\"กรินทร์  ตัวอยู่ไหนน่ะ\"  เด็กหญิงวิ่งลัดเลาะตามต้นไม้  กระโดดข้ามท้องร่องเพื่อตามหาเด็กชายกรินทร์
\"กรินทร์  ออกมานะ\"  เสียงใสเริ่มตะโกนดังขึ้นเมื่อเด็กชายยังไม่ออกมา
\"เรื่องอะไรเค้าจะออกไปหล่ะ  ตัวเป็นตัวก็ต้องหาเค้าสิ\"  เสียงของเด็กชายดังมาจากต้นไม้ต้นใดต้นหนึ่งในสวน
\"แต่เค้าเป็นตั้งหลายตาแล้วนี่  เค้าเบื่อแล้วนะ  ตัวมาเป็นบ้างสิ\"
\"ก็ได้ๆ  ตัวอยู่ตรงนั้นนะ เดี๋ยวเค้าไปหาเอง\"  เด็กชายกระโดดลงจากต้นไม้ใหญ่ข้างหลังเด็กหญิงสิชลนั่นเอง
\"เอ้า....ตัวไปแอบสิ  เค้าจะนับแล้วนะ  1...2...3...\"  เด็กชายปิดตาแล้วเริ่มนับ  ในขณะที่เด็กหญิงโวยวายลั่น
\"เดี๋ยวสิกรินทร์  ให้เค้าวิ่งไปก่อน\"
\"กรินทร์  สิชล  อยู่ไหนลูก\"  มารดาของเด็กชายตะโกนเรียกให้กลับเข้าบ้าน
\"เห็นมั้ยสิ  ตัวน่ะหาเค้าช้า  เลยไม่ได้เล่นต่อเลย\"  เด็กชายกรินทร์เริ่มโทษคนเล่นด้วย  ขณะที่ทั้งคู่เดินไปด้วยกัน
\"ตัวแหละกรินทร์  ตัวไปแอบตั้งไกล  จะให้เค้าหาเจอได้ยังไงล่ะ\"  เด็กหญิงสิชลโทษกลับบ้าง
\"ตัวแหละสิชล\"
\"ตัวแหละกรินทร์\"
\"ตัวแหละ\"
\"ตัวแหละ\"
************************************************************************************
ศาลาริมคลองข้างบ้านสวนยามค่ำคืน  มองออกไปแล้วเห็นดวงจันทร์กลมโต หมู่ดาวดารดาษเต็มท้องฟ้า  รางเล็กๆสองร่างที่นั่งเคียงคู่กัน  ต่างแหงนหน้ามองบนท้องฟ้า
\"สิ  ตัวจะขอพรอะไรจากพระจันทร์\"
\"เค้าจะขอให้มีขนมกินเยอะๆ  ขอให้สอบได้ที่หนึ่ง  ......\"  เด็กหญิงสิชลนั่งนับนิ้วมือ  ในหัวก็คิดว่าจะขออะไรเป็นข้อต่อไป
\"ฮื่อ...ไม่เอา  เอาพรข้อเดียวพอ  ตัวจะขออะไร\"  เด็กชายกรินทร์ส่ายหน้า
\"งั้น  เค้าขอให้ตัวอยู่เล่นกับเค้าตลอดไปแล้วกัน\"
\"อืม\"
\"แล้วตัวล่ะกรินทร์  ตัวจะขออะไร\"
\"เค้าเหรอ  เค้าก็จะขอให้ตัวอยู่กับเค้าตลอดไปเหมือนกัน\"
\"ดีๆ  งั้นตัวกับเค้าก็จะได้เล่นด้วยกันตลอดไปน่ะสินะ\"
\"อืม...งั้นเรามาสัญญากันนะว่าจะไม่ทิ้งกันไปไหน\"
\"ได้สิ  เค้าสัญญา  เค้าไม่ทิ้งตัวไปไหนหรอก  จะอยู่กับตัวตลอดไปเลย\"
\"เค้าก็สัญญาเหมือนกัน  เค้าจะดูแลตัวตลอดไปเลยนะสิชล\"
\"อ้าว....กรินทร์  แล้วถ้าใครตายก่อนหล่ะ\"
\"ก็ตายพร้อมกันสิ\"
\"ทำได้เหรอ\" 
\"ไม่รู้เหมือนกัน  เอางี้ดีกว่า  ถ้าใครตายก่อน  คนนั้นก็ต้องรอคนที่เหลือด้วย  พอมาเจอกันแล้วจะได้ไปเกิดใหม่พร้อมกันไง\"
