ต้นไม้ 1 ต้นคุณสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ แต่ละคนก็ใช้ประโยชน์จากต้นไม้ได้ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ประโยชน์ใช้สอยของแต่ละคน ต้นไม้ในเมืองไทยลดน้อยลงมาก ลดน้อยลงเกือบจะพอๆกับการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าก็ว่าได้ มีนักถ่ายภาพคนหนึ่งที่ข้าพเจ้าเคยมีโอกาสได้อ่านบทสัมภาษณ์ บุคคลผู้นี้มักจะใช้ชีวิตในแต่ละวันไปกับการคลุกคลีกับธรรมชาติของป่าไม้โดยเฉพาะการได้สังเกตวิถีชีวิตของสัตว์ป่า การได้ถ่ายภาพการดำรงค์ชีพของสัตว์นั้น ทำให้เขานั้นเกิดรักและหวงแหนในความเป็นอยู่ของสัตว์ป่า การได้ถ่ายภาพเก็บไว้มากๆจึงทำให้บางภาพนั้นหาดูได้ยากในท้องตลาดเพราะมีน้อยคนนัก ที่จะรับรู้ได้ว่าการที่เราจะได้ภาพถ่ายดีๆนั้นควรจะไปถ่ายเวาไหน จากข้อเสียตรงนี้เป็นเพราะการขาดความสังเกตของนักถ่ายภาพที่บอกคนอื่นให้รู้ว่าตัวเองเป็นนักถ่ายภาพมืออาชีพแต่ที่จริงแล้วอาจจะไม่ใช่ในความหมายของบางคน ข้าพเจ้าคิดว่านักถ่ายภาพมืออาชีพที่ดีจริงต้องเก่งจริงและชำนาญจริงๆด้วย การที่นักถ่ายภาพสัตว์ป่ามืออาชีพผู้นี้ได้ถ่ายทอดความเป็นมืออาชีพให้สายตาผู้อ่านได้ยอมรับใน มืออาชีพของเขา ที่จริงแล้วบุคคลผู้นี้เคยเขียนหนังสือด้วยและได้มีโอกาสได้นำเสนอภาพถ่ายของตนลงในหน้าหนังสือด้วย และระยะหลังเขาก็เปลี่ยนใจที่จะเขียนหนังสือขายเพราะมันไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริงของเขา 1เดือนกับการเข้าป่าเพื่อไปเก็บเกี่ยวหาประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้แล้วสำหรับเขานั้นเขาได้บอกกับทีมงานสัมภาาณ์ว่าการได้ถ่ายภาพ ในสิ่งที่เขารักและหวงแหนนั้นมันเป็นความสุขและเป็นสิ่งที่เขาต้องการเขาไม่ต้องการแม้กระทั่งเพื่อนร่วมทางที่จะผจญภัยกันในป่าเพราะมันไม่ง่ายอย่างที่คิด สำหรับเขาแล้วความอันตรายในป่านั้น เป็นสิ่งที่ยน่ากลัวก็จริงแต่เขากลับคิดกลับกันว่า ถ้าเขาไม่ได้เข้าไปทำร้ายสัตว์ป่าก่อนสัตว์ป่าก็จะไม่ทำอะไรเขาได้เหมือนกัน การที่เขาต้องเดินเข้าไปในป่านั้นข้ามภูเขาเป็นลูกๆนั้นเข้าบอกกับทีมงานว่าถ้าคนที่ร่างกายไม่แข็งแรงพอก็จะทำอย่างนี้ไม่ได้ เพราะบนภูเขานั้นเป็นทางชันและความกดอากาสสูงด้วยอาาศเมื่อเทียบกับพื้นราบนั้นช่างต่างกันเลยเพราะฉะนั้นเวละเขากลับมาบ้านเขาก็จะออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อให้ร่างกายได้แข็งแรงและทนต่อสภาพความกดอากาศได้ จากการที่เขาได้คลุกคลีกับชีวิตการถ่ายภาพตรงนี้ทำให้เขารู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดของวงจรชีวิตของสัตว์ป่าอีกทั้งยังได้รู้ถึงการที่มนุษย์ได้เมินเฉยต่อสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ทั้งที่จริงแล้วสิ่งมีชีตเหล่านี้ก็คือส่วนหนึ่งของมนุษย์เช่นกันการที่ข้าพเจ้าได้อ่านบทสัมภาษณื์ในครั้งนี้ทำให้ข้าพเจ้าฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้อย่างหนึ่งคือก็ความห่างไกลที่คนมีต่อสัตว์มันเริ่มห่างเหินแล้ว ตอนนี้ก็กลายเป็นว่าคนก็ส่วนคนสัตว์ก็ส่วนสัตว์อยากจะฆ่าจะแกงเมื่อไหร่ก็ได้แล้วแต่ความต้องการของคน มองดูแล้วช่างเป็นการเอาเปรียบสัตว์โดยที่เราไม่รู้ได้ซ้ำไปว่าสัตว์มันคิดของมันยังไงบ้าง มันคงคิดว่าถ้ามันมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องการมีชีวิตอยู่มันคงจะเรียกร้องไปนานแล้วแต่ในชีวิตจริงมันไม่ใช่คนก็ต้องพึ่งพาชีวิตสัตว์และฆ่ามันโดยไม่คิดว่าต่อไปสัตว์ป่าที่เหลือจะอยู่กันอย่างไรองค์ประกอบที่เห็นได้ชัดคือการที่คนบุกรุกพื้นที่ป่าไม้กันเป็นว่าเล่น ทำให้สั้นป่าอยู่กันไม่ได้ต้องกระเสือกกระสนวิ่งหนีเพราะภัยที่มากกว่าการตัดทำลายป่าคือการ ที่มีผลที่ร้ายแรงคือไฟไหม้จุดนี้เองจึงทำให้หลายฝ่ายเริ่มตระหนักถึงโทษที่จะตามมา แต่อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าก็ขอเป็นกำลังใจในการทำงานของบุคคลผู้นี้
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น