นานมาแล้ว
.เราได้เคยเจอกับเรื่องราวต่าง ๆ ที่สับสนและน่างงมากกับชีวิตที่ผ่านมาของเรา
..เราก้อไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราแต่เรารู้อยู่อย่างหนึ่งว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นก้อเป็นบทเรียนที่นับว่าเป็นเรื่องดี ๆ มากกับชีวิตของเรา
.เรื่องราวอาจจะฟังดูน้ำเน่า
.บางคนอาจจะคิดว่าเป็นไปไม่ด้ายหรือบางคนที่ไม่เคยเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้ก้อจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่ตลก
..แต่สำหรับบุคคลใดก้อตามที่เคยเจอกับเหตุการณ์ที่เราได้เคยผ่านมานนั้นก้อจะมองว่ามัน อาจจะเป็นเรื่องที่ฟังดูแล้วน่าสงสารหรืออาจจะเกินจริงก้อได้อันนี้เราก้อไม่รู้เหมือนกัน
.
    เรื่องก้อมีอยู่ว่า
.ครั้งที่เราได้เรียนมานานพอสมควร(มอ3ขึ้นมอ4)
.พอเราขึ้นเรียนในระดับชั้นมอสี่แล้วเราก้อได้เจอกับเพื่อนใหม่ ๆ แต่ที่สำคัญนั้นคือโรงเรียนของเรานั้นชั้นมอต้นอ่ะมันเป็นการเรียนแบบที่มีแต่นักเรียนชายล้วน เพราะโรงเรียนที่เราได้เรียนอยู่นั้นเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดชาย
..ชั้นมอต้น(1-3)จังเป็นการเรียนที่แบบว่ามีแต่เพื่อน ๆ ที่เป็นผู้ชายล้วน
.แต่แล้วเมื่อเราได้ขึ้นมอสี่
.มันก้อเป็นเรื่องธรรมดาของโรงเรียนเราที่ชั้นมอปลายจะเป็นการเรียนแบบสหศึกษาก้อคือว่า
เป็นระดับชั้นที่มีนักรียนหญิงเข้ามาเรียนได้คือว่าเป็นเป็นการเรียนแบบอิสระ
.โรงเรียนของเรานั้นก้อนับว่าเป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงพอสมควร
..เป็นโรงเรียนประจำจังหวัดชาย
..เป็นโรงเรียนพระราชทาน2ปีซ้อน
..มีเด็กของโรงเรียนสอบเข้าคณะต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยดัง ๆ ได้เยอะพอสมควร
.
        เมื่อตอนเราประมาณชั้นมอสามขึ้นมอสี่อ่ะ
..ตอนปลายเทรอมมอสาม
.เราและเพื่อนสนิทของเราก้อได้ไปเล่นอย่างที่เคยชอบเล่นกันมาตลอด
(อินเตอร์เน็ท)เราก้อไปเล่นกันอย่างเคยของทุกครั้งที่ไป
เบนซ์..เพื่อนของเราเป็นคนที่นิสัยเมื่อก่อนนี้ไม่เคยจิงใจกะใครถึงแม้ว่าคน ๆ นั้นที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเบนซ์ก้อตามจะเป็นคนที่รักมันมากก้อตาม
..แต่มันก้อไม่เคยจริงใจให้กะใครเลย
..มีคนเป็นสิบเลยก้อว่าด้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของมัน
ผ่านมา
แล้วก้อผ่านไป
..ไม่มีอะรัยเกิดขึ้น
ถึงแม้ว่าคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของมันจะเป็นคนที่รักมันแล้วก้อจริงใจกะมันมาก
