วันที่ 13 กุมภาพันธุ์ 2546
    ไดอารี่รู้ไหมวันพรุ้งนี้จะเป็นวันวาเลนไทน์แล้ว ผมว่าจะให้แหวนหมั่นซันไว้จะดีไหมนะ คือเธอเป็นแฟนผมเองแหละครับ แฟนคนแรก รักแรก และความรู้สึกดีๆกับเพศตรงข้ามครั้งแรกและจะเป็นครั้งสุดท้ายของผม ผมรักเธอมากครับไดอารี่ หลังจากวันนั้นที่ผมปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่าจะไม่สนใจผู้หญิงคนไหนอีก เพราะความคิดของผมในตอนนั้นมันช่างสับสนและมีอคติต่อความรักเหลือเกิน ถ้าไดอารี่จะถามผมว่าทำไมผมถึงมีความรู้สึกไม่ดีต่อความรักนัก มันก็คงเป็นเพราะผู้หญิงคนหนึ่งน่ะครับไดอารี่ คนๆนั้นคือ หญิงผู้ซึ่งให้กำเนิดแก่ผมเองแหละครับ แม่ของผม ไม่ใช่ว่าผมเกลียดแม่นะครับไดอารี่ ผมคิดถึงแม่ตลอดเวลา แต่ผมรู้ครับ ผมรู้ว่าถึงผมจะร้องไห้แทบเป็นแทบตายยังไง มันก็ไม่มีทางทำให้รอยร้าวในครอบครัวของผมกลับมาเชื่อมกันใหม่ได้เหมือนเดิม แม่เดินจากไป จากไปพร้อมกับคำพูดว่า แม่รักผมและยอมตายแทนผมได้ แต่แม่คงเป็นแม่ที่ดีของผมต่อไปไม่ได้ ไดอารี่รู้ไหม ถึงแม้ตอนนั้นผมจะอายุแค่ 12 ขวบ แต่ในความคิดของผม น้ำตาจะต้องไม่มีทางมาจากดวงตาของลูกผู้ชาย ผมไม่ได้ร้องไห้มานานมาแล้ว แต่ผมก็กลับต้องมาอ่อนแอ และหลั่งน้ำใสๆออกมา ผมเห็นพ่อ พ่อที่เป็นผู้นำครอบครัวที่ดี และสามารถแก้ไขปัญหาทุกปัญหาที่ผมนำมาปรึกษาได้ แต่พ่อไม่สามารถแก้ไขปัญหาของพ่อเองได้ และเหตุการณ์ในตอนนั้นเองไดอารี่ ที่ทำให้ผมปฏิญาณไว้กับตัวเองว่า ผมจะไม่มีทางรักผู้หญิงคนไหน เพราะผมไม่อยากอ่อนแอ ไม่อยากที่จะห่วงใยใครสักคน สักคนที่ไม่ใช่พ่อแม่หรือญาติพี่น้องของผมอีกแล้ว
    แต่พอมาถึงตอนผมอยู่ปี 3 กาลเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงมากมายในจิตใจของผมมันก็มาถึงครับ ไดอารี่จะถามผมว่าอะไรที่ทำให้ผมเปลี่ยนไปใช่ไหมครับ นี่แหละครับผมกำลังจะเล่าต่อไป จริงๆแล้วมีผู้หญิงหลายคนเหมือนกันนะครับที่มาชอบผม คงเป็นเพราะผมเป็นนักบาส แล้วแถมยังหล่อด้วยมั้งครับ ไดอารี่อย่าหัวเราะเยาะว่าผมหลงตัวเองนะครับ ผมเป็นคนที่หน้าตาอยู่ในเกณฑ์ดีเชียวแหละครับ ไปไหนมาไหนก็มีแต่สาวมองมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แฟนผมก็เคยมีนะครับ ถึงแม้ผมจะสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะรักใคร แต่แฟนของผมแต่ละคนนั้นใช่คนที่ผมรักซะที่ไหนล่ะครับ ผมก็คบไปงั้นๆแหละ มีมาชอบผมกี่คน ผมก็คบเท่านั้น ผมเป็นคนชอบตามใจคนไงครับไดอารี่ แล้วผมก็รู้ด้วยว่าผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้รักอะไรผมนักหรอก ก็แค่ผมเป็นคนดังในโรงเรียนมาตั้งแต่อยู่มัธยมต้นแล้ว แถมยังหน้าตาดีอีก เป็นแฟนผมนี่ก็คงเทห์ไม่หยอก ไม่รู้ว่าผู้หญิงสมัยนี้คิดอะไรกันเนอะไดอารี่ ในเมื่อพวกหล่อนอยากเป็นแฟนคนดัง ผมก็จัดให้ บางคนถึงกับยอมเสนอตัว เพื่อจะได้ผูกหมัดผมไว้คนเดียว ไม่ให้ไปคบกับใครอีก ดูสิครับไดอารี่พวกหล่อนๆทั้งหลายรู้อยู่เต็มอกอยู่แล้วว่าผมมีผู้หญิงหลายคน แต่ยังมาคบกับผม ถึงขึ้นเสนอตัว ดังนั้นเนี่ยก็คงไม่แปลกเลยไดอารี่ ที่ผมจะมีประสบการณ์มากเหลือเกินในเรื่องผู้หญิง
