เคยบ้างไหมที่รู้สึกสับสนในจิตใจ ไม่รู้ว่าจะปฏิบัติตนยังไงกับคนคนนั้นดี อาจจะเป็นบางทีที่เรารู้สึกว่าเค้ามีความสำคัญต่อเราเหลือเกิน อยากอยู่ใกล้ตลอดเวลา เมื่อไม่เจอก็คอยมองหาแต่เขา แต่ก็คิดว่าเค้าไม่ใช่
เค้าไม่ใช่คนที่เรารักและฝันถึง เราไม่เคยรู้สึกหัวใจเต้นโครมครามแรงจนเหมือนมันจะหลุดออกมาข้างนอก ไม่เคยชีพจรรัวเร็วนับได้เป็นร้อยครั้ง ไม่เคยหายใจติดขัด หรือรู้สึกว่ามือไม้ไม่รู้ว่าจะวางตรงไหนก็รู้สึกว่ามันจะเกะกะไปหมด แม้แต่เวลาที่พูดคุยด้วยก็สั่นไปหมดเหมือนตอนที่เราอยู่กับคนที่เราคิดว่าเรารักเค้า แต่เมื่อเราอยู่กับเขาแล้วเรารู้สึกว่าตนเองมีความสำคัญ เป็นคนที่พิเศษในสายตาเขา เรารู้สึกมั่นใจ รู้สึกสบายใจที่เรามีเขาเดินเคียงข้าง ไม่ต้องคอยระวังว่าเราจะทำอะไรน่าเกลียดที่เขาจะรับไม่ได้ เพราะเขารู้จักเราในด้านนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องห้องรก หรือนอนหลับน้ำลายยืด มันคงเป็นสิทธิพิเศษของคนที่อยู่หอเดียวกันมั้ง  เขาจึงรับตรงนั้นได้ดี เราเคยคุยกันทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องคนนั้นคนที่เรารัก แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วเมื่อเขาพยายามที่จะบอกความรู้สึกที่เค้ามี ทั้งที่เราเองคอยปฏิเสธเพื่อนๆมาโดยตลอดบอกว่าเขาไม่ได้จีบอะไร เป็นเพื่อนกันเท่านั้นเอง ทั้งที่เมื่อเปิดเทอมของปี3 เราย้ายที่นั่งเรียนเขาก็ย้ายตามมาแม้ที่ข้างเราไม่ว่าง เขาก็นั่งข้างหลังเราแทน (ตอนปี2 เขาย้ายมานั่งข้างเรา) เขาโทรมาเกือบทุกวัน โทรมาเล่าสิ่งที่เขาทำในแต่ละวัน เหมือนๆรายงานตัว แต่แปลกตรงที่เมื่อเราจะเล่าอะไรบ้าง เขากลับไม่ยอมฟัง เค้าจะพูดเรื่องของเขาท่าเดียว เราเองยังพูดทีเล่นทีจริงเลยว่า เพื่อนเค้าแซวกันแล้วนะ ที่โทรมาหาเราน่ะ ทั้งๆที่เราเป็นเพื่อนกัน เรามารู้แน่ๆก็ตอนที่เขาให้เราลงไปหาล่างหอเพื่อเอาของโดยอ้างว่าฝากของให้เพื่อน ไอ้เราก็คิดว่าเป็นงั้นจริงเลยกลับห้องไปเรียกเพื่อนคนนั้นลงไปให้ แต่แล้วหลังจากที่มันงงๆเดินลงไป เพื่อนคนนั้นก็ยื่นซีดีเพลงบอกว่าเค้าฝากมาให้แถมแซวอีกชุดใหญ่ ( ก็รู้กันทั้งหอแหละก็เรื่องคนในคณะนี่หน่า) เราก็นึกว่าเขาให้ยืมฟัง เพราะบอกว่าจะให้ยืมซีดีฟังหลายทีแล้ว แต่พอมองอีกทีเค้าจะให้ซีดีที่ไม่ได้แกะพลาสติกออกให้ยืมเหรอ เพื่อนๆก็เลยลงมติว่าเค้าให้จริงๆ ต่อมาเราเข้าเช็คเมล์ เค้าก็บอกว่าลองฟังเพลงที่..