        จนกระทั่งวันนี้
วันที่มันและเรามาเล่นกันอย่างที่เคยเล่น
เบนซ์.เล่นในวันนี้มันไม่ด้ายคิดอารายคิดอยู่อย่างเดียวว่าวันนี้มันต้องหาคนเอาไว้โทรมาคุยกะมันเล่น ๆ อย่างที่มันเคยทำแล้วเราก้อเห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติของมันไปเสียแล้ว
..ครั้งนั้นเราก้อพอดีเราสอนมันเล่นโปรแกรมแช็ตชนิดใหม่ที่มันก้อค่อนข้างสนุกดีอ่ะ
สอนมันเล่นแล้วอยู่ ๆ มันก้อมีคนเข้ามาคุยกะมันตามประสาคนเล่นแช็ต
.แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นสิ
.โปรแกรมนี้ไม่ด้ายมีคนเข้ามาคุยกันง่าย ๆ มันต้องมีอีเมล์มันถึงจะคุยกันได้แล้วก้อต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนเข้าไปคุยก่อน
.แต่ก้อมีเด็กชายคนหนึ่งอายุก้อปามาณเท่าเรากะเพื่อนเราเลยแหละ
.ได้เข้ามาคุยกะเบนซ์มัน
.แต่เบนซ์มันก้อไม่ด้ายคิดอารายมาก
มันก้อคิดแค่ว่าอยากให้เด็กชายคนนั้นโทรมาคุยตามประสาอย่างที่มันเคยทำ
มันก้อไม่คิดอาราย
เราก้อเล่นไปตามประสาของเรา
.จนกระทั่งเราแยกทางกันกับบ้าน
บ้านใครบ้านมัน
        มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
..เบนซ์เดินมารับโทรศัพท์อย่างเคย
..ประกฏว่าเป็นเด็กชายคนที่เบนซ์คุยกะมันเมื่อกลางวัน
โทรมาเบนซ์ก้อคุยกะเค้าไปตามปกติ
เบนซ์เป็นคนคุยสนุกนะเวลาคุยโทรศัพท์กะใครแล้ว
.แต่บางครั้งมันก้อคุยน่าเบื่อ
คุยไปคุยมา
..เบนซ์เกิดกระตุกใจ
..คิดขึ้นมาว่าคนที่เราคุยด้วย
..มันเหมือนเค้า
.เค้าคนนั้นคนที่มันตามหามาแสนนาน ๆๆ เค้าคนนั้นมีชื่อว่า
.”นินจา” นินจาเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
.ปกติธรรมดา
แต่ที่ไม่ธรรมดานั้นก้อคือเค้าเป็นเด็กที่โตแต่ตัว
.อยากรู้เรื่องโน่นเรื่องนี้ไปตามประสา
หรือเรียกง่ายตามประสาพวกเราก้อคือพวก
อีโนเซนต์
..นั่นแหละเป็นสิ่งที่มันตามหามานาน
..มันคุย
คุยกันมากขึ้น
จนกระทั่งแน่ใจว่าคนนี้แหละที่มันตามหามานาน
.แล้วก้อความเก่งกาจของมันนั้นเอง
..มันสามารถทำให้เด็กผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเด็กที่ปกติธรรมดาที่อยากรู้เรื่องโน่นเรื่องนี้ตามประสาที่เหมือนเด็กอ่อนต่อโลก
.ทำให้มันกายเป็นในสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิด
..และแล้วก้อคุยกันมากขึ้นสนิทกันมากขึ้น
.บางวันคุยกันไม่ยอมนอนหลับยอมนอน
.จนกระทั่งเค้าเป็น แฟนกัน เห็นความเก่งกาจของเพื่อนเราคนนี้หรือ ยังอ่ะว่าร้ายขนาดไหน
..
        โทรศัพท์ของเราหรอ
??
เราว่านะในช่วงนั้นนะมันไม่ช่ายของเรามากกว่า
