“หา! ไม่จริงง่ะ นี่ฉันต้องได้นั่งข้างกับตานี่งั้นเหรอ” ปอนด์ เด็กสาววัย 15 ปีตะโกนบ่นให้เพื่อนของเธอฟัง
    “ใครกันเหรอทำให้เธอต้องโชคร้ายขนาดนั้นน่ะ” มินต์เพื่อนของปอนด์กล่าวถามอย่างเห็นใจเพื่อน
    “ก็...ตาคนที่ชื่อว่าเฟียสอะไรเนี่ยน่ะสิ ฉันอยู่ห้องกับตานี่มาตั้ง 2 ปีแล้วเนี่ย ไอ้เราก็คิดว่าพอขึ้นม.3 ก็คงจะไม่ได้อยู่ห้องด้วยกันแล้ว แต่ก็ดันมาเจออีกง่า แถมคราวนี้ได้นั่งข้างกันซะอีก ซวยชะมัดเล้ - -ย” ปอนด์กล่าวพลางทำหน้าเศร้า
    “เกลียดอะไรเฟียสเค้านักหนาน่ะ” มินต์ถามอย่างไม่เข้าใจ “เฟียสเค้าก็ออกจะเรียนดี หน้าตาก็ดีนี่นา เรียกว่าเพอร์เฟคเลยแหล่ะ”
    “ก็เพราะแบบนั้นนี่แหล่ะถึงบอกว่าไม่ค่อยที่จะถูกโรคด้วย ฉันยิ่งไม่ค่อยชอบพวกที่ดีเริ่ดแบบนั้นด้วย มันทำให้ฉันหมดความสนุกสนานไปเลยง่ะ”
    “ขอโทษครับ” จู่ๆเฟียสก็เข้ามาหาปอนด์ ทำเอาทั้งปอนด์ทั้งมินต์เงียบกริบพูดไม่ออกในทันที
    “อะไรเหรอ” ปอนด์กล่าวถามพลางยิ้มแห้งๆ
    “เอ่อ...คืออาจารย์อุไรเค้าเรียกให้เธอไปสอบซ่อมวิชาคณิตศาสตร์น่ะครับ บอกว่าไปเจออาจารย์ที่ห้องคณิตวันนี้ตอนเที่ยงครับ” เขาพูดจบแล้วก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วด้วยหน้าตาเฉยเมย แบบนี้แหล่ะที่ทำให้ปอนด์อึดอัด
    “เขาก็สุภาพไม่ใช่เหรอปอนด์” มินต์บอกพลางหัวเราะคิก
    “ไอ้เรื่องนั้นน่ะช่างมันก่อนเถอะน่ามินต์ เอาเป็นว่าตอนเนี้ยเธอมาติวเลขให้ฉันก่อนได้มะ คราวนี้จะได้ผ่านซักที” ปอนด์ถอนหายใจ
   
    พักเที่ยงปอนด์รีบเร่งไปที่ห้องคณิตศาสตร์ซึ่งอยู่ชั้นล่าง เนื่องจากตอนพักเที่ยงเธอกินส้มตำเข้าไปและมันก็ทำพิษอยู่กว่าครึ่งชั่วโมง ที่ต้องวิ่งเพราะว่าอาจารย์คณิตศาสตร์ที่ว่าเป็นอาจารย์อุไร ยัยแก่หนังเหี่ยวที่ปอนด์ชอบน้อยที่สุดในบรรดาอาจารย์ทั้งหมด(โทษทีค่ะป้าเจ ขอยื้มประโยคมาใช้นี้ดส์หน่อย)  และเพราะว่าตอนนี้เหลืออีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงจะหมดเวลาพักเที่ยงแล้ว
    ปอนด์วิ่งเร็วมากไม่ชะลอตอนลงบันไดด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เธอจับกบอย่างน่าหวาดเสียวตรงกลางบันได ชั่ววินาทีนั้นปอนด์คิดว่า ‘หัวฉันแตกแน่คราวนี้’ ทันใดนั้นก็มีคนโผล่มาจากหัวบันได ชนกับเธอเข้าเต็มๆ ศรีษะของเขาชนเข้ากับปอนด์อย่างจังเสียงดัง โป๊ก...
