รักเรา
เท่าไหร่
ไม่พอ                                       
“คุยกับคุณน่ะ เท่าไหร่ๆก็ไม่เคยพอ
”
ผมรักเธอเพราะประโยคนี้ แต่ผมก็ต้องจากเธอไปเพราะประโยคนี้เช่นกัน
ผมคบกับเธอมา 2 ปี สิ่งดีๆที่เรามีให้กันก็มาก มากจนทำให้ผมถึงกับหลั่งน้ำตาทุกครั้งที่ผมอ่านจดหมาย และข้อความต่างๆที่เราส่งถึงกัน ข้อความที่แสนหวาน บอกว่าเรามีรักมากมายแค่ไหน
แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจ
ว่าอะไรที่ทำให้เรา
ไม่พอ..
ผมมองไปที่มุมห้องที่เราใช้อ่านหนังสือ ทั้งๆที่เราก็มีโต๊ะเก้าสีขาวชุดสวยตั้งอยู่ตรงนั้น แต่ผมก็มักจะเห็นเธอนอนอ่านหนังสือเล่มโปรดบนหมอนใบใหญ่ของผมที่พื้น มันเป็นหนังสือที่เธอมักหยิบขึ้นมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วก็อมยิ้ม บางทีก็หัวเราะ บางทีก็มีรอยย่นตรงระหว่างคิ้ว เธออ่านมันจนปกย่น กระดาษยับเหลือง แต่เธอก็ยังคงมีอารมณ์ตื่นเต้นเหมือนกับเพิ่งอ่านครั้งแรก บางที ตอนที่เธอไม่อยู่ ผมก็อยากจะเขวี้ยงมันออกไปนอกหน้าต่างเสียหลายครั้ง เพราะเวลาเธออ่านมัน เธอมักจะลืมผม ลืมว่ายังคงมีสิ่งมีชีวิตสิ่งอื่นสถิตอยู่ด้วย แต่อย่างไรก็ตามผมก็ชอบใบหน้ายามที่เธออ่าน รอยยิ้มของเธอสวย และดูอบอุ่น ที่สำคัญดวงตาสุกใสซุกซนของเธอสามารถสะกดผมได้เสมอ
ผมมองที่ระเบียง มีม่านขนาดใหญ่สีขาวสะอาดกั้นอยู่ พอก้าวออกไป กลิ่นหอมของดอกโมกก็ลอยมาแตะจมูก เธอซื้อมาตอนที่ผมไปต่างจังหวัด พอกลับมาผมก็โวยวายเธอเสียยกใหญ่ เพราะเคยบอกเธอไว้แล้วว่า ทุกที่ในห้องของเรา ผมยกให้ จะทำอะไร แต่งยังไง จัดอย่างไร ก็ตามใจเธอ แต่ผมขอระเบียงไว้เป็นมุมของผม เอาไว้พักผ่อน เอนหลังบนเก้าอี้หวายหุ้มเบาะแสนนุ่ม ที่ๆผมจะลงไปซุกนอนยามเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวัน โดยที่มันก็ไม่ใช่ที่กว้างมากนัก เมื่อเธอนำกระถางต้นโมกที่แสนใหญ่มาวาง ก็แทบไม่เหลือที่ให้ผมนอนกางขา กางแขนได้ เธอร้องไห้เสียใจ แล้วก็ไม่พูดอะไรเลยทั้งวัน ผมมาสำนึกได้ทีหลังเมื่อดอกของมันบานส่งกลิ่นหอม ทำให้ผมนอนหลับสบายยิ่งกว่าเก่า ผมดึงเธอมาสวมกอด พร่ำกระซิบเบาๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าขอโทษ ว่าเสียใจ เธอไม่ตอบว่าอะไร ยังคงให้ผมยืนกอดเธอนิ่งและนานอยู่อย่างนั้น แต่ก็รู้สึกได้ว่าเธอกำลังร้องไห้เพราะร่างเธอสั่นสะอึกเล็กน้อย มีน้ำอุ่นๆหยดลงบนแขนของผม แต่แก้มของเธอกลับมีลักยิ้มปรากฎ ผมประทับจูบเบาๆที่แก้ม แล้วซบหน้าลงกับบ่าที่บอบบางของเธอ ทุกครั้งที่ผมทำแบบนี้ เธอจะหันกลับมาสวมกอดผมตอบ แล้วก็จูบที่หน้าผากของผม เราจะอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน จนกระทั่งร่างของเราทั้งสองร้อนจึงจะแยกออกจากกันได้
