วันแรกของการเปิดภาคเรียนที่คณะวิศวกรรมศาสตร์
ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นักศึกษาชั้นปีที่1 น้องใหม่กำลังตื่นเต้นกับการได้รู้จักเพื่อนใหม่ ได้รู้จักรุ่นพี่ และตอนนี้รุ่นพี่ปี 4 กำลังเตรียมต้อนรับน้องใหม่กันอยู่ 
    “น้อง ๆ ครับ  ฟังพี่นะครับ” เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นจากเครื่องขยายเสียง 
“ พี่เป็นประธานคณะของเรานะครับ  ชื่อนายปฤษฎางค์  เสนางคนิกร  หรือเป็นที่รู้จักกันในนามของ ‘เฮียเต็ง’ ครับผม  แล้วที่สำคัญ  พี่ยังเป็นหัวหน้าชมรมอาคิโด้ด้วยนะ  ถ้าน้อง ๆ คนไหนสนใจกีฬาอาคิโด้นะครับก็มาสมัครได้ที่พี่โดยตรงเลยนะครับ  เอาล่ะครับตอนนี้พี่ว่าน้อง ๆ ก็คงจะรู้จักกันมาพอสมควรบ้างแล้วนะครับ  พวกพี่ ๆ เนี่ย  ก็คิดว่าได้เวลาอันสมควรแล้วที่เราจะต้อนรับน้องใหม่ปี 1 กัน  เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า”
*********
หลังจากเสร็จงานรับน้อง  เพื่อนรักทั้ง 8 คน  คือ  อีฟ  นางสาวภควดี  เวสารัช , จี  นางสาวทิฆัมพร  ชุณหปักษ์ , แนน  นางสาวชลกานต์  ศาริกา , แหม่ม  นางสาวปริวรรต  จตุรงคโชค , เฟิร์ส  นายธริษตรี  วิกสิต , มิค  นายเทียรฆราตร  สัสสเมธ , โอ๊ต  นายชนเทพ  อัคนีกรีฑา และวิทย์  นายวิฆเนศ  ดรณิรัตน์  ได้นัดพบกันที่ร้านโอ๊ต  ทั้ง 8 คน เป็นคบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมที่โรงเรียนนานาชาติ  และสนิทกันมาก 
“เฮ้ย ! ว่าไหม? เฮียเต็งน่ะน่ารักชะมัดเลย”  จีเอ่ยขึ้น
“อ้าว  หวัดดีสาว ๆ มากันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”  โอ๊ตเข้ามาขัดจังหวะ            “ก็นานพอสมควรแหละ  แล้วนี่  อีก 3 หนุ่มล่ะหายไปไหน” แนนถาม
“คงไปหาจีบสาวมั้ง  อ้าวนั่นไง  ตายยากจริง ๆ เจ้าพวกนี้”  โอ๊ตพูด
ยังไม่ทันขาดคำ  ทั้ง 3 หนุ่มก็เดินเข้ามาในร้าน
“เฮ้ย ! โอ๊ต  ขอนมเย็น 3 แก้ว  แล้วก็ขนมปังปิ้งด้วย 3 แผ่น  เร็ว ๆ นะ  หิว”  วิทย์จัดการสั่งอาหารกับลูกชายเจ้าของร้าน
“เออ ๆ ได้  รอแป๊บนึง  สั่งเด็กให้”  โอ๊ตบอกเพื่อนแล้วหายไปสั่งเด็กในร้านสักพักก็กลับขึ้นมา
“นี่พวกนายหายไปไหนกันมาเนี่ย  ดูซิเนี่ยเหงื่อเต็มตัวเชียว”  แหม่มถาม
“เปล่าไม่ได้ไปไหนกันมาหรอก  ก็อยู่ที่มหา’ลัยนั่นแหละเพียงแต่ว่า..”
วิทย์พูดไม่ทันจบ  เฟิร์สก็แทรกเข้ามาว่า
    “เพียงแต่ว่าพวกเราหาพวกนายไม่เจอ”
    “อะไรนะ  หาพวกเราไม่เจอ”  ทุกคนถามขึ้นเกือบจะพร้อมกัน  “ก็นัดกันมาร้านโอ๊ตไม่ใช่เหรอแล้วทำไมหาไม่เจอ”  จีถาม  ขณะที่ทั้ง 3 กำลังอ้ำอึ้ง
    “ไม่ใช่ไปชมรมแอโรบิคกันมาเหรอ?”  อีฟรู้ทัน ทุกคนพากันมองหน้าอีฟ 
    “เฮ้ย ! รู้ได้ไง?”  มิคถามอย่างตกใจ 
    “ก็ถ้าไม่รู้ก็ไม่ใช่อีฟน่ะเซ่  เห็นหัวหน้าชุมนุมสาวสวยหน่อยไม่ได้ แต่เสียใจด้วยนะที่เป็นสาวประเภทสอง  ไอ้เราจะเข้าไปเตือนรึก็เตือนไม่ทัน  นี่คงโดนจับเต้นแอโรบิคมากันล่ะสิ  ‘ดี โส น้า น่า’ ซ่าดีนัก”  อีฟเลียนเสียงกะเหรี่ยง
    ทุกคนรู้ดังนั้นจึงพากันหัวเราะจนท้องแข็งกับความซ่าของเพื่อน  ที่ซ่าไม่ดูตาม้าตาเรือ
    “ดีนะเนี่ยที่ฉันไม่ไปกับพวกนาย”  โอ๊ตบอกพลางหัวเราะ
*********
ที่ชมรมอาคิโด้  เต็งและเพื่อน ๆ กำลังรับสมัครน้อง ๆ เข้าเป็นสมาชิกชมรมอยู่ที่บริเวณด้านหน้าชมรม“น้อง ๆ ครับน้อง คนไหนที่สนใจกีฬาอาคิโด้นะครับ  สมัครได้ที่พี่โดยตรงเลยนะครับ  เชิญครับ”  เต็งกล่าวเชิญชวนน้อง ๆ  “ ไงครับ  น้อง ๆ กลุ่มนี้มีใครสนใจบ้างครับ  เชิญสมัครด้านในเลยนะครับ” เต็งกล่าวกับกลุ่มของอีฟทั้ง 8 คน 
    “ก็สนใจกันทั้งกลุ่มแหละค่ะ  แต่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”  จีเอ่ย
    “อ๋อ ! ได้สิครับ  มีอะไรถามได้เลย  พี่ตอบได้ทั้งนั้นแหละถ้าเกี่ยวกับชมรมนะ”  เต็งตอบ
    “เล่นยากมั้ยคะ?  เจ็บตัวหรือเปล่า?”  จีถามไม่ค่อยเต็มเสียงนัก
    “เล่นไม่ยากหรอกครับ”  เต็งตอบกลั้วหัวเราะ  “มันขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ของแต่ละคนว่าจะเรียนรู้ได้เร็วขนาดไหน  แล้วก็เรื่องเจ็บตัวนี่ก็มีบ้างเป็นธรรมดานะครับ  นี่ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองด้วยที่จะต้องคอย Safety ตัวเองด้วย  ถ้าสนใจก็สมัครกันเลยแล้วกัน  ดีมั้ย”  เต็งอธิบายพร้อมเชื้อชวน  “แล้วชื่ออะไรกันบ้างละ”  เต็งกล่าวเสริม
*********
    หลังจากที่ทั้ง 8 คน ได้สมัครเป็นสมาชิกชมรมอาคิโด้เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น  ก็ได้แยกย้ายกันกลับ  อีฟแยกตัวไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าตามลำพัง  อีฟชอบไปไหนมาไหนคนเดียวเสมอ ๆ  เธอเป็นสาวห้าว  กล้า  เก่ง และที่หนีไม่พ้นคือมีเสน่ห์
    ขณะที่เดิน ๆ อยู่นั้น  ก็บังเอิญเจอกับเต็งและเพื่อน ๆ
    “อ้าวอีฟนี่  บังเอิญจัง ว่าแต่ทำไมมาคนเดียวล่ะ  เพื่อน ๆ ไปไหนกันหมด”  เต็งทัก
    “เพื่อน ๆ แยกย้ายกันกลับหมดแล้วค่ะ  แล้วอีฟก็ชอบมาคนเดียวอยู่แล้ว  ก็เลยมาคนเดียว”  อีฟตอบยิ้ม ๆ
   
