นานมาแล้วแต่ก็ไม่นานมากเท่าไรนักหรอก!
...ณ.ประเทศแห่งหนึ่ง
ประเทศแห่งนี้เป็นประเทศที่อยู่ในแทบทวีปยุโรป ซึ่งก็เป็นที่รู้ ๆ กันดีอยู่แล้วว่า หน้าหนาวนั้นที่ประเทศแห่งนี้หรือในทวีปนี้ด้วยเลยก็ตาม
ประเทศนี้ชาวไร่ชาวสวนส่วนหลักจะทำเกษตรโดยจะทำอุสาหกรรมดอกทานตะวันนั้นเอง
..ก็เป็นธรรมดาอยู่แล้วว่าจะต้องมีการปลูกดอกทานตะวันกันเยอะมากเพือเป็นวัตถุดิบป้อนเข้าโรงงาน
    มีครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่ง
.ซึ่งครอบครัวนี้ทำไร่ดอกทานตะวัน
ปลูกเยอะมากๆ (965 ไร่ ลองคิดถึงสภาพดูสิว่าเวลามันบานจะสวยขนาดไหนจิงป่ะ) และหน้านี้ก็เป็นหน้าหนาวของประเทศนี้
..ซึ่งก็เป็นช่วงที่ดอกทานตะวันบานพอดี
ไร่ดอกทานตะวันนี้สวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆมากจนไม่สามารถบรรยายได้เลย ต้องลองนึกและจินตานาการภาพตามไป
.
    และแล้วก็เวลาประมาณเย็นแล้วแหละ
.ประมาณ 6.00-7.00 pm ก็ถือว่าดึกมากแล้วสำหรับหน้าหนาวที่อากาศเย็นและเวลาค่ำก็จะท้องฟ้ามืดมากหรืออาจจะมืดเร็วกว่าปกติ
.ได้มีเสียงร้องไห้ดังขึ้น
“ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”  เด็กชายตัวน้อยร้องไห้แล้ววิ่งออกจากบ้านมา
.
“แม่ไม่รักข้าแล้วแม่ทำไมต้องตีข้าด้วย
..ข้าไม่เข้าใจ” เด็กชายตัวน้อยที่มีชื่อว่า “ พูล “ คิดในใจ
    ด้วยเหตุการณ์ที่ พูล ทะเลาะกับพ่อและแม่ของเค้า
.เรื่องที่เค้าไม่เข้าใจกันภายในบ้านนิดหน่อย
จึงทำให้เค้าร้องไห้เสียใจที่แม่ตีเค้า
..เค้าจึงวิ่งหนีแม่ของเค้าไปในไร่ดอกทานตะวัน
.
ลึกเข้าไป
..ลึกเข้าไป
.ลึกเข้าไปเรื่อยๆ
.เค้าวิ่งโดยไม่คิดว่าเค้าจะกลับบ้านได้หรือไม่
..เค้านั่งร้องไห้เสียใจแล้วนั่งคิดทบทวนว่าเค้าได้ทำผิดอะไร
..แต่แล้วด้วยที่อากาศในขณะนั้นได้หนาวเย็นมาก
มากถึงขนาดที่พูลได้ใส่เสื้อกันหนาวถึง
..2 ตัวแล้วก็ยังไม่หายจากอาการที่หนาวเย็นของเค้าได้เลย
.   
เค้าได้พูดขึ้นกับตัวเองว่า
.
“ ทำไมอากาศมันหนาวอย่างนี้นะ
..ข้างนอกบ้านเนี้ย
”
“ทำไงดีละ
..เราไม่มีอารายเลยที่จะทำให้หยุดหนาวได้
”
แต่แล้วเค้า
..ก็ล้วงกระเป๋าเสื้อของเค้าแล้วพบกับ
ไม่ขีดไฟ
..1
กล่อง
เค้าดีใจมาก
..แล้วเค้าก็พูดขึ้นว่า
.
“ดีจังค่อยยังชั่วแฮะเรา
..มีไม้ขีดไฟพอที่จะหนาวน้อยหน่อยแฮะเรา”
เค้าก็ค่อย ๆ จุดทีละก้าน ทีละก้าน ทีละก้าน จดเหลือเพียงไม่ขีดไฟก้านสุดท้ายอยู่ในกล่อง
..
