หากการที่เราคิดถึงใครคนหนึ่งอยู่แทบตลอดเวลา  ไม่ว่าในช่วงขณะนั้นเรามีความทุกข์หรือความสุขเราอยากให้เขาได้มีส่วนรับรู้ และร่วมความรู้สึกกับเราในขณะนั้น หวังว่าเค้าจะคอบปลอบโยนเรา มีคำพูดดีๆที่ทำให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นในขณะที่เราFail หวังว่าเขาจะไม่หัวเราะเยาะเมื่อเราผิดพลาดแต่พร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ไข และเมื่อเราทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งสำเร็จเค้ายิ้มให้และแสดงความยินดีกับเรา พร้อมทั้งเราเองก็อยากรับรู้ในเรื่องราว และความเป็นไปของเขาในแต่ละวันด้วย อยากร่วมความรู้สึกไปกับเขา อยากมีเขาอยู่ในสายตาของเราเสมอ และแน่นอนที่เขาเองก็ต้องมีเราอยู่ในสายตาคนเดียวเช่นกัน พร้อมที่จะจับมือเดินไปด้วยกัน ไม่ว่าใครจะคิดยังไง หรืออดีตของแต่ละฝ่ายจะเป็นไง หมายถึงการที่เรารักใครคนนั้นเข้าแล้ว นั่นก็แสดงว่าฉันเองยังไม่มีคนที่รัก รักมากถึงขนาดที่ว่ามานั้น แต่แน่นอนที่ยังคาดหวังว่าวันใดสักวันหนึ่งจะได้เจอคนๆนั้น ที่ผ่านมาก็เพียงแค่คนที่เราคิดว่าใช่คนนึงเข้ามาในชีวิต เราพยายามศึกษาความเป็นเขา ลักษณะนิสัย เขาขี้อวดแต่เราพูดตรง เวลาเค้าทำอะไร หรือแข่งกีฬาชนะเค้าก็จะมาบอก ซึ่งบางทีก็มาแบบเวอร์ๆแต่ก็น่ารักในสายตาเราอยู่ดี เรารู้ว่าเค้าภูมิใจมากเพราะสิ่งนั้นเค้าได้รับมานั้นเป็นผลมาจากการที่เขาพยายามทำเต็มที่ เขากล้าแสดงออกแต่เราขี้อาย เขามักเป็นหัวหน้าหรือแกนนำในการทำสิ่งต่างๆเสมอ เป็นคนสั่งแสตนด์ เป็นหัวหน้ากิจกรรม เต้นออกงานบ้างบางครั้ง เราเองก็ไปยืนดู จนเพื่อนแซวแล้วแซวอีกว่ามองตาค้าง เขาชอบเล่นเทนนิสแต่เราเล่นไม่เป็น เขาเคยชวนเราไปเล่นอยู่2-3ครั้ง แน่นอนที่เราดีใจมาก มากจนอยากตอบรับคำชวนของเขาในทันที แต่เราเองก็ไม่เก่งกีฬา เล่นไม่เก่งเลยสักชนิดเดียว เราบอกเขา เขาเองก็เสนอตัวสอนให้ ไม่มีไม้เทนนิสเขาก็อาสาที่จะไปยืมมาให้ เราเลยตอบตกลงไป แต่ใจนึงก็คิดว่าเขาคงไม่ไปกับเรา2คนแน่ เลยถามเขาดูเขาบอกว่าไปกับเพื่อนในกลุ่ม4-5คน ซึ่งก็เป็นเพื่อนในคณะของเขานั่นแหละ ในที่สุดเราก็เบี้ยวนัดเขาจนได้ ทั้งที่เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นคนนัด เขาเรียนเก่งแต่เราเรียนไม่เก่ง ถ้าเราเรียนเก่งเราเองก็คงจะอยู่คณะเดียวกันกับเขาแล้วล่ะก็คณะนั้นเป็นคณะที่เราใฝ่ฝันนี่หน่า เราเคยนัดเขาให้มาอธิบาย