chapter 1 : อดีตและปัจจุบัน
ความมืดมิดที่พร้อมจะกลืนกินผู้คนที่แสนจะอ่อนล้าในช่วงจังหวะชีวิตยามราตรี
จะมีก็เพียงแสงริบหรี่ประปรายตามตึกราบ้านช่องที่พอจะเป็นสีสันของเมืองอันสงบนี้
ตึกที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชื่อดังจำนวนมากคอยให้บริการผู้คนหลากหลายหน้าตา
ยามค่ำคืนตึกเหล่านี้เปรียบเสมือนสถานที่เยียวยาของเหล่าบรรดาผู้หิวกระหายความฟุ้งเฟ้อของวัตถุ
\"อันทรู\" เป็นชื่อที่เรียกกันอย่างแพร่หลายทุกคนรู้เพราะมันเป็นสถานที่ที่รวมความไม่จริง
แน่นอนทุกคนย่อมรู้จักดีเพราะมันเป็นที่อาศัยของพวกเขาด้วย
\"ฉันทานข้าวมาแล้ว\" หญิงสาวกล่าวกับแฟนหนุ่ม โดยปกติของอันทรูซิทตี้แล้ว
ความหมายอาจจะไม่เป็นเฉกเช่นนั้น เมืองที่ดำรงชีพด้วยการโกหกจึงเกิดความ
แหลกเหลวทางสังคมหากแต่ก่อนสภาพสังคมไม่น่าเวทนาถึงเพียงนี้
บางคนกล่าวว่าเมืองนี้อาจจะเจริญถึงขีดสุดแล้ว (บางสิ่งเมื่อถึงขีดสุดแล้วจะมีจุดหนึงที่จะ
ย่ำแย่ไม่เหลือชิ้นดี) เมื่อ 50 ปีที่แล้ว อันทรูเจริญถึงขีดสุดของอารยธรรม ด้วยทั้งเทคโนโลยี
และวัตถุสิ่งของอำนวยความสะดวก แต่ทว่าความตกต่ำของสภาพจิตใจประชาชนก็ถึงขีดสุดเช่นกัน
เกิดการขัดแย้งทางการเมืองระดับสูงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจับได้บ้างไม่ได้บาง (ที่จับไม่ได้เพราะขาด
หลักฐานบางคนเป็นกลุ่มผู้ทรงอิฐิพลทางการเมืองการ) ความเป็นจริงถูกปกปิดด้วยตัวเลขบัญชีใน
ธนาคารถึงแม้ว่าจะพูดความจริงออกไปก็ไม่ค่อยจะมีคนใส่ใจนักและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นความจริง
สภาพสังคมรูปแบบใหม่ได้ก่อร่างสร้างตัวอย่างรวดเร็ว บางคนถึงกับต้องย้ายถิ่นฐานออกจากเมือง
นี้เนื่องจากทนกับสภาพแวดล้อมรอบการมิได้ กาลเวลาหมุนผ่านสภาพชีวิตกับสังคมกลมกลืนกันอย่าง
น่าอัศจรรย์เพียงแต่ไม่ใช่ทางบวกเท่านั้น ห้างสรรพสินค้าได้เพิ่มขึ้นตามกระแสความต้องการอย่างรวดเร็ว
คนรุ่นเก่าได้กล่าวไว้ว่าเมื่อก่อนอันทรูเป็นดินแดงแห่งความฝันตามชื่อของมัน ดรีมทาวน์ เป็นเมืองที่รวม
ความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตรและผู้คนต่างมีความหวัง ความฝัน เทียบกับเดี๋ยวนี้แล้ว โรงงานเอย
ห้างเอย ไหนยังไม่รวมตึกวิจัยอาวุธกายภาพและชีวภาพของรัฐอีกที่คอยจ้องแต่จะชิงดินแดน ความ
กระหายอำนาจที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ปลงซะเถอะ \"ความจริงนะอยู่ที่ไหนนะ\"
.....................................................................
........................................................
...........................................