      ทันใดนั้นได้มีเสียงดังมาจากไกล ๆ ว่า
..
“พูล
.เจ้าอยู่ไหนลูก
..กับมาหาแม่เถอะลูก
.แม่และพ่อของเจ้าให้อภัยเจ้าแล้ว
.”
เค้าดีใจแล้วร้องไห้
.แล้วทันใดนั้นเค้าก็ไม่ทันได้จุดไม่ขีดไฟก้านสุดท้ายหรอก
.เค้าได้รีบวิ่งแล่นเข้าไปหาแม่ของเค้าแล้วร้องไห้
.      แล้วเค้าก็เดินเข้าบ้านของเค้าไปพร้อมกับ  ครอบครัวของเค้า
..แต่หารู้ไม่ว่าเค้าได้ลืมกล่องไม่ชีดไฟ
.และไม่ขีดไฟก้านสุดท้ายของกล่อง
..อยู่ในไร่ดอกทานตะวันที่สวยงาม
.งามเกินคำบรรยาย
เอก
.อี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
.เอกกกกกกกกกเอ๋กกกกกกกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงไก่ที่ครอบครัวของพลูเลี้ยงไว้
ส่งสัญญาณในตอนเช้าเพื่อบอกให้ทุกคนรู้ว่า
ถึงเวลาแล้วสินะที่ทุกคนจะต้องตื่นแล้วทำหน้าที่ของตนเองเพื่อดำรงชีวิตอยู่ต่อไป
.
    ทันใดนั้น
.มีเสียงดังออกมาจากกล่องไม้ขีดไฟกล่องเล็ก ๆ ร้องขึ้นออกมาว่า
“โอ๊ยๆๆๆๆๆ เช้าแล้วหรอเนี้ย
..เอ้า
แล้วเพื่อน ๆ เราหายไปไหนกันหมด
”
      ไม่ขีดไฟก้านน้อยเอ่ยร้องขึ้นด้วยความตกใจ
จากนั้น
.เข้าค่อย ๆ พยายามนำตัวเองออกมาจากกล่องไม้ขีดไฟกล่องน้อยที่เข้าอาศัยอยู่
..
    “โฮๆๆๆๆๆๆที่นี่ที่ไหนกันเนี้ย
ทำไมเราไม่เคยให้เลยละ
.”สวยงามมาก
      ที่ที่เจ้าไม่ขีดไฟอยู่ตอนนี้ก็คือทุ่งดอกทานตะวันนั้นเอง
มีสีเหลืองจากดอกทานตะวันที่มากมายจนมิสามารถนับจำนวนต้นได้
..
      ทันใดนั้นมีเสียงดังออกมาจากดอกทานตะวันที่สูงแล้วก็สวยงามมากต้นหนึ่งว่า
“ นั้นเสียงใครนะ ! ทำไมมาอยู่แถวนี้ “ ดอกทานตะวันต้นหนึ่งพูด
      “ ข้าคือไม่ขีดไฟก้านน้อย
..ข้าก็ยังไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าข้านั้นมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร
รู้แต่เพียงว่าเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น
ข้าหลับไป
.แล้วเช้ามาข้าก็มาอยู่ ณ.ที่นี้แล้ว
..”
      “ อ๋อ
.เจ้าไม่ขีดไฟนั้นเอง
.งั้นข้าแนะนำตัวเองก่องนะ
.ข้าคือดอกทานตะวัน
..ข้าอาศัยอยู่ ณ.ที่นี่มานานแล้ว
.แล้วถ้าเจ้าจะถามว่า
เพื่อน ๆ ไม่ขีดไฟของเจ้านั้นหายไปไหนกันหมดข้าก็บอกได้เลยว่า
เพื่อน ๆ ไม่ขีดไฟของเจ้านั้นถูกลูกชายเจ้าของส่วนจุดให้เกิดเป็นไฟเพื่อเอาความอบอุ่นไปหมดแล้ว
.เค้ากลายเป็นเถ้าถ่านไปหมดแล้ว
.เจ้าอย่าเสียใจนะ
ข้าเสียใจด้วย
.”
