ไม้ขีดไฟ(ฉบับผู้เขียน) - ไม้ขีดไฟ(ฉบับผู้เขียน) นิยาย ไม้ขีดไฟ(ฉบับผู้เขียน) : Dek-D.com - Writer

    ไม้ขีดไฟ(ฉบับผู้เขียน)

    โดย a_ki_potter

    ความรักที่ไม่อาจะเป็นไปได้ของทั้งสองทึ่ต้องจบลงด้วยความที่ไม่น่าจะเป็นไปได้แล้วถูกนำกลับมาแปลงเป็นเวอร์ชั่นใหม่แล้ว.........

    ผู้เข้าชมรวม

    337

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    337

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 มี.ค. 47 / 18:00 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      นานมาแล้วแต่ก็ไม่นานมากเท่าไรนักหรอก!………
      …...ณ.ประเทศแห่งหนึ่ง……………
      ประเทศแห่งนี้เป็นประเทศที่อยู่ในแทบทวีปยุโรป ซึ่งก็เป็นที่รู้ ๆ กันดีอยู่แล้วว่า หน้าหนาวนั้นที่ประเทศแห่งนี้หรือในทวีปนี้ด้วยเลยก็ตาม……ประเทศนี้ชาวไร่ชาวสวนส่วนหลักจะทำเกษตรโดยจะทำอุสาหกรรมดอกทานตะวันนั้นเอง…..ก็เป็นธรรมดาอยู่แล้วว่าจะต้องมีการปลูกดอกทานตะวันกันเยอะมากเพือเป็นวัตถุดิบป้อนเข้าโรงงาน

          มีครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่ง……….ซึ่งครอบครัวนี้ทำไร่ดอกทานตะวัน……ปลูกเยอะมากๆ (965 ไร่ ลองคิดถึงสภาพดูสิว่าเวลามันบานจะสวยขนาดไหนจิงป่ะ) และหน้านี้ก็เป็นหน้าหนาวของประเทศนี้…..ซึ่งก็เป็นช่วงที่ดอกทานตะวันบานพอดี……ไร่ดอกทานตะวันนี้สวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆมากจนไม่สามารถบรรยายได้เลย ต้องลองนึกและจินตานาการภาพตามไป……….

          และแล้วก็เวลาประมาณเย็นแล้วแหละ…….ประมาณ 6.00-7.00 pm ก็ถือว่าดึกมากแล้วสำหรับหน้าหนาวที่อากาศเย็นและเวลาค่ำก็จะท้องฟ้ามืดมากหรืออาจจะมืดเร็วกว่าปกติ……….ได้มีเสียงร้องไห้ดังขึ้น

      ……“ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”   เด็กชายตัวน้อยร้องไห้แล้ววิ่งออกจากบ้านมา……….
      “แม่ไม่รักข้าแล้วแม่ทำไมต้องตีข้าด้วย……..ข้าไม่เข้าใจ” เด็กชายตัวน้อยที่มีชื่อว่า “ พูล “ คิดในใจ

          ด้วยเหตุการณ์ที่ พูล ทะเลาะกับพ่อและแม่ของเค้า…….เรื่องที่เค้าไม่เข้าใจกันภายในบ้านนิดหน่อย……จึงทำให้เค้าร้องไห้เสียใจที่แม่ตีเค้า…..เค้าจึงวิ่งหนีแม่ของเค้าไปในไร่ดอกทานตะวัน……….
      ลึกเข้าไป……..ลึกเข้าไป……….ลึกเข้าไปเรื่อยๆ…….เค้าวิ่งโดยไม่คิดว่าเค้าจะกลับบ้านได้หรือไม่…..เค้านั่งร้องไห้เสียใจแล้วนั่งคิดทบทวนว่าเค้าได้ทำผิดอะไร……..แต่แล้วด้วยที่อากาศในขณะนั้นได้หนาวเย็นมาก………มากถึงขนาดที่พูลได้ใส่เสื้อกันหนาวถึง…..2 ตัวแล้วก็ยังไม่หายจากอาการที่หนาวเย็นของเค้าได้เลย….    
      เค้าได้พูดขึ้นกับตัวเองว่า…….

      “ ทำไมอากาศมันหนาวอย่างนี้นะ…..ข้างนอกบ้านเนี้ย……”

      “ทำไงดีละ…..เราไม่มีอารายเลยที่จะทำให้หยุดหนาวได้…………”

      แต่แล้วเค้า…..ก็ล้วงกระเป๋าเสื้อของเค้าแล้วพบกับ………ไม่ขีดไฟ…..1…กล่อง

      เค้าดีใจมาก……..แล้วเค้าก็พูดขึ้นว่า….

