สภาพของพวกเราตอนเป็นนิสิตปริญญาตรีนั้น พวกเราทุกคนต้องออกฝึกงานกันตามโรงเรียนทุกปีการศึกษา เราต้อง “ออกโรงเรียน” กันสัปดาห์ละ ๑ วัน ตลอดทั้งภาคการศึกษา จนถึงปีสุดท้ายจึงออกฝึกสอนเต็มตัว
การที่เราต้องออกโรงเรียนนี่เอง ทำให้แต่ละคนต้องประจำห้องเรียนหรือหมวดวิชาต่างกันไป ไม่ได้รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ยี่สิบกว่าคนอย่างที่มหาวิทยาลัย
เจ้าไปล่พระเอกของท้องเรื่อง ได้เฝ้าคอยให้ถึงโอกาสนั้นเร็ว ๆ ด้วยความรักที่บังตาและลูกยุของผม ทำให้เจ้าไปล่ฮึดสู้ ตายเป็นตาย เกลียดเป็นเกลียด ฉันรักเขาเสียอย่าง
วันนั้น พวกเราราว 6-7 คน ต้องอยู่ช่วยงานที่หมวดภาษาไทย คอยทำอุปกรณ์การสอนหรือเรียกกันง่าย ๆ ว่าสื่อการสอนนั่นแหละ นกเล็กเริ่มรู้ตัวแล้วว่ากำลังโดนหมายมั่นปั้นมือจากหนุ่มสุพรรณวัยคราวลูก เอ๊ย
วัยละอ่อน นกเล็กพยายามตีตัวออกห่างเพื่อความปลอดภัย จะไม่หนีได้อย่างไรในเมื่อตอนนั้นอาการของเจ้าไปล่ ถ้ามันปลุกปล้ำได้มันคงทำไปแล้ว ดังนั้น ภาพวันนั้นที่ผมเห็น นกเล็กอยู่มุม  นึง เจ้าไปล่อยู่มุมนึง แล้วมันจะจีบเขายังไงนี่
. ???
ระหว่างที่ทุกคนกำลังระบายสีสื่อการสอนอยู่นั่นเอง เจ้าไปล่ตะโกนขึ้นมา
“นกเล็ก ๆ หยิบสีให้หน่อยซิ..” เจ้าไปล่เอ่ยพลางยิ้มอย่างกะลิ้มกะเหลี่ย
“สีอะไร !” นกเล็กถามเสียงห้วนเหมือนนักมวยอยากฆ่าคน
“สีดูหุ้ม !!!” เจ้าไปล่ตอบเสียงดังฟังชัด ตอนนั้นผู้หญิงคนอื่น ๆ ฮาแตกกันหมด ยกเว้นผมเพราะไม่เข้าใจอะไรเลย ได้แต่นึกว่า “สีอะไรของมันวะ สีดูหุ้ม เคยได้ยินแต่สีดูลักซ์ ?” ผมพยายามหันไปถามอีกนกนึง (เรียกว่านกยักษ์ เพราะเธอใหญ่เหลือเกิน) นกยักษ์บอกว่า “น้อยก็ลองผวนดูซิ”
นั่นแหละ ผมจึงถึงบางอ้อ ไอ้เวร
จะจีบเขาได้หรือนี่
สถานการณ์ตอนนั้นตึงเครียดมาก เจ้าไปล่ก็ยังคงยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย ส่วนนกเล็กไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร ได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความแค้น
“พลาดท่าซะแล้ว
. นกเล็กเอ๊ยยยยยยย
” ผมคิดในใจ
ผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง คราวนี้เจ้าไปล่กะเล่นมุขเดิม ตะโกนขึ้นมาอีก
“นกเล็ก ๆ หยิบสีให้หน่อยซิ..” เจ้าไปล่เอ่ยพลางยิ้มอย่างกะลิ้มกะเหลี่ยเมียงมองทำตาหวาน
“สีอะไร !” นกเล็กตวาดถามออกมา เรียกว่าถ้าจะให้นกเล็กไปซุ่มดูอะไรอีก คราวนี้คงมีต่อยกัน      แน่นอน ท่าทางนกเล็กจะหมัดหนักเสียด้วย
“สีแสวงเหาะ !!!” เจ้าไปล่ตอบหน้าตาย แล้วมันก็น่าตายจริง ๆ ซะด้วย เพราะนกเล็กถูกกระตุ้นต่อมโกรธ ทั้งโกรธ ทั้งอาย เพราะเพื่อน ๆ รู้ความนัยของหัวใจเจ้าไปล่กันทั้งห้องแล้ว นกเล็กถึงกับปาสีให้ไปทั้งกระปุก แล้วตะโกนว่า “คราวนี้ถ้าจะเอาสีอะไร ขอจากไอ้น้อยโน่น..”
“เอ้า ๆ ๆ เกี่ยวอะไรกู กูไม่มีสีจะให้มันแสวงเหาะนะโว้ยยยย
” ผมตอบพลางหัวเราะพลาง
เย็นวันนั้นเอง ระหว่างที่คอยเพื่อแยกย้ายกันกลับบ้าน ทุกคนลงไปรวมกันที่โรงอาหารของโรงเรียน เขามีไก่ทอดขายด้วย ช่วงเย็น ๆ อย่างนี้น่องไก่น่องละ ๕ บาท ซื้อน่องแถมน่อง พวกเราซื้อกินกันแทบทุกคนเพราะความหิว แน่นอน
รวมไปถึงนกเล็กด้วย
ขณะที่นกเล็กกำลังกินไก่อย่างเอร็ดอร่อยและมีความสุข (สุขเพราะเจ้าไปล่ไปนั่งห่าง ๆ ไม่เข้าใกล้มากวนอารมณ์) เจ้าไปล่ก็เอื้อนเอ่ยถ้อยวจีเพื่อ “สีสาว” ทันที
“นกเล็ก นกเล็ก..” ไอ้ไปล่เอ่ยเรียก ผมหันไปมองมันทันทีด้วยสายตาชื่นชม
“นั่นแน่.. มันจะเริ่มกลยุทธ์จีบสาวต่อแล้วโว้ย..” ผมคิด แต่อนิจจา
“อะไร !” นกเล็กเอ่ยถามมันเสียงเขียว
“นกเล็กนี่ แทะไก่เหมือนหมาแทะกระดูกเลยนะ” ไอ้ไปล่พูดพลางยิ้มหน้าบานด้วยความปลาบปลื้ม
ปลาบปลื้มใจที่มันกล้าคุยกับผู้หญิง !!!
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น