“เป็นผู้หญิงไปไหนมาไหนคนเดียวมันอันตรายรู้มั้ย  เออนี่  รู้จักกับเพื่อนพี่หน่อยสิ”  เต็งถือโอกาสตักเตือนรุ่นน้องและแนะนำเพื่อนตนให้อีฟรู้จัก
“คนนี้ชื่อโอม  ชื่อจริงชื่อพนาดร  หงส์หยก  ส่วนคนนี้ชื่อรัน  อรัณย์
สีทันดร  ส่วนคนสุดท้ายชื่อพงศ์  หรืออนุพงศ์  วิฑูรย์  ครับผม”
    “หวัดดีครับ”  ทั้ง 3 คนพูดพร้อมกัน
    “มาคนเดียวเนี่ยไม่กลัวเหรอ  ไปกับพวกพี่มั้ยครับ  รับรองว่าปลอดภัย  ชัวร์”  โอมหาเสียง
    “ไม่กลัวหรอกค่ะ  อีฟเอาตัวรอดได้  แต่ถ้าจะให้ไปกับพวกพี่อีฟคงต้องขอตัวนะคะ  เพราะว่าเพิ่งจะรู้จักกัน  คงไม่เป็นไรนะคะ”  อีฟตอบฉะฉานแล้วแยกทางไป
*********
    “เฮ้ย ! เต็ง ฉันว่าน้องอีฟของนายน่ารักดีว่ะ  ดูห้าว ๆ ดี”  โอมเอ่ยขึ้นหลังจากที่อีฟเดินไปแล้ว
    “เออ  ฉันก็ว่างั้นแหละ แต่นายอย่าบอกนะว่าชอบอีฟ”  เต็งร้อนตัว
    “นั่นดิ เพิ่งเจอน้องเค้าครั้งแรกเองไอ้โอมหัวงู  เวอร์ไปเปล่า”  รันท้วง
    “อ้าว  มันก็ไม่แน่นะเว้ย  ครั้งนี้เพิ่งครั้งแรก  ครั้งหน้าอาจมีหวังก็ได้”
พงศ์เสริม
    “เอาใหญ่แล้วพวกนายนี่  นั่นน่ะศิษย์ใหม่ชมรมเรานะเว้ย  คอยดูเหอะ  ฉันจะสอนน้องเค้าให้เตะก้านคอนาย”  เต็งพูดอย่างหมั่นไส้
    “อ้าว ๆ ไอ้เต็ง  มาด้วยกัน  ไม่เข้าข้างกันเลย”  โอมร้อง
    “ก็ตอนนี้ฉันหิวนี่หว่า  ทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว  มายืนชื่นชมน้องเค้าอยู่ได้  โน่นเค้าไปถึงไหนต่อไหนแล้ว  ไปได้แล้ว”  เต็งฉุนพร้อมทั้งลากเพื่อนทั้ง 3 คนไปหาของกิน
*********
“เฮ้ย ! นั่นใช่น้องอีฟรึเปล่าวะ?”  รันถามเพื่อน 
    “ไหนวะ”  พงศ์ถามบ้าง
    “นั่นไง  หน้าโรงหนังไง”  รันพูดพลางชี้
    “ใช่ว่ะ  ใช่จริงด้วย”  โอมออกนอกหน้า
    “งั้น  เราควรจะเข้าไปทักน้องเค้าอีกสักรอบดีใช่ไหมวะ?”  เต็งพูดอย่างรู้ทัน
    “ใช่เลยเพื่อน”  โอมว่าแล้วก็เดินนำหน้าไป
    “อีฟ”  เต็งเรียก  “เจอกันอีกแล้วนะ  ดูหนังเหรอ  แปลก  ดูคนเดียวจะสนุกได้ไง”  เต็งทักทายอย่างสนิทสนม
    “ค่ะ  ดูคนเดียว  ไม่เห็นแปลกเลย  อีฟก็ดูคนเดียวอย่างนี้ออกบ่อยไปนาน ๆ จะมาดูกับเพื่อน  พวกพี่ ๆ ก็ดูเหมือนกันเหรอคะ”  อีฟถามกลับ
    “ครับ  เออ  หนังจะฉายแล้ว  พี่ว่าเราไปกันดีกว่า”  รันบอก
    “อีฟนั่งไหน”  โอมถาม
    “9 I ค่ะ”  อีฟตอบ
    “พอดีเลย  พวกพี่ก็นั่งแถว I 10,11,12,13”  โอมบอก  จริง ๆ ก็ไม่คิดว่าจะได้นั่งติดกันหรอก  แต่  บังเอิญ ! !
*********
    หลังจากหนังจบ  ทั้ง 5 คนต่างแยกย้ายกันกลับ  อีฟเริ่มสนิทกับชายหนุ่มทั้ง 4 คนอย่างรวดเร็ว  ด้วยความที่อีฟนิสัยตรงไปตรงมา  อารมณ์ดี  อีฟจึงกลายเป็นที่รักของหลายคนที่รู้จักกับเธอได้ในเวลาอันรวดเร็ว
    “อีฟ  ไปไหนต่อ”  โอมถาม
    “ทีแรกว่าจะไปเล่นไอซ์สเก็ต  แต่นี่ก็เย็นแล้ว  อีฟคงต้องกลับบ้าน”
อีฟตอบ
    “แล้วอีฟจะกลับยังไง  ให้พวกพี่ไปส่งไหม?”  เต็งถามอย่างเป็นห่วง
“ก็ขึ้นรถเมล์กลับไงคะ  อีฟกลับเองได้ค่ะ  อีฟรู้จักกระเป๋ารถเมล์ที่วิ่งผ่านหน้าบ้านอีฟ แล้วก็คนในซอยก็รู้จักอีฟหมด ไม่มีปัญหาค่ะ” อีฟตอบยิ้ม ๆ
“งั้นอีฟกลับก่อนนะคะ  หวัดดีค่ะ”  อีฟขอตัวพร้อมยกมือไหว้ชายหนุ่มรุ่นพี่ทั้ง 4 คน
*********
    “กลับมาแล้วคร้าบโผม”  อีฟลากเสียงอย่างขี้เล่น
    “ไงล่ะ  วันแรก  แล้วนี่กินอะไรมารึยัง”  รองศาสตราจารย์คุณหญิงมาณวิกาถามลูกสาว
    “ก็ดีค่ะ  รุ่นพี่เค้าก็ดี  แต่ตอนนี้อีฟรู้สึกว่า  หิวจังเลยค่ะแม่  มีอะไรกินบ้างเอ่ย”  อีฟอ้อนกอดแม่
    “เรานี่จริง ๆ เลย  ไป ๆ กินข้าว  มีของโปรดอีฟทั้งนั้นเลยลูก”  คุณหญิงสาธยาย
    สองแม่ลูกเดินมาถึงห้องอาหาร  ท่านนายพลภาวพันธ์  เวสารัชผู้เป็นบิดากับพันตรีภควัต  เวสารัชพี่ชายกำลังรออยู่แล้ว
    “ไงลูกสาวพ่อ  ไปวันแรก  ดีมั้ยลูก”  ท่านนายพลถามลูกสาวคนเล็กด้วยอาการยิ้มแย้มแจ่มใส
    “ก็ดีค่ะพ่อ  แต่วันแรกไม่มีอะไรมาก  ก็แค่จดตารางเรียนแล้วก็เลือกชมรม  ยังไม่ได้เริ่มเรียนเลย”  อีฟตอบพลางกินพลาง
    “แล้วเราอยู่ชมรมอะไรล่ะ?”  พี่ชายถามขึ้นบ้าง
    “ชมรมอาคิโด้ค่ะ  กะว่าจะเจริญรอยตามพี่ชาย”  อีฟทำเสียงล้อเลียน
    “ใครเป็นหัวหน้าชมรม?”  พี่ชายซักต่อ
    “ชื่อเต็งค่ะ  แต่คนส่วนใหญ่เรียกว่า  ‘เฮียเต็ง’  ชื่อจริงชื่อนาย
ปฤษฎางค์  เสนางคนิกร  เนี่ยพี่เค้าเป็นประธานคณะด้วยนะคะ  พ่อเป็นลูกครึ่งไทย จีน  ส่วนแม่เค้าเป็นไทย อเมริกัน  หน้าตาดีค่ะ  ออกไปทางอเมริกัน”  อีฟเล่าอย่างละเอียด
“อ๋อ ! นายเต็งเองเหรอ”  เอฟคราง
    “พี่เอฟรู้จักด้วยเหรอคะ?”  อีฟถามอย่างสงสัย
    “อ้าว ! รู้จักสิเค้าเป็นรุ่นน้องพี่  ตอนพี่เป็นหัวหน้าชมรม  เค้าสนใจมากเลย  คอยมาถามเทคนิคการเล่นกับพี่ตลอดแหละ  นิสัยดี  เอาการเอางานอยู่”  เอฟคลายสงสัยให้น้องสาว
    “ก็ดีนี่ลูก  รู้จักกันไว้ไม่เสียหาย  ดีซะอีก  เค้าจะได้ช่วยแนะนำเรา  ว่าง ๆ ก็พามาบ้านสิลูก  แม่ไม่ว่าหรอก”  คุณหญิงให้ท้ายลูกสาวแล้วหันไปลอบยิ้มกับท่านนายพล
    “ค่ะ”  อีฟรับคำ
*********
    ตอนเช้า พันตรีภควัตขับรถมาส่งน้องสาวที่หน้าคณะพร้อมทั้งบ่นน้องสาว