\"ตกลง เราสัญญา\"
\"เราก็สัญญา\"  เด็กชายและเด็กหญิงจับมือกันไว้  พร้อมกับสัญญาที่เค้าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
*********************************************************************************************
เวลาผ่านไป  เด็กชายเด็กหญิงเติบโตขึ้น  ตอนนี้ทั้งกรินทร์และสิชลเรียนอยู่ปี 4  มหาวิทยาลัยเดียวกัน  เพียงแต่คนละคณะเท่านั้น
กรินทร์  หนุ่มเนื้อหอมประจำคณะวิศวะ  ที่สาวน้อยสาวใหญ่ต่างพากันรุมล้อม  หากผู้หญิงที่อยู่ข้างกาย และอยู่ในใจของเขามีเพียงเธอคนเดียว  สิชล
สิชล  สาวสวยคณะอักษร  ไม่ว่าจะมีใครเพียรตามจีบเธอขนาดไหน  แต่คนที่ครองหัวใจเธอได้  ก็มีเพียงเขาเท่านั้น  กรินทร์
เช้านี้ของสิชล  ไม่ได้ต่างจากทุกวันเท่าไหร่  ที่กรินทร์จะเดินมารับเธอที่บ้านแล้วออกไปเรียนพร้อมกัน
“อ้าว
กรินทร์  มาแล้วเหรอ  รอเค้าแป๊บนึงนะ  เดี๋ยวเค้าไปเอาหนังสือก่อน”  เสียงใสๆของสิชลบอกกับกรินทร์ที่เพิ่งเดินขึ้นมาจากบันได  แล้วเธอก็วิ่งกลับเข้าไปในห้อง
“กินข้าวก่อนมั้ยกรินทร์”  มารดาของสิชลถามเขาแบบนี้ทุกวัน
“ไม่ดีกว่าครับ วันนี้สิเค้ามีเล็กเชอร์ตอนเช้า  ถ้าไม่รีบไปเดี๋ยวไม่ทันอีก”
“แม่ขา  สิไปก่อนนะคะ  สวัสดีค่ะ”  สิชลวิ่งกลับออกมา ยกมือไหว้มารดาผลุบแล้วคว้ามือกรินทร์ออกไปทันที
“สวัสดีครับน้าวรรณ”  เสียงของกรินทร์ลอยตามลมมา
ที่หน้าคณะของสิชล  ทั้งคู้เพิ่งเดินมาถึง
“ทันรึเปล่าสิ”  กรินทร์ถามคนข้างๆที่เพียรดูนาฬิกาทุกๆห้านาทีตั้งแต่ออกจากบ้านมา
“ทันสิ  ไม่งั้นเค้าก็วิ่งไปแล้ว  นี่เหลืออีกเกือบครึ่งชั่วโมงแหนะ  อ้อ
แล้วตัวเรียนเก้าโมงครึ่งใช่มั้ย”
“อืม
..แต่ว่าตอนเย็นเค้าเลิกช้านะ  สิรอเค้าที่โต๊ะแล้วกัน  เดี๋ยวเค้าเดินมารับเอง”
“ไม่ต้องหรอก  เค้าเดินไปหาตัวก็ได้”
“ไม่เอา  เค้าจะมารับเอง  ขืนให้ไปที่คณะเค้า ไอ้พวกนั้นก็แซวตายเลย”
“งั้นก็ได้  อืม
เค้าไปเรียนก่อนนะ”  ร่างบางเตรียมเดินแยกไป  แต่กรินทร์เรียกไว้ก่อน
“เดี๋ยวสิ”
“มีอะไรเหรอ”  สิชลเงนหน้าขึ้นมอง
“เค้ารักสิ”  จบประโยคแล้ว  กรินทร์ก็เดินจากไปทันที  ปล่อยให้หญิงสาวยืนหน้าแดงอยู่ตรงนั้น  ก่อนที่จะมีเพื่อนมาลากตัวไปเรียน
************************************************************************
สิชลและกรินทร์นั่งอยู่ที่ศาลาริมคลองที่เดิม