      “ดีจังค่อยยังชั่วแฮะเรา……..มีไม้ขีดไฟพอที่จะหนาวน้อยหน่อยแฮะเรา”
      เค้าก็ค่อย ๆ จุดทีละก้าน ทีละก้าน ทีละก้าน จดเหลือเพียงไม่ขีดไฟก้านสุดท้ายอยู่ในกล่อง……..
            ทันใดนั้นได้มีเสียงดังมาจากไกล ๆ ว่า………..
      “พูล……….เจ้าอยู่ไหนลูก………..กับมาหาแม่เถอะลูก…….แม่และพ่อของเจ้าให้อภัยเจ้าแล้ว…….”
      เค้าดีใจแล้วร้องไห้……….แล้วทันใดนั้นเค้าก็ไม่ทันได้จุดไม่ขีดไฟก้านสุดท้ายหรอก…….เค้าได้รีบวิ่งแล่นเข้าไปหาแม่ของเค้าแล้วร้องไห้…………….      แล้วเค้าก็เดินเข้าบ้านของเค้าไปพร้อมกับ  ครอบครัวของเค้า……..แต่หารู้ไม่ว่าเค้าได้ลืมกล่องไม่ชีดไฟ….และไม่ขีดไฟก้านสุดท้ายของกล่อง……..อยู่ในไร่ดอกทานตะวันที่สวยงาม…….งามเกินคำบรรยาย……

      เอก….อี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ……….เอกกกกกกกกกเอ๋กกกกกกกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
      เสียงไก่ที่ครอบครัวของพลูเลี้ยงไว้……ส่งสัญญาณในตอนเช้าเพื่อบอกให้ทุกคนรู้ว่า…ถึงเวลาแล้วสินะที่ทุกคนจะต้องตื่นแล้วทำหน้าที่ของตนเองเพื่อดำรงชีวิตอยู่ต่อไป…………….

