โคคา-โคล่า เครื่องดื่มที่ติดปากของคนทั่วโลก - โคคา-โคล่า เครื่องดื่มที่ติดปากของคนทั่วโลก นิยาย โคคา-โคล่า เครื่องดื่มที่ติดปากของคนทั่วโลก : Dek-D.com - Writer

    โคคา-โคล่า เครื่องดื่มที่ติดปากของคนทั่วโลก

    โดย SW103

    สุดยอดน้ำอัดลมต้องยกให้โคคา-โคล่า เครื่องดื่มที่ติดปากของคนทั่วโลก คุณอยากรู้ประวัติความเป็นมารึเปล่า ถ้าอยากรู้เข้ามาเลย!!!

    ผู้เข้าชมรวม

    2,563

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    2.56K

    ความคิดเห็น


    8

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ส.ค. 47 / 20:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      สูตรลึกลับของเครื่องดื่ม โคคา-โคล่า
      บริษัท ทรัสต์ คอมพานี แห่งรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐฯ เป็นที่เก็บสูตรลับของเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลกชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า โคคา-โคล่า หรือคนทั่วไปเรียกว่า โค้ก สูตรลับนี้มีผู้ที่สามารถเปิดดูได้เพียงคนเดียวเท่านั้นคือผู้อำนวยการบริษัท ถึงแม้จะมีผู้จัดจำหน่ายอยู่หลายแห่งทั่วโลก แต่ไม่มีสักรายที่ล่วงรู้ส่วนผสมที่แท้จริง เพราะบริษัทจะจัดส่งหัวเชื้อซึ่งเป็นน้ำเชื่อมและส่วนผสมอื่นๆ ให้ผู้แทนจำหน่ายไปผสมกับน้ำโซดา แม้กระทั่งรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ไม่สามารถล่วงรู้สูตรลับของโคคา-โคล่า ได้

      ปี ค.ศ.1983 นักเขียนอเมริกัน วิลเลียม พาวน์สโตน ตีพิมพ์ผลงานที่มีความยากลำบากในการค้นคว้าชื่อว่า Top Secret เขาบอกว่า ส่วนผสมหลักของโค้ก บริษัทจะกำหนดเป็นส่วนผสมหมายเลข 1-9 และเรียกว่าเป็นสินค้านั้น มีดังนี้คือ 1.น้ำตาล 2.น้ำตาลไหม้ 3.กาเฟอีน(ไร้กาเฟอีน) 4.กรดฟอสฟอริก 5.สารสกัดจากใบโคคา(สกัดเอาโคเคนออกแล้ว) และสารสกัดจากเมล็ดโคลาปริมาณเล็กน้อย 6.กรดน้ำส้ม และโซเดียมไซเทรต 7X.มะนาวฝรั่ง ส้ม มะนาว แคสเซีย(cassia คืออบเชยชนิดหนึ่ง) น้ำมันลูกจันทร์เทศ และสารอื่นๆ 8.กลีเซอรีน 9.วานิลลา

      การวิเคราะห์สารเคมีทำให้รู้ส่วนผสมบางอย่าง แต่ส่วนที่ค้นพบยากที่สุดคือส่วนที่เป็นหัวน้ำมันหอมระเหยใน สินค้าหมายเลย 7X (ไม่มีคำอธิบายความหมายของ X) การนำเอาหัว เชื้อเหล่านี้มาผสมกันใช่ว่าจะได้กลิ่นและรสชาติตามสูตรของโคคา-โคล่า เพราะน้ำมันเหล่านี้จะทำปฏิกิริยากันเกิดเป็นกลิ่นและรสชาติอื่นๆ ได้อีก การที่จะลอกเลียนแบบต้องรู้ส่วนผสมและสัดส่วนที่แท้จริง ซึ่งยากในการวิเคราะห์ ด้วยเหตุนี้ส่วนผสมก็ยังคงเป็นความลับสุดยอดของโคคา-โคล่า จนถึงทุกวันนี้