    ไม้ขีดไฟก้านน้อยตกใจมาก
เค้าทำอ่ะไรไม่ถูกเลยที่เค้าต้องเสียพ่อแม่ของเค้าพี่น้องของเค้าไป
.และตอนนี้เค้าก็ต้องอยู่ตัวคนเดียวในที่ซึ่งเค้าไม่รู้จักและไม่เคยมามาก่อน
..เค้าตอ้งทำตัวอย่างไรดี
.เค้าคิดในใจ
    “ อย่าเสียใจนะ
..เรื่องมันผ่านมาแล้ว
.”  ดอกทานตะวันพูด
    “ ขอบใจมากนะ
.ที่ช่วยให้กำลังใจข้า
.แต่ตอนนี้ข้าคิดว่าข้าจะทำอย่างไรดีกับตัวของข้า
.ข้าเองเป็นไม่ขีดไฟไม่สามารถเคลื่อนย้ายหรือเดินไปไหนได้เลย
.ได้แต่อยู่อย่างนี้นิ่ง ๆ  “
    “ ไม่เห็นจะเป็นอ่ะไรเลยนิ
..ข้าเองก็เป็นดอกทานตะวันที่ไม่สามารถเดินเหินเหมือนคนอื่น ๆ ได้เหมือนกันเพราะวันๆ ข้าก็ได้แต่หันหน้าไปหาดวงอาทิตย์
ตะหันไปไหน  ๆ ก็มิได้
”
    “ หรอ
..อื่มเราเหมือนกันเลยนะ
งั้นเรามาเป็นเพื่อนกันดีกว่านะ
.” ไม่ขีดไฟก้านน้อยเอ่ยขึ้นหลังจากอาการเศร้าโศกเสียใจที่เค้าเพิ่งเสียพ่อแม่พีน้องของเค้าไปได้ไม่นาน
ค่อย ๆ จางลง
..และจากนั้น
..ไม่ขีดไฟก็ใช้ชีวิตของเค้าอยู่ข้างหลังดอกทานตะวัน
..เช้าขึ้นมาก็พูดคุยถามความเป็นอยู่กันทุกวัน
..ช่วยเหลือเพิ่งพากันยายามทุกข์
.คอยเป็นกำลังใจให้กันในช่วงเวลาที่คับขันและเร่งรีบ
คอยให้คำปรึกษากัน
.. และดอกทานตะวันก็หันหน้าไปทางดวงอาทิตย์ตามธรรมชาติ
.และไม่เคยหันมามองไม่ขีดไฟเลยเพราะขยับตัวเองไปไหนไม่ด้ายตามธรรมชาติของมัน
..จากการที่เป็นเพื่อน
..พูดคุยกันทุกวัน
..ค่อย ๆ เข้าใจซึ่งกันและกัน
รู้ใจกัน
คอยเป็นห่วงกัน
..เข้ากันได้ดีในทุก ๆ เรื่อง และบางเรื่องที่ไม่เข้าใจกันก็จะสามารถปรับตัวเองให้เข้าหากันได้
จากคำว่า “เพื่อน” ก็เปลี่ยนเป็นคำที่เรียกว่า
..” ความรัก “ เกิดจากการที่ทั้งสองฝ่ายเข้าใจซึ่งกันและกัน
.พูดคุยกันมากขึ้น
..คอยเป็นที่ปรึกษากันในแทบจะทุกเรื่อง
..และแล้วเค้าสองคนก็ได้เป็น “ คู่รัก “ กัน
        เค้าสองต้นกะอีกหนึ่งก้านก็ใช้ชีวิตกันเหมือนแฟนกันปกติโดยที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่เคยเห็นหน้าซึ่งกันและกันแต่ที่ที่สองฝ่ายมาเป็นแฟนกันนี้เกิดจากการเข้าใจซึ่งกันและกัน
..โดยไม่แคร์ว่าหน้าตาของคนที่เรารักนั้นจะเป็นอย่างไร
..เค้าสองต้นกะอีกหนึ่งก้าน
คบกันที่นิสัยใจคอที่เค้ากันได้ดี
.