นั่นสิ ? \"ความจริงนะอยู่ที่ไหนนะ\" ประโยคนี้เป็นประโยคที่ฮิตมากในปี 90 ถึงแม้ว่าผมจะเรียนประวัติศาสตร์
หลักสูตรใหม่ตามคำสั่งของกระทรวงที่ผ่านการสั่งจากรัฐมาอีกที ปู่ผมก็บอกบ่อยๆเกี่ยวกับคำนี้ ปู่บอกว่า
เมืองนี้ผู้คุมอำนาจคือพวกระดับสูง มันจะสั่งอะไรก็ได้ ขนาดลบประวัติศาสตร์ยังได้เลยนี่ก็คงเป็นส่วนหนึ่ง
มั้งที่มันอยากให้ลืมและให้เด็กรุ่นหลังไม่มีโอกาศรู้ ฮึ ถ้าปู่ยังหนุ่มกว่านี้ซัก 30 ปีนะ....ปู่จะทำอะไรผมไม่รู้
แต่คงทำตามที่กำลังจะเล่าให้ผมฟังกระมัง \"ความจริงนะอยู่ที่ไหนนะ\" คำนี้ปู่ผมบอกว่าเป็นการกล่าวโดย
บุคคลคนหนึ่งไม่มีใครทราบชื่อและนามสกุลของเขา แต่เรียกขานเขาในนาม เอช ข่าวปี 90 ตามหน้าหนึ่ง
ลงกันอย่างครึกโครม การประท้วงเพื่อการสร้างโครงสร้างทางสังคมในแบบที่ควรจะเป็นของชายคนหนึ่งการ
ประท้วงเกิดขึ้นที่ใจกลางแกรนดรีม หลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของการบริหารก็ออกมาเรียกร้องให้
มีการเปลี่ยนแปลง เหตุการณ์อันสลดเริ่มขึ้นเมื่อกองกำลังรักษาชาติเข้ามาเพื่อที่จะหยุดยั้งเหตุการณ์ครั้งนี้
และเพื่อที่จะไม่ให้มีใครประท้วงแบบนี้อีกจึงได้สร้างโศกนาญกรรมโดยการใช้อาวุธชีวิภาพจู่โจมผู้ชุมนุม
เกิดเหตุชุลมุนในกลุ่มผู้ประท้วง ผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่ถูกจับหมดรวมทั้ง เอช ด้วย หลังที่เขาโดนจับขณะนำ
ตัวส่งกรมตำรวจแห่งชาติ เอช กล่าวประโยคนี้ขึ้นมา
\"ความจริงนะอยู่ที่ไหนนะ\"
จากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วกล่าวต่อว่า
\"หาไม่เจอเลย\"
\"ก่อนที่จะอำลาโลกนี้ไป ใช่ไหมปู่\" ผมเดาว่าปู่คงจะทำอย่างนั้นมั้ง แต่นี่มัน จะเจ็ดโมงครึ่งแล้ว !! ผมต้องรีบ
ไปแล้วละ \"ปู่ แล้วเจอกันนะครับ ผมต้องไปแล้ว\" ผมวิ่งพร้อมกล่าวทั้งที่ยังไม่ได้รับคำตอบจากปู่ \"ก่อนที่จะ
อำลาโลกนี้ไปเหรอ ข้าไม่ได้พูดแบบนั้นซักหน่อย เฮ้อ หรือพูดไป หมู่นี้ชักหลงๆลืมไปแล้วซิ ก็แก่แล้วนี่ ฮึฮึฮึ\"