ทุกชั่วโมงที่เบนซ์มันอยู่กับเรามันจาคุยโทรศัพท์กับนินจาตลอด
.แม้กระทั่งเวลาเรียน
..คุยกันมาก
จนกระทั่งบางครั้งเราก้อเกือบอิจฉามันเหมือนกันอ่ะ
        ปีใหม่ผ่านเข้ามาอีกหนึ่งปีแล้ว
.วันนี้เป็นวันสิ้นปี
บ้านเบนซ์
มันมีการจัดงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่า
มันก้อมีกันเกือบทุกบ้านแหละ
..บ้านเบนซ์มันเป็นบ้านที่มีญาติเยอะ
..ถึงตอนวันปีใหม่นี้ไง
ถือว่าเป็นวันรวมญาติเลยแหละ
..แล้วจะมีอารายอีกเล่านอกจาก
.เวลาประมาณ 3 ทุ่ม
นินจาก้อโทรมาคุยกับเบนซ์เหมือนเช่นเคย
.คุยกันในเรื่อง ที่ ไม่เข้าเรื่องบ้าง เรื่องทีมีสาระบ้าง
เบนซ์มันเป็นคนที่ชอบคุย
.คุยกันไปคุยกันมาผ่านไปแล้ว 2 ชั่วโมงกว่า ๆ ในบ้านเบนซ์ มีการจัดงานสังสรรค์ต่าง ๆ ร้องเพลง คาราโอเกะ เป็นวันพบญาติ แต่เบนซ์ผู้ซึ่ง เป็นคนที่เพิ่งมีรักครั้งแรกกับเค้าก้อยังคงคุยต่อไป
นินจาก้อเปิดเพลงต่าง ๆ ให้เบนซ์ฟัง
ทำเหมือนอยู่ด้วยกันข้าง ๆ ตอนมันรักกันใหม่ ๆ นะ นินจาก้อบอกกับมันว่าชอบเพลง
”อยากรู้ว่า..” ของพลอยนัฐชาอ่ะ เนื้อหาของเพลงก้อคงเคยฟังกันนะ ต่อมาตอนที่
มันเป็นแฟนกันแล้ว
..มันก้อบอกว่าชอบเพลง
”My Love” ของ West Life เห็นป่ะเนื้อหาของเพลงแต่ละเพลงนะน่าอิจฉาขนาดไหนอ่ะคู่นี้อ่ะ
..มันมีหลายเพลงนะที่มันบอกกันว่าชอบอ่ะแล้วแต่ละเนื้อหาของเพลงแต่ละเพลงนะ
..ตรงกับเหตุการณ์และสถานการณ์ต่าง ๆ มาก
        นินจาเป็นคนที่นิสัยเหมือนเด็ก
ไม่ค่อยรู้เรื่องอารายและก้อมีนิสัยที่อยากรู้เรื่องต่าง ๆ เป็นธรรมดา แล้วก้อขี้เล่น เวลามันโกรธหรือไม่เข้าใจอารายกับเบนซ์นะ
.เรา
..เป็นที่ปรึกษาของมันเลยแหละ
นินจามันโทรมาคุยกับเราก้อพอ ๆ กับที่มันคุยกับเบนซ์เลยแหละ
เพราะเราเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมาก
.จนกระทั่งนินจามันก้อรู้นิสัยของเรา
.เพราะมันกะเราก้อคุยกันมาก
.เราก้อคิดว่ามันก้อคงเป็นเพื่อนที่เราคิดว่าคงรู้ใจเพื่อนด้วยกันที่ดีที่สุดในตอนนั้น
รองจากเบนซ์แล้วก้อเพื่อนสนิทของเราคนอื่นอีก
..
        มีอยู่ครั้งหนึ่งนะ
ที่เบนซ์มันเคยคุยกับนินจาว่า
.มันกัวนินจาทิ้งมัน
.เพราะมันก้อหน้าตาไม่ด้ายมีดีอารายมากแต่กับนินจาดิหน้าตาดีมาก
ก้อพอน่ารัก
..มันกัวมากเรื่องนี้
ตลอดเวลามันหวาดระแวงมาตลอด
..นินจาก้อบอกกับมันว่า..”เค้าต่างหากที่ต้องกัวว่าเบนซ์จาทิ้งเค้า
”
แต่เบนซ์และมันก้อบอกกับกันว่า
.”เราไม่มีวันที่จะทิ้งกัน”
..เราฟังเรื่องนี้ทีแรกแล้วเราก้อคิดเหมือนกันว่าเบนซ์มันรักของมันจริงแล้วอีกอย่างมันเป็นรักครั้งแรกของมันด้วยมันคงรักของมันมาก
.
