ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนังสือผี

    ลำดับตอนที่ #4 : ยมฑูต ที่เป็นมนุษย์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9
      0
      20 ธ.ค. 48



        ที่ไหนอีกล่ะ



        ปาล์มถามตัวเองเมื่อเขาตื่นขึ้นมาในบ้านที่ไม่คุ้นตาเอาเสียเลย แจกันที่วางอยู่ตรงมุมโน้นก็ช่างสะท้อนแสงแสบตาเหลือเกิน



        \"ใครก็ได้ ปิดม่านที\" ปาล์มร้องขอ ตอนนี้แขนของเขาเหมือนจะระบมไปหมด เพราะไปฝึกซ้อมกับใครบางคนจนได้รับบาดเจ็บ



        \"ตื่นแล้วหรอ ปาล์ม\" เสียงหนึ่งร้องเรียกชื่อเขาเบา ๆ ดวงตาสี้อ่อน ๆ ที่แสนอบอุ่นนั่นทำให้ปาล์มรู้สึกคุ้นเคยกับที่นี่มากขึ้น



        \"อืม โทษทีนะเกน ที่ฝึกซ้อมกับนายได้แป๊บเดียวก็ล้มไปซะแล้ว ก็นายน่ะแหละเก่งเกินไป ว่าแต่....เมื่อไหร่นายจะปิดม่านให้ฉันซักที\" ปาล์มพูดก่อนจะหยิบผ้ามาคลุมโปง เกนส่ายหน้าแล้วหัวเราะเบา ๆ สำหรับปาล์มที่เพิ่งมาที่โลกหลังความตายได้ไม่นานกับเขาที่อยู่ที่นี่จนชินแล้วสมควรอยู่ที่เขาจะต้องเก่งกว่าเรื่องการใช้พลังผี ๆ คิดแล้วก็ก้าวไปปิดม่านลงจนบรรยากาศในห้องมืดสลัวทันที



        ปาล์มโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มเพียงนิดเดียวแล้วเหลือบมองเกนที่ยืนพิงกำแพงอยู่



        \"นี่เกน ถ้าเกิดว่าฉันสอบการเป็นวิญญาณพิเศษอะไรนั่น แล้วตกขึ้นมา นายต้องฝึกให้ฉันเก่งขึ้นนะ จะได้ไปอยู่ข้าง ๆ กัน อย่าทิ้งฉันเอาไว้ล่ะ\" ปาล์มพูดด้วยน้ำเสียงห่อเห ี่ ยวเขาไม่มั่นใจเรื่องการทดสอบในครั้งนี้เลยแม้แต่นิดเดียว



        เกนมองหน้าคนพูดเบา ๆ แล้วหัวเราะด้วยความขบขัน ปาล์มที่ไม่เคยทุกข์ร้อนอะไรตั้งแต่มาที่นี่กลับกลัวแค่การสอบเนี่ยนะ?



        \"หัวเราะบ้าอะไร มันมีอะไรน่าขำ\" ปาล์มถามด้วยความอายแล้วเอาตัวหลบเข้าไปในผ้าห่มอีกครั้ง เกนเห็นก็ต้องกลั้นหัวเราะเข้าไปอีก เขาเดินเข้าไปนั่งที่ปลายเตียงของปาล์มแล้วเอ่ยเบา ๆ



        \"ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ทิ้งเพื่อนดี ๆ อย่างนายแน่ อย่างห่วงเลย ระหว่างนี้เราจะฝึกโหดนรกระเบิดกัน จะได้สอบเข้าได้พร้อมกัน ตอนนี้ก็ ลุกขึ้นมาได้แล้ว!!\" เกนตะโกนใส่หูของปาล์มที่ซุกตัวขดอยู่ในผ้าห่ม ปาล์มสะดุ้งเฮือกแล้วลุกขึ้นมองคนพูดอย่างฉุนเฉียว



        \"เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ ตายมาตั้งกี่ปีแล้วห๊าา!!!!!!!!!!!!!!!!\" ปาล์มสวนกลับ ก่อนจะหัวเราะไปกับเกนอย่างอารมณ์ดี แล้วกลับมายิ้มอย่างอ่อนโยน



        \"สัญญาแล้วนะ\"



        \"อืม\"




        



        และแล้ววันประกาศผลสอบก็มาถึง



        \"เกน พิน มูน พลำ อาตท์ แมว กฤต\" คนประกาศผมสอบอ่านชื่อของผู้เข้าสอบบางคน ปาล์มรู้สึกใจแป้วขึ้นมาทันทีโดยคิดว่าที่ไม่มีชื่อเขาคงเป็นเพราะเขาสอบตกแน่แล้ว ปาล์มหันไปมองเกนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เกนมองกลับมาสบตาด้วยแล้วยกนิ้วโป้งให้พร้อมรอยยิ้ม



        \"เอ่อ คนที่ประกาศชื่อไป คือคนที่...\" คนประกาศเอ่ยต่อไปแล้วกระแอ่มไอเบา ๆ จนคนข้างล่างเวทีที่รออยู่แทบเอารองเท้าตบหน้า



        \"คือคนที่สอบตก\"



        เสียงเฮดังลั่นทั่วทั้งศูนย์สอบ ปาล์มร้องเฮอย่างดีใจก่อนจะมองไปที่ข้างตัวเพื่อนกระโดดกอดเกน



        แต่ตรงนั้นไม่มีใครอยู่....



