ศพสุดท้ายของโค้งร้อยศพ - ศพสุดท้ายของโค้งร้อยศพ นิยาย ศพสุดท้ายของโค้งร้อยศพ : Dek-D.com - Writer

    ศพสุดท้ายของโค้งร้อยศพ

    เมื่อพ่อตกเป็นศพที่98 และพี่ชายตกป็นศพที่99ของโค้งมรณะนี้ แล้วศพสุดท้ายคือ...

    ผู้เข้าชมรวม

    382

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    382

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 เม.ย. 47 / 21:22 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ช่วงเวลาหนึ่งทุ่มกว่าๆรถสปอร์ตสีบลอนด์เงินแล่นมาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ที่มีประตูรั้วเหล็กดัดลายสวยงามและประณีต ข้างๆประตูรั้วเป็นกำแพงปูนสีส้มอ่อนๆสูงประมาณสองเมตรและมีป้ายที่ทำด้วยกระเบื้องหินอ่อนสีน้ำตาลติดไว้ว่า [i]‘บ้านหิรัญกิตติกำพล’[/i] ชายหนุ่มอายุยี่สิบปี ลงจากรถมองเข้าไปในบ้านที่มืดมิดแล้วหันกลับมาถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความหดหู่ เขาเดินไปเปิดประตูไม้ที่สูงประมาณสองเมตรบานใหญ่ข้างในมืดมิดมีเพียงแสงสลัวๆที่มาจากตู้ปลา เขาเดินขึ้นบันไดแล้วตรงไปที่ห้องนอนของเขา เขาหยิบกุญแจออกมาไขประตู แล้วเอื้อมมือไปเปิดไฟ เขาล้มตัวนอนบนตียงนอนของเขา แล้วโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบออกเพื่อดูเบอร์ เป็นเบอร์โทรของแม่โทรมา เขารับเขาได้ยินเสียงแม่ร้องไห้ “มีอะไรครับแม่” “บอย...พ่อ...พ่อรถคว่ำ...เสียชีวิต”แม่บอกด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น บอยนิ่งไปสักพัก “แล้ว...ตอนนี้แม่อยู่ไหน” “ที่...บ้าน...พ่อ”แม่ตอบตะกุกตะกัก “เดี๋ยว...ผมจะรีบไปนะ...แม่รอผมนะ” แล้วบอยก็รีบขับรถออกไป เมื่อถึงบ้านพ่อ บอยรีบตรงไปหาแม่ในบ้าน ไม่มีใครอยู่ในบ้าน มีเพียงแต่แม่บ้านที่กำลังจะปิด บ้าน “ป้าครับ--แม่ล่ะครับ” “ไปโรงพยาบาลแล้วค่ะ เลยโค้ง...”แม่บ้านยังพูดไม่จบ บอยก็รีบออกรถไปทันที ระหว่างทางไปโรงพยาบาลบอยโทรหาเบียร์ พี่ชายของเขา “ฮัลโหล พี่เบียร์อยู่ไหนแล้วเนี้ย” “เอ่อ...ขอโทษครับผมไม่ใช่เจ้าของโทรศัพท์ครับ” “แล้วพี่เบียร์ล่ะครับ” “เจ้าของโทรศัพท์เสียชีวิตแล้วครับ” โทรศัพท์ของบอยหลุดจากมือที่อ่อนปวกปียกของเขา แล้วเขาก็อึ้งไปพักใหญ่ เมื่อเขาขับรถไปถึงที่เกิดเหตุ เจอรถสองคันที่สภาพพังยับเยินเป็นเศษเหล็ก เขาเห็นกองเลือดกองใหญ่สองกองใกล้ๆกัน มูลนิธิปอเต็กตึ้ง สองคนกำลังหามศพที่คลุมไว้ด้วยผ้าสีขาว ใส่ท้ายรถ “ขอโทษนะครับ”ตำรวจเดินเข้ามาหา”คุณเป็นญาติผู้เสียชีวิตหรือเปล่าครับ” “ผะ--ผม--ไม่แน่ใจ ว่าใช่พี่ผมหรือเปล่า” บอยตอบตะกุกตะกัก ตำรวจยื่นกระเป๋าสตางค์หนังสีน้ำตาลให้บอยดู [i]กระเป๋าของพี่นี่[/i]เขาคิดแล้วเขาก็เปิดกระเป๋าเพื่อดูบัตรประชาชน[i]นาย ชนานนท์ หิรัญกิตติกำพล ใช่พี่จริงๆด้วย[/i] “ชะ--ใช่พี่ของผมครับ” บอยตอบน้ำตาเริ่มไหล ร่างของเขาหรุดฮวบลงไปกองกับพื้น เขาร้องไห้ กำโทรศัพท์ไว้แน่น ท่ามกลางไทยมุง คนๆหนึ่งพูดขึ้น ”ศพที่เก้าสิบเก้าแล้ว อีกศพก็จะครบร้อยแล้วเรื่องอย่างนี้ก็จะไม่มีอีกแล้วล่ะ”บอยหยุดร้องไห้แล้วหันมามองผู้คนที่มองเขาอยู่ เมื่อบอยเรียกสติกลับคืนมาได้เขารีบขับรถตาม รถปอเต็กตึ้ง ไปทันที รถปอเต็กตึ้งไปหยุดอยู่ที่โรงพยาบาล บอยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแม่ “แม่อยู่ตรงไหน ผมอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วนะ” “หน้าห้องจ่ายยาลูก” แม่ตอบกลับเสียงของแม่แม้จะอยู่ร้องไห้แล้วแต่น้ำเสียงของแม่ก็ยังเศร้าโศกอยู่ [i]ถ้าแม่รู้ว่าพี่เบียร์ตายแล้วแม่จะเป็นยังไง[/i] บอยคิดถึงจิตใจของแม่ บอยเดินเข้าไปหาแม่ที่นั่งยู่บนโซฟากับคุณป้าของบอย บอยคุกเข่าข้างๆแม่ “แม่ครับ--พี่เบียร์...” “แม่รู้แล้ว เบียร์เป็นศพที่เก้าสิบเก้า” บอยมองดูที่ใบหน้าแม่ ที่พยายามฝืนไม่ให้ร้องไห้ออกมา “ผมไปส่งแม่ให้เอาไหม” บอยถามแม่ “แม่จะอยู่ที่นี่อีกสักพัก” บอยขับรถกลับบ้าน ทางกลับบ้านต้องผ่านโค้งที่พ่อกับพี่เบียร์เสียชีวิต ขณะขับรถบอยเหม่อลอยตลอดเวลาเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องศพที่เก้าสิบเก้า[i]ศพที่เก้าสิบเก้าคืออะไร?[/i]บอยครุ่นคิดจนลืมว่าตัวเองขับรถอยู่ เมื่อขับถึงโค้งนั้น บอยไม่ได้ขับไปตามทางโค้ง เมื่อบอยรู้ว่าเขาไม่ได้ขับรถตรงตามทางจึงเบรกรถอย่างกะทันหัน แต่ไม่ทันเสียแล้ว รถของบอยชนกันต้นไม่ใหญ่เข้าอย่างแรง รถคันหรูของเขาจึงพันยับเยินไม่มีชิ้นดี ร่างของเขาติดอยู่ในซากรถ กระจกทุกบานแตกละเอียด ร่างของบอยเต็มไปด้วยเลือด ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้น ต่างมุงดูกัน เมื่อตำรวจ และมูลนิธิปอเต็กตึ้งมาถึง พวกเขาก็ช่วยกันงัดร่างที่ไร้วิญญาณของบอยออกมาจากซากรถคันนั้น นำมาวางไว้บนผ้าขาวพวกเขาห่อหุ้มร่างของบอย แล้วหามร่างของบอยไปไว้ในรถ เมื่อหนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งปีผ่านพ้นไป โค้งตรงนั้นก็ไม่มีร่องรอยการเกิด อุบัติเหตุอีกเลย มีเพียงร่องรอยการเกิดอุบัติเหตุเมื่อครั้งก่อนๆและเรื่องเล่าของชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถบนั้น

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×