ความรักครั้งใหม่ หัวใจดวงเดิม - ความรักครั้งใหม่ หัวใจดวงเดิม นิยาย ความรักครั้งใหม่ หัวใจดวงเดิม : Dek-D.com - Writer

    ความรักครั้งใหม่ หัวใจดวงเดิม

    อ่านซะๆๆๆ

    ผู้เข้าชมรวม

    761

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    761

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 มี.ค. 47 / 10:12 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ความรักครั้งใหม่ หัวใจดวงเดิม

      “เอ๊ะ พี่อ๊ะนี่ พูดจากันไม่รู้เรื่องเหรอยังไงนะ จิ๊บบอกแล้วยังไงล่ะว่า…เราไม่เหมาะสมกัน ดันทุรังไปก็ฝืนใจกันเปล่า ๆ เพราะ-ฉะ-นั้น… เราเลิกกันเถอะค่ะพี่อ๊ะ”

      “เดี๋ยวสิจิ๊บ พี่ไม่ยอมเลิกกับจิ๊บหรอกน่ะ เรื่องอะไรมาบอกเลิกกันเฉย ๆ แบบนี้ หรือว่า…จิ๊บพบคนที่ดีกว่าพี่แล้ว ใช่ไหมจิ๊บ บอกพี่มา… ใช่ไหม???”

      “ใช่ค่ะ หล่อกว่า รวยกว่า และเก่งกว่าพี่อ๊ะตั้งเยอะเลยด้วย แค่นี้ใช่ไหมค่ะที่พี่อ๊ะอยากรู้… เอาล่ะ ปล่อยจิ๊บได้แล้ว ปล่อยจิ๊บนะ”

      “อ๋อ………ที่แท้…ก็มีทางเลือกใหม่นี่เอง งั้นก็เชิญไปเลย ไปเซ๊ะ… ไปเล้ย… ไป… ไป๊…” อธินตะโกนไล่เสียงดัง

      “ไปแน่ค่ะ ไม่ต้องมาไล่จิ๊บหรอก ยังไง ๆ จิ๊บก็ต้องไปอยู่แล้วล่ะค่ะ แล้วก็……” จรินดาถอดแหวนจากนิ้วนางข้างซ้าย และส่งคืนให้ “เอาคืนไป จิ๊บไม่ต้องการมันอีกแล้ว ลาก่อนค่ะพี่อ๊ะ”

      “……………” อธินรับแหวนมาจากจรินดาอย่างเงียบ ๆ และไม่เสียงเล็ดลอดออกมาจากปากของเขาแม้แต่นิดเดียว

      “ลาก่อน และขอให้พบคนที่ดีกว่าจิ๊บนะค่ะพี่อ๊ะ แต่เอ…จิ๊บคิดว่าคงจะอีกนานเลย…… จริงไหมค่ะพี่อ๊ะ ฮิ ฮิ ๆ ๆ ๆ”

      จรินดาหันหลังกลับ และรีบเดินไปหานักศึกษาหนุ่มลูกครึ่งอีกคนหนึ่ง ซึ่งยืนอยู่ที่ Park ฝั่งตรงข้ามกับตึกเรียนของนักศึกษาที่เดินสวนกันไปสวนกันมา เพราะต่างคนต่างก็รีบเดินเข้าเรียนกันอย่างรีบเร่ง ด้วยความกลัวว่าจะไม่ทันเข้าเรียน
      ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      อธินเดินหน้าจ๋อยกลับเข้ามานั่งในโรงอาหาร ซึ่งอยู่อีกมุมหนึ่งของมหาลัย กลุ่มเพื่อน ๆ ต่างสงสัยกันใหญ่ว่าทำไมตอนไป ๆ กันสองคน แต่ตอนกลับ ๆ มาแค่คนเดียว

