เมื่อตอนปิดเทอรมที่น่าเศร้า - เมื่อตอนปิดเทอรมที่น่าเศร้า นิยาย เมื่อตอนปิดเทอรมที่น่าเศร้า : Dek-D.com - Writer

    เมื่อตอนปิดเทอรมที่น่าเศร้า

    โดย a_ki_potter

    นินจา.......เด็กน้อยที่อ่อนต่อโลก...เกิดสับสนวุ่นวายในความคิดของตัวเอง.....และเบนซ์เด็กน้อยวัย15ปีที่เข้าไปช่วยให้เค้าดีขึ้น

    ผู้เข้าชมรวม

    320

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    320

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 มี.ค. 47 / 17:58 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      นานมาแล้ว…….เราได้เคยเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่สับสนและน่างงมากกับชีวิตที่ผ่านมาของเรา…..เราก้อไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราแต่เรารู้อยู่อย่างหนึ่งว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นก้อเป็นบทเรียนที่นับว่าเป็นเรื่องดี ๆ มากกับชีวิตของเรา….เรื่องราวอาจจะฟังดูน้ำเน่า….บางคนอาจจะคิดว่าเป็นไปไม่ด้ายหรือบางคนที่ไม่เคยเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้ก้อจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่ตลก…..แต่สำหรับบุคคลใดก้อตามที่เคยเจอกับเหตุการณ์ที่เราได้เคยผ่านมานนั้นก้อจะมองว่ามัน อาจจะเป็นเรื่องที่ฟังดูแล้วน่าสงสารหรืออาจจะเกินจริงก้อได้อันนี้เราก้อไม่รู้เหมือนกัน…………….
          เรื่องก้อมีอยู่ว่า….ครั้งที่เราได้เรียนมานานพอสมควร(มอ3ขึ้นมอ4)….พอเราขึ้นเรียนในระดับชั้นมอสี่แล้วเราก้อได้เจอกับเพื่อนใหม่ ๆ แต่ที่สำคัญนั้นคือโรงเรียนของเรานั้นชั้นมอต้นอ่ะมันเป็นการเรียนแบบที่มีแต่นักเรียนชายล้วน เพราะโรงเรียนที่เราได้เรียนอยู่นั้นเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดชาย…..ชั้นมอต้น(1-3)จังเป็นการเรียนที่แบบว่ามีแต่เพื่อน ๆ ที่เป็นผู้ชายล้วน…….แต่แล้วเมื่อเราได้ขึ้นมอสี่….มันก้อเป็นเรื่องธรรมดาของโรงเรียนเราที่ชั้นมอปลายจะเป็นการเรียนแบบสหศึกษาก้อคือว่า…เป็นระดับชั้นที่มีนักรียนหญิงเข้ามาเรียนได้คือว่าเป็นเป็นการเรียนแบบอิสระ…….โรงเรียนของเรานั้นก้อนับว่าเป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงพอสมควร…..เป็นโรงเรียนประจำจังหวัดชาย…..เป็นโรงเรียนพระราชทาน2ปีซ้อน…..มีเด็กของโรงเรียนสอบเข้าคณะต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยดัง ๆ ได้เยอะพอสมควร…….