        นินจาคอยโทรมาตลอด
.โทรบ่อยขึ้น
..บ่อยมาก
..จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง
.นินจาก้อเป็นนักกีฬาเบตมินตันด้วยเป็นนักกีฬาตัวประจำจังจังหวัดเลยแหละ
..ก้ออย่างว่าเนอะลูกคนรวยอ่ะ
.กีฬาประเภทนี้ก้อค่อนข้างต้องลงทุนมากในการเล่นของแต่ละครั้ง
..เรียนก้อเรียนโรงเรียนที่ค่าเทรอมแพง
..ดีกรีและก้อความมีชื่อเสียงก้อมีมากในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือ
.โรงเรียนที่นินจาเรียนอยู่ก้อคือ
.”มงฟอร์ตวิทยาลัย”
        นินจามันจามาแข่งขันกีฬาที่จังหวัดใกล้ ๆ กับจังหวัดที่เราอยู่แต่ก้อใกล้ไม่มากด้วย
..เป็นธรรมดากันใช่ป่ะที่คนเราเป็นแฟนกันแล้วก้ออยากเห็นหน้ากัน
นินจาก้อคุยกับเบนซ์แล้วก้อตกลงกันว่าจาไปเจอกัน
เราและเบนซ์ไม่เคยทำเรื่องที่เป็นเหตุการณ์ที่ดูแล้วไม่สมควรเลยที่อยู่ในวัยเรียน
..แต่ทำไงด้ายอ่ะเพื่อเพื่อนที่เรารักทั้งสองคนแล้ว
เราก้อต้องยอมทำ
เรื่องมันก้อมีอยู่ว่านินจามันจามาแข่งขันเบตมินตั้นที่จังหวัดพิจิตร
..มาเป็นตัวแข่งขันในนามจังหวัด
เบนซ์ก้ออยากเห็นหน้าแฟนตัวเองกันอยู่แล้ว
..เราก้อเห็นใจมันนะ
        นินจามันจามาแข่งปามาณวัน พุทธ หรือไงก้อไม่รู้เราก้อจำไม่ค่อยด้ายแล้วด้วย
.เบนซ์ก้อมาคุยกับเราว่าเราต้องโดดเรียนนะ
เพราะว่าโรงเรียนไม่ได้ปิด
.เราคิดอยู่นานเลยนะ
..เพราะว่าเราไม่เคยทำเรื่องที่ค่อนข้างเสียการเรียนอย่างนี้
.แต่ทำไงด้ายละ
เบนซ์ก้อเป็นเพื่อนเรา
..ที่ค่อนข้างสนิทด้วย
นินจาก้อเพื่อนเรา
แล้วก้อเป็นเพื่อนใหม่ที่ค่อนข้างรู้นิสัยเราดีว่าเราชอบหรือไม่ชอบอาราย
เราเป็นคนที่เสียนิสัยอยู่อย่างหนึ่งก้อ คือเราเป็นคนที่แพ้
คนขี้อ้อนแบบเด็ก ๆ แล้วก้อชอบคนที่โตแล้วนิสัยแบบเด็ก ๆ ไม่ใช่ปัญญาอ่อนนะ
.แต่ชอบแล้วอีกอย่าง
.ทั้งไอ้เบนซ์แล้วก้อไอ้นินจามันขอร้อง
.แล้วก้ออ้อนเรา
เราก้อเลยยอมตกลงทำไปสะดื้อ ๆ เลย
.
        วันนี้ก้อวันพุทธแล้วสินะ
เราเตรียมตัวแต่งชุดนักเรียนออกจากบ้าน
..แต่หารู้ไม่ว่า
.ในกระเป๋านักเรียนเรา
ไม่มีหนังสือเลยสักเล่ม
.มีก้อเพียงแต่ว่า
.ชุดเปลี่ยน(ชุดเที่ยว)
..เราไม่ให้พ่อไปส่งในวันนั้น
แต่กลับให้เบนซ์มารับแทน
เราไปเปลี่ยนชุดจากชุดนักเรียนเป็นชุดเล่น
กันที่ปั๊มน้ำมันแถวบ้าน
เรารู้สึกผิดนะที่ทำแบบนี้
..แต่ทำไงด้ายละ
เพื่อน
.เป็นนิยามความดีแล้วสำคัญที่สุดสำหรับเรา
คือว่าเราเป็นพวก Friend Center อ่ะ เรารู้ว่ามันผิดแต่เราทำไปแล้ว
.แล้วเราก้อคิดว่าคงไม่มีครั้งที่สองอีกเป็นเด็ดขาด
.
        จากนั้น
เราไปซื้อตั๋วรถไฟ
ไปจังหวัดพิจิตรเลยแหละ
แล้วก้อขึ้นไปกับเบนซ์
.เบนซ์มันดีใจมากที่มันจาได้เจอกับนินจา
..แต่อีกแง้หนึ่งมันก้อกัวความจริง
.กัวว่านินจาจะหน้าตาดีกว่ามันแล้วก้อทิ้งมันไปถ้าเห็นหน้ามันแล้ว
.นั่งรถไฟกันอยู่ไม่นานก้อถึงจุดหมายปลายทาง
..เราลงแล้วก้อไปรอที่.ๆ พักของนินจามัน
..