    “นี่อีฟ  เราก็ขับรถเป็น  เมื่อไหร่จะเอารถออกมาใช้ล่ะเนี่ย  พี่ขี้เกียจมาส่ง”
    “แล้วแต่อารมณ์ค่ะ  ตอนนี้น้ำมันก็แพง  พี่เอฟก็ผ่านทางนี้อยู่ทุกวัน  แค่เลี้ยวรถมาส่งน้องสาวแค่นี้เอง  ทำเป็นบ่น”  อีฟบ่นบ้าง
    “OK. ครับ OK. แหม ! ได้ทีล่ะยืดยาวเชียวนะ  แล้วเย็นนี้ต้องมารับไหม”  พี่ชายถาม
    “ไม่ต้องค่ะ  อีฟกลับเอง”  อีฟบอกพี่ชาย 
“งั้นก็ระวังตัวด้วยล่ะ  พี่จะได้ไปรับคุณฟ้า  ไป ๆ ลงไปได้แล้วเดี๋ยวพี่ไปทำงานสาย”  พี่ชายเหลือบไปเห็นสายตาล้อเลียนของน้องสาวเลยรีบตัดบท
“หวัดดีค่ะพี่ชาย  ขับรถดี ๆ นะคะ”  อีฟยกมือไหว้  ยิ้มอย่างล้อเลียน
*********
“อีฟ  พี่เอฟมาส่งเหรอ?”  เฟิร์สถาม 
    “อือ ! เห็นแล้วถามทำไมเนี่ย”  อีฟย้อนแล้วชกหน้าเฟิร์สเบา ๆ ในลักษณะสัพยอก
    “แล้วนี่ยังไม่มีใครมาเหรอ?” อีฟถามบ้าง
    “เห็นแล้วถามทำไมเนี่ย”  เฟิร์สล้อเลียนแล้วขยี้ศีรษะอีฟเบา ๆ
    “ทีใครทีมันนะ”  อีฟกล่าวจบก็ชวนเพื่อนชายไปกินข้าว
    “นี่แหนะ  มาอยู่นี่เอง  เมื่อกี้ไปที่โต๊ะมาไม่มีใครอยู่เลยมาโรงอาหาร  คิดว่าน่าจะมากินข้าวกัน  จริงเปล่า”  จีมาถึงก็พูดไม่หยุดพลางหันไปขอพวก
    “เอาเหอะนะ  พอแล้ว หยุดพร่ำได้แล้วตอนนี้หิว  ไปหาข้าวกินบ้างดีกว่า  จะได้ไปเรียนกัน”  โอ๊ตตัดบท
*********
ทุกวิชาผ่านไปด้วยดี  ชั่วโมงสุดท้ายเป็นชมรม  เต็งเริ่มต้นการรับสมาชิกใหม่โดยการให้เข้ามาต่อสู้กับตน  ตัวต่อตัว  ใครกล้าให้เข้ามา  ทุกคนลองกันหมดแล้ว  อีฟเป็นคนสุดท้ายเพราะมัวแต่จับจุดอ่อนของเต็งอยู่  และอีฟก็เป็นคนแรกที่เกือบคว่ำเต็งได้ แต่ก็แค่เกือบเพราะว่าเต็งใช้เทคนิคส่วนตัวคว่ำอีฟลงอีกทีหนึ่ง  จนอีฟข้อเท้าแพลง  อีฟต้องทนเจ็บอยู่จนหมดชั่วโมง  รอจนคนอื่นกลับกันหมดแล้วจึงค่อยไปเก็บของที่ล็อคเกอร์
อีฟเดินขากะเผลกไปที่ล็อคเกอร์ของตน  เธอพบกุหลาบสีชมพูดอกหนึ่งเสียบไว้ที่ล็อคเกอร์  ไม่มีการ์ดติดมา  แต่มันก็เป็นกุหลาบที่สวยมากเพราะเป็นสีชมพูที่อีฟชอบ  และมันก็หายากซะด้วย  แต่ใครล่ะเป็นเจ้าของดอกกุหลาบดอกนี้ 
“ไงอีฟ  เป็นไงบ้าง  ขอพี่ดูข้อเท้าหน่อยได้มั้ย?”  เต็งเข้ามาเงียบ ๆ ขณะที่อีฟสะดุ้งเล็กน้อย  หันไปมองที่มาของเสียงนุ่มลึกนั้น  แล้วยิ้มน้อย ๆ ใบหน้านั้นยิ้มอย่างเอ็นดูมองมาที่เธออยู่ก่อนแล้ว
“แค่ขาแพลงค่ะ  ไม่เป็นไรมาก”  อีฟตอบชายหนุ่ม
“ขอพี่ดูหน่อยนะ”  เต็งบอก  พลางนั่งลงจับที่ข้อเท้าอีฟ
    “โอ๊ย !!!”  อีฟร้องเสียงหลง  เต็งมองหน้าแล้วหัวเราะในลำคอ
    “ทนนิดนะ  อาจจะเจ็บ  แต่รับรองว่าหาย”  ว่าแล้วเต็งก็จัดแจงดึงข้อเท้าอีฟ
    “กึก”  เสียงกระดูกลั่น  อีฟกัดฟันไม่ยอมร้อง
    “เป็นไง  ทีนี้  ดีขึ้นมั้ย?”  เต็งมองหน้าซ่อนยิ้มไว้  อีฟกัดฟันอยู่สักครู่ก็พูดกับเต็ง
    “ก็ดีขึ้นค่ะ  ขอบคุณค่ะเฮียเต็ง”  อีฟกล่าวพลางยกมือไหว้ขอบคุณ
    “แล้วจะกลับบ้านเลยมั้ย  เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง”  เต็งอาสา  “ห้ามปฏิเสธนะ”  เขาดักคอหญิงสาว  อีฟได้แต่ยิ้มแหย ๆ พยักหน้ารับคำ
*********
    “อ้าวนั่นรถใครมาน่ะ  แม่ชม  ไปดูซิ”  คุณหญิงเรียกแม่บ้านให้ไปดู
“ใครมาล่ะ?”  หล่อนถาม
    “คุณอีฟค่ะ  มากับใครไม่ทราบ”  ชมตอบแล้วละไปทำงานต่อ
    “ไงลูก  แล้วนั่นขาไปโดนอะไรมาน่ะ  ฮึ?”  คุณหญิงถามลูกสาว
    “ขาแพลงค่ะ”  อีฟตอบน้ำเสียงปกติ
    “ตายแล้ว ! ไปทำอีท่าไหนล่ะเนี่ย  ฮึ  ลูกสาว”  คุณหญิงเริ่มร้อน
    “แม่คะ  นี่เฮียเต็งค่ะ”  อีฟแนะนำเต็งให้มารดารู้จัก  พร้อมกับที่เต็งยกมือไหว้รองศาสตราจารย์คุณหญิงมาณวิกา  เวสารัช
    “สวัสดีครับ”
    “จ้ะ  สวัสดีจ้ะ”  คุณหญิงรับไหว้  พลางเชื้อเชิญ  “เชิญเลยลูก  เชิญข้างในก่อน” 
    “ว่าแต่เราน่ะยังไม่ได้บอกแม่เลยนะ  ว่าไปโดนอะไรมา”  คุณหญิงหันมาคาดคั้นลูกสาว
“คือน้องเค้าเล่นอาคิโด้น่ะครับ  ครั้งแรกคงยงไม่ชิน  เลยมีอุบัติเหตุน่ะครับ  แต่ผมดึงกระดูกกลับเข้าที่ให้เรียบร้อยแล้วครับ  เดี๋ยวทานยาแก้ปวด
แล้วก็นวดสักัพกก็หายครับ”  เต็งตอบแทนอีฟ
    “เฮ้อ ! ค่อยยังชั่วหน่อย  แม่ก็นึกว่าเป็นอะไรมาก”  หล่อนบ่น
    “ไงคุณหญิง  ใครมาล่ะ?”  ท่านนายพลเดินมาพร้อมกับลูกชายที่ห้องรับแขก
    “เฮียเต็งค่ะพ่อ  พี่เอฟ”  อีฟบอก
    “สวัสดีครับ”  เต็งกล่าวทักทายท่านนายพลพลางยกมือไหว้
    “ไงไม่ได้เจอกันนานเลยนะ  หลานชาย”  ท่านนายพลรับไหว้แล้วทักทายเต็งอย่างสนิทสนม  ส่วนเต็งยิ้มน้อย ๆ 
    “สบายดีเหรอเต็ง”  เอฟถามบ้าง
    “สบายดีครับพี่เอฟ”  เต็งตอบ
    “พ่อรู้จักเฮียเต็งด้วยเหรอคะ”  อีฟถามบิดาอย่างฉงนใจ
    “อ้าว ! รู้จักสิ  เนี่ยลูกชายคนโตของอาตี๋เพื่อนพ่อไง”  ท่านนายพลบอกกับลูกสาว
    “เหรอคะ  อีฟไม่เห็นรู้เรื่องเลย”  อีฟร้อง
    “ก็เราจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ  ไปเรียนน่ะเคยกลับบ้านบ้างมั้ย  นาน ๆ จะกลับสักที”  พันตรีภควัตแย้งน้องสาว