              เมื่อตอนเราประมาณชั้นมอสามขึ้นมอสี่อ่ะ…..ตอนปลายเทรอมมอสาม….เราและเพื่อนสนิทของเราก้อได้ไปเล่นอย่างที่เคยชอบเล่นกันมาตลอด…(อินเตอร์เน็ท)เราก้อไปเล่นกันอย่างเคยของทุกครั้งที่ไป…เบนซ์..เพื่อนของเราเป็นคนที่นิสัยเมื่อก่อนนี้ไม่เคยจิงใจกะใครถึงแม้ว่าคน ๆ นั้นที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเบนซ์ก้อตามจะเป็นคนที่รักมันมากก้อตาม…..แต่มันก้อไม่เคยจริงใจให้กะใครเลย…..มีคนเป็นสิบเลยก้อว่าด้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของมัน……ผ่านมา……แล้วก้อผ่านไป…..ไม่มีอะรัยเกิดขึ้น…ถึงแม้ว่าคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของมันจะเป็นคนที่รักมันแล้วก้อจริงใจกะมันมาก…
              จนกระทั่งวันนี้……วันที่มันและเรามาเล่นกันอย่างที่เคยเล่น…เบนซ์.เล่นในวันนี้มันไม่ด้ายคิดอารายคิดอยู่อย่างเดียวว่าวันนี้มันต้องหาคนเอาไว้โทรมาคุยกะมันเล่น ๆ อย่างที่มันเคยทำแล้วเราก้อเห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติของมันไปเสียแล้ว…..ครั้งนั้นเราก้อพอดีเราสอนมันเล่นโปรแกรมแช็ตชนิดใหม่ที่มันก้อค่อนข้างสนุกดีอ่ะ…สอนมันเล่นแล้วอยู่ ๆ มันก้อมีคนเข้ามาคุยกะมันตามประสาคนเล่นแช็ต….แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นสิ….โปรแกรมนี้ไม่ด้ายมีคนเข้ามาคุยกันง่าย ๆ มันต้องมีอีเมล์มันถึงจะคุยกันได้แล้วก้อต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนเข้าไปคุยก่อน….แต่ก้อมีเด็กชายคนหนึ่งอายุก้อปามาณเท่าเรากะเพื่อนเราเลยแหละ….ได้เข้ามาคุยกะเบนซ์มัน….แต่เบนซ์มันก้อไม่ด้ายคิดอารายมาก……มันก้อคิดแค่ว่าอยากให้เด็กชายคนนั้นโทรมาคุยตามประสาอย่างที่มันเคยทำ……มันก้อไม่คิดอาราย…เราก้อเล่นไปตามประสาของเรา….จนกระทั่งเราแยกทางกันกับบ้าน…บ้านใครบ้านมัน
              มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น…..เบนซ์เดินมารับโทรศัพท์อย่างเคย…..ประกฏว่าเป็นเด็กชายคนที่เบนซ์คุยกะมันเมื่อกลางวัน……โทรมาเบนซ์ก้อคุยกะเค้าไปตามปกติ…เบนซ์เป็นคนคุยสนุกนะเวลาคุยโทรศัพท์กะใครแล้ว….แต่บางครั้งมันก้อคุยน่าเบื่อ…คุยไปคุยมา…..เบนซ์เกิดกระตุกใจ…..คิดขึ้นมาว่าคนที่เราคุยด้วย…..มันเหมือนเค้า ….เค้าคนนั้นคนที่มันตามหามาแสนนาน ๆๆ เค้าคนนั้นมีชื่อว่า….”นินจา” นินจาเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง….ปกติธรรมดา…แต่ที่ไม่ธรรมดานั้นก้อคือเค้าเป็นเด็กที่โตแต่ตัว….อยากรู้เรื่องโน่นเรื่องนี้ไปตามประสา…หรือเรียกง่ายตามประสาพวกเราก้อคือพวก…อีโนเซนต์…..นั่นแหละเป็นสิ่งที่มันตามหามานาน…..มันคุย…คุยกันมากขึ้น……จนกระทั่งแน่ใจว่าคนนี้แหละที่มันตามหามานาน….แล้วก้อความเก่งกาจของมันนั้นเอง…..มันสามารถทำให้เด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเด็กที่ปกติธรรมดาที่อยากรู้เรื่องโน่นเรื่องนี้ตามประสาที่เหมือนเด็กอ่อนต่อโลก….ทำให้มันกายเป็นในสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิด…..และแล้วก้อคุยกันมากขึ้นสนิทกันมากขึ้น….บางวันคุยกันไม่ยอมนอนหลับยอมนอน….จนกระทั่งเค้าเป็น แฟนกัน เห็นความเก่งกาจของเพื่อนเราคนนี้หรือ ยังอ่ะว่าร้ายขนาดไหน…..