ดูนะ มันเป็นสิ่งที่เราอยากบอก เราก็กลับไปฟังที่บ้านก็อึ้งๆเหมือนกันกับสิ่งที่ได้รับรู้ หลังจากคิดดูแล้ว ว่าเราคงไปกับเขาไม่ได้แน่ๆ เราเลยเอาซีดีไปคืนโดยคืนตอนนั่งเรียนนั่นแหละ แล้วก็บอกว่าขอบใจนะ เพลงเพราะดี เค้าก็เงียบไปนานเลย เราก็ไม่กล้ามองหน้าเขาเลย เขาก็บอกว่าคืนมาทำไม  แล้วเค้าก็ลุกออกไปนั่งหลังชั้นเรียน (ก็กลับไปนั่งรวมกับเพื่อนๆผู้ชายของเขานั่นแหละ ปกติผู้ชายจะนั่งรวมกันเป็นกลุ่ม มีแต่เขา กับเพื่อนอีกคนที่มีแฟนในคณะที่ออกมานั่งนอกกลุ่ม)  เรานะใจหล่นไปตาตุ่มเลย เรียนไม่รู้เรื่อง มัวแต่คิดว่าเราทำร้ายจิตใจเขาไปหรือเปล่า เพราะเค้าก็เป็นคนนึงที่ดีกับเรา เพียงแต่เราคิดกับเขาแค่เพื่อนเท่านั้นเอง ตอนอยู่ปี2 เค้ามานั่งข้างเรา คอยปลุกเรา ตอนเราหลับในห้องเรียน ชวนเราคุยนอกเรื่องเรียนเวลาเราเบื่อๆ แบ่งหูฟังกันฟังเพลง วันไหนเค้าจะไปตลาดเค้าจะบอกเราแล้วถามเราจะฝากซื้ออะไรไหม เราก็ฝากแล้วให้เงินไปเค้าก็เอามาส่งถึงห้องอ่านหนังสือ (ตอนปี2ใกล้สอบเราก็ออกมาอ่านหนังสือที่ห้องนี้ แต่มันอยู่ตรงข้ามห้องนอนเรา) ตอนวาเลนไทน์เค้าให้ช็อคโกแลต แต่เค้าก็ให้กลุ่มเราทั้งกลุ่มนั่นแหละ ตอนจบปี2 เราเคยบอกให้เค้าช่วยยกของให้หน่อย เพราะเราอยู่ชั้น3ไงแถมห้องริมสุดอีก มันเดินไกล ของก็เยอะ เค้าบอกว่าให้ยกเมื่อไหร่ก็โทรมาแล้วกัน พอดีเจอเค้าพอดี เค้าก็เลยมาช่วยขนของ ขน2เที่ยวก็หมด ระหว่างขนก็โดนเพื่อนแซวตามทาง ที่เค้าช่วยขนของให้  แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรเหมือนทุกที เราก็... คิดแค่ว่ามีเพื่อนเป็นผู้ชายก็ดีนะ ช่วยยกของก็ได้ เวลาไปไหนก็รุ้สึกอุ่นใจดี (น่าจะปลอดภัย..) ตอนที่เราไปเรียนว่ายน้ำ เพื่อนเราให้เราบอกให้เค้าไปรับ เพราะว่าเรียนเลิก2ทุ่ม มันเปลี่ยวด้วย เค้าบอกว่าเค้าจะไปรับส่ง แบบว่านั่งเฝ้าเลย เราเลยมองเหล่เพื่อน สุดท้ายก็บอกเค้าว่าเราไปกันเอง3-4คน คงไม่เป็นไร เค้าก็โทรมาเช็คว่ากลับถึงหอหรือยัง ตอนที่เลี้ยงน้องที่คาเฟตศาลายา เค้าก็ขอนั่งด้วย ไปทานส้มตำต่อ เค้าก็ไปด้วย แต่พอปี3ปลายๆปีที่เราปฏิเสธไปชัดๆ งานแต็งค์กับบายเนียร์เค้าก็ไม่ได้มาขอนั่งด้วย เค้าก็ไปนั่งกับเพื่อนผู้ชาย แล้วไปร้องเพลงบนเวทีแบบว่าครองไมค์ เลยแหละ เค้าก็เป็นนักร้องอย่างนี้ทุกงานแหละ แถมทำได้ดีซะด้วย เค้าก็เป็นคนที่ดีคนนึง รักเด็ก ขนาดที่บอกกับเราว่าจบเมื่อไหร่จะรับน้องสถานมาเลี้ยง เด็กที่หน้าตาเหมือนแฟนเค้าน่ะ (คิดอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้)  