      “เฮ้ย ไอ้อ๊ะ แล้วน้องจิ๊บคนสวยไปไหนเสียแล้วล่ะเพื่อน” กิตติเพื่อนสนิทของอธินทัก

      “เออว่ะ น้องจิ๊บคนสวยหายไปไหนว่ะ ไอ้อ๊ะ เฮ้ย……ไอ้อ๊ะ…” เพื่อนอีกคนหนึ่งเรียกซ้ำ

      “อย่าถามได้ไหม รำคาญ อยากอยู่เงียบ ๆ“

      “อ้าว…เฮ้ย…อยากอยู่เงียบ ๆ แล้วเดินมาตรงนี้ทำไมว่ะ ไอ้…อ๊ะ…” กิตติด้วยความสงสัย เพราะเขารู้สึกว่าเพื่อนรักของเขาแปลกไปเพียงเวลาผ่านไปไม่นาน “มีอะไรเหรอเปล่า บอกพวกเราได้นะเพื่อน”

      “นิดหน่อยว่ะ เย็นนี้นายว่างป่าวว่ะ ไปดริ้งกันหน่อยดีกว่าซิ”

      “ก็ว่างอ่ะน่ะ นายถามทำไม…”

      “ดีเลย… งั้นเย็นนี้เจอกันที่ร้านเก่านะเพื่อน ข้าไม่ไหวแล้วว่ะ ตอนนี้ข้ารู้สึกเฮริต์สุด ๆ เลย เฮ้อ………ข้าอยากกลับไปนอนพักที่บ้านมาก ๆ เลยตอนนี้…” อธินพูดแบบหมดอาลัยตายอยาก พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

      “โอเค. เดี๋ยวเย็นนี้เจอกัน” กิตติรับคำกับอธิน ก่อนที่อธินจะเดินไปที่รถและขับออกจากมหาลัยไปอย่างรวดเร็ว
      ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      ภายในผับวัยรุ่นหนุ่มสาวกำลังดีดดิ้นกันด้วยความเมามันส์ในอารมณ์ แต่โต๊ะของอธินกับกิตติกลับเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด

      “เบา ๆ หน่อยไอ้อ๊ะ เดี๋ยวก็เมาหัวทิ่มตรงนี้หรอก” กิตติเริ่มทักท้วงอธิน เพราะเพื่อนหนุ่มเล่นดื่มเหล้าหยั่งกับดื่มน้ำเปล่าหยั่งงั้นแหละ

      “ข้าไม่ม่ายเว้ย… ไม่มาว…เล้ย………” อธินตอบเสียงอ้อแอ้ เพราะฤทธิ์เหล้า

      “เออ…ไม่เมาก็ไม่เมา ว่าแต่นายเล่าให้ฟังได้เหรอยังว่ะ ว่าทำไมถึงได้ชวนข้ามาดริ้งยังงี้”

      ‘มันช่างไม่รู้ใจเอาซะเลย เพื่อนโดนทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้ ยังจะคะยั้นคะยอถามอยู่ได้ โธ่เว้ย…คนยิ่งกำลังเฮริต์ ๆ อยู่’ อธินนึกในใจ

      “บอกก็ด้าย… ข้าเพิ่งอกหักมา คราวนี้ด้าย…ยินเต็มสองรูหูเหรอยาง… ว่าข้าเพิ่งอกหักมา… ได้ยินไหมว่า……” อธินตะโกนเสียงดัง จนคนที่อยู่โต๊ะข้าง ๆ หันมองมาด้วยความสงสัยบ้าง ตำหนิบ้าง

      กิตติรีบปิดปากเพื่อนตัวแสบที่กำลังเมาเพราะน้ำเหล้าทันที

      กิตติกระซิบข้างหูอธิน “เบา ๆ โว้ย…ไอ้อ๊ะ ข้ารู้แล้ว ไม่ต้องตะโกนเสียงดังก็ได้ ข้าได้ยินเต็มสองรูหูแล้ว เข้าใจไหม??? แล้วข้าขอร้องไว้อย่างนึงเลยนะโว้ย… ถ้านายยังอยากให้ข้าอยู่เป็นเพื่อนปลอบใจนายอยู่ละก็ ขอร้อง… อย่าตะโกนแบบนี้อีก เกรงใจโต๊ะข้าง ๆ บ้าง ข้าไม่อยากมีเรื่องนะโว้ย…ไอ้อ๊ะ เข้าใจไหม??? เข้าใจเหรอเปล่า???” อธินพยักหน้ารับ กิตติจึงเอามือออกจากปากเขา