              โทรศัพท์ของเราหรอ…??…เราว่านะในช่วงนั้นนะมันไม่ช่ายของเรามากกว่า…ทุกชั่วโมงที่เบนซ์มันอยู่กับเรามันจาคุยโทรศัพท์กับนินจาตลอด….แม้กระทั่งเวลาเรียน…..คุยกันมาก…จนกระทั่งบางครั้งเราก้อเกือบอิจฉามันเหมือนกันอ่ะ……
              ปีใหม่ผ่านเข้ามาอีกหนึ่งปีแล้ว…….วันนี้เป็นวันสิ้นปี…บ้านเบนซ์…มันมีการจัดงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่า…มันก้อมีกันเกือบทุกบ้านแหละ…..บ้านเบนซ์มันเป็นบ้านที่มีญาติเยอะ…..ถึงตอนวันปีใหม่นี้ไง…ถือว่าเป็นวันรวมญาติเลยแหละ…..แล้วจะมีอารายอีกเล่านอกจาก….เวลาประมาณ 3 ทุ่ม…นินจาก้อโทรมาคุยกับเบนซ์เหมือนเช่นเคย….คุยกันในเรื่อง ที่ ไม่เข้าเรื่องบ้าง เรื่องทีมีสาระบ้าง…เบนซ์มันเป็นคนที่ชอบคุย….คุยกันไปคุยกันมาผ่านไปแล้ว 2 ชั่วโมงกว่า ๆ ในบ้านเบนซ์ มีการจัดงานสังสรรค์ต่าง ๆ ร้องเพลง คาราโอเกะ เป็นวันพบญาติ แต่เบนซ์ผู้ซึ่ง เป็นคนที่เพิ่งมีรักครั้งแรกกับเค้าก้อยังคงคุยต่อไป…นินจาก้อเปิดเพลงต่าง ๆ ให้เบนซ์ฟัง…ทำเหมือนอยู่ด้วยกันข้าง ๆ ตอนมันรักกันใหม่ ๆ นะ นินจาก้อบอกกับมันว่าชอบเพลง …”อยากรู้ว่า..” ของพลอยนัฐชาอ่ะ เนื้อหาของเพลงก้อคงเคยฟังกันนะ ต่อมาตอนที่…มันเป็นแฟนกันแล้ว…..มันก้อบอกว่าชอบเพลง…”My Love” ของ West Life เห็นป่ะเนื้อหาของเพลงแต่ละเพลงนะน่าอิจฉาขนาดไหนอ่ะคู่นี้อ่ะ……..มันมีหลายเพลงนะที่มันบอกกันว่าชอบอ่ะแล้วแต่ละเนื้อหาของเพลงแต่ละเพลงนะ…..ตรงกับเหตุการณ์และสถานการณ์ต่าง ๆ มาก
              นินจาเป็นคนที่นิสัยเหมือนเด็ก…ไม่ค่อยรู้เรื่องอารายและก้อมีนิสัยที่อยากรู้เรื่องต่าง ๆ เป็นธรรมดา แล้วก้อขี้เล่น เวลามันโกรธหรือไม่เข้าใจอารายกับเบนซ์นะ….เรา…..เป็นที่ปรึกษาของมันเลยแหละ…นินจามันโทรมาคุยกับเราก้อพอ ๆ กับที่มันคุยกับเบนซ์เลยแหละ…เพราะเราเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมาก….จนกระทั่งนินจามันก้อรู้นิสัยของเรา….เพราะมันกะเราก้อคุยกันมาก….เราก้อคิดว่ามันก้อคงเป็นเพื่อนที่เราคิดว่าคงรู้ใจเพื่อนด้วยกันที่ดีที่สุดในตอนนั้น……รองจากเบนซ์แล้วก้อเพื่อนสนิทของเราคนอื่นอีก……..
