............ - ............ นิยาย ............ : Dek-D.com - Writer

    ............

    รัก คือสิ่งที่มีค่า จะรักษามันไว้ได้หรือไม่ขึ้นอยุ่กับคัวคุณเอง

    ผู้เข้าชมรวม

    428

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    428

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 ก.ค. 46 / 23:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      แสงไฟติดๆดับๆจากเสาไฟฟ้าข้างทาง อาจทำให้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นสมุดเล่มหนึ่งซึ่งตก
      อยู่ระหว่างกอหญ้า ที่เกิดจากที่ดินรกร้างข้างฟุตบาท แต่ไม่เคยมีใครสักคนคิดจะหยิบ
      มันขึ้นมา ปล่อยให้สมุดที่เคยสีสันสดใสเล่มหนึ่งนอนอยู่กับกอหญ้า ผ่านลมและฝนมานาน
      พร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่นับวันยิ่งเลือนลาง เพราะน้ำฝน...
      แต่ฝนไม่สามารถลบเลือน คำสัญญาจากจิตใจคนๆหนึ่งได้
      ชีวิตของเด็กมัธยมปลายทุกคนคงไม่สามารถหลีกหนีไปจาก
      เรื่อง เพื่อน ความฝัน ความรัก เอ็นทรานซ์ ไปได้
      และทั้งหมดนี้คือที่มาของเรื่อง ราวของผมที่เริ่มต้นที่ห้องเรียนศิลปะ ผม บอม กบ
      ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันมาตั้งแต่ ม.ต้นได้มาอยู่ห้องเดียวกันในชั้นม.4
      คงเป็นเหตุการณ์นั้นที่ทำให้พวกเราได้รู้จัก กับนุ่น
      “นี่เธอ...เธอ..ยืมของเราก็ได้นะ” บอมพูดพร้อมกับยื่นดินสอ 2b ให้ 1 แท่ง
      เธอก็รับไปพร้อมด้วยรอยยิ้มและเหล็กดัดฟันกลับมา รอยยิ้มที่เราได้เห็นทำให้
      พวกผมนึกไปถึงรอยยิ้มของน้องสาวตัวเล็กๆน่ารักคนหนึ่ง หลังจากหมดชั่งโมงศิลปะ
      พวก ผมอาสาพาเธอไปกินข้าวที่โรงอาหารและตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอก็เป็นส่วนหนึ่ง
      ของกลุ่มพวกผม พร้อมกับความแปลกใจของหลายๆคนที่เห็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง
      นั่งอยู่ในกลุ่มของเด็กผู้ชายที่กำลังคุยกันเสียงดังด้วยคำสบถต่างๆ ซึ่งเป็น
      คำธรรมดาในความคิดของเด็กผู้ชาย .. จากวันเป็นเดือน......จากเดือนเป็นปี....