    “อ้าว ! แล้วกันสิ  ก็ใครกันล่ะที่ยุให้อีฟไปสอบนานาชาติน่ะ  ถ้าไม่ใช่พี่เอฟอีฟก็ไม่ไปหรอก  เราก็เห็นว่าพี่ชายหวังดีอยากให้เราได้ภาษา  อยู่ดี ๆ มาโทษกันดื้อ ๆ ได้ไงล่ะ  ถึงนาน ๆ อีฟจะกลับทีนะ  แต่อีฟก็ไม่เคยขออะไรเพิ่มนี่คะ  อีฟก็อยู่ของอีฟ”  อีฟงอนต่อว่าพี่ชาย
    “อ้าว ๆ ๆ พอได้แล้วลูก  พอได้แล้ว  พ่อว่าเราไปกินข้าวกันดีกว่านะ
มัวแต่เถียงกันอยู่ได้” ท่านนายพลเข้าขวางทัพเรียบร้อยก็ชวนทั้งหมดไปที่โต๊ะอาหาร
*********
ค่ำวันนั้นอีฟหยิบดอกกุหลาบสีชมพูขึ้นมาพิจารณา  ขณะที่อีฟกำลัง
จ้องมองกุหลาบดอกนั้น  เสียงประตูก็ดังขึ้นอย่างเป็นจังหวะ  อีฟสะดุ้งเล็กน้อยตื่นจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงนั้น
    “ใครคะ?”  อีฟร้องถาม
    “พี่เอง”  เอฟตอบน้องสาว
    “ห้องไม่ได้ล็อคค่ะ”  อีฟบอกพี่ชาย
    เอฟเปิดประตูห้องน้องสาวเข้ามา  เขามานั่งข้างกายหญิงสาว  ยิ้มให้
แล้วยกมือขึ้นลูกศีรษะของน้องสาวอย่างเอ็นดูระคนห่วงใย
    “ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ  ดึกมากแล้วนะ”  เขาถามหญิงสาวผู้น้องด้วยน้ำเสียงอันปราณี
    “กำลังจะนอนค่ะ”  อีฟตอบคำถามนั้น  แต่สายตาไม่ละไปจากดอกกุหลาบสีชมพู
    “แล้วนั่นกุหลาบของใครล่ะ?”  เอฟถามซ่อนยิ้ม
    “อีฟก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่ามันเป็นของใคร  มันมาเสียบไว้ที่ล็อคเกอร์ของอีฟ  อีฟไปเจอตอนหมดชั่วโมงชมรม  เลยเก็บเอาไว้”  น้องสาวบอกพี่ชาย
อย่างฉงนใจ  พี่ชายเห็นก็ยิ้มพลางตัดบท 
    “นอนได้แล้วนะ  หรือว่าจะฟังเพลง”
    “ฟังเพลง”  อีฟตอบอย่างไม่รีรอ  รีบวิ่งไปหยิบกีต้าร์มาให้พี่ชาย  ฟังเพลงที่เอฟร้องให้ฟังไปได้สัก 2 เพลง  อีฟก็ม่อยหลับไปโดยดี  พี่ชายยิ้ม  ก้มลงจูบที่หน้าผากของน้องสาว 
    “หลับฝันดีนะเด็กน้อย”  เขากระซิบลาน้องสาวแล้วผละไปนอน
*********
เช้าวันรุ่งขึ้น  เอฟไปส่งอีฟเหมือนเช่นเคย  อีฟลงจากรถด้วย
อาการกะเผลกเล็กน้อย  เต็งมารอรับอีฟ  ทั้ง 2 คนเดินไปด้วยกัน
    “อีฟเป็นไงบ้าง  ยังเจ็บอยู่เหรอ  หาหมอมายัง”  แนนถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
    “ไม่เป็นไรมากหรอก”  อีฟบอกกับเพื่อนแล้วหันไปขอบคุณเต็ง
    “ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอก  พี่เป็นคนทำให้อีฟขาแพลงนะ  งั้นพี่ขอตัวไปเรียนก่อนนะครับ”  เต็งบอกกับอีฟ  แล้วเดินจากไป
    “อีฟ  เฮียเต็งจีบเหรอ”  เฟิร์สถามอย่างไม่ค่อยเต็มเสียงนัก
    “ถามฉันแล้วฉันจะไปถามใครล่ะ  ไม่รู้  แต่ฉันก็ไม่เห็นพี่เค้ามีท่าทีอะไรเลยนี่  ก็ปกติ  คิดมากไปเปล่า”  อีฟตอบแบบงงกับคำถาม
    “เฮ้ย ! อีฟ”  โอ๊ตพูดพลางตบบ่าเพื่อนสาวเบา ๆ  “คุณดูไม่ออก  แต่คนอื่นเค้าดูออก  นะ  อย่าปฏิเสธเลย”  โอ๊ตเสริมต่อ
    “เออพวกนายนี่ถ้าจะว่างมากนะ  จับผิดชาวบ้านเค้าไปทั่ว  ตามใจ  แล้วแต่จะคิดแล้วกัน  แล้วฉันจะเอาเก็บไปคิดพินิจพิจารณาดูแล้วกันนะว่าจริงอ๊ะเปล่า”  อีฟพูดขำ ๆ
    “นี่อีฟ  ถ้ามันจริงขึ้นมานะ  เธอจะเป็นคนที่น่าอิจฉามากเลยรู้เปล่า”
จี  แนน  แหม่ม  แทบจะพูดพร้อมกัน
    “ช่าย  น่าอิจฉามาก  แต่จะไปอิจฉาทำไม  เฮียเต็งน่ะเหรอหล่อ  โด่ ! สู้ผม 2 คนก็ไม่ได้”  วิทย์กับมิคพูดพลางเก๊กหน้าหล่อแข่งกัน
    “แหวะ  หล่อตายล่ะ”  อีก 6 คน  แขวะใส่  จนวิทย์กับมิคต้องเบือนหน้าหนี  แล้วหันไปเกาหัวทำหน้าแหย ๆ
*********
    อีฟชวนเฟิร์สไปที่ล็อคเกอร์เก็บของ  ทั้ง 2 คนพบดอกกุหลาบสีชมพูเสียบไว้ที่ล็อคเกอร์ของอีฟ  ทำให้เฟิร์สสงสัย  อีฟจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เฟิร์ส
ฟัง  เฟิร์สจึงซึมลงไปเล็กน้อย  อีฟนั้นสนิทกับเฟิร์สมาก  มีอะไรก็เล่าให้เฟิร์สฟัง  มีปัญหาก็ปรึกษาเฟิร์สตลอด  เฟิร์สเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับอีฟ  แต่อีฟไม่เคยรู้หรอกว่าตลอดเวลาที่คบกันมา  เฟิร์สแอบมีใจให้อีฟอยู่เงียบ ๆ  เวลาอีฟมีความสุขเฟิร์สก็มีความสุขไปด้วย แต่เวลามีใครมาจีบอีฟสิ เฟิร์สจะซึมลงไปถนัดตา  เฟิร์สไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใคร แม้แต่อีฟ ก็จะมีแต่มิคเท่านั้นที่ดูออก และคอยให้กำลังใจเพื่อน แต่สำหรับอีฟแล้ว อีฟรักเฟิร์สอย่างเพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น แต่ถึงจะมีใครมาจีบ อีฟก็ไม่สนใจเพราะอีฟยังคงต้องการอิสระและที่สำคัญ ยังไม่เจอคนที่ถูกใจ อีฟจึงยังไม่คิดอะไรทั้งสิ้น
    “เนี่ยเฟิร์ส อีฟก็ไม่รู้ว่าของใคร ใส่ผิดหรือเปล่าก็ไม่รู้” อีฟพูดลอย ๆ
    “เค้าไม่ได้เขียนอะไรติดไว้เหรอ” เฟิร์สถาม
    “เปล่า มีมาแค่เนี้ย” อีฟตอบ พร้อมยื่นดอกกุหลาบใส่หน้าเฟิร์ส
    “งั้นอีฟก็ดู ๆ ไปก่อนแล้วกัน บางทีอาจจะเป็นคนที่มาจีบอีฟก็ได้นะ” เฟิร์สพูดอย่างพยายามเก็บอารมณ์ไว้
    “เฮ้อ ! อือ ๆ ดูไปก่อนก็ได้” อีฟพูดเนือย ๆ เหมือนจะบ่นกับตัวเอง แต่แล้วก็เหลือบไปเห็นสีหน้าเฟิร์สเศร้า ๆ จึงชวนเฟิร์สไปเรียน
*********
    ทางด้านเต็ง ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนทั้ง 3 คนฟังว่า จริง ๆ แล้วพ่อกับแม่เป็นคนจับคู่อีฟให้กับน้องชายตน