        เบนซ์ทั้งดีใจแล้วอีกทางก้อคือกัวความจริง
กัวเค้าจาทิ้งมันเพราะมันรักเค้ามาก
..และแล้วนินจาก้อมาถึง
..แปลกนะมันไม่คุยกับเบนซ์
..แต่กลับมาคุยกับเราแทน
.ก้อแน่ละสิคนเค้าเป็นแฟนกันใครเค้าจาไปกล้าคุย
..นินจามันก้อแปลกใจว่าทำไมเบนซ์ไม่ยอมคุยกับมัน
..เราก้อคุยกับนินจาไปเรื่อยตามประสาเพื่อนเพราะเราก้อค่อนข้างชอบคุยกับมันอยู่แล้วในโทรศัพท์
แต่มาเจอตัวจริงก้อประหม่าเหมือนกันนะ
เพราะนินจามันก้อหน้าตาดีไม่ใช่เล่นเลยแหละ
.เสียอยู่อย่างเดียวนี้สิ
.ปากมันไม่สวย
.ฟันก้อค่อนข้างดูไม่ด้ายอ่ะ
.อิอิอิอิอิ
.แต่ก้อดูดีหมดถ้ามองจากปากขึ้นไป
..
        ถึงเวลาแล้วที่เรากับเบนซ์จะต้องกับบ้าน
เรามีเวลาอยู่กับนินจาไม่ถึงสองชั่วโมง
.เพราะว่าถ้าเราไปไม่ทันรถไฟละก้อ
..เราถึงบ้านเย็น
แค่ขบวนที่เราไปก้อเย็นแล้วถ้าเราตกนะ..ถึงบ้านดึกแน่
.พ่อแม่เบนซ์เอามันตายแน่ ๆ พ่อแม่เราก้อใช่ย่อยนะ
..เบนซ์มันยากคุยกับนินจาใจจะขาดแต่มันก้อไม่กล้า
.เป็นเพราะอารายก้อไม่รู้เนอะ
.น่าแปลกใจ
..เราเตรียมตัวกับ
.นินจาก้อเดินไปส่งเรา
.ที่ทางรอรถขึ้น
.แต่ไม่ไปส่งที่สถานีรถไฟเพราะมันไม่กล้าออกไปเพราะไม่ช่ายบ้านมัน
...ตอนแรกเราก้อโมโหนะ
.ที่เรามาหาถึงขนาดนี้แล้ว
..แต่ไม่ยอมไปส่งเราทั้งที่ใกล้ ๆ แค่นี้เอง
        เบนซ์มันนั่งเงียบ
.ซึม
..เราก้อไม่สงสัยอารายคิดว่าเป็นธรรมดาที่
พอเจอกันแล้วก้อต้องจากกัน
..แต่ไม่ใช่เรื่องนั้นสิ
.เบนซ์มันเคยคุยกันในโทรศัพท์กับนินจาไว้ว่า
ถ้าเจอตัวจริง ๆ กันแล้วมันจาเข้าไปสารภาพรักกันใกล้ ๆ
เอาแล้วละสิ
.ขนาดตอนที่มันคุยกับเราเบนซ์มันยังไม่กล้าคุยกับนินจาเลย
แล้วก้อคุยกันไม่กี่คำด้วย
แล้วตอนนี้
.เวลาก้อใกล้แล้วที่รถไฟจาออก
..เรามาถึงที่สถานีรถไฟกัน
เหลือเวลาที่รถไฟจามาอีกแค่ไม่ถึง 20 นาที
..เบนซ์มันเริ่มทุรนทุราย
ออกอาการเหมือนคนใกล้ตาย
..เริ่มร้องไห้ออกมา
แล้วก้อถามเราหลายรอบมากที่มันจากับไปพูดคำ ๆ นั้นกับนินจา
.เราก้อบอกว่าอย่าไปนะเบนซ์..ถ้าแกไปนะเว้ยตอนนี้อ่ะแกไม่เหลือเวลากับบ้านแน่ ๆ ถ้าแกตกรถไฟละก้อ..พ่อแกแม่แก
เอามึงตายแน่ ๆ
        ทันใดนั้นเราพูดไม่ทันจาขาดคำ
มันวิ่งดิ่งไป
.ตรงไปเข้าหามอตาไซด์รับจ้าง
.แล้วก้อพูดกับคนขับว่า..”พี่ครับ..จากนี้ไปโรงแรมพิจิตรพล่าซ่า
.แล้วก้อกับมานี้ในเวลา ไม่ถึง 15 นาทีจาทันไหมครับ
..”  คนขับรถงงมากแล้วก้อตกใจที่มันวิ่งไปหาเค้าทั้ง ๆ ที่ร้องไห้
เรารู้นะว่าตอนนั้นมันคงงงแล้วก้อสับสนมากกับชีวิต
.ไม่รู้จาเลือกอันไหน
..ถ้าไปก้อต้องตกรถไฟแน่ ๆ พ่อแม่เอามันตายแน่ ๆ แต่ถ้าไม่ไปมันก้อจะผิดคำสัญญากับคนที่มันรักมากที่สุด
รองจากพ่อแม่ของมัน
..