มาสอนในวิชาที่เราไม่เข้าใจ เขาก็มาให้ แม้ว่าเขาจะมาสายบ้าง เลื่อนนัดบ้าง เบี้ยวนัดบ้าง แต่แค่เขามาหาเรา เราก็ดีใจเป็นที่สุดแล้ว เราเลยพยายามตั้งใจเรียน พอผลสอบออกก็โทรไปหาแลกเปลี่ยนกันฟัง เขาชอบผู้หญิงขาว ตัวเล็ก ผอมบางแต่เราไม่ขาวตัวก็สูงเกือบเท่าเขา และแน่นอนไม่ผอม  เขาอยู่คนละคณะ นั่นก็ทำให้คุยกันไม่ค่อยที่จะรู้เรื่องเวลาพูดอะไรสักอย่างต่างก็ต้องอธิบายอย่างยืดยาว ซึ่งก็ดูเหมือนเขาจะรำคาญที่เป็นเช่นนั้น ต่างกับเราที่ยินดีที่จะเล่าให้ฟังอย่างละเอียดในทุกเรื่อง  แต่สิ่งที่เราไม่ชอบในตัวของเขาก็มี การโกหก แม้จะเป็นเพียงการพูดเพื่อรักษาน้ำใจ เป็นมารยาท เมื่อเราเองได้รับคำนั้นๆมาแม้เราเองจะรู้ดี ว่าเป็นเพียงลมที่พัดผ่านไปเท่านั้น เพียงคนที่พูดคำนั้นออกมากลับเป็นคนที่เราเชื่อใจ ไว้ใจ มันจึงทำให้เราเกิดความหวังขึ้นมา แต่แน่นอนที่ความหวังนั้นต้องจบด้วยความผิดหวังทุกครั้ง เขาเองก็คงจะจำไม่ได้ว่าได้พูดอะไร สัญญาอะไร ไว้กับเราบ้าง เขาบอกว่าจะพาไปเลี้ยงหลายต่อหลายครั้ง เราไม่ได้อยากจะกินอะไรหรอกนะ เพียงแค่เราอยากพบอยากอยู่กับเขา2คนก็เท่านั้น เพราะเกือบทุกครั้งที่เจอกันเขามักหนีบเพื่อนของเขามาด้วยเสมอ เราทำทุกอย่างที่เราสามารถทำได้ ทำคุกกี้ พับกระดาษใส่ขวดโหล แต่มันก็แค่สิ่งที่ให้ไปโดยที่เขาไม่เคยต้องการ เค้าให้เรากลับมาแค่เพียงขอบคุณนะ แค่นั้นเองแต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เราพอใจแล้ว ก็มันเป็นความรักข้างเดียวนี่หน่า หลายต่อหลายเหตุผลที่ทำให้เค้ากลายเป็นไม่ใช่ ซึ่งเหตุผลสำคัญที่สุดคือคนที่เขาชอบไม่ใช่เรา สิ่งที่เขาให้เราได้คือ เพื่อน ...เพื่อนต่างคณะที่บังเอิญมารู้จักกันตอนรับน้องแค่นั้นเอง จนตอนนี้ เราคิดว่าเราควรที่จะเลิกยึดติดกับความคิดที่คิดอยู่เพียงคนเดียวสักที เปิดใจรับคนที่ผ่านเข้ามาเพื่อที่จะค้นหาคนที่ใช่ต่อไป แล้วก็มีคนนึงผ่านเข้ามา เข้ามาเป็นเพื่อน มานั่งข้างๆเรา แรกๆเราก็กลัวอยู่หรอก หน้าตาเค้าไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่ แถมยังเป็นคนห้าวๆชอบแซวชอบส่งเสียงดัง แต่ก็มีเพื่อนเรามารับรองว่าเขาเป็นคนดี ไว้ใจได้ แต่ยังไงเสียเราก็ยังกลัวอยู่ดี เราเองก็ไม่คุ้นกับผู้ชายอยู่แล้ว แค่เห็นก็เดินเลี่ยงไปไกลแล้ว จะมีก็แต่คนที่เราชอบคนแรกนั่นแหละที่เราเองก็กลัวในตอนแรกพอได้พูดคุยก็รู้สึกดีด้วย