    เธอนั่งกุมหน้าผากอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็มองหน้าคนที่เธอพึ่งชนไปเมื่อครู่นี้
    “เธอ...” เฟียสกล่าวพลางกุมหน้าผาก เอกสารที่เขาถือมาปลิวเต็มพื้น
    “โทษทีนะ พอดีฉันรีบไปหาอุไรน่ะ โทษจริงๆ” เธอกล่าวพลางรีบช่วยเก็บเอกสารให้เฟียส
    ‘โง่ไม่พอแล้วยังซุ่มซ่ามอีกนะยายคนนี้’
    “ว่ะ...ว่าไงนะยะเมื่อกี๊นี้นายว่าฉันเรอะ คนเค้าขอโทษแล้วนะไม่เห็นต้องว่ากันขนาดนี้เลยนี่” ปอนด์ ตะโกนขึ้นมาอย่างโกรธๆ เฟียสมองหน้าปอนด์อย่างงุนงง
    “ผมไม่ได้ว่าอะไรให้เธอเลยนะครับ”
    ‘ยังไงกันนะยายคนนี้ เราไม่ได้พูดออกไปเลยนี่นา’
    คราวนี้เป็นฝ่ายปอนด์ที่งง ตาเฟียสนี่จะพูดยังไงกันแน่นะ แต่ระหว่างนั้นเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าต้องไปสอบซ่อมวิชาคณิตศาสตร์ ไม่มีเวลาที่เธอจะคิดแล้ว
    “เอ่อ...ขอโทษอีกครั้งก็แล้วกันนะ” แล้วปอนด์ก็รีบวิ่งจากไป
    ‘บ้าจริงๆเลยน้า ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ไม่น่ารักแถมยังนิสัยแย่อีก’
   
    “จริงๆนะมินต์ ดูเหมือนว่าฉันจะอ่านความคิดของหมอนี่ได้ล่ะ...โอ๊ยเอาอีกแล้วง่า นั่นไง ได้ยินหมอนี่คิดอีกแล้วล่ะ” ปอนด์พูดอย่างตื่นเต้น ผ่านโทรศัพท์
    “ยอดไปเลยนะ ถ้างั้นวันนี้ทั้งวันเธอก็ได้ยินเสียงความคิดของเฟียสตลอดเลยงั้นเหรอ” มิ้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นพอกัน ซึ่งต้องใช้เวลานานเป็นชั่วโมงกว่าที่มินต์จะยอมเชื่อเรื่องที่ปอนด์พูด
    “ใช่แล้วล่ะ แล้วมันก็ทำให้ฉันรู้ว่านิสัยของตานี่น่ะ จริงๆแล้ว ตรงกันข้ามกับการแสดงออกของเขาทั้งหมดเลยนะ” ปอนด์บอก ทำให้มินต์ยิ่งอยากรู้เข้าไปอีก
    “ถ้างั้นแล้วนิสัยจริงๆของเขาเป็นยังไงเหรอ” มินต์ถามอย่างสนุก
    “ยกตัวอย่างนะ...เอ่อ...อย่างตอนเนี้ย เขาก็กำลังร้องเพลงภาอังกฤษอยู่ เพราะมากเลยล่ะ ถ้าเธอได้ฟังน่ะนะ” ปอนด์บอกกับมินต์พลางหลับตาฟังเพลงของเฟียสที่เขากำลังร้องในใจ
    “เหมือนกับการ์ตูนน้ำเน่าเลยนะ เรื่องของพวกเธอสองคนน่ะ” มินต์กล่าวพลางหัวเราะ
    “เหรอ นั่นสินะ อีกซักพักหนึ่งฉันกับตานี่ก็คงรักกันมั้ง ว่ามะ” ปอนด์พูดเล่นกับมินต์อย่างสนุกสนาน แม้จะรู้สึกเขินน้อยๆ ถ้าเกิดมันเป็นอย่างนั้นขึ้นมาจริงๆล่ะ (กรี๊ด!!แล้วเธอพูดออกมาได้ไงปอนด์ {AP.})
    ‘ว่าแต่ยัยที่ชนเมื่อเช้านั่น ต้องสอบไม่ผ่านอีกตามเคยล่ะมั้งโง่ออกปานนั้น’