      “ข้าขอโทษ ตอนนี้คนมันกำลังอกหัก ก็เลย…ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่น่ะ ข้าขอโทษนะ” อธินรู้สึกตาสว่างขึ้นมาทันที

      “ดีแล้ว… ยังดีน่ะ ที่นายยังมีสติหลงเหลืออยู่บ้าง ไม่หยั่งงั้น…ข้าคงจะกลับ แล้วปล่อยนายให้นอนเมาหยำเปอยู่ตรงนี้แหละ”

      “ขอบใจว่ะเพื่อน แล้วต่อไปนี้ ข้าไม่รู้ว่า…จะทำตัวยังไงดี เวลาที่ข้าเจอจิ๊บเดินกระหนุงกระหนิงอยู่กับหนุ่มคนอื่นน่ะ ไอ้ติ…”

      “ก็ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นแหละ อยู่เฉย ๆ เรื่องมันก็จะดีขึ้นเองแหละ เชื่อข้า” กิตติให้คำแนะนำ

      “ข้ากลัวทำไม่ได้ว่ะ ข้าไม่มั่นใจเลยว่าจะทำได้” เอามือกุมหัวใช้ความคิด

      “มั่นใจหน่อยเพื่อน ข้าเชื่อ… นายทำได้แน่นอน” กิตติตบไหล่ให้กำลังใจ

      “ข้าจะพยายาม ก็นายลองคิดดูซิ นายอธิน วุฒิกานต์ นักศึกษาปีสาม คณะนิเทศฯ ผู้ที่แสน………จะป๊อบในหมู่สาว ๆ จนสาวเล็กสาวใหญ่ต่างก็รุมจีบกันนักกันหนาน่ะ อกหักโว้ย… อกหัก โอ้ย…คิดแล้วกลุ้มใจ ข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนว่ะเนี่ยะ”

      “ก็ไว้บนหัวนายเหมือนเดิมนั่นแหละ อย่าคิดมาก ข้าเชื่อว่าทุกอย่างคงไม่เลวร้ายอย่างที่คิดหรอก”

      “เออ………ขอบใจมากเลยว่ะ สำหรับคำแนะนำที่ดูเหมือนจะดี แต่………” อธินพูดประชดเพื่อนรัก

      “นายไม่ต้องพูดดีกว่า ข้าว่า…นายคิดเองเป็น และรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่ตอนนี้ข้าว่าเรากลับบ้านกันดีกว่าว่ะ พรุ่งนี้มีเรียนเช้าด้วย เดี๋ยวตื่นไม่ไหวว่ะ”

      ซึ่งอธินก็เห็นด้วย ก่อนจะเรียกพนักงานมาเก็บเงินที่โต๊ะ และต่างแยกย้ายกันกลับบ้านของใครของมัน
      ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      เวลาผ่านไปได้เดือนกว่า เรื่องของอธินกับจรินดาก็เงียบลง เพราะเพื่อน ๆ ของอธินต่างช่วยกันแก้ช่วยกันแต่งเรื่องของทั้งสองคนเอาไว้ ว่าทั้งสองต่างเลิกกันด้วยความเข้าใจ ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้ว ฝ่ายหญิงเป็นคนบอกเลิกต่างหาก

