ใกล้แล้ว ใกล้ถึงเวลาแล้ว ถึงจะบอกว่าไม่เป็นไรก็เถอะแต่มือมันเย็นขนาดติดลบได้แล้วมั้งเนี่ย โธ่เอ๊ย!!!!! \"ไปห้องน้ำดีกว่า\" เสียงกระซิบเตือนตัวเองว่ายังมีชีวิตอยู่ ของ เซย่า ว่าที่บัณฑิตถึงแม้ว่ายังไม่ได้รับปริญญาก็เถอะอุตสาห์เร่งเรียนจบในเวลา 3 ปีครึ่ง  เพื่อโอกาสนี้เท่านั้น !  เซย่าได้ชื่อว่าเป็นสาวแก่นที่ค่อนข้างมีว่ามั่นใจในตัวเองสูงกว่าคนปกติทั่วไป เป็นเด็กใต้ โดยกำเนิด เพิ่มดีกรีซักหน่อย มีเชื้อสายจีนหน่อยๆ เดี๋ยวจะหาว่าเป็น \"เด็กบ้าน บ้าน\" เหมือนพวกชาวกรุงเข้าชอบว่านัก เรียนดี ในมหาวิยาลัยกับ มัธยมแต่ทั้งหมดเนี่ยมีงข้อเสียอยู่หน่อยเดี่ยว \" กลัวฝรั่งมากถึงมากที่สุด\"  ภาษาอังกฤษเหรอไม่ต้องพูดถึง \"ห่วยที่สุด\" จนไม่อยากเชื่อว่าจบมาได้ไงเนี่ย
   
    \"ผู้โดยสารที่มีความประสงค์ที่จะเดินทางไป Melbourneสารการบินที่ TG 203 เวลา 24 นาฬิกา ขอให้มารายงานตัวที่ช่องทางเข้าหมายเลข 47 ได้แล้วค่ะ\" เสียงประชาสัมพันธ์ของสายการบินเรียกผู้โดยสารให้เข้าไปรายงานตัว
      ผู้โดยสารที่จะขึ้นสายการบินนี้เรื่อยทยอยเดินทางไปยังทางเข้า แต่เซย่ากลับรู้สึกว่ามีลูกตุ้มเหล็กหนักซะ 1000 ปอนด์ มาถ่วงไว้ที่ขาทั้งสองข้าง ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไม่ทำงาน เหงื่อที่ผุดบริเวณใบหน้ามีทีถ้าว่าจะมีจำนวนมากขึ้นทุกที แต่ความรู้สึกทั้งปวงกลับต้องมลายหายไปเมื่อรู้สึกถึงแรงกระแทกเข้าที่หัวไหล่อย่างจัง จนเกือบจะคมำไปข้างหน้า นิสัยเดิมกลับมาอีกครั้งปากไวกว่าการกระทำตามเคย
      คำพูดหลุดออกจากปากก่อนที่จะหันไปมองคู่กรณีด้วยซ้ำ \"นี่คุณ!! เดินไม่ดูตาม้าตาเรือหรือยังไงคุณจะแกล้งกันหรือยังไง\"
      ชะงักเป็นอาการเดี่ยวสามารถจะบรรยายอาการของสาวน้อยที่หน้าแดงเพราะความโกรธแต่กลับเปลี่ยนเป็นซีดคล้ายจะเป็นลงได้ภายในพริบตา  \"ฝรั่งตัวใหญ่ ใส่แว่นตาดำมีผู้ใหญ่ห้อมล้อมทั้งหน้าทั้งหลัง ตายแน่ๆ ยังไม่ทันไรก็เจอดีเข้าจนได้ ซ่วยจริงๆยัยเซย่าเอ๋ย\" ทันทีที่ความรู้สึกกลับมาในวินาทีแรกตัวของสาวสูงเพรียวที่เรียกได้ว่า\"นักกีฬา\" ลมที่เกิดจากการหันหน้ากลับอย่างรวดเร็วพร้อมกับเท้าที่ก้าวออกไปอย่างไม่คิดชีวิตสร้างความขำขันให้กับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งโดยไปรู้ตัว