              มีอยู่ครั้งหนึ่งนะ…ที่เบนซ์มันเคยคุยกับนินจาว่า….มันกัวนินจาทิ้งมัน….เพราะมันก้อหน้าตาไม่ด้ายมีดีอารายมากแต่กับนินจาดิหน้าตาดีมาก……ก้อพอน่ารัก…..มันกัวมากเรื่องนี้…ตลอดเวลามันหวาดระแวงมาตลอด……..นินจาก้อบอกกับมันว่า..”เค้าต่างหากที่ต้องกัวว่าเบนซ์จาทิ้งเค้า…”
      แต่เบนซ์และมันก้อบอกกับกันว่า….”เราไม่มีวันที่จะทิ้งกัน”……..เราฟังเรื่องนี้ทีแรกแล้วเราก้อคิดเหมือนกันว่าเบนซ์มันรักของมันจริงแล้วอีกอย่างมันเป็นรักครั้งแรกของมันด้วยมันคงรักของมันมาก……….
              นินจาคอยโทรมาตลอด…….โทรบ่อยขึ้น…..บ่อยมาก…..จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง…….นินจาก้อเป็นนักกีฬาเบตมินตันด้วยเป็นนักกีฬาตัวประจำจังจังหวัดเลยแหละ……..ก้ออย่างว่าเนอะลูกคนรวยอ่ะ…….กีฬาประเภทนี้ก้อค่อนข้างต้องลงทุนมากในการเล่นของแต่ละครั้ง…..เรียนก้อเรียนโรงเรียนที่ค่าเทรอมแพง…..ดีกรีและก้อความมีชื่อเสียงก้อมีมากในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ….โรงเรียนที่นินจาเรียนอยู่ก้อคือ….”มงฟอร์ตวิทยาลัย”……
              นินจามันจามาแข่งขันกีฬาที่จังหวัดใกล้ ๆ กับจังหวัดที่เราอยู่แต่ก้อใกล้ไม่มากด้วย…..เป็นธรรมดากันใช่ป่ะที่คนเราเป็นแฟนกันแล้วก้ออยากเห็นหน้ากัน……นินจาก้อคุยกับเบนซ์แล้วก้อตกลงกันว่าจาไปเจอกัน……เราและเบนซ์ไม่เคยทำเรื่องที่เป็นเหตุการณ์ที่ดูแล้วไม่สมควรเลยที่อยู่ในวัยเรียน…..แต่ทำไงด้ายอ่ะเพื่อเพื่อนที่เรารักทั้งสองคนแล้ว…เราก้อต้องยอมทำ……เรื่องมันก้อมีอยู่ว่านินจามันจามาแข่งขันเบตมินตั้นที่จังหวัดพิจิตร……..มาเป็นตัวแข่งขันในนามจังหวัด……เบนซ์ก้ออยากเห็นหน้าแฟนตัวเองกันอยู่แล้ว…..เราก้อเห็นใจมันนะ……
              นินจามันจามาแข่งปามาณวัน พุทธ หรือไงก้อไม่รู้เราก้อจำไม่ค่อยด้ายแล้วด้วย….เบนซ์ก้อมาคุยกับเราว่าเราต้องโดดเรียนนะ……เพราะว่าโรงเรียนไม่ได้ปิด….เราคิดอยู่นานเลยนะ…..เพราะว่าเราไม่เคยทำเรื่องที่ค่อนข้างเสียการเรียนอย่างนี้….แต่ทำไงด้ายละ…เบนซ์ก้อเป็นเพื่อนเรา…..ที่ค่อนข้างสนิทด้วย……นินจาก้อเพื่อนเรา……แล้วก้อเป็นเพื่อนใหม่ที่ค่อนข้างรู้นิสัยเราดีว่าเราชอบหรือไม่ชอบอาราย…เราเป็นคนที่เสียนิสัยอยู่อย่างหนึ่งก้อ คือเราเป็นคนที่แพ้…คนขี้อ้อนแบบเด็ก ๆ แล้วก้อชอบคนที่โตแล้วนิสัยแบบเด็ก ๆ ไม่ใช่ปัญญาอ่อนนะ….แต่ชอบแล้วอีกอย่าง….ทั้งไอ้เบนซ์แล้วก้อไอ้นินจามันขอร้อง….แล้วก้ออ้อนเรา……เราก้อเลยยอมตกลงทำไปสะดื้อ ๆ เลย…….