        \"เกน....\"



        \"ขอให้คนที่สอบผ่านขึ้นมารับตำแหน่งด้วย\" ผู้ประกาศบอกอีกครั้งแล้วขานชื่อตามลำดับคนที่ได้คะแนนสูงสุด...







        \"เกน ๆ \" ปาล์มร้องเรียกเกนที่อยู่ในห้องพักของพวกเขาเบา ๆ แล้วเข้าไปจับที่ต้นแขน \"นี่เกน นายเป็นอะไ...\"



        \"ไม่ต้องมาจับตัวฉัน\" เกนพูดเบา ๆ ดวงตาสีฟ้าที่เคยอบอุ่นคู่นั้นกลับเย็นชาในทันทีที่เจ้าของดวงตานั้นหันมาสบกับผู้ที่จับต้นแขนเขาอยู่ ปาล์มตกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปนั้นจนเผลอปล่อยมือออกปล่อยให้เกนนั่งลงบนเตียงช้า ๆ



        \"เกน...\"



        \"ปาล์มฉันขอบอกอะไรไว้อย่าง ถึงนายจะเป็นวิญญาณพิเศษได้ก่อนฉัน แต่ไม่มีวันที่นายจะก้าวข้ามฉันได้\"



        \"อ...ไอ้เรื่องนั้นน่ะมันรู้อยู่แล้ว นายเก่งจะตาย แต่นายเป็นอะถไรของนาย\" ปาล์มเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ เพื่อนรักแล้วจับบ่าเกนเบา ๆ



        \"ไม่มีอะไรที่ต้องถาม ปล่อย ฉันไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น!!!!\" เกนสะบัดมือของปาล์มออกอย่างไม่ปราณีปราศัยแล้ววิ่งออกไปจากห้อง ปาล์มได้แต่นั่งอยู่กับที่ เขาจ้องมองไปที่บานประตูอันว่างเปล่านั้นด้วยความไม่เข้าใจ



        \"อะไร..กัน\"







        ความทรงจำนั่น ตั้งแต่นั้นสินะที่ไอ้เกนนั่นมันเปลี่ยนไป ไม่เหลือความอบอุ่นเอาไว้เลย ทำไม? ตราบจนทุกวันนี้



        ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี







        ภาพการต่อสู้ยังดำเนินไปเนิ่นนาน แต่คนที่จับจ้องอยู่นั้นก็ไม่อาจละสายตาไปแอบงีบที่ไหนได้ ไผ่นั่งมองดูร่างของอีสที่เลือดอาบกับเกนที่ยังไม่มีแผลรึเหงื่อออกซักเม็ด



        \"ไม่มีทางชนะเลยรึไงนะ\" ไผ่พึมพำแล้วนั่งคิดอยู่พักใหญ่



        ถ้าเกิดเราเข้าไปรุมน่าจะชนะ ไหม๊



        สิ้นความคิด ไผ่ค่อย ๆ เลื่อนหัวของปาล์มออกจากตักก่อนจะลุกขึ้น แล้วมองหาของรอบตัว



        เข้าไปมือเปล่า คงไม่ได้เนอะ -_-;



        ว่าแล้วก็เหลือบไปเห็นไม้เบสบอลขนาดเหมาะมือสำหรับการฆ่าอะไรสักอย่าง ไผ่เลื่อนตัวไปหยิบไม้อย่างระวัง เมื่อมันเข้ามาอยู่ในมือแล้ว ไผ่ก็รีบพุ่งตัวแหวกอากาศเข้าหาเกนจากด้านหลังทันที



        \"ย้ากกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!\" ไผ่ร้องลั่นพร้อมกับลงน้ำหนักทั้งหมดไปที่ไม้ซึ่งกระแทกกับหัวเกนอย่างจังจนมันปริแตกไม่ต่างกับลูกแตงโม น้ำสีแดงพุ่งพรวดออกมาจากเส้นเลือดในสมองที่เละเฟะ ลูกตาที่คมสวยเหลือกขึ้นและมีเลือดคั่ง