“กรินทร์  วันนี้ตัวเรียนหนักรึเปล่า  ดูหน้าซีดๆนะ”สิชลถาม  เพราะกรินทร์หน้าซีดมาหลายวันแล้ว  เหมือนคนไม่สบาย 
“เปล่าหรอก  ทำไมล่ะ  เป็นห่วงเค้าเหรอ”
“ก็เป็นห่วงน่ะสิ  ไม่งั้นจะถามทำไมล่ะ  เอ
..ถ้าเรียนไม่หนัก  ทำไมหน้าตัวซีดอย่างงี้นะ  ตัวไม่สบายรึเปล่า”
“เปล่านี่  แต่สงสัยนอนดึกไปหน่อย  ช่วงนี้รายงานเยอะเลย”  กรินทร์ปฏิเสธไปเนื่องจากไม่ต้องการให้สิชลเป็นห่วงมาก  ความจริงเค้าก็รู้สึกปวดหัวมาหลายวันแล้วเหมือนกัน  แถมยังมีอาการคลื่นไส้ตอนเช้าด้วย
“งั้นเอามาให้เค้าช่วยทำมั้ย  ตัวจะได้พักมั่ง”
“ไม่ต้องหรอกสิ  เค้าทำเองได้  ใกล้จะเสร็จแล้วด้วย”
“ตามใจ  แต่ถ้าตัวมีอะไรให้เค้าช่วยก็บอกนะ”  กรินทร์พยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นยืนเตรียมจะกลับบ้าน
“ดึกแล้วล่ะ  เค้ากลับบ้านก่อนแล้วกัน”
“อืม
ตัวเดินดีๆนะกรินทร์”
“ฝันดีนะสิ”
“จ้ะ  ตัวก็ฝันดีเหมือนกันนะ”
**********************************************************************************
“แม่คะ  กรินทร์มารึยังคะ”  สิชลโผล่หน้าเข้ามาถามมารดาในครัว  เธอนั่งรอกรินทร์ตั้งแต่เช้า  ว่าจะมาอ่านหนังสือด้วยกัน  แต่นี่ก็บ่ายแล้วยังไม่มาซะที
“ยังนี่จ๊ะ  แม่ยังไม่เห็นกรินทร์เลยตั้งแต่เช้า”
“ใครรอกรินทร์อยู่เหรอ”  บิดาของสิชลก้าวเข้ามาอีกคน  หลังกลับจากทำงาน
“สิค่ะพ่อ  พ่อเห็นกรินทร์มั่งมั้ยคะ  สิรอตั้งแต่เช้าแล้วเนี่ยะ”
“อ้าว
นี่สิยังไม่รู้เรื่องเหรอ  ว่ากรินทร์เข้าโรงพยาบาล”
“อะไรนะคะพ่อ”
“กรินทร์น่ะ  เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว  ได้ข่าวว่าปวดหัว  แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร  ตอนนี้ก็ยังไม่ออกมาเลยมั้ง”  คำบอกเล่าของบิดา  ทำให้สิชลหมดแรง  แทบจะทรุดอยู่ตรงนั้น
“ไม่มีใครบอกสิเลย”  สิชลพูดเสียงเบา
“แม่ก็เพิ่งรู้เหมือนกัน  ถึงว่า  เมื่อเช้าเดินผ่านบ้านโน้น  เห็นปิดเงียบเชียว”
“พ่อคะ  ไปส่องสิหน่อย  สิจะไปโรงพยาบาล”  สิชลรีบลุกขึ้นยืน
“แม่ไปด้วยแล้วกัน”
“อืม
.ดีๆ  งั้นไปเลยไป”
ที่โรงพยาบาล  หน้าห้องคนไข้ที่กรินทร์อยู่  พ่อและแม่ของเขานั่งรออยู่  สีหน้าท่าทางอมทุกข์  สิชลและพ่อแม่ของเธอรีบเดินเข้าไปหา
“ป้าบัว  ลุงวร  สวัสดีค่ะ”  สิชลยกมือขึ้นไหว้  แล้วนั่งลงข้างๆมารดาของกรินทร์
“หนูสิ  วรรณกับยุทก็มาด้วยเหรอ” บวร  บิดาของกรินทร์ทักผู้มาใหม่