      \"คนอะไรมารยาทแย่จังนะคะ ซาฟิน เป็นอะไรรึเปล่าค่ะเนี่ย\" เสียงสำเนียงภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่ว หวานอย่างประจบเอาใจ ดังขึ้นหลังจากที่เซย่าห่างออกไประยะหนึ่ง \"ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่อุบัติเหตุ ผมไม่เป็นไร\" เสียงทุ่มต่ำเกินใจสาว ตอบสนองคู่เดิน แต่ภายใต้แว่นตาดำกำลังมองตามผู้หญิงที่เป็นคู่กรณีอย่างขำขัน มุมปากระบายยิ้มเก๋ออกมาอย่างไม่รู้ตัว คนอะไรตลกจริงๆ ด่าเสร็จก็วิ่งหนี  ที่ถูกใจหนุ่มฝรั่งลูกครึ่งก็เห็นจะเป็นทท่าทางที่แสดงให้เห็นได้ชัดว่ากลัวฝรั่ง หน้าที่แดงอยู่จู่ๆก็เปลี่ยนเป็นมาขาวซีดเหมือนโดนรีดเลือดออกจากหน้า  นึกแล้วก็ได้แต่ขำกับท่าทางแปลกนั้น สิ่งที่ทำให้หนุ่มลูกครึ่งสนใจไม่ใช่ท่าทีตกใจฝรั่งของคู่กรณี แต่เป็นความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นตั้งแต่เกิดมาที่มีผู้หญิงทำท่า ตกใจที่เห็น ไม่ใช่เป็นอาการมองตาค้างอย่างชื่นชมในรูปร่างหน้าตาอย่างที่ผ่านๆ มา
      เมลาเนี่ยน ซาฟิน ได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มเพลย์บอยที่โด่งดังในแวดวงไฮโซ ชื่อเสียงด้านรูปร่างหน้าตาตลอดจนฐานะและอาชีพ ทำให้สาวๆต่างๆที่ชื่นชอบในความหรู่หร่าและความร่ำรวยได้ให้ความสนใจเป็นลำดับต้นๆ และด้วยความที่เป็นนักธุรกิจที่มีอนนาคตไกล มีความสามารถ สามารถพัฒนาฐานะและกิจการของตนเองได้ในระยะเวลาอันสั้น ทำให้เป็นที่ยอมรับของคนในสังคมนักธุรกิจ แต่ด้วยความที่มีนิสัยชอบควงผู้หญิงไม่เลือกหน้า เปลี่ยนผู้หญิงบ่อยว่าเป็นเสื้อผ้าโดยไม่ยอมที่จะยึดติดกับใครเป็นพิเศษแม้แต่คนเดียว อย่างมากก็แค่ควงด้วย พาไปออกงานสังคม ไม่เกิน 7 วัน ก็เบื่อจนต้องบอกเลิก ถ้าจะนับผู้หญิงที่คบมานั้นถึงว่าเป็นสิ่งที่ยากที่สุด จนแม้แต่เจ้าตัวเองก็ยังจำไม่ได้
      การเดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้ถึงว่าเป็นการพักผ่อนและทำธุรกิจบางอย่าง สำหรับซาฟินแล้วผู้หญิงกับเมืองไทยเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทะเลกับหาดทรายและ แน่นอนสาวๆ  แล้วคณะของหนุ่มลูกครึ่งก็ได้ถูกนำขนวบโดยสาวๆตามเลยจนไปถึงประตูทางเข้าเพื่อขึ้นสนามบิน \"พวกคุณส่งผมแค่นี้ก็พอ ผมไปล่ะขอบใจมาก แล้วอย่าลืมคิดถึงผมนะครับ \" เสียงทุ่มบอกลาสาวๆของตนอย่างเสียดาย
      \"กลับมาเมืองไทยเมื่อไหรก็บอกได้นะคะ ลินดากับเพื่อนๆจะพาไปเที่ยวจนลืมเหนื่อยแต่กลับได้ขึ้นสรววค์ชั้นฟ้าเลยล่ะ\" สาวหนึ่งในกลุ่มพูดออกมาอย่างมีลับลมคมใจเพื่อแสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดของตน และประสบการณ์ที่เคยผ่านมาด้วยกัน
      \"ผมจำได้ไม่มีลืมว่าท่าทางของพวกคุณ ดุเด็ดเผ็ดร้อนขนาดไหน ผมว่าผมไปขึ้นเครื่องก่อนดีกว่าก่อนที่ผมจะไม่ยอมไป แต่กลับไปโรงแรมกับพวกคุณ\" เสียงหัวเราะอย่างถูกใจของสาวๆ ดังก้องหลังสิ้นประโยค ทำให้คนที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำเป็นห้องที่สิบ หันไปมองตามเสียงสิ่งที่เซย่าได้เห็นเป็นภาพของผู้ชายร่างสูงใหญ่ สวมแว่นตาดำกำลังยิ้มแย้มกับพวกสาวๆก่อนที่จะจูบทีละคนทีละคนจนครบ แล้วเดินออกจากกลุ่มไป ภาพเหล่านั้นกลับสร้างความลำบากใจให้กับสาวไทยอย่างมาก