      ดูเหมือนว่าฝ่ายหญิงเอง ก็ขี้เกียจจะแก้ไขเรื่องที่เพื่อน ๆ ของอธินแต่งขึ้นด้วย เพราะมัวแต่หลงอยู่กับแฟนหนุ่มลูกครึ่งอยู่ จึงทำให้เรื่องนี้เงียบเร็วขึ้นไปอีก
      ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      “เฮ้ย…ไอ้อ๊ะ คราวหน้าถ้านายจะมีรักครั้งใหม่ นายจะเลือกผู้หญิงแบบไหนว่ะ” กิตติถาม

      ขณะที่เพื่อน ๆ ในกลุ่มของอธินนั่งกินข้าวกันที่โรงอาหารเดิมอยู่นั้น สายตาก็ต้องสะดุด เพราะสายตาเหลือบไปเห็นสาวน้อยหน้าแฉล้มคนหนึ่งเดินมากับกลุ่มเพื่อน ๆ ประมาณแปดเก้าคน

      “บอกไม่ถูกว่ะ แต่ถ้าปิ๊งตั้งแต่แรกพบเมื่อไหร่ล่ะก็… ใช่เลย” อธินบอก

      “เฮ้ย ๆ ไอ้อ๊ะ จะใช่คนนี้เหรอป่าวว่ะ” เพื่อน ๆ ในกลุ่มต่างชี้ให้อธินกับกิตติดูสาวน้อยที่กำลังเดินตรงมาที่โต๊ะของพวกเขา

      “คงใช่มั้ง” อธินตอบทีเล่นทีจริงไปอย่างงั้น

      “ไม่ได้โว้ย… ไม่ได้… คนนี้ข้าขอโว้ย…” กิตติห้ามเสียงเข้ม

      “ทำไมว่า หรือว่าเป็นเด็กของเอ็งเหรอยังไง ไอ้ติ” เพื่อน ๆ ถามอย่างสงสัย

      “ไม่ใช่ แต่นั่นน่ะ น้องสาวข้าเอง” แค่เนี่ยะ เพื่อน ๆ ถึงกับนั่งปากหวอกันเป็นแถบ ๆ จะมีใครเชื่อบ้างล่ะว่า นายกิตติจอมเจ้าชู้คนนี้ จะมีน้องสาวน่ารัก ๆ แบบนี้

      “ไม่น่าเชื่อเลยว่ะ ว่านายจะมีน้องสาวกับเขาด้วยเหมือนกัน” อธินแซว

      “มี แต่ไม่อยากบอกโว้ย… กลัวพวกเสือสิงห์กระทิงแรดแถวนี้มันจะทำให้เด็กเสียว่ะ”

      คำพูดของกิตติทำให้เพื่อน ๆ ต่างสงบปากสงบคำเป็นแถว ๆ เพราะกลัวว่าตัวเองพูดมากไปกว่านี้ จะเข้าเนื้อตัวเองเสียเปล่า ๆ

      “สวัสดีค่ะพี่ติ” สาวน้อยหน้าใสทักพี่ชายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

      “ว่าไงยัยกัล มาตามตัวพี่เนี่ยะ ต้องมีอะไรแน่ ๆ เลยใช่ไหม” เขาถามอย่างรู้ทัน

      “มีค่ะ ถ้าไม่มี ก็คงไม่อยากมานักหรอก เปลือง………แถมเหนื่อยฟรี ๆ เหนื่อยเปล่า ๆ อีกต่างหาก” กัลยาตอบแบบกวน ๆ

      “แล้วอะไรล่ะ รีบ ๆ บอกมา จะได้รีบ ๆ ไป ขี้เกียจฟังเธอบ่น” กิตติก็ตอบกวน ๆ กลับเหมือนกัน

      “แม่บอกว่าวันนี้เลิกเรียนแล้ว ให้รีบกลับบ้านด้วย เพราะพี่ไม่ค่อยกลับบ้านไปให้แม่เห็นหน้าเห็นตาเลย แม่ก็เลยฝากกัลมาบอกพี่ อืม…คงกลัวว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนจะไปนอนเมาค้างอยู่แถวข้างทางแถวไหนละมั้ง เลยให้เรามาตามกลับบ้านด่วน” ทำเอาเพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่ขำกันไปตาม ๆ กัน

