นิราศBTSภาค2 - นิราศBTSภาค2 นิยาย นิราศBTSภาค2 : Dek-D.com - Writer

    นิราศBTSภาค2

    เรื่องนี้แต่งขึ้นหลังจากที่ผมได้อ่านนิราศBTSของพี่พระแสงดาบคาบค่ายนะครับ คนเราไม่ควรฟังความฝ่ายเดียวนะครับ ฟังของฝ่ายชายแล้ว มาฟังของฝ่ายหญิงบ้างนะครับ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,194

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    1.19K

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  กลอน
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 พ.ย. 47 / 16:34 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ......................................
      นิราศ  นี้มีทุกข์  ไร้สุขศรี
      ต้องพลัดพราก  จากรัก  ไร้ปรานี
      ให้BTS  สายนี้  ชี้ชะตา

          พึ่งรู้ว่า  การพลัดพราก  ลำบากจิต
      เมื่อชีวิต  ไร้รัก  ช่างหนักหนา
      ได้แต่นึก  คิดถึงเขา  เคล้าน้ำตา
      โอ้ธารณา  ใยเล่า  เจ้าหวนคืน

          ถึงหมอชิต  ก็นึกคิด  อยากชิดใกล้
      แต่เหตุใด  ใจของเรา  เฝ้าขัดขืน
      อยากเอ่ยปาก ฝากรักคำ  กลับกล้ำกลืน
      ใยเล่าใจ  เจ้าจึงฝืน  กลืนรักมา

          สะพานควาย   เขาว่าควาย  ไร้สมอง
      แต่ตริตรอง  ลองคิด  พินิจหา
      พึ่งค้นพบ  สบคำตอบ  ชอบปัญญา
      อนิจจา  ว่าเราโง่  โง่กว่าใคร

          ถึงอารีย์  เมื่อไร้รัก  ประจักษ์แจ้ง
      ยามรักแล้ง  อารีย์  มีบ้างไหม
      ขอสถานี  อารีย์  นี้เตือนใจ
      ว่าคราใด  ไร้รัก  มักอาดูร

          สนามเป้า  เขาจะเอา  เราเป็นเป้า
      คิดแล้วเศร้า  รักเคยมี   นี้สาบสูญ
      ทั้งความชัง  ทั้งความเกลียด  กลับเพิ่มพูน
      ทั้งเกื้อกูล  ที่เคยมี  หนีหายไป

          อนุสา  -วรีย์ชัยฯ  เมื่อชายรัก
      เขาก็มัก  จักชื่นชม  สมสมัย
      แต่ยามที่  เขาเกลียดเรา  เข้าคราใด
      กลับแช่งไว้  สมรร้าย  ไม่ตายดี

          พญาไท  อยากเป็นไท  ใจจะขาด
      เพราะดารดาษ  คนสนิท  ล้วนอิตถี
      อีกมากมาย  หลายใจ  ในเทวี
      กลับมาชี้  ว่าเราเห็น  อยากเป็นไท

          ราชเทวี  เขาว่ามี จึงมีทุกข์
      เขาว่าสุข  หากเขาผัน  จากฉันได้
      น่าจะทุกข์  เพราะสับทาง  รางรถไฟ
      ด้วยทุกข์ใจ  ที่ว่าสับ  รับไม่ทัน

          เสียงคนขับ  จับไมค์  แล้วใส่เสียง
      เปล่งสำเนียง  ประกาศมา  อย่างน่าขัน
      สถานีส  -ยามเปลี่ยน  เวียนรถกัน
      มัวแต่นึก  ถึงคืนวัน  อันผ่านมา

          ที่เราเคย  เชยชมหนัง  ฟังเพลงซึ้ง
      คิดคำนึง  ถึงเขา  เฝ้าเพ้อหา
      ที่อ่านเขียน  เรียนติวเพิ่ม  เสริมวิชา
      ล้วนหนักหนา  ด้วยความสุข   น้อยทุกข์ใจ

          จึงหมุนเวียน  เปลี่ยนสาย  ไม่รู้สึก
      เมื่อรำลึก  สติจับ  กลับมาได้
      สถานีชิด   -ลมก็รู้  อยู่ไม่ไกล
      จึงอาดุร  ดวงฤทัย  ไม่อยากจำ

          ธารณา  ย้อนมาฟื้น  คืนสมอง
      ก็เหม่อมอง  ประจวบมา อย่างน่าขำ
      มาแตร์นี้  ที่ผ่านเรียน  อ่านเขียนคำ
      ได้ชอกช้ำ  ด้วยเพื่อนเรา  เขาจีบไป

          ถึงเพลินจิต  คิดแล้วเศร้า  เพราะเรารัก
      เมื่ออกหัก  จักต้องเศร้า  จึงสงสัย
      หากไม่พบ  รักเธอบ้าง  อย่างเพลินใจ
      มีบ้างไหม  ที่ต้องเศร้า  เคล้าน้ำตา

          ถึงนานา  อนิจจา  โอ้ว่ารัก
      พึ่งประจักษ์  รักที่ให้  ว่าไร้ค่า
      จึงได้รับ  กับความเกลียด  กลับคืนมา
      ต้องนั่งเศร้า  ก้มหน้า  น้ำตาคลอ

          วิปโยค  โศกตรม  ระทมจิต
      ฟ้าลิขิต  ขีดเส้นไว้  ไฉนหนอ
      สถานี  อโศกมา  หารั้งรอ
      กลับเพิ่มก่อ  ความโศกเศร้า  เคล้าระทม

          ถึงพร้อมพงษ์  ก็พร้อม  จะยอมรับ
      น้ำตาขับ  กับรักนี้  ที่ขื่นขม
      ใจดวงนี้  มีรอยกรีด  ด้วยมีดคม
      ออกจากลม  ปากเธอนั้น  วันขอลา

          ถึงทองหล่อ  พ่อก็รวย  ช่วยไม่ได้
      ต้องตัดใจ  ให้ขาดสิ้น  สิเน่หา
      ตัดให้สิ้น  สูญคำ  จำนรรจา
      ไม่ห่วงหา  อาวรณ์  เพื่อสอนตน

          เอกมัย  ใจเธอ  ไม่เป็นหนึ่ง
      มันทะลึ่ง  แจกจ่าย  ให้คนสน
      ทำเอาเจ็บ  แสบใน  หัวใจคน
      จึงต้องฝึก  ต้องฝน  เตือนตนเอา

          พระโขนง  นึกถึงคำ  พระธรรมนี้
      เมื่อรักมี  ย่อมไร้สุข  มีทุกข์เศร้า
      เมื่อคิดได้  ใช้ธรรมะ  มาบรรเทา
      ความทุกข์เรา  ที่เศร้าสลด  ให้หมดไป

          ถึงอ่อนนุช  สุดสาย  ปลายสถาน
      ใจที่มาร  ผจญสิ้น  สิ้นสงสัย
      ต่อแต่นี้  จะไม่เศร้า  เคล้าทุกข์ใจ
      ปลายฤทัย  ไร้ขื่นขม  สมอุรา

          ตั้งตัวใหม่ หาคนใหม่ ใจแน่วแน่
      ใจชายแท้ แน่ด้วยความ งามสง่า
      รูปโฉมกาย ภายนอก มักหลอกตา    
      จิตใจคน สูงค่า ยิ่งกว่าเอย...

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×