        ไผ่หอบหายใจรวนและมองร่างของเกนที่ล้มลงทอดกายบนพื้นน้ำแข็งที่ค่อย ๆ สลายไปกลับสู่บรรยากาศอันอบอุ่น แสงจันทร์ยามค่ำคืนทอดเข้ามาภายในห้อง เสียงกระดิ่งดังจากการปะทะกับลมภายนอกแว่วมาทำให้รู้สึกอุ่นใจ ไผ่เดินเข้าไปหาอีสที่เช็ดเลือดบนมุมปาก



        \"ข...ขอบคุณนะ\" อีสยื่นมือไปจับแล้วลุกขึ้นด้วยแรงฉุดของไผ่เพียงคนเดียวเพราะแขนซ้ายที่ไม่สามารถใช้ยันตัวให้ลุกขึ้นได้



        อีสหายใจยาวและลึกเมื่อผ่านความจริงที่น่าสยดสยองมาได้ เขานึกว่าจะไม่รอดเสียแล้ว \"ไม่นึกว่าจะตายง่ายขนาดนี้ เก่งแต่ปากจริง ๆ \"



        ฉับพลัน



        ร่างของเกนกระตุกเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้นมาประจันหน้ากับทั้งสองอีกครั้งราวกับว่าได้ยินคำเหยียดหยามสบประหม่านั่น อีสกระชากตัวไผ่ไปอยู่ข้างหลังด้วยสัญชาตญาณ ใบหน้าอันเละเฟะของเกนเปื้อนรอยยิ้มเหมือนจะไม่ถือสาคำจากปากของอีสแม้แต่น้อย ดวงตาสีฟ้าที่มีเลือดคั่งจ้องมองสภพาห้องที่ค่อย ๆ เปลี่ยนกลับเป็นดินแดนน้ำแข็งอีกครั้ง



        \"จะว่าไป คุณบอกว่าจะจัดการผม งั้นเรามาต่อกันดีกว่าครับ ส่วนคุณไผ่ คุณหลบไปก่อนครับ\"



        \"ไม่!!!!!\" ไผ่สวนทันทีคำพูดของเขาหนักแน่นและชัดเจนทั้ง ๆ ที่เขากลัวจนขาสั่นไปหมด เกนมองขาคู่นั้นด้วยสายตาขบขัน



        \"ไผ่หลบไป\" อีสสั่งพร้อมกับพลักไผ่ออกไป



        \"ไม่\" ไผ่แวงกลับอีกครั้ง นัยน์ตาสีดำที่กลืนไปกับเส้นผมส่องประกายกล้าหาญอย่างประหลาด อีสสบตากับไผ่พร้อมกับเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาตามใบหน้าอันปนเปไปกับธารเลือด \"ไอ้คนดื้อด้าน\"



        \"นั่นสิครับ ผมก็คิดอย่างนั้น\" เกนพูดแล้วตวัดมือที่ถือขวานขึ้น \"พูดไม่ฟัง งั้นผมจะจัดการให้แล้วกันนะครับ\"



        แกร้ง แควก



        ไม่มีแม้นเสียงขวานแหวกอากาศ มีเพียงเสียงของขวานที่ร่วงลงสู่พื้นและเสียงแขนของไผ่ที่ถูกฉีกขาดสะบั้นลงทั้งสองข้าง ทั้ง ๆ ที่ดูเหมือนเกนจะไม่ได้ขยับเลยแท้ ๆ และยังยืนอยู่เบื้องหน้าเขา ความเจ็บแล่นปราดเข้าสู่สมอง เลือดสีแดงข้นพุ่งออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน กระดูกสีขาวโพลนและกล้ามเนื้อที่ติดอยู่บางส่วนเพราะได้ได้ถูกฉีดอย่างปราณีตนัก



        \"อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!\" ไผ่กรีดเสียงร้องอีกคราเพราะความเจ็บ ร่างสูงร่วงลงไปสะบัดดิ้นอยู่บนพื้นจนเลือดสาดกระเซ็น อีสมองดูร่างนั้นด้วยความวิตก ไผ่ที่กัดฟันกรอดอย่างเจ็บปวดเหลือบมองเกนที่ยกแขนของเขาในมือขึ้นมาเลียเลือดราวกับเป็นเครื่องดื่มอันโอชะ แขนข้างหนึ่งถูกเหวี่ยงทิ้งอย่างไม่ใยดี ส่วนอีกข้างที่อยู่ในมืออาชญากรกลับกลายเป็นอาหาร



        \"ไผ่!!!!! แกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!\" อีสหันขวับไปมองเกนที่ยังคงลิ้มรสเลือดด้วยสีหน้าอันเงียบสงบ นั่นยิ่งทำให้เขาฉุนเฉียวมากขึ้น