      “รู้แล้ว ๆ ไปได้แล้ว หมดธุระแล้วนี่ กลับไปได้แล้ว” เพราะไม่อยากให้พวกนี้ มองน้องสาวตัวเองนาน ๆ

      “ค้า……… ไปก็ได้” สะบัดหน้าพรืด และเดินออกไปทันที

      พอกัลยาเดินไปไกลแล้ว เพื่อน ๆ ในกลุ่มต่างต่อว่ากิตติกันใหญ่ ที่ไม่ยอมเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ทำความรู้จักกับน้องสาวเลย

      “ไม่เอาโว้ย… ข้าบอกแล้วไง พวกนายน่ะไม่น่าไว้วางใจ ข้ากลัวน้องสาวข้าจะถูกหลอกว่ะ” กิตติท้วงขึ้น

      “เออ…ทำเป็นหวงไป แล้วพอน้องสาวเอ็งไม่มีแฟน อย่าง้อให้พวกข้าก็แล้วกัน ไปพวกเรา… ไปเรียนดีกว่า” เพื่อน ๆ ในกลุ่มต่างทยอยกันลุกจากโต๊ะ จนเหลือแต่อธิน เพราะกิตติเรียกเอาไว้

      “เฮ้ย…ไอ้อ๊ะ คืนนี้นายไปนอนค้างบ้านข้าหน่อยสิ”

      “ทำไม มีอะไรเหรอ” อธินถามด้วยความสงสัย

      “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่นายไปนอนค้างบ้านข้าหน่อยนะ รู้สึกสังหรณ์ใจยังไงชอบกลไม่รู้ว่ะ”

      “เออ…ได้สิ แต่น้องสาวปากตะไกรของนาย คงไม่ว่าอะไรใช่ไหม???” แค่คิดก็แหยง ๆ แล้ว ผู้หญิงอะไร หน้าตาก็น่ารักดีหรอก แต่ปากโคตรคมเลย

      “ลองว่าดูสิ จะไม่กลับไปนอนบ้านอีกเลยคอยดู” กิตติบอก

      “เออ……เอาเข้าไป ข้าว่านะ เอ็งน่ะตัวหาเรื่องทะเลาะกับน้องมากกว่าน่ะ” อธินแหย่เล่น

      “โอ้ย…ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ปวดหัวชะมัด เข้าเรียนกันเหอะไอ้อ๊ะ”

      อธินและกิตติเข้าห้องเรียนสายอีกตามเคย ทำให้โดนอาจารย์จอมเฮี้ยบตัดจิตพิสัยไปคนละสองคะแนน ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้วสำหรับพวกเขา เพราะเวลาสอบปลายภาค ทั้งอธินและกิตติก็สอบได้เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าสามอยู่ดี
      ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      “แม่ครับ ผมกลับมาแล้วครับแม่… แม่…” กิตติเรียกผู้เป็นมารดา ซึ่งกำลังเดินลงมาจากข้างบนชั้นสองของบ้าน

      “กลับมาแล้วเหรอตาติ แหม………หายหน้าหายตาไปซะนานเลย ผอมลงไปตั้งเยอะเลยนะตาติ เอ้อ……นี่ถ้าแม่ไม่สั่งให้ยายกัลไปตาม เราก็คงไม่กลับบ้านใช่ไหม??? ตาติ… ฮึ………” ผู้เป็นมารดาตัดเพ้อ

      “โธ่……แม่ก็… อย่าคิดมากซิครับ ไม่ใช่อย่างนั้นซักกะหน่อย เพียงแต่ช่วงนี้ผมมีรายงานเยอะ เลยไม่ค่อยได้กลับบ้านก็เท่านั้นเอง” แต่สีหน้าผู้เป็นมารดาก็ยังไม่ดีขึ้น “อ๋อ…นี่ผมรู้แล้ว ยัยกัลคงเอาอะไรมาเป่าหูแม่อีกแล้วใช่ไหมครับเนี่ยะ”