“ครับพี่วร  เป็นห่วงกรินทร์  แล้วนี่
ทำไมออกมานั่งข้างนอกกันล่ะครับ”  บิดาของสิชลถาม
“พยาบาลเข้าไปให้น้ำเกลือน่ะ”
“ป้าบัวคะ  ตกลง
.กรินทร์เค้าเป็นอะไรคะ”  สิชลถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง  ทุกครั้งที่กรินทร์ไม่สบาย  เธอจะต้องรู้เป็นคนแรก  แต่ครั้งนี้  ทำไมไม่มีใครบอกเธอ
“กรินทร์เค้า
.เป็นมะเร็วสมองระยะสุดท้าย  หมอบอกว่าคงไม่เกิน 3 เดือน”  มารดาของกรินทร์ตอบหญิงสาวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ทำไม
ทไมไม่ใครบอกสิเลย  ทำไมต้องเป็นกรินทร์  ทำไม
..”  สิชลครางเบาๆ  น้ำใสๆคลออยู่เต็มหน่อยตา  ทำท่าจะหยาดหยดลงในไม่ช้า
“ใจเย็นๆก่อนนะหนูสิ”  หญิงวัยกลางคนดึงร่างบางของสิชลเข้าไปปลอบประโลม  “ที่ไม่มีใครบอกหนูเพราะกรินทร์เค้าห้ามไว้  เค้าไม่อยากให้หนูไม่สบายใจนะลูก”
ทันทีที่นางพยาบาลสาวก้าวออกมาจากห้อง  สิชลก็ลุกขึ้นยืนแล้วปาดน้ำตาทิ้ง
“สิขอเข้าไปหากรินทร์นะคะ”  สิชลรู้สึกว่าตัวเบาโหวง  เหมือนหัวใจถูกกระชากออกไป  สายตาก็พร่ามัวด้วยละอองน้ำตา  ทั้งที่พยยามกลั้นเอาไว้
“ไปเถอะลูก  กรินทร์เค้าคงอยากเจอหนู”  มารดาของกรินทร์อนุญาตทันที  เพราะรู้ว่าสองคนนี้ผูกพันกันมากขนาดไหน  ตั้งแต่เล็ก  ถ้าใครไม่สบาย  อีกฝ่ายก็จะร้องไห้งอแง  วงเวียนเฝ้าอยู่ไม่ยอมห่าง
หญิงสาวรวบรวมความกล้าผลักระตูบานที่เธอคิดว่าหนักที่สุดเข้าไป  ร่างโปรงบางก้าวไปเรื่อยๆ  สายตาของเธอแลไปรอบห้อง  พบร่างสูงที่คุ้งเคยกึ่งนั่นกึ่งนอนอยู่บนเตียง  ใบหน้าของเขาซูบซีดลงมาก  แต่ถึงกระนั้น  เข้าก็ยังพยายามส่งยิ้มมาให้เธอ
“กรินทร์  ตัวเป็นไงมั่ง  เจ็บมากรึเปล่า”  สิชลเดินเข้าไปหยุดอยู่ข้างเตียง  ปากก้เริ่มพร่ำถามเขาด้วยความห่วงใย
“เค้าไม่เป็นไรมากหรอกสิ  อย่าทำหน้าอย่างงั้นซิ”  กรินทร์ยิ้มอ่อนๆกลับไปให้เธอ  เขามองดวงตาคู้สวยที่แดงก่ำ  นี่แหละ  สาเหตุที่เขาไม่อยากบอกเธอ
สิชลก้มหนาลงนิ่งอยู่นาน  ก่อนเงยหน้าขึ้นถามด้วยซุ่มเสียงน้อยใจ
“กรินทร์  ทำไมตัวไม่ยอมบอกเค้า  ให้เค้ารู้จากคนอื่น  ตัวเคยบอกเค้าว่าเราจะไม่มีความลับกันไม่ใช่เหรอ  แล้วทำไมตัวทำแบบนี้ล่ะ”
“เค้าไม่อยากให้สิเป็นห่วง  เค้าไม่อยากเห็นสิร้องไห้”
“แล้วตัวคิดว่าเค้าไม่เป็นห่วงตัวเหรอ”  หญิงสาวเริมสะอึกสะอื้น  น้ำตาพร่างพรูลงมาไม่ขาดสายจนกรินทร์ตกใจ  ต้องดึงร่างบางเข้ามากอดไว้
