ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sf exo ▷ love storage ♡ all

    ลำดับตอนที่ #2 : ▷ exo : lost in the echo { chan x hun } II

    • อัปเดตล่าสุด 7 ม.ค. 58


    พุยพุย

    Title : LOST IN THE ECHO [ II ]

    Pairing : chanyeol x sehun

    Genre : Dramatic

    Note : ไมหน้าฟิคมันจัดยากวะ 555555555555555






     


    You were that foundation

    Never gonna be another one, no

    I followed, so taken

    So conditioned I could never let go

     

     

    เธอคือผู้เริ่มต้นทุกอย่าง

    จะไม่มีคนอื่นมาแทนที่ได้

    ฉันตามเธอไป เธอรับฉันไว้

    เป็นเงื่อนไขที่ฉันจะไม่มีวันลืม

     

     

     

     

    14 กุมภาพันธ์ 2014

     

     

                " เซฮุน"

     

                " ครับ ? "

     

                " มึงชอบใครบ้างหรือยัง ? "

     

                " ? "

     

     

                " ถ้ายัง.. "

     

     

     

                " ลองคบกับกูหน่อยเป็นไง "

     

     

     

                ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากปากร่างโปร่ง มีเพียงรอยยิ้มบางๆและการตอบรับด้วยภาษากาย โครงหน้าเรียวพยักหงึกหงักเรียกรอยยิ้มกว้างจากพี่รหัสคนสนิทที่เพิ่งจะเลื่อนสถานะเป็นคนรักได้เป็นอย่างดี ชานยอลโห่ร้องอย่างดีใจพร้อมกับดึงอีกคนมากอดเต็มรัก เขาลืมความรู้สึกแบบนี้ไปนานแล้ว ยิ้มจนปวดกราม ดีใจจนควบคุมสติไม่ได้ กระทั่งวินาทีที่โอเซฮุนตอบรับรักของเขาด้วยความสมัครใจ ราวกับโลกทั้งใบตกเป็นของชานยอลเพียงผู้เดียวเท่านั้น

     

     

    ตั้งแต่นั้นมาเขาก็มอบความสุขให้โอเซฮุนอย่างพร่ำเพรื่อ

     

    จนลืมเหลือเผื่อไว้ให้ตนเอง

     

    แม้กระทั่งดวงใจ

     


     

    { ๑๐% }





     

    ความสัมพันธ์ของชานยอลและเซฮุนเป็นที่พูดถึงไปทั่ว ทั้งในทางบวกและทางลบ

     

    ถึงอย่างนั้นชานยอลก็เลือกที่จะมองแต่สิ่งดีๆ

     

    เซฮุนกับเขาค่อนข้างจะไปกันได้สวย

     

     

     

     

    แต่บางทีความรักของชานยอลคงจะราบรื่นกว่านี้

     

    ถ้าคนรักของเขาไม่ใช่พวกใจดีกับทุกคนจนมองข้ามความรู้สึกเขาไป

     

     

     

                เข็มนาฬิกาหมุนวนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างไม่บกพร่อง ราวกับย้ำเตือนให้ชานยอลรู้ตัวว่าการทีเขามานั่งมองมันอยู่อย่างนี้มันไร้ประโยชน์สิ้นดีร่างสูงปล่อยข้อมือทิ้งลงข้างตัวอีกครั้งเมื่อเขาเบื่อที่จะมองมันขยับเต็มที ในขณะที่ตัวเขาเองยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมเพื่อรอใครคนหนึ่ง

     

    ใครที่สำคัญพอจะให้เขาเอาเวลามาปล่อยทิ้งได้

     

                " พี่ชานยอล "

     

    เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียก ดวงหน้าแดงเรื่อจากความเหนื่อยปรากฏแก่สายตาเขาจนความรู้สึกขุ่นมัวลดลงไปครึ่งหนึ่ง แต่นั่นก็ไม่พอให้ชานยอลหายโกรธเซฮุนได้ในทันที