      เมื่อ เพื่อนคบกันมานานก็ย่อมรู้ใจกัน... และเริ่มรับรู้บางอย่างในวันที่นุ่นตัดผมสั้นมา ใหม่
      “เฮ้ยนี่แกอะไรเข้าฝันวะ” ผมพูด “อี๋...ทรงเก่าดีกว่าแยะเลย” กบพูดพร้อม กับเสียงหัวเราะจากทุกคน
      “แต่เราว่าน่ารักดีนะ” บอมพูด คำๆนี้ของบอมทำให้หน้า ขาวๆของนุ่นแดงขึ้นมา
      ตั้งแต่เราเริ่มสังเกตุจากวันนั้นเราก็รู้ว่าคำพูดของบอมมี อิทธิพลกับนุ่นมาก
      และรู้ว่านุ่นต้องแอบปลื้มบอมไม่มากก็น้อย แต่ไม่เคยมีคำว่ารัก
      คำใดๆเกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อน ณ.โต๊ะประจำกลุ่มของเรา “ขนมมาแล้วจ๊ะ”
      เสียงใสๆของ นุ่นที่มาพร้อมกับขนมหลายถุงที่ถือเดินคู่มากับบอม (การซื้อขนมเลี้ยงของนุ่นมัก
      เป็นกิจวัตรประจำ พวกเราเคยปฎิเสธเพราะพวกผมยังไม่รู้ว่านั่นมาจากเงินเล็กน้อยของคุณหนูนุ่นนั่นเอง)
      ขณะที่กินขนมอยู่นั้นนุ่นถามถึงอาชีพในอนาคตของทุกคน ผม กับ กบ ยังไม่ได้คิดอะไร
      ถ้า เอ็น ติดอะไรก็เรียนไป ความฝันของบอม คือ เข้าเรียน เศรษฐศาสตร์ที่ธรรมศาสตร์
      และเป็นนักวิเคราะห์การเงินเหมือนพ่อของเขา ความฝันของ

      นุ่นที่ต้องการเป็นนักสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็กไม่ทำให้พวกผมแปลกใจเลย
      เพราะการ ชอบช่วยเหลือผู้อื่นและมองโลกในแง่ดีที่เป็นนิสัยของเธอ สิ่งที่เรารู้กันเลยก็คือ
      นุ่นต้องอยากเรียนสังคมสงเคราะห์ที่ธรรมศาสตร์แน่นอน เมื่อนุ่นพุดจบบอมก็หยิบสมุด
      จดศัพย์ภาษาอังกฤษของนุ่นที่วางอยู่มา เปิดไปหน้าสุดท้ายของสมุดแล้วเขียนว่า... เรา
      สองคนจะต้องเป็นลูกแม่โดมให้ได้นะ.....ลงชื่อ....บอม ...
      สิ่งที่เราเห็นต่อมาคือ รอยยิ้มของนุ่นพร้อมกับหน้าแดงนาน 2-3นาที.
      ยิ้มน่ารักมากกว่าสิ่งใดๆ............
      วันแรกของม.6ไม่มีอะไรมากนอกจากการฉลองที่นุ่น
      ได้อนุญาติให้ไป-กลับโรงเรียนเอง เหมือนนักเรียนทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่นุ่นต้องการมาตลอด 4-5
      ปีที่แม่คอยรับคอยส่ง.. วันนี้ผมได้เห็นอาการดีใจของคนที่ได้รับสิ่งที่ผมเรียกมันว่า .....”อิสรภาพ”
      ......... ชีวิตของนักเรียนม.6 หลายๆคนคงไม่พ้นการเรียนพิเศษต่อตั้งแต่ 5 โมง-2 ทุ่ม
      แต่การที่ได้เรียนกับเพื่อนรักของผมทำให้ผมไม่เคยคิดเหนื่อยหรือท้อแท้ เลย โต๊ะ 4
      ตัวหลังสุดเป็นที่รู้กันว่าเป็นโต๊ะของกลุ่มผมขณะที่พวกเรากำลังนั่ง คุยรออาจารย์อยู่นั้น
      บอมได้ชี้ไปที่นักเรียนหญิงใส่ชุดuniformแขนยาว หน้าตาสวยมาก คนหนึ่ง พร้อมพูดว่า
      “นี่ดูผู้หญิงคนนั้นสิเราชอบเขามากเลยนะ”