chapter 2 : ความเป็นจริงที่หลงเหลืออยู่
\"ดรีมเมอร์ !\"
\".............\"
\"ดรีมเมอร์ !!\"
\"....................\"
\"นายดรีมเมอร์  แกรซเทล !!\"
\"ค ครับ...\"
\"ไหนลองเล่าที่ครูพูดตะกี๊ซิ\"
\"อ เอ่อ...........คือ......\"
\"ม่..ม่..ไม่ทราบครับ....\"
\"ไม่ทราบ หรือ นายไม่ได้ฟัง\"
\"เอาล่ะๆ งั้นให้นายไปทำรายงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจกับชีวิตมนุษย์ ละกัน\"
\"อย่างต่ำ 20 หน้ากระดาษ เข้าใจไหม\"
\"ครับ...\"
ผมชื่อ ดรีมเมอร์.... ดรีมเมอร์ แกรซเทล บ้านผมอยู่แถว ถนน นอสหวาด ผมกำลังรู้สึก เบื่อ
เบื่อความเป็นจริงที่ไม่เป็นจริง หลากหลายคนในแถบนี้ เมืองนี้ ประเทศนี้ หรืออื่นๆอีกผมไม่รู้
พยายามใส่หน้ากากเข้าหากัน เพื่อนผม ครูผม คุณตำรวจ หลากหลายคน ทำให้ผมเบื่อการ
หลอกลวงหน้าตาย จะมีไหม คนที่ พูดจากใจจริง มีไหม คงมีแหละเพียงแต่ ผม....หาไม่เจอเท่านั้น
\"เฮ้ย!! ไอ้ดิมไปกินข้าวกัน\"
\"โอเคๆ\"
ท้องผมไม่เคยอยากทานอาหารตามเวลาซักทีมันชอบหิวก่อนหรือไม่ก็หลังทานเสร็จ แต่ก็ยังดีที่มัน
ไม่ได้โกหกผมถ้าหิวมันก็จะแสดงออกมา ถ้าพูดถึงอาหารวันนี้ผมจะทานอะไรดี แฮมเบอร์เกอร์ เอ่
ไม่เลวแฮะ
\"ไอ้เฟสแกจะกินอะไร\" ผมกล่าวถามเป็นประโยคคำถาม \"สปาเก็ตตี้\" เฟสตอบ \"โกหกหรือเปล่า\" ผมถาม
\"ก็น่าจะรู้นี่\" ก็น่าจะรู้นี่ ใช่ผมก็น่าจะรู้นี่ โกหกชัวร์ไม่รู้แม่งเป็นห่าไรชอบตอบไม่ตรงกับใจมันแต่มันก็คง
ชินแล้วผมคิดว่าค่านิยมของคนในเมื่องนี้หรือที่ใดๆก็คงรู้สึกว่าโกหกอย่างแยบยลเป็นความสนุกอีกแบบมั้ง
ผมก็ชินแล้วอีกอย่างมันโกหกแต่มันก็ไม่ได้สร้างความเดือนร้อนกับใครต่างจากหลายๆคน ผมยิ้มให้เฟส
แล้วตอบกลับไปว่า \"รู้สิ\" ถึงตอบไม่รู้มันก็รู้ว่าผมรู้ อีกอย่างผมก็ไม่ค่อยชอบการโกหกนัก
ทุกคนไม่มีใครไม่เคยโกหกหรอก แต่ต้องเลือกสถานที่และเวลาที่เหมาะสม....