              วันนี้ก้อวันพุทธแล้วสินะ……เราเตรียมตัวแต่งชุดนักเรียนออกจากบ้าน…..แต่หารู้ไม่ว่า….ในกระเป๋านักเรียนเรา…ไม่มีหนังสือเลยสักเล่ม….มีก้อเพียงแต่ว่า….ชุดเปลี่ยน(ชุดเที่ยว)…..เราไม่ให้พ่อไปส่งในวันนั้น……แต่กลับให้เบนซ์มารับแทน……เราไปเปลี่ยนชุดจากชุดนักเรียนเป็นชุดเล่น…กันที่ปั๊มน้ำมันแถวบ้าน……เรารู้สึกผิดนะที่ทำแบบนี้…..แต่ทำไงด้ายละ…เพื่อน….เป็นนิยามความดีแล้วสำคัญที่สุดสำหรับเรา…คือว่าเราเป็นพวก Friend Center อ่ะ เรารู้ว่ามันผิดแต่เราทำไปแล้ว….แล้วเราก้อคิดว่าคงไม่มีครั้งที่สองอีกเป็นเด็ดขาด…….
              จากนั้น……เราไปซื้อตั๋วรถไฟ……ไปจังหวัดพิจิตรเลยแหละ……แล้วก้อขึ้นไปกับเบนซ์….เบนซ์มันดีใจมากที่มันจาได้เจอกับนินจา…..แต่อีกแง้หนึ่งมันก้อกัวความจริง….กัวว่านินจาจะหน้าตาดีกว่ามันแล้วก้อทิ้งมันไปถ้าเห็นหน้ามันแล้ว…….นั่งรถไฟกันอยู่ไม่นานก้อถึงจุดหมายปลายทาง…..เราลงแล้วก้อไปรอที่.ๆ พักของนินจามัน…..
              เบนซ์ทั้งดีใจแล้วอีกทางก้อคือกัวความจริง…กัวเค้าจาทิ้งมันเพราะมันรักเค้ามาก…..และแล้วนินจาก้อมาถึง…..แปลกนะมันไม่คุยกับเบนซ์…..แต่กลับมาคุยกับเราแทน….ก้อแน่ละสิคนเค้าเป็นแฟนกันใครเค้าจาไปกล้าคุย…..นินจามันก้อแปลกใจว่าทำไมเบนซ์ไม่ยอมคุยกับมัน……..เราก้อคุยกับนินจาไปเรื่อยตามประสาเพื่อนเพราะเราก้อค่อนข้างชอบคุยกับมันอยู่แล้วในโทรศัพท์…แต่มาเจอตัวจริงก้อประหม่าเหมือนกันนะ……เพราะนินจามันก้อหน้าตาดีไม่ใช่เล่นเลยแหละ….เสียอยู่อย่างเดียวนี้สิ….ปากมันไม่สวย….ฟันก้อค่อนข้างดูไม่ด้ายอ่ะ….อิอิอิอิอิ….แต่ก้อดูดีหมดถ้ามองจากปากขึ้นไป…..