    แต่พอผมอยู่ ม.6 ซึ่งเป็นเวลาที่นักเรียนทุกคนต้องเค่รงเครียดดูหนังสือหนังหากัน ผมจึงเลิกยุ่งกับผู้หญิงทุกคนในเชิงชู้สาวเป็นเวลา 1 ปี เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยที่ผมอยากเช้าให้ได้ซะก่อน ส่วนเรื่องเล่นๆในชีวิตของผม ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้ามาในชีวิตของผมเรื่อยๆเนี่ย ไว้เข้ามหาลัยได้แล้ว ยังมีเวลาอีกถมเถไป
นี่แหละครับความคิดของผม ตอนผมอยู่มัธยมปลาย ผมไม่ได้คิดเลยครับว่า วันที่ผมต้องผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองจะมาถึง เมื่อผมเป็นเฟรสชี่ก็มีสาวๆมาลุมล้อมผมเหมือนเดิม ปีสองก็แล้วแต่ดูเหมือนว่าผู้หญิงเหล่านี้คงจะไม่สนใจเลย ว่าผมจะมีแฟนหลายคน ไดอารี่รู้ไหมว่าผมต้องทำตารางนัดเดทกับแฟนสาวของผมทั้งหลาย จำนวนผู้หญิงที่ผมเคยคบในเวลาเดียวกันมากที่สุดคือ 4 คนพร้อมๆกัน และแต่ละคนก็จะคบเพียงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น แต่ผู้หญิงเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ผมมีความสุขทางใจได้เลย และแถมยังทำให้ผมรู้สึกสมเพศผู้หญิงเหล่านั้นจริงๆ สิ่งที่ผมทำในตอนนั้นอาจจะดูเหมือนว่าเป็นเพราะแม่ของผม ซึ่งผมก็ไม่เถียงเลยครับไดอารี่ เป็นเพราะแม่ทิ้งพ่อผมไป ทำให้ผมมีอคติกับผู้หญิงทุกคน
แต่พอผมอยู่ปีสามความคิดเหล่านี้ก็เปลี่ยนไปครับไดอารี่ เมื่อผมได้พบกับรุ่นน้องปีหนึ่งคนหนึ่ง เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว ไว้ผมยาวแค่พอดีกับไหล่ ผมดูท่าทางเธอตอนรับน้องแล้ว การพูดการจาของเธอหนักแน่น เป็นนักแก้ปัญหา แถมออกแนวลุยๆ และยังเป็นคนที่ดูเหมือนจะไม่กลัวใครเลยด้วย ผมรู้สึกประทับคนแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหนนะ ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ผมรู้จัก นั้นมักจะเอาทำท่าเอียงอายแบบไร้สาระ รักสวยรักงามจนเกินเหตุ แล้วก็ชอบทำตัวเป็นคนอ่อนแอ เพื่อแค่อยากให้ผู้ชายปกป้อง ผมก็เพิ่งเคยเห็นเด็กคนนี้นี่แหละครับ ผมว่าผู้หญิงลุยๆนี่แหละน่าคบหาไว้เป็นมิตรสักคน ดังนั้นผมจึงไม่รีรอที่จะเข้าไปชวนคุยหรอกครับ การพูดคุยกับผู้หญิงเป็นสิ่งที่ผมถนัดอยู่แล้ว ชื่อของเธอก็ดูเท่ห์เหมาะกับตัวเธอมากเลยล่ะครับไดอารี่ เธอชื่อซันครับ ผมรู้สึกคุยถูกคอกับซันยังไงบอกไม่ถูก ผมจำได้ว่าตั้งแต่ผมเกิดมาจนผมอายุ 21 ปีเนี่ย ผมไม่เคยคุยกับผู้หญิงคนไหน แล้วรู้สึกสบายใจอย่างนี้มาก่อน ช่วงหลังเลิกเรียนผมเห็น ซันมักจะไปให้อาหารนกคนเดียวที่สวนสาธารณะเสมอ ผมอยากรู้ว่าทำไมซันต้องมาให้อาหารนกทุกวันด้วย หรือว่ามารอพบใครหรือเปล่า ดังนั้นผมจึงเข้าไปพูดคุยด้วยทุกวัน เราจึงเริ่มสนิทกันมากขึ้น แล้วก็เหมือนกับว่ากลายเป็นหน้าที่ผมไปแล้วที่ต้องไปให้อาหารนกเป็นเพื่อนซัน ส่วนสาวๆของผมทั้งหลายก็ดูเหมือนว่าผมจะเกิดอาการเบื่อพวกหล่อนขึ้นมากระทันหัน ไม่อยากคบกับใครซักพัก ผมเล่าหลายๆเรื่องให้ซันฟัง ทั้งเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงที่ผมเคยคบมาตั้งแต่มัธยมต้น แต่ที่ผมเล่าให้ซันฟัง ไม่ใช่เพราะผมอยากจะประจานสิ่งที่ไม่ดีที่ตัวเองเคยทำหรอกนะครับไดอารี่ แต่เพราะอยากสอนซันในสิ่งที่ผู้ชายเขาคิดกันมากกว่า ตอนนั้นผมคิดในใจว่า ถ้าได้ซันมาเป็นน้องสาวก็คงดี เธอก็เป็นเด็กผู้หญิงที่คุยสนุก และดูมีความคิดเป็นผู้ใหญ่เสียด้วย