      เครื่องดื่มที่ติดปากของคนทั่วโลก
      ดร.จอห์น เอส เพมเบอร์ตัน เป็นผู้คิดค้นสูตรดั้งเดิมของโคคา-โคล่า เขาเป็นเภสัชกรที่แอตแลนตา จอร์เจีย ในปี ค.ศ.1885 เขานำเอาเครื่องดื่มที่ผสมเหล้าองุ่นแดงมาดัดแปลโดยผสมใบโคคาลงไปด้วย ซึ่งโคคามีสารที่กระตุ้นประสาทที่เรียกว่าโคเคน แต่กลับขายไม่ดี เขาจึงปรับปรุงสูตรอีกโดยเอาลูกโคลามาแทนเหล้าองุ่นแดง ซึ่งโคลานี้เป็นโคลาพันธุ์แอฟริกา มีสารประตุ้นประสาทที่เรียกว่า กาเฟอีน เข้าได้เติมน้ำตาลและแต่งกลิ่นไม่ให้ขม

      สัญลักษณ์โคคา-โคล่า เป็นการออกแบบของหุ้นส่วนที่ชื่อว่า แฟรงค์ เอ็ม โรบินสัน เมื่อปี 1887 เพมเบอร์ตันขายสูตรนี้ให้ วิลลิส อี เวเนเบิล และ จอร์จ เอส ลอนเดส และอีก 5 เดือนต่อมาก็ขายต่อให้ วูลโฟล์ค วอล์เคอร์ และ เอ็ม ซี โดเซียร์ และต่อมาอีก 1 ปี ก็ขายให้ เอซา จี แคนด์เลอร์ ซึ่งเพมเบอร์ตันก็ถึงแก่กรรมในปีนั้น แคนด์เลอร์ได้ผสมส่วนผสมนี้กับน้ำโซดา และคิดว่าต้องเป็นเครื่องดื่มที่คนนิยมอย่างมาก จึงได้เก็บสูตรนี้ไว้เป็นความลับ แคนด์เลอร์ได้ปรับปรุงสูตรใหม่อีก และรับแฟรงค์ เอ็ม โรบินสัน เข้าเป็นหุ้นส่วน และได้ก่อตั้งบริษัทโคคา-โคล่า ในปี 1892 จนถึงปี 1903 ก็มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่รู้สูตรของเครื่องดื่มชนิดนี้ และมีสิทธิ์ในการผสมน้ำเชื่อมในห้องลับ เขาได้แกะฉลากส่วนผสมต่างๆ ออกและชำระเงินด้วยตัวเองเพื่อไม่ให้ฝ่ายบัญชีรู้ว่าซื้อส่วนผสมอะไรมา เมื่อบริษัทเติบโตขึ้น เขาทั้งสองคนไม่สามารถผสมส่วนผสมต่างๆ ได้ด้วยตัวเองอีก เขาจึงกำหนดหมายเลข 1-9 เพื่อใช้เรียกชื่อส่วนผสม ผู้จัดการสาขาจะรู้เพียงสัดส่วนและวิธีผสมเท่านั้น เมื่อปี 1909 รัฐบาลสหรัฐฯ ยื่นฟ้องบริษัทว่าใช้ส่วนผสมที่มีโคคาอยู่ด้วย ซึ่งอาจจะมีโคเคนผสมอยู่ คดียืดเยื้อกว่า 10 ปี แต่ก็ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าในส่วนผสมพบโคเคนอยู่ในสารสกัดโคคาหรือโคลาแม้แต่น้อยนิด วิลเลียม พาวน์สโตน กล่าวในหนังสือ Top Secret ว่า ในโคคา-โคล่า มีส่วนผสม โคคา หรือ โคลา เพียงนิดเดียว ซึ่งไม่มีผลต่อรสชาติสักเท่าใด ในสงครามโลกครั้งที่ 2 กองกำลังฝ่ายพันธมิตรในแอฟริกาได้สั่งซื้อโคคา-โคล่า จำนวนถึง 3 ล้านขวด ส่วนโคคา-โคล่าที่เป็นกระป๋องพึ่งมีในปี 1955

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×