     

    ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นก่อนจะหันนาฬิกาข้อมือของตัวเองให้อีกฝ่ายแล้วเอ่ยเสียงเรียบ

     

                " เผื่อไม่มีนาฬิกา "

     

    ว่าไปอย่างนั้นทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าโอเซฮุนเองก็มี เขาเป็นคนซื้อให้ด้วยซ้ำ ชานยอลจัดการให้ร่างโปร่งทุกอย่าง ตั้งแต่เลือกซื้อก็ซื้อรุ่นเดียวกัน ตั้งเวลาให้ตรงกันหรือแม้กระทั่งสวมมันพร้อมกัน

     

    จะว่าไปพวกเขาก็มีอะไรเหมือนกันหลายอย่าง

     

    แต่ที่แตกต่างคงจะเป็นความรู้สึก

     

     

    เซฮุนเคยแคร์เขาเหมือนที่เขาแคร์เซฮุนบ้างหรือเปล่า ?

     

     

                " ผมสาย ผมขอโทษ.. "

     

    ราวกับคำขอโทษของร่างโปร่งทำให้ชานยอลรู้สึกโอนอ่อนได้อย่างน่าประหลาด เขากำลังจะคว้ามือเรียวมาจุมพิตแล้วปลอบโยนว่าเขาไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรเลย แค่เซฮุนยืนอยู่ตรงนี้ ยังอยู่กับเขามันก็ดีมากแค่ไหนแล้ว

     

    และความคิดนั้นก็ยุติลงด้วยคำอธิบายของเซฮุนในประโยคต่อมา

     

                " พี่ลู่หานเขาเพิ่งเลิกกับแฟน.. เขาอาการหนักมากเลยนะพี่ ผมเลยต้องอยู่ปลอบ "

     

                " .. "

     

    เซฮุนลดสีหน้าลงนิดหน่อยหลังจากที่ร่างสูงยังคงนิ่งเงียบเหมือนข่มอารมณ์บางอย่างไว้ในใจ ความรู้สึกของชานยอลเหมือนระเบิดเวลา นั่นคือสิ่งที่เซฮุนกลัว เมื่อใดที่มันระเบิดออกมาทุกอย่างคงพังพินาศจนยากจะกลับไปทำให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม ดังนั้นร่างโปร่งควรหาคำพูดเพื่อตัดชนวนก่อนที่ทุกอย่างมันจะลามใหญ่โตไปมากกว่านี้

     

                " พี่น่าจะกลับหอตั้งนานแล้ว.. นั่งรอทำไมกัน"

     

                " .. "

     

                " ข้างนอกมันหนาวนะ "

     

                " .. "

     

                " พูดอะไรบ้างสิ.. พี่ทำให้ผมรู้สึกผิดนะ.. "

     

                " มึงน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วก่อนที่จะปล่อยให้เวลามันเลยมาห้าชั่วโมงแบบนี้ ปล่อยให้กูรอแบบนี้ "

     

                " .. "

     

    ครั้งนี้เป็นเซฮุนเองที่ต้องเงียบลงเพราะคำพูดแทงใจดำของอีกฝ่ายโครงหน้าเรียวก้มลงนิดหน่อยราวกับรู้สึกผิดอย่างแท้จริง ร่างสูงถอนหายใจเบาๆ เขากำลังทำให้เซฮุนรู้สึกแย่อีกแล้ว

     

                " ช่างแม่งเหอะ แดกเนาะ มึงหิวแย่ "

     

    เอ่ยเสียงทุ้มตัดบทพร้อมยักไหล่อย่างไม่ยี่หระก่อนจะเลื่อนเก้าอี้แล้วจับไหล่อีกคนให้นั่งลง ส่วนตัวเขาเองก็เดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับร่างโปร่ง ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นชานยอลสั่งอาหารให้เซฮุนด้วยความรู้ใจ เซฮุนเพียงแค่ยิ้มบางๆ