    “ไม่มีวันเป็นจริงแน่นอนคนแบบนี้เนี่ย ฉันจะเกลียดไปตลอดชีวิตเลย คอยดูเหอะมินต์” ปอนด์ตะโกนอย่างมีน้ำโห (...เป็นงั้นไป {AP.})
   
   
   
    “หวัดดี เฟียส...แหะๆ หัวนายเจ็บอยู่มั้ย” ปอนด์เข้าไปถามในเช้าวันต่อมาด้วยความที่อยากจะรู้ความคิดจริงๆของเฟียส
    “ไม่แล้วล่ะครับ”
    ‘ช่วยออกไปห่างๆหน่อยเถอะ เธอน่ะ ดูเหมือนว่าถ้าฉันอยู่ใกล้เธอฉันต้องเจอเรื่องซวยแน่ ’
    “งั้นเหรอนี่นายน่ะคิดว่าฉันเป็นตัวซวยอย่างนั้นน่ะเหรอ ใจร้ายจังนะ คิดกับผู้หญิงแบบนี้เนี่ย” ปอนด์พูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
    เฟียสมองหน้าปอนด์ด้วยความสงสัย  ‘อะไรกันน่ะ อ่านความคิดเราออกอย่างนั้นน่ะเหรอ’
    “เอ่อ - - หน้านายมันบอกฉันแบบนั้นนี่นา เหมือนกับว่านายไม่ได้พูดความจริงแล้วยังหาว่าฉันเป็นตัวซวยน่ะ”  ปอนด์รีบแก้ตัวในทันที พลางหัวเราะเสียงดังกลบเกลื่อน (เขาเกือบรู้แล้วไหมล่ะ ปอนด์เอ๊ย!! {AP.})
    ‘แปลกๆแฮะยัยผู้หญิงคนนี้’
    ‘...ไอ้เรามันก็แปลกจริงๆน่ะแหล่ะนะ ดูเหมือนเราจะสนใจเขามากเกินไปแล้ว’ ปอนด์คิดเห็นด้วยกับเขาในใจ
   
    วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เธอสอบได้ผ่านฉลุย ก็เพราะได้ยินเสียงความคิดของเฟียสอยู่ตลอดเวลา จนอาจารย์อุไรเริ่มที่จะชอบปอนด์มากขึ้น เพราะคิดว่าปอนด์เป็นพวกที่ปรับปรุงตัวได้อย่างดีเยี่ยม
    “แล้วอาจารย์เขาไม่ได้สงสัยเธอเลยเหรอ นั่งข้างกับเฟียสเลยนี่นา” มินต์กล่าวถามอย่างเป็นห่วง
    “อู๊ย...สบายหายห่วงเลยล่ะ อุไรน่ะนะจ้องฉันตาเป็นมัน จนแน่ใจว่าฉันไม่ตุกติก ก็จนหมดคาบนั่นแหล่ะนะ” ปอนด์กล่าวอย่างสบายใจ เธอได้ยินเสียงเฟียสร้องเพลงอีกแล้ว
    “เดี๋ยวมานะมินต์” เธอบอกกับมินต์
    ปอนด์เดินมาจนถึงบันไดแล้วเจอเฟียสพอดี เขากำลังแบกเอกสารหนักๆ ด้วยหน้าตาเฉยเมย ซึ่งในใจของเขาคิดว่า ‘เอาแต่ใช้นักเรียนอยู่นั่นแหล่ะยัยอุไรหนังเหี่ยวเอ๊ย...ไม่รู้จักทำเองซะมั่ง ’
    “เฟียสหนักปะ ฉันช่วยเอามะ” ปอนด์พูดด้วยความตั้งใจจริง เธอเห็นใจเฟียสเล็กน้อย
    “ครับ...ขอบคุณครับ” เฟียสพูด  ซึ่งที่จริงแล้วในใจของเขาคือ
    ‘น่ากลัว...ยัยคนนี้เป็นอะไรน่ะ’
    “ใครเป็นคนใช้นายมาเหรอ” ปอนด์ถาม ทั้งๆที่รู้ดีอยู่แก่ใจ
    “อาจารย์อุไรครับ” เขาตอบผ่านๆ
    แล้วปอนด์ก็ช่วยเฟียสแบกเอกสารที่แสนหนักของอาจารย์อุไรมาจนถึงห้องเรียนของเธอ
    “อะไรเนี่ย นี่นายต้องทำงานให้อุไรอีกแล้วเหรอ” ปอนด์ถามในเวลาเลิกเรียนของวันเดียวกัน