มาถึงคนนี้เราก็คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะฝึกให้เราสามารถที่จะมีเพื่อนผู้ชายได้ เลยลองพยายามคุยดู แล้วประกอบกับว่าเราเองมีปัญหากับเพื่อน เลยเป็นเหตุที่ต้องหันไปอีกด้านนึงเพราะไม่อยากเห็นเพื่อนคนนั้น จึงกลายเป้นด้านที่เขานั่งพอดี เค้าก็เป็นคนแปลกๆ ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว เวลาคิด พูด หรือทำอะไร ก็ดูเหมือนมีอะไรแฝงๆที่ปิดบังอยู่เสมอ พกซาวด์เบาท์ติดตัวตลอดเวลา แม้แต่เวลาเรียนก็ยังฟังเพลง เค้าก็เคยแบ่งให้ฟังข้างนึง มักเป็นเพลงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ค่อนข้างฟังเพลงคนละแนว มีไม่กี่เพลงที่จะชอบหรือฟังเหมือนๆกัน ไปๆมาๆก็โทรมาคุย ก็งงๆเหมือนกัน  มาปรึกษาเรื่องแฟน เราเองก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่ ก็ไม่เคยมีกับเค้า แค่เคยฟังเพื่อนเล่า แก้ปัญหาให้เพื่อนบ้างก็เท่านั้น เลยทำได้แค่เพียงบอกถึงความรู้สึกของผู้หญิงก็เท่านั้น ต่อมาก็เริ่มโทรบ่อยขึ้นๆจนกลายเป็นทุกวัน เราเองก็ไม่คิดอะไรก็คิดว่าเป็นเพื่อนกัน ก็โทรคุยได้ ก็มีพูดบ้างว่าทำไมไม่โทรหาคนนั้นล่ะ โทรหาเราทำไม เขาเองก็มีคนที่เขาชอบอยู่แล้ว เพื่อนๆและคนอื่นๆคิดว่าคงไม่ใช่แค่นั้น จนมาถามเราบ่อยเข้า แน่นอนที่เราก็บอกว่าเพื่อนกัน จนเมื่อได้รับซีดี+เมลล์นั้น เลยเคลียร์  ไม่เข้าใจเหมือนกัน ก็มีแฟนอยู่แล้ว ทำอย่างนี้ไปทำไม มันไม่ดีกับทั้ง2ฝ่าย แล้วเราก็ว่ามีหลายอย่างที่เราไม่เข้ากัน มีหลายอย่างที่เราไม่ชอบ การเป็นเพื่อนมันมีลิมิตของมันว่าอะไรที่เรารับได้รับไม่ได้เมื่อเขาอยู่ในฐานะเพื่อน การเป็นแฟนก็เช่นกัน ดื่มเหล้าสูบบุหรี่คงไม่ไหว เพราะเราเองเป็นภูมิแพ้ แค่เดินผ่านก็จะหายใจไม่ออกแล้วถ้าอยู่ด้วยกันจะเป็นไงล่ะ เรื่องเจ้าชู้ก็ตัดไปได้เลย เพราะเราเองก็รู้ตัวดีว่าเราเป็นคนที่ขี้หึงมาก หวงไปหมดถ้าเราจะมีใครเราเองก็อยากที่จะเป็นคนสำคัญคนเดียวของเขา ไม่อยากให้เขามองใคร ชมใคร สัมผัสหรือพูดคุยจี๋จ๋ากับใคร แต่ก็ไม่ใช่แค่ไม่บอกแล้วไปแอบทำ มารู้ทีหลังก็ยิ่งเสียความรู้สึกอีก แต่ถ้าเป็นเพื่อนจะสูบบุหรี่ จะดื่มเหล้าก็ทำไปสิแต่อย่าทำตอนที่เราอยู่ก็แล้วกัน แล้วก็อย่ามากจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพยังไงก็ยังเป็นห่วงกันอยู่ จะชอบใคร ชมใคร จีบใคร ก็ทำเลยได้เต็มที่ เราเองก็ไม่มีสิทธิอะไรที่จะไปห้ามหรือจะงอนอย่างแฟนกัน