     

    พวกเขาจบมื้ออาหารในวันนั้นอย่างง่ายดาย

     

    โดยที่ยังไม่ได้ปรับความเข้าใจกันให้ดีเลยสักนิด

     

     

     

     

                พฤติกรรมใจดีกับคนอื่นแบบไม่เห็นหัวคนรักยังคงเกิดกับเซฮุนตลอดมา ในขณะชานยอลจะพยายามทำให้เรื่องมันจบอย่างง่ายดายเหมือนวันแรกที่เกิดปัญหาแบบนี้

     

    เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เพื่อเซฮุน

     

    กลับกัน เซฮุนนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงเพื่อเขาเลย

     

    ถึงกระนั้นชานยอลก็ยังคงเชื่อมั่นในความรักของเขาต่อไป

     

     

     

     

     

    จนกระทั่งวันหนึ่ง

     

    วันที่เซฮุนทำให้เขาสำนึกตัวได้สักที

     

    ว่าที่ผ่านมานั้นมันไม่ใช่อย่างที่เขาคิดเลย

     

     

     

     

     

                นัยน์ตาคมจ้องนาฬิกาเรือนแพงอย่างเหม่อลอย ต่อให้มันสูงค่าแค่ไหนก็ไม่อาจทำให้เวลาดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วตามที่ชานยอลต้องการ เข็มนาฬิกาหมุนเวียนสลับเปลี่ยนวินาที ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในขณะที่ตัวเขายังคงอยู่กับที่ ปล่อยลมหายใจทิ้งอย่างไร้ประโยชน์เช่นเดิม เหมือนกับทุกๆครั้งที่ผ่านมา

     

    สถานการณ์เดิมๆ กับข้ออ้างของโอเซฮุนที่เปลี่ยนไป

     

    หลายครั้งหลายหนกับการที่ชานยอลต้องมานั่งรอนานนับชั่วโมง ความคิดมากมายปรากฏขึ้นในสมองเขา แล้วเซฮุนก็มาปัดเป่าความคิดเหล่านั้นออกไปง่ายๆด้วยคำว่าขอโทษ ความโกรธที่มีก็มลายสิ้น

     

    เป็นเช่นนี้ทุกครั้ง

     

    ทุกอย่างมันจบลงง่ายเกินไป จนทำให้เซฮุนมองข้ามความรู้สึกของเขากระทำความผิดซ้ำๆ

     

    บางทีชานยอลก็อดคิดไม่ได้ว่ามันถึงจุดที่เขาควรจะพอแล้วหรือยัง

     

                " พี่ชานยอล "

     

    น้ำเสียงคุ้นหูดังขึ้นหน้าประตูห้องพัก เขาเหม่อจนแทบไม่ได้ยินเสียงเสียบคีย์การ์ดด้วยซ้ำ นัยน์ตาคมตวัดมองคนรักนิ่งๆ แล้วก็ต้องชะงักกับภาพที่เห็น

     

    เซฮุนกำลังยืนอยู่โดยมีผู้ชายท่าทางมึนเมาอีกคนเคียงข้างกาย

     

                " นี่คิมจงอิน เขา.. พี่ชานยอล! "

     

    ไม่ทันที่ร่างโปร่งจะได้อธิบาย ชานยอลก็รีบปรี่เข้าไปกระชากแขนเรียวเข้ามาในห้องก่อนจะปิดประตูอัดหน้าผู้ชายแปลกหน้าที่ยืนข้างกายคนรักเขาอย่างไม่ไว้หน้า เซฮุนร้องโวยวายทันทีที่เห็นปฏิกิริยาจากคนรัก เขาไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะเป็นแบบนี้ อย่างน้อยมันก็ควรจะดีกว่านี้

     