      ซวยจริงๆต้องไปขึ้นเครื่องบินลำเดียวกับตาเพลย์บอยนั่นเหรอเนี่ย ไม่อยากเลย โธ่ เสียงลมที่ถูกผ่อนออกมาจากกำบังลมดังขึ้นหลังคิดได้ แล้วขาก็จำใจที่จะต้องเดินตามหลังตาเพลย์บอยเข้าไป โดยที่รักษาระยะห่างไว้เพื่อไม่ให้คู่กรณีจำได้ว่าไปแสดงท่าทางตลกๆเอาไว้ให้เห็น และทีสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เค้าหันมาทัก คุย หรือมีปฏิสัมพันธ์ใดๆด้วยทั้งนั้น ไม่ใช่แค่คนที่ถูกขนานว่าว่าหนุ่มเพลย์บอยเท่ามั้นที่ถูกสาวเซย่าตั้งระยะห่าง แต่เป็นคนต่างชาติทั้งหมดเลยก็ว่าได้
        การเดินทางบนเครื่องบินสร้างความสบายใจให้กับเซย่าได้อย่างมากเพราะ สายการบินนี้มีบริกรทั้งหมดเป็นคนไทย รวมไปถึงกัปตันของเครื่องบินลำนี้ด้วย ระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปถึงเมือง Melborne ประเทศ ออสเตรเลีย ใช้เวลาตลอดการเดินทางทั้งหมด 9 ชั่วโมง
      การเดินทางคนเดียวครั้งแรกของเซย่าถึงได้ว่าเป็นการเดินทางที่มีจุดเริ่มต้นที่ดี ถ้าไม่นับตอนที่อยู่ที่สนามบิน \"ตอนเดินขึ้นเครื่องเห็นนายเพลย์บอยคนนั่นนั่งชั้น First Class ท่าทางจะรวย ดูการแต่งตัวแล้วก็พอจะเดาได้ว่าน่าจะเป็นนักธุรกิจ ก็สวมเสื้อสูทหรู ดูดี มียี่ห้อซะขนาดนั้นคงจะรวยน่าดู\" ความคิดทั้งหมดก็ต้องถูกหยุดโดยคำประกาศว่าเครื่องบินกำลังจะลดความเร็วเพื่อลงจอดที่สนามบิน  เมื่อออกจากสนามบินเซย่าก็หาทางที่จะไปรับกระเป๋า โดยมีไกด์นำทางตามคำแนะนำของเพื่อนๆก่อนที่จะมา
      \"ยัยเซย่า ถึงแล้วก็เดินไปรับกระเป๋าที่รอโหลดออกมาจากเครื่องแล้วแกก็ออกไปหาญาติแกที่เค้าจะมารับแกข้างนอกนั้นแหละ ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นแกเดินตามคนอื่นๆเค้าไป เค้าเดินไปทางไหนแกก็เดินไปทางนั้นแหละ ถ้ากลัวทองที่อยู่ในปากแกจะหลุดออกมาก็ต้องใช้วิธีนี้เท่านั้นแหละ ภาษอังกฤษแกก็พอพูดได้ฉันรู้ เรียนจบมหาลัยมาแล้วถ้าพูดไม่ได้เลยก็บ้าแล้ว ยัยเซย่าเอ๋ย แกนะพูดได้ แต่แกกลัวคนที่จะพูดด้วยมากกว่า \" เสียงของเพื่อนรัก สาวนักธุรกิจ อรดีดังก้องอยู่ในหัวหลังจากที่หาจุดรอรับกระเป๋าเจอ
     