\"มีบุคคลท่านหนึ่ง กล่าวไว้ว่า มนุษย์เป็นสัตว์โลกที่ฉลาดหลักแหลมรู้จักการเอาตัวรอดรู้จักการอยู่รวมกันเป็น
กลุ่มจนสามารถสร้างสังคมในการอยู่ร่วมกัน.....\"
\"ดรีมเมอร์...\"
\"เหม่ออีกแล้ว...เป็นอะไรฮึ\"
\"เปล่า....ไม่เป็นอะไรครับ\"
\"แล้วนี่หมดเวลารึยังละ\"
\"หมดแล้วครับ/ค่ะ\" เสียงที่ถูกเปล่งกังวาลจากภายในห้องโดยพร้อมเพียง
\"งั้นเหรอ งั้นก็เลิกได้\"
ยังไม่ทันพูดจบ บางคนได้วิ่งออกไปนอกห้องเสียแล้ว บางคนชนไหลอาจารย์ บ้างก็วิ่งตัดหน้า
หมดเวลา ? ถ้าตามตารางที่บอกไว้เหลือตั้ง สิบหน้านาที แต่มันก็ดีกว่านั่งฟังอาจารย์อ่านตำราให้ฟัง
\"ฮึๆๆ\" ดิมหัวเราะพลางขำในใจ
\"ขำอะไร\" เฟสพูดขัด
\"ไม่รู้\"
\"ฮ่าๆๆ ไอ้บ้า กลับได้แล้ว\"
\"ได้ๆงั้นแกรอหน้า ประตูโรงเรียนนะเว้ย ! เดี๋ยวไปเอาของที่ ล็อคเกอร์ก่อน แล้วเจอกัน\"
\"รีบๆละ\" เฟสกล่าวตอบอย่างฉับพลัน
ดิมยิ้มพร้อมพยักหน้าเป็นคำตอบ
ทั้งสองแยกกันหน้าห้อง หลากหลายชีวิตเดินขวักไขว่ไปตามวิถีของตนดวงอาทิตย์เริ่ม
ขยับเขยื้อนไปตามทิศตะวันตกเมฆสีขาวขุ่นเคลื่อนตัวบดบังแสงอาทิตย์พื้นดินกลับเข้า
สู่ความสงบอีกครั้ง ดรีมเมอร์ขยับฝีก้าวสู่ชั้นล็อคเกอร์พร้อมบรรจงเปิดอย่างช้าๆ ดิมสอด
ส่องสายตาเพื่อหาของที่ลืมไว้ เมื่อเจอแล้วจึงนำใส่กระเป๋าแต่สายตาดันทะลึ่งไปเจอจดหมาย
ฉบับนึงเข้า จดหมายสีขาวไม่ติดแสตมป์อยู่ในตู้ของดิม และแน่นอนเขาไม่รีรอที่จะคว้ามาอ่าน
\"แต่รีบไปหา ห่า..เฟสก่อนดีกว่า\" ดิมกล่าวงึมงำกับตัวเอง
ดิมได้พาตัวเองมาหน้าประตูโรงเรียนด้วยการเดินเอื่อยๆ ทว่าเฟสไม่มีทีท่าว่าจะอยู่บริเวณนี้
\"เชี่ย เฟสไปไหนวะ\" ดิมสถบด้วยเสียงอันเบา
\"สงสัยให้รอนานไปมั้ง เฮ้อ....งั้นกลับคนเดียวก็ได้\"
ดิมถูกห้างสรรพสินค้าดูดหลังจากพยายามที่จะกลับบ้านโดยไม่ข้องแวะแต่ก็เข้ามาจนได้
เวลาที่ถูกฆ่าไปอย่างรวดเร็วระหว่างที่เดินดิมคิดได้ว่ามีจดหมายฉบับนึงที่ควรจะเปิดอ่าน
เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วจึงหยิบขึ้นดูระหว่างเปิดซองจดหมายสีขาวสะอาดจดหมายได้ถูกทำให้เป็นสองชิ้น
ข้างในจดหมายมีเพียงกระดาษสีเทาแผ่นเล็กๆถูกพับครึ่งอยู่ ดิมใช้นิ้วคลี่กระดาษแผ่นเล็กออก
ข้อความในกระดาษสีเทาแผ่นเล็กเขียนด้วยดินสออย่างลวกๆโดยมีใจความสั้นๆง่ายๆว่า
\"ความจริงน่ะอยู่ที่นี่\"
\"h\"
\"อะไรว่ะ !?\"
ดิมหยุดเดินพลางคิดในใจเป็นเวลาชั่วครู่พร้อมกับมองดูผู้คนรอบๆตัวจากนั้นจึงพูดกับตัวเองว่า
\"นี่ล่ะความจริง !!\"
ไม่ว่าคนเขียนข้อความนี้จะเป็นใครแต่ตอนนี้
ผมคิดว่าผมเข้าใจความหมายในกระดาษแล้ว
สิ่งมีชีวิตภายใต้ดวงอาทิตย์หลากหลายหน้าตาก้าวฝีเท้าตามจังหวะเพื่อไปสู่จุดหมายที่หลากหลาย
โลกยังคงที่จะหมุนเหมือนเดิม รถยังคงวิ่งตามเดิม เมฆยังคงเคลื่อนตัวเหมือนเดิม
ทว่า.. ความจริงไม่เป็นเหมือนเดิมแล้ว..