    “เจ้าตองมันก็รับรู้ แล้วก็บอกว่าจะลองจีบดู แต่ไม่รับปากว่าจะจีบติดหรือเปล่า เพราะมันก็มีแฟนอยู่แล้ว ขอเวลาเคลียร์ก่อน” เต็งบอก
    “ทีแรกฉันก็ไม่ได้ใส่ใจนักหรอก แต่พอเจอตัวจริงของน้องอีฟฉันเริ่มไม่แน่ใจตัวเองว่ะ ฉันก็ยังหวั่น ๆ อยู่เหมือนกันแหละว่าถ้าเจ้าตองมันกลับมาแล้วเจอกับอีฟ ฉันว่ามันจะต้องชอบน้องเค้าแน่ ๆ เลยว่ะ ตำแหน่งนี้ก็ของมันซะด้วย” เต็งบ่น
“เรื่องแบบนี้ใครดีใครได้สิวะ นายก็ทำเร่งคะแนนสิ กว่าตองมันจะกลับก็ Summer โน่น มันมาทีหลังคะแนนน้อยกว่าเห็น ๆ” โอมให้กำลังใจเพื่อน
    “ได้ไงเรื่องอย่างนี้มันต้องขึ้นอยู่กับผู้หญิง เราไปบังคับให้เค้ามาชอบเรามันไม่ได้หรอก” รันท้วง
    “ใช่ ที่รันพูดก็ถูกนะ” พงศ์เสริม
*********
    ต้นฤดู Summer ของอเมริกา นายปาพจน์ เสนางคนิกร หรือตอง น้องชายคนรองของเต็ง เดินทางกลับจากอเมริกาอย่างเงียบ ๆ โดยไม่บอกใคร เขาต้องการที่จะทำให้ทุกคนแปลกใจ จึงเริ่มไปหาเต็งที่มหาวิทยาลัยก่อน
    ที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัย อีฟกำลังหาหนังสือเล่มหนึ่งที่มุมเงียบ และบังเอิญไปหยิบหนังสือเล่มเดียวกับชายหนุ่มผู้หนึ่ง
    “หน้าตาก็ดี ลูกครึ่งซะด้วย ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย ฉันเห็นก่อน หยิบก่อนด้วย ปล่อยให้ฉันก่อนสิ” อีฟคิดในใจ
    “เอ น่ารักดีแฮะ ท่าทางร้ายเอาการ แกล้งคนเล่นดีกว่า” ตองคิดในใจเช่นกัน
    “ I see it before you.” ตองเริ่ม
    “ No, I see it before you.” อีฟเถียงกลับ
    “But, I see it before you.” ตองกวนไม่เลิก
    “OK. Are you see it before me? But, You are should a gentleman. Do you know gentleman?” อีฟโต้กลับอย่างไม่ลดละ                            
“I’m a gentleman and you, Are you a gentlewoman?” ตองพูดพลางยักไหล่ทำหน้ายียวนจนอีฟหมั่นไส้
    “Are you ever death?” อีฟตะคอกใส่ตองแล้วสะบัดหน้าเดินหนีไปหาหนังสือเล่มอื่นแทน ตองมองตาม ยิ้มอย่างขำ ๆ
    “เอาเรื่องไม่เบาแฮะ กวนประสาทเล่นดีกว่า” ตองคิด
“ไร้มารยาทสิ้นดีเลย กวนประสาทชมัด ถ้าไม่ติดชั้นวางหนังสือนะ จะต่อยให้หน้าหันเลย” อีฟพูดกับตัวเองอย่างหงุดหงิด
“ขอโทษนะครับ นั่งด้วยคนได้ไหมครับ” ตองถาม
“เชิญ” อีฟตอบอย่างอารมณ์เสีย โดยไม่มองหน้าว่าเป็นใคร
“อยู่ปีไหนครับ” ตองชวนคุย
“ปี 1” อีฟตอบปัด ๆ
“คณะ?” ตองถามต่อ
“วิศวะฯ” อีฟตอบอย่างเสียไม่ได้
“พอดีเลย คุณรู้จักเฮียเต็งไหมครับ” ตองเข้าด้ายเข้าเข็ม
“รู้สิ” อีฟชักรำคาญจึงเงยหน้าขึ้นมามอง
“นี่คุณเองเหรอ” อีฟโมโห
“อะไรกันคุณ ผมนั่งคุยกับคุณอยู่ตั้งนานนี่คุณไม่รู้สึกหรอกเหรอ” ตองย้อนหญิงสาว
“ก็ฉันไม่นึกนี่ว่าจะเป็นคุณ” อีฟโกรธ
“OK ครับ เมื่อกี้นี้ผมขอโทษ ผมหยอกเล่น ไม่นึกว่าคุณจะโกรธผมขนาดนี้ ขออภัยครับ” ตองทำท่าเลียนแบบหนังจีน
“นี่คุณ มันไม่ตลกเลยนะ สนุกนักเหรอไง” อีฟถลึงตาใส่
“แล้วคุณจะให้ผมทำยังไงล่ะ” ตองทำไร้เดียงสา
“ไปไหนก็ไป ไปไกล ๆ เลย” อีฟไล่
“ไปก็ได้ครับแต่คุณต้องพาผมไปหาเฮียเต็งก่อนนะ ผมถึงจะยอมไป” ตองต่อรอง
“ก็แล้วทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งคุณด้วยล่ะ” อีฟย้อนบ้าง
    “ไม่รู้ล่ะ ยังไงวันนี้คุณก็ต้องพาผมไปหาเฮียเต็ง เพราะว่าผมไม่รู้จักใครที่นี่ นอกจากคุณ” ตองเข้าข้างตัวเอง
    “จะบ้าเหรอ ใครไปรู้จักกับคุณ ฉันไม่อยากรู้จักคนกวนประสาทอย่างคุณหรอกนะ” อีฟต่อว่า
    “ก็ได้ครับ ไม่รุ้จักก็ไม่รู้จัก แต่คุณช่วยพาผมไปหาเฮียเต็งก่อนได้ไหมครับ ผมขอร้องล่ะ นะ” ตองอ้อนวอน
    “เฮ้อ ! ก็ได้ ตามมาสิ อ้อ ระหว่างที่ตามมานี่ห้ามพูด หรือยียวนกวนประสาทฉันเป็นอันขาดนะ ไม่งั้นโดนดีแน่” อีฟขู่
    “ครับผม” ตองตะเบ๊ะ แล้วเดินตามไปเงียบ ๆ ยิ้มกับตัวเอง
*********
    อีฟเดินนำตองมาที่ห้องซ้อมดนตรี
    เต็งกำลังซ้อมดนตรีอย่างหนักเพื่อเข้าประกวดโฟล์คซอง ทีมของเต็งมีเต็งร้องนำและกีต้าร์ โอมกีต้าร์โซโล รันมือกลอง พงศ์มือเบส
    ส่วนทีมของอีฟก็เข้าร่วมการประกวดครั้งนี้ด้วยเช่นกัน มีอีฟกับวิทย์ร้องนำ เฟิร์สกีต้าร์ โอ๊ตมือเบส มิคมือกลอง ซึ่งทั้ง 4 หนุ่มกำลังรออีฟเพื่อที่จะไปซ้อมที่ร้านโอ๊ต
    “นั่นไง เฮียเต็ง” อีฟพูดพลางบุ้ยปากไปทางเต็ง
    “เดี๋ยวครับ ส่งแค่นี้เองเหรอ ไม่พาเข้าไปข้างในด้วยล่ะ เดี๋ยวผมหลง”ตองแกล้งเอ๋อ
    “อยากหลงก็หลงไปสิ ฉันจะไปหาเพื่อนฉัน” อีฟเดินหนี
    “คุณชื่ออะไรครับ” ตองถามอย่างเอาจริงเอาจัง
    “ชื่อเดียวกับมารดาคุณละมั้ง” อีฟแก้เผ็ดตองให้เจ็บใจเล่น
    “ร้ายกาจจริง ๆ ผมต้องรู้ให้ได้ว่าคุณเป็นใคร” ตองรำพันกับตัวเอง
                               
    อีฟขอแยกกับเพื่อน ๆ ก่อนเพื่อไปที่ล็อคเกอร์    เธอเห็นกุหลาบสีชมพูเสียบไว้ที่ล็อคเกอร์
    “ใครนะ ส่งให้เราได้ทุกวัน” อีฟเอ่ยกับตัวเอง สักพักจึงไปที่ร้านโอ๊ต
    “อีฟ คนเมื่อกี้นี้ใครเหรอ” เฟิร์สถามอย่างสงสัย
    “ไม่รู้ ฉันรู้แต่ว่าหมอนั่นน่ะกวนประสาทฉันมาก ๆ เลย” อีฟฉุน
    “อ้าว ก็เห็นเดินมาด้วยกัน” วิทย์คราง
