รันทดรัก (๓) - รันทดรัก (๓) นิยาย รันทดรัก (๓) : Dek-D.com - Writer

    รันทดรัก (๓)

    รักรันทด ของหนุ่มเมืองสุพรรณ เฮ้อ...

    ผู้เข้าชมรวม

    794

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    794

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ตลก-ขบขัน
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 ก.ค. 46 / 15:52 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      สภาพของพวกเราตอนเป็นนิสิตปริญญาตรีนั้น พวกเราทุกคนต้องออกฝึกงานกันตามโรงเรียนทุกปีการศึกษา เราต้อง “ออกโรงเรียน” กันสัปดาห์ละ ๑ วัน ตลอดทั้งภาคการศึกษา จนถึงปีสุดท้ายจึงออกฝึกสอนเต็มตัว

      การที่เราต้องออกโรงเรียนนี่เอง ทำให้แต่ละคนต้องประจำห้องเรียนหรือหมวดวิชาต่างกันไป ไม่ได้รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ยี่สิบกว่าคนอย่างที่มหาวิทยาลัย

      เจ้าไปล่พระเอกของท้องเรื่อง ได้เฝ้าคอยให้ถึงโอกาสนั้นเร็ว ๆ ด้วยความรักที่บังตาและลูกยุของผม ทำให้เจ้าไปล่ฮึดสู้ ตายเป็นตาย เกลียดเป็นเกลียด ฉันรักเขาเสียอย่าง

      วันนั้น พวกเราราว 6-7 คน ต้องอยู่ช่วยงานที่หมวดภาษาไทย คอยทำอุปกรณ์การสอนหรือเรียกกันง่าย ๆ ว่าสื่อการสอนนั่นแหละ นกเล็กเริ่มรู้ตัวแล้วว่ากำลังโดนหมายมั่นปั้นมือจากหนุ่มสุพรรณวัยคราวลูก เอ๊ย… วัยละอ่อน นกเล็กพยายามตีตัวออกห่างเพื่อความปลอดภัย จะไม่หนีได้อย่างไรในเมื่อตอนนั้นอาการของเจ้าไปล่ ถ้ามันปลุกปล้ำได้มันคงทำไปแล้ว ดังนั้น ภาพวันนั้นที่ผมเห็น นกเล็กอยู่มุม  นึง เจ้าไปล่อยู่มุมนึง แล้วมันจะจีบเขายังไงนี่…. ???

      ระหว่างที่ทุกคนกำลังระบายสีสื่อการสอนอยู่นั่นเอง เจ้าไปล่ตะโกนขึ้นมา

      “นกเล็ก ๆ หยิบสีให้หน่อยซิ..” เจ้าไปล่เอ่ยพลางยิ้มอย่างกะลิ้มกะเหลี่ย

      “สีอะไร !” นกเล็กถามเสียงห้วนเหมือนนักมวยอยากฆ่าคน

      “สีดูหุ้ม !!!” เจ้าไปล่ตอบเสียงดังฟังชัด ตอนนั้นผู้หญิงคนอื่น ๆ ฮาแตกกันหมด ยกเว้นผมเพราะไม่เข้าใจอะไรเลย ได้แต่นึกว่า “สีอะไรของมันวะ สีดูหุ้ม เคยได้ยินแต่สีดูลักซ์ ?” ผมพยายามหันไปถามอีกนกนึง (เรียกว่านกยักษ์ เพราะเธอใหญ่เหลือเกิน) นกยักษ์บอกว่า “น้อยก็ลองผวนดูซิ”

      นั่นแหละ ผมจึงถึงบางอ้อ ไอ้เวร… จะจีบเขาได้หรือนี่…

      สถานการณ์ตอนนั้นตึงเครียดมาก เจ้าไปล่ก็ยังคงยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย ส่วนนกเล็กไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร ได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความแค้น

      “พลาดท่าซะแล้ว …. นกเล็กเอ๊ยยยยยยย…” ผมคิดในใจ

      ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง คราวนี้เจ้าไปล่กะเล่นมุขเดิม ตะโกนขึ้นมาอีก

      “นกเล็ก ๆ หยิบสีให้หน่อยซิ..” เจ้าไปล่เอ่ยพลางยิ้มอย่างกะลิ้มกะเหลี่ยเมียงมองทำตาหวาน

      “สีอะไร !” นกเล็กตวาดถามออกมา เรียกว่าถ้าจะให้นกเล็กไปซุ่มดูอะไรอีก คราวนี้คงมีต่อยกัน       แน่นอน ท่าทางนกเล็กจะหมัดหนักเสียด้วย

      “สีแสวงเหาะ !!!” เจ้าไปล่ตอบหน้าตาย แล้วมันก็น่าตายจริง ๆ ซะด้วย เพราะนกเล็กถูกกระตุ้นต่อมโกรธ ทั้งโกรธ ทั้งอาย เพราะเพื่อน ๆ รู้ความนัยของหัวใจเจ้าไปล่กันทั้งห้องแล้ว นกเล็กถึงกับปาสีให้ไปทั้งกระปุก แล้วตะโกนว่า “คราวนี้ถ้าจะเอาสีอะไร ขอจากไอ้น้อยโน่น..”

      “เอ้า ๆ ๆ เกี่ยวอะไรกู กูไม่มีสีจะให้มันแสวงเหาะนะโว้ยยยย…” ผมตอบพลางหัวเราะพลาง

      เย็นวันนั้นเอง ระหว่างที่คอยเพื่อแยกย้ายกันกลับบ้าน ทุกคนลงไปรวมกันที่โรงอาหารของโรงเรียน เขามีไก่ทอดขายด้วย ช่วงเย็น ๆ อย่างนี้น่องไก่น่องละ ๕ บาท ซื้อน่องแถมน่อง พวกเราซื้อกินกันแทบทุกคนเพราะความหิว แน่นอน… รวมไปถึงนกเล็กด้วย

      ขณะที่นกเล็กกำลังกินไก่อย่างเอร็ดอร่อยและมีความสุข (สุขเพราะเจ้าไปล่ไปนั่งห่าง ๆ ไม่เข้าใกล้มากวนอารมณ์) เจ้าไปล่ก็เอื้อนเอ่ยถ้อยวจีเพื่อ “สีสาว” ทันที

      “นกเล็ก นกเล็ก..” ไอ้ไปล่เอ่ยเรียก ผมหันไปมองมันทันทีด้วยสายตาชื่นชม

      “นั่นแน่.. มันจะเริ่มกลยุทธ์จีบสาวต่อแล้วโว้ย..” ผมคิด แต่อนิจจา…

      “อะไร !” นกเล็กเอ่ยถามมันเสียงเขียว

      “นกเล็กนี่ แทะไก่เหมือนหมาแทะกระดูกเลยนะ” ไอ้ไปล่พูดพลางยิ้มหน้าบานด้วยความปลาบปลื้ม… ปลาบปลื้มใจที่มันกล้าคุยกับผู้หญิง !!!









      สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
      ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×