เพียงแต่เราไม่อยากจะเสียเวลาเดินตามสาวไปกับเขาเท่านั้นเอง คิดใจเค้าใจเรา ก็เหมือนให้เค้าไปหาผู้ชายที่เราชอบกับเรานั่นแหละก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขาใช่ม๊า แต่ถ้าเป็นเพื่อนผู้หญิงนะเค้าก็ไปไหนไปกันแล้วล่ะ  ก็ถ้าอยากไปก็ไปแล้วกันเราไม่มีสิทธิที่จะกักตัวเขาไว้ เรื่องแบบนี้เค้าคงต้องไปกับเพื่อนผู้ชายถึงจะจีบจะแซวสาวได้อย่างสนุกเหมือนกัน ที่คบกันมาก็คิดว่านิสัยก็คุยกันได้นะ เพียงแต่เราพูดไม่ค่อยจะทันเขา เขาก็ไม่ค่อยจะยอมฟังเรา พยายามพูดเรื่องของเขาให้ฟังท่าเดียว เหมือนเราเป็นที่ระบายเลยแหะ  ก็เอาเหอะถ้าทำให้เขาสบายใจ แล้วบางทีเราเครียดๆฟังเขาเล่าเรื่องต่างๆให้ฟังก็สนุกดี บางวันก็เหมือนโทรมารายงานเลยนะว่าตั้งแต่ตื่นเช้ามาทำอะไร ไปที่ไหนบ้าง ร่ายมาจนถึงเวลาที่กำลังโทรคุยกันอยู่ ก็ฟังเพลินดี ดูว่าเค้าแบ่งเวลาไง เราเองแบ่งเวลาไม่คอยเป็น มักจะทำอะไรเมื่อจวนตัวอยู่เสมอ บางทีก็เล่าประสบการณ์ขึ้นวอร์ดว่าเป็นอย่างงั้นอย่างงี้ เราเองก็เห็นภาพเลยนะ พอขึ้นวอร์ดนั้นเองจริงๆ นึกไปก็ยิ้มไป  ช่วงหลังๆเค้าไม่ค่อยโทรมาก็เข้าใจนะ ว่าเป็นเพื่อนกัน เลยไม่ต้องโทรมาคุยบ่อย แต่ก็นะคนเคยคุยกันนี่ แถมเราเองก็ย้ายไปนั่งอีกฟากนึง เลยทำให้ห่างกันไ ม่ได้คุยกันเข้าไปอีก ก็ยิ่งกลุ้ม อยากพบอยากพูดด้วย เมื่อก่อนนะยอมรับว่าแคร์ที่เพื่อนๆแซวเลยไม่ค่อยสบายใจเพราะเค้าก็มีใครอยู่แล้ว และเราก็คิดกับเค้าแค่เพื่อน แต่ตอนนี้คิดว่าเค้าคงมีคนที่เค้าชอบคนใหม่แล้ว เราเองก็เข้าไปพูดคุยได้อย่างสนิทใจสบายใจขึ้น แต่ก็ดูเหมือนเค้าไม่ค่อยอยากคุยกับเราเลย เจอกันก็ไม่ค่อยทัก บางทีก็ไม่มอง บางครั้งเราเองเลยไม่กล้าที่จะทักเค้าเหมือนกัน ทั้งที่มีเรื่องอยากพูดด้วยอยากซักถาม เลยต้องคุยผ่านทางเมลล์ ถ้าเป็นเพื่อนผู้หญิง เราคิดถึงเราก็ไปหาที่ห้อง ไปนั่งเล่น นั่งคุย โทรไปหา นัดไปเที่ยวได้ แต่กับเพื่อนผู้ชายบอกตรงๆว่าไม่รู้จะวางตัวอย่างไร แค่ไหน เพราะไม่เคยมีเพื่อนผู้ชายที่สนิทกันมากขนาดนี้ ที่ผ่านมาก็แค่เจอกันทัก ไปกินข้าว โทรคุยเมื่อมีธุระเฉยๆ แต่กับเขา รู้สึกเหมือนเพื่อนที่เป็นผู้หญิงแต่เรื่องไปหาไปคุยที่ห้องก็คงไม่ได้ จะโทรไปหาก็ยังรู้สึกแปลกๆอยู่กลัวเค้าลำบากใจเลยไม่โทรบ่อย จะโทรก็เมื่ออยากคุย อยากพบ หรือว่ามีเรื่องรบกวนจริงๆ แต่ก็น่าแปลกนะที่โทรไปทีไร ก็มักมีสัญญานให้รอสายเรื่อยไป