    “เออ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง” พูดจบอีฟก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อน ๆ ของเธอฟัง
    “นี่ ๆ ๆ ฉันว่าต้องเป็นเฮียตอง น้องชายเฮียเต็งแน่ ๆ เลย งั้นเดี๋ยวฉันจะลองถามพี่จอยให้แล้วกันนะว่าใช่หรือเปล่า” จีเอ่ย
    “ฮือ จะไปถามก็เชิญเลย แต่ฉันยังหมั่นไส้ตาบ้านั่นไม่หายเลย” อีฟพูดเซ็ง ๆ
    “ถ้าเค้าบ้า อีฟก็ต้องบ้าด้วยสิ เพราะอีฟไปคุยกับเค้านี่” เฟิร์สหยอก
    “นายเฟิร์ส” อีฟหันไปถลึงตาทำเสียงสูงใส่เพื่อนชาย
    “โอ๋ ๆ ๆ เค้าล้อเล่นน่า” มิคเสริม
*********
    “เฮ้ยตอง ไปไงมาไงเฮอะ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่โทรบอกเฮียล่ะ จะได้ไปรับ แล้วมาถูกได้ไงเนี่ย” เต็งทักทายน้องชาย
    “พอดีผมไปเจอน้องปี 1 คณะเฮีย เห็นเค้าน่ารักดี ก็เลยกวนประสาทเค้าเล่น แล้วก็เลยมัดมือชกให้เค้ามาส่งผมที่หน้าห้อง” ตองบอกพลางบุ้ยใบ้ไปตามเรื่อง
    “ชื่ออะไร” เต็งถามอย่างที่คิดว่าน่าจะเป็นอีฟ
    “ม่ายรุ ผมถามแล้วเค้าไม่ยอมบอก แถมด่าแม่อีก ร้ายเอาการเลยเฮีย อย่างเนี่ยต้องทำความรู้จักซะแล้ว” ตองพูดอย่างเจ็บใจ
“แล้วนี่จะอยู่กี่เดือน” เต็งถาม
“2 เดือนครับ กะว่าจะจีบสาวที่ป๊ากับแม่หาให้” ตองพูดทำเอาเต็งสะดุ้ง
    “เฮ้อ !” เขาถอนหายใจเบา ๆ
    “โห น้องชายกลับมาทั้งที ถึงกับถอนหายใจเชียวเหรอครับ” ตองบ่นยิ้ม ๆ แล้วชวนพี่ชายไปหาของกิน เต็งส่ายหัวยิ้ม ๆ พลางคิดในใจว่าต้องไม่รักผู้หญิงคนเดียวกับน้อง
*********
    ที่ร้านโอ๊ต ทุกคนรวมตัวกันที่ห้องดนตรีชั้น 3 ขณะเดียวกันกับที่เต็งพาเพื่อนกับน้องชายมาที่ร้านโอ๊ตพอดี
    “น้อง โอ๊ตล่ะ” เต็งถามเด็กเสิร์ฟ
    “อยู่ครับ อยู่ห้องซ้อมดนตรีกับเพื่อน ๆ ครับ เอ่อ ! จะรับอะไรดีครับ” เขาถาม
    “งั้นเอานมสด 5 แก้ว แล้วช่วยบอกโอ๊ตด้วยนะว่าเฮียเต็งมาหา” เต็งสั่ง
    “เรียกใครมาทำไมเฮีย” ตองถาม
    “อ้าวถามงี้ได้ไง ไม่อยากรู้เหรอว่าน้องคนนั้นที่นายว่าน่ะ เป็นใคร” รันย้อนน้องเพื่อน
    “หรือว่ากลัวเสียฟอร์ม” เต็งแซว
    “เปล๊า” ตองทำเสียงสูง
    “หวัดดีครับเฮียเต็ง เมื่อกี้อยู่ห้องซ้อมดนตรีไม่ใช่เหรอ ทำไมมาเร็วจัง” โอ๊ตทักทายอย่างสนิทสนม
    “เอาเหอะ พวกเราล่ะ เรียกมารู้จักกับน้องชายพี่หน่อย” เต็งพูดจบ ที่เหลือก็ตามลงมา เว้นอีฟ
    “หวัดดีครับ/ค่ะ” ทั้งหมดพูดพร้อมกัน
“น้องชายพี่ชื่อตอง เป็นรุ่นพี่พวกนาย 2 ปี กลับมา Summer 2 เดือน” เต็งแนะนำน้องชาย
    “หวัดดีครับ นี่ร้านนายเหรอ” ตองทักโอ๊ต โอ๊ตพยักหน้ายิ้ม ๆ
    “อีฟล่ะ” รันถามเพราะไม่เห็น
    “เออ อีฟล่ะ” ทุกคนเพิ่งรู้สึก
    “อยู่นี่” อีฟเดินลงบันไดมา
    “อ้าวแล้วเป็นอะไรล่ะ หน้ามุ่ยเชียว” เต็งถาม
    “ก็นายคนที่มาหาเฮียเต็งน่ะสิ กวนประสาทชะมัด น่าโดนต่อยสักเปรี้ยง” อีฟพูดอย่างยัวะ ๆ และมองไม่เห็นตองที่นั่งอมยิ้มอยู่ เต็งมองหน้าน้องชายเศร้าเล็กน้อย ส่วนคนอื่น ๆ ตกใจ
    “หวังว่าคงไม่ใช่ผมนะ” ตองแกล้งถาม
    “นี่คุณอีกแล้วเหรอ” อีฟชี้หน้า
    “เนี่ยนายตอง น้องพี่” เต็งห้ามทัพ
    “อ๋อ น้องเฮียเต็งเหรอทำไมไม่เหมือนเฮียเต็งเลยล่ะ ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลยนะ” อีฟต่อว่าแล้วเดินออกจากร้านไป
    “เห็นไหมล่ะ ผมบอกเฮียแล้ว ว่าน้องเค้าร้ายกาจ เฮ้อ ! ร้ายกาจจริงๆ ซะด้วย” ตองนั่งยิ้มจนทุกคนจับสังเกตได้
    เฟิร์สเศร้าไปขณะหนึ่ง เต็งก็เช่นกัน จีเท่านั้นที่ดูออก
*********
    หลังจากอิ่มแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับ เต็งพาน้องชายกลับบ้าน
    “หวัดดีครับอาม่า” ตองโผเข้ากอดอาม่า
    “หวัดดีครับป๊า หวัดดีครับแม่” แล้วก็หันไปไหว้เถ้าแก่ตี๋กับเถ้าแก่เนี้ย
“อาตอง ลื้อมาคราวนี้ ลื้อจาอยู่กับอาม่านานมั้ยอ่ะ” อาม่าถามหลานรัก
    “2 เดือนครับอาม่า” ตองบอก
    “แม่ว่า เราไปกินข้าวกันดีกว่า กินไปคุยไปก็ได้ ไปลูก ไปค่ะอาม่า”
คุณนายเจสสิก้าเอ่ยชวนลูก ๆ และแม่สามีไปทานอาหาร
   
*********
    “อาตอง เรื่องหนูอีฟล่ะ ลื้อจาเอายางไง” อาม่าเอ่ย
    “ตกลงครับอาม่า แล้ววันนี้ผมก็ไปเจอตัวจริงมาแล้วด้วย น่ารักดีครับ”
ตองตอบ
    “ผมบอกเฮียแล้ว เฮียก็ไม่เชื่อผม” ติงท้วง
    เต็งแกล้งน้องชายโดยการเล่าวีรกรรมของตองให้ทุกคนฟัง อาม่าฟังแล้วเกือบจะเป็นลม
    “อาตอง ลื้อปายทามอย่างงั้นได้ยางไง” อาม่าว่า
    “เอาน่าอาม่า ยังไงผมก็เอาจริงน่า รับรองครับว่าไม่ทิ้งขว้างแน่นอน” ตองพูดง่าย ๆ
    “เออ พูดง่ายนะ จีบให้ติดเถอะน้องชาย” เต็งหมั่นไส้
    “ช่าย” ติงเสริม แต่ตองยิ้มอย่างอารมณ์ดี
    เต็งเก็บเรื่องนี้ไปทำใจทั้งคืนจนผล็อยหลับไป
*********
ตองตื่นแต่เช้าเพื่อไปที่ร้านดอกไม้ พร้อมกับดอกกุหลาบสีชม
พูช่อใหญ่ แล้วก็ไปที่ล็อคเกอร์ของอีฟ พอดีกับที่อีฟเดินมาที่ล็อคเกอร์พอดี
    “นี่คุณมาทำอะไรที่ล็อคเกอร์ฉัน” อีฟถามเอาเรื่อง ตองไม่พูดพร่ำทำเพลง ยื่นกุหลาบช่อใหญ่ให้อีฟ อีฟถึงกับอึ้ง ตองรีบชิงพูดก่อน
    “ผมเห็นมันวางอยู่ตรงหน้าล็อคเกอร์คุณ มีการ์ดด้วย ผมก็เลย......”