        เราทึ่งมากในตอนนี้ที่มันเลือกทางที่เสี่ยงที่สุด
คือยอมตกรถไฟ
.เราสิเกือบซวยแน่ะ
ทันใดนั้นไม่นานนินจาก้อโทรมาหาเรา
.มันก้อคุยปกติว่าทำไมเบนซ์ไม่ยอมคุยอารายกับมัน
.แต่
หารู้ไม่ว่าตอนนั้นไอ้เบนซ์มันกลับไปหาแล้ว
..เราก้อบอกมันไปว่าเบนซ์กำลังไปนะ
.มันงงแล้วก้อตกใจมากที่เห็นเบนซ์ทำแบบนั้น
แล้วไม่ถึง 3 นาที เบนซ์ก้อไปถึงที่ ที่นินจามาส่งเรากับเบนซ์ขึ้นรถ
.แต่! ไม่เจอนินจา
.เบนซ์มันยิ่งงงแล้วก้อสับสนไปใหญ่
.แค่มาแค่นี้จาตกรถไฟหรือเปล่าก้อไม่รู้
.มันตัดสินใจเข้าไปหาที่หน้าโรงแรม
ยอมทำไปแม้กระทั่งไม่รู้ว่าจะเจอนินจาหรือเปล่า
..แต่
มันเจอนินจาคุยโทรศัพท์อยู่กับเราอยู่
มันวิ่งเข้าไปหานินจาแล้วก้อกระชากคอเสื้อนินจา
..แล้วพูดออกมาว่า..”นินจา
เบนซ์รักนินจานะ!
.” เราก้อถือหูโทรศัพท์อยู่ที่สถานีรถไฟรอรถไฟ
.ได้ยินที่เบนซ์มันพูดกับนินจาเราก้อ
.ซึ่งมาก
ไม่คิดว่ามันจารักของมันมากขนาดนี้
แล้วเบนซ์ก้อรีบนั่งรถรับจ้างกับที่สถานีรถไฟอย่างรวดเร็ว
มันทำได้ไงเนี้ย
.นินจามันคุยโทรศัพท์กับเราอยู่มันก้อบอกเราว่า
.เหอะๆ เอ เบนซ์มันกล้าดีเนอะ
ทันใดนั้น
.เวลาไม่ถึง 3 นาทีที่เบนซ์มันนั่งรถรับจ้าง
.กับมา
มันวิ่งเข้ามาหาเราแล้วถามว่ารถไฟมาหรือยัง เอ  เราก้อบอกว่ายัง
มันวิ่งมาทั้งน้ำตา
..คนทั้งสถานีรถไฟมองมัน
กัน
ทุกสายตามองมาที่เรากับเบนซ์
..เราโคตรอายเลย
.นินจามันไม่กล้าคุยกับเบนซ์แล้วแหละที่นี้อ่ะ
มันก้อฝากบอกเราว่าให้บอกเบนซ์ด้วย
.ว่ามันก้อรักเบนซ์เหมือนกัน
.แต่ทำไงด้ายละ
เรื่องของชาวบ้านเค้านิ
เราก้อบอกไปว่า
..นินจาแกก้อบอกมันเองสิว่ะ
..ไอ้นินจามันก้อบอกว่า
ไม่เอาเอเค้าไม่กล้าอ่ะ
.แล้วทีนี้เราก้อแกล้งถามมันไปว่าจาให้บอกว่าอารายล่ะบอกเรามาสิ
..ทั้ง ๆ ที่เรารู้คำตอบอยู่แล้วว่า
..พอนินจามันกำลังจาบอกเราว่า
.เราก้อเอาหูโทรศัพท์ให้เบนซ์ฟัง
..นินจามันก้อพูดพอดีว่า “ เค้าก้อรักเบนซ์เหมือนกันนะ “
ไอ้เบนซ์เพื่อนเรา
.ปล่อยโฮออกมาทันทีที่ได้ยิน
เราก้อแอบซึ่งเหมือนกันที่มันรักกันมากจนบางทีเราก้ออิจฉาเหมือนกันนะที่มันรักกันดีเหลือเกิน
..ทีนี้มันก้อคุยโทรศัพท์กันต่อจนกระทั่งรถไฟมาแล้วมันก้อขึ้นรถไฟไป
.รถไฟแล่นไปเรื่อย ๆ มันก้อคุยกันไป
.จนกระทั่งสัญญาณโทรศัพท์หายไป
