วิเคราะห์ข่าวการปฏิวัติอุตสาหกรรม - วิเคราะห์ข่าวการปฏิวัติอุตสาหกรรม นิยาย วิเคราะห์ข่าวการปฏิวัติอุตสาหกรรม : Dek-D.com - Writer

    วิเคราะห์ข่าวการปฏิวัติอุตสาหกรรม

    ผู้เข้าชมรวม

    4,523

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    4.52K

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ก.พ. 50 / 17:56 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      วิเคราะห์ข่ารปฏิวัติอุตสาหกรรม

       

      คิดครีมยาป้องกันบรรดาสตรีจากไวรัสโรคเอดส์กันได้แล้ว

                      คณะนักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยยูท่าห์ของสหรัฐฯ ได้คิดสูตรครีมยาซึ่งจะทำหน้าที่เป็นเหมือนถุงยางอนามัยสำหรับสตรี ป้องกันโรคเอดส์ได้สำเร็จ ครีมยาเมื่อทาแล้วมันจะเคลือบอวัยวะภายในไว้ พอกระทบกับน้ำเชื้อมันจะกลายเป็นน้ำยา และปล่อยตัวยาฆ่าไวรัสออกมากำจัดเชื้อ หัวหน้านักวิจัย ดร.แพทริก ไคเซอร์ กล่าวว่า ความหวังสูงสุดของเทคโนโลยีนี้ ก็เพื่อป้องกันผู้หญิงและทารกที่ยังไม่เกิดหรือลูกที่ยังเลี้ยงดูอยู่ จากไวรัสโรคเอดส์

              จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2550

                จากข่าวนี้ จะเห็นได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้หญิงอย่างมาก เพราะสามารถป้องกันเชื้อไวรัสโรคเอดส์ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีนักวิจัยคนใดออกมายืนยันวิธีป้องกันได้อย่างแน่ชัด ซึ่งหากสูตรครีมยานี้ได้ถูกผลิต และจำหน่ายอย่างกว้างขวาง ก็เชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อมนุษย์อย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันได้มีวิวัฒนาการในด้านการแพทย์เพิ่มมากขึ้น จึงควรสนับสนุน แต่ก็ไม่ได้มีแต่ผลดี หากครีมยานี้ได้จำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย ก็อาจจะทำให้มนุษย์หันมาสนใจในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น เพราะว่ามันสามารถป้องกันได้ จนอาจทำให้คุณค่าทางด้านศีลธรรมลดต่ำลง เพราะวิวัฒนาการทางการแพทย์ จึงควรแก้ไขด้วยการปลูกฝังเรื่องจิตสำนึกให้แก่เยาวชนว่า วัยใดถึงจะเหมาะสม ถึงควรใช้

       

      ประดิษฐ์รองเท้าติดเครื่องดูดฝุ่น เดินย่ำทำความสะอาดบ้านได้

                      บริษัทเครื่องไฟฟ้าอีเลกโตรลักซ์ ได้ประดิษฐ์รองเท้า ซึ่งจะช่วยดูดฝุ่นละอองขณะที่สวมใส่เดินไปด้วย รองเท้าซึ่งผู้ผลิตตั้งชื่อให้ว่า เพื่อนของฝุ่นละออง ได้ติดเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก ชาร์จไฟได้ไว้ที่พื้นรองเท้า ตัวรองเท้าทำด้วยไนลอนเขียว มีส้นที่ยืดหยุ่นได้ พร้อมด้วยถุงเท้าที่ใช้ได้กับเท้าทุกขนาด เพื่อช่วยให้สวมใส่สบายขึ้น

      จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2550

                รองเท้าติดเครื่องดูดฝุ่นนี้ ถือว่าเป็นการประดิษฐ์ที่พัฒนาให้เกิดความสะดวกสบายแก่เราทุกคน เพราะทุกคนก็ต้องดูดฝุ่นละอองภายในบ้านกันอยู่แล้ว จึงเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาสำหรับทำงานบ้าน มันจะช่วยให้บ้านเรือนสะอาดด้วยเวลาอันมีค่าน้อยที่สุด เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยทำให้เราประหยัดทั้งแรง และเวลา เพราะพื้นรองเท้าจะช่วยดูดฝุ่นละอองขณะที่เดิน แต่ก็ใช่ว่าจะส่งผลดีอย่างเดียว เพราะขนาดเดียวกันก็ทำให้มนุษย์เริ่มเกิดความเกียจคร้าน เนื่องจากความสบายของสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ ทำให้ต่อไปในอนาคต เราอาจจะทำอะไรด้วยตนเองไม่เป็น เพราะใช้วิวัฒนาการ เทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยหมด และจะทำให้สิ้นเปลืองเงินทองในการซื้อสิ่งประดิษฐ์นี้มาใช้ ฉะนั้นถ้าหากคิดจะใช้ ก็ควรใส่รองเท้านี้แล้วเดินให้มากๆ จะได้เป็นการออกกำลังกายไปในตัว

      อนุมัติยาลดความอ้วนของหมา กำชับห้ามคนเอาไปใช้กิน

              รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติให้ยาลดความอ้วนของสุนัขออกจำหน่ายได้เป็นขนานแรก สุนัขที่หนักเกินกว่าน้ำหนักที่ควรจะเป็นเกินกว่า 20% ถือว่าอ้วนเกินปกติ ยิ่งถ้าหากว่าหนักเกินถึง 20-30 เปอร์เซ็นต์ ก็ถือว่ามีน้ำหนักเกิน ในอเมริกาเลี้ยงสุนัขมากถึง 62 ล้านตัว จะมีเจ้าตูบอ้วนจนตัวกลมมากประมาณสัก 5 เปอร์เซ็นต์ และองค์การอาหารและยาสำหรับสัตว์ได้ห้ามไว้ว่า เจ้าของหมาอย่าเอาไปกินด้วย เพราะไม่ใช่สำหรับคน โดยได้จาระไนอาการแพ้ยาต่างๆ ไว้ยืดยาวกันคนแผลงเอาไปใช้กิน

      จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2550

                จะเห็นได้ว่า วิวัฒนาการต่างๆ เทคโนโลยีต่างๆ หลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมนั้น ได้เกิดสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ รวมทั้งยาลดความอ้วนของหมา ที่เมื่อกินเข้าไปแล้วก็จะลดปริมาณไขมันให้พอเหมาะกับร่างกายของมัน ซึ่งเป็นผลดีต่อหมาและเจ้าของ ที่ไม่ต้องหนักใจกับร่างกายที่เปลี่ยนไปของหมาของตัวเอง จึงควรสนับสนุนให้หมาที่มีไขมันเกิน กินยานี้ แต่ยาชนิดนี้ ก็ยังมีผลข้างเคียงต่อหมา โดยเมื่อกินเข้าไปแล้วก็อาจจะถ่ายบ่อย ท้องเสีย อาเจียน ง่วงซึมและเบื่ออาหารบ้าง จึงไม่ควรให้กินติดต่อกันเป็นเวลานาน ยิ่งถ้าเป็นคนด้วยแล้วก็อาจจะมีผลเสียร้ายแรงมาก หากเอาไปกิน จึงควรมีการแนะนำวิธีใช้ไว้อย่างละเอียด เพื่อจะได้ป้องกันให้ดี เผื่อคนไม่รู้เท่าทัน

       

      จีเอ็มโอ...ไทยพร้อมหรือยัง??