    “แอบอ่าน คุณนี่เสียมารยาทจริง ๆ เลย ของคนอื่นคุณแอบอ่านได้ยัง
ไง นิสัยไม่ดี” อีฟต่อว่า
    “ผมก็แค่หวังดี กลัวใครจะมาเหยียบ” ตองตอบแบบน้ำขุ่น ๆ
    “จะบ้าเหรอ ช่อบะเร่อบะร่า ใครเค้าจะเหยียบ” อีฟรีบดึงดอกไม้จากมือตอง
    “จะไม่ขอบคุณสักคำเหรอครับ” ตองกวน อีฟไม่ตอบ เดินหนีไป
*********
    อีฟหาที่นั่งเงียบ ๆ มองดูกุหลาบสีชมพูช่อใหญ่ช่อนั้น พลางพูดกับตัวเอง
    “ปกติมีดอกเดียว วันนี้ช่อใหญ่ แถมยังมีการ์ดติดมาด้วย แปลก !!!”
    ตอนนี้ผมอยู่ใกล้ ๆ คุณ คุณเป็นคนที่น่ารักมาก แต่ผมจะอยู่ได้ไม่นานนัก แล้วผมจะกลับมาอีกครั้ง รัก
    อีฟอ่านข้อความนั้นแล้วถึงกับยิ้ม ตองแอบดูอยู่ที่มุมหนึ่ง ยิ้มเช่นกัน
*********
    เวลาผ่านพ้นไป เต็งทำใจได้แล้ว จีรู้สึกเช่นนั้น ส่วนอีฟกับตอง เหมือนเสือกับสิงห์ เจอกันเป็นต้องทะเลาะกันทุกที ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทั้งสองเริ่มเรียนรู้ซึ่งกันและกันโดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัวเลยสักนิด
    ตองไปนั่งดูอาคิโด้อยู่จนหมดชั่วโมง ระหว่างที่อีฟจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ตองเดินตามไป อีฟจึงขัดไว้
    “นี่คุณจะตามฉันมาทำไมไม่ทราบ”
    “ใครว่าผมตามคุณ ผมตามพี่ชายผมต่างหาก ไม่ค่อยจะหลงตัวเองเลยนะคุณ” ตองแกล้งยื่นหน้ามาใกล้ ๆ อีฟ อีฟจึงเอี้ยวตัวหลบและเซจะล้ม ตองจึงรวบตัวไว้ มือหนึ่งรองศีรษะของอีฟไว้ ทั้งคู่ล้มลงไปพร้อมกัน มือที่ตองรองศีรษะของอีฟไว้นั้นกระแทกกับเหล็กเข้าอย่างจัง ทำให้ตองถึงกับร้องไม่ออก มืออีกข้างยังคงรวบตัวอีฟไว้ อีฟหลับตาอยู่ครู่หนึ่ง ตองเช่นกัน ทั้งคู่ลืมตาขึ้นพร้อมกัน หน้าอยู่ห่างกันเพียงไม่ถึง 1 ฝ่ามือ อีฟหน้าแดงทำอะไรไม่ถูก สักพักอีฟจึงผลักอกตองเบา ๆ ทั้งสองค่อย ๆ ลุกขึ้น อีฟมองหน้าตองสักพักจึงเดินหนีไป ส่วนตอง แม้จะเจ็บแต่ก็ยิ้ม มองตามอีฟไป
*********
    เย็นวันนั้นครอบครัวเสนางคนิกร ได้รับเชิญไปรับประทานอาหารที่บ้านเวสารัช
    ขณะที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร ตองลอบยิ้มให้อีฟ อีฟหน้าแดง จึงหันไปคุยกับติงลูกชายคนสุดท้องของคุณปัชชุนและคุณนายเจสสิก้าเพื่อแก้ขัด ทั้งคู่เข้ากันได้ดีแม้ติงจะห่างอีฟถึง 2 ปี
    วันนี้มีแขกพิเศษที่เปิดตัวเป็นว่าที่สะใภ้ของครอบครัวเวสารัช คือ คุณฟ้า รัมภา เปคสมัธย์
    หลังทานอาหารเรียบร้อยแล้ว อีฟออกไปนั่งเล่นที่หน้าบ้าน ตองตามออกมา ยื่นมือข้างที่พันผ้าเอาไว้ให้อีฟดู อีฟทำอะไรไม่ถูก
    “จะไม่พูดอะไรบ้างเหรอครับ” ตองจับสังเกตอีฟ
    “ให้ฉันพูดอะไร” อีฟอึกอัก
    “อะไรก็ได้ขอให้พูด เพราะคุณไม่พูดกับผมเลยสักคำ ตั้งแต่เมื่อเย็น” ตองตอแย
    “ขอโทษและขอบคุณ” อีฟพูดได้แค่นั้นจึงเลี่ยงไปทางอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่อีฟพูดดีกับตองด้วยเหตุที่เขาเจ็บแทนเธอ
    ตองมองอีฟยิ้ม ๆ ทุกคนที่แอบมองอยู่ก็ยิ้มเช่นกัน
*********
    วันนี้เป็นวันประกวดโฟล์คซอง และวันที่ตองจะต้องเดินทางกลับอเมริกาพอดี ซึ่งเขากได้ลาทุกคนไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงคนที่เขารักที่สุด คือ อีฟ
    ผลการประกวด ที่ 1 คือทีมเต็ง 1 ของเต็ง ที่ 2 คือทีมน้องใหม่ ของอีฟ ที่ 3 คือทีมไฟแรง ของ คณะศิลปกรรมศาสตร์
    ตองไปสั่งที่ร้านขายดอกไม้ว่าให้ส่งดอกกุลาบที่ล็อคเกอร์ดอกเดียวเหมือนเดิม ส่วนวันนี้เขาสั่งช่อใหญ่เป็นพิเศษ เขียนการ์ดมีข้อความว่า
ยินดีด้วยสำหรับอันดับที่ 2 คงได้เวลาที่ผมต้องไปแล้ว คงอีกไม่นานที่ผมจะกลับมาหาคุณ รัก
ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ใด ขอให้เธอรู้ไว้ ดอกกุหลาบนี้จะแทนใจรักที่ฉันมีให้เธอ ตลอดเวลา...