              ถึงเวลาแล้วที่เรากับเบนซ์จะต้องกับบ้าน……เรามีเวลาอยู่กับนินจาไม่ถึงสองชั่วโมง….เพราะว่าถ้าเราไปไม่ทันรถไฟละก้อ…..เราถึงบ้านเย็น……แค่ขบวนที่เราไปก้อเย็นแล้วถ้าเราตกนะ..ถึงบ้านดึกแน่….พ่อแม่เบนซ์เอามันตายแน่ ๆ พ่อแม่เราก้อใช่ย่อยนะ…..เบนซ์มันยากคุยกับนินจาใจจะขาดแต่มันก้อไม่กล้า….เป็นเพราะอารายก้อไม่รู้เนอะ….น่าแปลกใจ…..เราเตรียมตัวกับ….นินจาก้อเดินไปส่งเรา….ที่ทางรอรถขึ้น….แต่ไม่ไปส่งที่สถานีรถไฟเพราะมันไม่กล้าออกไปเพราะไม่ช่ายบ้านมัน…...ตอนแรกเราก้อโมโหนะ….ที่เรามาหาถึงขนาดนี้แล้ว…..แต่ไม่ยอมไปส่งเราทั้งที่ใกล้ ๆ แค่นี้เอง……
              เบนซ์มันนั่งเงียบ….ซึม…..เราก้อไม่สงสัยอารายคิดว่าเป็นธรรมดาที่…พอเจอกันแล้วก้อต้องจากกัน…..แต่ไม่ใช่เรื่องนั้นสิ….เบนซ์มันเคยคุยกันในโทรศัพท์กับนินจาไว้ว่า…ถ้าเจอตัวจริง ๆ กันแล้วมันจาเข้าไปสารภาพรักกันใกล้ ๆ ……เอาแล้วละสิ….ขนาดตอนที่มันคุยกับเราเบนซ์มันยังไม่กล้าคุยกับนินจาเลย……แล้วก้อคุยกันไม่กี่คำด้วย……แล้วตอนนี้….เวลาก้อใกล้แล้วที่รถไฟจาออก……..เรามาถึงที่สถานีรถไฟกัน…เหลือเวลาที่รถไฟจามาอีกแค่ไม่ถึง 20 นาที…..เบนซ์มันเริ่มทุรนทุราย…ออกอาการเหมือนคนใกล้ตาย…..เริ่มร้องไห้ออกมา……แล้วก้อถามเราหลายรอบมากที่มันจากับไปพูดคำ ๆ นั้นกับนินจา….เราก้อบอกว่าอย่าไปนะเบนซ์..ถ้าแกไปนะเว้ยตอนนี้อ่ะแกไม่เหลือเวลากับบ้านแน่ ๆ ถ้าแกตกรถไฟละก้อ..พ่อแกแม่แก…เอามึงตายแน่ ๆ
              ทันใดนั้นเราพูดไม่ทันจาขาดคำ……มันวิ่งดิ่งไป…….ตรงไปเข้าหามอตาไซด์รับจ้าง….แล้วก้อพูดกับคนขับว่า..”พี่ครับ..จากนี้ไปโรงแรมพิจิตรพล่าซ่า….แล้วก้อกับมานี้ในเวลา ไม่ถึง 15 นาทีจาทันไหมครับ…..”  คนขับรถงงมากแล้วก้อตกใจที่มันวิ่งไปหาเค้าทั้ง ๆ ที่ร้องไห้ … เรารู้นะว่าตอนนั้นมันคงงงแล้วก้อสับสนมากกับชีวิต….ไม่รู้จาเลือกอันไหน…..ถ้าไปก้อต้องตกรถไฟแน่ ๆ พ่อแม่เอามันตายแน่ ๆ แต่ถ้าไม่ไปมันก้อจะผิดคำสัญญากับคนที่มันรักมากที่สุด…รองจากพ่อแม่ของมัน…..