        \"หึ ตอนแรกก็กะว่าจะใช้ขวานนะครับ แต่ตอนหลังมันนึกสนุกเลยฉีกแทน ผมชอบเวลาได้เห็นกล้ามเนื้อที่ห้อยต่องแต่งแบบนั้น อ้อ แล้วก็เสียงนั่นด้วยครับ\" เกนพูดแล้วขบกัดเส้นเลือดใหญ่ที่ห้อยออกมาจากแขนของไผ่ที่อยู่ในมือ อีสมองอย่างหมดความอดทน



        ดวงตาสีน้ำเงินประกายสีเขียวเจิดจ้ากว่าทุกครั้ง เกนชะงักเล็กน้อยแล้วตั้งการ์ดเตรียมรับการโจมตีที่อาจหนักขึ้นกว่าครั้งไหน ๆ พร้อมกับฟื้นฟูใบหน้าของตัวเองด้วยเหมือนกับเวลาย้อนกลับ



        ไม่ทันที่จะได้จับตามอง ร่างของอีสหายไปในพริบตา เกนตกใจจนเผลอคลายการ์ดออก



        ฟุ่บ



        \"อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!\" เสียงร้องโหยหวนอย่างผีของเกนดังสนั่นคับห้องแคบ ๆ  โลกของเขากำลังเป็นสีแดงฉาน ความเจ็บปวดแสบซ่านที่ผีอย่างเขาอาจจะไม่ได้รับกลับสะท้านร่างเขาให้สั่นระริกอย่างเจ็บปวด มือเรียวบางกุมเบ้าตาของตัวเองแน่น



        ดวงตา มันหายไป



        ร่างของอีสมาอยู่ต่อหน้าเกนด้วยท่าทีที่นิ่งสงบเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่ของกลางซึ่งเรียกว่า\'ลูกตา\'ยังอยู่ในมือของอีส



        อีสมองร่างที่ทรุดลงกับพื้นด้วยดวงตาสีเขียวมรกต แล้วพูดด้วยเสียงที่ต่างออกไป เหมือนกับเป็นคนละคน เสียงที่ทุ้มต่ำและน่าเกรงขามพูดผ่านหลอดลมออกมา



        \"ต่อไป...... ตาขวา\"



        ฟุ่บ



        \"อั่ก!!!!!!\" ร้องพลางกัดฟันกรอดเมื่อโลกที่เขาเพิ่งได้ก้าวเข้ามาได้ไม่กี่ชั่วโมง กลับกลายเป็นห้องสีดำสนิท มือที่สั่นระริกกุมเบ้าตาทั้งสองข้างของตัวเอง ความมืดเบื้องหน้าร้าวด้วยความเจ็บปวด เสียงที่พยายามอดกลั้นไม่ปล่อยออกมายิ่งทำให้อารมณ์ของเขาแทบคลุ้มคลั่ง



        \"อย่างน้อยถ้าทำอย่างนี้นายคงจะเข้าใจความเจ็บของไผ่ขึ้นมาบ้าง\" อีสพูดด้วน้ำเสียงเย็นชา ไม่ต่างจากใบหน้าที่เรียบเฉยนั่น ไผ่ได้ฟังแล้วก็ยันตัวลุกขึ้นมองบุคคลซึ่งหันหลังให้เขา ผายใต้แผ่นหลังที่แสนอบอุ่นนั่น เขากลับเห็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด...



        ยมฑูต



        ร่างของไผ่สั่นเครือด้วยความกลัวที่สั่นเทาภายในจิตใจ ไผ่เผลอตัวถอยหลังออกห่างอย่างช้า ๆ จนแผ่นหลังแนบกับกำแพงเย็นเชียบเหงื่อที่ไม่เข้ากับอุณหภูมิห้องไหลเยื้อมออกจากรูขุมขน ความพยายามที่จะกลืนน้ำลายอันหนืดคอทำให้ลมหายใจติดขัดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน



        กลัว........ไม่ใช่แค่กลัว แต่กลัวมาก



        \"ไผ่\" อีสร้องเรียกไผ่จนเจ้าของชื่อสะด้งเฮือกด้วยไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะพูดอะไรให้เค้ากลัวด้วยรึเปล่า



        \"อย่าอยู่ห่างจากฉัน\"



        ไผ่พยักหน้าโดยที่ไม่รู้ว่าคนข้างหน้านั้นจะเห็นรึเปล่า แล้วลุกขึ้นจากพื้นเดินไปใกล้ ๆ อีสทั้งที่ใจยังคงระแวงอยู่



        อีสเดินเข้าไปใกล้เกนแล้วเยียบหัวของเกนจนกระทบพื้นอย่างแรง ฟันที่เรียงตัวสวยบิดเบี้ยวไปคนละทาง เลือดที่หลั่งไหลลงมาจากเบ้าตาทั้งสองยังคงเป็นสีแดงฉานสดใหม่ ราวกับน้ำตาเลือดที่พยายามจะถ่ายทอดความเจ็บปวดให้คนอื่นรับรู้ ไผ่มองร่างนั้นด้วยใจที่เต้นรัว