      “เปล่าจ๊ะเปล่า เพียงแต่แม่คิดถึงเรานะตาติ… อ้าว………แล้วนั่นใครล่ะนั่นน่ะ” คงเป็นเพราะสายตาของเธอไม่ทันได้เหลือบไปมองคนที่อยู่ข้างหลังกิตติ ซึ่งกำลังพนมมือไหว้เธอย่างเก้อ ๆ อยู่

      “สวัสดีครับ” อธินยกมือไหว้แม่ของกิตติอย่างนอบน้อม

      “อ้าว…สวัสดีจ๊ะพ่อคุณ ขอโทษทีนะจ๊ะ ที่ไม่ทันได้สังเกต เพราะมัวแต่ต่อว่าพ่อตัวดีอยู่น่ะ”

      “ไม่เป็นครับ” อธินยิ้มเล็กน้อย

      “แม่ครับ นี่อธิน เพื่อนสนิทที่มหาลัยครับ” กิตติแนะนำ

      “อ้อ………เหรอจ๊ะ เอ…ว่าแต่ว่า…วันนี้ทำไมพาเพื่อนมาด้วยล่ะจ๊ะ” ผู้เป็นมารดาถาม

      “พอดี…… นายอ๊ะต้องทำรายงานคู่กับผมน่ะครับ คือ…มันยังไม่เสร็จ ก็เลย……คิดจะมาทำต่อที่บ้านน่ะครับคุณแม่”

      “งั้นเหรอจ๊ะ อืม…” ผู้เป็นมารดาหยุดพูดไปซักพักนึง ก่อนจะพูดต่อ “งั้นดีเลยจ๊ะ เพราะวันนี้พ่อของเราก็ไม่อยู่บ้านซะด้วย ส่วนยายกัลก็ไปทำรายงานบ้านเพื่อน คงจะกลับดึก ๆ หน่อย ดีเลย………แม่จะได้มีเพื่อนกินข้าว” กิตติลอบถอนหายใจ เพราะนึกว่าจะโดนซะแล้ว

      “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ พอถึงเวลากิน ค่อยลงมาก็แล้วกันนะครับ” ผู้เป็นมารดาพยักหน้ารับ

      เมื่ออธินกับกิตติขึ้นไปข้างบนห้องนอนของกิตติเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองถึงกับโล่งใจขึ้นมาทันที เพราะกลัวจับได้ว่า…ตัวเองโกหกว่าอธินมาทำรายงาน แต่จริง ๆ แล้ว อธินมาเป็นเพื่อนเขาต่างหาก
      ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      อาหารมื้อเย็นในวันนี้ เป็นบรรยากาศที่ดูเหมือนจะดี แต่พอเอาเข้าจริง ๆ อธินกับกิตติก็ต้องคอยระวังตัวแจและไม่ทำตัวให้มีพิรุธ แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี

      “โอ้ย…เหนื่อยว่ะ” กิตติทิ้งตัวลงนั่งลงบนเก้าอี้ ซึ่งอยู่ในสวนดอกไม้หน้าบ้าน

      “เหนื่อยอะไรว่ะ” อธินถามด้วยความสงสัย

      “เหนื่อยที่ต้องทำตัวเป็นเด็กเจี๋ยมเจี้ยมต่อหน้าแม่ว่ะ”

      “เฮ้ย…ข้าว่า… นายคิดมากไปเองมากกว่า อีกอย่างน่ะ ที่แม่นายเรียกนายมาวันนี้ ก็เพราะคิดถึงนายนะไอ้ติ” อธินเตือน

      “ข้าเข้าใจ แต่ข้าก็อยากมีอิสระบ้างว่ะ นายรู้ไหม เวลาที่ข้าอยู่กับแม่ ข้ารู้สึกเหมือนเด็กอ่อนมาก ๆ เลยว่ะ”

