เราทุกคนคงเคยได้ยินและรู้จัก “พระพุทธเจ้าหลวง” เป็นอย่างดี แต่เรามักคุ้นเคยในความหมายของ “รัชกาลที่ ๕ แห่งบรมราชจักรีวงศ์” เท่านั้น แต่หากเราย้อนกลับไปดูในพระราชพงศาวดารแล้ว เราจะพบว่าในพงศาวดารหรือจดหมายเหตุของไทยนั้น มักเรียกองค์รัชทายาทว่า “หน่อพุทธางกูร” หรือ “สมเด็จหน่อพุทธางกูร” หากเรามองคำนี้ในแง่ของวรรณคดีทางพระพุทธศาสนา เราจะตีความว่าหมายถึงพระโพธิสัตว์ หากแต่ในทางพงศาวดารนี้คำว่าหน่อพุทธางกูรไม่ได้แค่หมายถึงพระมหากษัตริย์ หากแต่หมายถึง “หน่อเนื้อเชื้อสายของพระพุทธเจ้า” โดยยกเอาพระมหากษัตริย์นั้นเอง ที่มีฐานะเป็น “พระพุทธเจ้า” อีกนัยหนึ่งด้วย โดย “หน่อ” นั้นก็หมายถึง “องค์รัชทายาท” นั่นเอง
ในสมัยกรุงศรีอยุธยานั้นมีพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวเท่านั้นเอง ที่ได้รับการขนานพระนามว่า “สมเด็จหน่อพุทธางกูร” นอกนั้นแล้วก็หมายถึงองค์รัชทายาทเสียส่วนใหญ่
สิ่งที่น่าสนใจและสะท้อนความเชื่อนี้ได้ชัดเจนที่สุด เห็นจะหนีไม่พ้นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ราชวรมหาวิหาร
เมื่อเราเหยียบเท้าก้าวข้ามธรณีประตูพระอุโบสถวัดพระแก้วเข้าไปแล้ว ขอให้กราบนมัสการพระแก้วมรกตอย่างเคารพ แล้วลองหันหลังกลับไปทิศเดียวกับประตูที่เดินเข้ามา แล้วแหงนหน้าไปชมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เห็นอยู่ตรงหน้า
  ภาพ “พระพุทธเจ้าผจญมาร”
พระพุทธเจ้านั้นสถิตอยู่เหนือรัตนบัลลังก์ ณ ควงไม้ศรีมหาโพธิ์ มีพระแม่ธรณีอยู่เบื้องล่างกำลังบีบน้ำออกจากมวยผมจนท่วมเหล่ามารพญามารทั้งหลายให้แตกพ่ายกระเจิงไป จนไม่สามารถขัดขวางการบำเพ็ญเพื่อบรรลุปรมาภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้
ลองสังเกตภาพเหล่ามารานุมาร และพญามารทั้งหลายให้ดี สังเกตที่การแต่งกาย
เราจะเห็นว่าเหล่ามารทั้งหลายเหล่านั้นล้วนแล้วแต่แต่งกายเป็น “วิเทศชาติ” ที่ติดต่อค้าขาย หรือกำลังเข้ามา “ยุ่มย่าม” ในดินแดนแถบนี้ทั้งนั้น
การวาดภาพพระพุทธเจ้าผจญมารโดยกำหนดให้ “มาร” ทั้งหลายที่ต้องพ่ายต่อพระบารมีนั้น ก็เปรียบเสมือนการ “ตัดไม้ข่มนาม” นั่นเอง และอีกนัยหนึ่ง เมื่อเหล่ามารทั้งหลายคือชาวต่างชาติที่มีแนวโน้มว่าอาจจะเข้ามารุกรานแผ่นดินสยาม (รวมไปถึงที่เคยรุกรานสยามมาแล้วในอดีต) แล้วไซร้ พระพุทธเจ้าที่เปี่ยมด้วยพระบารมีก็ใช่ใครอื่นที่ไหน หากแต่เป็น “พระมหากษัตริย์” ของไทยเรานี้เอง
ทั้งการเรียกองค์รัชทายาทว่า “หน่อสมเด็จพุทธางกูร” ก็ดี
การเรียกล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕ ว่า “พระพุทธเจ้าหลวง” ก็ดี
การวาดภาพ “พระพุทธเจ้าผจญมาร” ในพระอุโบสถวัดพระแก้วก็ดี
ล้วนแล้วแต่แสดงคติความเชื่อที่ว่า “พระมหากษัตริย์ของไทยเสมือนหนึ่งเป็นพระสัมมา      สัมพุทธเจ้า” ได้ทั้งนั้น
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น