              เราทึ่งมากในตอนนี้ที่มันเลือกทางที่เสี่ยงที่สุด…คือยอมตกรถไฟ….เราสิเกือบซวยแน่ะ…ทันใดนั้นไม่นานนินจาก้อโทรมาหาเรา….มันก้อคุยปกติว่าทำไมเบนซ์ไม่ยอมคุยอารายกับมัน….แต่…หารู้ไม่ว่าตอนนั้นไอ้เบนซ์มันกลับไปหาแล้ว…..เราก้อบอกมันไปว่าเบนซ์กำลังไปนะ….มันงงแล้วก้อตกใจมากที่เห็นเบนซ์ทำแบบนั้น……แล้วไม่ถึง 3 นาที เบนซ์ก้อไปถึงที่ ที่นินจามาส่งเรากับเบนซ์ขึ้นรถ….แต่! ไม่เจอนินจา….เบนซ์มันยิ่งงงแล้วก้อสับสนไปใหญ่….แค่มาแค่นี้จาตกรถไฟหรือเปล่าก้อไม่รู้….มันตัดสินใจเข้าไปหาที่หน้าโรงแรม…ยอมทำไปแม้กระทั่งไม่รู้ว่าจะเจอนินจาหรือเปล่า…..แต่…มันเจอนินจาคุยโทรศัพท์อยู่กับเราอยู่…มันวิ่งเข้าไปหานินจาแล้วก้อกระชากคอเสื้อนินจา…..แล้วพูดออกมาว่า..”นินจา…เบนซ์รักนินจานะ!….” เราก้อถือหูโทรศัพท์อยู่ที่สถานีรถไฟรอรถไฟ….ได้ยินที่เบนซ์มันพูดกับนินจาเราก้อ….ซึ่งมาก…ไม่คิดว่ามันจารักของมันมากขนาดนี้……แล้วเบนซ์ก้อรีบนั่งรถรับจ้างกับที่สถานีรถไฟอย่างรวดเร็ว……มันทำได้ไงเนี้ย….นินจามันคุยโทรศัพท์กับเราอยู่มันก้อบอกเราว่า….เหอะๆ เอ เบนซ์มันกล้าดีเนอะ……ทันใดนั้น….เวลาไม่ถึง 3 นาทีที่เบนซ์มันนั่งรถรับจ้าง….กับมา…มันวิ่งเข้ามาหาเราแล้วถามว่ารถไฟมาหรือยัง เอ  เราก้อบอกว่ายัง…มันวิ่งมาทั้งน้ำตา…..คนทั้งสถานีรถไฟมองมัน…กัน…ทุกสายตามองมาที่เรากับเบนซ์…..เราโคตรอายเลย….นินจามันไม่กล้าคุยกับเบนซ์แล้วแหละที่นี้อ่ะ……มันก้อฝากบอกเราว่าให้บอกเบนซ์ด้วย….ว่ามันก้อรักเบนซ์เหมือนกัน….แต่ทำไงด้ายละ…เรื่องของชาวบ้านเค้านิ…เราก้อบอกไปว่า…..นินจาแกก้อบอกมันเองสิว่ะ…..ไอ้นินจามันก้อบอกว่า…ไม่เอาเอเค้าไม่กล้าอ่ะ….แล้วทีนี้เราก้อแกล้งถามมันไปว่าจาให้บอกว่าอารายล่ะบอกเรามาสิ…..ทั้ง ๆ ที่เรารู้คำตอบอยู่แล้วว่า………..พอนินจามันกำลังจาบอกเราว่า….เราก้อเอาหูโทรศัพท์ให้เบนซ์ฟัง…..นินจามันก้อพูดพอดีว่า “ เค้าก้อรักเบนซ์เหมือนกันนะ “ …ไอ้เบนซ์เพื่อนเรา….ปล่อยโฮออกมาทันทีที่ได้ยิน…เราก้อแอบซึ่งเหมือนกันที่มันรักกันมากจนบางทีเราก้ออิจฉาเหมือนกันนะที่มันรักกันดีเหลือเกิน…..ทีนี้มันก้อคุยโทรศัพท์กันต่อจนกระทั่งรถไฟมาแล้วมันก้อขึ้นรถไฟไป…….รถไฟแล่นไปเรื่อย ๆ มันก้อคุยกันไป….จนกระทั่งสัญญาณโทรศัพท์หายไป…เพราะคลื่นโทรศัพท์ก้อไม่ค่อยดีสักเท่ารายหรอก….