แต่เค้าก็มีหลายอย่างที่เราไม่ชอบ ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ถึงแม้ตามแต่โอกาส แต่โอกาสที่หอชายมีมันบ่อยเหลือเกิน  บ่อยครั้งที่เค้าคุยโทรศัพท์กับเราอยู่ แป๊บๆเค้าก็ถูกชวนไปกินเหล้าแล้ว ซึ่งก็เป็นธรรมชาติของผู้ชายนั่นแหละ แต่เราไม่ชอบเท่านั้นเอง อาจจะเป็นเพราะเราเอาพ่อเราเป็นมาตรฐานมั้ง แล้วข้อสำคัญ ตอนปี2ที่เค้ามาคุยกับเราใหม่ๆเค้าเอารูปมาให้ดูเยอะมาก พร้อมกับแนะนำว่าเป็นแฟนเขา เค้าคุยกันบ่อยแค่ไหน รู้จักกันยังไง เค้าบอกหมด ตอนโทรศัพท์เรายังบอกเค้าบ่อยๆว่าไม่โทรหา...เหรอ โทรหาแฟนซิ โทรหาเราทำไม เค้าก็จะบอกว่าเค้าโทรไปแล้ว แล้วเปลี่ยนเรื่องคุยเรื่องอื่นต่อ แต่พอเค้าบอกเป็นนัยๆว่าชอบเรา พฤติกรรมว่าจีบเรา  เค้ากลับบอกว่าคนนั้นแค่น้องสาว แล้วเราจะคิดยังไง เค้ามีคนของเขาอยู่แล้ว เค้ายังมีใจเหลือมาชอบเราอีก แล้วจะให้เราชอบเขาเหรอ เราเป็นคนที่ชอบใครเราก็ชอบคนเดียว ไม่มองไม่สนใจคนอื่นอีก คนที่เราชอบเราต้องมั่นใจว่าถ้าเรามีเขา เขาต้องมีดีขนาดที่เราไม่สนใจที่จะมองคนอื่นอีก เขาก็ต้องมีเราเพียงคนเดียว ไม่ใช่ไปจีบคนอื่นเผื่อแบบนี้ เพราะไม่งั้นถ้าเราคบกันแล้ว เค้ายังไปมองไปจีบคนอื่นอีก เราคงทนไม่ได้ ถ้ายังงั้นไม่คบกันเลยจะดีกว่า เราเองยังไม่เคยคบใครมาก่อน และไม่ต้องการที่จะคบเล่นๆ ..คบเพื่อเก็บไว้เป็นเด็กในสต็อก...คบไปก่อนเผื่อจะชอบ ความคิดพวกนี้ไม่มีอยู่ในหัว ที่ผ่านมาพวกเล่นๆมาจีบก็มี แต่คิดว่าไม่ยืด ไม่จริงใจ ก็อย่าดีกว่า อาจจะเป็นเพราะเราจริงจังกับชีวิตในทุกๆเรื่อง แล้วเรายังเป็นคนที่ชอบใครๆที่ทำดีด้วยง่ายๆ เลยต้องคอยเบรกตัวเองบ่อย กลัวว่าจะคิดเอาเอง คิดมากไป แล้วยิ่งคนนั้นเป็นเพื่อนในคณะด้วย กลัวจะมองหน้ากันไม่ติด  ส่วนคนที่เราชอบมาตั้งแต่ตอนปี1 ความชอบจากการที่เราประทับใจในสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เขาทำให้ ทั้งๆที่เป็นสิ่งที่คนอื่นเค้าไม่คิดที่จะทำกัน และรู้ว่าเขาทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า มีบ้างที่เค้าโทรมาหา ลอยกระทง ปีใหม่ แต่ก็เป็นเพราะเรา miss ไปก่อนนั่นเอง (แต่ปกติเค้าก็ไม่โทรกลับนะ แอบคิดดีใจ ที่เค้ายังเห็นเราเป็นเพื่อน) เดี๋ยวนี้เค้าคุยกับเราดี คุยกันนานขึ้นไม่ยอมวางสายง่ายๆ(คิดเองเออเองเลยนะ...