    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันตรงกันข้ามกับความคิดของโอเซฮุนโดยสิ้นเชิง

     

                " ไอ้เหี้ยนั่นมันเป็นใคร "

     

    น้ำเสียงเจือความโมโหเปิดประเด็นขึ้นอย่างใจร้อน มือแกร่งบีบเค้นท่อนแขนเรียวอย่างลืมตัว ร่างโปร่งนิ่วหน้าด้วยความเจ็บแต่ก็ไม่คิดที่จะสะบัดออก

     

                " เขาไม่ใช่เหี้ย และเขาเป็นเพื่อนผม "

     

    เซฮุนตอบเสียงหนักแน่น เขาไม่ชอบเลยเวลาที่ชานยอลใช้อารมณ์จนลืมเหตุผลทุกอย่างร่างสูงหัวเราะในลำคอพลางเค้นท่อนแขนเรียวให้หนักหน่วงกว่าเดิม

     

                " กูควรเชื่อมึงดีมั้ยล่ะโอเซฮุน "

     

                " ผมไม่ขอให้พี่เชื่อ แต่ผมพูดความจริง "

     

    คิ้วหนาเลิกขึ้นคล้ายจะกวนประสาท ก่อนที่ร่างสูงจะปล่อยแขนอีกฝ่ายให้เป็นอิสระแล้วกอดอกราวกับจะกดดัน

     

                " เหรอ ไหนเอาโทรศัพท์มาให้กูดูหน่อยสิ "

     

    สิ้นคำประกาศิต เซฮุนก็ล้วงกระเป๋าหาสิ่งที่ชานยอลต้องการอย่างจำนน แต่ไม่ว่าค้นเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แววของสิ่งนั้น คิ้วเรียวขมวดมุ่นขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งเสียงทุ้มดังขึ้นอีกครั้งพร้อมวัตถุบางอย่างที่แกว่งตรงหน้าเขา

     

                " มึงอยู่กับมันจนลืมเลยหรอว่าตัวเองไม่ได้พกโทรศัพท์ไปน่ะ "

     

    ม่านตารีเบิกกว้าง มือเรียวรีบคว้าสิ่งนั้นไว้ซึ่งชานยอลก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรเจ้าของโทรศัพท์รีบปลดล็อคก่อนที่จะเห็นกล่องข้อความระหว่างเขากับจงอินปรากฏแก่สายตาเป็นอันดับแรก ยิ่งทำให้เซฮุนตกใจกว่าเดิมก่อนจะเงยหน้ามองคนรักที่คงจะรู้ความจริงเช้าแล้ว

     

                " พี่ !.. "

     

                " ไม่ต้องห่วงหรอกโอเซฮุน พี่สำรวจโทรศัพท์เครื่องนี้ทั่วจนหายโง่เลยล่ะครับ "

     

    ริมฝีปากหยักยกยิ้มร้าย ในขณะที่ใจเขาแทบพังทลายเต็มทน ยิ่งเห็นปฏิกิริยาจากคนรักก็ยิ่งชัดเจนว่าเซฮุนตั้งใจจะทำแบบนั้นจริงๆ ราวกับโลกทั้งใบพังทลายลงตรงหน้าเขาเพียงเพราะเสียความไว้ใจให้กับคนๆเดียว

     

    เซฮุนได้เสียมันไปหมดแล้ว ความเชื่อใจจากคนที่รักเขามากที่สุด

     

                " พี่ไม่ควรจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของผมนะ.. "

     

    เสียงแหบห้าวท้วงติงขึ้นทั้งร่างกายที่สั่นระริก เขารู้ดีถึงความน่ากลัวของชานยอลยามโมโหถึงอย่างนั้นคนที่รักความถูกต้องอย่างเขาก็ไม่ยอมแพ้ นั่นยิ่งทวีอารมณ์ของชานยอลให้ร้อนระอุขึ้นเป็นเท่าตัวถึงอย่างนั้นเขาก็ยังข่มอารมณ์ไว้ให้สุดก่อนที่มันจะฉุดรั้งไม่อยู่