        แขนข้างที่หักไปถูกจับดัดไปมาแล้วกลับเป็นแขนที่ดูสวยงามดังเดิมราวกับไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ ดวงตาทั้งสองที่อยู่ในมืออีสถูกขว้างชนกำแพงจนกระ ด.อนไปรอบด้าน อีสแสยะยิ้มที่ดูน่ากลัวยิ่งกว่าปิศาจแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง



        \"ฉันไม่อยากได้ยินเสียงแกอีก ฉันคงจะต้องตัดลิ้นแกซะ........ไผ่...ดูให้ดี มองความเจ็บปวดของมัน แล้วถ้ามันเท่ากับความรู้สึกที่นายได้รับแล้วล่ะก็ ค่อยบอกฉัน\"



        อีสขยี้ผมของเกนแล้วกระชากขึ้นให้เห็นดวงหน้าที่เครอะไปด้วยน้ำสีแดงข้น ก่อนจะดึงลิ้นสีชมพูของร่างนั้นออกอย่างไม่ใยดี



        \"อื้อออออ!!!!!!!!!!!!!!!!! อื้อออออ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!\" เกนครางเพราะไม่มีลิ้นที่จะดัดแปลงเป็นภาษาที่ฟังรู้เรื่องได้อีก ทั้งที่อยากจะร้องไห้รึวิ่งหนีไปให้ไกล แต่กลับทำได้แค่นอนดิ้นอยู่บนพื้นอย่างทรมานเท่านั้น อีสปล่อยร่างเกนลงกับพื้น ร่างนั้นแน่นิ่งและหอบอย่างอ่อนแรงด้วยความเจ็บปวด ไผ่อยากจะบอกให้พอ แต่ปากของเขาขยับขึ้นลงไม่เป็นภาษา



        \"พอเถอะครับ\"



        ปาล์มดันตัวขึ้นแล้วเข้าไปอยู่ข้างหน้าระหว่างคนทั้งสาม อีสมองสบตากับปาล์มเพื่อค้นหาอะไรบางอย่างที่เขาเพียรอยากจะรู้ในดวงตาสีดำนั่น



        \"อย่ามองแบบนั้น.....มันไม่ใช่สิ่งที่เข้าใจยากขนาดต้องมองแบบนั้น เพราะมันก็เป็นการกระทำ...ที่นาย.....ก็กำลังทำอยู่\" ปาล์มเปรยเสียงสั่นเพราะเขารู้ว่าคนตรงหน้าเขานี้อาจเป็นคนที่เขาไม่รู้จักก็เป็นได้ ใบหน้าของเขาที่สะท้อนอยู่ในดวงตาสเขียวเรืองรองนั่นจึงดูหวาดกลัวด้วยเม็ดเหงื่อจำนวนมาก



        \"อะไร ฉันกำลังทำอะไร\" อีสถามแล้วเดินเข้าใกล้ปาล์มจนหน้าแทบชนกัน ปาล์มที่ส่วนหนึ่งของหัวเหมือนถูกตัวประหลาดกัดไปเหลือบมองร่างที่เท่ากันแล้วเอ่ยเบาแสนเบาแต่กลับกระจ่างชัดเจน



        \"ปกป้อง\"



        อีสสะดุ้งวูบ เขาหันกลับไปมองไผ่ที่อยู่ข้างหลัง ดวงหน้าที่เลอะไปด้วยคราบน้ำตานั่นจ้องกลับด้วยความหวาดระแวง



        \"ฉันกับนาย กำลังปกป้องคนสำคัญอยู่ ขอร้องอย่าให้เราต้องรู้สึกสูญเสียอีก แล้วดวงตานั่น.......ฉันอยากให้มันอบอุ่นเหมือนเดิม ขอร้องล่ะ\"



        ปาล์มคุกเข่าลงเหมือนจะอ้อนวอน แขนที่ยังไม่ขาดออกจากกันข้างนั้นละเลียดไปกับพื้นน้ำแข็ง อีสหันกลับมามองความหวังของปาล์มอีกครั้ง