          ทันใดนั้น………….มีเสียงดังออกมาจากกล่องไม้ขีดไฟกล่องเล็ก ๆ ร้องขึ้นออกมาว่า
      “โอ๊ยๆๆๆๆๆ เช้าแล้วหรอเนี้ย…..เอ้า…แล้วเพื่อน ๆ เราหายไปไหนกันหมด……”
            ไม่ขีดไฟก้านน้อยเอ่ยร้องขึ้นด้วยความตกใจ………จากนั้น….เข้าค่อย ๆ พยายามนำตัวเองออกมาจากกล่องไม้ขีดไฟกล่องน้อยที่เข้าอาศัยอยู่ …………..
           “โฮๆๆๆๆๆๆที่นี่ที่ไหนกันเนี้ย……ทำไมเราไม่เคยให้เลยละ…….”สวยงามมาก
            ที่ที่เจ้าไม่ขีดไฟอยู่ตอนนี้ก็คือทุ่งดอกทานตะวันนั้นเอง………มีสีเหลืองจากดอกทานตะวันที่มากมายจนมิสามารถนับจำนวนต้นได้……..
             ทันใดนั้นมีเสียงดังออกมาจากดอกทานตะวันที่สูงแล้วก็สวยงามมากต้นหนึ่งว่า
      “ นั้นเสียงใครนะ ! ทำไมมาอยู่แถวนี้ “ ดอกทานตะวันต้นหนึ่งพูด
             “ ข้าคือไม่ขีดไฟก้านน้อย……..ข้าก็ยังไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าข้านั้นมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร……รู้แต่เพียงว่าเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น……ข้าหลับไป…….แล้วเช้ามาข้าก็มาอยู่ ณ.ที่นี้แล้ว…..”
            “ อ๋อ…….เจ้าไม่ขีดไฟนั้นเอง…….งั้นข้าแนะนำตัวเองก่องนะ….ข้าคือดอกทานตะวัน…..ข้าอาศัยอยู่ ณ.ที่นี่มานานแล้ว…….แล้วถ้าเจ้าจะถามว่า……เพื่อน ๆ ไม่ขีดไฟของเจ้านั้นหายไปไหนกันหมดข้าก็บอกได้เลยว่า……เพื่อน ๆ ไม่ขีดไฟของเจ้านั้นถูกลูกชายเจ้าของส่วนจุดให้เกิดเป็นไฟเพื่อเอาความอบอุ่นไปหมดแล้ว….เค้ากลายเป็นเถ้าถ่านไปหมดแล้ว…….เจ้าอย่าเสียใจนะ……ข้าเสียใจด้วย….”
           ไม้ขีดไฟก้านน้อยตกใจมาก……เค้าทำอ่ะไรไม่ถูกเลยที่เค้าต้องเสียพ่อแม่ของเค้าพี่น้องของเค้าไป…….และตอนนี้เค้าก็ต้องอยู่ตัวคนเดียวในที่ซึ่งเค้าไม่รู้จักและไม่เคยมามาก่อน…..เค้าตอ้งทำตัวอย่างไรดี….เค้าคิดในใจ
          “ อย่าเสียใจนะ…..เรื่องมันผ่านมาแล้ว…….”  ดอกทานตะวันพูด
          “ ขอบใจมากนะ…….ที่ช่วยให้กำลังใจข้า….แต่ตอนนี้ข้าคิดว่าข้าจะทำอย่างไรดีกับตัวของข้า….ข้าเองเป็นไม่ขีดไฟไม่สามารถเคลื่อนย้ายหรือเดินไปไหนได้เลย…….ได้แต่อยู่อย่างนี้นิ่ง ๆ  “
           “ ไม่เห็นจะเป็นอ่ะไรเลยนิ…..ข้าเองก็เป็นดอกทานตะวันที่ไม่สามารถเดินเหินเหมือนคนอื่น ๆ ได้เหมือนกันเพราะวันๆ ข้าก็ได้แต่หันหน้าไปหาดวงอาทิตย์……ตะหันไปไหน  ๆ ก็มิได้……”
           “ หรอ……..อื่มเราเหมือนกันเลยนะ……งั้นเรามาเป็นเพื่อนกันดีกว่านะ…….” ไม่ขีดไฟก้านน้อยเอ่ยขึ้นหลังจากอาการเศร้าโศกเสียใจที่เค้าเพิ่งเสียพ่อแม่พีน้องของเค้าไปได้ไม่นาน……ค่อย ๆ จางลง……
      ………..และจากนั้น…..ไม่ขีดไฟก็ใช้ชีวิตของเค้าอยู่ข้างหลังดอกทานตะวัน……..เช้าขึ้นมาก็พูดคุยถามความเป็นอยู่กันทุกวัน……..ช่วยเหลือเพิ่งพากันยายามทุกข์…….คอยเป็นกำลังใจให้กันในช่วงเวลาที่คับขันและเร่งรีบ……คอยให้คำปรึกษากัน…….. และดอกทานตะวันก็หันหน้าไปทางดวงอาทิตย์ตามธรรมชาติ…….และไม่เคยหันมามองไม่ขีดไฟเลยเพราะขยับตัวเองไปไหนไม่ด้ายตามธรรมชาติของมัน………..จากการที่เป็นเพื่อน……..พูดคุยกันทุกวัน……..ค่อย ๆ เข้าใจซึ่งกันและกัน………รู้ใจกัน…………คอยเป็นห่วงกัน………..เข้ากันได้ดีในทุก ๆ เรื่อง และบางเรื่องที่ไม่เข้าใจกันก็จะสามารถปรับตัวเองให้เข้าหากันได้………จากคำว่า “เพื่อน” ก็เปลี่ยนเป็นคำที่เรียกว่า……..” ความรัก “ เกิดจากการที่ทั้งสองฝ่ายเข้าใจซึ่งกันและกัน…….พูดคุยกันมากขึ้น……..คอยเป็นที่ปรึกษากันในแทบจะทุกเรื่อง……..และแล้วเค้าสองคนก็ได้เป็น “ คู่รัก “ กัน……………

               เค้าสองต้นกะอีกหนึ่งก้านก็ใช้ชีวิตกันเหมือนแฟนกันปกติโดยที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่เคยเห็นหน้าซึ่งกันและกันแต่ที่ที่สองฝ่ายมาเป็นแฟนกันนี้เกิดจากการเข้าใจซึ่งกันและกัน……..โดยไม่แคร์ว่าหน้าตาของคนที่เรารักนั้นจะเป็นอย่างไร ……..เค้าสองต้นกะอีกหนึ่งก้าน……คบกันที่นิสัยใจคอที่เค้ากันได้ดี……….