      ตั้งแต่วันนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นประเด็นสนทนาในกลุ่มอีกบ่อย แต่ทุกครั้งที่พูดถึงผู้หญิงคนนั้นผม
      รู้สึกว่านุ่นมีความรู้สึกแปลกๆที่ไม่แสดงออกมา จนผมคิดว่าต้องให้บอมถามให้ได้ว่า
      เป็นอะไรเพราะเขาสองคนสนิทกันมากที่สุด แต่บอมก็ไม่เคยสงสัยและถาม สักพักผมเลิกสน

      ใจกับสิ่งนี้เพราะผมก็แค่ผู้ชายที่ไม่เคยคิดจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้หญิง
      เวลาที่พวกผมได้ผักผ่อนมากที่สุดจากการเรียนคงเป็นตอนหลังเลิกเรียนพิเศษ
      ซึ่งพวกผม จะเวียนไปฝากท้องตามร้านต่างๆ หลังจากนั้นก็มักไปเล่นเกมส์
      เกมส์ประจำตัวของผม คือ daytona ของกบชอบเล่น djโดยเฉพาะตอนมีสาวๆ
      มองเยอะจะออกลีลาเป็นพิเศษ เครื่อง ตู้เกมส์ เตอติส ที่อยู่หลังร้านเหมือนเป็นเกมส์ที่สร้างมา
      เพื่อ บอมและนุ่น ผมได้ เห็นทั้งคู่เล่นด้วยกัน เล่นแข่งกันได้ ดูเวลาที่เขาแกล้งกัน
      นุ่นมักปัดมือของบอม ให้ออกจากจอยเกมส์เป็นประจำ เวลาที่ทั้งคู่เล่นแข่งเพราะ
      บอมเป็นคนที่เล่นเก่งมาก
      แต่บอมก็ชอบและไม่เคยเห็นบอมโกรธนุ่นสักครั้งเวลาที่นุ่นคอยแหย่คอยกวน ผมคิดว่า
      ทั้งคู่คงมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้ๆกัน พลางคิดไปถึงคำพูดใน หนังรักออกแบบไม่ได้
      ที่ว่า ”เป็นเพื่อนกันดีที่สุดจะได้คบกันนานๆ”แต่สำหรับสำหรับคู่นี้ผมนึกภาพไป
      ถึงตอนที่ทั้งคู่เป็นคนชราคู่หนึ่ง ที่ใช้เวลาบั้นปลายชีวิตนั่งนับดาวบนท้องฟ้าด้วย กัน
      และต่อเติมความสุขซึ่งกันและกัน ทุกครั้งที่มองคู่นี้อยู่ด้วยกันผมคิดว่าเค้า
      กำลังร่วมสร้างและต่อเติมความรักซึ่งกันและกันอยู่ แม้เพื่อนสนิทอย่างผมจะแซวว่า
      ทั้งคู่ไม่เหมือนแค่เพื่อนสนิทเท่านั้นนะคู่นี้ แต่ว่าสิ่งที่ผมเห็นคือรอยยิ้มของ ทั้งคู่พร้อมอาการเ
      ขิน
      และสายตาของนุ่นที่หันไปมองบอม แล้วทั้งคู่ก็ช่วยกันปฎิเสธ แล้วนุ่นก็มักจะพูดว่า
      ”พวกนี้เนี่ยไม่พูดด้วยแล้ว” พรอ้มกับหันหลังเดินไปซื้อ ขนมและบอมก็เดินตามติดๆกันไป
      วันศุกใกล้ปิดคอร์สเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเมื่อพวกเรามา ถึงที่เรียนพิเศษปรากฏว่าไฟดับ
      โรงเรียนจึงนัดชดเชยให้วันอื่น วันนี้จึงไม่ค่อย ได้เรียนเพราะวันศุกที่โรงเรียนมีเรียนแค่2วิชา
      พวกเราจึงถือสมุดหนังสือไปเรียน เพียงไม่กี่เล่ม หลังจากนั้นพวกเราจึงไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า
      วันนี้นุ่นผิด ปกติดูซึมๆตั้งแต่เช้า พวกเรารบเร้าเท่าไหร่ก็ไม่บอก ขณะที่เดินเล่นกันอยู่บอม
      ได้จับหน้าผากของนุ่น บอมตกใจมากเพราะนุ่นตัวร้อนจัด
      บอมจึงพูดว่า”นุ่นเธอตัวร้อน มากนะกินยาอะไรหรือยัง?”