        ดวงตาสีเขียวคู่นั้นกลับกลายเป็นสีน้ำเงินที่ดูอ่อนโยนเชกเช่นเดิม



        ยมฑูต ที่อยู่ในร่างของเขากำลังอ่อนแรงเพราะความเห็นใจ และแล้วอีสก็สามารถคุมสติได้ร้อยเปอร์เซ้น เขามองร่างของเกนที่กำลังหอบหายใจฮั่กอยู่เบื้องหลังคนที่กำลังคุกเข่าก้มหน้านิ่ง ปาล์มยังคงก้มหน้าต่อไปแม้จะรู้แล้วถึงความอบอุ่นที่กำลังกลับคืนมาของคนตรงหน้า ไผ่เข้าไปเกาะกุมแขนของอีสเบา ๆ แล้วซบใบหน้าลงอย่างอ่อนล้า ตัวเขาคิดว่าจะต้องช็อคตายเพราะเพื่อนตัวเองเสียแล้ว



        \"ไผ่\" อีสเรียกชื่อไผ่เบา ๆ ด้วยเสียงที่สันเครือ \"ฉัน ขอโทษ ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนี้\"



        \"ช่างมันเถอะ ปาล์ม นายเอาเพื่อนนายกลับไปด้วยนะ เหนื่อยชิบ\" ไผ่บอกแล้วหันไปพูดกับปาล์ม ปาล์มเงยหน้าขึ้น



        ฉึก!



        ดาบเล่มยาวสีดำทะมึนเสียดสีผ่านอวัยวะภายในทะลุร่างของปาล์มจากด้านหลัง นัยน์ตาสีรัตติกาลเบิกขึ้นอย่างตกใจ



        สวบ



        เกนดึงดาบเล่มยาวออกจากกลางร่างของปาล์ม ถึงแม้ดวงตาของเขาจะไม่สามารถเก็บกลับมาได้แต่อย่างน้อยเขาก็ทำภารกิจนี้สำเร็จและสามารถกลับไปที่โลกหลังความตายได้อีกครั้ง



        ตับ ไต ไส้ พุง ของปาล์มทะลักผ่านปากแผลที่หล่อลื่นด้วยเลือด ความเจ็บแสบแผ่ซ่านไปทั่วทั้งท้อง แขนที่ขาดห้อยร่องแร่งก็ยิ่งปวดระบมเมื่อได้รับการกระแทกเมื่อครู่ แขนที่เหลืออยู่เอื้อมไปเพื่อที่จะปิดบาดแผล



        ฉับ



        ดาบสีดำตวัดผ่านลำแขนนั้นอย่างไม่ปราณี แขนนั้นขาดสะบั้นอย่างรวดเร็ว กระเด็นสะบัดไปอีกฝากหนึ่งของห้องสีฟ้า เกนหัวเราะในลำคอก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปอย่างช้า ๆ พร้อมกับน้ำแข็งที่หลอมละลายไป



        \"ปาล์ม!!!\" ไผ่กับอีสรีบวิ่งเข้าไปดูร่างของปาล์มซึ่งกำลังปวดระบม ปาล์มกัดฟันไว้ด้วยความเจ็บปวด น้ำตาร่วงเป็นสายนธี ความเจ็บชอกช้ำไม่ได้แค่ร่างกายเท่านั้นแต่กลับเสียดแทงเข้าถึงความรู้สึกภายใน



        .....ทั้งที่ปกป้องขนาดนั้น....ทำไม...



        ทำไม.....



        ทำไมนายถึงได้เย็นชานัก......เย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็งที่นายสร้างขึ้น....... เย็นชาถึงกับ



        ถึงกับ....ทรยศต่อความรู้สึกของฉัน







        ปาล์มนอนอยู่บนเตียงในห้องที่ว่างเปล่า วันหยุดในเทศกาลปีใหม่ของอีสและไผ่ได้หยุดลงแล้ว พวกเขาต้องไปโรงเรียนโดยไม่มีปาล์มตามไปด้วย



        ถึงแม้เขาจะเป็นผีที่จะรักษาร่างเมื่อไหร่ก็ย่อมทำได้ แต่การฝ่าฝืนกฎได้ทำให้พลังผี ๆ ในตัวเขาหยุดลงชั่วขณะ จึงทำให้แขนของเขาที่ควรจะงอกขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากผ่านเหตุการณ์มาได้หลายวันงอกขึ้นมาได้เพียงกระจึ๊งนึงเท่านั้น แขนที่เกือบขาดก็ไม่เขยื้อนเลยแม้นแต่น้อย ความพยายามที่จะลุกรึลอยจากเตียงจึงเป็นแค่ความฝันยามว่างอย่างนี้เท่านั้น



        ปาล์มมองออกไปนอกหน้าต่างที่มีลมหนาวพัดมาอย่างรุนแรงจนทำให้บานหน้าต่างกระแทกปัง ๆ  ใบไม้ที่อยู่บนพท้นดินบินว่อนไปทั่วบริเวณจนรู้สึกถึงความหนาวสะท้านที่ทำให้ปาล์มนึกถึงอะไรบางอย่างที่อาจจะหนาวกว่านี้เป็นร้อยเท่า



        เกน



        ปาล์มเบิกตามองก้อนน้ำเข็งบนขอบหน้าต่างที่หล่นจากแก้วเมื่อเช้า มันยังไม่ละลาย อาจเป็นเพราะเวลาและอุณหภูมิของอากาศก็เป็นได้





        ปาล์มพยายามลุกขึ้นแต่ก็เพราะไม่มีแขนเลยไม่สามารถทำอะไรได้อีก ได้แต่จ้องมองก้อนน้ำแข็งนั่น



        เกน.......