ผมยืนหลับตาอยู่ตรงนั้น สูดลมหอม และอากาศอุ่นๆของยามสาย ซักพักก็ต้องสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ ผมไม่ได้เดินไปรับมัน ยังคงยืนหันหน้าออกไปที่ระเบียง รอจนกระทั่งเครื่องรับอัตโนมัติทำงาน สิ้นเสียงสัญญาณ เสียงที่ผมคุ้นเคย แต่ตอนนี้เกือบจะจำไม่ได้แล้ว ดังเข้ามากระทบความรู้สึกที่อัดอั้นของผม
“
คนดี วันนี้ไม่ต้องรอทานข้าวนะคะ เผอิญมีงานเลี้ยงที่บริษัท แล้วก็มีนัดไปรับลูกค้าที่สนามบินต่อ คงกลับดึกมาก ไม่แน่ก็อาจไม่กลับ อาจไปค้างกับยายนาน่ะ เอาไว้ค่อยคุยกันที่บ้านนะ รักคุณนะคะ
”
ผมเกือบเอื้อมมือออกไปรับสาย แต่ก็ต้องยั้งไว้ เพราะผมได้ตัดสินใจลงไปแล้ว และจะไม่ถอยหลัง อดีตและความทรงจำทั้งหมดเของเรามันควรจะงดงามอยู่อย่างนี้ และควรจะเก็บมันไว้แค่นี้ ที่นี่ เพราะไม่มีที่ไหน จะเก็บมันได้พอ นอกจากในห้องเล็กๆนี้ และข้างในใจผม กับเธอ
ความสัมพันธ์ของผมกับเธอดีมากจนไม่น่าเชื่อในปีแรก แต่แล้วมันก็ดิ่งวูบลงเหมือนหุ้นตก เหมือนผมโดนฟ้องล้มละลาย ความรัก ความอบอุ่น ทุกๆอย่างมันพลันสลายหายไป
ผมไม่รู้ว่าทำไม
และเพราะอะไร
เธอพูดน้อยลง ทำงานมากขึ้น อารมณ์เสียบ่อย รำคาญผมเสมอๆเวลาผมทำอะไร ซึ่งแต่ก่อนเวลาผมทำสิ่งเหล่านั้นเธอกลับชอบใจ
เธอเคยชอบที่ผมไปทำให้เธอประหลาดใจ เช่น แวะไปหาที่ทำงาน ส่งช่อดอกไม้ให้ ทำกับข้าวมื้อใหญ่ทานกันที่บ้าน แต่เมื่อไม่นานมานี้ ผมไปหาเธอที่ทำงานพร้อมดอกกุหลาบช่อใหญ่ ตรงเข้าไปหา หวังว่าจะพาเธอไปทานอาหารกลางวันที่ร้านโปรดของเธอ ที่ทั้งไกล และแม้แต่จะจองโต๊ะก็ยากแสนยาก แต่เมื่อไปถึงเธอกลับไม่พอใจ เดินดันหลังผมไปจนสุดมุมห้อง กระซิบด้วยเสียงแข็งกระด้างว่า ไม่รู้หรือว่านี่ที่ไหน ใครอยู่บ้าง ทำอะไรให้รู้เวลา กาลเทศะ นี่ที่ที่ทำงานนะ ไม่ใช่ที่บ้าน พอสีหน้าของผมสลดลง เธอก็รับช่อดอกไม้ไป เขย่งขึ้นมาหอมแก้มผม กล่าวคำว่า ขอบคุณเบาๆ แล้วเธอก็เดินไปวางดอกไม้ช่อนั้นลงที่โต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ พร้อมทั้งกลับมาบอกว่าเธอมีนัดทานข้าวกับลูกค้า เอาไว้ค่อยกลับไปคุยกัน
เวลาตอนนั้นคงคุยกันไม่พอ
เธอว่า
เวลาที่โทรหา เธอก็ไม่มีเวลาว่างเหลือแม้แต่จะโทรกลับมาหาผม กลับมาก็ถามว่าโทรหาเธอทำไม ผมบอกว่าแค่อยากรู้ว่าทำอะไร อยากรู้ว่าอยู่ไหน สบายดีมั้ย อยากได้ยินเสียง เธอกลับบอกว่า ถ้าไม่มีอะไรมีสาระกว่านี้ ทีหลังเอาไว้คุยกันที่บ้าน
เธอไม่รู้จริงๆ หรือลืมไปแล้ว ว่าสาระจริงๆในชีวิตผม คือ การที่มีเธอ
วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ที่ตอนเช้าเรามักจะนั่งทานกาแฟด้วยกัน แล้วสายๆบ่ายๆก็ออกไปดูหนัง หรือเดินเล่นซื้อของ เธอกลับเอาเวลาทั้งหมดนอนอยู่กับที่นอน ไม่ก็จัดการเอกสารที่หอบมาจากที่ทำงาน บางทีก็โทรศัพท์เป็นชั่วโมงๆถึงคนที่เธอบอกผมว่า เราเป็นแค่หุ้นส่วนกัน แต่ผมว่า หุ้นส่วนคนนั้น กำลังจะเอาส่วนนึงของชีวิตรักของผมและเธอไป เขากำลังจะเอาส่วนหนึ่งของหัวใจผมไป
ผมเคยนั่งคุยกับเธอหลายครั้ง ว่ามันเกิดอะไรขึ้นหรือ
ระหว่างเรา เธอบอกแค่เพียงว่า
“
ขอให้เข้าใจฉัน นั่นก็พอ
”
แต่ผมว่า
มันไม่พอ
ผมก็ทำงานหนัก เวลาว่างก็น้อยลงไม่ต่างจากเธอ แต่ผมหาเวลาได้เสมอที่จะดูแลเธอ ทั้งทำกับข้าว ซึ่งเธอบอกว่า ชอบฝีมือผม เธอจึงไม่ทำ ทั้งขับรถไปรับไปส่ง แม้ว่าบางทีผมอยู่ไกลมาก แต่ผมก็ไม่เคยปฏิเสธ เพราะกลัวเธอต้องลำบาก แต่ตอนนี้มีคนทำหน้าที่นี้แทนแล้ว ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นใคร อาจเป็นหุ้นส่วนคนนั้นก็ได้  ดูแลยามเธอไม่สบาย ร้องเพลงให้เธอฟัง หวังว่าเธอจะหายเหนื่อย กล่อมให้เธอนอนหลับฝันดี
หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น เปลี่ยนดอกไม้ในแจกัน ผมก็สามารถตื่นแต่เช้ามาทำให้เธอได้ เธอชอบดมกลิ่นดอกไม้จากแจกันบนโต๊ะทานข้าว ก่อนนั่งลงดื่มกาแฟในตอนเช้า
แต่ว่าตอนนี้
. เธอไม่ได้สังเกตเลยด้วยซ้ำว่า แจกันใบนั้นมีดอกไม้หรือไม่
ผมไม่เข้าใจ
แม้พยายามที่จะเข้าใจแล้ว
แต่มันคงยังไม่พอ
เราเป็นกันอยู่แบบนี้ต่อมาอีกระยะนึง เป็นระยะที่ผมลืมเลยว่า ผมเป็นใคร ทำอะไร อยู่ที่ไหน เพื่ออะไร ทำไม และยังหายใจอยู่หรือไม่ ผมอยู่ไม่ต่างอะไรกับล่องหน เหมือนเธอไม่เห็นผมเป็นคน เธอเดินผ่านผมไปมาโดยไม่ได้เอ่ยปากคุยอะไรกันสักคำ ผมรอให้เธอเปลี่ยน หรือถ้าให้ถูก คือ กลับ
กลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อน เพราะตอนนี้เธอเปลี่ยนไป
ผมคอยจนถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างในรักครั้งนี้ รักที่ไม่มีวันพอ ไม่มีวันรอให้อะไรๆกลับมาบรรจบลงที่เดิม
ผมพาเธอลงมานั่งที่เตียงโอบกอดเธอเบาๆ ถามคำถามที่เราคุ้นเคย
“เรายังรักกันเท่าเดิมใช่มั้ย”
เธอเคยตอบว่า
“ไม่มีทางเท่าเดิมค่ะ เพราะพรุ่งนี้มันจะเพิ่มขึ้น”
แต่พอครั้งนี้ผมถาม
“
ยังรักผมอยู่เหมือนเดิมใช่มั้ย”
คำตอบที่ผมได้.. คือ
“
ก็น่าจะเข้าใจ ฉันไม่อยากบอกอะไรหลายรอบนะ
”
ผมรู้แล้ว ณ วินาทีนั้น สิ่งที่เรามีให้กันมาตลอดอาจน้อยเกินไป ไม่พอ
ไม่ว่าผมจะรักเธอมากเท่าไหร่ แต่ผมเข้าใจเธอไม่พอ
ความรักอย่างเดียว
ไม่เพียงพอ
ผมน่าจะรู้ตั้งนานแล้ว ว่าเธอไม่ได้รักผม แต่เธอเข้าใจว่าเธอรักผม
ถึงตอนนี้ ผมไม่มีอะไร ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว แม้แต่ความรัก ที่ผมคิดว่าผมมีมากกว่าใครๆ แต่ตอนนี้ผมไม่แน่ใจแล้วว่าเคยได้รับมา
ความรู้สึกบางอย่างหายไป บางอย่างกลับมา
และบางอย่างไม่อาจหวนคืน