    “ครับ” เฟียสตอบห้วนๆ
    “ท่าทางนายลำบากแย่เลยนะ” ปอนด์พูด ลุ้นว่าเฟียสจะคิดอะไรออกมา
    “ไม่เป็นไรหรอกครับ” เขาพูด ‘ถ้าอย่างนั้นก็มาช่วยกันทำสิ’ เขาคิด
    ปอนด์เห็นด้วย  ดังนั้นเธอจึงช่วยเขาจัดการเอกสารของอาจารย์อุไร
    ในขณะที่ทำงานอยู่นั้น โรงเรียนก็เปิดเพลงที่เฟียสเคยร้อง ซึ่งมันเป็นเพลงรักโรแมนติกเพลงหนึ่ง แล้วครู่หนึ่งผ่านไป เฟียสก็ฮัมเพลงนั้นไปพร้อมๆกัน
    ปอนด์หลับตา นั่งฟัง...เธอก็เริ่มที่จะชอบเพลงนี้ซะแล้ว
    แต่ทันใดนั้น ประตูห้องเรียนก็เปิด และเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง ก็โผล่มา
    “เฟียส ทำงานอยู่เหรอ” เด็กผู้หญิงคนนั้นถาม เธอมีเสียงที่น่ารักเหมือนหน้าตาเลยทีเดียว
    “อืม...มีอะไรเหรอ” เฟียสถามหน้าตาเขาดูสดชื่นขึ้น
    “เฟียส คือ...อ้าว แฟนเหรอจ๊ะ” เธอพูดมองมาที่ปอนด์
    “ไม่ - -” ปอนด์กำลังจะตอบ
    “ไม่ใช่หรอก” เฟียสพูดอย่างรวดเร็ว ‘เชอ-ะ ตอบทันทีเลยนะยะ’ ปอนด์คิด
    ‘มันจะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงกันเล่า’
    นั่นเป็นเสียงที่เฟียสคิด ปอนด์นิ่งเงียบ
    “อืมจ๊ะๆ คืองี้นะเฟียส เย็นวันพรุ่งนี้มีประชุมผู้ปกครองใช่มะ พอดีฟ้าต้องไปเซอไพรส์วันเกิดเขาคนนั้นพอดีน่ะ...เพราะงั้น - -”
    “เข้าใจล่ะ ให้ผมจดเนื้อประชุมแทนใช่ไหม ได้สิ ผมจะทำให้นะ” เฟียสตอบ สายตาเขาดูเลื่อนลอย
    “จริงเหรอ ขอบใจนะเฟียส เฟียสใจดีที่สุดเลย...เอ่อ แต่ก็มีอีกเรื่องหนึ่งนะ” ฟ้าพูด
    “อะไรเหรอ” เฟียสถาม มองมาที่ฟ้าอย่างตั้งใจ
    “ยังไงฟ้าก็ยังคิดไม่ออกว่าจะเอาอะไรให้เขาดี เฟียสเป็นผู้ชาย เฟียสว่าอะไรดีนะ” เธอถาม
    “คือเรื่องแบบนี้ผมก็ไม่รู้...” เฟียสตอบ ‘อย่าพูดเรื่องนั้นเลยฟ้า ผมไม่อยากรู้เรื่องคนนั้นของฟ้ามากไปกว่านี้อีกแล้ว’ เขาคิด ซึ่งแน่นอนว่าปอนด์อ่านมันออก
    “โธ่...ทำไมล่ะ เอาของที่เฟียสชอบก็ได้ นะ นะ” ฟ้าคะยั้นคะยอ
    “คือผมไม่รู้” เฟียสบอก ‘พอทีเถอะ ผมไม่อยากฟัง ผมเจ็บปวดนะฟ้า ทำไมฟ้ายังไม่รู้’
    “พอทีเถอะ ไม่อยากฟัง!!” ปอนด์พูดขึ้นเสียงดัง มองไปที่ฟ้า
    ฟ้าตกใจ เธอมีสีหน้ารู้สึกผิด “เอ่อ...งั้น...งั้นฟ้าไปก่อนนะ” เธอบอก แล้ววิ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว แล้วฉับพลันเฟียสก็หันหน้ามาที่ปอนด์
    “เมื่อกี้เธอทำอะไรของเธอน่ะ ทำไมถึงไปพูดกับเขาแบบนั้น” เฟียสถามด้วยอารมณ์แปลกใจปนกันกับอารมณ์โกรธ