      “ปวดหัวนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก” นุ่นตอบ พวกผมจึงรบ

      เร้าให้นุ่นรีบกลับไปผักผ่อนที่บ้านและตัดสินใจให้บอมเดินไปส่งนุ่นขึ้นtaxi
      โดยผม กับกบจะไปรอที่food center ก่อนที่ผมจะแยกย้ายกับนุ่น บอมแซวนุ่นว่า
      “นี่ไม่สบาย ขนาดนี้ยังไม่ยอมนอนพักอยู่บ้านอีก”
      “ก็ฉันเป็นเด็กขยันนะซิจ๊ะ” นุ่นตอบพร้อมกับ ยิ้มมา
      “ดูนุ่นสิหน้าเหมือนคนจะตายอยู่แล้วยังยิ้มออกอีก”
      บอมพูดไปโดยไม่รู้ว่ารอย ยิ้มนี้จะเป็นรอยยิ้มที่พวกผมจะไม่มีวันลืม
      สำหรับผมเหตุผลเดียวที่นุ่นมาเรียนวัน นี้คือการที่ได้มานั่งเรียนพิเศษข้างๆบอม
      หลังจากผมแยกย้ายกับนุ่นบอมก็เดินไป ส่งนุ่นขึ้นtaxi กลับบ้าน
      ........เอี้ยด.....ปัง......อัก...... รถบรรทุกคัน

      หนึ่งวิ่งคร่อมเลนมาชนกับtaxiคันหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วค่อนข้างสูง
      ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยกระเด็นกระแทกกระจกรถออกมาตกลงบนพื้น
      และไถลไป ข้างหน้าอีก7-10 เมตร สมุด หนังสือ ดินสอกระจัดกระจายอยู่บนถนน
      บ้างบนทางเท้าบ้าง กล่องดินสอ มือถือแตกเป็น 2 ส่วน พลเมืองดีผู้หนึ่งอุ้มร่าง
      ที่เต็มไปด้วยเลือดและ บาดแผลไปส่งโรงพยาบาล เช้าวันเสาร์ ณ ที่เรียนพิเศษ
      วิชาคณิตพวกผมรู้สึกแปลกใจที่ นุ่นมาเรียนสาย เพราะปกตินุ่นจะมาเป็นคนแรก
      แต่พวกผมก็คิดว่านุ่นคงยังไม่ค่อยสบาย และผักผ่อนอยู่ที่บ้าน แต่ขณะที่เริ่มเรียนไปได้15นาที
      เพจของบอมก็ดังขึ้นพรอ้ม กับข้อความจากแม่ของนุ่นที่ว่า ตอนนี้นุ่นอยู่ห้อง ICU
      โรงพยาบาลเปาโล ต้องการพบบอมด่วน เมื่อพวกผมอ่านข้อความนี้จบก็เดินออก
      จากห้องทัน ีมารู้ตัวอีกทีก็คือเห็นรอยช้ำของขอบตาที่เกิดจากการร้องไห้ของแม่ของนุ่น
      พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ยอม หยุดที่หน้าห้องICU
      เมื่อเราเดินเข้าไปในห้องหมอบอกพวกผมว่านุ่นเสียเมื่อ 5 นาทีที่แล้ว
      พวกผมเหมือนตกอยู่ในภวัง น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากทุกคนที่เรียกตัวเองว่า
      ลูกผู้ชาย ทุกคนยืนร้องไห้อยู่ข้างๆเตียงของนุ่น ไม่มีสักคนเปิดผ้าที่คลุมร่างที่
      ไร้วิญญาณของนุ่น ูเพราะทุกคนรู้ดีว่านุ่นไม่ต้องการให้ใครเห็นนุ่นในสภาพอย่าง
      นี้แน่ เหตุการณ์นี้แม้ว่าผมจะเสียใจมาก แต่ยังไงก็คงไม่เท่าบอมเพราะทุกคนรู้ดีว่า
      บอมเสียใจมากที่สุด แต่บอมก็เก่งมากเพราะหลังจากนั้นอาทิตย์หนึ่งก็ไม่เห็นบอม