“อย่าร้องไห้เลยนะสิคนดี  เค้าไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย  สิยิ้มให้เค้าดูหน่อยนะ”
“ทำไมตัวไม่ยอมบอกเค้าตั้งแต่แรก  เวลาสามเดือนมันนิดเดียว  เค้าอยากอยู่กับตัวนานๆ”
“นั่นแหละที่เค้าไม่อยากบอก  เค้าก็อยากอยู่กับสินานๆ  อยากเห็นสิยิ้ม  สิหัวเราะ  รู้มั้ยสิยิ้มสวยนะ  เวลาเค้าเห็น  เค้ามีความสุขมากเลย”
“ถ้าอย่างงั้น  เค้าจะไม่ร้องให้แล้วล่ะ  ตัวจะได้มีความสุข”  หญิงสาวผละออกจากอ้อมกอดของเขา  พลางเช็ดน้ำตาจนแห้งสนิท
“งั้นสิสัญญากับเค้านะ  ว่าจะไม่ร้องไห้อีก  ได้มั้ย”
“ได้ซิ  เค้าสัญญา  ต่อไปนี้เค้าจะยิ้มให้ตัวตลอดเวลาเลย”
*****************************************************************************
เวลากว่าสามเดือนที่ผ่านมา  กรินทร์อยู่ที่โรงพยาบาลตลอด  โดยท่มีสิชลคอยเฝ้าวนเวียนอยู่ไม่ห่าง  เธอทำทุกอย่างตามใจเขา  กรินทร์เองก็ดูจะมีความสุขมาก  และไม่มีทีท่าว่าอาการจะทรุดลง  จนวันนี้
“กรินทร์ๆ  ตัวเป็นอะไร  บอกเค้าสิ”  สิชลเขย่าร่างที่นอนอยู่เบาๆ
“เค้าปวดหัวมากเลยสิ”  กรินทร์นอนกุมหัวอยู่ตลอกเวลา  ใบหน้าคมเริ่มบิดบี้ยวจากอาการปวดที่เพิ่มมากขึ้น
“เค้าไปตามหมอให้ตัวนะ  ตัวอย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ”  หญิงสาวบอกแล้ววิ่งตัวปลิวออกจากห้องไป  ไม่กี่อึดใจ  ทั้งหมอและพยาบาลก็กรูเข้ามาพร้อมด้วยเครื่องมือครบครัน  ส่วนตัวสิชลก็ถูกกันอยู่ข้างนอก
ร่างบางเดินกระวนกระวายอยู่หน้าห้อง  ซักครู่  นายแพทย์เจ้าของไข้ก็เดินออกมาบอกเธอ
“หมดเวลาของเขาแล้วนะครับ”  เท่านั้น  หญิงสาวก็แทบจะกระโจนเข้าห้องไปทันที
“กรินทร์  ตัวเป็นไงบ้าง”  เสียงของสิชลเริ่มสั่น  น้ำตาก็ปริ่มๆอยู่ตรงขอบตา
“เค้าหายปวดหัวแล้วล่ะ  สิร้องไห้ทำไม  ไหนสัญญากันแล้วไง”
“เค้าขอโทษนะ”  สิชลกล้ำกลืนน้ำตาลงไป  เพื่อให้คนที่เธอรักสบายใจ
“สิ  เค้าว่าวันนี้ท้องฟ้าสีสวยนะ”  กรินทร์เริ่มคุยกับเธอเหมือนปกติ  แต่สิชลก็ยังทำใจไม่ได้
  “กรินทร์  บอกเค้ามาสิว่ามันไม่จริง  ตัวจะอยู่กับเค้าตลอดไปไม่ใช่เหรอ”
“สิ
สิต้องยอมรับความจริงแล้วนะ  หมดเวลาของเค้าแล้ว”
“ไม่จริง  ตัวสัญญากับเค้าแล้วนี่ว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”
“จริงๆ  เค้าจะอยู่กับสิตลอดไป  เค้าไม่ได้ไปไหนซักหน่อย”
“แต่
..”