                  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้ฟันธงว่า GMOs ส่วนมากมีประโยชน์แน่นอนจึงมีการพัฒนาขึ้นมา ทว่าต้องวิเคราะห์ว่าดีสำหรับใคร แต่สำหรับผู้บริโภคมีผลพลอยได้คือสามารถซื้อของได้ในราคาที่ถูกลง ดังนั้นจึงต้องมีกระบวนการพิสูจน์ หรือสร้างความชัดเจนออกมาให้เห็น ในแง่นี้ต้องให้สังคมเป็นผู้ตัดสิน หากว่าในบ้านเรายังไม่มีความชัดเจนในด้านนี้ก็จะล่าช้า ประเทศอื่นก็จะทิ้งช่วงแซงหน้าเราไป ดังนี้ถ้าเผื่อเราทำ GMOs ที่ไม่เกี่ยวกับของกินก็น่าที่จะพอทำได้ ตราบใดที่มันไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม เราก็อาจก้าวทันผู้อื่นในโลกวิทยาศาสตร์

      จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2550

      จากข่าวนั้น ในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถปฏิเสธหรือละทิ้งได้ว่า GMOs มีผลดีสำหรับประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งก็อาจมีผลดีในช่วงระยะยาว หากว่าเมื่อวันหนึ่งเราพบว่าจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยี เหมือนกับการใช้พันธุ์พืชใหม่ๆ หรือสัตว์พันธุ์ใหม่ๆ ดังนั้นหากว่าประเทศไทยไม่ทำตรงนี้เลย เราก็จะเผชิญกับปัญหาที่ขายสินค้าไม่ออก ถูกประเทศอื่นแย่งตลาดไปหมด เพราะอุตสาหกรรมในปัจจุบันมีเยอะมาก และมักจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย แต่การใช้ GMOs นั้น ก็มีผลเสียอยู่เหมือนกัน เพราะคนทั่วไปก็ยังเชื่อว่ามันเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม และบางประเทศก็ถึงกับต้องห้ามสินค้าที่ใช้ GMOs เข้าประเทศ ฉะนั้นจึงควรใช้กับสิ่งที่จำเป็นจริงๆ แต่หากไม่จำเป็นแล้ว การใช้วิธีตามธรรมชาติ ก็คือวิธีที่ดีที่สุด และยังเป็นการอนุรักษ์ ดูแลสิ่งแวดล้อมให้อยู่กับโลกใบนี้ไปนานๆ

       

      แผ่นฝ้าที-บาร์

                      การเลือกใช้แผ่นฝ้าเพดานที-บาร์ ว่ากันแบบหยาบๆ แบ่งจากขนาดแผ่นฝ้าที-บาร์ก็จะมีอยู่ 2 ขนาด ขนาด 60 × 60 ซม. กับ ขนาด 60 × 120 ซม. และถ้าจะแบ่งตามความนิยมและมีจำหน่าย บ้านเราแผ่นไฟเบอร์บอร์ดจะได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีราคาถูกกว่า ตกแผ่นละ 20 บาท ส่วนแผ่นยิปซัมบอร์ดจะมีราคาประมาณ 25 บาท ในขณะที่แผ่นยิปซัมบอร์ด จะเป็นแค่เพียงลวดลายเรียบๆ ธรรมดา ส่วนยิปซัมบอร์ดถึงจะแพงกว่าปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้น แถมยังมีอายุใช้งานนานกว่าหลายสิบปี

      จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 13 มกราคม 2550

                การใช้ระบบโครงฝ้าที-บาร์ นั้นเมื่อติดตั้งแล้ว ก็จะแข็งแรงอยู่คู่บ้านไปนาน ไม่แอ่นกลาง ทรุดพังลงมาได้ ซึ่งก็เป็นผลดีจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม จึงมีการพัฒนาวัตดุดิบ สินค้าให้มีความคงทน ถาวร เพื่อจะใช้ได้อย่างคุ้มค่า แต่ผลเสียที่ตามมาก็คือ ราคาของสินค้าที่แพง เพราะต้องใช้เทคโนโลยีและกรรมวิธีในการผลิตที่ซับซ้อนเพื่อจะได้ออกมาเป็นสินค้า ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมนั้น โดยเฉพาะที่ต้องใช้สารเคมี ก็อาจจะส่งผลต่อสภาพแวดล้อมใกล้เคียง อาจเกิดมลพิษในอากาศ จึงควรมีวิธีการกำจัดของเสียด้วย โดยต้องไม่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเราด้วย

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×