อย่าว่ากันเลย) แต่ก็มีเงียบบ้าง เราเองก็กดตัดสายไปหลายครั้ง เค้าก็คงรู้แหละ ก็มันหลายนาทีแล้ว แถมถ้านานผิดปกติแม่เราก็จะรู้ว่ามีอะไรพิเศษ เพราะเราจะโทรมือถือหาเพื่อน มักคุยไม่เกิน2นาทีอยู่แล้ว เราก็กลัวว่าเค้าจะโกรธที่เรารีบวาง ทั้งที่บางทีเค้ายังพูดไม่จบ เราเองแอบหวังทุกครั้งที่วางสายว่าเค้าจะโทรมาคุยกับเราต่อ แต่ก็อย่างที่คาดเดาได้...เค้าไม่โทรมา)  เราอยากคุยกับเค้านานๆนะ แต่มันเปลืองตังค์จัง เค้าก็ไม่มีพีซีทีซะด้วย เค้าเคยยืมพีซีที ยืมมือถือเพื่อนโทรหาเรา ตอนนั้นเราดีใจมากๆเลยที่เค้าโทรหาเราก่อนแม้เราจะmissไปก็เหอะ แต่เค้าก็ยังนึกถึงเรา คิดว่าคนที่โทรมาคือเรา เค้าเลยโทรหาเราไง ....แค่นี้เราก็ดีใจแล้วล่ะ เพราะเราก็รู้สึกไม่ค่อยดีกับตัวเองเท่าไหร่หรอกที่เราโทรหาเค้าก่อน มันดูไม่ดี แต่จะทำไงได้ล่ะ ก็เค้าไม่ได้ชอบเรานิ เราเลยเป็นฝ่ายที่จะติดต่อ คอยซักถามความเป็นไปกับเค้าก่อน เราเองก็ค่อนข้างพอใจในสถานะที่เค้าให้เราในตอนนี้
“เพื่อน”..............................................      คนนึงที่คอยโทรมาให้เธอปลอบเวลาเครียด
                                                              คนนึงที่คอยซักถาม อยากรับรู้ความเป็นไปของเธอเสมอ
                                                              คนนึงที่ประทับใจในรอยยิ้มของเธอในวันรับน้อง..และอยากเห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้งในวันนี้
                                                              คนนึงที่อยากบอกเธอว่าถ้าเธอเครียด อยากคุยอยากระบายโทรหาเราได้นะ
                                                              คนนึงที่จะคอยเป็นห่วงเป็นใย หวังว่าเธอจะสบายดีในเร็ววัน หากรู้ว่าเธอเจ็บป่วย
                                                              ..........ต้องการพยาบาลคนนี้บอกได้นะจะไปดูแลให้ด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง
                                                              คนนึงที่ถ้าเธอต้องการ......แค่บอกมาถ้าเราสามารถที่จะไปหาได้เราจะไปทันที
                                                              คนนึงที่หากเธอเหงาคิดว่าเธอไม่มีใคร...รับรู้นะว่ายังมีเรา เราจะรอเธออยู่เสมอ
อยาก..ให้ได้เจอกัน..ให้มองหน้า-สบตากัน..ให้เธอยิ้มให้..ให้เธอคิดถึงกัน..ให้เธอสบายดี..ให้รับรู้ความเป็นไปซึ่งกันและกันในแต่ละวัน.. ให้ฝันถึงกัน..ให้คอยดูแลกัน..ให้เป็นห่วงกันเวลาไม่สบาย.. ให้มีความสุข..ให้รักกัน
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น