      ร้องไห้อีก ขณะนั่งเรียนวิชาคณิตในคาบที่ 7 หลังจากงานชาปณกิจนุ่น 2 วัน แม่ของ
      นุ่นได้ขออนุญาติอาจารย์เดินเข้ามาหาบอมในห้องและพูดว่า ” ในห้องICU
      ก่อนที่นุ่นจะ สิ้นใจนุ่นบอกกับแม่ให้นำ diary เล่มนี้มาให้บอมให้ได้”
      แล้วแม่ของนุ่นก็ยื่นถุง กระดาษที่ข้างในมีdiary เล่มหนึ่งมาให้
      หลังจากหมดคาบผมและบอมได้หยิบdiary ขึ้นมา มันเป็นdiary เล่มสีชมพู
      ที่นุ่นใช้เขียนความคิดและความฝันต่างๆของนุ่น ชื่อของบอมมีอยู่ในdiary
      ของนุ่นทุกหน้าตั้งแต่วันที่เธอได้พบกับบอมที่ห้องศิลปะ
      เมื่อพลิกกลับมาช่วงกลางเล่มน้ำตาของบอมก็หยดลงบนรูปๆหนึ่งที่นุ่นวาดขึ้นใน
      diary เป็นรูป นุ่นกับบอมที่ยืนยิ้มโดยนุ่นยืนกอดแขนบอมอยู่และทั้งคู่ใส่ชุด
      นักศึกษามหาลัยธรรม ศาสตร์
      “ทำไมนุ่นไม่รู้ล่ะว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน”
      บอมพูดเมื่ออ่านdiary และได้ รู้ว่านุ่นรอคอยคำว่ารักจากบอมอยู่
      และเมื่อช่วงหนึ่งในdiary จึงได้รู้ว่า นุ่น เข้าใจผิดว่าบอมไปรักผู้หญิงคนหนึ่ง
      ที่บอมชี้ให้พวกเราดู ณ ที่เรียนพิเศษ สิ่ง ต่อมาที่ผมได้รู้ก็คือ นุ่นไม่เคยเข้า
      ใจสิ่งที่บอมพูดเสมอในกลุ่ม ว่า รัก กับ ชอบ นั้นแตกต่างกันมาก
      ผมได้แต่นึกเสียดายที่บอมไม่ยอมพูดความรู้สึกของตัวเองให้นุ่น ได้รับรู้
      ได้แต่ปล่อยให้นุ่นคิดไปต่างๆนาๆ เพราะถ้าบอมได้พูดและอธิบายความรู้สึก
      ของตัวเอง นุ่นก็คงจากไปอย่างมีความสุขกว่านี้ ก่อนการเร่งสอบปลายภาคไม่กี่วัน
      เพื่อให้เวลานักเรียนอ่านหนังสือเตรียมเอ็น ครั้งที่ 2 ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกัน
      กบได้ตะโกนถามเพื่อนๆทุกคนว่า ถ้าตอนนี้มีพรวิเศษขออะไรก็ได้สิ่งหนึ่งจะขออะไร คำ
      ตอบที่ได้ก็แตกต่างกันไป บ้างขอให้ หล่อ รวย สวย เอ็นติด ทุกคนตอบต่างๆกันไป เมื่อ
      กบหันมามองหน้าบอมทุกคนก็หันมาเหมือนจะรอคำตอบจากบอม
      “เราขอแค่ได้พบนุ่นอีกครั้งแล้วเราจะบอกเค้าว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน”
      บอมตอบมาพร้อมๆกับน้ำตาที่ค่อยๆคลอออกมา
      หลังที่บอมพูดจบเพื่อนในห้องหลายคนหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาของตน
      วันนั้นผมจึงได้รู้ว่า นุ่นยังคงอยู่ในใจของบอมอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
      วันที่ผมได้รู้ อานุภาพของความรักก็คือวันประกาศผลเอ็น
      เรานัดเปิดซองจดหมายผลสอบพร้อมกันที่บ้าน ของกบ กบติด ม.เชียงใหม่