เพราะคลื่นโทรศัพท์ก้อไม่ค่อยดีสักเท่ารายหรอก
.เบนซ์มันก้อหยุดร้องไห้แล้วก้อนั่งรถไฟต่อไป
มันก้อนั่งคิดแล้วก้อคุยกับเราว่า
.เอกูกัวนินจามันทิ้งกูว่ะ
.กูมีรางสังหรณ์ยังไงก้อไม่รู้ว่ะ
..เราก้อบอกไปว่าอย่าไปคิดมากดิ..ถ้ามันจาทิ้งมึงมันก้อคงไม่บอกว่ารักมึงหรอก
.มันก้อนอนหลับ
แต่เราก้อแอบเห็นว่ามันนอนร้องไห้
..ไม่แปลกหรอกที่ผู้ชายอย่างเราและเบนซ์จาเป็นผู้ชายที่ร้องไห้ง่ายมาก
เพราะว่าเราสองคนเป็นโรคหนึ่งที่คนอื่นเค้าไม่เป็นกัน
.คือโรค เซนต์สทีฟ (Sentsative) หมายความว่าเป็นคนที่รับความรู้สึกได้ดีแล้วก้อจารับความรู้สึกได้เร็วมาก
.ถ้าได้รับเรื่องที่กระทบกระเทือนใจแค่นิดเดียวก้อจาคิดมากแล้วบางทีก้อร้องไห้ออกมา
..รับเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่เกินความรู้สึกไม่ค่อยด้าย
..เราเป็นคนที่รักเพื่อนมาก
.และเราก้อถึงบ้านเราตามกำหนดเวลา
.
        แต่เรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นมันก้อเกิดขึ้นมา
จากนั้นนินจาก้อไม่เคยโทรศัพท์มาอีกเลย
.หายไปเลย 1 เดือน เราและเบนซ์พยายามที่จะโทรไป
..ก้อโทรติดนะแต่ไม่มีใครรับโทรศัพท์เลย
ไม่เคยได้ยินเสียงเลยนับจากนั้น
เบนซ์รับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นเลย
เป็นเพราะมันรักของมันมาก
มันบอกว่ามันคิดอยู่แล้วว่าเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้น
.มันร้องไห้ทุกครั้งที้เราพูดถึงเรื่องนี้
..จนกระทั่งวันหนึ่งเป็นวันใกล้ปิดเทรอม
.เราลองโทรไปหามันอีกครั้ง
ครั้งนี้มันรับโทรศัพท์แล้วก้อบอกว่า
มันอยู่ในงานเลี้ยงโรงเรียนอยู่
..แล้วที่มันหายไปไม่ยอมรับโทรศัพท์มันไปแข่งกีฬาที่ภาคใต้
มันลืมเอาโทรศัพท์ไป
.เราก้อโมโหมาก
เลยด่าไปหลายฉากเหมือนกัน
.มันก้อบอกว่าขอโทษ
ไม่ด้ายตั้งใจแล้วตอนนี้มันก้อต้องกลับเข้าไปในงานแล้ว
.แล้วเดี๋ยวมันจะโทรมาหาเบนซ์ใหม่
.
        แต่แล้วเวลาก้อผ่านไป
..ผ่านไปจนกระทั่งเช้า
.ไม่มีแม้แต่สายเดียวที่จะรับ
นับจากวันนั้นถึงวันนี้
..นินจาก็ไม่ติดต่อกับมาเลย
.แม้กระทั่งเบนซ์โทรไปหามันก็ตาม
..มันก็ไม่ยอมรับสายแล้วก็เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ของมันหนีหายเงียบไป
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น