      กระเป๋าต่างๆของผู้โดยสารกำลังถูกโหลดออกมาช้าๆ เซย่ามองหากระเป๋าของตนเองอย่างตั้งใจ \"นั้นไงกระเป๋าเรา กระเป๋าเดินทางที่แพงที่สุดในชีวิตเรา นี่ถ้าคุณพ่อไม่ซื้อให้เป็นของขวัญก่อนที่จะมาเรียนที่นี่ ชาตินี้ยังไงเราก็คงไม่มีหวังที่จะซื้อ ไม่ใช่ว่ามันแพงอย่างเดียวแต่เก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นได้ตั้งเยอะแยะ\" กำลังสรรพคุณของกระเป๋าอยู่แต่สายตาของสาวไทยกำลังเพ่งเล็งประเป๋า สวยหรูใบหนึ่งอยู่ มันเป็นกรเป๋าสีดำวาว เพราะทำจากหนังอย่างดี เห็นแล้วประมาณราคาได้เลยว่าตั้งแพงแน่นอน แต่เดี๋ยวสายตาที่สดใสของสาวไทยได้เปลี่ยนเป็นสายตาแห่งความสงสัย เพราะกระเป๋ามีเหมือนกัน 2 ใบ แถมยังตั้งติดกัน
      ในขณะที่มือกำลังสัมผัสหูกระเป๋าเตรียมที่จะยกขึ้นด้วยแรงที่มี กลับต้องถูกแรงกระชากไปอีกทางจากมือที่จับอยู่ที่กระป๋าใบเดียวกันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ จนทำให้เซเกือบล้มแต่ยังดีว่ามีกำแพงอยู่ข้างหลัง เอ๋ กำแพงเหรอ แถวนี้จะมีกำแพงได้ไง แต่ความรู้สึกอบอุ่นที่มาจากกำแพงนิ่มนั้น ทำให้รู้ว่าไม่ใช่กำแพง แน่นอน
      \"นี่คุณ นั่นมันกระเป๋าผม\" เสียงทุ่มดังมาจากข้างหลัง เจ้าของแผ่งหลังกว้างที่ติดกับหลังของหญิงไทยสร้างความประหลาดใจให้กับเซย่าไม่น้อย  มันเป็นความรู้สึกที่ไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่ทั้งแต่เกิดมาเซย่ายังไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย
      แรงกระชากของมือที่ใหญ่ว่าทำให้ความคิดต้องสะดุดลง \"นี่มันกระป๋าของฉัน\" พร้อมกันกับหน้าที่หันไปจะเอาเรื่องเจ้าของเสียง
      \"ใครว่ากระเป๋าคุณ นี่กระเป๋าของผมต่างหาก ดูนี่สิ เห็นไหมว่ามันติดเลขที่นั่งชั้น First Class ซึ่งมันป็นที่นั่งของผม\"
        เซย่าผ่อนแรง ทำให้กระเป๋าใบเก๋ไปอยู่ในมือของเจ้าของเสียงทุ่มอย่างง่ายดาย \"แต่ว่า\" เสียงที่กำลังจะเถียงก็ต้องถูกกลืนหายลงลำคอไปเพราะว่านี่มันกระเป๋าติดที่นั่งชั้น First Class จริงๆ ซึ่งนั้นมันหมายถึงว่า ไม่มีทางที่จะเป็นกระเป๋าของหล่อนได้เลย  หน้าที่แดงขึ้นเพราะว่าอายจากอาการเปิ่นๆของตัวเองตั้งแต่ก้าวแรกที่ลงมาเหยียบต่างประเทศ บั่นทอนกำลังใจของเซย่าไปเกือบหมดจนคิดอะไรไม่ออกได้แต่ยืนนิ่ง
      \"นี่คงเป็นกระเป๋าของคุณ ใช่รึเปล่า\" เจ้าของเสียงทุ่ม ไปบริการจัดแจงหยิบกระเป๋าอีกใบที่อยู่ติดกับใบของเขาลงมาวางไว้ที่พื้น ตั้งแต่เมื่อไหรแล้วก็ไม่รู้ \"ใช่ค่ะ นี่กระเป๋าของฉันเอง\" หลังจากที่ก้มลงไปตรวจสอบหลักฐานที่ทางสนามบินติดไว้เมื่อตอนไปเช็คอิน ปรากฎว่าเป็นของเธอแล้ว
        \"ขอบคุณมากค่ะ ที่ช่วยหยิบกระเป๋าให้\" ภาษาอังกฤษแบบกระท่อนกระแท่นถูกเอ่ยออกมาหลังจากที่ยืนคิดอยู่ 2 วิ นาที \"ไม่เป็นไรครับ มันผิดพลาดกันได้ แต่คุณช่วยหลีกทางให้ผมหน่อยสิ ผมจะรีบไป\" จากการที่เขาเข้ามาช่วยหยิบกระเป๋าให้เธอทำให้ตัวเขาเข้ามาอยู้ดานในตั้งแตเมื่อไหรไม่รู้ แต่ที่สำคัญตัวเธอบังทางออกที่มีเหลืออยู่น้อยนิดท่ามกลางกองสัมภาระแต่ต่างๆของผู้โดยสารท่านอื่น