“จำไว้นะสิ  ถึงตัวเค้าจะไม่อยู่ที่นี่  แต่ใจเค้าจะอยู่กับสิตลอดไป  ไม่ว่าสิจะอยู่ที่ไหน  เค้าจะอยู่ข้างๆสิเสมอ  เค้าจะดูแลสินะ”
“จริงๆนะ”
“อืม
..จริงซิ  เค้าเคยหลอกสิเหรอ”  กรินทร์ยิ้มให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน
“เค้ามีอะไรจำให้สิด้วยนะ”  ชายหนุ่มล้วงเข้าไปใต้หมอน  หยิบสายสร้อยเงินที่มีจี้รูปหัวใจออกมา  แล้วยื่นให้สิชล
“สวยจัง  เค้าใส่เลยนะ”  กรินทร์พยักหน้าให้
“สิ  เวลาสิคิดถึงเค้า  ก็หยิบสร้อยขึ้นมาดูนะ”
“กรินทร์  ตัวจะไปแล้วจริงๆเหรอ  ตัวจะไม่รอเค้าเหรอ”
“ใครบอกล่ะ  นี่สิจำตอนเราเด็กๆไม่ได้เหรอ  ถ้าใครตายก่อนจะต้องรออีกคนด้วย  จะได้ไปเกิดพร้อมกัน”
“จำได้”
“เค้าจะรอสินะ  ที่ปลายฟ้าโน่นไง  เค้าอยู่ที่นั่นแหละ”
“ตัวจะรอเค้าจริงๆนะ”
“อืม
”
กรินทร์เกาะกุมมือของสิชลไว้แน่น  เขารู้ตัวแล้วว่าถึงวาระสุดท้ายของชีวิต  แต่เขาก็ไม่กลัว  เพราะรู้ว่า  สิชลจะอยู่เคียงข้างเขาจนลมหายใจสุดท้าย
“สิ  เค้าง่วงแล้วนะ  จูบเค้าหน่อยซิ”
“สิชลโน้มตัวลงมา  ริมฝีปากบางประทับอยู่กลางหน้าผากของเขาอย่างแผ่วเบา
“ถ้าตัวง่วงก็หลับซะนะ  หลับให้สบาย  เค้าจะอยู่กับตัวนี่แหละ  ไม่ไปไหนหรอก”
“สิ  ยิ้มให้เค้าดูอีกทีนะ”
สิชลยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน  ยิ้มที่จากเธอที่เขาจะเห็นเป็นครั้งสุดท้าย
กรินทร์ยิ้มตอบกลับมา  จากนั้นเขาก็หลับตาลงอย่างเป็นสุข  ใบหน้านั้นยังเปื้อนรอยยิ้มนิดๆ  สิชลกุมมือเขาอยู่ไม่ยอมห่าง  เธอโน้มตัวลงไปกระซิบที่ข้างหูเขา
“กรินทร์  เค้ารักตัวนะ”
******************************************************************************************
งานศพของกรินทร์จัดขึ้นอย่างเงียบๆ  มีเพียงคนที่รักเขาเท่านั้นที่มา
สิชลยืนมองควันสีขาวที่ออกมาจากล่องไฟอย่างสงบ  เธอเพิ่งเข้าไปลาเขาเป็นคนสุดท้าย  ต่อจากนี้  จะไม่มีกรินทร์คอยรับส่งเธอ  คอยเอาอกเอาใจเธอ  จะมีเพียงภาพของกรินทร์ที่อยู่ในหัวใจของเธอเท่านั้น
ร่างบางแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยน  แปลก
..ที่เธอไม่รู้สึกอ้างว้าง  คงจะเป็นเพราะเขา  สิชลรู้ว่าเขายังไม่ไปไหน  อะไรที่กรินทร์สัญญาไว้  เขาต้องทำได้เสมอ
ความในใจของสิชลที่อยากให้เขารับรู้  เธอจะฝากสายลมไปบอกเขา
‘กรินทร์  ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน  เค้าจะรักตัวตลอดไป  ตัวรอเค้าที่ปลายฟ้าโน่นนะ  อีกไม่นานนักหรอก เค้าจะตามไปหาตัว  แล้วเราจะได้พบกันอีกครั้ง  ลาก่อน
.’
****************************************************************************
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น