chapter 3 : ภาวนา
วันนี้วัตถุพ่นไอเสียมาชุมนุมมากกว่าปรกติทำให้ทั่วท้องถนนแลเห็นแต่กลุ่มควันเล่นสีผสมกันมันอารมณ์
ถนนนี้ได้รับการขนาดนามว่าเป็นถนนที่มีมลพิษสูงเป็นอันดับที่ 3 ในเมืองช่างเป็นสิ่งที่มนุษย์ละแวกนี้ภาค
ภูมิใจกันอย่างยิ่งยวดทั้งอาการปัดควันแถวใบหน้าประหนึ่งชักชวนให้วัตถุเบาบางสีดำล่องลอยมาประทะหน้า
อย่างจัง แฮงค์ ก็รู้สึกไม่แตกต่างจากมนุษย์ละแวกนี้ซักเท่าใดนัก จะต่างกันก็ตรงความดีใจที่ออกนอกหน้า
จนถึงกับต้องพูดด้วยน้ำเสียงขึงขังใส่วัตถุปล่อยควันสั้นๆว่า \"สัตว์\" แฮงค์พูดคำสั้นนี้เป็นครั้งที่ สิบกว่าแล้วของ
วันนี้บางครั้งอาจแถมคำนำหน้าด้วย ระหว่างที่ต้องรอรถสำหรับพาตัวเองไปทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งย่านถนน
นอสหวาดแต่มันก็มิใช่ปัญหาใหญ่สำหรับ แฮงค์ ปรกติถ้าไปไม่ทันก็โทรให้เพื่อนตอกบัตรแทนให้ (ความจริง
ไม่อยากไปทำงานด้วยซ้ำแต่ที่ต้องไปเพราะต้องเป็นเพื่อนคุยกับบอสเดี๋ยวบอสเหงากันพอดี)
แฮงค์เร่งฝีเท้าสู่ห้องทำงานสีขาวซึ่งถูกกั้นด้วยผ้าบุตั้งฉากกับพื้นกระเบื้องไร้ลวดลายระหว่างทางที่แฮงค์
กำลังเดินไปนั่งที่โต๊ะของเขามีเสียงกระซิบกระแทรกจากรอบกายมาเป็นระยะจับใจความได้ว่า เจ้านายต้อง
การที่จะพบหน่อย แฮงค์ได้เดินทางไปตามคำแนะนำของเสียงเหล่านั้น ห้องเจ้านายแฮงค์หรือบอสเป็นห้อง
ที่ไม่มีกำแพงเป็นผ้าบุแต่เป็นปูนสีขาวสะอาดดูแข็งแรง โต๊ะถูกจัดเรียงอย่างสวยงามประดับไปด้วยวัตถุที่
ราคาสูงน่าสรรเสริญเป็นยิ่งนักทำให้ผู้คนที่เข้าๆออกๆห้องนี้เป็นต้องเกรงอำนาจของสิ่งของอันน่าสรรเสริญ
นี้กันทั้งนั้น และแน่นอนแฮงค์ก็เช่นกัน
\"มีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับบอส\" แฮงค์กล่าวพร้อมจัดวางมือให้สัมผัสกันในท่าทีสำรวม
\"แฮงค์.....\" บอสกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำและทิ้งช่วงชวนให้ถาม
\"มีเรื่องอะไรหรือครับ\" แฮงค์ซักด้วยความสงสัยในคำพูด
\"ได้ข่าวที่บริษัทเราถูกลูกค้ารายใหญ่ต่อว่าเรื่องจำนวนสินค้าไหม\"
\"พอรู้มาบ้างครับ\"
\"งั้นเหรอ\"
\"ค..ครับ\"
\"แล้วนายรู้ไหมว่าความผิดพลาดมันมาจากแผนกไหน\"
\"ม..ม...ไม่ทราบครับ\"
\"แผนกนายไง\"
\"(ใครว่ะ !! แฮงค์คิดพลางสงสัย)\"
\"แล้วรู้ไหมผลจากการสืบนะเป็นใคร\"
\"....ใครเหรอครับ (แล้วกูจะไปรู้เหรอครับ)\"
\"นายไง\"
...