        \"ขอบโทษค่ะ\" พร้อมกับเบี่ยงตัวให้เค้าผ่านไปได้ \"นี่ท่าจะไม่เคยขึ้นเครื่องบินสิเนี่ยเลยไม่รู้ว่าจะต้องเช็คกระเป๋าก่อนที่จะต้องรีบตะคลุบนะ\"
        หน๋อย อีตาบ้าเป็นใครถึงได้มาว่าฉันได้ เซย่านึกด่าในใจพร้อมกับเดินออกไปอย่างเร่งรีบ
        \"อุ๊บ!!! อะไรกันเนี่ยเดินระวังหน่อยสิคุณ\" 
          \"ขอโทษทีค่ะ แบบว่าไม่เคยขึ้นเครื่องมานี่ เลยไม่รู้ว่าสนามบินที่นี่มันแคบ\" พูดจบหล่อยก็เดินลิ่วๆไปยังประตูทางออก แน่นอนเดินตามคนอื่นๆไป
         
          หลังจากหล่อนเดินออกไปสู่ทางรอรับผุ้โดยสารของสนามบิน  ความรู้สึกประสาทอ่อนๆก็เริ่มกลับมาอีกครั้งเธอนัดกับป้าซึ่งมาเปิดร้านอาหารไทยที่นี่ให้มารับที่นี่ แม้ว่าจะนัดเวลากันอยากดิบดีแล้ว เซย่าก็ยังรู้สึกกังวลไม่ได้ว่า ป้าของเธอจะลืม แต่ถ้าป้าของเธอลืมหรือไม่ว่างมารับจริงๆเธอก็จะนั่งแท็กซี่ไปหาป้าที่ร้านอาหารไทย ซึ่งป้าได้ให้ที่อยู่ไว้แล้ว  แต่มันติดอยู่นิดเดียวตรงที่ว่า จะบอกว่าไปร้านนี่ได้ยังไง วิธีการเดียวที่ยังถือได้ว่าอาจเป็นทางรอดทางเดียวถ้าตองไปร้านป้าคนเดียวจริงๆ ก็คือต้องให้วิธีที่ยัยอรดีแนะนำมานั้นเอง \"จะไปยากอะไร แกก็แค่ยื่นที่อยู่ให้เค้าอ่าน เดี๋ยวเค้าก็พาแกไปที่ป้าคุณป้าเองนั่นแหละ\" เสียงยัยอรดีชอบเข้ามาอยู่ในโสตประสาทของเธอเสมอในเวลาที่เธอต้องการความช่วยเหลือ ยังไงก็ต้องขอบใจประสบการณ์การเดินทางไปต่างประเทศบ่อยของอรดีล่ะคราวนี้
      เมื่อออกมาจากประตูทางออกผู้โดยสารได้ซักพัก สิ่งที่ทำให้เซย่าต้องสะดุ้ง เสียง  เสียงดังมากๆที่แฝงมาด้วยความเลี่ยนที่สุด
      \"ดาร์ลิ้งขา เหนื่อยไหมคะ คิดถึงที่สุดเลย\"  เจ้าหล่อนไม่พูดเปล่าแต่มือไม้ก็ลูบไล้ไปตามร่างกายกำยำนั้นด้วย เห็นแล้วน่ากลัวจัง ผู้หญิงคนนี้ไม่อายบ้างเลยรึไงนะ รู้สึกว่าความว่าอายเจ้าหล่อนคงจะสะกดไม่เป็นมากกว่า แล้ว เซย่าต้องตาค้างเมื่อ เค้า จูบ จูบกันสดๆ ความร้อนวูบวาบเกิดอย่างรวดเร็ว รู้สึกเหมือนเลือดสูบฉีดขึ้นมาเลี้ยงแต่ที่หน้าเท่านั้นเพราะว่านอกจากหน้าแล้วส่วนอิ่นๆของร่างกายชาสนิท 
      หญิงสาวอย่างเซย่า ถึงว่าหน้าตาน่ารัก แต่กับประสบการณ์อย่างนี้เป็นสิ่งที่หล่อนไม่ชินเสียเลย เพราะว่า หล่อนไม่เคยมีแฟน!! ไม่ใช่ว่าหล่อนไม่มีผู้ชายมาสนใจ แต่หล่อนเลือกที่จะไม่มีพันธะมากกว่า ดังนั้นการได้เห็นหนังสดกลางสนามดินจึงไม่แปลกเลยที่หล่อนจะยืนตะลึงกับสิ่งนั้น 