      ผมติด ที่ประสานมิตร แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจมากคือ คน ที่ได้คะแนน60
      กว่าเกือบทุกวิชาไม่ติดเศรษฐศาสตร์ได้อย่างไร แต่คำอธิบายของบอมก็ทำ
      ให้ผมรู้ว่าบอมทิ้งความฝันที่จะเป็นนักการเงินของเขา มาเรียนสังคมสงเคราะห์
      เพื่อเดินตามความฝันของนุ่น ทำให้ผมได้เห็นความรักที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของคนๆหนึ่ง
      ความฝันของบอมเปลี่ยนเป็นการได้สร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และได้นำชื่อณัฐธิดาที่เป็น
      ชื่อจริงของนุ่นมาตั้งเป็นชื่อสถานเลี้ยงเด็ก เพื่อเป็นอนุสรณ์ของผู้หญิงจิตใจดี
      งามคนหนึ่งที่เค้าได้เคยพบเจอในชีวิต คนที่ไม่รู้จักบอมดีจะมองเค้าเป็นผู้ชายธรรมดา
      คนหนึ่งที่ปิดตัวเองไม่ยอมเปิดใจให้ใคร แต่สำหรับผมรู้ดีว่าใครอยู่ในหัวใจของเขา
      ตลอดเวลา ........
      ในเวลาโพล้เพล้สายลมลมพัดเมฆมาก่อตัวรวมกันจนกลั่นป็นเม็ดฝนลงมาสู่ดินทุกหนแห่ง
      ลมพัดเข้ามาในหัองผมอย่างแรงทำให้กรอบรูปที่มีรูปถ่ายของพวกเรา อยู่ คว่ำด้านหน้าลง
      ผมหยิบมันพลิกขึ้นวางที่เดิม และมองไปที่รูปนั้น อีกครั้ง
      หนึ่งที่มันทำให้ผมนึกถึง ..เธอ... .. เธอ
      ผู้ที่ทำให้พวกผมรู้ได้รู้ว่าคนดัดฟันกิน อาหารบางอย่างไม่ได้ .. เธอ
      ผู้ที่ทำให้พวกผมได้หัดฟังเพลงค่าย DOJO CITY เธอ ผู้ที่แนะนำให้พวกผมมองโลกในแง่ดี
      และออกไปต่อสู้กับปัญหาเธอ ผู้ที่นำความงดงามของ จิตใจเธอมาให้พวกผมได้สัมผัสเธอ
      ผู้ที่มาเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกผม เธอ ผู้ที่จาก ไปอย่างไม่มีวันกลับมา
      ฝนยังคงกระหน่ำลงบนถนนสายหนึ่ง เม็ดฝนกระหน่ำลงมาปานจะฉีก
      สมุดที่อยู่ในดงหญ้าข้างๆทางเท้าเล่มหนึ่งยุ่ยขาดเป็นส่วน แม้จะผ่านลมฝนลมหนาว
      มานานเท่าใดแต่สมุดเล่มนี้ก็ยังคงอยู่ที่เดิม พร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่ไม่อาจเป็น
      จริงได้เพราะคนๆหนึ่งได้จากไปแล้ว
      “รัก” บางคนคิดว่าเป็นความรู้สึกที่ไม่ จำเป็นต้องพูด แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่ามีบางคนใช้ชีวิตเพื่อเ
      สาะหาและรอคอยคำๆนี้จาก
      ปากคุณอยู่ เมื่อคุณมั่นใจแล้วคุณควรที่จะพูดออกไป
      ดีกว่าที่จะต้องมานั่งเสียดาย และเสียใจเพราะว่าวันนี้เป็นวันที่...สาย...เกิน...ไป.... ขอบคุณ เพียง
      ความทรงจำ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×