........
...
แฮงค์หยุดยืนเบื้องหน้าของตึกทรงสี่เหลี่ยม (พยายามที่จะบอกลาตึกแต่บอกไม่ได้) ก่อนที่จะเคลื่อนตัว
ออกไปโดยรวดเร็วขณะวิ่งแฮงค์นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้แต่เขาก็ยังนึกไม่ออกว่ากรอกจำนวนสินค้าผิด
ตอนไหนความเป็นไปได้ของการกรอกผิดมีน้อยมากซึ่งความน่าจะเป็นสูงสุดที่แฮงค์คิดคือ การโดนใส่ความ
ตอนนี้แฮงค์เริ่มนึกถึงคำพูดอมตะของ เอช ขึ้นมาและพยายามจะบอกใครซักคนโดยการเขียนใส่กระดาษ
ใจความ \"ความจริงน่ะอยู่ที่นี่  h\" (เหตุที่เขียนเช่นนี้คงเป็นเพราะ แฮงค์พบความจริงบางอย่างแล้วความจริง
ที่ว่าด้วยโครงสร้างทางสังคมเหลวแหลกควรถูกเขียนขึ้นมาใหม่ สังคมเฮงซวยนี้ควรที่จะหายไปจากระบบชีวิต
ของมนุษย์อย่างเราๆได้แล้ว ต้องมีใครซักคนที่เขาควรจะบอกและขอความช่วยเหลือ) จากนั้นจึงบรรจุข้อความ
นี้ไว้ในซองกระดาษและพร้อมออกเดินทางที่จะไปบอกสิ่งนี้แก่ใครซักคน
แฮงค์วิ่งมาได้ซักพักความคิดก็ยังไม่หยุดประดังประเดเข้ามาจู่โจมสมองของเขาซึ่งตอนนี้คำพูดของบอสที่ว่า
\"อีก 24 ชั่วโมงนายถูกจับ\"
กำลังทิ่มแทงทรวงอกของแฮงค์อย่างจังแฮงค์คิดถึงสถานที่และบุคคลที่ควรนำข้อความนี้ไปบอกก่อนที่ถูกจับ
ไม่ออก แฮงค์เหลียวซ้ายแลขวาจนสายตาไปสะดุดเข้ากับ \"นอสหวาดไฮล์คูล\" แฮงค์แหงนหน้ามองท้องฟ้า
และพูดกับอากาศว่า
\"ทีนี้ก็ต้องภาวนากันหน่อยหล่ะ\"
chapter 4 : รอยต่อ
\"24 ชั่วโมงนายถูกจับ\"
ทำไมแค่กรอกจำนวนสินค้าผิดพลาดต้องโดนจับ ?
\"24 ชั่วโมงนายถูกจับ\"
ถ้าไม่ได้ทำ ทำไมต้องโดนจับด้วยเหรอ ?
\"24 ชั่วโมงนายถูกจับ\"
ทำไมล่ะ ?
\"24 ชั่วโมงนายถูกจับ\"
ทำไมล่ะ ?