      โอ้โห ไม่ใช่จูบแบบเพื่อนแล้วนั้นนะ จูบซะดูดดื่มขนาดนั้น แล้วดูสิ มือ อะ มือลูบกันแบบว่าไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวใครมาก่อนอย่างนั้นนะ
      \" เซย่าจ๊ะ ทางนี้จ๊ะ \" น่าแปลกเสียงภาษาไทยที่เคยได้ยินมาตั้งแต่เกิดกลับกลายเป็นเสียงสวรรค์ในตอนนี้ สายตาเซย่าชะงักจากหนังสดหันไปถามต้นเสียง แล้วหล่อยก็ได้เห็นหญิงสาว หน้าตาละหม้ายคล้ายกับมารดาก็ทำให้หล่อน เผยยิ้มกว้างออกมาอย่างอัตโนมัติ ป้าของเธอ มีดวงตาที่เผยให้เห็นความเป็นมิตร ความจริงใจ และอ่อนโยนอยู่เสมอ
      \"เดินทางเหนื่อยรึเปล่าจ๊ะ เป็นไงบ้างทุกอย่างเรียบร้อยดีรึเปล่า\"
      \"สวัสดีคะ ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่ต้องเป็นห่วงนะค่ะ คุณป้าสบายดีรึเปล่าคะ \"
      \"ก็เรื่อยๆตามภาษาคนแก่นั้นแหละ\" หล่อนตอบพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน
      \"ใครบอกว่า ป้าเซย่าแก่ คุณป้าของเซย่าทั้งสาวทั้งสวยอยู่ขนาดนี้ ใครเห็นก็หลงรักคุณป้าของเซย่าทั้งนั้นแหละคะ\" รอยยิ้มที่ปรากฏทั้งที่ตา มุมปากเป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของเด็กสาวคนนี้ รอยยิ้มที่เผยออกมาจากใจ เป็นรอยยิ้มที่บริสุทธ์
        \"จ้า จ้า ของใจจ๊ะ ปากหวานจริงๆ หลานคนนี้ กลับบ้านกันเถอะจ๊ะ หลานคงหิวแล้วใช่ไหม\"
        \"คะ หิวมากม้าก คิดถึงอาหารฝีมือคุณป้าที่สุด\" หลานสาวสุดโปรด กอดป้าพลางเข็นกระเป๋าเข็นรถไปทางลานจอดรถโดยมีคุณป้าที่รักเป็นผุ้นำทาง
        บ้านของคุณป้าเป็นบ้านชั้นเดียว มีบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน ซึ่งถูกปลูกต้นไม้ประเภทไม้ดอกไม้ประจัดไว้ อย่างสวยงาม คุณป้าของเธอเป็นผู้ที่มีความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์ สวนดอกไม้ที่มีการจัดต้นไม้ประเภทไม้ประดับไว้เป็นวงกลมใหญ่กลางสวน ตรงกลางปลูกไว้ด้วยต้นไม้ดอกซึ่งมีสีสันสวยงามคละกัน เซย่าสังเกตว่าส่วนใหญ่เป็นดอกไม้ที่ไม่เคยเห็น ป้าของเธอให้คำตอบที่ว่าเนื่องจากประเทศออสเตรเลียเข้มงวดมากกว่าประเทศอื่นๆในการตรวจสิ่งของที่มาจากต่างประเทศ ทางรัฐบาลเน้นเรื่องการนำเข้าของสิ่งของต่างๆ ที่เสียงต่อการผ่านให้เชื้อโรคเข้ามา โดยกลัวว่าจะทำให้นมหรือสิ่งของต่างๆในประเทศติดเชื้อโรคได้
      ท่านบอกว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง ฟาร์มวัวนมในรัฐๆหนึ่งเพียงฟาร์มเดียวถูกตรวจสอบพบเชื้อโรคเป็นเหตุในต้องเทน้ำนมในรัฐนั้นทิ้งทั้งหมดเพราะถึงว่าเป็นน้ำนมที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นเหตุให้ฟาร์มทุกฟาร์มต้องช่วยเหลือกันป้องกันการนำพาของเชื้อโรค
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น