อีฟกลับที่ล็อคเกอร์ อ่านการ์ดแล้วก็ซึมลงไป
“คุณคือใครกันแน่” อีฟรำพัน
ตองยืนมองอยู่อีกมุมหนึ่ง เต็งเดินมาตบบ่าน้องชายเบา ๆ แล้วพาตองไปส่งที่สนามบิน
“ฝากดูแลอีฟด้วยนะครับเฮียเต็ง” ตองเอ่ย
“ไม่ต้องห่วง ตั้งใจเรียนนะ” เต็งยิ้ม
“ครับ” ตองรับคำ
*********
การสอบผ่านไปด้วยดี อีฟและเพื่อน ๆ ต่างได้เกรดเฉลี่ย 3 กว่ากันทั้งนั้น ปิดเทอมแล้วแต่อีฟก็ยังคงได้รับดอกกุหลาบสีชมพูที่เสียบไว้ที่ตู้ไปรษณีย์ทุกวัน เต็งจีบจี ทั้งคู่เข้ากันได้ดี อีฟทำความเข้าใจกับเฟิร์สเรียบร้อยแล้ว
วันเวลาผ่านไปอย่างเงียบเหงา สำหรับอีฟเหมือนขาดบางสิ่งบางอย่างไป หรือว่าจะเป็นเพราะ...
    วันเปิดภาคเรียน อีฟพัฒนาการเล่นอาคิโด้จนได้สายน้ำเงิน ล้ำหน้าเพื่อนๆ 
    อีฟจับแหม่มประกวด มีสยูลีก จนได้ที่ 2 และผลคือมีหนุ่ม ๆ ตามจีบเพียบ
    อีฟยังคงรอการกลับมาของเจ้าของกุหลาบ อีฟรู้ตัวว่าหลงรักเขาเข้าแล้ว เพียงแต่อีฟยังไม่แน่ใจว่าคนที่อีฟหลงรักนั้นจะเป็นคน ๆ เดียวกับ...
*********
    พันตรีภควัตนำข่าวดีเนื่องที่ตนจะแต่งงานมาเล่าให้น้องสาวฟัง อีฟถึงกับกระโดด ร้องไชโยเป็นเด็ก ๆ
    “พี่เอฟจะแต่งเมื่อไหร่คะ” อีฟถามพี่ชาย
    “ก็รออีฟสอบเสร็จก่อนแหละ” เอฟตอบน้องสาว
   
*********
    หลังจากที่อีฟสอบเสร็จ เอฟก็ยกข้อมูลที่จะพิมพ์ลงการ์ดมาให้น้องสาวเป็นผู้ออกแบบ พร้อมกับยกหน้าที่จัดของชำร่วยทั้งหมดให้
    “โห จะฆาตกรรมกันเหรอพี่เอฟ” อีฟบ่นเมื่อเห็นงาน
    “เราก็ให้เพื่อนช่วยสิ เดี๋ยวพี่เลี้ยงไม่อั้นอยู่แล้วน่า” เอฟติดสินบนน้อง
    “ค่ะ” อีฟยิ้ม รับคำพี่ชาย
    วันงาน ทุกอย่างถูกจัดได้อย่างลงตัวที่สุด งานเรื่อยมาจนกระทั่งงานเลี้ยงตอนกลางคืนที่จัดที่บ้านเวสารัช
*********
    วันนี้อีฟสวยเป็นพิเศษ ขนาดที่พี่ชายยังตะลึงกับน้องสาว
อีฟสวยงามในชุดแซคแขนกุด สีชมพูอ่อน ซึ่งเธอเตรียมไว้เพื่องานนี้โดยเฉพาะ
    “โอ้โห ! สวยจริงน้องสาวพี่” เอฟชม
    “สวยกว่าพี่ได้ไงเนี่ย” ฟ้าแซว
    “แหม ! ใครจะกล้าสวยกว่าเจ้าสาวล่ะคะ” อีฟยิ้มเขิน ๆ แล้วแยกตัวไปหาเพื่อน ๆ
    “ชะ ชะ ช้า สวยจริงนะครับน้องอีฟ” วิทย์แซว
    “บ้า” อีฟไม่รู้จะพูดอะไร
“อาเจ้ สวยจัง” ติงเดินมาทัก อีฟหันไปยิ้มให้ติง แล้วเหลือบไปเห็นตอง อีฟดีใจจนบอกไม่ถูก ได้แต่เก็บความรู้สึกนี้ไว้
งานผ่านไปได้สักพัก อีฟเดินมานั่งเงียบ ๆ คนเดียวที่หลังบ้าน
“สวัสดีครับ” ตองทัก ทำเอาอีฟสะดุ้งเล็กน้อย
“คุณ...” อีฟพูดไม่ออก
ตองเดินเข้ามาใกล้ๆ อีฟ อีฟขยับตัวจะหนี แต่ตองจับตัวไว้
“ปล่อยนะ” อีฟร้อง
“ไม่ปล่อย ผมจะไม่ปล่อยคุณจนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง” ตองบอก พลางหยิบดอกกุหลาบจากกระเป๋าด้านในเสื้อสูทให้อีฟ อีฟอึ้งไปอีกครั้ง
“คุณไม่ต้องการพบผม ผมเข้าใจครับว่าคุณน่ะเกลียดผมแค่ไหน ผมผิดเองที่เป็นฝ่ายทำให้คุณโกรธ เกลียด ต่อจากนี้ไปผมจะไม่มาห้คุณเห็นหน้าอีก” พูดจบตองก็ออกจากงานไปด้วยใจที่มีความสุข เพราะเขาได้บอกความจริงเรื่องดอกไม้กับอีฟไปแล้ว และเขาก็มั่นใจว่าอีฟก็รักเขาเช่นเดียวกันกับเขาที่รักอีฟมากมายเหลือเกิน
*********
    ที่งานรับปริญญาของเต็ง อีฟไปแสดงความยินดีกับเต็ง ขณะที่อีฟกำลังมองหาใครบางคน เต็งก็แกล้งถาม
    “มองหาตองเหรอ” เต็งซ่อนยิ้ม
    “ค่ะ” อีฟตอบเศร้า ๆ
    “เขากลับไปอยู่กับตายายที่อเมริกาแล้ว” เต็งบอกอีฟ
    “ขอบคุณค่ะเฮียเต็ง” อีฟพยักหน้าขอบคุณ แล้วเดินจากไป ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีกุหลาบสีชมพูมาส่งให้อีฟอีกเลย
*********
    อีฟใช้เวลาทั้งหมดทุ่มเทกับการเรียน แต่เธอไม่เคยลืมตองไป
ได้เลย และยังคงรอคอยการกลับมาของเขา หวังว่าสักวันเขาจะเข้าใจว่าเธอรักเขามากเพียงใด
    อีฟเรียนจบแล้ว อีฟดีใจมากที่ได้รับปริญญา
    “พี่ครับ มีคนฝากมาให้ครับ” เด็กผู้ชายคนหนึ่งนำดอกกุหลาบสีชมพูช่อใหญ่มาให้อีฟ อีฟดีใจมาก รีบอ่านข้อความในการ์ด
    ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ สำหรับบัณฑิตใหม่ ปาพจน์
    อีฟพยายามมองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ หลังเลิกงานอีฟไปนั่งที่เงียบ ๆ คนเดียว พลางพูดกับตัวเอง
    “คุณจะใจร้ายกับฉันไปถึงไหน”
    “พูดกับใครครับ” ตองยืนอยู่ข้างหลัง อีฟหันตามเสียง
    “คุณตอง” อีฟร้อง
    “ครับ ผมเอง ไม่ทราบว่าคุณเลิกเกลียดผมหรือยังครับ” ตองแกล้งถาม
    “ค่ะ” อีฟไม่รู้จะพูดอะไร
    “ค่ะ หมายความว่ายังไงครับ” ตองเริ่มกวน
“ก็หมายความว่าคุณไม่เคยคิดที่จะเลิกกวนประสาทฉันสักทีน่ะสิ” อีฟงอน ยื่นมือไปบีบจมูกตองอย่างหมั่นไส้ ตองรวบมือน้อย ๆ นั้นไว้
    “อีฟ ผมรักคุณ” ตองบอกอย่างจริงจัง จนอีฟเขิน
    “พูดน่ะ คิดมั้ยค่ะ” อีฟอาย
    “คิดมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่เจอคุณ” ตองว่า แล้วรวบร่างนั้นมากอดด้วยความรัก อีฟกอดตอบอย่างเต็มใจ พลางกระซิบกับตองเบา ๆ
    “ฉันรักคุณค่ะ”
   
*********
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น