    “เฟียส ทำไมนายไม่พูดออกไปตามที่นายคิดล่ะ นายชอบเขาไม่ใช่เหรอ” ปอนด์ถามด้วยความเห็นใจในความเจ็บปวดใจของเขา และความเจ็บปวดใจของตัวเอง
    “ผมไม่รู้ว่าเธอพูดเรื่องอะไร แต่ถึงยังไงก็เถอะ เธอไม่น่าพูดกับฟ้าเขาแบบนั้น”
    “แต่นาย - -”
    “เธอกลับไปเถอะ เรื่องเอกสาร ไม่เป็นไรแล้วล่ะ” เฟียสบอก
    เกิดความเงียบขึ้นมายาวนาน เป็นความเงียบที่ปอนด์ต้องเจ็บปวดใจ
   
    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ปอนด์ไม่สามารถฟังเสียงความคิดของเฟียสได้อีก และ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอสนใจตัวเฟียสมากขนาดนี้
    “ปอนด์อรุณสวัสดิ์” มินต์พูดขึ้นมา ในขณะที่เดินมาที่โต๊ะของปอนด์
    “หวัดดีมินต์” ปอนด์ไม่อาจทำสีหน้าเป็นปกติได้มากนัก
    “...เป็นอะไรหรอปอนด์ เกิดอะไรขึ้น” มินต์ถามด้วยความรู้สึกเป็นห่วง
    “ม่าย~ มีอะไรหรอกจ้า แค่ง่วงนอน อ่านะ” ปอนด์ตอบ
    “อย่ามาโกหกกันน่าปอนด์ เรื่องอะไรกันล่ะ บอกกันไม่ได้เหรอ” มินต์จับแขนปอนด์ไว้ แล้วจ้องหน้าปอนด์
    “คือ มินต์ ฉันคิดว่าฉันต้องมีความรู้สึกที่เกิดจากความรู้สึกที่สะสมตัวขึ้นทีละน้อยแล้วกลายมาเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายออกมา - -”
    “ปอ--นด์!!” มินต์พูดด้วยเสียงดัง ที่ทำให้ปอนด์ยอมรับ
    “คือฉันชอบเฟียสเข้าให้แล้วล่ะ~ (กรี๊ด...เธอเป็นผู้หญิงนะปอนด์ พูดมาก่อนได้ไงง่า{AP.}”
    “...อืมๆ...อ้าว แล้วทำไมเธอต้องมาทำท่านั่งเศร้าแบบนี้ด้วยล่ะ” มินต์ถาม             
“ก็เขาปฏิเสธฉันซะแล้วน่ะสิ!!” ปอนด์ตอบ แล้วชั่วขณะนั้น เสียงเพลงที่เธอจำได้ดีก็ดังขึ้น
“แน่ใจเหรอ ความคิดเขาบอกแบบนั้นเหรอ” มินต์ถามด้วยสายตางุนงง
“ก็ไม่นะ แล้วฉันก็หมดความสามารถในการอ่านความคิดเขาไปแล้วล่ะมินต์” ปอนด์บอก
   
ในวินาทีนั้นเธอรู้สึกแปลกๆ เขาไม่ได้บอกว่าไม่ชอบเธอซักหน่อยนี่นา แล้วทำไมเธอต้องมานั่งเศร้าอยู่ตรงนี้ด้วยเล่า - - ปอนด์ก็รีบวิ่งออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว ลงไปที่บันได แล้วเธอก็เจอเฟียสที่หัวมุม
    เฟียสมองหน้าเธออยู่เนิ่นนาน
    “นี่ถามจริงๆเถอะ” เฟียสพูด สีหน้าเขาเหมือนนึกสนุก
    “อะไร” ปอนด์ถาม
    “ผมเป็นคนที่อ่านง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ” เฟียสถาม
(จบจ้า จบแระ เม้นๆ โหวตๆ น้า {AP.}
---------------------------------------
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น