ้านไปเพื่อแต่งตัว แล้วเราก็ไปเจอกันที่โบสถ์เดินเข้าไปถึงแท่นทำพิธีแล้ว ตอนนั้นผมได้ทำเซอร์ไพรส์เธอ โดยไปกระซิบบอกหลงพ่อให้ไปทำพิธีกันนอกโบสถ์ หลวงพ่อตกลง และหลวงพ่อก็รีบวิ่งลงจากแท่นทำพิธี ส่วนผม ก็จูงมือเธอและพาเธอวิ่งไป พาเธอขึ้นรถ และพาเธอไปที่ที่หนึ่ง ผมปิดตาเธอ และค่อยๆพาเธอลงจากรถ และผมก็เปิดตาเธอ ภาพที่เธอเห็นนั้น คือน้ำพุกลางสวนสาธารณะที่เรามานั่งกันบ่อยๆ เธอน้ำตาคลอ เธอกอดผมแน่นมากๆ ซึ่งเธอไม่เคยกอดผมแน่นขนาดนี้ ผมบอกว่า “ยูริวันนี้เป็นวันของเรานะ ดูนั่นสิหลวงพ่อ และแขก รอเราอยู่แล้ว” เราเข้าทำพิธีกัน ผมสวมแหวนให้เธอโดยเอาแหวนของผมที่ให้เธอไป ไปใส่เพชรน้ำงามเม็ดนึงให้เธอ ส่วนเธอก็ทำเช่นเดียวกับผม วันนั้น เรามีความสุขกันมาก จนถึงวันนี้ เราก็ยังมีกันอยู่
ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น