จนมาวันหนึ่งซันก็เล่าเรื่องของตัวเธอเองให้ผมฟังเป็นครั้งแรก ดูเหมือนเธอจะแคร์กับเรื่องนี้มากเลยทีเดียว ซันบอกผมว่าตั้งแต่เธออยู่อนุบาลมา ก็ไม่เคยมีเพื่อนเล่นปกติเท่าไปเหมือนคนอื่นๆเลย ตอนเธอยู่อนุบาล 1 ก็มีแต่เพื่อนๆพากันโป้งเธอ ไม่เล่นกับเธอ นั่นก็เป็นเพราะเธอที่ขี้อาย คุยหาเพื่อนไม่เป็น จนขึ้นชั้นประถมก็มีแค่เพื่อนผู้ชายคนเดียวที่คุยเล่นกัน พอซันอยู่ ป. 4 เพื่อนๆในห้องก็ล้อว่าเธอกับเพื่อนคนนั้นว่าเป็นแฟนกัน ทำให้เขาเลิกคุยกับเธอ ซันรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนรู้สึกไม่ดี และไม่คิดที่จะมีเพื่อนอีก แต่เธอก็อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีใครสักคนไว้คุยเล่น หัวเราะกันแบบเด็กคนอื่นๆที่เขามีเพื่อนกัน พอเธออยู่ ม. 2 เธอจึงเปลี่ยนแปลงตัวเอง พยายามทำให้ตัวเองเลิกขี้อาย เปลี่ยนจากคนที่ทำอะไรไม่ค่อยได้ จนกลายเป็นนักแก้ปัญหา คุยทะเล้นได้ไปทั่ว หลังจากนั้นซันจึงเป็นที่รักของเพื่อนๆได้อย่างคนอื่นๆ แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขขึ้นมากนัก ซันบอกผมว่าทุกวันนี้ยังไงซะ เธอก็เลิกไอ้โรคขี้อาย กับนิสัยพูดเก่งไม่ได้ ไดอารี่เชื่อไหมผมไม่อยากจะเชื่อที่เธอพูดเลยว่าเธอขี้อาย แถมพูดไม่เก่ง ผมเห็นเธอออกจะร่าเริง และกล้าแสดงออกมาก แต่พอผมลองมาลึกเข้าไปในแววตาของเธอแล้ว ผมก็เห็นความเศร้าของซัน ที่เธอต้องพยายามทำตัวเพื่อให้ทุกคนรักเธอ
ไดอารี่ครับ ผมรู้สึกยังไงบอกไม่ถูกครับ หลังจากวันนั้นที่ซันเล่าเรื่องของเธอให้ผมฟัง ผมรู้สึกเป็นห่วงซัน สงสารซัน และอยากเข้าใจซันมากกว่า อยากให้ซันเล่าเรื่องของเธอให้ผมฟังมากกว่านี้ ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ดีเกี่ยวกับตัวเธอก็ตาม เวลาอยู่ในมหาลัย ถ้าผมเห็นเพื่อนซันทีไร ก็ต้องตะโกนถามหาซันทุกครั้ง ถามว่าซันมาอยุ่ไหน มาเรียนไหม ทำอะไรอยู่ทุกครั้ง ผมเริ่มสับสนว่าทำไมผมถึงต้องห่วงเธอมากขนาดนี้ ผมไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มากก่อนเลย
ผมเล่าไม่เข้าใจในตัวเอง ผมอายุ 21 ปีแล้ว ผมรู้สึกโมโหตัวเอง ทั้งที่เกิดมาตั้ง 21 ปีแล้ว กลับยังรู้จักตัวเองไม่พอ ทำไมผมถึงอยากเจอซันทุกวัน อยากได้ยินเสียง ทั้งๆที่ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้กับใครมาก่อน พอขึ้นปีสี่ ผมก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองจะชอบซัน ที่ภายนอกดูจะเป็นคนที่เข้มแข็ง แต่จริงๆแล้วเธออ่อนแอ เธอเป็นคนที่ละเอียดอ่อน น่ารักน่าถะนุถนอม ไม่เหมือนผู้หญิงอื่นที่ผมเคยเจอ จนเมื่อเดือนก่อนนี้เองไดอารี่ที่ผมเริ่มคลายอคติของตัวเองที่มีต่อผู้หญิงออกจากร่องของสมอง และเริ่มจีบผู้หญิงที่เป็นรักแรกของผม เป็นเวลากว่า 4 เดือนกว่า กว่าที่ผมจะจีบซันได้ และผมก็ได้ให้คำมั่นสัญญากับเธอไว้ว่า ผมจะรักซันตลอดไป
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น