คำถามที่อยู่ภายในสมองของแฮงค์รอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อแต่ทว่าไม่มีคำตอบจากสิ่งใด
แฮงค์แหงนนาฬิกาจากข้อมือซ้ายขึ้นมาดูหน้าปัดนาฬิกาสีขาวปรากฎเป็นลักษณะเข็มสั้นอยู่ที่เลข 7
อากาศบริเวณรอบกายของแฮงค์เริ่มหนาวขึ้นทุกขณะสายลมพัดโฉบเฉียวใบหน้าของแฮงค์โดย
ไม่มีความเกรงใจหลงเหลืออยู่เลย แฮงค์รู้สึกได้ว่าพายุกำลังจะมาในไม่ช้า
\"คุณคือแฮงค์เกอร์ใช่ไหมครับ\" แฮงค์หันหน้าไปตามเสียงอย่างอัตโนมัติ
\"เอ่อ..ใช่ครับ\" แฮงค์ตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ
\"นั่น..ดรีมใช่ไหมครับ\" แฮงค์ซักต่อ
\"ใช่ครับ\"
บทสนทนาอย่างย่อได้เริ่มต้นขึ้นท่ามกลางคลื่นพายุใจกลางสวนนอสหวาดในบรรยากาศค่ำคืนล้อมรอบ
ไปด้วยต้นไม้สีเขียวเข้มเป็นบรรยากาศที่หาดูได้ไม่บ่อยนักในช่วงจังหวะชีวิตปรกติของผู้คนที่ต่างรีบเร่ง
\"แล้วทำไมถึงเป็นผม\"
\"เพราะผมติดใจกับประโยคที่ ดิม โพสไว้ในบอร์ด\"
\"ประโยคไหนครับ\"
\"ที่กล่าวถึง เอช ยาวๆน่ะ\"
\"ฮ่าๆๆ\"
\"ขำอะไรหรือครับ\"
\"ในเมืองนี้หายากคนที่จะสนใจกับประวัติของเอชอย่างจริงจังเหมือนพี่น่ะครับ\"
เสียงหัวเราะถูกประสานอย่างไร้จังหวะเป็นเวลาพอสมควรทั้งสองเริ่มแลกเปลี่ยน
ความเห็นต่างๆนาในมุมที่ต่างกันอาจเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่หาได้ยากในช่วงชีวิต
\"แล้วพี่จะหลบไปที่ไหนล่ะครับ\"
\"ไม่รู้สิ\"
\"อืม........\"
\"ถ้าจะไปหาประวัติเอชก็ต้องเป็น...\"
\"ใจกลางแกรนดรีม\" ทั้งสองเห็นพ้องต้องกัน
\"งั้นจะไปกันเลยไหม\" แฮงค์ถามความสมัครใจของดิม
\"....ผมขอโทรบอกแม่ก่อน\"
แฮงค์ยิ้มแล้วพยักหน้า
\"แล้วที่มาตามจดหมายไม่กลัวมั่งเหรอครับ\"
แฮงค์ถามด้วยความสงสัย
\"...คนที่สนใจเรื่อง เอช ไม่ใช่คนที่น่าจะหลอกลวงหรอกครับ\"
ดิมกลับหลังหันมาแล้วกล่าวก่อนเดินไปยังตู้โทรศัพท์ที่อยู่ใกล้ที่สุด
แฮงค์อึ้งในคำพูดของดิมชั่วอึดใจ
อาจเป็นเพราะทั้งสองมีบางสิ่งที่คล้ายกันก็เป็นได้
chapter 5 : จุดจบแห่งความจริง
แสงไฟที่เปล่งแสงสว่างจากปลายบนสุดของแท่งโลหะขนาดยาวสีดำนับร้อยๆแท่งรอบๆใจกลางแกรนดรีมนี้
สามารถสร้างบรรยากาศแห่ง ความหวัง ให้แก่ผู้คนในเมืองแห่งความเศร้าเคล้าความทุกข์ ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม
รอบๆใจกลางแกรนดรีมนี้ถูกห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ที่ตัดแต่งอย่างจงใจให้สวยงามเคี้ยวคดต่อกันจบเป็นรูปร่าง