ผมถือกุญแจที่เรามีกันอยู่คนละชุด เป็นกุญแจที่เราจะเปิดเข้ามาซุกกายอยู่เคียงข้างกันในห้องสีขาวห้องนี้ แต่ตอนนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับห้องร้างที่มีผมเป็นเหมือนวิญญาณล่องลอยหาทางออกไม่ได้ กระเป๋าใบใหญ่ของผมวางอยู่ที่ประตูด้านหน้า ผมกวาดสายตามองไปให้ทั่วห้อง พยายามเก็บภาพทั้งหมดเอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ เพราะชีวิตนี้ แต่นี้ต่อไป ที่นี่จะเป็นเพียงความทรงจำของผมตลอดกาล
แจกันใบสวยสีน้ำเงินของเธอ ผมเปลี่ยนดอกกุหลาบสีขาวที่เธอชอบให้แล้ว ผมปูที่นอนของเราให้เรียบร้อย วางจดหมายที่เราเคยส่งถึงกันยามที่ต้องอยู่ไกลไว้ที่หมอนของผม เพราะเธอต้องสังเกตเห็นมันแน่ๆ เธอมักนอนบนหมอนใบนั้น ทั้งที่เธอบอกว่ามันใหญ่ และแปลกกลิ่น ผมรดน้ำต้นโมกที่กำลังผลิดอกออกใบงาม ต้นไม้ที่อาจทำให้เธอเกลียดผม ส่วนผมรักเธอมากขึ้น แต่รักนี้ก็อาจไม่มากพอ
ที่จะทำให้เราไปต่อได้
ไม่ใช่ผมรับไม่ไหว แต่ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป
ผมอาจจำไม่ได้ว่า คือ ใคร กำลังทำอะไรเพื่อใคร
ผมอาจสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง
ผมหวังว่าเธอจะเข้าใจในการตัดสินใจครั้งนี้ นี่เป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้ายที่ผมจะขอให้เธอเข้าใจ
เพราะตลอดมา ผมไม่เคยขอให้เธอมาเข้าใจอะไร มันเป็นหน้าที่ของผมเอง
หน้าที่ที่เธอบอกให้ทำ
และผมก็ยังคงทำอยู่จนกระทั่งวินาทีนี้
ผมวางกุญแจทับลงบนจดหมายซองสีเขียวใบไม้อ่อน สีที่เธอชอบ ผมต้องเลือกมันอย่างดี เพราะมันจะทำให้ผมมั่นใจ ว่าเธอจะเปิดมันออกอ่าน ไม่อย่างนั้นเธออาจคิดว่าเป็นบิลค่าน้ำค่าไฟ แล้วเธอก็จะนำเอาไปวางไว้ที่หลังทีวีรอผมมาจัดการให้ เธออาจจะเสียใจที่ไม่ได้อ่านมัน
เพราะนั่นคือ ทั้งหมดที่ผมรับเอาไว้ตลอดเวลาที่เรามีกันและกัน ผมอยากให้เธอได้สัมผัสกับมันด้วยหัวใจ ให้เธอรู้ว่าจริงๆแล้ว ผมรักเธอมากแค่ไหน เท่าไหร่
แต่ทำไมมันยังไม่พอที่จะทำให้เราอยู่ด้วยกัน
ผมก้าวออกจากห้องช้าๆ หยิบกระเป๋า เปิดประตูออก แสงจ้าลอดเข้ามาจนต้องหรี่ตา ผมหันกลับไปมองในห้องอีกครั้ง ก่อนจะ ก้าวออกไป
และไม่กลับมา
ถึง
เมย์ คนดีของผม
วันนี้คุณคงเหนื่อยกับการทำงานเหมือนเคย คงจะหิวและเมื่อยมากด้วย
ไม่ต้องห่วง ผมทำอาหารไว้ให้คุณ มันห่อไว้อย่างดีแล้วในตู้เย็น คุณแค่เอามาอุ่นก็ทานได้เลย รับรอง ว่าอร่อยเหมือนเดิม เพราะผมไม่เคยเปลี่ยนไป
มีคนโทรมาหาคุณ 2 ครั้ง ผมรับสาย เขาบอกว่าชื่อ วิทย์ เป็นหุ้นส่วน ผมไม่แน่ใจว่าใช่คนที่คุณไปสัมมนาด้วยเมื่อเดือนก่อนหรือเปล่า เขาถามด้วยว่าผมเป็นใคร คุณรู้มั้ยว่าผมตอบไปว่าไง
ผมตอบไปว่าผมเป็น คนของคุณ
ผมจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ให้หมดแล้วนะ คุณไม่ต้องห่วง พักผ่อนให้มากๆ ผมอยากให้คุณให้เวลากับตัวเองบ้าง เพราะผมกำลังจะทำเช่นนั้นเหมือนกัน
วันนี้ผมลาออกจากงานแล้ว ไม่ต้องตกใจนะ เพราะผมเคยบอกคุณแล้ว ว่าผมจะเปลี่ยนงาน เพียงแต่ตอนนั้นคุณอาจไม่ได้ตั้งใจฟังให้ดี หรืออาจลืมไปแล้วว่าผมพูดอะไรไว้ ผมจะไปทำงานที่ผมรัก นั่นคือการเป็น นักเขียน ผมอยากเขียนเรื่องของเรา เพราะผมกลัวว่าความเหงาจะเข้ามาครอบงำยามที่จากคุณไป ไม่ต้องห่วงว่าผมจะไส้แห้งหรอกนะ ผมมีเงินเก็บอยู่พอควร และก็คิดว่าจะไปทำงานที่บริษัทออกแบบตกแต่งภายในที่พี่ชายผมแนะนำให้ ผมจะทำตัวให้ยุ่งไว้ จะได้ไม่คิดถึงคุณ
ผมเสียใจที่รักคุณมากขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่พอ
ไม่พอที่จะทำให้คุณเข้าใจว่าผมรักคุณมากมายขนาดไหน เท่าไหร่
แต่ผมเข้าใจ
เข้าใจคุณทุกอย่าง คุณไม่ต้องเปลี่ยนอะไรถ้าคุณไม่ต้องการ
บางทีคนที่น่ารำคาญ คือ ผมเอง
ผมยังรักคุณเสมอ และจะรักและเข้าใจในแบบของผม เพราะผมทำแบบที่คุณต้องการไม่ได้
โปรดเข้าใจด้วยนะครับ คนดี
คุณเคยบอกว่า คุยกับผม ต่อให้มีเวลามากแค่ไหน เท่าไหร่ ก็ไม่พอ
แต่จริงๆแล้ว
คุณไม่เคยมีเวลา แม้แต่จะรอเจอหน้าผม
แล้วเราจะคุยกันได้อย่างไร
อย่าร้องไห้ หรือเสียใจ คุณไม่ได้เสียผมไป ถ้าคิดถึง ก็หลับตานึกหน้าผมไว้
หากคุณยังพอจำหน้าผมได้
ผมยังอยู่ในใจคุณเสมอ ถ้าคุณยังไม่ได้ลบผมออกไป
อย่างที่คุณรู้ว่าผมเขียนจดหมายไม่เก่ง
แต่น่าแปลก ที่จดหมายฉบับนี้ผมร่ายมันได้ยาว และหาที่จบไม่ลง
แต่ขอให้คุณรู้ไว้
ว่าเราคงต้องจบลงแล้ว
ผมเสียใจจริงๆ
เสียใจที่เข้าใจคุณได้ไม่พอ
คุณจะยังอยู่ที่นี่ ตรงนี้ ในห้องนี้ตลอดไป ผมจะจำภาพทุกภาพของคุณเอาไว้ น่าเสียดายเหลือเกินที่ไม่อาจเก็บเอารอยยิ้มของคุณไปด้วยได้ มีแต่รูปถ่ายที่ก็น้อยเต็มที คุณรู้มั้ย ว่าผมรักคุณเพราะรอยยิ้มนั่น และก็แทบคลั่งเมื่อรู้ว่าจะไม่ได้เห็นอีกแล้ว
ผมไปนะ ไม่ต้องแปลกใจ ถ้าไม่เห็นผมกลับมา ไม่ต้องรอ ไม่ต้องติดต่อ เพราะผมจะเปลี่ยนเบอร์มือถือ แล้วก็จะย้ายออกไปวันนี้
ไปอยู่ในที่ๆผมต้องการ และมีคนต้องการผม
ผมเอากระเป๋าไปใบเดียว แต่สิ่งมีค่าที่สุดที่ผมขอเอาไปด้วยคือ ความรักที่มีต่อคุณ
หวังว่าจะมีคนที่รักคุณพอ.. ไม่ต้องมากอย่างผมก็ได้ แต่ขอให้เค้ารัก
และเข้าใจคุณให้มากพอ
                                       
พอเท่าที่ใจคุณต้องการ
                    รัก
                            กฤษ
 
จบ
*****************************************************************************************
แด่ พี่ชายที่อยู่ไกล
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น