     

                " ต้องขอบคุณความเสือกกูด้วยซ้ำ ที่ทำให้กูฉลาดขึ้นไง "

     

    ชานยอลเหยียดยิ้มเยาะเย้ยตัวเองด้วยความสมเพช เขาน่าจะรู้ตั้งนานแล้วว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้เซฮุนวุ่นอยู่กับโทรศัพท์บ่อยครั้งในช่วงหลังๆมานี้ หรืออะไรคือเหตุผลที่ทำให้เซฮุนผิดนัดเขาอยู่บ่อยครั้งเช่นเดียวกับครั้งนี้

     

    จนมาวันนี้

     

    ชานยอลได้รู้มันสมใจปรารถนาแล้ว

     

                " พี่น่าจะฟังเหตุผลผมบ้าง.. "

     

    เสียงแหบห้าวยังคงตอบโต้ไม่หยุดแม้ว่าโครงหน้าเรียวจะก้มจนคางชิดอกแล้ว เสียงทุ้มหัวเราะในลำคออีกครั้งก่อนจะเอ่ยขึ้น

     

                " เรื่องที่มึงคบซ้อนกับไอ้เหี้ยนั่นหรอ ? ว่ามาสิ กูฟังอยู่ "

     

    ร่างสูงกอดอกราวกับจะรอฟังเหตุผลอย่างใจเย็น ทั้งที่ภายในของเขามันรุ่มร้อนแทบระเบิกออกมาแล้ว

     

    ชานยอลนึกอยากทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าให้พังเหมือนกับความรู้สึกของเขาในตอนนี้แต่เขาปฏิเสธจะทำมันก็เพราะเหตุผลเดียวเท่านั้น

     

    เพราะผู้ชายที่ชื่อโอเซฮุน

     

    คนที่สร้างโลกใบใหม่ของเขาขึ้นมา และทำลายมันลง

     

    คนๆนั้นคือคนเดียวกัน

     

                " พี่คงดูแชทผมจนหมดแล้วนี่.. จงอินเพิ่งเลิกกับคยองซูได้ไม่นาน.. "

     

                " แล้วไง มันเลยขอร้องให้มึงคบเพื่อตบตาแฟนเก่า แล้วมึงก็คบอะนะ? "

     

    ชานยอลแค่นหัวเราะ เขาคงหวังสูงไปจริงๆที่คิดว่าเซฮุนจะมีเหตุผลที่ฟังขึ้นมาแก้ต่างจนเขาอ่อนใจ แต่ก็ไม่เลย ไม่มีแม้แต่คำโกหกที่ทำให้ร่างสูงสบายใจขึ้น

     

    บางทีโอเซฮุนคงใช้ความดีอย่างไม่ถูกวิธีจริงๆ

     

                "..ผมสงสารเขา "

     

    ประโยคที่ร่างโปร่งพลั้งพูดออกมาทำให้ชานยอลแทบทรุดทั้งยืน คำตอบที่ตอกย้ำได้ดีว่าที่มาของสถานะระหว่างเขากับเซฮุนมันคืออะไร

     

    ก็แค่สงสาร

     

    เหมือนที่เซฮุนคบกับเขาเพราะสงสาร

     

                " แล้วกูล่ะเซฮุน "

     

                " .. "

     

                " มึงสงสารมัน แล้วกูล่ะ "

     

    เสียงทุ้มสั่นเครืออย่างน่าสงสาร นัยน์ตาแดงกล่ำเพียงเพราะกลั้นน้ำตาที่กำลังไหลลงมาอย่างอดทน หมดสภาพผู้ชายที่แข็งแกร่งดั่งหินผา ไม่ต่างจากอีกคนที่กัดริมฝีปากกลั้นสะอื้นจากความสงสาร

     