ของ วงกลมก้นหอย...สวยงามน่าหลงไหล แต่ก็ชวนตระหนกได้เช่นกัน บรรยากาศโดยรอบสงบและแสนจะ
สงัด...ค่ำคืนนี้ ดวงจันทร์ส่องแสงภายใต้ม่านหมอกแห่งความหนาวเย็น ความชื้นรอบกายของดรีมและแฮงค์
ทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเขาทั้งสองลดลงอย่างรู้สึกได้ แฮงค์ปรึกษากับดิมว่า
\"เจออะไรเกี่ยวกับเอชไหม..?\"
\"ไม่มีเลยครับ...แต่\"
\"แต่....อะไร\"
\"เมื่อครู่มีที่นึงที่ผมยังไม่ได้ไปสงสัยอาจมีอะไรบ้าง\"
\"ตรงแท่นใจกลางที่จากรึกประวัตินะหรือ\"
\"อ่า...ครับ\"
\"ไม่มีอะไรนี่\"
\"งั้นจะทำไงดีครับ\"
\"อ่า..ช่วยไม่ได้..งานก็ไม่มีแล้ว..พี่คงจะไปหาต่อน่ะ\"
ขณะนั้นดิมเหลือบไปเห็นชายชรานั่งอยู่บนรถเข็นสำหรับช่วยเดิน ชายคนนั้นนั่งเผชิญหน้ากับแท่งจารึกประวัติ
ดิมจึงกล่าวถามกับแฮงค์เชิงชักชวนว่า
\"ไปถามลุงคนนั้นไหม\"
\"อืม\" แฮงค์กล่าวสั้นๆพร้อมเดินอย่างรวดเร็ว
........
......
....
\"ลุง....ลุงครับ\" แฮงค์กล่าวทักทาย
\"หืม...\" ชายชราทิ้งช่วงเสมือนว่าพร้อมจะรับฟังประโยคที่แฮงค์กำลังจะถาม
\"ลุงรู้จัก..เอ่อ...คนที่ชื่อ..เอชไหมครับ\"
\"ฮ่าๆๆ...\" ชายชราเริ่มหัวเราะชอบใจอย่างไร้ซึ่งเหตุผล
\"ทำไมหรือครับน่าขำหรือไง\" แฮงค์ไม่อยู่ในอาการที่จะขำจึงกล่าวไปเช่นนั้น
ชายชรายังคงหัวเราะต่อไป จนเมื่อเสียงสงบลงเขาจึงเอ่ยว่า
\"รู้ซี่...ทำไมข้าจะไม่รู้\"
\"ช่วยเล่าให้ฟังได้ไหมครับ\" คราวนี้ดิมเป็นฝ่ายกล่าวมั่ง
\"จะให้เล่ายังไงดีหล่ะในเมื่อข้าไม่อยากเล่า\"
\"ทำไมครับ\" แฮงค์ถามอย่างฉับพลันด้วยอาการสงสัย
จากนั้นชายชราก็กล่าวตอบอย่างฉับพลันเช่นกันว่า
\"เรื่องที่โกหก จะให้ข้าเล่าไปทำไม เสียเวลาโดยใช่เหตุ\"
ชายชราก็กล่าวต่ออย่างไม่ต้องถามไถ่
\"การหาความจริงบนความไม่จริงนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากหากได้เจอตัวตนของความจริงแล้วเรา
จะสามารถยอมรับมันได้ไหม การไม่รู้บางสิ่งคงเป็นการดีกว่าในวิถีชีวิตที่อยู่บนความหลอกลวงแบบนี้\"
ทั้งสองยืนมองหน้ากันบัดนี้ชายชราได้เคลื่อนรถไปจากที่ตรงนี้แล้ว ลมโกรกแรงขึ้นพัดพาใบไม้ปลิวว่อน
ไปทั่วทั้วอาณาบริเวณใจกลางแกรนดรีม.. ดวงจันทร์บนท้องฟ้าถูก ลบโดยหมอกหนาไม่เหลือซึ่งแสงแห่ง
ความหวัง ไฟจากแท่งเสาโลหะนับร้อยเริ่มดับเป็นแถบๆ ความมืดมิดเข้าเยือนบริเวณนี้อีกครั้งแต่ทว่าเป็น
ความมืดที่เต็มไปด้วยห้วงความว่างเปล่า ความว่างเปล่าที่ไม่อาจจะหาคำตอบมาใส่ได้แต่อย่างใด
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น