เบนซ์มันก้อหยุดร้องไห้แล้วก้อนั่งรถไฟต่อไป……มันก้อนั่งคิดแล้วก้อคุยกับเราว่า….เอกูกัวนินจามันทิ้งกูว่ะ….กูมีรางสังหรณ์ยังไงก้อไม่รู้ว่ะ…..เราก้อบอกไปว่าอย่าไปคิดมากดิ..ถ้ามันจาทิ้งมึงมันก้อคงไม่บอกว่ารักมึงหรอก….มันก้อนอนหลับ…แต่เราก้อแอบเห็นว่ามันนอนร้องไห้…..ไม่แปลกหรอกที่ผู้ชายอย่างเราและเบนซ์จาเป็นผู้ชายที่ร้องไห้ง่ายมาก…เพราะว่าเราสองคนเป็นโรคหนึ่งที่คนอื่นเค้าไม่เป็นกัน….คือโรค เซนต์สทีฟ (Sentsative) หมายความว่าเป็นคนที่รับความรู้สึกได้ดีแล้วก้อจารับความรู้สึกได้เร็วมาก….ถ้าได้รับเรื่องที่กระทบกระเทือนใจแค่นิดเดียวก้อจาคิดมากแล้วบางทีก้อร้องไห้ออกมา…..รับเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่เกินความรู้สึกไม่ค่อยด้าย…..เราเป็นคนที่รักเพื่อนมาก….และเราก้อถึงบ้านเราตามกำหนดเวลา…….
              แต่เรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นมันก้อเกิดขึ้นมา……จากนั้นนินจาก้อไม่เคยโทรศัพท์มาอีกเลย….หายไปเลย 1 เดือน เราและเบนซ์พยายามที่จะโทรไป…..ก้อโทรติดนะแต่ไม่มีใครรับโทรศัพท์เลย……ไม่เคยได้ยินเสียงเลยนับจากนั้น……เบนซ์รับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นเลย…เป็นเพราะมันรักของมันมาก……มันบอกว่ามันคิดอยู่แล้วว่าเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น….มันร้องไห้ทุกครั้งที้เราพูดถึงเรื่องนี้…..จนกระทั่งวันหนึ่งเป็นวันใกล้ปิดเทรอม….เราลองโทรไปหามันอีกครั้ง…ครั้งนี้มันรับโทรศัพท์แล้วก้อบอกว่า…มันอยู่ในงานเลี้ยงโรงเรียนอยู่…..แล้วที่มันหายไปไม่ยอมรับโทรศัพท์มันไปแข่งกีฬาที่ภาคใต้…มันลืมเอาโทรศัพท์ไป…….เราก้อโมโหมาก…เลยด่าไปหลายฉากเหมือนกัน….มันก้อบอกว่าขอโทษ…ไม่ด้ายตั้งใจแล้วตอนนี้มันก้อต้องกลับเข้าไปในงานแล้ว….แล้วเดี๋ยวมันจะโทรมาหาเบนซ์ใหม่….
              แต่แล้วเวลาก้อผ่านไป…..ผ่านไปจนกระทั่งเช้า….ไม่มีแม้แต่สายเดียวที่จะรับ……………นับจากวันนั้นถึงวันนี้……..นินจาก็ไม่ติดต่อกับมาเลย…….แม้กระทั่งเบนซ์โทรไปหามันก็ตาม…..มันก็ไม่ยอมรับสายแล้วก็เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ของมันหนีหายเงียบไป

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×