ไม่ค่อยจะยอมรับสายเท่าไหร่เลย เราก็กลัวว่ารอนานแล้วจะโอนสายไปยังเบอร์แฟนเค้า แล้วเค้าจะผิดใจกัน ก็4-5ตื๊ดก็ต้องวางแล้ว และเราก็คิดว่าถ้ารอนานแสดงว่าเค้าอาจไม่ได้เอามือถือติดตัวไปหรือว่าไม่อยากรับ ไม่ว่างที่จะรับก็เป็นได้ แต่เค้าก็น่ารักดียอมไปเป็นเพื่อนเดินเล่นด้วย อย่างที่เพื่อนๆรู้กันอยู่เราเป็นคนเครียดง่ายเวลาใกล้สอบมักจะเป็นไมเกรน พอรู้ตัวว่าเครียดก็อยากที่จะออกไปเที่ยวคลายเครียด ทั้งที่เค้าก็ต้องอ่านเหมือนกันเค้าก็ยอมไปกับเรา เราเองกลัวเค้าเบื่อเพราะเราก็ดูของผู้หญิงและเลือกของนาน ถามเค้าว่าเบื่อไหมเมื่อยยัง เค้าก็บอกว่าไม่ ทำให้เรารู้สึกซึ้งใจมากๆ มีอยู่ครั้งนึงที่เค้าดูเครียดๆที่เค้าชวนซื้อน้ำ บอกว่าเลี้ยง แต่เราก็ไม่เอา ในตอนนั้นเราเองก็ไม่หิวน้ำ และที่สำคัญเค้าก็ไม่ใช่แฟนเราไม่จำเป็นต้องเลี้ยงกันก็ได้ ไม่อยากให้ใครว่าหลอกให้เลี้ยง เราขอรับแค่น้ำใจ แค่เค้าถามเราว่าหิวน้ำไหม ซื้อน้ำไหม เราก็ดีใจที่เค้านึกถึงเราแล้ว เค้าเป็นเพื่อนที่น่ารัก เป็นเพื่อนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจ เราคิดเอาเองนะว่าเค้าคงรับเราได้ในทุกอย่าง เวลาอยู่กับเขาเราก็เป็นตัวของเราเองมาก นิสัยเราด้านดีด้านเสียเค้าเคยเห็นเคยรู้หมดแล้ว คิดว่าเค้าคงรับได้จึงยังคบเป็นเพื่อนกับเรา และคงดีถ้าเราได้อยู่ข้างกัน อยู่เป็นเพื่อนกันต่อไป คิดอยู่นะว่าเราโลภหรือเปล่า ที่ขอนั่นขอนี่ คาดหวังอะไรๆจากคนที่เป็นเพื่อน ก็แค่อยากให้รู้ว่าเราคิดเรารู้สึกกับเค้ายังไงเท่านั้นเอง และเราก็พร้อมที่จะเป็นเพื่อนที่ดีของเขา มีอะไร ก็บอกได้ ปรึกษาได้ แต่เรื่องจีบสาวต้องขอบอกไว้ก่อนนะ ว่าเราเองก็เป็นคนแปลกๆในเรื่องนี้เหมือนกัน คิดไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน วิธีการอะไรก็เลยอาจจะตรงเกินไป และบางทีก็อาจไม่ควรนำมาใช้ด้วยซ้ำ แต่ถ้ามีอะไรจะถามเกี่ยวกับความคิด ความรู้สึกของผู้หญิง อันนี้ก็คงพอไหว เราเองก็รบกวนเค้ามาหลายเรื่อง และยังอยากที่จะรบกวนต่อไป โดยเฉพาะเรื่องยืมหนังสือกับเอกสารขึ้นวอร์ด เอาไว้แลกกันดูนะ ถ้าเราช่วยอะไรได้ก็อยากจะช่วย ถ้าอยากไปไหนไม่มีเพื่อนไปก็ชวนได้นะ ถ้าสถานที่นั้นไม่ไกลหรือไม่อันตราย แล้วเราว่างก็โอเคอยู่นะ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันใช่ไหม
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น