      จนกระทั้งวันหนึ่ง
ไม่ขีดไฟก็เกิดแปลกใจแล้วมีความรู้สึกว่า
..เค้ามีคนรักของเค้าแล้วนะ
แต่เค้าอยากมองดูใบหน้าคนที่เค้ารักสักครั้งหนึ่ง
แต่เค้าไม่มีวิธีไหนเลยที่จะสามารถทำให้เค้ามองเห็นใบหน้าคนที่เค้ารักมากเลย
..ด้วยความที่เค้ารักดอกทานตะวันมาก
..เค้าจึงคิดได้วิธีหนึ่งคือ
เค้าจะต้องจุดตัวเองให้รุกขึ้นเป็นไฟแล้วทำให้เกิดแสงสว่าง ขึ้นมาเพื่อทำให้ตัวเองมีแสงเหมือนดวงอาทิตย์
..ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ครอบครัวของไม้ขีดไฟสอนเป็นเด็ดขาดเลยว่า
.จะไม่ยอมให้เหล่าไม่ขีดไฟทำการกระทำเช่นนี้เป็นเด็ดขาดเพราะจะทำให้ตัวเองกลายเป็นเถ้าถ่านแล้วตายไปในที่สุด
.
    แต่ทำอย่างไรได้ละ
.ก็ไม่ขีดไฟเค้ารักดอกทานตะวันมาก
..เค้าไม่กล้าที่จะบอกความจิงกับดอกทานตะวันว่าเค้าจะกระทำในสิ่งที่เค้าคิดไว้
..เพราะเค้ารู้คำตอบว่า
ดอกทานตะวันจะต้องไม่ยอม
.ให้เค้าทำเช่นนั้นเป็นอันขาด
.
          และแล้ววันหนึ่ง
.เค้าได้ตื่นขึ้นมา
..เหมือนดังเช่นทุกวัน
.ทำทำตัวแปลก ๆ คือ ห่วงใยดูและเอาใจใส่ดอกทานตะวันมากกว่าวันปกติที่ผ่านมา
.เค้าถามถึงความเป็นอยู่ของดอกทานตะวันว่าสบายดีไหม
.และพูดคุยและพยายามทำให้ดอกทานตะวันและเค้ามีความสุกที่สุดในชีวิตของเค้าทั้งสอง
.ทั้งสองดูและเอาใจกันซึ่งกันและกัน
.
        จนกระทั่งบ่ายของวันนั้นเอง
..ไม่ขีดไฟคิดทบทวนภาพความทรงจำดี ๆ ที่เค้ามีให้ดอกทานตะวันและภาพความทรงจำดี ๆ ที่ดอกทานตะวันมีให้เค้า
คิดทบทวนเป็นเวลานาน
..แล้วทันใดนั้น
..เค้าได้พูดขึ้นมาว่า
          “ ดอกทานตะวัน!!!!!!! ไม่ขีดไฟรักดอกทานตะวันมากนะ
.ชาตินี้เราคงได้ใช้ชีวิตร่วมกันแค่นี้นะ
..ถึงเวลาที่เราต้องไปแล้ว
.รักษาตัวเองด้วย
”
        และไม้ขีดไฟก็จุดตัวเองขึ้นเป็นไฟ
ดอกทานตะวันเห็นก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจ
.ร้องไห้ไม่ยอมหยุดเค้าไม่เข้าใจที่ทำไมไม้ขีดไฟทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วย
..
          ในระหว่างที่ไม่ขีดไฟเป็นเถ้าถ่านนั้น
เค้าคิดถึงภาพที่เค้ามีให้ดอกทานตะวันแล้วก็คิดว่า
..ขอทีเถอะขอสักครั้งที่เราจะได้เห็นหน้าคนที่เรารักเป็นครั้งสุดท้าย
เค้าไม่แน่ใจว่าการกระทำที่เค้าทำในวันนี้จะทำให้เค้าเห็นหน้าดอกทานตะวันหรือไม่
..แต่เค้าก็ทำไปแล้ว
เค้าร้อนมาก
ทุรนทุราย
.
      และแล้วทันใดนั้น
.ดอกทานตะวันก็หันหลังมา
.ไม่ขีดไฟร้องไห้ดีใจแล้วพูดกับเค้าว่า
..
  “ ชาติหน้ามีจริงเราคงได้พบกันนะ
.จำไว้ฉันรักเธอ..ดอกทานตะวัน
..”
ดอกทานตะวันร้องไห้
.แล้วไม้ขีดไฟก็สมใจแล้วที่ได้เห็นดอกทานตะวันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เค้าจะตาย.
..แล้วเค้าก็กลายเป็นเถ้าถ่านไป
ตายในที่สุด
..
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น