        สักวันนายจะได้รู้ว่านายต่างหากที่ก้าวข้ามใครไม่ได้เลย



            ------------------------++++++++++-------------------------



        \"เอาเป็นว่าเธอยังจะไม่ไปใช่ไหม๊ ฝน\" ผีหนุ่งถามอย่างรำคาญ ตอนนี้เช้าแล้วพวกเขาจึงหลบแสงแดดเข้ามาในห้องทึบไร้หน้าต่างในตัวบ้านแทน



        \"ก็บอกแล้วว่าให้ดูท่าทีไปก่อน เรายังไม่รู้ว่าไอ้เด็กนั่นตกลงมันมีความสามารถอะไรบ้าง จะให้สุ่มสี่สุ่ห้าเข้าสู้ เดี๋ยวเราก็ได้เป็นฝ่ายเละกลับมาหรอก\" ฝนหันมาว่ากล่าวอย่างฉุนเฉียว ใบหน้าและเรือนร่างของเธอยังคงเละเฟะอยู่เช่นเดิม แต่อารมณ์ของเธอกลับยิ่งทำให้น้ำเหลืองไหลเยื้อมออกจากแผลมากขึ้นทุกที จนเจ้าเพื่อนผีหนุ่มตัวดีต้องถอยออกห่างและยอมจำนน



        \"จ้า ๆ ฉันไม่ถามแล้ว แต่ช่วยกลับเป็นร่างสวย ๆ หน่อยไม่ได้รึไง\" ต้นถอยออกมาสามก้าวพร้อมกับขอร้อง ฝนหมุนหัวไปมอง 360 องศาอย่างที่ลำตัวไม่ต้องขยับ จนฝูงหนอนที่ชอนไชอยู่บนใบหนาของเธอนั้นร่วงกราว



        \"ไม่ได้ ฉันกำลังออมแรงไว้ใช้สู้กับเจ้าเด็กนั่น เดี๋ยวเกิดใช้พลังเก็บร่างเหมือนอย่างที่ผ่าน ๆ มา มันจะเปลืองเปล่า ๆ แบบนี้ล่ะสบายดี นายก็เหมือนกันออมแรงเอาไว้บ้าง อย่าเอาแต่ทำหล่อ\" ฝนบ่นยืดยาวจนลิง(ต้น) แทบหลับคาที่ แต่ก็ยังคงพยักหน้าทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ฟังแม้แต่นิดเดียว



            -------------------------+++++++++---------------------------



        \"ไผ่เร็วเข้าเดี๋ยวเรียนวิชาพละไม่ทัน\" อีสเร่งเมื่อไผ่ยังคงเปลี่ยนกางเกงวอร์มไม่เสร็จ ความพยายามที่จะลากตัวเพื่อนคนนี้ออกมาก็แสนจะยากเย็นเหลือเกิน



        \"นายอย่ามาสั่งฉันน่า เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว จะรออยู่เงียบ ๆ ไม่ได้หรอ แขนฉันขากนะเว้ย เห็นใจกันบ้างสิ\" ใช่แขนเขายังขาดอยู่แต่ก็ยังอยากมาเรียนให้ทันเพื่อน ๆ ตอนแรก ๆ เพื่อน ๆ ก็ตกใจที่มีคนพิการมาเรียนด้วย แต่พอบอกว่าเดี๋ยวก็หาย.นั่นยิ่งทำให้พวกเพื่อน ๆ ตาโตเท่าไข่ห่าน =_= ก็มันกำลังจะหายจริง ๆ เพราะให้ปาล์มรักษาตัวเองเสร็จแล้วค่อยรักษาเขาก็ได้ จะตกใจทำไม ไอ้พวกนี้แปลก =_=;



        \"ไม่ ถ้าเราไม่รีบไปโดนหักคะแนนนะโว้ย\" อีสยิ่งเร่งเข้าไปอีก เขาล่ะห่วงเรื่องคะแนนจริง ๆ



        ไผ่เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยวไปด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองอย่างร้ายกาจสะบัดหัวตัวเอง อีสเห็นดังนั้นจึงรีบกระชากคอเสื้อลากไผ่ไปที่โรงยิมซึ่งอยู่อีกฟากของโรงเรียน เมื่อทั้งสองมาถึงก็พบว่าพวกอาจารย์และเพื่อนกำลังจัดแถวเตรียมเข้าเรียนกันอยู่ จึงต้องแอบไปเข้าแถวด้วยกลัวจะโดนหักคะแนน (ความคิดนี้เป็นของอีสเพียงคนเดียว)