      “อืม………ข้าคิดว่า…นายควรจะไปเข้านอนดีกว่านะ ข้าขี้เกียจฟังแล้วว่ะ เบื่อ………เด็กดื้อ…” อธินแซวเล็ก ๆ
      “เออ…อย่าให้นายเป็นอย่างข้าบ้าง ให้มันรู้ไป” กิตติพูด แล้วเดินเข้าบ้านไปทันที
      ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      ลมพัดไปเอื่อย ๆ อ่อน ๆ จนทำให้อธินเคลิ้ม จนไม่ได้ยินเสียงรถคันหนึ่ง ซึ่งกำลังแล่นเข้ามาจอดภายในบ้านของกิตติ

      ‘อ๊ะ…พี่ติกลับบ้านแล้วเหรอเนี่ยะ ทำไมเร็วจัง แต่ก็ดี แม่จะโดนแม่บ่นซะบ้าง เวลาไม่อยู่ เราฟังแม่บ่นคิดถึงพี่ติซะจนหูเนี่ยะชาไปหมดแล้ว เอ้อ…ที่แท้…นั่งอยู่ตรงนั้นเอง อย่างนี้ต้องไปเยาะเย้ยซักหน่อย’ กัลยาคิดในใจ

      กัลยาเดินเข้าไปหาผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งกำลังนั่งหันหลังอยู่ในสวน “พี่ติ เป็นไง โดนแม่บ่นซะยับเยินเลยล่ะซิ ใช่ไหมพี่ติ??? ฮิ ๆ ๆ ๆ ดี…สมน้ำหน้า… อยากหายหน้าหายตาไปนานดีนัก โดนแม่บ่นซะบ้าง จะได้รู้สึกตัวว่า…น้องนุ่งเค้าลำบาก เวลาที่ตัวเองไม่อยู่บ้านน่ะ”

      “……………” ไม่มีเสียงตอบ

      “เอ๊ะ ไม่ได้ยินที่กัลพูดเหรอยังไงน่ะ พี่ติ………” พลางกระชากไหล่ผู้เป็นพี่ชายให้หันกลับ

      แล้วเธอก็ต้องหน้าแตกเสี่ยง ๆ เพราะคนที่เธอเข้าใจว่าเป็นพี่ชายนั้น กลับกลายเป็น ‘อธิน’ เพื่อนพี่ชานของเธอ

      “อุ๊ย ขอโทษค่ะ ฉันนึกว่า………” กัลยาขอโทษแบบไม่มองหน้าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอ

      “คุณนึกว่า ผมเป็นพี่ชายของคุณ เฮ้อ…แต่ก็ดีนะครับ ที่รู้ซะตั้งแต่ตอนนี้ ไม่อย่างงั้น…ผมคงโดนคุณด่ายับแน่ ๆ เลย”

      “เอ๊ะ คุณนี่ ก็ฉันขอโทษแล้วยังไงล่ะ จะเอายังไงอีก” เธอเริ่มมีอารมณ์ฉุนนิด ๆ

      “โอ๊ะ ๆ ๆ ๆ อย่าโกรธซิครับ เดี๋ยวหน้าไม่สวย แถมยังจะแก่เร็วอีกต่างหากนา… ไม่เอาน่ะ ๆ“

      “ธุระไม่ใช่ ไม่ต้องมาบอก ขอบใจย่ะ” แล้วเดินเข้าบ้านไป

      ‘เออ…ดีโว้ย… ผู้หญิงคนนี้ น่าสนใจดี ไม่แน่…อาจจะมาเป็นแฟนของเราในอนาคตก็ได้’ อธินนึก และเดินเข้าบ้านตามไปอีกคน
      ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      และดูเหมือนฟ้าจะเป็นใจให้อธินได้เจอกับกัลยาบ่อย ๆ ที่มหาลัย และถึงแม้ว่าเค้าทั้งสองจะมีการปะทะคารมกันบ้าง แต่มันก็ทำให้ความรักก่อตัวขึ้นภายในใจของทั้งสองคน แต่ก็ไม่ลอดพ้นสายตาของกิตติไปได้