             จนกระทั้งวันหนึ่ง………ไม่ขีดไฟก็เกิดแปลกใจแล้วมีความรู้สึกว่า……..เค้ามีคนรักของเค้าแล้วนะ……แต่เค้าอยากมองดูใบหน้าคนที่เค้ารักสักครั้งหนึ่ง………แต่เค้าไม่มีวิธีไหนเลยที่จะสามารถทำให้เค้ามองเห็นใบหน้าคนที่เค้ารักมากเลย………..ด้วยความที่เค้ารักดอกทานตะวันมาก……..เค้าจึงคิดได้วิธีหนึ่งคือ……เค้าจะต้องจุดตัวเองให้รุกขึ้นเป็นไฟแล้วทำให้เกิดแสงสว่าง ขึ้นมาเพื่อทำให้ตัวเองมีแสงเหมือนดวงอาทิตย์……..ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ครอบครัวของไม้ขีดไฟสอนเป็นเด็ดขาดเลยว่า….จะไม่ยอมให้เหล่าไม่ขีดไฟทำการกระทำเช่นนี้เป็นเด็ดขาดเพราะจะทำให้ตัวเองกลายเป็นเถ้าถ่านแล้วตายไปในที่สุด……….
          แต่ทำอย่างไรได้ละ……….ก็ไม่ขีดไฟเค้ารักดอกทานตะวันมาก……..เค้าไม่กล้าที่จะบอกความจิงกับดอกทานตะวันว่าเค้าจะกระทำในสิ่งที่เค้าคิดไว้……..เพราะเค้ารู้คำตอบว่า……ดอกทานตะวันจะต้องไม่ยอม….ให้เค้าทำเช่นนั้นเป็นอันขาด……….

                 และแล้ววันหนึ่ง……………….เค้าได้ตื่นขึ้นมา……..เหมือนดังเช่นทุกวัน…….ทำทำตัวแปลก ๆ คือ ห่วงใยดูและเอาใจใส่ดอกทานตะวันมากกว่าวันปกติที่ผ่านมา……….เค้าถามถึงความเป็นอยู่ของดอกทานตะวันว่าสบายดีไหม……….และพูดคุยและพยายามทำให้ดอกทานตะวันและเค้ามีความสุกที่สุดในชีวิตของเค้าทั้งสอง…….ทั้งสองดูและเอาใจกันซึ่งกันและกัน……….
              จนกระทั่งบ่ายของวันนั้นเอง……..ไม่ขีดไฟคิดทบทวนภาพความทรงจำดี ๆ ที่เค้ามีให้ดอกทานตะวันและภาพความทรงจำดี ๆ ที่ดอกทานตะวันมีให้เค้า………คิดทบทวนเป็นเวลานาน……..แล้วทันใดนั้น……..เค้าได้พูดขึ้นมาว่า………
                “ ดอกทานตะวัน!!!!!!! ไม่ขีดไฟรักดอกทานตะวันมากนะ…….ชาตินี้เราคงได้ใช้ชีวิตร่วมกันแค่นี้นะ…..ถึงเวลาที่เราต้องไปแล้ว…….รักษาตัวเองด้วย……”
              และไม้ขีดไฟก็จุดตัวเองขึ้นเป็นไฟ………ดอกทานตะวันเห็นก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจ……….ร้องไห้ไม่ยอมหยุดเค้าไม่เข้าใจที่ทำไมไม้ขีดไฟทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วย……..
                ในระหว่างที่ไม่ขีดไฟเป็นเถ้าถ่านนั้น……เค้าคิดถึงภาพที่เค้ามีให้ดอกทานตะวันแล้วก็คิดว่า…..ขอทีเถอะขอสักครั้งที่เราจะได้เห็นหน้าคนที่เรารักเป็นครั้งสุดท้าย……เค้าไม่แน่ใจว่าการกระทำที่เค้าทำในวันนี้จะทำให้เค้าเห็นหน้าดอกทานตะวันหรือไม่……..แต่เค้าก็ทำไปแล้ว……เค้าร้อนมาก…ทุรนทุราย…….
             และแล้วทันใดนั้น…….ดอกทานตะวันก็หันหลังมา…….ไม่ขีดไฟร้องไห้ดีใจแล้วพูดกับเค้าว่า…..
        “ ชาติหน้ามีจริงเราคงได้พบกันนะ…….จำไว้ฉันรักเธอ..ดอกทานตะวัน…..”
      ดอกทานตะวันร้องไห้…….แล้วไม้ขีดไฟก็สมใจแล้วที่ได้เห็นดอกทานตะวันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เค้าจะตาย.
      ……..แล้วเค้าก็กลายเป็นเถ้าถ่านไป……………ตายในที่สุด………………..

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×