    เซฮุนกำลังสงสารเขาอีกแล้ว

     

                " มึงคิดว่าสิ่งที่มึงทำมันคือความดี ก็ใช่ "ร่างสูงเว้นจังหวะไปครู่หนึ่ง " แต่รู้อะไรมั้ย "

     

     

              " ความดีของมึงมันทำร้ายกูนะ "

     

    สิ้นประโยค ขาคู่นี้ที่เขาเคยบอกว่าจะใช้มันเดินไปกับเซฮุนก็ทรุดลงอย่างหมดแรง น้ำตาแห่งความเสียใจหยดแรกเขาได้เสียมันให้กับโอเซฮุนไปตลอดกาล เสียงทุ้มสะอื้นในลำคอ สลัดคราบราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่เป็นหมาขี้แพ้ตัวนึง

     

    ที่แพ้ความรักจนไม่เหลืออะไรเลย

     

    เสียงสะอื้นไห้ของทั้งสองชีวิตประสานกันจนแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร พวกเขาร้องจนแทบลืมทุกสิ่งทุกอย่าง

     

    ชานยอลจะร้องให้สุด และมั่นใจว่าจากนี้เขาจะไม่ร้องเพราะโอเซฮุนอีก

     

     

     

    I Hold myself up and love my scars

     

    ฉันพยุงตัวเองขึ้นมาจากพื้น และต้องทำใจรักบาดแผลตัวเองให้ได้

     

     

     

     

    ขาแกร่งยันตัวเขาให้ลุกขึ้นอีกครั้ง เขาจูบลาคนรักเป็นครั้งสุดท้าย จูบที่แสนสาหัส สื่อสารถึงความร้าวรานของรักในครั้งนี้ ก่อนจะถอนริมฝีปากออกอย่างจำนน

     

    มันคงสุดทางความรักเขาแล้วจริงๆ

     

    เสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นเป็นจังหวะ ไกลออกไป เชื่องช้าในความรู้สึกของโอเซฮุน เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้ยินเสียงกระซิบแว่วในโสตประสาท

     

     

              " อยู่ในโลกแห่งความดีที่ไม่มีกูต่อไปเถอะ "

     

     

    Each word gets lost in the echo

    So one last lie I can see through

    This time I finally let you go

     

     

    คำพูดทั้งหลายมันหลงไปในเสียงสะท้อน

    คำโกหกคำสุดท้ายที่ฉันจะได้มองเห็น

    ครั้งนี้แหละ ที่ฉันจะได้ปล่อยให้เธอจากไป

     

     

     

     

     

     

    SEHUN: พี่ชานยอล    12:30AM

               

    SEHUN: ผมขอโทษ    12:30AM

     

    SEHUN: ตอนนี้ผมอยู่หน้าห้องพี่ เราออกมาเจอกันได้ไหม? ผมอยากคุยกับพี่นะ   12:30AM

     

     

     

                นัยน์ตาคมไล่อ่านข้อความเป็นครั้งสุดท้ายบันทึกตัวอักษรเหล่านั้นเป็นความทรงจำฝังลึก มันได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของโอเซฮุนคนนั้นแล้ว ริมฝีปากหยักยกยิ้มให้กับตัวเอง ตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะ..

     

     

     

    Once you clear your chat history

    you won't be able to get it back

    delete?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Yes

     

     

     

     

     

    talk

    เขาจอห์นสัน เขาเบบี้มายด์ แต่เขาไม่แคร์และไม่ลักซ์ (ตึ่งโป๊ะ)
    ปล. กว่าจะว่างมาลงจบ T_T จริงๆกะจะมาลงทีละน้อย แต่หายไปขนาดนี้ลงเต็มให้แล้วค่ะ รู้สึกขอโทษ.. มีคนเมนชั่นไปว่าชอบด้วย ขอบคุณที่ชอบผลงานเราน้า T_T


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×