        \"นักเรียนวันนี้ครูจะให้เราซ้อมบาสกัน อาทิตย์หน้าจะมีการสอบ เพราะฉะนั้นขอให้ตั้งใจซ้อมให้ดี\" อาจารย์พูดก่อนจะโยนแจกลูกบาสให้นักเรียนจนครบทุกคน(นอกจากไผ่ที่แขนขาด งี๊ดดด T3T)แล้วให้แยกย้ายไปซ้อม



        ชั่วโมงนี้เป็นชั่วโมงสุดท้ายของวันแล้ว อีสเล่นคนละทีมกับไผ่(ซึ่งนั่งดูอยู่นอกสนาม) และแย่งลูกบาสจากมือคนทุกคนที่ถือบาสไปได้ คะแนนของฝ่ายเขาจึงพุ่งพรวดพราดอย่างที่ไผ่ยังตาค้าง อาจารย์ที่นั่งคุมอยู่ก็ต้องเปลี่ยนป้ายคะแนนอย่างรวดเร็วจนมือแทบจะพันกัน เสียงเชียร์และให้กำลังใจฝ่ายไผ่แม้จะยังคงดังสนั่นแต่ก็ยังไม่เท่ากับเสียงเชียร์ฝ่ายอีสอยู่ดี



        ชั่วโมงนี้จึงต้องจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของไผ่ในที่สุด







        \"นี่นายจะเก่งอะไรนักหนา ฉุนแล้วนะเว้ย\" ไผ่ร้องโวยวาย วันนี้เขาต้องเป็นเวรกวาดโรงยิมร่วมกับไผ่สองคนในขณะที่คนอื่น ๆได้กลับบ้านกันแล้ว



        \"อ้าว ๆ อย่าแพ้แล้วพาลสิ วันหลังค่อยมาแข่งกันใหม่ก็ได้\" อีสพยายามปลอบตอนนี้หน้าของเขาบานเหมือนดอกทานตะวันเลยทีเดียว เพราะหลังจากเล่นกีฬาเสร็จ รุ่นพี่ผู้หญิงคนละโรงเรียนที่เดินผ่านมาก็เข้ามาบริการเขาอย่างเข้าที หึ ๆ กำไร (หน้าหื่น น่ากลัว T^T)



        \"นี่นายอย่าทำหน้าแบบนั้นได้ไหม๊ เห็นแล้วเสียวไส้\" ไผ่พูดแต่ตอนนี้เขากำลังมองอย่างอิจฉาตาร้อน อุณหภูมิในร่างกายกำลังพุ่งสูง จนแขนที่ถูกฉีกจนขาดเริ่มซึมเลือด



        การเก็บกวาดโรงยิมกว้าง ๆ อยู่คนเดียว(โดยที่ไผ่เดินเล่นรออยู่)ต้องใช้เวลาอย่างเนิ่นนานจนล่วงเข้าหกโมงเย็น



        \"ไผ่ กลับกันเถอะ ทางนี้เสร็จแล้ว\" อีสโบกมือบอกไผ่ที่อยู่ข้างหน้า(โรงยิมกว้างมากมายต้องตะโกนด้วยนะครับ) ไผ่หันมามองพร้อมกับถังขยะถังเบอเริ่มที่เต็มไปด้วยกระดาษแล้วฝุ่นผง ก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้ามาหาอีส



        \"งั้นนายเอาขยะไปทิ้งเถอะ\"



        ครืน



        ไผ่และอีสรีบหันไปมองที่ต้นเสียง ซึ่งนั่นคือประตูโรงยิมหลากหลายบานที่กำลังปิดลงพร้อม ๆ กัน



        \"เฮ้ย ใครปิดวะ\" ไผ่รีบวิ่งโร่ไปที่ประตูแต่ก็ไม่ทันการ ประตูบานสุดท้ายได้ปิดสนิทลงแล้ว



        \"อะไรของมัน\" อีสบ่นพึมพำอย่างหมดอารมณ์



        ตึก...ตึก...ตึก...ตึก



        เสียงสิ่งของกระทบพื้นดังเป็นจังหวะสม่ำเสมออยู่เบื้องหลัง ไผ่หันกลับไปมองพร้อมกับอีสอีกครั้ง



        ในโรงยิมที่ไม่น่าจะมีใครเลยนั้น



        เด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังเล่นบาสอยู่อย่างสนุกสนานด้วยรอยยิ้ม....















    ------------------------- to be continue    

             รักผู้อ่าน มากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมายมากมาย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×