      “เฮ้ย…ไอ้อ๊ะ นายชอบยัยกัลหรือเปล่าว่ะ ตอบมาตามตรงนะเฟ้ย…” กิตติถามเพื่อนรักอย่างตรงไปตรงมา

      “เอ่อ…คือว่า………ข้าชอบน้องกัลจริง ๆ ว่ะ ไอ้ติ แกคงจะไม่กีดกันข้าหรอกนะ” อธินหน้าม่อยลงไปทันที

      “ไม่ขัดขวางหรอก แต่เจ้าตัวเขารู้หรือเปล่า ว่านายชอบเค้าน่ะ” กิตติถาม

      “ยังว่ะ”

      “เฮ้อ…ดีน่ะ ชอบเขา แต่ไม่ยอมบอก เฮ้อ………ข้าล่ะเหนื่อยใจแทนนายจริงว่ะ”

      “ก็ข้าไม่รู้ว่าจะบอกรักน้องเค้ายังไงนี่นา” หน้าของอธินเริ่มแดงขึ้น

      “ถ้าอย่างนั้นบอกกับเจ้าตัวเค้าแล้วกัน ยายกัลออกมาได้แล้ว ไม่ต้องหลบหรอก มานี่…” กิตติเรียกผู้เป็นน้องสาวให้ออกมาจากหลังต้นไม้ “ข้าไปก่อนนะ ตกลงกันเองล่ะ”

      “เอ่อ…คือว่า…” ทั้งสองพูดพร้องมัน

      “พี่อ๊ะพูดก่อนสิค่ะ” กัลยาให้กิตติพูดก่อน

      “ก็ได้” พลางเอื้อมมือไปกุมหลังมือเล็ก ๆ ของกัลยาเอาไว้หลวม ๆ

      “พี่ชอบกัล กัลล่ะ ชอบพี่บ้างหรือเปล่า???” บ้าคนอะไร พูดโต้ง ๆ แบบนี้ เธอก็อายแย่ซิ คนบ้า…

      “กัลไม่ขอตอบได้ไหมค่ะ”

      “ทำไมล่ะ” สีหน้าของอธินซีดลงไปถนัดตา

      “เพราะถ้ากัลไม่รักพี่อ๊ะ กัลคงไม่ยอมให้พี่จับมือกัลอย่างนี้หรอกค่ะ” กัลยาตอบ หน้าของเธอแดงระเรื่อด้วยความอาย

      “ขอบใจนะกัล พี่จะรักษาความรักของเราให้ยาวนานที่สุดเลย” กัลยาเอานิ้วแตะริมฝีปากอธินเบา ๆ แต่มันกลับกลายเป็นว่า ทำให้ชายหนุ่มดึงมือเธอมาจูบอย่างง่าย ๆ

      “บ้า… พี่อ๊ะ เดี๋ยวคนมองมาน่ะค่ะ กัลอาย…” เธอแย้ง

      “ไม่เห็นต้องอายเลย คนรักกัน ก็ต้องแสดงความรักกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาออกกัล…” กัลยาตีแขนอธินดังเพี้ยะ

      “บ้า หยุดพูดหวาน ๆ ได้แล้ว อุ๊ย…พี่อ๊ะ ดูนั่นสิค่ะ พี่ติตัวแสบมาแอบมองเราค่ะ”

      “ไม่เป็นไร พี่จัดการเอง” ว่าแล้วอธินก็วิ่งไล่จับเจ้าเพื่อนตัวแสบทั้งหมดจนครบ แล้วเขกหัวเจ้าเพื่อนตัวแสบกันคนละโป๊กสองโป๊กเป็นการสั่งสอนที่มาแอบมองคนเค้ากำลังรักกันอยู่ ขัดจังหวะจริง ๆ เลย เจ้าพวกนี้
      ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×